รวมข่าวโครงการรถไฟทางคู่

[Mongwin]

คมนาคมเตรียมเสนอแผนลงทุนโครงการจำเป็นให้ คสช. พิจารณา
สำนักข่าวไทย 26 พ.ค. 2557 13:23

ก.คมนาคม 26 พ.ค.-ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบรรยากาศกระทรวงคมนาคมวันนี้ (26 พ.ค.) เปิดทำการเป็นวันแรก หลังจากผู้ชุมนุมปิดล้อมข้าราชการไม่สามารถทำงานได้ตั้งแต่วันที่ 26 พฤศจิกายน 2556 หรือ 6 เดือน โดยตั้งแต่ช่วงเช้าข้าราชการทยอยเดินทางเข้าทำงานอย่างต่อเนื่อง และมีข้าราชการส่วนหนึ่งมาสักการะพระพุทธคมนาคมบพิตร เพื่อเป็นสิริมงคล หลังจากกระทรวงคมนาคมสามารถเปิดทำงานได้ตามปกติ

ขณะที่นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า นอกจากการเตรียมข้อมูลที่จะต้องรายงานให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) รับทราบเกี่ยวกับการจัดรถโดยสารและรถไฟ เพื่อให้ผู้ชุมนุมกลุ่มต่าง ๆ เดินทางกลับภูมิลำเนา ซึ่งตั้งแต่ยุติการชุมนุมทั้งองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) และการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้จัดรถบริการประชาชนเป็นที่เรียบร้อย

นอกจากนี้ ล่าสุดนายสมชัย ศิริวัฒนโชค ปลัดกระทรวงคมนาคม ได้สั่งการสัปดาห์ที่ผ่านมาให้ทุกหน่วยงานเตรียมแผนเสนอกระทรวงคมนาคม เพื่อรวบรวมนำเสนอให้ คสช. ต่อไป โดยเฉพาะแผนการลงทุนสำหรับโครงการที่จำเป็นเร่งด่วน เพื่อให้โครงการเหล่านี้มีส่วนช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมทั้งเตรียมความพร้อมรองรับการที่ไทยจะก้าวสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ซึ่งจากได้ข้อมูลแล้วกระทรวงคมนาคมจะรายงานแผนต่าง ๆ ให้ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผู้บัญชาการทหารอากาศ ในฐานะรองหัวหน้า คสช. ที่กำกับดูแลงานเศรษฐกิจรับทราบ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับข้อมูลแผนการลงทุนที่กระทรวงคมนาคมจะเสนอนั้น จะมีแผนสำคัญที่ศึกษาเตรียมความพร้อมไว้แล้ว เช่น โครงการรถไฟทางคู่ 5 เส้นทาง ซึ่งศึกษารายละเอียดและมีความพร้อมที่จะลงทุนช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและขับเคลื่อนโลจิสติกส์ของประเทศ, โครงการจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวี 3,000 คัน เพื่อปรับปรุงการให้บริการของ ขสมก. นอกจากนี้ จะมีการเสนอขอความเห็นจาก คสช. สำหรับรถเมล์ฟรีรถไฟฟรี ที่ผ่านมาคณะรัฐมนตรีรักษาการมีการขยายกรอบเวลาดำเนินการจนถึงสิ้นเดือนมิถุนายน

ขณะเดียวกันกระทรวงคมนาคมมีผลศึกษาที่จะปรับหลักเกณฑ์การดำเนินโครงการ เพื่อให้การใช้เงินถึงกลุ่มเป้าหมายที่เป็นผู้มีรายได้น้อยจริง ๆ ซึ่งทั้งหมดจะต้องมีการจัดรูปแบบการใช้เงินในโครงการอีกครั้ง.-สำนักข่าวไทย

[Mongwin]

เปิดคอนเนคชั่น 3 โปรเจ็กต์ใหญ่ขั้วรัฐบาลเก่า
Money Channel วันจันทร์, 26 พฤษภาคม 2557 09:55

เปิดคอนเนคชั่น 3 โครงการใหญ่พัวพันรัฐบาลเก่า จ่อรอเปิดประมูลปีนี้ โบรกมองรัฐประหารกระทบโครงการล่าช้าแน่ มอง ITD หนักสุดสายสัมพันธ์ขั้วเก่าชัดเจน ขณะที่ด้านปัจจัยพื้นฐานทุกรายยังมีแบ็คล็อกสูงพอสร้างรายได้ 2-5 ปี

บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง วิเคราะห์หุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้างว่าการเมืองเปลี่ยนแปลง กระทบสายสัมพันธ์กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง โดยการรัฐประหารเมื่อวันที่ 22 พ.ค. ทำให้การเมืองมีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งจะกระทบในแง่สายสัมพันธ์กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง โดย ITD ค่อนข้างมีสายสัมพันธ์ที่ดีกับพรรคเพื่อไทยจึงดูจะเสียประโยชน์ ในปัจจุบันยังไม่มีการตั้งรัฐบาล จึงยังไม่เด่นชัดว่าบริษัทรับเหมารายใดจะได้ประโยชน์

แต่มีแนวโน้มที่รัฐบาลชุดใหม่จะเน้นปฏิรูปการเมือง ทำให้มีผลกระทบต่อโครงการขนาดใหญ่ในอนาคต เรามีมุมมองต่อกลุ่มรับเหมาก่อสร้างเป็นกลาง (Neutral) จากที่ยังมีงานในมือสูงรองรับรายได้ 2-5 ปี คาดผลประกอบการในช่วง 1-2 ปีนี้จะยังมีกำไรที่สามารถรักษาระดับได้

สำหรับ 3 โครงการหลักจะเปิดประมูลปีนี้ ผู้บริหารมีสายสัมพันธ์กับพรรคเพื่อไทย คือ
1.) ทอท. มีโครงการสนามบินสุวรรณภูมิเฟส 2 มูลค่า 6.2 หมื่นล้านบาท ปัจจุบัน ประธานกรรมการ เป็นอดีตส.ส.พรรคไทยรักไทย และ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ เคยอยู่ไทยคม

ส่วนโครงการที่ 2.) รฟม. มีโครงการรถไฟสายสีเขียวเข้ม 5.8 หมื่นล้านบาท ที่ใกล้จะจะมีการยื่นซองประมูลในไม่ช้านี้ มีผู้ว่า รฟม. เป็นอดีตผู้บริหารในไทยคม และ

โครงการที่ 3.) รฟท. มีโครงการรถไฟรางคู่ ช่วง ฉะเชิงเทรา – คลองสิบเก้า – แก่งคอย 1.1 หมื่นล้านบาท ผู้ว่า รฟท. เคยสมัครผู้ว่ากทม. ในนามพรรคพลังประชาชน

ขณะที่รัฐบาลใหม่มีแนวโน้มจะเน้นปฏิรูปการเมือง โครงการขนาดใหญ่อาจล่าช้า: รัฐบาลชุดใหม่มีแนวโน้มจะเน้นปฏิรูปการเมืองเป็นหลัก ทำให้โครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่หลายโครงการ อาจจะมีความล่าช้าและใช้เวลาที่ยาวนานขึ้น นอกจากนี้ยังขึ้นกับเสถียรภาพของรัฐบาลชุดใหม่ ซึ่งจะมีผลต่อการประมูลโครงการขนาดใหญ่ในอนาคต

โครงการน้ำ 3 แสนล้านบาท และ โครงการทวายจะมีความไม่แน่นอน โดยโครงการที่รัฐบาลพรรคเพื่อไทยได้ผลักดันก่อนหน้านี้ คือ
1.) โครงการน้ำ 3 แสนล้านบาท ซึ่ง ITD ชนะการประมูล ปัจจุบันอยู่ในช่วงการทำประชาพิจารณ์ เหลือจังหวัดสุดท้ายคือ กรุงเทพฯ และ ต้องรอรัฐบาลชุดใหม่ลงนาม ถ้าหากโครงการนี้ไม่เกิดจะส่งผลลบต่อ ITD เพราะจะต้องตั้งสำรองเงินที่ใช้จ่ายไปประมาณ 150 ล้านบาท ส่วน

2.) โครงการเมกะทวาย ในพม่า ปัจจุบันเป็นการร่วมทุนระหว่าง รัฐบาลไทยและพม่า ดังนั้นโครงการนี้จึงขึ้นกับนโยบายของรัฐบาลในอนาคต โดย ITD ได้ใช้เงินลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเบื้องต้นสำหรับโครงการทวายไปถึง 6 พันล้านบาท

ฝ่ายวิจัยมองว่า การรัฐประหารกระทบสายสัมพันธ์กลุ่มรับเหมา ให้น้ำหนัก Neutral โดย ITD ค่อนข้างมีสายสัมพันธ์ที่ดีกับรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ในขณะที่การเปลี่ยนแปลงอำนาจทางการเมือง โดยปัจจุบันยังไม่มีการตั้งรัฐบาล ซึ่งยังไม่เด่นชัดว่าบริษัทรับเหมารายใดจะได้ประโยชน์ แต่มีแนวโน้มที่รัฐบาลชุดใหม่จะเน้นปฏิรูปการเมือง ทำให้มีผลกระทบต่อโครงการขนาดใหญ่ในอนาคต

สำหรับงานในมือปัจจุบันของบริษัทรับเหมาหลักๆ คือ CK, ITD, STEC มีสูงถึง 2-5 ปี คาดจะยังไม่ส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงานในปีนี้และปีหน้า

[Mongwin]

รายการคมชัดลึก ทาง Nation Channel 27 พ.ค. 57 เกี่ยวกับรถไฟทางคู่ครับ

[Wisarut]

^^^
ทางคู่ ลพบุรี - นครสวรรค์


ทางคู่ มาบกระเบา - ชุมทางถนนจิระ

[Wisarut]

กลุ่มซื้อซองสัญญา2ทางคู่
โดย กอง บก.ฐานเศรษฐกิจ อสังหา REAL ESTATE -
คอลัมน์ : อสังหาฯ-คมนาคม
ออนไลน์เมื่อ วันอังคารที่ 27 พฤษภาคม 2014 เวลา 13:34 น.
ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 34 ฉบับที่ 2,952 วันที่ 29 - 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

6 กลุ่มรับเหมาซื้อซองสัญญาที่ 2 รถไฟทางคู่สายชายฝั่งทะเลตะวันออก ช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย ไร้เงากลุ่มซิโน-ไทย ด้านอิตาเลียนไทย-ช.การช่าง-เนาวรัตน์พัฒนาการยังเกาะติดเหนียวแน่น ส่วนกลุ่มทีซีซี กิจการร่วมค้าทิพากรผนึกไชน่าฮาร์เบอร์จากจีน หลังร.ฟ.ท.พาดูสถานที่ก่อสร้างก่อนเร่งคัดเลือกตัวให้ได้รับสิทธิ์ยื่นซองประกวดราคา 19 มิ.ย.นี้

นายจเร รุ่งฐานีย วิศวกรใหญ่ ฝ่ายโครงการพิเศษและก่อสร้าง การรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.) เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ว่าตามที่ร.ฟ.ท.โดยฝ่ายโครงการพิเศษและก่อสร้างได้เปิดขายเอกสารประกวดราคาจ้างด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์โครงการก่อสร้างทางคู่ในเส้นทางรถไฟสายชายฝั่งทะเลตะวันออกช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย สัญญาที่ 2 งานก่อสร้างทางรถไฟทางคู่ ช่วงวิหารแดง-บุใหญ่ พร้อมอุโมงค์รถไฟไปตั้งแต่วันที่ 15-21 พฤษภาคม 2557 ที่ผ่านมานั้น ปรากฏว่ามี 6 รายแสดงความสนใจประกอบไปด้วย
1.บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด(มหาชน)
2.บริษัท กิจการร่วมค้า ทีซีซี จำกัด ซึ่งเป็นการร่วมกันระหว่างบริษัททิพากร จำกัดและกลุ่มบริษัทไชน่าฮาร์เบอร์จากประเทศจีน
3.บริษัท ช.การช่าง จำกัด(มหาชน)
4.บริษัท เนาวรัตน์พัฒนาการ จำกัด(มหาชน)
5.บริษัท ซัน เทคโนโลยี แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด และ
6. บริษัท ไร้ท์ทันเน็ลลิ่ง จำกัด

ทั้งนี้ขอบเขตของงานสัญญาที่ 2 งานก่อสร้างทางรถไฟทางคู่ ช่วงวิหารแดง-บุใหญ่ พร้อมอุโมงค์รถไฟ ที่ต้องการจ้างมีดังนี้คือ งานก่อสร้างทางรถไฟทางคู่เพิ่ม 1 ทาง ขนานเส้นทางรถไฟเดิม เริ่มจากหลังสถานีวิหารแดงไปสิ้นสุดที่ก่อนเข้าสถานีบุใหญ่ ระยะทางประมาณ 9 กิโลเมตร งานก่อสร้างอุโมงค์รถไฟทางเดี่ยวคู่ขนานกับอุโมงค์ทางเดี่ยวเดิมลอดผ่านใต้เขาพระพุทธฉาย รวมระยะทางประมาณ 1.2 กิโลเมตร และงานก่อสร้างสะพานคอนกรีตเสริมเหล็ก 2 แห่ง รวมความยาวประมาณ 60 เมตร ส่วนราคากลางของงานก่อสร้างในการประกวดราคาด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ครั้งนี้เป็นเงินทั้งสิ้น 621,063,070 บาท (หกร้อยยี่สิบเอ็ดล้านหกหมื่นสามพันเจ็ดสิบบาทถ้วน) รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7 % แล้ว

"เมื่อวันที่ 26-27 พฤษภาคมที่ผ่านมาได้พาทั้ง 6 กลุ่มไปดูพื้นที่ก่อสร้างตั้งแต่จุดวิหารแดง-สถานีบุใหญ่ จุดก่อสร้างอุโมงค์ หลังจากนั้นจะประชุมก่อนเสนอราคาเพื่อให้ผู้ประสงค์จะเสนอราคาได้ยื่นคำถามเกี่ยวกับการประกวดราคาเป็นลายลักษณ์อักษรพร้อมกับที่ปรึกษา ร.ฟ.ท.จะได้ชี้แจงรายละเอียดต่างๆให้ทราบ"

สำหรับโครงการดังกล่าว ร.ฟ.ท.กำหนดว่าต้องปฏิบัติงานที่รับจ้างตามสัญญาให้แล้วเสร็จภายในกำหนดเวลาไม่เกิน 25 เดือน นับจากวันที่ระบุไว้ในหนังสือแจ้งให้เริ่มงาน และรับประกันผลงาน 24 เดือน นับจากวันที่งานแล้วเสร็จสมบูรณ์ เสนอราคาต้องยื่นเอกสารการประกวดราคาในวันที่ 19 มิถุนายน 2557 และร.ฟ.ท.จะแจ้งผลผู้มีสิทธิ์เสนอราคาในวันที่ 22 กรกฎาคม 2557 และกำหนดเสนอราคาทางอิเล็กทรอนิกส์วันที่ 6 สิงหาคม 2557 นี้

ทั้งนี้โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่เส้นทางคลองสิบเก้า-แก่งคอย เป็นการก่อสร้างทางรถไฟคู่ขนานเส้นทางเดิม รวมระยะทางทั้งสิ้นประมาณ 97 กิโลเมตร รวมทั้งงานก่อสร้างทางคู่เลี่ยงเมืองอีก 3 แห่ง รวมระยะทางประมาณ 7.1 กิโลเมตร มีงานก่อสร้างสะพานรถไฟคอนกรีตเสริมเหล็ก 57 แห่ง รวมความยาว 4,763 เมตร งานก่อสร้างสะพานรถยนต์ข้ามทางรถไฟเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก 2 แห่ง รวมความยาวประมาณ 212 เมตร งานก่อสร้างท่อและการระบายน้ำ และงานก่อสร้างอื่นๆที่เกี่ยวข้องตามแบบคิดเป็นงบประมาณทั้งสิ้น 1.1 หมื่นล้านบาท

[Wisarut]

ไชโย! คสช.พร้อมสร้าง "รถไฟทางคู่"
โดย ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์
2 มิถุนายน 2557


วันนี้ (2 มิ.ย.57) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. และหัวหน้า คสช. ได้ประชุมหารือกับรองหัวหน้า คสช. ทุกด้าน รวมทั้งหัวหน้าส่วนราชการ สรุปได้ความว่า ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาโครงการในแผนเงินกู้ 2 ล้านล้านบาทอีกครั้ง ว่าโครงการใดมีประโยชน์กับประชาชน มีผลกระทบสิ่งแวดล้อมอย่างไรหรือไม่ โดย คสช.พร้อมที่จะเดินหน้าโครงการรถไฟทางคู่ภายในปีนี้ ส่วนโครงการรถไฟความเร็วสูงนั้น คสช.ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกลับไปศึกษาจุดคุ้มทุน โดยย้ำว่าการลงทุนต้องไม่กระทบวินัยการเงินการคลัง ซึ่งอาจให้เอกชนเข้าร่วมลงทุน

ผมดีใจมากที่ คสช.ตัดสินใจเดินหน้ารถไฟทางคู่ ซึ่งจะเกิดประโยชน์ทั้งการขนส่งผู้โดยสารและสินค้า จะทำให้ต้นทุนค่าขนส่งสินค้าถูกลง
รถไฟทางคู่จะมีอัตราค่าโดยสารที่คนส่วนใหญ่สามารถใช้บริการได้ ต่างกับรถไฟความเร็วสูงที่คนส่วนใหญ่ไม่สามารถใช้บริการได้

คาดว่าค่าโดยสารรถไฟทางคู่ (ชั้น 2 รถด่วน หรือรถด่วนพิเศษ เตียงนอนล่าง ปรับอากาศ) จะมีอัตราดังนี้ ตัวเลขในวงเล็บคือค่าโดยสารรถไฟความเร็วสูง

1. กรุงเทพฯ - เชียงใหม่ 881 บาท (2,253 บาท)
2. กรุงเทพฯ - หนองคาย 758 บาท (1,863 บาท)
3. กรุงเทพฯ - หาดใหญ่ 945 บาท (2,835 บาท)


เห็นอย่างนี้แล้ว คุณมีความเห็นอย่างไรกับการตัดสินใจเดินหน้าก่อสร้างรถไฟทางคู่ของ คสช. และคุณอยากใช้มั้ยครับ

[Wisarut]

ผู้ว่าฯ ร.ฟ.ท.เชื่อปลายปีนี้เดินหน้ารถไฟทางคู่ได้ 5 เส้นทาง


โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 3 มิถุนายน 2557 10:26 น.


นายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้เริ่มเปิดประมูลโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่แล้ว 1 เส้นทาง คือ ระหว่างถนนจิระ ถึงขอนแก่น ส่วนอีก 5 เส้นทางที่อยู่ในแผนของการรถไฟฯ นั้น ยังอยู่ระหว่างการศึกษาของคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ซึ่งอาจจะต้องมีการปรับเลี่ยงเส้นทางบางจุด แต่หากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ต้องการจะเดินหน้าโครงการลงทุนภายในสิ้นปีนี้ ก็เชื่อว่าจะสามารถดำเนินการได้
ขณะที่ น.ส.จุฬารัตน์ สุธีธร ผู้อำนวยการสำนักบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) กระทรวงการคลัง ระบุว่า การหาแหล่งเงินเพื่อลงทุนโครงการก่อสร้างรถไฟรางคู่นั้น นอกจากจะใช้เงินงบประมาณปี 58 แล้ว ยังจะสามารถใช้ช่องทางการร่วมทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน หรือ พีดีพี (PDP) รวมทั้งการตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อเป็นการลดภาระงบประมาณของประเทศได้

[ksomchai]

[Mongwin]

ร.ฟ.ท.ยืนยัน รถไฟทางคู่ ไม่มีการปรับแผน
INN News วันพุธที่ 4 มิถุนายน พ.ศ.2557 17:00น.

ผู้ว่าฯ ร.ฟ.ท. ยืนยัน โครงการรถไฟทางคู่ ไม่มีการปรับแผน พร้อมเสนอ คสช. ตามแผนแม่บท

นายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงกรณีโครงการรถไฟทางคู่ ว่า สำหรับรถไฟทางคู่นั้น จะเสนอ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ตามแผนแม่บทเดิม ไม่มีการปรับปรุงหรือแก้ไขใหม่แต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ทาง คสช.เอง ก็ได้ให้น้ำหนักกับรถไฟทางคู่เพราะช่วยเรื่องการขนส่งสินค้าของประเทศ

โดยในแผนดำเนินโครงการนั้น การรถไฟฯ มี 5 เส้นทางเร่งด่วน ใช้งบประมาณในการลงทุน 1.18 แสนล้านบาท ทั้งนี้ สำหรับในโครงการที่ติดอีไอเอ และรอเข้าบอร์ดสิ่งแวดล้อมนั้น ทาง คสช.จะเข้ามาเร่งดำเนินการให้ โครงการพร้อมประมูลได้ทันทีและสำหรับโครงการที่กำลังประมูลคือ สายฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย ระยะทาง 106 กิโลเมตร จะมีการเคาะราคาในวันที่9 มิถุนายน นี้

นอกจากนี้ จากกรณีที่ พ.อ.ณัฐวัฒน์ จันทร์เจริญ รองโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ออกมาระบุว่า จะให้การรถไฟแห่งประเทศไทย ไปหาพื้นที่ว่าจะใช้จุดไหนให้เกิดประโยชน์มากที่สุด นั้น นายประภัสร์ กล่าวว่า สำหรับกรณีดังกล่าวตนยังไม่ได้รับคำสั่งจาก คสช. ให้ไปศึกษาพื้นที่ตามที่มีข้อความปรากฏออกมาในข่าว

[Wisarut]

ปชป.ยัน "มาร์ค" คิดรถไฟรางคู่ จี้ คสช.ชงพวกหมิ่นกลับไทย หนุนป.ป.ช.สอบโกงข้าว
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 6 มิถุนายน 2557 11:55 น.




โฆษกปชป. แนะ คสช.ทำแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ ให้ยึดประโยชน์ชาติ แต่ไร้ระบบตรวจสอบอาจก่อปัญหา ขอให้คงม. 67 และเผยเลขลงทุนให้โปร่งใส ชี้สื่อทำเข้าใจผิดชู "ชัชชาติ" ชุบมือเปิบคิดรถไฟรางคู่ โบ้ย "มาร์ค" ค้านทั้งที่เป็นคนคิด จี้ทหารยุติป้ายสีทางการเมือง บี้ ทำเรื่องส่งผู้ร้ายข้ามแดนพวกหมิ่น เชียร์ป.ป.ช.สอบทรัพย์สินรมต.เอี่ยวจำนำข้าว แนะสอบรวบยอด

วันนี้ (6มิ.ย.) นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการทำหน้าที่ฝ่ายบริหารของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ว่า พรรคเห็นว่าเรื่องสำคัญคือการจัดทำแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน หากใช้อำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดโดยยึดประโยชน์ชาติ โดยไม่มีผลประโยชน์ใดมาแอบแฝง ก็จะเป็นโอกาสดีที่จะมีการพัฒนาที่เหมาะสม แต่การไม่มีระบบตรวจสอบการจัดทำงบประมาณ รวมทั้งตัวเลขการลงทุน การประเมินผลกระทบด้านต่าง ๆ อาจทำให้เกิดปัญหาได้ จึงขอเรียกร้องให้มีการคงรัฐธรรมนูญมาตรา 67 คุ้มครองสิทธิชุมชนไว้ และขอให้เปิดเผยตัวเลขการลงทุนอย่างโปร่งใส เช่น รถไฟรางคู่ซึ่งรัฐบาลอภิสิทธิ์ มีแผนทำรถไฟรางคู่ทั่วประเทศแต่รัฐบาลเพื่อไทยยกเลิกเพื่อนำไปใส่ใน พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้าน ทั้งที่สามารถทำได้ในระบบงบปกติ

ทั้งนี้มีสื่อมวลชนไปขยายผลให้เกิดความเข้าใจผิดว่า นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีตรมว.คมนาคม เป็นผู้คิดรถไฟรางคู่ แต่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ต่อต้านจึงเป็นการให้ข้อมูลเท็จกับสังคมไทย เพราะนายอภิสิทธิ์ คือผู้สนับสนุนแผนรถไฟรางคู่ทั่วประเทศ แต่รัฐบาลเพื่อไทยยกเลิกงบประมาณในส่วนนี้ ดังนั้นเจ้าหน้าที่ทหารควรจะพิจารณาการให้ข่าวที่ไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริง เพราะรถไฟรางคู่จำเป็นและดำเนินการได้ทันทีตามระบบงบประมาณปกติ ขอเรียกร้องให้ยุติการใส่ร้ายทางการเมือง พรรคขอให้ทุกฝ่ายหยุดเอาการเมืองมาใส่ความแต่ร่วมพัฒนาประเทศในช่วงสถานการณ์พิเศษนี้