View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44739
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 24/07/2015 4:09 pm Post subject: |
|
|
'บิ๊กจิน' รับประมูลรถไฟทางคู่ 3 เส้น ล่าช้า 2-3 เดือน สั่งปรับแผน
โดย ไทยรัฐออนไลน์ 24 ก.ค. 2558 17:16
บิ๊กจิน ยอมรับโครงการล่าช้า 2 ส่วน เลื่อนประมูลรถไฟทางคู่ 3 เส้น ออกไป 2-3 เดือน รวมถึงรถไฟฟ้า สายสีส้ม-เหลือง-ชมพู จะขยับไปเกือบต้นปี 59 สั่งลงรายละเอียดตรวจสอบปัญหา พร้อมทำแผนสำรอง มั่นใจปี 59 ทุกโครงการใกล้เคียงตามแผน...
เมื่อวันที่ 24 ก.ค.58 พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวยอมรับ การดำเนินโครงการของกระทรวงคมนาคมมีความล่าช้า โดยมี 2 ส่วนที่ล่าช้าไปจากแผนประมาณ 2-3 เดือน คือ โครงการรถไฟทางคู่ 3 เส้นทางประกอบด้วย ฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย, ชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น, ประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร โดยจะล่าช้าจากแผนเดิมที่จะประกวดราคาในเดือน ส.ค. 2558 เป็นเดือน ก.ย.-ธ.ค. 58 และโครงการถไฟฟ้า 3 สาย คือ สายสีส้ม (ตลิ่งชัน-มีนบุรี) สายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) สายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) จะล่าช้าไปเป็นปลายปี 2558-ต้นปี 2559 ส่วนโครงการอื่นๆ ที่อยู่ในแผนงานปี 2558 ยังเดินหน้าตามแผน
ทั้งนี้ โครงการที่ล่าช้าจะกระทบใน 2 ส่วน ในการใช้งบประมาณ ซึ่งจะเร่งในส่วนของการบริหารงบประมาณ การลงรายละเอียดทุกขั้นตอนโดยนางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม จะจัดทีมงานร่วมกับหน่วยงาน ทำตารางกำหนดรายละเอียดของงานในแต่ละส่วน เพื่อแก้ไข นอกจากนี้ จะกระทบต่อแผนที่จะนำไปใช้ประโยชน์ ซึ่งจะแก้ไข โดยการปรับแผนในภาพรวม ซึ่งอาจจะมีแผนสำรองไว้ ดังนั้นทุกโครงการของกระทรวงคมนาคม จะมีการตรวจสอบปัญหาอุปสรรค โดยการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) จากนั้นเป็นความเห็นหน่วยอื่นๆ เช่น กรมการขนส่งทางบก กรมเจ้าท่า และการท่าเรือ
หลายเรื่องไม่ได้มีงบประมาณไว้ก่อน และมีหลายเรื่องที่เห็นว่ามีความจำเป็นจึงได้เร่งขึ้นมาทำก่อน ซึ่งข้อเท็จจริง เมื่อยังไม่มีการตั้งงบประมาณของโครงการไว้ก่อน พอจะเริ่มจึงทำได้ในส่วนของงบศึกษาความเป็นไปได้ งบศึกษาสำรวจออกแบบ ดังนั้นการก่อสร้างจะไปเริ่มได้ในปี 2559 ซึ่งก็ต้องผ่านกระบวนการศึกษาความเป็นไปได้ ศึกษาผลกระทบและตามมาด้วยการเวนคืนที่ดิน การขอความเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เมื่อผ่านแล้ว จะต้องเลือกบริษัท จึงจะก่อสร้างได้ ที่ผ่านมาเป็นบทเรียนที่จะต้องแก้ไข ส่วนปี 2559 มั่นใจการดำเนินโครงการแทบจะใกล้เคียงกับแผนงาน จะมีผลกระทบน้อยมาก เพราะได้เตรียมการไว้ตั้งแต่ปี 2558
ทั้งนี้ นโยบายเร่งด่วนมีผลกระทบต่อภาพรวมโครงการ จะพยายามเร่งและทำงานร่วมกันกับกระทรวงอย่างใกล้ชิด เพื่อคลี่คลายปัญหา เช่น กรณีโครงการได้รับอนุมัติแล้ว ไม่มีปัญหาข้อติดขัดให้เร่งเดินหน้าต่อ ส่วนที่มีเรื่องร้องเรียน หรือติด EIA ,EHIA ยังไม่สมบูรณ์ จะให้ปลัดกระทรวงคมนาคมไปหารือกับปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือหากเกี่ยวข้องกับสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้มอบหมาย นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ช่วยติดตาม
สำหรับการใช้งบประมาณปี 2558 ขณะนี้มี 2 หน่วยที่เบิกจ่ายล่าช้ากว่าแผน คือ กรมเจ้าท่า และสำนักงานนโยบายแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) นอกจากนี้ ยังมีงบประมาณเหลือจ่ายที่ต้องส่งคืนอีกประมาณ 299.86 ล้านบาท ณ สิ้นเดือน มิ.ย. 2558 โดยมี 7 หน่วยงาน คือ สถาบันการบินพลเรือน (สบพ.) กรมเจ้าท่า กรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย การรถไฟแห่งประเทศไทย และองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) อย่างไรก็ตาม จะมีการปรับตัวเลขสิ้นเดือน ก.ค. 2558 อีกครั้ง คาดว่าตัวเลขส่งคืนจะลดลงอีก |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42782
Location: NECTEC
|
Posted: 28/07/2015 12:18 pm Post subject: |
|
|
'ประจิน'รับรถไฟทางคู่3เส้นทาง-รถไฟฟ้า3สาย ล่าช้า
หน้าเศรษฐกิจ
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
วันที่ 24 กรกฎาคม 2558, 16:34
พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม ยอมรับการดำเนินโครงการก่อสร่างสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานที่รับผิดชอบ 2 ส่วนมีความล่าช้ากว่าแผนงานที่กำหนดไว้ราว 2-3 เดือน ได้แก่ โครงการรถไฟทางคู่ 3 เส้นทาง ประกอบด้วย ฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย, ชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น และประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร จากแผนเดิมที่จะประกวดราคาในเดือน ส.ค.58 แต่เลื่อนไปเป็นเดือน ก.ย.-ธ.ค.2558
และโครงการรถไฟฟ้า 3 สาย ได้แก่ สายสีส้ม(ตลิ่งชัน-มีนบุรี), สายสีเหลือง(ลาดพร้าว-สำโรง), สายสีชมพู(แคราย-มีนบุรี) จะล่าช้าไปเป็นปลายปี 58 ถึงต้นปี 59 ส่วนโครงการอื่นๆ ที่อยู่ในแผนงานปี 58 ยังคงเดินหน้าได้ตามแผนงานเดิม |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42782
Location: NECTEC
|
Posted: 28/07/2015 3:10 pm Post subject: |
|
|
3 ทางเลือก ในการทำทางคู่ ช่วงศิลาอาศน์ - เด่นชัย
1. ไปตามทางเก่า แต่แก้โค้งแต่เพียงเล็กน้อยเท่าที่จำเป็น
2. แก้โค้งช่วงศิลาอาศน์ - บ้านด่านก่อน จะเลี้ยวซ้ายไปเขาพลึงก่อน ไปตามทางเก่ามีแก้โค้งตรงบ้านโคนโดยเริ่มบ้านบุ่งไปพิชัยที่แคบด้วย
3. ไปตามทางใหม่จากศิลาอาศน์ไปแม่พวก ก่อน เข้าทางเก่าไปเด่นชัย มีแก้โค้งตรงบ้านโคนโดยเริ่มบ้านบุ่งไปพิชัยที่แคบด้วย
http://paknampho-denchairailway.com/about.php?cid=3 |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44739
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 28/07/2015 3:25 pm Post subject: |
|
|
อุตรดิตถ์-แพร่ หนุนรถไฟรางคู่ ปากน้ำโพ-เด่นชัย พ่อเมืองอุตรดิตถ์เชื่อไร้ปัญหา
มติชนออนไลน์ วันที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 เวลา 11:30:00 น.
(28 ก.ค.58) นายชัช กิตตินภดล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ กล่าวว่า ได้ร่วมประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่ จ.อุตรดิตถ์ และ จ.แพร่กว่า 1,000 คน ต่อโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงปากน้ำโพ (นครสวรรค์)-เด่นชัย (แพร่) สำหรับโครงการพัฒนารถไฟรางคู่ปากน้ำโพ-เด่นชัย กำลังอยู่ในช่วงการประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน เพื่อกำหนดยุทธศาสตร์ และจะต้องนำข้อมูลไปประมวลผลต่อไป แต่ถ้าไม่มีปัญหาและอุปสรรคใดๆ คาดว่าเริ่มลงมือก่อสร้างได้ในปี 2560 จะแล้วเสร็จในปี 2564
นายชัชกล่าวว่า เส้นทางรถไฟทางคู่ จะเริ่มต้นจากปากน้ำโพ จ.นครสวรรค์ ปลายทางสถานีเด่นชัย จ.แพร่ รวมระยะทาง 285 กม. ผ่าน 5 จังหวัด โดยใช้เส้นทางที่เป็นทางรถไฟสายเดิม จอดรับผู้โดยสารในสถานีหลัก เช่น นครสวรรค์ ชุมแสง บางมูลนาก ตะพานหิน พิจิตร บางกระทุ่ม พิษณุโลก พรหมพิราม พิชัย ตรอน เมืองอุตรดิตถ์ และเด่นชัย ซึ่งจะช่วยประหยัดเวลาในการขนส่งและการเดินทางได้เป็นอย่างมาก ชาว จ.อุตรดิตถ์ ส่วนใหญ่ให้การสนับสนุนเต็มที่ เพราะจะเป็นประโยชน์ในอนาคตต้อนรับ AEC ซึ่งจะทำให้ จ.อุตรดิตถ์ เจริญก้าวหน้า การคมนาคมสะดวก อันจะมีผลดีในทุกด้าน |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42782
Location: NECTEC
|
Posted: 29/07/2015 11:35 am Post subject: |
|
|
คนเหนือหนุนรถไฟปากน้ำโพ-เด่นชัย เชื่อมการค้าเพื่อนบ้าน-จีนใต้
โดย...บุญนำ เกิดแก้ว
โพสต์ทูเดย์
29 กรกฎาคม 2558 เวลา 09:45 น.
พื้นที่ภาคเหนือนั้นถือว่าเป็นยุทธศาสตร์ของการค้าข้ามแดน จากการมีชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้าน 2 ประเทศ คือเมียนมาและลาว โดยสามารถเชื่อมโยงต่อไปยังประเทศจีนทางตอนใต้ ซึ่งล่าสุดรัฐบาลจีนได้ลงทุนก่อสร้างทางรถไฟเข้ามาถึงประเทศลาวขณะที่ฝ่ายไทย กระทรวงคมนาคมได้เสนอโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่เด่นชัย-เชียงของ ต่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เมื่อเดือน มิ.ย. 2557 และ คสช.เห็นชอบให้มีการก่อสร้างระยะแรกจากสถานีปากน้ำโพ จ.นครสวรรค์ ถึงสถานีเด่นชัย จ.แพร่ ระยะทาง 285 กิโลเมตร ผ่าน 5 จังหวัด ประกอบด้วย นครสวรรค์ พิจิตร พิษณุโลก อุตรดิตถ์ และแพร่ขณะนี้โครงการอยู่ในขั้นตอนประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่ ซึ่งเปิดเวทีฟังความเห็นมาแล้ว 5 จังหวัด และทุกพื้นที่ให้การสนับสนุน
ล่าสุด วันที่ 28 ก.ค. มีการจัดเวทีที่ จ.อุตรดิตถ์ ชัช กิตตินภดล ผวจ.อุตรดิตถ์ กล่าวว่า แนวเส้นทางจะใช้เส้นทางที่เป็นทางรถไฟสายเดิม จอดรับผู้โดยสารในสถานีหลัก เช่น นครสวรรค์ ชุมแสง บางมูลนาก ตะพานหิน พิจิตร บางกระทุ่ม พิษณุโลก พรหมพิราม พิชัย ตรอน เมืองอุตรดิตถ์ และเด่นชัย ซึ่งจะช่วยประหยัดเวลาในการขนส่งและการเดินทางได้เป็นอย่างมาก ชาว จ.อุตรดิตถ์ ส่วนใหญ่ให้การสนับสนุนเต็มที่ เพราะจะเป็นประโยชน์ในอนาคตต้อนรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ซึ่งจะทำให้ จ.อุตรดิตถ์ เจริญก้าวหน้า การคมนาคมสะดวก อันจะมีผลดีในทุกด้านทั้งนี้ ความเร็วที่รถไฟฟ้าสามารถทำความเร็วได้ที่ 160-180 กิโลเมตร/ชั่วโมง คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ในปี 2560 จะแล้วเสร็จในปี 2564 หากก่อสร้างสำเร็จจะส่งผลดีทำให้เศรษฐกิจในพื้นที่ภาคเหนือขยายตัวอย่างรวดเร็ว เพราะสามารถเชื่อมโยงเส้นทางการคมนาคมและขนส่งทั้งรถไฟและรถยนต์เชื่อมต่อจังหวัดใกล้เคียงได้ทั้งหมด รวมถึงประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาค รองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจหลังการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนนอกจากนี้ การพัฒนาเส้นทางรถไฟทางคู่ยังเป็นส่วนสนับสนุนพื้นที่เขตเศรษฐกิจชายแดน ต่างๆ โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือ 2 แห่ง คือ เขตเศรษฐกิจพิเศษตาก และเขตเศรษฐกิจพิเศษเชียงราย ซึ่งในอนาคตหากมีการเชื่อมโยงเส้นทางจากสถานีเด่นชัยต่อไปยัง อ.เชียงของ จ.เชียงราย ก็สามารถเชื่อมโยงกับเส้นทางรถไฟจากจีน ซึ่งก่อสร้างเข้ามาในประเทศลาวแล้วได้ขณะเดียวกัน เส้นทางรถไฟที่ผ่าน จ.พิษณุโลก ก็จะเป็นส่วนหนึ่งของการเชื่อมโยงเส้นทางการค้าตามแนวระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตก จากเขตเศรษฐกิจพิเศษตากไปยังเขตเศรษฐกิจพิเศษในภาคตะวันออกเฉียงเหนืออีก 2 แห่ง คือ เขตเศรษฐกิจพิเศษหนองคายและมุกดาหาร |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44739
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 30/07/2015 6:44 pm Post subject: |
|
|
เมื่อวานนี้ (29 ก.ค. 58) ได้ทราบข่าวว่า บริษัทที่ปรึกษาที่รับผิดชอบศึกษาและออกแบบรายละเอียดโครงการรถไฟทางคู่ สุราษฎร์ธานี-หาดใหญ่-สงขลา ได้เซ็นสัญญากับการรถไฟฯ เรียบร้อยแล้วครับ ใช้เวลาดำเนินการ 1 ปี |
|
Back to top |
|
|
Nakhonlampang
1st Class Pass (Air)
Joined: 29/03/2006 Posts: 3293
Location: เสนานิคม1-คลองหลวง
|
Posted: 30/07/2015 9:35 pm Post subject: |
|
|
Wisarut wrote: |
3 ทางเลือก ในการทำทางคู่ ช่วงศิลาอาศน์ - เด่นชัย
1. ไปตามทางเก่า แต่แก้โค้งแต่เพียงเล็กน้อยเท่าที่จำเป็น
2. แก้โค้งช่วงศิลาอาศน์ - บ้านด่านก่อน จะเลี้ยวซ้ายไปเขาพลึงก่อน ไปตามทางเก่ามีแก้โค้งตรงบ้านโคนโดยเริ่มบ้านบุ่งไปพิชัยที่แคบด้วย
3. ไปตามทางใหม่จากศิลาอาสน์ไปแม่พวก ก่อน เข้าทางเก่าไปเด่นชัย มีแก้โค้งตรงบ้านโคนโดยเริ่มบ้านบุ่งไปพิชัยที่แคบด้วย
|
จุดสำคัญของโครงการนี้ คือการจัดสินใจว่าจะทำอย่างไรกับเส้นทางช่วง ศิลาอาสน์ ถึง เด่นชัย นะครับ เพราะเป็นทางภูเขา ซึ่งนอกจะประเด็นเรื่องทางโค้งแล้ว สาระสำคัญที่สุดก็จะอยู่ที่เรื่องความลาดชัน ซึ่งนอกจากจะเป็นอุปสรรคในเรื่องความสามารถในการลากจูงและการทำความเร็วของขบวนรถแล้ว ยังเป็นสาเหคุที่ทำให้มีโค้งรัศมีแคบจำนวนมากด้วย
ทางรถไฟช่วงนี้ก่อสร้างตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งมีข้อจำกัดด้านเทคโนโลยีในการก่อสร้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเจาะอุโมงค์ ดังนั้นเมื่อต้องสร้างทางผ่านเขาพลึง จึงต้องไต่ตวามสูงของเขาพลึงขึ้นไปเพื่อขุดเจาะอุโมงค์ให้น้อยที่สุด ซึ่งก็ยังมีอุโมงค์เกิดขึ้นในทางช่วงนี้ถึง 2 แห่ง โดยจุดสูงสุดของทางช่วงนี้อยู่ตรงที่หยุดรถเขาพลึง ซึ่งอยู่สูงกว่าสถานีปางต้นผึ้งร้อยกว่าเมตร ก่อนจะลดระดับลงไปที่ห้วยไร่ แล้วค่อยลดระดับต่อไปจนถึงเด่นชัย ทำให้ทางช่วงนี้โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงปางต้นผึ้ง-เชาพลึง-ห้วยไร่ มีความลาดชันมาก ขนาดปี 2509 ก็ยังมีการสำรวจการแก้ไขแนวเส้นทางเพื่อลดความลาดขัน ซึ่งข้อสรุปในตอนนั้นแนวเส้นทางใหม่จะมีจุดสูงสุดของเส้นทางต่ำกว่าเดิมประมาณ 50 เมตร แลกกับการได้อุโมงค์ใหม่ 1 แห่ง ยาวประมาณ 2.5 กิโลเมตร ซึ่งไม่ใช่ปัญหาทางเทคโนโลยีในเวลานั้นแล้ว แสดงให้เห็นว่าความลาดชันของทางช่วงนี้มีปัญหาต่อประสิทธิภาพการเดินรถเป็นอย่างมาก ดังนั้นถ้าโครงการทางคู่ล่าสุดนี้ไม่ถีอโอกาสแก้ไขปัญหาดังกล่าวไปพร้อมกันในคราวเดียว ก็จะเป็นที่น่าเสียดายอย่างยิ่ง ซึ่งตามแนวทางเลือกที่มีอยู่ 3 แนวทางในเวลานี้ ทางเลือกที่ 3 จึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดเพราะการเดินรถจะมีประสิืธิภาพสูงสุด แต่ก็แน่นอนว่าจะเป็นทางเลือกที่มีประชาชนในพื้นที่ได้รับผลกระทบจากการเวณคืนที่ดินมากกว่าแนวทางเลือกอื่นเช่นกัน
|
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44739
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 05/08/2015 10:00 pm Post subject: |
|
|
TOR งานจ้างก่อสร้างโครงการก่อสร้างทางรถไฟสายชายฝั่งทะเลตะวันออก ช่วง ฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย สัญญาที่ 1 งานก่อสร้างทางรถไฟทางคู่ ช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-วิหารแดง และช่วงบุใหญ่-แก่งคอย พร้อมทางคู่เลี่ยงเมือง(Chord Lines) 3 แห่ง (5 ส.ค. 58)
งบประมาณ/ราคากลาง : 9,926,288,000.00 บาท
http://www.railway.co.th/auction/tor/pdf/2558/58661962tor.pdf
TOR งานจ้างก่อสร้างโครงการก่อสร้างทางรถไฟสายชายฝั่งทะเลตะวันออก ช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย สัญญาที่ 2 งานก่อสร้างทางรถไฟทางคู่ ช่วงวิหารแดง-บุใหญ่ พร้อมอุโมงค์รถไฟ (5 ส.ค. 58)
งบประมาณ/ราคากลาง : 598,602,000.00 บาท
http://www.railway.co.th/auction/tor/pdf/2558/58661963tor.pdf |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44739
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 07/08/2015 10:44 am Post subject: |
|
|
ขอนแก่น เชิญ 11 ชุมชนริมทางรถไฟรับฟังผลกระทบ รถไฟรางคู่ พร้อมสร้างความเข้าใจ
เทศบาลนครขอนแก่น 7 ส.ค. 58
นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธุ์ นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น พร้อมด้วยตัวแทนจากชุมชนเขตเทศบาลเมืองศิลา และชุมชนริมทางรถไฟ 11 ชุมชน 1,635 ครอบครัว เขตเทศบาลนครขอนแก่น รับฟังการสร้างความเข้าใจ จากโครงการรถไฟรางคู่ สายนครราชสีมา-ขอนแก่น และรถไฟความเร็วปานกลาง สายนครราชสีมา-หนองคาย จากตัวแทนการรถไฟแห่งประเทศไทย
ทางบริษัทที่ปรึกษา ได้ศึกษาโครงการได้กล่าวถึงว่า โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ และรถไฟความเร็วปานกลาง ที่ผ่านขอนแก่น ใช้พื้นที่ด้านซ้าย 40 เมตร แรก ส่วนด้านขวา 20 เมตรแรก โดยด้านซ้าย 40 เมตรแรก แบ่งเป็น 20 เมตรแรก สำหรับรถไฟรางคู่ และ 20 เมตรหลังสำหรับรถไฟความเร็วปานกลาง ทั้งนี้จะมีการยกระดับตั้งแต่ทางเลี่ยงเมือง เขตเมืองเก่าถึง ทางเลี่ยงเมืองเขตศิลา ถ้าเป็นอย่างนี้ คาดว่าชุมชนริมทางรถไฟเขตเทศบาลนครขอนแก่น ที่ได้รับผลกระทบ ด้านซ้ายมือ 40 เมตร 427 ครอบครัว และด้านขวามือ 20 เมตรแรก 226 ครอบครัว รวมเป็นจำนวน 653 ครอบครัว หรืออาจมากกว่า
สรุปได้ว่า
ข้อ1. ขอ 20 เมตรหลัง และ
ข้อ2. หาที่อยู่ให้เรา พร้อมค่าเยียวยา เราก็จะย้ายไปอยู่ที่ดินใหม่ ถ้าเป็นเขตเทศบาลศิลา ขอเป็นศูนย์พัฒนาที่ดิน ถ้าเป็นนครขอนแก่น ขอแปลงบ้านพักรถไฟ และขณะเดียวกันจะมอบหมายเจ้าหน้าที่ไปหาที่ดินในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ที่เป็นของรัฐที่ว่าง เพื่อจะได้ขอทำโฉนด เพื่อให้ชุมชนที่ได้รับผลกระทบได้อยู่อาศัย
ภาพและข่าว จาก เทศบาลนครขอนแก่น
https://www.facebook.com/media/set/?set=a.1668812433340949.1073744068.1374535359435326 |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42782
Location: NECTEC
|
Posted: 07/08/2015 5:26 pm Post subject: |
|
|
Nakhonlampang wrote: | ดังนั้นถ้าโครงการทางคู่ล่าสุดนี้ไม่ถีอโอกาสแก้ไขปัญหาดังกล่าวไปพร้อมกันในคราวเดียว ก็จะเป็นที่น่าเสียดายอย่างยิ่ง ซึ่งตามแนวทางเลือกที่มีอยู่ 3 แนวทางในเวลานี้ ทางเลือกที่ 3 จึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดเพราะการเดินรถจะมีประสิืธิภาพสูงสุด แต่ก็แน่นอนว่าจะเป็นทางเลือกที่มีประชาชนในพื้นที่ได้รับผลกระทบจากการเวณคืนที่ดินมากกว่าแนวทางเลือกอื่นเช่นกัน |
เชื่อได้แน่ว่าจะมีทางเลือกที่ 4 เกิดขึ้น แบบเดียวกันกะกรณี เด่นชัย - เชียงใหม่เป็นแน่ |
|
Back to top |
|
|
|