รวมข่าวโครงการรถไฟทางคู่

[Mongwin]

อัพเดทรถไฟทางคู่นครปฐม-ชุมพร!!
จันทร์ที่ 10 มิถุนายน 2562 เวลา 10.18 น.

อัพเดทรถไฟสายใต้ นครปฐม-ชุมพร รวม 421 กม. วงเงินรวม 33,982 ล้านบาท ยันเสร็จตามแผนปี 64 ลดเวลาเดินทาง กทม.-ชุมพรแค่ 5 ชม. จากเดิมใช้เวลา 8-9 ชม. กระตุ้นเส้นทางท่องเที่ยวระบุชาวต่างชาติถึง 90%

นายวรวุฒิ มาลา รักษาการผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยความคืบหน้าการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายใต้ ช่วงนครปฐม-ชุมพร ระยะทาง 421 กิโลเมตร (กม.) 5 สัญญา วงเงิน 33,982 ล้านบาทว่า สัญญาที่ 1 ช่วงนครปฐม-หนองปลาไหล 93 กม. การก่อสร้างคืบหน้า 29% ส่วนปัญหางานก่อสร้างสะพานรถไฟข้ามแม่น้ำแม่กลอง จ.ราชบุรี ซึ่งพบวัตถุระเบิด 7 ลูก วันที่ 14 มิ.ย.นี้ จะได้ข้อสรุปแนวทางการเก็บกู้ระเบิด ขณะเดียวกันกำลังปรับแบบสะพานรถไฟเดิมให้เป็นสะพานคานขึง (Extradose Bridge) 160 เมตร อีก 3 เดือนจะเริ่มสร้างสะพานได้ ถือเป็นสะพานขึงแห่งแรกของ รฟท. และเป็นแลนด์มาร์คใหม่ของ จ.ราชบุรี

นายวรวุฒิ กล่าวต่อว่า สัญญาที่ 2 ช่วงหนองปลาไหล-หัวหิน 76 กม. คืบหน้า 41% ขณะนี้รอผลการพิจารณาจากสำนักผู้ตรวจการแผ่นดิน เพราะชาวบ้านในพื้นที่มองว่าการก่อสร้างสะพานข้ามบริเวณ จ.เพชรบุรี ไม่เหมาะสม นอกจากนี้กำลังเสนอปรับรูปแบบสถานีหัวหินเป็นสถานียกระดับ แต่ยังอนุรักษ์เป็นแหล่งท่องเที่ยวเหมือนเดิม มีสิ่งอำนวยความสะดวก อาทิ ลิฟต์ บันไดเลื่อน ทางลอด ตกแต่งผนัง-ฝ้า ร้านค้า มีจุดจอดรถบัส รวมทั้งปรับปรุงภูมิทัศน์ใหม่ มีทางเท้า และจัดสวน

นายวรวุฒิ กล่าวอีกว่า สัญญาที่ 3 ช่วงหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ 84 กม. คืบหน้า 29% กำลังก่อสร้างรางรถไฟ สถานี รวมทั้งปรับปรุงสถานีรถไฟเดิมให้เป็นสถานีอนุรักษ์ เช่น สถานีวังก์พง, สถานีปราณบุรี และสถานีกุยบุรี อาทิ เปลี่ยนไม้ใหม่ ยกให้สูงขึ้น ปรับภูมิทัศน์รอบสถานี ส่วนสัญญาที่ 4 ช่วงประจวบคีรีขันธ์-บางสะพานน้อย 88 กม. คืบหน้า 22% และสัญญาที่ 5 ช่วงบางสะพานน้อย-ชุมพร 79 กม. คืบหน้า 18%

นายวรวุฒิ กล่าวด้วยว่า ภาพรวมการก่อสร้างโครงการยังเป็นไปตามแผน คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 64 หากเปิดให้บริการจะทำให้การเดินทางตั้งแต่สถานีกลางบางซื่อ-หัวหิน ใช้เวลาเพียง 3 ชั่วโมง(ชม.) จากเดิมใช้เวลา 4-5 ชม. รถไฟจะใช้ความเร็วที่ 160 กม.ต่อชม. และหากเดินทางจากสถานีกลางบางซื่อถึงสถานีชุมพร จะใช้เวลาเพียง 5 ชม. จากเดิมใช้เวลา 8-9 ชม. โดยเส้นทางนี้เป็นเส้นทางที่นักท่องเที่ยวต่างชาตินิยมเดินทางถึง 90%

[Wisarut]

ประมูล‘ทางคู่’แสนล. ตีปี๊บดึงผู้รับเหมาขยายสายใต้-อีสาน
วันจันทร์ ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2562, 06.00 น.

นายวรวุฒิ มาลา รักษาการผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยความคืบหน้า โครงการรถไฟทางคู่สายใต้ พบว่า การก่อสร้างในภาพรวมเฉลี่ย 28% แบ่งเป็น ช่วงนครปฐม-หัวหิน คืบหน้า 33% ช่วงหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ คืบหน้า 30% และช่วงประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร คืบหน้า 19%



นอกจากนี้ การรถไฟฯยังมีแผนลงทุนก่อสร้างรถไฟทางคู่สายใต้ระยะที่ 2 ได้แก่ รถไฟทางคู่ช่วง ชุมพร-สุราษฎร์ธานี วงเงิน 24,000 ล้านบาท รถไฟทางคู่ช่วงสุราษฎร์ธานี-สงขลา วงเงิน 57,000 ล้านบาท และรถไฟทางคู่ช่วงหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ ระยะทาง 48 กิโลเมตร วงเงิน 8,000 ล้านบาท


ส่วนความคืบหน้ารถไฟทางคู่สายอีสานในปีนี้จะเร่งออกแบบและผลักดันโครงการรถไฟทางคู่สายใหม่ที่คณะรัฐมนตรี(ครม.) อนุมัติ คือรถไฟทางคู่ ช่วงบ้านไผ่-มุกดาหาร-นครพนม ระยะทาง 355 กิโลเมตร วงเงิน 67,900 ล้านบาท ขณะที่อีกเส้นทางที่ ครม.อนุมัติไปแล้ว คือ ช่วงเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ วงเงิน 85,000 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างการออกพระราชกฤษฎีกา(พ.ร.ฎ.) เวนคืนพื้นที่ก่อสร้างคาดว่าจะเปิดให้บริการปี 2567 สำหรับมีแนวเวนคืน 4 จังหวัด ได้แก่ แพร่ ลำปาง พะเยา และเชียงราย ซึ่งจะเริ่มต้นที่สถานีเด่นชัย มุ่งไปทางทิศเหนือผ่าน ลำปาง พะเยา และเชียงราย สิ้นสุดที่ด่านพรมแดนเชียงของ โดยพื้นที่เวนคืนจะมีเขตทางกว้าง 50 เมตร มีทั้งหมด 7,292 แปลง และที่ดิน 9,661 ไร่ ในส่วนของการร่างขอบเขตเงื่อนไขการประกวดราคา(TOR) นั้นจะทำควบคู่กันไปเพื่อเปิดประมูล

ทั้งนี้แบ่งสัญญาก่อสร้างออกเป็น 3 สัญญา ได้แก่ สัญญาที่ 1 ช่วงเด่นชัย-งาว ระยะทาง 104 กิโลเมตร วงเงิน 26,700 ล้านบาท สัญญาที่ 2 ช่วงงาว-เชียงราย ระยะทาง 135 กิโลเมตร วงเงิน 28,700 ล้านบาท และสัญญาที่ 3 เชียงราย-เชียงของ ระยะทาง 84 กิโลเมตร วงเงิน 17,400 ล้านบาท

นอกจากนี้ ส่วนเส้นทางรถไฟทางคู่ที่คาดว่าจะแล้วเสร็จได้ในปีนี้คือ แก่งคอย-คลอง 19-ฉะเชิงเทรา คาดว่า ในอีก 1-2 เดือน จะสามารถส่งมอบพื้นที่ได้ และเส้นทางจิระ-ขอนแก่น ที่จะเปิดใช้เต็มเส้นทางในเดือน สิงหาคม-กันยายนนี้

ส่วนด้านโครงการทางคู่ที่ส่งให้ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.)พิจารณาแล้ว หากผ่านความเห็นชอบจะเสนอให้รัฐบาลใหม่พิจารณาได้แก่ รถไฟทางคู่ช่วงชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี วงเงิน 37,000 ล้านบาท และรถไฟทางคู่ ช่วงขอนแก่น-หนองคาย วงเงิน 26,000 ล้านบาท

[Wisarut]

[Wisarut]

รฟท.เล็งปรับแบบทางคู่เฟส2 ชุมพร-สงขลาพบระเบิดสงครามโลกหลายจุด

10 มิถุนายน พ.ศ. 2562 เวลา 10:06 น.



9 มิ.ย. 2562 นายวรวุฒิ มาลา รักษาการผู้การว่ารถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) เปิดเผยว่าจากการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายใต้ระยะที่ 1 ช่วงนครปฐม-ชุมพรนั้นมีการสำรวจพบระเบิดสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 อายุมากกว่า 70 ปีหลายจุด และรฟท.เชื่อมั่นว่าจะค้นพบอีกหลายจุดในการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายใต้ระยะที่ 2 ช่วง ชุมพร-สุราษฎร์ธานี-สงขลา โดยเฉพาะในพื้นที่ตามแม่น้ำสำคัญหลายแห่ง ซึ่งเป็นการทิ้งระเบิดตอนที่กองทัพญี่ปุ่นล่าถอยในยุคสงครามโลก ที่ผ่านมาการก่อสร้างรถไฟทางคู่ระยะที่ 1 รฟท.ได้สำรวจพบระเบิดอยู่ 2 จุดคือ ใต้แม่น้ำกลางตัวเมืองราชบุรี จำนวน 7 ลูก และใต้ดิน บริเวณ สถานีเขาเต่า-วังก์พง อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ จำนวน 1 ลูก


“ด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้ การก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่ช่วงนครปฐม-หัวหินนั้นต้องมีการปรับแบบช่วงที่เป็นสะพานข้ามแม่น้ำในตัวเมืองราชบุรี โดยจะปรับแบบเป็นสะพานแขวนที่ไม่มีเสาตอม่อในลำน้ำ ถือว่าเป็นสะพานแขวนทางรถไฟแห่งแรกที่จะเกิดขึ้นในประเทศ และจะเป็นสัญลักษณ์ใหม่ของเมืองราชบุรี คล้ายกับโมเดลของสะพานแขวนพระราม 9 ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาในกรุงเทพมหานคร”นายวรวุฒิ กล่าว

นายวรวุฒิกล่าวต่อว่าสำหรับความคืบหน้าในการเก็บกู้ระเบิดทั้ง 7 ลูก ที่ จ.ราชบุรีนั้น จะต้องทำไปพร้อมกันทีเดียว ดังนั้นจึงต้องออกประกาศตามกฎหมายการปกครอง ด้วยคำสั่งปิดพื้นที่กลางใจเมืองราชรี เป็นพื้นที่อันตรายควบคุมความปลอดภัย ควบคู่ไปกับการเคลื่อนย้ายประชาชนออกจากพื้นที่รัศมีแรงระเบิด หลังจากประชุมร่วมกันแล้วจะประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบและเตรียมตัวต่อไป เนื่องจาก รัศมีระเบิดดังกล่าวค่อนข้างรุนแรงอยู่ที่ประมาณ 2 กม. ซึ่งถือว่าจุดดังกล่าวอยู่ในเขตชุมชนที่มีทั้งค่ายทหาร ตลาดกลางเมือง วัด สถานอนุบาล โรงเรียน บ้านพักข้าราชการและผู้ว่าราชการจังหวัด ตลอดจนที่อยู่อาศัยของประชาชน

นายวรวุฒิกล่าวอีกว่าสัปดาห์หน้าจะมีการประชุมสรุปแนวทางในวันที่ 14 มิ.ย.นี้ จึงเป็นครั้งแรกในประเทศที่หน่วยเก็บกู้ระเบิด (EOD) ของสามเหล่าทัพไทยคือ กองทัพบก กองทัพเรือและกองทัพอากาศ เข้ามาร่วมกันศึกษาแนวทางเก็บกู้ระเบิดดังกล่าว นอกจากนี้ ประเทศไทยจะเชิญนักเก็บกู้ระเบิดที่เก่งสุดในโลกจากประเทศเยอรมัน มาเข้าร่วมทีมเก็บกู้ในครั้งนี้ เนื่องจากเป็นระเบิดที่ต้องใช้เทคนิคสูงในการกู้เพราะอยู่ใต้น้ำด้วย

นายวรวุฒิกล่าวอีกว่าแนวทางการกู้ตอนนี้มี 8 วิธี สำหรับเทคนิคที่เหมาะสมในตอนนี้คือการทำลายสภาพระเบิดใต้ลำน้ำเลย โดยไม่มีการนำขึ้นมาบนบก คาดว่าจะเป็นรูปแบบ water jet ใช้แรงดันน้ำความแรงและความเร็วสูง ตัดตัวระเบิดจากใต้น้ำแยกส่วนหัวและส่วนท้ายที่มีสารเคมีออกจากกัน อย่างไรก็ตามระเบิดเป็นโมเดลที่จุดด้วยเคมี กล่าวคือระเบิดจะทำปฏิกริยาเมื่อสารเคมีภายในไหลมารวมกันได้ โดยสารเคมีดังกล่าวจะคงสภาพตลอดไปอยู่ในระเบิด นับว่าเป็นการออกแบบระเบิดเทคนิคขั้นสูง ดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากในการเก็บกู้ เนื่องจากหากตัวระเบิดได้มีการขยับหรือเคลื่อนที่แล้วสารเคมีภายในทำปฏิกริยาก็จะระเบิดทันที และจะเป็นการระเบิดทั้ง 7 ลูก

รายงานข่าวกระทรวงคมนาคมระบุว่า เบื้องต้นคาดว่าน่าจะเป็นระเบิดจีพีบอมบ์ หรือระเบิดAN-M65 ขนาดน้ำหนัก 1,000 ปอนด์ หรือ กว่า400กก.

[Wisarut]

บัวใหญ่ พ่ะน่ะLike Page
June 6 at 3:03 PM ·
ฟังให้จบค่อยแสดงความเห็น​ คำชี้แจงจากโครงการเมื่อ​ 7​ ม.ค.​ 62​ เหตุผลว่าทำไมทางลอดไม่มีทางเท้า​ รั้วมาทีหลัง​ เพิ่มมาโดยไม่ได้คิดเผื่อว่ารั้วจะทำให้คนต้องลงไปเดินในทางลอด​

สรุปเขาชี้แจงว่า​... มันคือจุดอ่อนของโครงการ​ (จุดอ่อนที่ชาวบ้าน​รอการแก้ไขอยู่นะ)​ ความผิดพลาดของวิศวกรผู้ออกแบบ​ คุณเพิ่มอะไรมา​ กระทบกับส่วนไหน​ที่สร้างมาก่อน ตามแก้ไขให้จบด้วย
https://www.facebook.com/TourBuayai/videos/417201882435602/

[Mongwin]

เปิดใช้สะพานกลับรถ สถานีรถไฟบางบำหรุ แก้จุดตัดรถไฟ วันที่ 10 มิถุนายน 2562 ข่าวค่ำ #NBT2HD
NewsNBT THAILAND
Published on Jun 10, 2019


https://www.youtube.com/watch?v=nnEe1E5DMIY

[Wisarut]

จ่อปิดเมืองราชบุรี-อพยพคน กู้ระเบิด7ลูกแนวรถไฟทางคู่
09 มิถุนายน พ.ศ. 2562

รฟท.เล็งปิดเมือง-อพยพคน ประกาศพื้นที่เขตอันตราย กู้ระเบิดกลางเมืองราชบุรี 7 ลูกสมัยสงครามโลก น้ำหนักรวม 2,800 ก.ก. ดึงมือกู้ระเดบิดอันดับ 1 ของโลกช่วย พร้อมสั่งปรับแบบสะพานทางรถไฟช่วงข้ามแม่น้ำ เลี่ยงจุดระเบิด เชื่อทางคู่เฟส 2 ช่วงชุมพร-สงขลา จะพบระเบิดอีกหลายจุดนายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สินรักษาการผู้การว่ารถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) เปิดเผยว่าจากการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายใต้ระยะที่ 1 ช่วงนครปฐม-ชุมพรนั้นมีการสำรวจพบระเบิดสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 อายุมากกว่า 70 ปีหลายจุด และรฟท.เชื่อมั่นว่าจะค้นพบอีกหลายจุดในการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายใต้ระยะที่ 2 ช่วง ชุมพร-สุราษฎร์ธานี-สงขลา โดยเฉพาะในพื้นที่ตามแม่น้ำสำคัญหลายแห่ง ซึ่งเป็นการทิ้งระเบิดตอนที่กองทัพญี่ปุ่นล่าถอยในยุคสงครามโลก

ที่ผ่านมาการก่อสร้างรถไฟทางคู่ระยะที่ 1 รฟท.ได้สำรวจพบระเบิดอยู่ 2 จุดคือ ใต้แม่น้ำกลางตัวเมืองราชบุรี จำนวน 7 ลูก และใต้ดิน บริเวณ สถานีเขาเต่า-วังก์พง อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ จำนวน 1 ลูกสำหรับความคืบหน้าในการเก็บกู้ระเบิดทั้ง 7 ลูก ที่พบในแนวก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงนครปฐม-ชุมพรในพื้นที่ จ.ราชบุรีนั้น จะต้องทำไปพร้อมกันทีเดียว ดังนั้นจึงต้องออกประกาศตามกฎหมายการปกครอง ด้วยคำสั่งปิดพื้นที่กลางใจเมืองราชบุรี เป็นพื้นที่อันตรายควบคุมความปลอดภัย ควบคู่ไปกับการเคลื่อนย้ายประชาชนออกจากพื้นที่รัศมีแรงระเบิด หลังจากประชุมร่วมกันแล้วจะประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบและเตรียมตัวต่อไป “รัศมีระเบิดดังกล่าวค่อนข้างรุนแรงอยู่ที่ประมาณ 2 กิโลเมตร ซึ่งถือว่าจุดดังกล่าวอยู่ในเขตชุมชนที่มีทั้งค่ายทหาร ตลาดกลางเมือง วัด โรงเรียนต่างๆ บ้านพักข้าราชการและผู้ว่าราชการจังหวัด ตลอดจนที่อยู่อาศัยของประชาชนหลายหลังคาเรือน”

วันที่ 14 มิ.ย.จะมีการประชุมสรุปแนวทางครั้งแรก โดยมีหน่วยเก็บกู้ระเบิด (EOD) ของสามเหล่าทัพไทยคือ กองทัพบก กองทัพเรือและกองทัพอากาศ เข้ามาร่วมกันศึกษาแนวทางเก็บกู้ระเบิดดังกล่าว นอกจากนี้ ประเทศไทยจะเชิญนักเก็บกู้ระเบิดที่เก่งสุดในโลกจากประเทศเยอรมัน มาเข้าร่วมทีมเก็บกู้ในครั้งนี้ เนื่องจากเป็นระเบิดที่ต้องใช้เทคนิคสูงในการกู้เพราะอยู่ใต้น้ำด้วยนายวรวุฒิกล่าวอีกว่าแนวทางการกู้ตอนนี้มี 8 วิธี สำหรับเทคนิคที่เหมาะสมในตอนนี้คือการทำลายสภาพระเบิดใต้ลำน้ำเลย โดยไม่มีการนำขึ้นมาบนบก คาดว่าจะเป็นรูปแบบ water jet ใช้แรงดันน้ำความแรงและความเร็วสูง ตัดตัวระเบิดจากใต้น้ำแยกส่วนหัวและส่วนท้ายที่มีสารเคมีออกจากกัน อย่างไรก็ตามระเบิดเป็นโมเดลที่จุดด้วยเคมี กล่าวคือระเบิดจะทำปฏิกิริยาเมื่อสารเคมีภายในไหลมารวมกันได้ โดยสารเคมีดังกล่าวจะคงสภาพตลอดไปอยู่ในระเบิด นับว่าเป็นการออกแบบระเบิดเทคนิคขั้นสูง ดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากในการเก็บกู้ เนื่องจากหากตัวระเบิดได้มีการขยับหรือเคลื่อนที่แล้วสารเคมีภายในทำปฏิกริยาก็จะระเบิดทันที และจะเป็นการระเบิดทั้ง 7 ลูกดังนั้นด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้ การก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่ช่วงนครปฐม-หัวหินนั้นต้องมีการปรับแบบช่วงที่เป็นสะพานข้ามแม่น้ำในตัวเมืองราชบุรี โดยจะปรับแบบเป็นสะพานแขวนที่ไม่มีเสาตอม่อในลำน้ำ ถือว่าเป็นสะพานแขวนทางรถไฟแห่งแรกที่จะเกิดขึ้นในประเทศ และจะเป็นสัญลักษณ์ใหม่ของเมืองราชบุรี คล้ายกับโมเดลของสะพานแขวนพระราม 9 ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาในกรุงเทพมหานคร ซึ่งสามารถใช้เป็นแลนด์มาร์กทางประวัติศาสตร์ของจังหวัดราชบุรีที่จะเป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวได้อีกด้วยรายงานข่าวของรฟท.รายหนึ่งระบุว่าจากการสอบถามเจ้าหน้าที่ทหารที่มาตรวจสอบระเบิดที่พบในหลายจุดพบว่า เบื้องต้นคาดว่าน่าจะเป็นระเบิดจีพีบอมบ์ หรือระเบิด AN-M65 ขนาดน้ำหนัก 1,000 ปอนด์ หรือกว่า 400 กิโลกรัม

ด้านแหล่งข่าวระดับสูงจากฝ่ายโครงการพิเศษและก่อสร้างรฟท.รายหนึ่งกล่าวว่า ปัจจุบันรฟท.อยู่ระหว่างเร่งดำเนินการก่อสร้างรถไฟทางคู่แนวเส้นทางภาคใต้โดยตามแผนระยะเร่งด่วนในระยะที่ 1 ซึ่งอยู่ระหว่างก่อสร้างรวมระยะทาง 421 กม. ประกอบไปด้วย
ช่วงนครปฐม-หัวหิน 169 กม.
ช่วงหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ 84 กม.
ช่วงประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร 168 กม.

แบ่งออกเป็น 5 สัญญา มูลค่าโครงการรวมกว่า 3.3 หมื่นล้านบาท เริ่มก่อสร้างตั้งแต่ 1 กุมภาพันธ์ 2561 ที่ผ่านมาสำหรับแผนระยะกลาง ระยะที่ 2 รวมระยะทาง 534 กม. ประกอบไปด้วยช่วงชุมพร-สุราษฎร์ธานี 168 กม.และช่วงสุราษฎร์ธานี-ชุมทางหาดใหญ่-สงขลา 321 กม. คณะรัฐมนตรี(ครม.) อนุมัติเมื่อ กพ.62 ช่วงชุมทางหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ 45 กม. ครม.อนุมัติ มี.ค.62 อยู่ระหว่างการเตรียมประกวดราคา ส่วนเส้นทางสายใหม่อยู่ระหว่างการเร่งผลักดันเส้นทางชุมพร-ระนองและเส้นทางสุราษฎร์ธานี-พังงา-ภูเก็ต ในระยะต่อไป

[Mongwin]

บิ๊กรับเหมาไทยผนึก”จีน-เกาหลี-ญี่ปุ่น-ยุโรป”รุมชิงเค้กหมื่นล้านระบบอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคมรถไฟทางคู่3สายใหม่ เคาะราคา23ก.ค.นี้
ประชาชาติธุรกิจ วันที่ 11 June 2019 - 15:33 น.

นายสุจิตต์ เชาว์ศิริกุล รองผู้ว่าการกลุ่มบริหารรถไฟฟ้าการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ร.ฟ.ท.อยู่ระหว่างเปิดขายทีโออาร์ประมูลจัดหาและติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณและโทคมนาคมในโครงการรถไฟทางคู่ 3 เส้นทาง วงเงินรวม 11,650 ล้านบาท เป็นการประกวดราคาแบบนานาชาติ จะเปิดยื่นซองประมูลพร้อมกันวันที่ 23 ก.ค.นี้ คาดว่าจะเซ็นสัญญากับผู้รับเหมาในเดือน ก.ย.นี้ มีกำหนดแล้วเสร็จในปี 2564-2565

ประกอบด้วย
1.สายใต้ช่วงนครปฐม-ชุมพร 169 กม. 59 สถานี วงเงิน 6,250 ล้านบาท
2.สายเหนือช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ 148 กม. 20 สถานี วงเงิน 2,900 ล้านบาท และ
3.ตะวันออกเฉียงเหนือช่วงมาบกะเบา-ชุมทางจิระ 132 กม. 20 สถานี วงเงิน 2,500 ล้านบาท

“การประมูลครั้งนี้จะเปิดให้เจ้าของผลิตภัณฑ์หรือเทคโนโลยีสามารถมายื่นประมูลได้โดยตรง โดยไม่ต้องผ่านตัวกลางเหมือนที่ผ่านมา จะทำให้เกิดการแข่งขันสูง“

นายสุจิตต์กล่าวว่า ขณะนี้มีบริษัทต่างชาติที่เป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์สนใจซื้อทีโออาร์แล้ว เช่น บริษัท ฮิตาชิจากญี่ปุ่น, บริษัท ซีเมนส์จากเยอรมนี, บริษัท ไชน่า เรลเวย์ ซิกเนียริ่ง คอมมูนิเคชั่น (CRSC) จากจีน, บริษัท LSIS จากเกาหลี, บริษัท บอมบาดิเอร์ จากแคนาดา และบริษัท ทาเลสจากฝรั่งเศส จะร่วมกับผู้ประกอบการไทย ซึ่งมีหลายรายที่สนใจ เช่น บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์, บมจ.ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์คอนสตรัคชั่น, บริษัท เอ.เอส.แอสโซซิเอท เอนยิเนียริ่ง (1964), บมจ.ล็อกซเล่ย์, บริษัท เอเอ็มอาร์ และบริษัท กรุงธน เอ็นจิเนียริ่ง

ปัจจุบันรถไฟใช้ระบบอาณัติสัญญาณของ LSIS จากเกาหลีและบอมบาร์ดิเอร์ติดตั้งอยู่แล้ว ล่าสุดมีของซีเมนส์กำลังจะติดตั้งรถไฟทางคู่ช่วงจิระ-ขอนแก่น ส่วนช่วงคลอง 19-แก่งคอยเป็นระบบของ LSIS

[Mongwin]

เปิดวาร์ปรถจักรไฟฟ้าวิ่งทางคู่สายแรกในไทย
อังคารที่ 11 มิถุนายน 2562 เวลา 14.15 น.

ลุ้นทางคู่ หาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ เข้าบอร์ดสภาพัฒน์ไฟเขียว สายแรกนำร่องรถไฟใช้หัวรถจักรระบบไฟฟ้าแทนหัวรถจักรดีเซลเชื่อมรถไฟมาเลเชีย ชี้เซฟค่าใช้จ่ายพลังงานถึง 60% เล็งขยายผลใช้รถไฟระบบไฟฟ้ามากขึ้น

รายงานข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) แจ้งว่า ได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่ของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ ว่าสัปดาห์นี้จะลงพื้นที่ไปดูแนวเส้นทางโครงข่ายทางรถไฟทางคู่ ช่วงหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ ระยะทาง 45 กม. วงเงิน 6,661 ล้านบาท เพื่อศึกษาแนวเส้นทาง ด้วยการนั่งรถไฟจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย มาลงสถานีรถไฟปาดังเบซาร์ เพื่อดูความเป็นได้ของโครงการ ซึ่ง รฟท. เตรียมรายงานแผนข้อมูลโครงการดังกล่าวให้ สศช. รับทราบแผน เพื่อประกอบการพิจารณาเตรียมเสนอแผนทางคู่เส้นดังกล่าวเข้าที่ประชุมคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (กก.สศช.) หรือบอร์ดสภาพัฒน์ ให้ความเห็นชอบ

ทั้งนี้หากบอร์ดเห็นชอบโครงการ ทำให้ทางคู่ช่วงหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ เป็นเส้นทางสายแรกของไทยที่มีการทดลองเดินรถขบวนรถไฟธรรมดาจากหัวรถจักรที่ขับเคลื่อนด้วยระบบดีเซลเปลี่ยนมาเป็นระบบไฟฟ้าแทน เพื่อให้สามารถเดินรถไฟเชื่อมต่อและสอดคล้องกับการเดินรถของประเทศมาเลเซียที่มีรูปแบบหัวรถจักรเป็นระบบไฟฟ้าอยู่แล้ว สำหรับเส้นทางดังกล่าวที่เส้นทางทดลองวิ่งรถไฟที่ใช้ระบบหัวรถจักรไฟฟ้าในการขับเคลื่อนแทนระบบดีเซล เนื่องจากระบบไฟฟ้าจะช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานในการเดินรถได้ถึง 60% เมื่อเทียบกับการขับเคลื่อนรถไฟด้วยระบบดีเซล

หากอนาคตเส้นทางนี้ประสบความสำเร็จ อาจจะขยายนำรถไฟระบบไฟฟ้าไปวิ่งในเส้นทางที่มีระยะทางยาวมากกว่านี้ หรือนำมาบรรจุในแผนก่อสร้างรถไฟทางคู่ระยะต่อไปได้ ขณะเดียวกันฝ่ายช่างกลของ รฟท. อยู่ระหว่างการศึกษาการขับเคลื่อนรถไฟด้วยระบบไฟฟ้าเช่นกัน เพื่อรองรับกับโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ที่มีมากในอนาคตหากสร้างแล้วเสร็จ ทำให้เกิดการใช้จ่ายด้านพลังงานจำนวนมาก ดังนั้นหากเปลี่ยนจากดีเซลมาใช้ไฟฟ้าได้จะเป็นสิ่งที่ดีและประหยัดพลังงาน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โครงการดังกล่าวเป็นทางคู่ขนาดราง 1 เมตร  แนวเส้นทางของโครงการมีจุดเริ่มต้นที่สถานีชุมทางหาดใหญ่ (กม.928+580) ถึง สถานีปาดังเบซาร์ (กม.972+900) เป็นแนวเส้นทางรถไฟเดิม ประกอบด้วย 4 สถานี ได้แก่ สถานีชุมทางหาดใหญ่, สถานีศาลาทุ่งลุง, สถานีคลองแงะ, สถานีปาดังเบซาร์ และ 3 ป้ายหยุดรถ คือ ป้ายหยุดรถบ้านพรุ, ป้ายหยุดรถคลองรำ และป้ายหยุดรถท่าข่อย โดยการออกแบบสถานี มีแนวคิดและหลักการวางผังย่านสถานี จะประยุกต์ให้เหมาะสมกับลักษณะพื้นที่ให้สอดคล้องกับกิจกรรมการเดินทางและการเข้าถึงของพื้นที่ชุมชน พัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชยกรรม พื้นที่เพื่อการพัฒนาในอนาคต รวมถึงการเชื่อมต่อกับระบบขนส่งในรูปแบบอื่นๆ ด้วย

[Wisarut]

คนร้ายขโมยอุปกรณ์ไฟฟ้าในอุโมงค์ทางรอดรถไฟทางคู่ จนเกิดน้ำท่วมขัง
วันจันทร์ที่ 10 มิถุนายน 2562 เวลา 17:13 น.

...คนร้ายขโมยอุปกรณ์ระบบไฟฟ้า ที่ติดตั้งอยู่ในอุโมงค์ทางลอดรถไฟทางคู่เป็นประจำ จนทำให้บางจุดไม่มีไฟฟ้าที่จะสูบน้ำออกจากอุโมงค์ เกิดน้ำท่วมขัง ชาวบ้านเดือดร้อนสัญจรลำบาก

ชาวบ้านที่สัญจรบริเวณถนนสายบ้านหนองบัวดีหมี-บ้านหนองแวง ตำบลท่าพระ อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ต้องลุยน้ำที่ท่วมในอุโมงค์ทางลอดรถไฟทางคู่ หลังจากที่มีฝนตกลงมา แต่ไม่สามารถระบายน้ำออกจากอุโมงค์ทางลอดได้ เนื่องจากมีคนร้ายเข้ามาขโมยระบบควบคุมปั๊มน้ำ ในการสูบน้ำออกจากอุโมงค์ จึงทำให้เมื่อฝนตกลงมา ทำให้เกิดน้ำท่วมขังทุกครั้ง โดยทางผู้รับเหมาก่อสร้างได้นำป้ายมาติดไว้ เพื่อให้ชาวบ้านได้ทราบว่ามีการขโมยสายไฟฟ้า จึงทำให้น้ำท่วมในอุโมงค์

ชาวบ้านที่สัญจรผ่านเส้นทางนี้ประจำ บอกว่า เมื่อกลางเดือนที่ผ่านมา ได้เกิดฝนตกหนักจนทำให้น้ำท่วมอุโมงค์ทางลอดรถไฟ จนรถไม่สัญจรผ่านไปได้ จนกระทั่งมาทราบภายหลังว่าอุปกรณ์ที่ติดตั้งระบบสูบน้ำได้ถูกขโมยไป

นอกจากนี้ คนร้ายยังได้ขโมยตัดสายไฟฟ้าส่องสว่างของอุโมงค์ไปอีกด้วย สร้างความเดือดร้อนกับชาวบ้านเป็นอย่างมาก เพราะจะต้องขับรถไปไกลกว่า 2 กิโลเมตร เพื่อที่จะขับรถข้ามสะพานข้ามทางรถไฟแทน จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ช่วยกวดขัน และติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว เนื่องจากสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนเป็นอย่างมาก