ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์

puggi · 3rd Class Pass Joined: 04/07/2006 Posts: 119

http://www.matichon.co.th/prachachat/prachachat_detail.php?s_tag=02rea01131149&day=2006/11/13

ขอ นำเฉพาะส่วนที่กล่าวถึง การรถไฟ อย่างเดียวครับ

Wisarut · Posted: 14/12/2006 10:57 am Post subject:

หม่อมอุ๋ยจี้การรถไฟล้างหนี้ +เร่งดันแผนปรับโครงสร้างเข้าครม./ศิวะลั่นบริษัทลูกพัฒนาที่ดินเกิดแน่ใน 1 ปี

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 2174 14 ธ.ค. - 16 ธ.ค. 2549

หม่อยอุ๋ย เปิดทางการรถไฟฯ ล้างหนี้ เร่งให้คลอดแผนโดยด่วน ด้านการรถไฟเด้งรับลูก ชงเรื่องเข้าบอร์ด 18 ธ.ค.นี้ คาดไม่เกินม.ค. 50 จะเสนอเข้าครม.ขอให้ไฟเขียวแผน พร้อมลงมือทำจริงได้แน่ แต่วงในยังหวั่นกระแสต่อต้านแผนตั้งบริษัทลูกจากสหภาพการรถไฟฯ ด้าน "ศิวะ" ประธานบอร์ด ลั่นจะเร่งแผนจัดตั้งบริษัทลูกดูแลที่ดิน ให้จบใน 1 ปี

แหล่งข่าวระดับสูงจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ขณะนี้ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้เร่งรัดให้การรถไฟฯ พิจารณาในเรื่องของแผนการปรับโครงสร้างองค์กรให้แล้วเสร็จโดยเร็ว โดยในวันที่ 18 ธ.ค.49 นี้ จะประชุมคณะกรรมการบริหาร (บอร์ด) พิจารณาในรายละเอียดของแผนงานด้วย จากนั้นจะเสนอต่อกระทรวงการคลัง เพื่อนำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ขอความเห็นชอบต่อไป โดยคาดว่าจะเสนอเรื่องเข้าครม.ได้อย่างช้าไม่เดินเดือน มกราคม 2550 จากนั้นการรถไฟฯ ก็จะเริ่มดำเนินการตามแผนในทันที

สำหรับรายละเอียดแผนการปรับโครงสร้างองค์กรนั้น ยังคงเป็นไปตามผลการศึกษาที่บริษัท เทิร์นอะราวด์ จำกัด จัดทำไว้ คือแผนการจัดตั้งบริษัทลูก 3 บริษัท โดย

1 ) บริษัทแรกที่จะดำเนินการจัดตั้งคือ บริษัทบริหารสินทรัพย์ รฟท. จำกัด ซึ่งจะทำหน้าที่ในการบริหารจัดการที่ดินที่มีศักยภาพสูงในการพัฒนา ( ดูรายละเอียดตามตารางประกอบข่าว ) ทั้งที่มีผู้เช่าแล้ว อาทิ ที่ดินย่านพหลโยธิน ที่กลุ่มเซ็นทรัลเช่า หรือที่ดินบริเวณจตุจักร รวมถึงที่ดินที่ยังไม่ได้พัฒนา แต่มีศักยภาพในการพัฒนาในอนาคตด้วย เพื่อสร้างรายได้ อาทิ ที่ดินบริเวณย่านสถานีธนบุรี ที่ดินย่านบางซื่อ-คลองตัน ที่ดินย่านชุมทางหาดใหญ่ เป็นต้น

2 ) นอกจากนี้ ยังจัดตั้งบริษัทขนส่งผู้โดยสารทางราง จำกัด และ

3 ) บริษัทขนส่งสินค้าทางรางจำกัด

ซึ่งจะพิจารณาปรับเพิ่มค่าโดยสาร เส้นทางการเดินรถ การขนส่งสินค้า และการให้บริการให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อนำรายได้มาใช้ในการดำเนินกิจการของการรถไฟฯ ในอนาคต

ส่วนเรื่องหนี้สินที่มียอดรวมถึง 43,000 ล้านบาทนั้น ทางกระทรวงการคลังก็จะช่วยรับภาระในส่วนของหนี้สินที่เกิดจากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน หรือราง ทั้งในส่วนที่ผ่านมา และในอนาคต ประกอบกับการรถไฟฯ จะโอนสิทธิในสัญญาเช่าพื้นที่ของหน่วยงานราชการที่เช่าที่ดินเพื่อใช้เป็นที่ตั้งสำนักงานในเขตกรุงเทพมหานครอีก 13 สัญญา มูลค่ารวม 27,000 ล้านบาท ให้กระทรวงการคลังรับไปบริหารจัดการเพื่อจัดเก็บรายได้ จนกว่าจะหมดอายุสัญญาเช่าด้วย

แหล่งข่าวระบุอีกว่า ในส่วนของรายละเอียดแผนงานต่างๆ ไม่ใช่เรื่องที่ต้องกังวล และคิดว่าจะไม่มีการปรับเปลี่ยนอะไรอีกแล้ว เนื่องจากได้มีการเจรจากับกระทรวงการคลังเป็นที่เรียบร้อย และลงตัวดีแล้ว แต่สิ่งที่จะต้องเกรงว่าจะเป็นอุปสรรค คือ การไม่ยอมรับแผนการปรับโครงสร้างจากกลุ่มสหภาพแรงงานของการรถไฟฯ เอง ที่ขณะนี้เข้าใจผิดในส่วนที่การรถไฟฯ จะโอนสัญญาเช่าที่ดินของหน่วยงานราชการให้กระทรวงการคลัง ว่าเป็นการโอนสิทธิขาด

ทั้งที่ในความเป็นจริง เป็นการโอนให้กระทรวงการคลัง บริหารจัดเก็บรายได้จนกว่าจะหมดสัญญาเช่า เพื่อนำรายได้เข้ากระทรวงการคลังเป็นการแลกหนี้ เมื่อหมดหนี้หรือครบตามสัญญาแล้ว สิทธิก็จะกลับคืนมาเป็นของการรถไฟเช่นเดิม ซึ่งตรงนี้หากฝ่ายผู้บริหารไม่ชี้แจงให้ชัดเจน จะทำให้เกิดความเข้าใจไม่ตรงกัน และจะมีปัญหาใหญ่ตามมาได้ แหล่งข่าวรายเดิมกล่าว

นายศิวะ แสงมณี ประธานกรรมการ ( บอร์ด ) การรถไฟแห่งประเทศไทย ( ร.ฟ.ท. ) กล่าวว่า ในวันที่ 18 ธ.ค.นี้ บอร์ดการรถไฟฯ จะพิจารณา แผนการปรับโครงสร้างองค์กรการรถไฟ เพื่อเตรียมเสนอขอความเห็นชอบดำเนินการจาก ครม. โดยแผนงาน จะเป็นไปตามที่บริษัทเทิร์นอะราวด์ ได้ทำเอาไว้ ซึ่งในการประชุมบอร์ดก็จะพิจารณาในกรอบการดำเนินงานให้รอบคอยแล้วเสนอให้กระทรวงการคลัง เพื่อส่งเข้าสู่ที่ประชุมครม. ขอความเห็นชอบต่อไป

ทั้งนี้ จะเร่งรัดให้มีการจัดตั้งบริษัทลูกในส่วนของการบริหารสินทรัพย์หรือที่ดินนี้ให้เกิดขึ้นภายใน 1 ปี ส่วนบุคลากรที่จะมาทำงานนั้น คงจะมีผสมผสานทั้งการจ้างผู้เชี่ยวชาญ และเอกชนมาทำงาน เพราะเห็นว่ามีความเชี่ยวชาญกว่า ส่วนแผนการพัฒนาที่ดินสร้างรายได้นั้น คงต้องพิจารณาในรายละเอียดอีกครั้งว่าจะดำเนินการอย่างไร

แต่เบื้องต้นมีแนวคิดว่า หากที่ใดเป็นแปลงใหญ่ ก็จะเปิดประมูลทั้งแปลงในคราวเดียว จะไม่ซอยย่อยประมูล เพราะจะทำให้ผลตอบแทนไม่คุ้มค่า ส่วนรูปแบบก็จะดูตามแผนการพัฒนาเดิมที่วางไว้ว่าเหมาะสมหรือไม่ หากดีแล้วก็ทำต่อเลย แต่ถ้าไม่ดีก็คงจะต้องปรับให้เหมาะสม

ส่วนนโยบายเร่งด่วนอีกเรื่องที่จะทำ คือ เรื่องการจัดซื้อหัวรถจักรใหม่ เพื่อมาใช้ทดแทนของเก่าที่ใช้งานมานานแล้ว โดยเดิม ทีมีแผนจะจัดซื้อหัวรถจักรเป็นจำนวน 20 หัว มูลค่าประมาณ 2,000 ล้านบาท ซึ่งได้มีการดำเนินการจัดซื้อด้วยวิธีการบาเตอร์เทรด แต่มีความล่าช้า ทำได้เพียงแค่ 7 หัวเท่านั้น จึงมีแนวคิดว่าส่วนทีเหลืออีก 13 หัว ราคาหัวละประมาณ 100 ล้านบาทนั้น จะใช้วิธีการเปิดประมูลเป็นการทั่วไป เพื่อที่จะได้จัดซื้อหัวรถจักรใหม่มาใช้งานได้โดยเร็ว

black_express · Posted: 14/12/2006 1:39 pm Post subject:

ดูแล้วเข้าที แต่ชื่อบริษัท เชย มากๆ Sad

Wisarut · Posted: 14/12/2006 6:22 pm Post subject:

ขู่ล้มสรรหาผู้ว่าการรถไฟฯ ร.ส.พ.ฮึ่มฟ้องศาลปกครอง
ไทยโพสต์ 14 ธันวาคม 2549 กองบรรณาธิการ

ส่อล้มสรรหาผู้ว่าการ ร.ฟ.ท. แฉขั้นตอนไม่โปร่งใส บอร์ดเตรียมหารืออีกรอบปลาย ธ.ค.นี้ สหภาพฯ ร.ส.พ. ฉุน รมว.คมนาคมบ่ายเบี่ยง ยัน 14 ธ.ค.นี้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองสูงสุด กรณียุบ ร.ส.พ.ไม่เป็นธรรม

แหล่งข่าวการรถไฟแห่งประเทศไทย ( ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า มีแนวโน้มที่จะล้มกระบวนการสรรหาผู้ว่าการ ร.ฟ.ท. ที่คณะกรรมการสรรหา มีมติเลือก นายยุทธนา ทัพเจริญ รองผู้ว่าการ ร.ฟ.ท. ด้านการพัฒนาและวางแผน เนื่องจากกระบวนการสรรหาบางขั้นตอนไม่โปร่งใส เพราะกรรมการสรรหา 2 คนไม่เห็นด้วย โดยไม่ลงลายมือชื่อรับรอง

นายศิวะ แสงมณี ประธานคณะกรรมการ ( บอร์ด ) ร.ฟ.ท. กล่าวว่า การสรรหาผู้ว่าการ ร.ฟ.ท. อยู่ระหว่างพิจารณากระบวนการสรรหา ทั้งเรื่องการกำหนดคุณสมบัติ วิสัยทัศน์ผู้สมัคร และกระบวนการตามกฎหมาย โดยที่ประชุมบอร์ดปลายเดือน ธ.ค. นี้ จะมีการหารืออีกครั้ง แต่ไม่ยืนยันว่าจะได้ข้อสรุป เนื่องจากคณะกรรมการยังไม่ทราบประวัติผู้สมัครดีพอ จำเป็นต้องใช้เวลาในการพิจารณา เพราะดำรงตำแหน่งผู้ว่าการ ร.ฟ.ท. มีวาระ 4 ปี หากตั้งบุคคลที่ไม่มีความเหมาะสมหรือไม่มีความสามารถเพียงพอ จะทำให้เกิดปัญหาในการบริหารงานได้

เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ องค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ ( ร.ส.พ.) นำโดยนายอภิเดช นามมนตรี ประธานสหภาพฯ ขอพบ พล.ร.อ.ธีระ ห้าวเจริญ รมว.คมนาคม เพื่อรับทราบนโยบาย และต้องการให้รัฐบาลฟื้นฟูกิจการ ร.ส.พ. อีกครั้ง โดย พล.ร.อ.ธีระ มอบหมายให้นางสินีนาฎ โสดสถิตย์ เลขานุการ รมว.คมนาคม และ นายประสงค์ ตันมณีวัฒนา ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม ในฐานะอดีตประธานบอร์ด ร.ส.พ. เข้าเจรจาแทน

นายอภิเดชกล่าวว่า ได้ทำหนังสือถึง รมว.คมนาคม 2 ครั้ง แต่ไม่ได้รับคำตอบ เพราะการยุบ ร.ส.พ. ของรัฐบาลชุดที่แล้ว ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.2549 ไม่เป็นธรรม และขณะนี้ กระบวนการยุบ ร.ส.พ.ยังไม่สิ้นสุด เนื่องจากกฤษฎีการะบุว่า จะสิ้นสุดเมื่อการชำระบัญชีเสร็จสิ้น ขณะนี้ยังมีพนักงานจำนวนมากไม่ได้รับการชดเชย ดังนั้น ในวันที่ 14 ธ.ค.สหภาพฯ ร.ส.พ. จะยื่นฟ้องต่อศาลปกครองสูงสุด กรณีการยุบเลิก ร.ส.พ. ที่ไม่เป็นธรรมด้วย.

black_express · Posted: 15/12/2006 10:35 am Post subject:

คนละเรื่องเดียวกัน สำหรับกระทรวงคมนาคมอีกแล้ว Very Happy

nathapong · Posted: 15/12/2006 6:15 pm Post subject:

อันนี้จากมติครมเมื่อ 12 ธค 2549 วาระที่ 5
หนังสือพิมพ์ ไม่เอามาเล่นข่าว ตามเคย

ที่มา http://www.thaigov.go.th/th/home/home.aspx

5.เรื่อง ร่างพระราชบัญญัติเวนคืนอสังหาริมทรัพย์
เพื่อสร้างกิจการรถไฟฟ้าโครงการรถไฟฟ้ามหานคร
สายเฉลิมรัชมงคล ในท้องที่เขตบางซื่อ เขตจตุจักร เขตห้วยขวาง เขตดินแดง
เขตราชเทวี เขตวัฒนา เขตคลองเตย เขตปทุมวัน และเขตสาทร กรุงเทพมหานคร พ.ศ.....

คณะรัฐมนตรีเห็นชอบในหลักการร่างพระราชบัญญัติเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ เพื่อสร้างกิจการ
รถไฟฟ้าโครงการรถไฟฟ้ามหานครสายเฉลิมรัชมงคล ในท้องที่เขตบางซื่อ เขตจตุจักร เขตห้วยขวาง
เขตดินแดง เขตราชเทวี เขตวัฒนา เขตคลองเตย เขตปทุมวัน และเขตสาทร กรุงเทพมหานคร พ.ศ.....
ที่ได้ปรับปรุงแก้ไข ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ตรวจพิจารณา แล้วให้นำเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาต่อไป
ร่างพระราชบัญญัติเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ฯ ดังกล่าว มีสาระสำคัญเป็นการดำเนิน
การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์เพื่อสร้างกิจการรถไฟฟ้า โครงการรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล
ในท้องที่เขตบางซื่อ เขตจตุจักร เขตห้วยขวาง เขตดินแดง เขตราชเทวี เขตวัฒนา เขตคลองเตย
เขตปทุมวัน และเขตสาทร กรุงเทพมหานคร

Wisarut · Posted: 18/12/2006 8:04 pm Post subject:

ป๋านัฐ, พี่หมอ, คุณบอม, คุณบอย คุณก้อง, คุณตั้ม, เห็นข่าวนี้จะว่าไงดีครับ

บอร์ดรฟท.ไฟเขียวปรับโครงสร้างโอนหนี้ 37,000 ล้านให้คลัง
กรุงเทพ ธุรกิจ 18 ธันวาคม 2549 19:22 น.

นายอารักษ์ ราษฏร์บริหาร หัวหน้าผู้บริหารด้านการเงิน การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ว่า ที่ประชุมมีมติอนุมัติแผนปรับโครงสร้างกิจการ รฟท. ตามแนวทางที่กระทรวงคมนาคมและกระทรวงการคลังได้เคยศึกษาร่วมกัน โดยเบื้องต้นได้กำหนดกรอบระยะเวลาโครงสร้างกิจการทั้งในระยะสั้นและระยะยาว โดยเริ่มจากการโอนหนี้ของ รฟท.ที่มีอยู่เดิม 37,000 ล้านบาท ไปให้กระทรวงการคลัง โดยวงเงินดังกล่าวจะครอบคลุมถึงการที่ รฟท.จะโอนที่ดิน ซึ่งเป็นทรัพย์สิน ซึ่งหน่วยงานราชการเช่าในปัจจุบันไปให้แก่กรมธนารักษ์ด้วย ซึ่งภายหลังการโอนหนี้จะทำให้ รฟท.มีภาระหนี้สะสมเหลือเพียง 10,000 ล้านบาท โดยจะใช้แนวทางการบริหารทรัพย์สินที่เหลืออยู่เพื่อชดเชยผลขาดทุนในอนาคต

การโอนหนี้ของรฟท.ที่มีอยู่เดิม37,000 ล้านบาทไปให้กระทรวงการคลังโดยวงเงินดังกล่าวจะครอบคลุมถึงการที่รฟท.จะโอนที่ดินซึ่งเป็นทรัพย์สินซึ่งหน่วยงานราชการเช่าในปัจจุบันไปให้แก่กรมธนารักษ์ด้วยซึ่งภายหลังการโอนหนี้จะทำให้รฟท.มีภาระหนี้สะสมเหลือเพียง10,000 ล้านบาทโดยจะใช้แนวทางการบริหารทรัพย์สินที่เหลืออยู่เพื่อชดเชยผลขาดทุนในอนาคต

"วงเงิน37,000 ล้านบาทแบ่งเป็นเงินกู้ในโครงสร้างพื้นฐานเดิม15,000 ล้านบาทเงินชดเชยผลขาดทุนล่าช้า13,000 ล้านบาทซึ่งรัฐพร้อมรับภาระให้เพราะเป็นการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานส่วนการโอนชำระหนี้ที่ดินที่ราชการเช่าอยู่คิดเป็นมูลค่าประมาณ4,000 ล้านบาทที่เหลือ5,000 ล้านบาทเป็นหนี้ค้างจ่ายอื่นๆ" นายอารักษ์กล่าว

pattharachai · Posted: 18/12/2006 8:42 pm Post subject:

เข้าตำรา ยื่นหมูยื่นแมวหรือเปล่าครับ

ทำอย่างนี้ รฟท. หนี้ลดลงไป แต่ก็ยังไม่หมด แถมที่ดินมากมายหายวับไปด้วยอะสิ

puggi · 3rd Class Pass Joined: 04/07/2006 Posts: 119

น่าจะรับโอนหนี้ให้หมดไปเลยนะครับ
แล้วก็ เพิ่มเงินลงทุนให้ด้วยอีกสักก้อน

ขนาด กรมทางหลวง ได้งบซ่อมถนน ปีละ 14000ล้านบาทเลย มากกว่างบ รฟท ทั้งปีอีก

Wisarut · Posted: 18/12/2006 10:14 pm Post subject:

และเรื่องที่ท่านรองเลขาฯสภาพัฒน์ ท่านอยากจะได้ ทางคู่ ต่อไปนี้ จะว่าไงหละเนี่ย

1. แก่งคอย - คลอง 19 - ฉะเชิงเทรา - ศรีราชา - แหลมฉบัง ซึ่งทางช่วงนี้ของตาย เพราะใครๆก็อยากได้ทั้วนั้น แต่ต้องอดใจไว้หน่อย

2. แก่งคอย - ลำนารายณ์ - บัวใหญ่ ก็ไม่เลว ทางช่วงนี้จะต้องรับการเอาราง 100 ปอนด์ หมอนคอนกรีตมาเปลี่ยนอยู่แล้วนี่

3. บัวใหญ่ - ขอนแก่น ทางช่วงนั้นน่าคิดเพราะหอการค้าขอนแก่นอยากได้ ICD ลาดกระบังที่ท่าพระ จังเลย แค่ลานคอนเทนเนอร์แบบที่ กุดจิก บ้านเกาะ ถนนจิระ และนครราชสีมา นั้นดูจะเล็กไป ไม่ใหญ่โตพอแก่ความต้องการ ของหอการค้า ...

ที่ตั้งข้อสงสัยเช่นนี้ก็เพราะผมไม่แน่ใจว่าน้ำตาลมิตรผลที่ภาคอีสาน จะสามารถบีบคั้นธรรมชาติสามารถผลิตน้ำตาลได้ตลอดปี จนพอขนลงตู้คอนเทนเนอร์ไปแหลมฉบัง เพื่อขายเมืองนอกทุกวัน เอาดอลลาร์ มาเยอะๆ แม้ตอนที่ผมไปตะลุยอีสานจะเห็นการปลูกอ้อย ลงหัวมันสำปะหลัง และ ป่ายูคาลิปตัส ตามทางระหว่าง โคราช ไป อุบล ก็ตามที

ยิ่งตอนนี้ รถจักร และ รถ บขต. สำหรับขนตู้คอนเทนเนอร์ กำลังขาดแคลน อย่างหนัก ถ้าไม่ฟื้นฟู สายการประกอบ บขต. และ ริเริ่มสร้างสายการประกอบ รถจักร เห็นที่จะไม่มีทางลดต้นทุนสินค้าสู้ค่าเงินบาทที่ แข็งเป็นหินแบบทุกวันนี้ได้แน่