Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai.Com

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311296
ทั่วไป:13273278
ทั้งหมด:13584574
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - รวมข่าวรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคตตามนโยบายรัฐบาล
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

รวมข่าวรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคตตามนโยบายรัฐบาล
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 117, 118, 119 ... 278, 279, 280  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> โครงการระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคต
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42751
Location: NECTEC

PostPosted: 17/08/2015 12:15 pm    Post subject: Reply with quote

เสนอออกพรฎ.เวนคืนที่ สร้างสายสีเหลือง-สีชมพู
เดลินิวส์
วันจันทร์ที่ 17 สิงหาคม 2558 เวลา 10:20 น.
รฟม.เสนอ "ครม." ออกพรฎ.เวนคืนที่ดิน เพื่อสร้างรถไฟฟ้า 2 สายคือ สายสีเหลืองและสายสีชมพู ชงเป็น "โมโนเรล" ให้สัมปทานเอกชน 100%

นายพีระยุทธ สิงห์พัฒนากุล ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ รฟม.ได้เสนอการออกพระราชกฤษฎีกาเวนคืน (พ.ร.ฎ.) สำหรับการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ลาดพร้าว-สำโรง ระยะทาง 30 กม. และสายสีชมพู แคราย-มีนบุรี ระยะทาง 30.4 กม. โดยขณะนี้ รฟม.ได้ส่งเรื่องไปยังกระทรวงคมนาคม ให้ยื่นเรื่องไปยังคณะรัฐมนตรี (ครม.) ขอออกพระราชกฤษฎีกาเวนคืนที่ดิน เพื่อเตรียมการก่อสร้าง โดยการยื่นขออนุมมัติออกพรฎ.เวนคืนที่ดินนั้น จะต้องดำเนินการก่อนที่จะมีการขออนุมัติก่อสร้างโครงการ เนื่องจากรถไฟฟ้าทั้ง 2 เส้นทาง รฟม.ได้กำหนดรูปแบบให้เป็นรถไฟฟ้ารางเดียว หรือ "โมโนเรล" ซึ่งตามขั้นตอนนั้น จะต้องดำเนินการศึกษาด้านเทคนิค ให้เรียบร้อยเสียก่อน เพราะทั้ง 2 เส้นทาง ทางคณะกรรมการบริหารกิจการ(บอร์ด)รฟม. ได้มีแนวทางให้เอกชนเข้ารับสัมปทาน 100 เปอร์เซ็นต์

"ดังนั้นจึงจำเป็นต้องสรุปรูปแบบ การดำเนินโครงการก่อน จึงจะสามารถเสนอ ครม.ให้อนุมัติก่อสร้างได้ อย่างไรก็ตาม ในขั้นตอนการเสนอ ครม.นั้น รฟม.จะพยายามเร่งรัด เสนอเข้าครม.ให้ทันภายในปี 2558 นี้ เพื่อให้เกิดความรวดเร็วในการทำงาน"นายพีระยุทธกล่าว..“
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44640
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 19/08/2015 7:12 pm    Post subject: Reply with quote

เดินหน้ารถไฟฟ้าเพื่อเอกชนจากบีทีเอสกรุงธนฯ-คลองสาน
เดลินิวส์ วันพุธที่ 19 สิงหาคม 2558 เวลา 10:00 น.

เดินหน้ารถไฟฟ้าเพื่อเอกชนจากบีทีเอสกรุงธนฯ-คลองสาน สำนักการจราจรและขนส่ง เดินหน้ารถไฟฟ้าเพื่อเอกชน จากสถานีบีทีเอสกรุงธนบุรี-เขตคลองสาน กทม.ยันไม่ผิดกฎหมาย หลวงไม่ต้องจ่ายสักบาทเอกชนลงทุนให้ฟรี

รายงานข่าวแจ้งว่าในวันที่ 28ส.ค.2558สำนักการจราจรและขนส่ง(สจส.)กรุงเทพมหานครได้กำหนดจัดการประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชนครั้งที่1โครงการศึกษาความเหมาะสมจัดทำรูปแบบและจัดเตรียมเอกสารประกวดราคาโครงการระบบขนส่งมวลชนขนาดรองสายสีทอง(สถานีรถไฟฟ้าธนบุรี-เขตคลองสาน-ประชาธิปก)ที่ห้องธนบุรีบอลรูม โรงแรมมิลเลนเนียม ฮิลตันถนนเจริญนคร

นายสมชาย ตกสิยานันท์ ผู้อำนวยการกองการขนส่งสจส.กทม.เปิดเผยว่าโครงการรถไฟฟ้าสายดังกล่าวเกิดขึ้นจากที่ภาคเอกชนได้เสนอเรื่องที่จะดำเนินก่อสร้างโครงการระบบขนส่งมวลชนเป็นรูปแบบโมโนเรลขนาดเล็กจากพื้นที่ของเอกชนในโครงการไอคอนสยามระยะทางประมาณ 1กิโลเมตรเศษโดยก่อสร้างบนถนนเจริญนครจากรถไฟฟ้าบีทีเอสบริเวณสถานีกรุงธนบุรีผ่านสถานีไอคอนสยามและสิ้นสุดที่สำนักงานเขตคลองสานซึ่งได้เข้าหารือกับทางกระทรวงคมนาคมเรียบร้อยแล้วโดยโครงการดังกล่าวทางเอกชนจะลงทุนค่าก่อสร้างและค่าจัดซื้อขบวนรถทั้งหมดและมอบให้กทม.เป็นผู้บริหารจัดการรวมทั้งการจัดเก็บค่าโดยสารซึ่งถือว่าเป็นรูปแบบการลงทุนระบบขนส่งมวลชนที่รัฐไม่ต้องออกค่าก่อสร้างโดยจะมีเพียงค่าบริหารจัดการเท่านั้นอย่างไรก็ตามการอนุมัติและก่อสร้างจะต้องเป็นไปตามเงื่อนไขข้อกำหนดของทางราชการซึ่งการเพิ่มโครงข่ายเส้นทางรถไฟฟ้าจะต้องผ่านการเห็นชอบจากคณะกรรมการจัดระบบการจราจรและขนส่ง(คจร.)และคณะรัฐมนตรีก่อนจึงก่อสร้างได้อีกทั้งต้องจัดรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนตามกระบวนการเพื่อให้ทุกภาคส่วนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมแสดงความคิดเห็นและข้อกังวลก่อนนำไปสู่การออกแบบให้เหมาะสมอย่างไรก็ตามโครงการนี้จะเป็นระบบขนส่งขนาดเล็กซึ่งจะไม่ใช้พื้นที่เพื่อทำเดปโป้ขนาดใหญ่เบื้องต้นอาจจะใช้พื้นที่ด้านของสถานีกรุงธนบุรีเป็นจุดจอดสำหรับการบริหารจัดการเดินรถจะอยู่ในความรับผิดชอบของกทม.ซึ่งค่าโดยสารอัตราเท่าใดนั้นจะต้องรอผลการศึกษาเสร็จสิ้นก่อน

นายสมชายกล่าวต่อว่า โครงการนี้ทางเอกชนเตรียมงบประมาณดำเนินการไว้ราว2,000 ล้านบาทซึ่งไม่ถือเป็นโครงการตามพ.ร.บ.การให้เอกชนเข้าร่วมงานของรัฐหรือพ.ร.บ.ร่วมทุนเนื่องจากเอกชนลงทุนก่อสร้างแล้วยกให้ภาครัฐซึ่งสิ่งที่เอกชนจะได้ก็มีเพียงจุดจอดรถไฟฟ้าที่รับส่งบริเวณโครงการพื้นที่ของเอกชนเท่านั้นและในเส้นทางก็ไม่ได้ทำให้เอกชนได้ประโยชน์เพียงฝ่ายเดียวเพราะมีเส้นทางต่อไปยังบริเวณสำนักงานเขตคลองสานเพื่อประโยชน์ของสาธารณะด้วยทั้งนี้กทม.เปิดกว้างรับข้อเสนอเอกชนรายอื่นที่ต้องการพัฒนาพื้นที่และลงทุนโครงสร้างพื้นฐานให้ภาครัฐโดยไม่ปิดกั้นแต่อย่างใดโดยสามารถนำเสนอโครงการมายังกทม.เพื่อพิจารณาร่วมกันได้.“
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42751
Location: NECTEC

PostPosted: 21/08/2015 2:33 am    Post subject: Reply with quote

ก.พ.ปีหน้าใช้บัตรใบเดียวขึ้นรถเมล์-รถไฟฟ้า-ทางด่วน-มอเตอร์เวย์
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
20 สิงหาคม 2558 เวลา 00:30:49 น.


พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า เมื่อวันที่14 ส.ค.ที่ผ่านมา กระทรวงได้ลงนามบันทึกความร่วมมือใช้บัตรเก็บค่าผ่านทางอัตโนมัติ ระหว่างบัตร M-Pass ของกรมทางหลวง (ทล.) ใช้กับทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหรือมอเตอร์เวย์สาย 7 (กรุงเทพฯ-ชลบุรี) และสาย 9 (บางนา-บางปะอิน) กับบัตร Easy Pass ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ในระบบทางด่วน หากสามารถรวมกันเป็นบัตรเดียวได้ จะทำให้เกิดความสะดวกสำหรับผู้ใช้ทางในการชำระค่าผ่านทางทุกระบบ และขยายผลไปยังมอเตอร์เวย์สายใหม่ที่จะก่อสร้างในอนาคตด้วย ทั้งสายบางปะอิน-โคราช สายบางใหญ่-กาญจนบุรี และสายพัทยา-มาบตาพุด

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า นับเป็นก้าวแรกที่จะรวมบัตรทั้ง 2 ระบบเข้าด้วยกันเป็นบัตรใบเดียว ซึ่งบัตร M-Pass เพิ่งเปิดใช้เมื่อวันที่ 31 ก.ค. ที่ผ่านมา กับมอเตอร์เวย์ และในอนาคตจะสามารถใช้ได้กับมอเตอร์เวย์ 3 สายใหม่ด้วย

ทั้งนี้การรวมบัตรนี้อยู่ในขั้นตอน 3 เดือนแรก จัดทำการศึกษาระบบ M-Pass และ Easy Pass ภายใต้ระบบค่าผ่านทางอัตโนมัติหรือ ETC (Electronic Toll Collection System) มีธนาคารกรุงไทยเป็นผู้ดำเนินการศึกษาแนวทางในการจัดตั้งศูนย์จัดการรายได้กลางระบบทางอัตโนมัติ หรือ CTCH คาดว่าจะแล้วเสร็จเดือน พ.ย.นี้ จะต้องหารือกับกระทรวงการคลังเรื่องระบบ Clearing House หรือระบบกระเป๋าเงินกลาง จากนั้นช่วง 3 เดือนถัดไปจะดำเนินการจัดซื้อ จัดจ้างและติดตั้งระบบให้บัตรใช้งานร่วมกันได้ภายในเดือนก.พ. 2559 และใน 3 เดือนสุดท้าย จะเป็นการปรับปรุงและทดสอบระบบ ETC เชื่อมต่อระหว่างระบบมอเตอร์เวย์ของกรมทางหลวงและระบบทางด่วนของ กทพ. คาดว่าจะแล้วเสร็จและพร้อมใช้บริการเดือนพ.ค. 2559

จะใช้ร่วมกับระบบตั๋วร่วมซึ่งสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ได้ออกแบบรายละเอียดแล้ว รอติดตั้ง ซึ่งระบบตั๋วร่วมจะใช้ได้กับทางด่วน มอเตอร์เวย์ และระบบขนส่งอื่น ๆ ทั้งเรือ รถไฟฟ้า รถเมล์ คาดว่าเริ่มใช้เดือน ก.พ. 2559 กับรถไฟฟ้าสายสีม่วง (บางซื่อ-บางใหญ่) รถไฟฟ้าบีทีเอส ทางด่วนและมอเตอร์เวย์ก่อน
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42751
Location: NECTEC

PostPosted: 21/08/2015 2:33 am    Post subject: Reply with quote

ก.พ.ปีหน้าใช้บัตรใบเดียวขึ้นรถเมล์-รถไฟฟ้า-ทางด่วน-มอเตอร์เวย์
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
20 สิงหาคม 2558 เวลา 00:30:49 น.


พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า เมื่อวันที่14 ส.ค.ที่ผ่านมา กระทรวงได้ลงนามบันทึกความร่วมมือใช้บัตรเก็บค่าผ่านทางอัตโนมัติ ระหว่างบัตร M-Pass ของกรมทางหลวง (ทล.) ใช้กับทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหรือมอเตอร์เวย์สาย 7 (กรุงเทพฯ-ชลบุรี) และสาย 9 (บางนา-บางปะอิน) กับบัตร Easy Pass ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ในระบบทางด่วน หากสามารถรวมกันเป็นบัตรเดียวได้ จะทำให้เกิดความสะดวกสำหรับผู้ใช้ทางในการชำระค่าผ่านทางทุกระบบ และขยายผลไปยังมอเตอร์เวย์สายใหม่ที่จะก่อสร้างในอนาคตด้วย ทั้งสายบางปะอิน-โคราช สายบางใหญ่-กาญจนบุรี และสายพัทยา-มาบตาพุด

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า นับเป็นก้าวแรกที่จะรวมบัตรทั้ง 2 ระบบเข้าด้วยกันเป็นบัตรใบเดียว ซึ่งบัตร M-Pass เพิ่งเปิดใช้เมื่อวันที่ 31 ก.ค. ที่ผ่านมา กับมอเตอร์เวย์ และในอนาคตจะสามารถใช้ได้กับมอเตอร์เวย์ 3 สายใหม่ด้วย

ทั้งนี้การรวมบัตรนี้อยู่ในขั้นตอน 3 เดือนแรก จัดทำการศึกษาระบบ M-Pass และ Easy Pass ภายใต้ระบบค่าผ่านทางอัตโนมัติหรือ ETC (Electronic Toll Collection System) มีธนาคารกรุงไทยเป็นผู้ดำเนินการศึกษาแนวทางในการจัดตั้งศูนย์จัดการรายได้กลางระบบทางอัตโนมัติ หรือ CTCH คาดว่าจะแล้วเสร็จเดือน พ.ย.นี้ จะต้องหารือกับกระทรวงการคลังเรื่องระบบ Clearing House หรือระบบกระเป๋าเงินกลาง จากนั้นช่วง 3 เดือนถัดไปจะดำเนินการจัดซื้อ จัดจ้างและติดตั้งระบบให้บัตรใช้งานร่วมกันได้ภายในเดือนก.พ. 2559 และใน 3 เดือนสุดท้าย จะเป็นการปรับปรุงและทดสอบระบบ ETC เชื่อมต่อระหว่างระบบมอเตอร์เวย์ของกรมทางหลวงและระบบทางด่วนของ กทพ. คาดว่าจะแล้วเสร็จและพร้อมใช้บริการเดือนพ.ค. 2559

จะใช้ร่วมกับระบบตั๋วร่วมซึ่งสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ได้ออกแบบรายละเอียดแล้ว รอติดตั้ง ซึ่งระบบตั๋วร่วมจะใช้ได้กับทางด่วน มอเตอร์เวย์ และระบบขนส่งอื่น ๆ ทั้งเรือ รถไฟฟ้า รถเมล์ คาดว่าเริ่มใช้เดือน ก.พ. 2559 กับรถไฟฟ้าสายสีม่วง (บางซื่อ-บางใหญ่) รถไฟฟ้าบีทีเอส ทางด่วนและมอเตอร์เวย์ก่อน
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44640
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 21/08/2015 10:19 pm    Post subject: Reply with quote

เตรียมทดสอบระบบรถไฟสายสีม่วง
โดย ไทยรัฐออนไลน์ 21 ส.ค. 2558 11:36

นายพีระยุทธ สิงห์พัฒนากุล ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย หรือ รฟม. เปิดเผยว่า ช่วงเดือนกันยายน ถึงปลายเดือนตุลาคม จะทยอยรับมอบขบวนรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-บางซื่อ หลังจากนั้นจะเปิดทดสอบระบบ 4 เดือน ถึงพฤษภาคม 2559 จึงจะเริ่มทดลองเดินรถจริง และเปิดอย่างเป็นทางการในช่วงเดือนสิงหาคม 2559

สำหรับความคืบหน้าโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงตลิ่งชัน-มีนบุรี และสายสีม่วงใต้ ช่วงเตาปูน-ราชบูรณะ จะสามารถเริ่มเข้าสู่กระบวนการประกวดราคาได้ในช่วงต้นปี 2559 เนื่องจากขณะนี้รฟม.ได้เสนอโครงการไปยังกระทรวงคมนาคมแล้ว โดยขั้นตอนจะต้องมีการอนุมัติและส่งให้คณะรัฐมตรีเห็นชอบ และสามารถดำเนินการได้ทันที เนื่องจากรูปแบบของโครงการคือรัฐลงทุนเอง

แต่รถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี และรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-บางกะปิ-สำโรง จะล่าช้ากว่ารถไฟฟ้าสายสีส้มและม่วงใต้ เนื่องจากรูปแบบของโครงการคือเอกชนร่วมลงทุน และเป็นระบบโมโนเรล แต่ยังคาดว่าจะสามารถเข้าสู่กระบวนการประกวดราคาได้ไม่เกินช่วงปลายปี 2559
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44640
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 24/08/2015 12:41 pm    Post subject: Reply with quote

รฟม.ดันประมูลรถไฟฟ้าสีส้ม-ม่วงใต้ปลายปีนี้ ส่วน BMCL หั่นราคาเร่งเปิดเดินรถเตาปูน-บางซื่อ
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 24 สิงหาคม 2558 10:02 น.

BMCL ลดค่าติดตั้งระบบคุมเดินรถ 1 สถานีช่วงเตาปูน-บางซื่อ เหลือ 693 ล้านบาท รฟม.เคาะทำสัญญาจ้าง 1 ปี ค่าจ้าง 60 ล้านบาท เร่งชงบอร์ด 9 ก.ย.นี้ ขณะที่มั่นใจปรับ ครม.ไม่กระทบแผนรถไฟฟ้า เผยสีส้มและม่วงใต้เปิดประมูลได้ในปลายปี 58-ต้นปี 59 ส่วนสีชมพูและเหลืองประมูลในปี 59 แบบ PPP-Net Cost เอกชนลงทุนสร้างและเดินรถ พร้อมตั้งกรรมการเยียวยาชาวบ้านประชาสงเคราะห์ แก้ปัญหาค้านสายสีส้ม

นายพีระยุทธ สิงห์พัฒนากุล ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการเดินรถ 1 สถานี ช่วงเตาปูน-บางซื่อ ว่า คณะกรรมการ ตามมาตรา 13 แห่ง พ.ร.บ.ว่าด้วยเอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2535 (พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ 35) ที่มี นายสัจจพงศ์ สนั่นเสียง รองผู้ว่าฯ รฟม. (ปฏิบัติการ) เป็นประธาน ได้ข้อสรุปในการเจรจาตรงกับ บริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BMCL แล้ว ในรายละเอียดของการดำเนินงานและวงเงินค่าดำเนินงาน โดยอยู่ระหว่างการพิจารณาร่างสัญญา จากนั้นจะเร่งสรุปเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาอนุมัติต่อไป

ด้านนายสัจจพงศ์ สนั่นเสียง รองผู้ว่าฯ รฟม. (ปฏิบัติการ) ในฐานะประธานคณะกรรมการมาตรา 13 แห่ง พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ 35 การคัดเลือกเอกชนเดินรถ 1 สถานี ช่วงเตาปูน-บางซื่อ กล่าวว่า คณะกรรมการฯ มาตรา 13 ได้ประเมินราคากลาง ค่าลงทุนติดตั้งระบบที่สถานีเตาปูนไว้ที่ 701 ล้านบาท โดยทาง BMCL ได้ยื่นข้อเสนอราคามาที่ 740 ล้านบาทซึ่งสูงกว่าราคากลาง แต่เมื่อได้เจรจาต่อรองกันล่าสุดทาง BMCL ได้ให้ความร่วมมือปรับลดราคาลงมาอยู่ที่ 693 ล้านบาทซึ่งเป็นตัวเลขที่ตกลงร่วมกันและยอมรับได้เพราะต่ำกว่าราคากลางประมาณ 10% โดยทางบริษัทได้ทำหนังสือยืนยันราคามาเรียบร้อยแล้ว

ส่วนการเดินรถตกลงทำเป็นสัญญาจ้างในรูปแบบ PPP-Gross Cost เป็นระยะเวลา 1 ปีแบบชั่วคราว ซึ่งตกลงค่าจ้างที่ประมาณ 60 ล้านบาทต่อปี โดยใช้ฐานการคำนวณจากค่าดำเนินการ ค่าใช้จ่ายด้านบุคลากร ค่าไฟฟ้า ค่าซ่อมบำรุง ส่วนตัวรถนั้นทาง BMLC จะใช้รถไฟฟ้าสายเฉลิมรัชมงคลวิ่งต่อไปอีก 1 สถานี ทำให้ไม่มีต้นทุนในด้านตัวรถไฟฟ้า

ส่วนสัญญาระยะยาวนั้นจะรอความชัดเจนของการเดินรถสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปในเร็วๆ นี้ แต่หากไม่ทันในระยะเวลา 1 ปีอาจจะมีการเจรจากับ BMCL เพื่อต่อสัญญาจ้างอีก 1 ปี

โดยคณะกรรมการมาตรา 13 จะประชุมอีกครั้งในวันที่ 28 ส.ค.เพื่อสรุปรายละเอียดทั้งหมดและเสนอที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟม. ที่มี พล.อ.ยอดยุทธ บุญญาธิการ เป็นประธานในวันที่ 9 ก.ย.นี้ เพื่อเร่งเสนอเรื่องไปยังกระทรวงคมนาคมและ ครม.ขออนุมัติต่อไป อย่างไรก็ตาม ทาง BMCL ระบุว่า หลังลงนามสัญญาจะใช้เวลาในการติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณระบบสื่อสาร ระบบตั๋วโดยสารที่สถานีเตาปูน และการทดสอบนั้นจะต้องใช้เวลา 15 เดือน โดยรับที่จะเร่งรัดการทำงานให้เร็วที่สุด เพื่อให้เปิดให้บริการในส่วนของ 1 สถานีได้ทันกับการเปิดเดินรถสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-บางซื่อ เพื่อให้ประชาชนได้รับความสะดวกสูงสุด

ชี้ปรับ ครม.ไม่กระทบแผนรถไฟฟ้า

นายพีระยุทธกล่าวถึงความคืบหน้าโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ตะวันออก) ช่วงศูนย์วัฒนธรรมฯ-มีนบุรี วงเงินลงทุน 10,325.76 ล้านบาท และสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ มีระยะทางทั้งสิ้น 23.6 กิโลเมตร 104,116.61 ล้านบาท รฟม.ได้เสนอเรื่องไปยังกระทรวงคมนาคมแล้ว อยู่ระหว่างเสนอ ครม.อนุมัติ คาดว่าจะเปิดประกวดราคาได้ในปลายปี 2558 หรือต้นปี 2559 โดย รฟม.ลงทุนก่อสร้างงานโยธาเอง โดยสายสีส้มมีค่าก่อสร้างงานโยธา 82,608 ล้านบาท ค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน 9,625 ล้านบาท ส่วนค่างานระบบและตัวรถไฟฟ้าประมาณ 14,613.52 ล้านบาท และค่าจ้างที่ปรึกษาโครงการ 3,270.34 ล้านบาท ส่วนสายสีม่วงใต้ ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ มีค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน 16,771 ล้านบาท ค่าก่อสร้างงานโยธา 72,134 ล้านบาท ค่าสิ่งก่อสร้างทดแทนหน่วยงานที่ได้รับผลกระทบ 1,335 ล้านบาท ค่าจ้างที่ปรึกษาบริหารและควบคุมงานก่อสร้าง 2,939 ล้านบาท ค่า Provisional Sum ของงานโยธา 10,73 ล้านบาท

ส่วนสายสีชมพู ช่วงแคราย-ปากเกร็ด-มีนบุรี ระยะทาง 34.5 กิโลเมตร วงเงินลงทุน 56,725 ล้านบาท และสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง ระยะทาง 30.4 กม. วงเงินลงทุน 54,768.45 ล้านบาท ซึ่งจะก่อสร้างเป็นระบบรถไฟฟ้ารางเดี่ยว (Straddle Monorail) โดยเสนอลงทุนรูปแบบ PPP Net Cost ซึ่งตามขั้นตอน พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ 2556 จะต้องนำเสนอกระทรวงคมนาคมเห็นชอบก่อน จากนั้นส่งเรื่องกลับ รฟม.เพื่อเสนอต่อไปยังสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) และคณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (คณะกรรมการ PPP) เห็นชอบ

โดยจะมีการตั้งคณะกรรมการมาตรา 35 แห่ง พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ 56 ขึ้นมาดำเนินการคัดเลือกผู้ลงทุนโครงการ ในขณะเดียวกันจะต้องเสนอ ครม.เพื่อขออนุมัติเนื่องจากจะต้องขอรับงบประมาณในการจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน สำหรับสายสีชมพู ประมาณ 6,847 ล้านบาท สายสีเหลืองประมาณ 6,013 ล้านบาท โดยคาดว่าจะเปิดประมูลได้กลางปี-ปลายปี 2559 ซึ่งถือเป็นรถไฟฟ้า 4 สายที่อยู่ในแผนการลงทุน และแม้จะมีการปรับ ครม.และเปลี่ยนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม แต่เชื่อว่าโครงการจะได้รับการผลักดันต่อ เพราะจะเป็นการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานที่ภาครัฐต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจ

ตั้ง กก.เยียวยาชาวบ้านประชาสงเคราะห์ แก้ปัญหาค้านสายสีส้ม

สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ตะวันตก) ช่วงตลิ่งชัน-ศูนย์วัฒนธรรม นั้น นายพีระยุทธกล่าวว่า ขณะนี้ รฟม.ได้ตั้งคณะกรรมการเยียวยาสำหรับผู้ได้รับผลกระทบทั้งโครงการแล้ว ซึ่งจะเน้นเป็นพิเศษเพื่อแก้ไขปัญหาชาวบ้านในชุมชนแม่เนี้ยว 3 ย่านประชาสงเคราะห์ที่คัดค้านซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณารายละเอียดและค่าชดเชยตามความเหมาะสม ซึ่งจะมีการลงพื้นที่เพื่อทำความเข้าใจกับประชาชน และเห็นว่าประชาชนต้องการความชัดเจนและรายละเอียดในค่าผลตอบแทน
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44640
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 07/09/2015 7:48 am    Post subject: Reply with quote

รฟม.จ่อชงครม.รถไฟฟ้าสายสีส้ม,สีม่วงใต้
INN News ข่าวเศรษฐกิจ วันอาทิตย์ที่ 6 กันยายน พ.ศ.2558 12:48 น.

รฟม. เตรียมเสนอ ครม. เห็นชอบ โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม และสีม่วงใต้ สิ้นปีนี้

นายพีระยุทธ สิงห์พัฒนากุล ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย หรือ รฟม. เปิดเผยถึงความคืบหน้าการเดินหน้าโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงตลิ่งชัน - มีนบุรี และสายสีม่วงใต้ ช่วงเตาปูน - ราชบูรณะ ว่า รฟม. เตรียมเสนอรายละเอียดของโครงการให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาเห็นชอบสิ้นปีนี้ ซึ่งคาดว่า หาก ครม. พิจารณาเห็นชอบแล้ว จะเริ่มเข้าสู่กระบวนการประกวดราคาได้ในต้นปี 2559 ขณะที่ในส่วนของโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย - มีนบุรี และ รถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว - สำโรง โครงการจะล่าช้ากว่ารถไฟฟ้าสายสีส้มและสีม่วงใต้ เนื่องจากรูปแบบของโครงการ คือเอกชนร่วมลงทุน และเป็นระบบโมโนเรล แต่เชื่อว่า จะสามารถเข้าสู่กระบวนการประกวดราคาได้ไม่เกินช่วงปลายปี 2559

อย่างไรก็ตาม ในส่วนระบบรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ส่วนต่อขยาย รฟม. เห็นชอบในหลักการเดินรถต่อเนื่อง โดยให้เอกชนลงทุน และรับรองความเสี่ยง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างเสนอโครงการให้กับกระทรวงคมนาคมพิจารณา ส่วนรถไฟฟ้าสายสีเขียวใต้ ช่วงแบริ่ง - สมุทรปราการ การเดินรถนั้นขณะนี้ กระบวนการยังอยู่ระหว่างพิจารณาร่วมกับกรุงเทพมหานคร หรือ กทม. ในการรับมอบงาน โดยเบื้องต้นจะต้องทำการร่างเป็นบันทึกข้อตกลงร่วมกัน และ กทม. จะต้องพิจารณาใช้ชัดเจนในเรื่องการคืนหนี้สิน
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44640
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 09/09/2015 7:13 am    Post subject: Reply with quote

คมนาคมกางแผนรถไฟฟ้าและโครงสร้างพื้นฐาน เสนอ “สมคิด” ดันลงทุนให้ได้ตามเป้า
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 8 กันยายน 2558 23:46 น.

“คมนาคม” ยันชง ครม.ขออนุมัติรถไฟฟ้าสีส้มและสีม่วงใต้ได้ในปีนี้ ส่วนสีชมพูและสีเหลืองพร้อมส่งเรื่องไป รฟม.เพื่อเสนอ สคร.ตามขั้นตอนร่วมทุน PPP คัดเลือกเอกชนเข้ามาลงทุนแล้ว ด้าน “สร้อยทิพย์” เตรียมรายงานแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานต่อ “สมคิด” ในวันที่ 9 ก.ย.เพื่อผลักดันให้เดินหน้าตามเป้าหมาย

นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมความคิดเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อสรุปแผนงานการดำเนินโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-มีนบุรี ระยะทาง 21.2 กิโลเมตร วงเงิน 110,325 ล้านบาท และสายสีม่วงใต้ ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) ระยะทาง 23.6 กิโลเมตร กรอบวงเงิน 103,949 ล้านบาท ซึ่งจะสรุปและสามารถเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาภายในเดือน ก.ย.นี้ได้ รวมถึงรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ช่วงบางแค-พุทธมณฑลสาย 4 ระยะทาง 8 กม. ซึ่งอยู่ระหว่างศึกษาออกแบบและจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) มีแนวคิดว่าจะเสนอ ครม.ไปพร้อมกันด้วย โดยขอยกเว้นศึกษา EIA คู่ขนานไป เนื่องจากเป็นโครงการต่อขยายจากโครงการสายสีน้ำเงินเดิม การศึกษาจะใช้เวลาไม่นาน

ส่วนรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง ระยะทาง 30.4 กิโลเมตร วงเงิน 55,986 ล้านบาท และรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี ระยะทาง 36 กิโลเมตร วงเงิน 56,691 ล้านบาท ซึ่งจะลงทุนในรูปแบบการลงทุน (PPP) โดยให้เอกชนร่วมลงทุนในรูปแบบ PPP Net-Cost โดยให้สัมปทานเอกชน ซึ่งเอกชนจะต้องรับภาระลงทุน 100% (ทั้งค่าก่อสร้างงานโยธา ระบบราง ขบวนรถไฟฟ้า รวมถึงบริหารการเดินรถและซ่อมบำรุง) โดยก่อสร้างเป็นรถไฟฟ้าแบบรางเดี่ยว (Monorail) นั้นได้สรุปเสนอนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เพื่อให้ความเห็นชอบแล้ว และขั้นตอนหลังจากนี้ ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2556 จะต้องส่งเรื่องไปยังการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนการร่วมทุนฯ โดยเสนอไปยังสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) และคณะกรรมการ PPP เพื่อดำเนินการคัดเลือกเอกชน ดังนั้น ตามแผนงานของกระทรวงคมนาคมจะสามารถสรุปโครงการรถไฟฟ้า 5 สายเสนอ ครม. และ สคร.พิจารณาเห็นชอบได้ตามขั้นตอนภายในปีนี้แน่นอน

นอกจากนี้ กระทรวงคมนาคมเตรียมรายงานแผนงานความคืบหน้าโครงการต่างๆ ต่อ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ ซึ่งมีกำหนดตรวจเยี่ยมและให้นโยบายที่กระทรวงคมนาคมในวันที่ 9 ก.ย. เช่น โครงการรถไฟฟ้าในความรับผิดชอบของ รฟม., โครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ รถไฟทางคู่ ในความรับผิดชอบของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) โครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิระยะที่ 2 เป็นต้น

นางสร้อยทิพย์กล่าวว่า วันนี้ (8 ก.ย.) ได้ประชุมคณะทำงานพัฒนาอุตสาหกรรมขนส่งทางรางและอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่องครั้งที่ 1/2558 ซึ่งได้รับฟังความเห็นถึงแนวทางการจัดตั้งโรงงานประกอบรถไฟในประเทศ ซึ่งเป็นนโยบายรัฐบาลที่ต้องการสนับสนุนการเพิ่มสัดส่วนการใช้ชิ้นส่วนในประเทศและพัฒนาอุตฯ ทางรางของประเทศแบบยั่งยืน โดยเห็นว่าพิจารณาจากรถไฟฟ้า 10 สายตามแผนแม่บท จะมีความต้องการรถไฟฟ้าถึง 588 ตู้ ซึ่งหากประกอบภายในประเทศจะเกิดอุตสาหกรรมทั้งการผลิต, ชิ้นส่วน และต่อยอดการส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านได้ แต่พบว่ามีปัญหาอุปสรรคคือ การดำเนินโครงการรถไฟฟ้าแต่ละสายขาดช่วงไม่พร้อมกัน โดยสภาพัฒน์ให้ข้อสังเกตว่า หากจะผลักดันให้มีการผลิตหรือประกอบรถไฟฟ้าภายในประเทศได้นั้น ภาครัฐจะต้องเป็นผู้จัดหารถหรือสั่งซื้อรถและว่าจ้างเอกชนเข้ามาเดินรถ ซึ่งอาจจะกระทบต่อแนวทาง PPP ที่ให้เอกชนลงทุนจัดหาระบบและรถไฟฟ้าในขณะนี้ โดยอาจจะต้องใช้ PPP รูปแบบอื่น
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42751
Location: NECTEC

PostPosted: 09/09/2015 9:20 pm    Post subject: Reply with quote

รถไฟฟ้ากทม.เส้นเดียวแพงกว่าของเชียงใหม่/ภูเก็ต/ขอนแก่น รวมกัน
by วาสนา ปิยะบวรนันท์
Voice TV
8 กันยายน 2558 เวลา 17:54 น.
Overview ประจำวันที่ 8 กันยายน 2558

ขณะที่กรุงเทพมีโครงการขนส่งมวลชนขนาดใหญ่นับไม่ถ้วน จังหวัดอื่นกลับไม่มีโครงการแบบนี้ การทำรถไฟฟ้าสีเขียวเส้นเดียวใช้เงินมากกว่าการพัฒนาขนส่งมวลชนในสามจังหวัดนั้นรวมกัน
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44640
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 14/09/2015 11:30 am    Post subject: Reply with quote

รัฐไฟเขียวใช้ PPP ยากระตุ้นเร่งลงทุนเมกะโปรเจ็กต์
จันทร์ ที่ 14 กันยายน 2558 ฐานเศรษฐกิจ

กว่า 1 ปีของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่เข้ามากอบกู้ความเชื่อมั่นและเศรษฐกิจ ผ่านทางการลงทุนขนาดใหญ่อย่างโครงการโครงสร้างพื้นฐานคมนาคมขนส่ง สามารถสร้างความกระชุ่มกระชวยให้กับบริษัทรับเหมาก่อสร้างและกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ได้อย่างมาก แต่แล้วโครงการลงทุนต่างๆ กลับไม่ขยับตามแผนที่รัฐบาลวาดหวังไว้ ส่งผลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไม่เป็นไปตามโรดแมป

Click on the image for full size

ดังนั้น จังหวะก้าวย่างสู่ปีที่ 2 นายกรัฐมนตรีได้ฝากงานให้ ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ช่วยย้ำกระทรวงคมนาคมให้เร่งเครื่องแผนลงทุนโครงสร้างพื้นฐานให้เร็วขึ้นกว่าที่ผ่านมา และในโอกาสเดินทางมาตรวจเยี่ยมกระทรวงคมนาคมเมื่อกลางสัปดาห์ได้กล่าวว่า “กระทรวงคมนาคมมีงบประมาณด้านการลงทุนสูงมาก จึงอยากให้เร่งดำเนินการ เพราะการลงทุนขนาดใหญ่ของประเทศไทยหยุดชะงักมานานแล้ว โดยมีนโยบาย 3 ด้านคือ ช่วยเสริมขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศ พัฒนาความเป็นอยู่ของประชาชนทั้งในเมืองและต่างจังหวัดให้ดีขึ้น และสุดท้าย เอื้อให้เกิดการพัฒนาด้านการท่องเที่ยวด้วย”

ทั้งนี้ สิ่งหนึ่งที่ได้ย้ำกับกระทรวงคมนาคมก็คือ การเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซี เร็วๆนี้ มีนัยสำคัญต่อประเทศไทยในฐานะเป็นศูนย์กลางของเออีซี จากเวียดนามไปถึงอินเดียต้องผ่านไทย หรือจากจีนผ่านมายังตอนล่างก็ต้องผ่านไทย ฉะนั้น การเชื่อมต่อ(Connectivity) ถือเป็นหัวใจสำคัญที่จะสร้างประโยชน์ในการเป็นศูนย์กลางของเออีซี

ลงทุน 17 โครงการสำคัญหมด

สำหรับโครงการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานที่กระทรวงคมนาคมกำหนดไว้ 17 โครงการนั้น มีทั้งการลงทุนด้านระบบราง ถนน น้ำ และอากาศ โดยนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เห็นว่ามีความสำคัญทั้งหมด สามารถตอบโจทย์ตามวัตถุประสงค์ 3 ประการข้างต้น ซึ่งทุกโครงการผ่านการพิจารณาร่วมกับนายกรัฐมนตรีแล้ว จึงสมควรเร่งผลักดันให้ดำเนินการได้ในปี 2558-2559

ดึงเอกชนร่วมลงทุนภาครัฐ

จากเม็ดเงินการลงทุนทั้ง 17 โครงการคิดเป็นมูลค่ามหาศาลประมาณ 1.6 แสนล้านบาท จึงจำเป็นที่รัฐบาลต้องสร้างความมั่นใจว่าการลงทุนจะไม่กระทบฐานะทางการคลัง ดร.สมคิดจึงให้กระทรวงคมนาคมจัดลำดับความสำคัญให้ชัดเจน พร้อมกับดึงภาคเอกชนให้เข้ามาร่วมลงทุนกับภาครัฐในลักษณะ Public Private Partnership (PPP) โดยดร.สมคิดกล่าวว่า หลัก PPP ที่ถูกต้องคือโครงการอะไรที่สามารถร่วมลงทุนได้ ทำแล้วได้ประโยชน์ทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งรัฐและเอกชน ที่สำคัญจะต้องมีการประมูลอย่างโปร่งใส ยกตัวอย่าง โครงการรถไฟไม่จำเป็นว่าส่วนของราง รฟท.จะต้องเป็นผู้สร้าง หัวรถจักรเอกชนจะต้องเป็นผู้ดำเนินการ จึงอยู่ที่การตกลงว่าอะไรคือสิ่งที่ดีที่สุด และอะไรที่รัฐบาลได้ประโยชน์สูงสุด อะไรที่จะจูงใจให้เอกชนมาลงทุนได้สามารถจูงใจได้มากขึ้น ทั้งนี้โครงการที่พร้อมจะร่วมลงทุนในแบบ PPP ที่กระทรวงคมนาคมเตรียมนำเสนอต่อ ครม.มี 5 โครงการ (ตามตาราง)

โดยนายอาคมกล่าวว่านโยบายร่วมลงทุนจะไม่จำกัดเฉพาะรูปแบบเดิมๆ ที่ภาครัฐรับภาระเรื่องการก่อสร้าง แล้วให้เอกชนเป็นผู้รับบริหารจัดการ แต่อาจจะมีการพิจารณาในขอบเขตที่มากกว่านั้น เช่น เปิดโอกาสให้เอกชนเริ่มต้นตั้งแต่กระบวนการก่อสร้างคือเหมาไปทั้งโครงการ ซึ่งกระทรวงคมนาคมรับไปพิจารณาในรายละเอียดต่อไป โดยอาจจะพิจารณาทั้งในรูปแบบการกู้ รูปแบบการระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรืออาจจะรวมไปกับการตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน (อินฟราสตรักเจอร์ฟันด์) ด้วย ซึ่งกระทรวงคมนาคมอยู่ในวิสัยที่จะดำเนินการให้สอดคล้องได้

เอกชนชี้เงื่อนไขต้องน่าสนใจและเป็นธรรม

ดร.อาณัติ อาภาภิรม ประธานคณะกรรมการฝ่ายจัดการและกรรมการที่ปรึกษา บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด(มหาชน) ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส กล่าวว่า ขอให้ภาครัฐกำหนดเงื่อนไขที่น่าสนใจและเป็นธรรมจริงๆ อีกทั้งระยะเวลาการร่วมลงทุนควรนานกว่า 30 ปี โดยอยากเสนอแนะให้รัฐเริ่มนำไปใช้กับระบบรางให้ชัดเจนก่อน แล้วจึงค่อยขยายสู่ระบบโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆต่อไป เนื่องจากแต่ละระบบมีข้อแตกต่างกันอย่างมาก

คงต้องจับตาดูว่า แผนดึงภาคเอกชนมาร่วมลงขันกับภาครัฐในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมนี้จะประสบความสำเร็จในแง่การขับเคลื่อนโครงการเมกะโปรเจ็กต์ได้เร็ว ได้ไวตามที่รัฐบาลอยากจะเห็นหรือไม่ ในเมื่อเม็ดลงทุนก้อนใหญ่ ระยะเวลาคืนทุนค่อนข้างยาว จะมีเอกชนรายใดกล้ามาเสี่ยง!!

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 35 ฉบับที่ 3087 วันที่ 13-16 กันยายน พ.ศ. 2558
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> โครงการระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคต All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 117, 118, 119 ... 278, 279, 280  Next
Page 118 of 280

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©