RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai Gallery in Facebook

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311296
ทั่วไป:13273178
ทั้งหมด:13584474
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - รวมข่าวรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคตตามนโยบายรัฐบาล
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

รวมข่าวรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคตตามนโยบายรัฐบาล
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 143, 144, 145 ... 278, 279, 280  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> โครงการระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคต
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42751
Location: NECTEC

PostPosted: 20/11/2016 10:10 pm    Post subject: Reply with quote

ผู้ว่า รฟม.คาด ธ.ค.รู้ผู้ชนะประกวดราคารถไฟฟ้าสายสีชมพู-เหลือง
โดย MGR Online
20 พฤศจิกายน 2559 14:09 น.

นายพีระยุทธ สิงห์พัฒนากุล ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย - มีนบุรี และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองช่วงลาดพร้าว - สำโรงว่า ขณะนี้ทั้งสองโครงการอยู่ระหว่างการยื่นซองเอกสารประกวดราคาของทางเอกชน และการพิจารณาของคณะกรรมการ มาตรา 35 โดยคาดว่าภายในเดือนธันวาคมนี้ จะทราบผู้ที่ชนะการประกวดราคา จากนั้นจะเริ่มเข้าสู่กระบวนการต่อไป
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42751
Location: NECTEC

PostPosted: 28/11/2016 11:28 pm    Post subject: Reply with quote

“คมนาคม” ชง คจร.ทบทวนมติสร้างทางด่วน N2 และแก้ปัญหาโอนเดินรถสายสีเขียวให้ กทม.
โดย MGR Online
28 พฤศจิกายน 2559 08:40 น. (แก้ไขล่าสุด 28 พฤศจิกายน 2559 08:59 น.)

“คมนาคม” ชง คจร.ทบทวนมติสร้างทางด่วน N2 และแก้ปัญหาโอนเดินรถสายสีเขียวให้ กทม.

“อาคม” เตรียมชง คจร.ทบทวนมติขอฟื้นทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือ เฉพาะช่วง N2 คาดลงทุน 1.5 หมื่นล้าน พร้อมพับแผนให้ สนข.ศึกษารถไฟฟ้าสีน้ำตาลทดแทนเนื่องจากทางด่วนยังจำเป็น ด้าน สนข.เผยวาระ คจร.กลางเดือน ธ.ค.นี้ จะรายงานคืบหน้าปัญหาอุปสรรค โอนเดินรถสายสีเขียวให้ กทม. การก่อสร้างรถไฟฟ้าสายต่างๆ และแผนแม่บทพัฒนาศูนย์คมนาคมพหลโยธิน

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ขณะนี้เตรียมเสนอที่ประชุมคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) ซึ่งจะประชุมในเดือนธันวาคมนี้ ขอทบทวนมติเดิมในเรื่องการดำเนินโครงการระบบทางด่วน ขั้นที่ 3 สายเหนือ ซึ่งมติ คจร.ก่อนหน้านี้ให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ดำเนินการศึกษาระบบรถไฟฟ้าแทน โดยจะขอทบทวนใหม่ เป็นการนำโครงการทางด่วนขั้นที่ 3 ตอน N2 มาดำเนินการก่อสร้าง โดยเป็นไปตามที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีความเห็นว่าควรให้การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ดำเนินการ วงเงินประมาณ 1.5 หมื่นล้านบาท เนื่องจากโครงการยังมีความจำเป็นช่วยแก้จราจรบนถนนเกษตร-นวมินทร์ และควรใช้ประโยชน์ตอม่อที่ได้มีการลงทุนก่อสร้างไปแล้ว นอกจากนี้ โครงการจะนำโครงการบรรจุในแผนปฏิบัติการ (Action Plan) ปี 2560 อีกด้วย

นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ผู้อำนวยการ สนข.ในฐานะเลขาฯ คจร. กล่าวว่า เตรียมเสนอ คจร. ซึ่งคาดว่าจะประชุมช่วงกลางเดือนธันวาคมนี้ เพื่อขอทบทวนมติ คจร.เดิมที่ให้ สนข.ศึกษาโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล ช่วงแคราย-บึงกุ่มทดแทนทางด่วนขั้น 3 สายเหนือ (N1, N2, N3) เนื่องจากทาง กทพ.ได้เสนอขอดำเนินการโครงการทางด่วนในช่วง N2 ขณะที่ สนข.ได้จัดเตรียมงบประมาณปี 2560 สำหรับการศึกษารถไฟฟ้าสายสีน้ำตาลไว้แล้ว ดังนั้นจะต้องขึ้นกับที่ประชุม คจร.ว่าจะมีความเห็นอย่างไร

นอกจากนี้ จะรายงานความคืบหน้าการโอนงานเดินรถสายสีเขียวใต้ ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการให้กรุงเทพมหานคร (กทม.) ว่ามีปัญหาอุปสรรคอย่างไร และความคืบหน้าปัญหาอุปสรรคในการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายต่างๆ เช่น สายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต สายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี สายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง สายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) สายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ช่วงบางซื่อ-ท่าพระ และหัวลำโพง-บางแค

รวมถึงแผนแม่บทการพัฒนาศูนย์คมนาคมพหลโยธิน และการใช้ประโยชน์ที่ดินในพื้นที่ 2,325 ไร่ ก่อนเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งแบ่งพื้นที่พัฒนาเชิงพาณิชย์ออกเป็น 4 แปลง โดยแปลง A มีพื้นที่ 35 ไร่, แปลง B พื้นที่ 78 ไร่, แปลง C พื้นที่ 105 ไร่, แปลง D พื้นที่ 87.5 ไร่ และ สนข.ได้ศึกษาออกแบบระบบขนส่งเพื่อเชื่อมต่อการเดินทางด้วยรถโดยสารด่วนพิเศษ (BRT) ระยะทาง 15 กม. มี 16 สถานี นอกจากนี้จะรายงานความคืบหน้าในการแก้ปัญหาจราจรเร่งด่วนของคณะกรรมการแก้ปัญหาฯ ที่มี พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน อีกด้วย

ด้าน พลเอก วิวรรธน์ สุชาติ ประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) กทพ.กล่าวว่า ขณะนี้การออกแบบโครงการทางด่วนขั้นที่ 3 ตอน N2 ช่วงเกษตร-วงแหวนรอบนอกด้านตะวันออกใกล้เสร็จแล้ว โดยจะหารือร่วมกับกรมทางหลวง (ทล.) ก่อสร้างสะพานลอยข้ามแยกบนถนนเกษตร-นวมินทร์ไปพร้อมกัน
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42751
Location: NECTEC

PostPosted: 30/11/2016 10:57 am    Post subject: Reply with quote

ชิงดำโมโนเรล สีชมพู-สีเหลือง รฟม.เปิดซองผลตอบแทน “BTS-BEM” ต้น ธ.ค.รู้ผล
โดย MGR Online
29 พฤศจิกายน 2559 15:55 น. (แก้ไขล่าสุด 29 พฤศจิกายน 2559 18:54 น.)


“รฟม.” เผยผลพิจารณาซองข้อเสนอด้านคุณสมบัติและเทคนิครถไฟฟ้าโมโนเรล สีชมพู-สีเหลือง กลุ่ม BEM และ BTS ผ่านเกณฑ์ทั้งคู่ ลุยเปิดซอง 2 ข้อเสนอด้านการลงทุนและผลตอบแทนแล้ว มั่นใจสรุปผู้ชนะได้ในต้นเดือน ธ.ค.นี้ และเจรจาต่อรองได้ยุติเพื่อชง ครม.ขออนุมัติลงนามสัญญาใน เม.ย. 60

นายธีรพันธ์ เตชะศิรินุกูล รองผู้ว่า (กลยุทธ์และแผน) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ในฐานะประธานคณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 35 แห่งพระราชบัญญัติการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2556 โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูฯ และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองฯ เปิดเผยว่า วันที่ 29 พ.ย. 2559 คณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 35 แห่งพระราชบัญญัติการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2556 ได้เปิดซองเอกสารข้อเสนอซองที่ 2 (ข้อเสนอด้านการลงทุนและผลตอบแทน) ดำเนินการคัดเลือกผู้รับสัมปทานการลงทุนออกแบบและก่อสร้างงานโยธาการจัดหาระบบรถไฟฟ้า การให้บริการเดินรถไฟฟ้าและซ่อมบำรุงรักษา โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี มูลค่าลงทุนรวม 53,519.50 ล้านบาท และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง มูลค่าลงทุนรวม 51,931.15 ล้านบาท

หลังจากที่ รฟม.ได้พิจารณาเอกสารข้อเสนอซองที่ 1 (ด้านคุณสมบัติและเทคนิค) เสร็จเรียบร้อยแล้ว ปรากฏว่าผู้ยื่นข้อเสนอทั้ง 2 ราย ได้แก่ กิจการร่วมค้าบีเอสอาร์ (BSR Joint Venture) และบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BEM) ผ่านการพิจารณาด้านคุณสมบัติและเทคนิค

โดยคณะกรรมการฯ จะเร่งรัดพิจารณาข้อเสนอซองที่ 2 (ด้านการลงทุนและผลตอบแทน) ซึ่งมีรายละเอียดที่จะต้องปรึกษาและตรวจรับจำนวนมากอย่างรอบคอบ คาดว่าจะสามารถสรุปผลข้อเสนอด้านการลงทุนและผลตอบแทนที่ดีที่สุดได้ในช่วงต้นเดือนธันวาคม 2559 จากนั้นคณะกรรมการฯ จะพิจารณาประเด็นเจรจาต่อรองและเริ่มการเจรจาต่อรองกับผู้ยื่นข้อเสนอที่ได้รับการคัดเลือก ก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อเห็นชอบประมาณเดือนมีนาคม-เมษายน 2560 โดยคาดว่าจะสามารถลงนามสัญญาจ้างได้ภายในเดือนเมษายน 2560 ซึ่งการเร่งรัดประเมินข้อเสนอเอกชนร่วมลงทุนฯ โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูฯและสายสีเหลืองฯ เป็นไปตามนโยบายที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งเร็วกว่าแผนเดิมที่วางไว้ประมาณ 1 เดือน

สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูฯ และสายสีเหลืองฯ นั้น เป็นโครงการในรูปแบบการร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน โดย รฟม.ลงทุนค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินและเอกชนผู้รับสัมปทานลงทุนด้านโครงสร้างงานโยธา งานระบบและขบวนรถไฟฟ้า (รถไฟฟ้ารางเดี่ยวแบบคร่อมราง) และให้บริการเดินรถและบำรุงรักษา รวมถึงเป็นผู้จัดเก็บค่าโดยสาร (PPP Net Cost) มีระยะเวลาสัมปทานทั้งสิ้น 33 ปี 3 เดือน โดยแบ่งการดำเนินงานออกเป็น 2 ระยะ คือ ระยะที่ 1 งานออกแบบและก่อสร้างงานโยธา พร้อมติดตั้งระบบและขบวนรถไฟฟ้า เป็นระยะเวลา 3 ปี 3 เดือน และระยะที่ 2 งานให้บริการเดินรถและบำรุงรักษา เป็นระยะเวลา 30 ปี
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42751
Location: NECTEC

PostPosted: 01/12/2016 8:01 pm    Post subject: Reply with quote

80 บริษัทชั้นนำโชว์เทคโนโลยีด้านระบบราง เผยแผนลงทุนโครงสร้างดันไทยขึ้นอันดับเป็นตลาดสำคัญ
โดย MGR Online
1 ธันวาคม 2559 17:47 น. (แก้ไขล่าสุด 1 ธันวาคม 2559 17:58 น.)


“ออมสิน” เปิดงาน Smart Rail Asia & Transport Infrastructure Asia 2016 โดยมี 80 บริษัททั่วโลก ขนเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาระบบราง รถไฟ รถไฟฟ้า มาจัดแสดงที่สถานีมักกะสัน แอร์พอร์ตลิงก์ ระบุนโยบายไทยต้องการต่อยอดเพื่อผลิตหรือประกอบรถไฟเองเพื่อช่วยลดต้นทุนภาระภาครัฐ ด้านผู้จัดงานเผยไทยถูกจัดเป็นตลาดสำคัญของเอเชีย หลังรัฐทุ่มงบพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน

นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้เป็นประธานเปิดงาน Smart Rail Asia & Transport Infrastructure Asia 2016 ที่ สถานีมักกะสัน รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์ โดยกล่าวว่า เป็นงานที่รวบรวมผู้ผลิตและเทคโนโลยีด้านระบบรางทั้งรถไฟ รถไฟฟ้า ผู้ให้บริการระบบไอที สื่อสาร ระบบอาณัติสัญญาณ ซึ่งปีนี้จัดในปีที่ 5 ระหว่างวันที่ 1-2 ธันวาคม 2559 โดยมี 80 บริษัททั่วโลกนำเทคโนโลยีมาแสดง พร้อมทั้งมีการจัดสัมมนาให้ความรู้จากผู้นำด้านโครงสร้างพื้นฐานรถไฟจากมาเลเซีย สิงคโปร์ อินเดีย ญี่ปุ่น ซึ่งสามารถนำมาพัฒนาระบบรางของไทยได้

ทั้งนี้ นโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี อยากให้มีการผลิตในประเทศ หรือนำเข้าชื้นส่วนมาประกอบในประเทศ ไม่ใช่ซื้อหรือนำเข้าอย่างเดียว เบื้องต้นจะเป็นการผลิตโดยใช้ผลิตภัณฑ์ในประเทศ เช่น ราวจับ เบาะที่นั่ง กระจกของตู้รถไฟ เป็นต้น หากสามารถพัฒนาไปสู่จุดนั้นได้จะสามารถลดต้นทุนการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าได้ และทำให้เกิดการหมุนเวียนของเศรษฐกิจในประเทศ

อย่างไรก็ตาม ระบบการขนส่งมีความสำคัญต่อการลดต้นทุนด้านลอจิสติกส์ของประเทศ และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการ ซึ่งไทยมีต้นทุนด้านลอจิสติกส์ มูลค่าสูงถึง 1.75 ล้านล้านบาท โดยรัฐบาลพยายามผลักดันให้ใช้การขนส่งทางรางซึ่งมีต้นทุนต่ำกว่าขนส่งทางถนน โดยมีเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนการขนส่งทางรางจาก 2% เป็น 5%

นายเดวิด เอ๊ทคิ่น กรรมการผู้จัดการบริษัท เอเชีย เอ็กซ์ซิบิชั่น เซอร์วิสเซส จำกัด กล่าวว่า Smart Rail Asia & Transport Infrastructure Asia 2016 เป็นนิทรรศการเทคโนโลยีด้านรถไฟ และรถไฟใต้ดินที่ใหญ่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยรวบรวมผู้ผลิตเทคโนโลยีด้านรถไฟ รถไฟใต้ดิน ผู้รับเหมา ระบบราง ผู้ให้บริการระบบรถไฟ ระบบไอที การสื่อสาร ระบบอาณัติสัญญาณ อุปกรณ์ในสถานี ระบบความปลอดภัยฯ โดยผู้ผลิตต่างประเทศชั้นนำทั้งจากยุโรป อเมริกา เอเชีย มาจัดแสดงในงาน เช่น บอมบาร์ดิเอร์, มิตซูบิชิ, ซีอาร์อารซี, อาซีฟา, เดลล์, เอสเคเอฟ, ลีลี ซีสเต็มส์, บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน), เจแปน อิส เรลเวย์ และสมาคมการค้ายูโรเปียนเพื่อธุรกิจและการพาณิชย์ เป็นต้น

โดยจากการสำรวจ Smart Rail Asia ของซัปพลายเออร์จากต่างประเทศ ชี้ให้เห็นว่าไทยถูกจัดอันดับให้เป็นตลาดที่สำคัญที่สุดในเอเชีย สูงถึง 92.5% ตามด้วยมาเลเซีย 69.75% สิงคโปร์ 65.3% เวียดนาม 63% อินโดนีเซีย 61.8% ฟิลิปปินส์ 60% ลาว, กัมพูชา, พม่า 53.7% โดยประเทศไทยมีแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางรถไฟ มูลค่าถึง 64 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42751
Location: NECTEC

PostPosted: 02/12/2016 12:14 am    Post subject: Reply with quote

รฟม.ดันแผนแม่บทเฟส 2 ผุดเพิ่ม 8 สายรถไฟฟ้าใหม่
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
2 ธันวาคม 2559 เวลา 07:30:1 น.


ปัจจุบันกระทรวงคมนาคม กำลังจัดทำแผนแม่บทรถไฟฟ้า (M-Map) ระยะที่ 2 คาดว่าในปี 2560 น่าจะมีรายละเอียดที่ชัดเจนมากขึ้น

สำหรับโครงการที่จะบรรจุในแผน จะเป็นโครงการที่มีเส้นทางต่อเชื่อมกับจังหวัดปริมณฑล พร้อมกับเป็นฟีดเดอร์ป้อนให้กับรถไฟฟ้าสายปัจจุบัน และจะแล้วเสร็จในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

ล่าสุด "รฟม.-การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย" เตรียมเสนอโครงการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลในอนาคตให้ "สนข.สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร" เจ้าภาพร่างพิมพ์เขียวแผนแม่บท พิจารณา

มีทั้งหมด 8 โครงการ และเคยผ่านตา "สมคิด จาตุศรีพิทักษ์" รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจไปแล้ว เมื่อครั้งที่ไปเยือน รฟม.ครั้งที่ 2 ประกอบด้วย

1.สายสีเหลืองส่วนต่อขยายช่วงลาดพร้าว-ประชาชื่น ระยะทาง 6.905 กม. จะเชื่อมกับสายสีเขียว (สถานีรัชโยธิน) สีแดง (สถานีจตุจักร) และสีม่วง (สถานีเตาปูน) ไปตามเส้นรัชดาภิเษกถึงแยกประชานุกูลก่อนเลียวซ้ายไปเตาปูน

2.สายสีเหลืองส่วนต่อขยาย ช่วงสำโรง-ราษฎร์บูรณะ ระยะทาง 8.47 กม. จะต่อเชื่อมกับสายสีเหลือง (สถานีสำโรง สีเขียว (สถานีสำโรง) และสีม่วง (สถานีพระประแดง)

3.สายสีน้ำตาลช่วงแคราย-ลำสาลี ระยะทาง 20.96 กม. จะเชื่อมต่อกับสายสีเหลือง (สถานีลำสาลี) สีเขียว (สถานีเกษตร) สีแดง (สถานีบางเขน) และสีม่วง (ศูนย์ราชการนนทบุรี) โดไปตามเส้นงามวงศ์วาน ประเสริฐมนูกจ และ ถนนนวมินทร์

4.สายสีทอง ช่วงปากเกร็ด-ถ.กาญจนาภิเษก ระยะทาง 10.56 กม. จะเชื่อมสีชมพูกับสีม่วง

5.สายสีชมพูส่วนต่อขยาย ช่วงมีนบุรี-สุวรรณภูมิ ระยะทาง 9.44 กม. เชื่อมระหว่างสายสีชมพูกับสีเขียว (เข้าใจว่า จะรอจนกว่ารถไผฟฟ้าสายเขียวทำ LRT จากบางนามา สนามบิน สุวรรณภูมิ)

6.สายสีเงิน ช่วงตลิ่งชัน-ชัยพฤกษ์ ระยะทาง 15.6 กม. เชื่อมสีเขียวกับสายสีทอง -

7.สายวงแหวนฯช่วงบางใหญ่-พระราม 2 ระยะทาง 35.71 กม. และ ไล่ตามเส้นกาญจนาภิเษกมาเลย

8.สายสีม่วง ช่วงบางใหญ่ - ถนนบางกรวย-ไทรน้อย ระยะทาง 3.7 กม. เป็นการขยายสายสีม่วงปัจจุบันไปบรรจบกับสีทองที่ถนนกาญจนาภิเษก -

นอกจากนี้ "รฟม." ยังมีแผนจะสร้างรถไฟฟ้าในหัวเมืองใหญ่ ที่เชียงใหม่ ภูเก็ต นครราชสีมา ชลบุรี และสงขลา โดยประเดิมโมโนเรลภูเก็ตเป็นสายแรก ใช้วิธีการดึงเอกชนลงทุน PPP วงเงิน 2.4 หมื่นล้านบาท ซึ่งได้รับการไฟเขียวจาก "รองนายกฯสมคิด" เป็นที่เรียบร้อยแล้ว รอสรุปแบบรายละเอียดจะแล้วเสร็จในปี 2560 จากนั้นตบเกียร์เดินหน้าลุยเต็มสูบ
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44640
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 06/12/2016 5:54 pm    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
ชิงดำโมโนเรล สีชมพู-สีเหลือง รฟม.เปิดซองผลตอบแทน “BTS-BEM” ต้น ธ.ค.รู้ผล
โดย MGR Online
29 พฤศจิกายน 2559 15:55 น. (แก้ไขล่าสุด 29 พฤศจิกายน 2559 18:54 น.)

ไม่พลิกโผ! "บีทีเอส-ซิโน-ไทย" คว้าเค้กรถไฟฟ้าสีชมพู-เหลืองแสนล้าน ชง ครม.อนุมัติ มี.ค.60
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ 06 ธ.ค. 2559 เวลา 17:25:55 น.

ผู้สื่อข่าวรายงาน การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ได้ประเมินเอกสารข้อเสนอซองที่ 1 (ด้านคุณสมบัติและเทคนิค) และเอกสารข้อเสนอซองที่ 2 (ข้อเสนอด้านการลงทุนและผลตอบแทน) ของบริษัทเอกชนที่ยื่นเสนอการลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) กับสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) เสร็จเรียบร้อยแล้ว

โดยมีผลสรุปว่า กิจการร่วมค้าบีเอสอาร์ ประกอบด้วย บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) (BTS Group) บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน)) เป็นเอกชนผู้ผ่านการประเมินสูงสุด

หลังจากนี้คณะกรรมการฯ จะพิจารณากำหนดประเด็นเจรจาต่อรองและเริ่มการเจรจาต่อรองกับกิจการร่วมค้าบีเอสอาร์ (BSR Joint Venture) ให้ได้ข้อสรุปก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาอนุมัติประมาณเดือนมีนาคม – เมษายน 2560 การนี้ รฟม. เร่งรัดประเมินข้อเสนอเอกชนร่วมลงทุนฯ โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูฯ และสายสีเหลืองฯ เป็นไปตามนโยบายที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายไว้ ซึ่งเร็วกว่าแผนเดิมที่วางไว้ประมาณ 1 เดือน โดยคาดว่าจะสามารถลงนามสัญญาสัมปทานได้ภายในเดือนเมษายน 2560

สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูฯ และสายสีเหลืองฯ นั้น เป็นโครงการในรูปแบบการร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน โดย รฟม. ลงทุนค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินและเอกชนผู้รับสัมปทานลงทุนด้านโครงสร้างงานโยธา งานระบบและขบวนรถไฟฟ้า (รถไฟฟ้ารางเดี่ยวแบบคร่อมราง) และให้บริการเดินรถและบำรุงรักษา รวมถึงเป็นผู้จัดเก็บค่าโดยสาร (PPP Net Cost) มีระยะเวลาสัมปทานทั้งสิ้น 33 ปี 3 เดือน โดยแบ่งการดำเนินงานออกเป็น 2 ระยะ คือ ระยะที่ 1: งานออกแบบและก่อสร้างงานโยธา พร้อมติดตั้งระบบและขบวนรถไฟฟ้า เป็นระยะเวลา 3 ปี 3 เดือน และระยะที่ 2 งานให้บริการเดินรถและบำรุงรักษา เป็นระยะเวลา 30 ปี ทั้งนี้โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูฯ มีมูลค่าลงทุนรวม 53,519.50 ล้านบาท และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองฯ มีมูลค่าลงทุนรวม 51,931.15 ล้านบาท
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42751
Location: NECTEC

PostPosted: 07/12/2016 10:28 am    Post subject: Reply with quote

กลุ่ม BRS คว้ารถไฟฟ้าทั้งสีชมพู-เหลือง หลังเสนอผลตอบแทนดีที่สุด
โดย MGR Online
6 ธันวาคม 2559 17:45 น. (แก้ไขล่าสุด 6 ธันวาคม 2559 18:40 น.)


รฟม.เผยกลุ่มกิจการร่วมค้า BRS ซึ่งมี “BTS-ราชบุรีโฮลดิ้ง และซิโน-ไทย” เสนอผลตอบแทนดีสุด ผ่านเกณฑ์ ประเมินสูงสุดรถไฟฟ้าสีชมพู และสีเหลืองทั้ง 2 สาย คณะกรรมการคัดเลือกฯ เร่งเจรจาต่อรอง ชง ครม.อนุมัติ มี.ค. 60 เซ็นสัญญา เม.ย. 60 ตามนโยบาย “สมคิด”

รายงานข่าวจากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) แจ้งว่า จากที่ รฟม.ได้ดำเนินการคัดเลือกผู้รับสัมปทานการลงทุนออกแบบและก่อสร้างงานโยธาการจัดหาระบบรถไฟฟ้า การให้บริการเดินรถไฟฟ้าและซ่อมบำรุงรักษา โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี ระยะทาง 34.5 กม. มีมูลค่าลงทุนรวม 53,519.50 ล้านบาท และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง ระยะทาง 30.4 กม. มูลค่าลงทุนรวม 51,931.15 ล้านบาท โดยคณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 35 แห่ง พ.ร.บ. เอกชนร่วมลงทุนฯ พ.ศ. 2556 ได้ประเมินเอกสารข้อเสนอซองที่ 1 (ด้านคุณสมบัติและเทคนิค) และเอกสารข้อเสนอซองที่ 2 (ข้อเสนอด้านการลงทุนและผลตอบแทน) เสร็จเรียบร้อยแล้ว ผลปรากฏว่ากิจการร่วมค้าบีเอสอาร์ (BSR Joint Venture) (ประกอบด้วย บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) (BTS Group) บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน)) เป็นเอกชนผู้ผ่านการประเมินสูงสุด

โดยหลังจากนี้คณะกรรมการฯ จะพิจารณากำหนดประเด็นเจรจาต่อรองและเริ่มการเจรจาต่อรองกับกิจการร่วมค้าบีเอสอาร์ (BSR Joint Venture) ให้ได้ข้อสรุปก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติประมาณเดือนมีนาคม-เมษายน 2560 การนี้ รฟม.เร่งรัดประเมินข้อเสนอเอกชนร่วมลงทุนฯ โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูฯ และสายสีเหลืองฯ เป็นไปตามนโยบายที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายไว้ ซึ่งเร็วกว่าแผนเดิมที่วางไว้ประมาณ 1 เดือน คาดว่าจะสามารถลงนามสัญญาสัมปทานได้ภายในเดือนเมษายน 2560

สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูฯ และสายสีเหลืองฯ นั้น เป็นโครงการในรูปแบบการร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน โดย รฟม.ลงทุนค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินและเอกชนผู้รับสัมปทานลงทุนด้านโครงสร้างงานโยธา งานระบบและขบวนรถไฟฟ้า (รถไฟฟ้ารางเดี่ยวแบบคร่อมราง) และให้บริการเดินรถและบำรุงรักษา รวมถึงเป็นผู้จัดเก็บค่าโดยสาร (PPP Net Cost) มีระยะเวลาสัมปทานทั้งสิ้น 33 ปี 3 เดือน โดยแบ่งการดำเนินงานออกเป็น 2 ระยะ คือ ระยะที่ 1 งานออกแบบและก่อสร้างงานโยธา พร้อมติดตั้งระบบและขบวนรถไฟฟ้า เป็นระยะเวลา 3 ปี 3 เดือน และระยะที่ 2 งานให้บริการเดินรถและบำรุงรักษา เป็นระยะเวลา 30 ปี

//-------------------


กลุ่มบีทีเอสคว้ารถไฟฟ้าสายสีชมพู-สีเหลืองแสนล้าน
ทีมล่าความจริง
วันที่ 06 ธันวาคม 2559 | เปิดดู 39 ครั้ง


การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย หรือรฟม. ประกาศให้ กลุ่มบีทีเอสและพันธมิตร เป็นผู้ชนะการประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสายสีเหลืองมูลค่ากว่า 1 แสนล้านบาท
วันนี้ รฟม.ได้ประกาศผลการคัดเลือกเอกชนที่จะเป็นผู้ได้รับสัมปทานการลงทุนออกแบบและก่อสร้างงานโยธาการจัดหาระบบรถไฟฟ้า การให้บริการเดินรถไฟฟ้าและซ่อมบำรุงรักษา 2 โครงการ คือ โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง

ผลปรากฎว่า กิจการร่วมค้าบีเอสอาร์ (BSR Joint Venture) ซึ่งประกอบด้วย บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอสกรุ๊ป บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ชนะการประมูลด้วยเกณฑ์การประเมินสูงสุดทั้ง 2 โครงการ ชนะคู่แข่ง คือ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (บีอีเอ็ม) ที่ยื่นซองประมูลทั้ง 2 โครงการเช่นกัน

โดยวันพรุ่งนี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย เพื่อรับทราบผลการประมูล หลังจากนั้น คณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 35 แห่ง พ.ร.บ. เอกชนร่วมลงทุนฯ พ.ศ.2556 จะกำหนดประเด็นเจรจาต่อรองและเริ่มการเจรจาต่อรองกับกิจการร่วมค้าบีเอสอาร์ ให้ได้ข้อสรุปก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติประมาณเดือนมีนาคม-เมษายน 2560
สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี มีมูลค่าลงทุนรวม 53,519 ล้านบาท ซึ่งภาครัฐจะสนับสนุนค่าก่อสร้างงานโยธาไม่เกิน 20,595 ล้านบาท ขณะที่โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองฯ มีมูลค่าลงทุนรวม 51,931 ล้านบาท ภาครัฐจะสนับสนุนค่าก่อสร้างงานโยธา 22,354 ล้านบาท
โดยทั้ง 2 โครงการ จะกำหนดระยะเวลาก่อสร้างงานโยธา พร้อมติดตั้งระบบและขบวนรถไฟฟ้า 3 ปี 3 เดือน และภาครัฐจะให้สัมปทานเอกชนเดินรถเป็นเวลา 30 ปี

https://www.youtube.com/watch?v=j-OYxwkeoM8
//--------------------------------------

‘บีเอสอาร์’คว้าประมูลรถไฟฟ้า 2 สาย
โพสต์ทูเดย์
07 ธันวาคม 2559 เวลา 08:06 น.



กลุ่มบีเอสอาร์คว้าประมูลรถไฟฟ้า 2 สาย สีชมพู-เหลือง ลงทุนกว่า 1.05 แสนล้าน

นายพีระยุทธ สิงห์พัฒนากุล ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยถึงผลการเปิดซองประกวดโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี ระยะทาง 34.5 กิโลเมตร (กม.) วงเงิน 53,519 ล้านบาท และสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง ระยะทาง 30.4 กม. วงเงิน 51,931 ล้านบาท ว่า กิจการร่วมค้าบีเอสอาร์ (BSR Joint Venture) ที่มี บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS Group), บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น และบริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง เป็นผู้เสนอราคาต่ำสุดทั้งสอง โครงการ

นอกจากนี้ ยังเสนอเงื่อนไขเพิ่มเติมในซองที่ 3 ซึ่งจะนำรายละเอียดข้อเสนอมาประกอบการพิจารณาด้วย โดยมีข้อเสนอว่าจะดำเนินการเชื่อมต่อสายสีเหลือง ซึ่งสิ้นสุดที่สถานีลาดพร้าว บริเวณแยกรัชดา-ลาดพร้าว จะเชื่อมต่อเส้นทางไปตามแนวถนนรัชดาภิเษก ผ่านศาลอาญาเพื่อเชื่อมกับสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต บริเวณแยกรัชโยธิน ระยะทาง 2.6 กม. และจะเชื่อมต่อสายสีชมพู ซึ่งแนวเส้นทางจะผ่านบริเวณถนนแจ้งวัฒนะไปยังปากเกร็ดนั้นจะมีการเชื่อมต่อเข้าไปยังเมืองทองธานี ระยะทาง 2.8 กม.ด้วย

ด้านแหล่งข่าวจาก รฟม. เปิดเผยว่า คณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 35 แห่ง พ.ร.บ.การให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2556 โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองและสีชมพูจะดำเนินการเจรจาต่อรองกับเอกชนผู้ชนะการคัดเลือก ก่อนสรุปผลเข้าสู่คณะกรรมการ รฟม.และเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้ความเห็นชอบต่อไป เพื่อเร่งรัดการลงนามสัญญาให้แล้วเสร็จก่อนเดือน เม.ย. 2560

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ ยืนยันว่า มีความพร้อมทั้งด้านการเงินและการหาผู้ร่วมทุนเพื่อดำเนินโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าทั้งสองสาย พร้อมกับวางแผนการลงทุนทางด้านอสังหาริมทรัพย์ตามแนวรถไฟฟ้าดังกล่าวว่าจะร่วมทุนกับบริษัท แสนสิริ เพื่อก่อสร้างคอนโดมิเนียม

ทั้งนี้ โครงการรถไฟฟ้า 2 สายใช้รูปแบบความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน โดย รฟม.ลงทุนด้านการจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน ผู้รับสัมปทานลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานทางโยธา ระบบเครื่องกลและไฟฟ้า และให้บริการการจัดการเดินรถและบำรุงรักษา ระยะเวลา 33 ปี 3 เดือน

//------------

'บีทีเอส' คว้าประมูลรถไฟฟ้าเบียดชนะ 'ช.การช่าง'
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
วันที่ 07 ธันวาคม 2559, 09:15

"บีทีเอส-ราชบุรี-ซิโนไทย" คว้าประมูลรถไฟฟ้าสายสีชมพู-เหลือง มูลค่ากว่าแสนล้าน ด้าน "รฟม." เตรียมเจรจาผลประโยชน์และเงินอุดหนุนจากภาครัฐ

แหล่งข่าวจากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่าคณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 35 แห่ง พ.ร.บ.การให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (พีพีพี) ได้ประเมินเอกสารข้อเสนอที่ 2 ด้านการลงทุนและผลตอบแทนโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี มีมูลค่าลงทุนรวม 53,519.50 ล้านบาท ส่วนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง มีมูลค่าลงทุนรวม 51,931.15 ล้านบาท ช่วงลาดพร้าว-สำโรง รวมมูลค่า 2 โครงการอยู่ที่ 105,450.65 ล้านบาทเรียบร้อยแล้ว

โดยสรุปผลปรากฏว่ากิจการร่วมค้าบีเอสอาร์ (BSR Joint Venture) ประกอบด้วย บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS Group บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ RATCH และบริษัทซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน)หรือ STEC เป็นผู้เสนอราคาต่ำสุดและผ่านประเมินทั้ง 2 โครงการ

“รฟม.ได้เร่งรัดประเมินข้อเสนอของโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสายสีเหลือง ตามนโยบายของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งเร็วกว่าแผนเดิมที่วางไว้ประมาณ 1 เดือน” แหล่งข่าว กล่าว

หลังจากนี้คณะกรรมการฯ มาตรา 35 จะพิจารณากำหนดประเด็นต่อรองและเริ่มการเจรจากับกิจการร่วมค้าบีเอสอาร์ ให้ได้ข้อสรุปก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาอนุมัติผู้ชนะการประมูลในเดือน มี.ค. - เม.ย. 2560 คาดว่าจะสามารถลงนามสัญญาสัมปทานได้ภายในเดือน เม.ย.2560

เตรียมเจรจาเพิ่มกลุ่มBSRเพิ่ม

แหล่งข่าวจากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย กล่าวว่า คณะกรรมการฯ มาตรา 35 โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองและสีชมพู ที่มีนายธีรพันธ์ เตชะศิรินุกูล รองผู้ว่าการ รฟม.ด้านกลยุทธ์และแผนเป็นประธาน จะเจรจากับกิจการร่วมค้าบีเอสอาร์เพิ่มเติม โดยจะนำข้อเสนออื่นๆในซองที่ 3 มาประกอบการเจรจา พร้อมทั้งเจรจาเรื่องเงินอุดหนุนที่ภาครัฐจะจ่ายให้

โดยกิจการร่วมค้าบีเอสอาร์ ได้ยื่นข้อเสนอเพิ่มเติมซองที่ 3 ว่า จะลงทุนขยายรถไฟฟ้าสายสีเหลืองจากแยกรัชดาภิเษกไปอีก 2 สถานีระยะทาง 2.6 กิโลเมตร เพื่อเชื่อมกับรถไฟฟ้าสายสีเชียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต บริเวณแยกรัชโยธินและจะขยายรถไฟฟ้าสายสีชมพูอีก 2.8 กิโลเมตร เพื่อเชื่อมต่อไปยังเมืองทองธานี

สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูช่วงแคราย-มีนบุรี ระยะทาง 34.5 กิโลเมตร วงเงิน 53,519 ล้านบาทและสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรงระยะทาง 30.4 กิโลเมตร วงเงิน 51,931 ล้านบาทเป็นโครงการรูปแบบพีพีพี โดย รฟม. ลงทุนค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน ด้านเอกชนผู้รับสัมปทานลงทุนด้านโครงสร้างงานโยธา งานระบบและขบวนรถไฟฟ้า (รถไฟฟ้ารางเดี่ยวแบบคร่อมราง) และให้บริการเดินรถและบำรุงรักษา รวมถึงเป็นผู้จัดเก็บค่าโดยสาร (PPP Net Cost) มีระยะเวลาสัมปทานทั้งสิ้น 33 ปี 3 เดือน

แบ่งก่อสร้างออกเป็น2ระยะ

การดำเนินงานจะแบ่งออกเป็น 2 ระยะ ระยะที่ 1 งานออกแบบและก่อสร้างงานโยธา พร้อมติดตั้งระบบและขบวนรถไฟฟ้าเป็นระยะเวลา 3 ปี 3 เดือน และระยะที่ 2 งานให้บริการเดินรถและบำรุงรักษา เป็นระยะเวลา 30 ปี

โดย รฟม. ได้เปิดให้เอกชนยื่นข้อเสนอร่วมประมูลทั้ง 2 โครงการเมื่อวันที่ 7 พ.ย.ที่ผ่านมา ปรากฏว่าทั้ง 2 โครงการมีผู้ร่วมประมูล 2 ราย ได้แก่ กิจการร่วมค้าบีเอสอาร์ และบริษัททางด่วนรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM ซึ่งมีบริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทแม่

2กลุ่มผ่านพิจารณาด้านเทคนิค

ก่อนหน้านี้คณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 35 แห่งพระราชบัญญัติการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (พีพีพี) ได้เปิดซองข้อเสนอที่ 1 ด้านคุณสมบัติและเทคนิค โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง ไปเมื่อวันที่ 17 พ.ย. ที่ผ่านมา

โดยปรากฏว่าผู้ยื่นข้อเสนอทั้ง 2 กลุ่มผ่านการพิจารณาด้านคุณสมบัติและเทคนิค จากนั้นได้เปิดข้อเสนอซองที่ 2 ด้านการลงทุนและผลตอบแทนเมื่อวันที่ 29 พ.ย. ที่ผ่านมา ก่อนสรุปให้กิจการร่วมค้าบีเอสอาร์ เป็นผู้ผ่านการคัดเลือกด้วยคะแนนสูงสุด

ชิโน-ไทยพร้อมลงมือก่อสร้าง

ก่อนหน้านี้นายวัลลภ รุ่งกิจวรเสถียร ประธานกรรมการบริหารบริษัทซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) พันธมิตรกลุ่มบีทีเอส กล่าวว่าหากกลุ่มได้รับคัดเลือกให้เป็นผู้ลงทุนโครงการรถไฟฟ้า ในส่วนของซิโน-ไทยฯ พร้อมที่จะเร่งจัดการในส่วนของการออกแบบงานก่อสร้าง คาดว่าจะใช้เวลาส่วนนี้ประมาณ 6 เดือน แต่ข้อดีคือเราสามารถออกแบบไปก่อสร้างไปได้ มั่นใจว่าถ้าได้รับการคัดเลือกจริงภายใน 3-4 เดือน น่าจะตอกเสาเข็มงานก่อสร้างได้ทันที

“คีรี”ลั่นพร้อมลงทุนทั้ง2โครงการ

เช่นเดียวกับนายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานคณะกรรมการบริหารบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน)หรือบีทีเอส ระบุก่อนหน้านี้ว่าบริษัทมีความชำนาญจึงได้เสนอข้อเสนอพิเศษในการเชื่อมต่อของเส้นทางไปในจุดที่มีผู้โดยสารเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นข้อเสนอนอกเหนือจากทีโออาร์ที่กำหนดไว้ โดยเสนอจุดเชื่อมต่อของสายสีชมพูเข้าไปยังอิมแพ็ค เมืองทองธานี ส่วนสายสีเหลืองจะขยายเส้นทางเพิ่มบริเวณรัชดาแยกรัชโยธิน เพื่อเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีเขียว

นายคีรี ย้ำว่าบริษัทมีสภาพคล่องเพียงพอหากชนะการประมูลทั้ง 2 โครงการ สามารถจัดสรรระบบและการเดินรถทั้ง 2 เส้นทางได้ ก็จะเป็นโครงการที่มีกำไร


Last edited by Wisarut on 07/12/2016 11:47 pm; edited 1 time in total
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42751
Location: NECTEC

PostPosted: 07/12/2016 11:45 pm    Post subject: Reply with quote

รถไฟฟ้ายุค คสช. กระจายโครงการผู้รับเหมาร่วมก่อสร้าง
พิกัดเศรษฐกิจ
วันที่ 07 ธันวาคม 2559


การประมูลโครงการรถไฟฟ้าในยุครัฐบาล คสช.ถือว่าบริษัทก่อสร้างขนาดใหญ่ต่างยิ้มกันได้ทั่วหน้า เพราะถ้าดูจากชื่อบริษัทที่ได้งานล้วนเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ ที่ได้งานมาตั้งแต่ยุคก่อน คสช. พอมายุค คสช.ถือว่าสายยังแข็งต่างได้งานไม่ขาดตอน ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มอิตาเลียนไทย กลุ่ม ช.การช่าง กลุ่มซิโน-ไทย และกลุ่มยูนิคเอ็นจิเนียริ่งฯ

โครงการใหญ่ที่ประมูลเสร็จเดือนธันวาคม 2557 หลัง คสช.เข้าบริหารประเทศ เมื่อ 22 พ.ค.2557 เพียงแค่ประมาณ 7 เดือนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย

โครงการใหญ่ต่อมา ที่รฟม.เพิ่งประกาศเมื่อวานนี้คือโครงการไฟฟ้าสายสีชมพูและสายสีเหลือง ที่เพิ่งยื่นซองประมูลไปเมื่อเดือนที่แล้ว และรฟม.เพิ่งประกาศผลการคัดเลือกเอกชนที่จะเป็นผู้ได้รับสัมปทานการลงทุน

โครงการนี้แม้จะมีบริษัทบีอีเอ็ม ซึ่งเป็นบริษัทลูกของกลุ่มช.การช่าง เข้าแข่งขันแต่แพ้ อย่างไรก็ตาม บีอีเอ็มกำลังเจรจากับรฟม.เดินรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย หัวลำโพง-บางแค บางซื่อ-ท่าพระ และจุดเชื่อมต่อ 1 กม.รถไฟฟ้าสีม่วงสถานีเตาปูน กับสถานีบางซื่อสายสีน้ำเงิน

ชงอนุมัติผลประมูลรถไฟฟ้า กิจการร่วมค้าบีเอสอาร์เสนอเงื่อนไขดีสุดทั้งสายสีชมพู-สีเหลือง
บอร์ด รฟม.เตรียมพิจารณารับรองผลการคัดเลือกเอกชนเข้ามาดำเนินการโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองและชมพู หลัง รฟม.ประกาศให้กลุ่มกิจการร่วมค้าบีเอสอาร์ ชนะการประมูลทั้ง 2 โครงการ
ในวันนี้ มีการประชุมคณะกรรมการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย หรือ บอร์ด รฟม. เพื่อพิจารณาผลการคัดเลือกผู้ผ่านการประเมินสูงสุดสัมปทานลงทุนด้านโครงสร้างงานโยธา งานระบบและขบวนรถไฟฟ้า และให้บริการเดินรถบำรุงรักษาโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง

โดยกิจการร่วมค้าบีเอสอาร์ ที่ประกอบด้วย บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) เป็นเอกชนผู้ผ่านการประเมินสูงสุด

นอกจากนี้ รฟม.จะรายงานความคืบหน้าการเจรจากับบริษัททางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ หรือ BEM ให้เข้ามาติดตั้งระบบเดินรถโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายช่วงหัวลำโพง-บางแค และบางซื่อ-ท่าพระ ให้บอร์ด รฟม.รับทราบด้วย

https://www.youtube.com/watch?v=w6BKexEshMQ
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42751
Location: NECTEC

PostPosted: 07/12/2016 11:48 pm    Post subject: Reply with quote

ความคืบหน้าการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายต่าง ๆ
ครอบครัวข่าว
วันที่ 07 ธันวาคม 59 เวลา12:24:10น.






ความคืบหน้าการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายต่าง ๆ ที่กำลังดำเนินการก่อสร้าง ซึ่งเมื่อแล้วเสร็จจะทำให้เกิดเป็นโครงข่ายรถไฟฟ้าที่จะทำให้การเดินทางของคน กทม.และปริมณฑล สะดวกและรวดเร็วขึ้น

โครงการแรกที่มีการถามถึงกันมาก คือ โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ช่วงหัวลำโพง-บางแค และช่วงบางซื่อ-ท่าพระ ล่าสุดการก่อสร้างคืบหน้า 86.72% และมีกำหนดเปิดใช้ภายในปี 2662 โดยโครงการนี้ถือว่ามีความสำคัญมาก เมื่อโครงการรถไฟฟ้าใต้ดิน สายสีน้ำเงิน เสร็จสมบูรณ์ ทั้งโครงการจะเป็นเส้นทางวงกลม หรือ วงแหวน และโครงการที่จะเกิดขึ้นในอนาคตจะเชื่อม หรือแยกออกไปจากโครงการสายสีน้ำเงิน ซึ่งรวมถึงสายสีม่วง บางใหญ่-เตาปูน ด้วย

โครงการที่ 2 คือ สายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ล่าสุดคืบหน้า 99.83% และเตรียมเปิดให้บริการต้นปีหน้า และช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ที่ผ่านแยกรัชโยธิน และเป็นที่มาของการต้องทุบสะพาน และสร้างทางลอด หรือ อุโมงค์ทดแทน ล่าสุดคืบหน้า 17.10%


ซึ่งโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวนี้ เมื่อเสร็จสมบูรณ์จะทำให้คนจากจังหวัดปทุมธานี และใกล้สามารถใช้บริการรถไฟฟ้าเดินทางไปยังจังหวัดสมุทรปราการได้สะดวกและรวดเร็ว
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42751
Location: NECTEC

PostPosted: 08/12/2016 6:44 pm    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
กลุ่ม BRS คว้ารถไฟฟ้าทั้งสีชมพู-เหลือง หลังเสนอผลตอบแทนดีที่สุด
โดย MGR Online
6 ธันวาคม 2559 17:45 น. (แก้ไขล่าสุด 6 ธันวาคม 2559 18:40 น.)


มูลค่าหุ้น ‘กลุ่มบีเอสอาร์’ พุ่ง
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
วันที่ 08 ธันวาคม 2559, 09:10

นักวิเคราะห์ประสานเสียงเพิ่ม "มูลค่าหุ้น" กลุ่มบีเอสอาร์ หลัง "ชนะประมูล" รถไฟฟ้าสายสีชมพูและเหลือง มูลค่ารวม 1.05 แสนล้านบาท

กรณีการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ประกาศผู้ชนะการประมูลรถไฟฟ้าสายสีชมพูและเหลือง มูลค่ารวม 1.05 แสนล้านบาท คือ กลุ่มบริษัทร่วมทุนการค้า บีเอสอาร์ ประกอบด้วย บริษัทบีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) บริษัทซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น (STEC) และบริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง (RATCH) โดยต่อจากนี้คณะกรรมการจะพิจารณาเจรจาและอนุมัติส่งต่อให้ทางคณะรัฐมนตรีพิจารณาลงนามต่อไป ซึ่งกระบวนการดังกล่าวจะแล้วเสร็จภายในเดือน มี.ค.-เม.ย. 2560

บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) มองว่า บีทีเอส ในฐานะที่เป็นหนึ่งในผู้เข้าร่วมประมูลของกลุ่ม BSR ซึ่งโครงการทั้งสองจะมีอายุการดำเนินงาน 33 ปี 3 เดือน โดยเป็นงานเดินรถไฟฟ้า 30 ปี ซึ่งมีบีทีเอสเป็นผู้ดำเนินการหลักเบื้องต้นประเมินมูลค่าเพิ่มของโครงการทั้งสองที่มีต่อบีทีเอส ประมาณ 0.9 บาทต่อหุ้น ภายใต้สมมติฐานการถือหุ้นของบีทีเอสในบีเอสอาร์ 50%

ด้าน บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส ระบุว่าเบื้องต้นข้อดีคือ บีทีเอสมีโอกาสที่จะแสวงหาผลประโยชน์ระยะยาวจากการบริหารการเดินรถ 30 ปี อีกทั้งยังเป็นการเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายปัจจุบัน ทำให้มีผู้โดยสารสามารถเพิ่มในระบบ

นอกจากนี้ บริษัทวี จี ไอ โกลบอล มีเดีย (VGI) ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มก็มีโอกาสจะโฆษณาบนรถไฟฟ้าได้ด้วย เช่นเดียวกับโอกาสต่อธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ร่วมกับ บริษัทแสนสิริ (SIRI) ในนามบริษัทร่วมทุน

อย่างไรก็ตาม ยังต้องติดตามหลายประเด็น ได้แก่ ส่วนแบ่งรายได้ที่ให้กับทางการ ซึ่งในเรื่องนี้ตัวอย่างเช่น รถไฟฟ้ากรุงเทพ (BMCL) เดิม ต้องขาดทุนเป็น 10 ปีกว่าจะกลับมากำไร แม้เส้นทางอยู่ในเมือง รวมถึงเรื่องจำนวนผู้โดยสารที่จะเพิ่มขึ้นอนาคตจะทันกับส่วนแบ่งรายได้ที่ต้องจ่ายให้รัฐหรือไม่ อีกทั้งการเป็นรถไฟฟ้าชานเมือง กรณีรถไฟฟ้าสายสีม่วงก็ประสบปัญหามีผู้ใช้น้อยกว่าเป้า และสุดท้ายคือฐานะการเงินจะต้องใช้เงินกู้อีกจำนวนมาก เพราะต้องลงทุนก่อน ซึ่งมูลค่าทั้งสองโครงการ1แสนล้านบาท

ขณะที่ บล.เอเซียพลัส ได้ปรับเพิ่มประมาณการ ซิโน-ไทย และ บีทีเอส หลังชนะประมูลครั้งนี้ สำหรับ บีทีเอส ประมาณการเดิมรวมการชนะประมูลไว้เพียง 1 สาย คือ สีชมพู ตามหลักอนุรักษนิยม โดยหลังจากนี้ยังมีประเด็นที่ต้องติดตามคือ เรื่องผลตอบแทนจากการลงทุนของโครงการ เนื่องจากรูปแบบการลงทุนที่เป็น PPP Net Cost ซึ่งเอกชนต้องลงทุนเองทั้งงานโยธา วางระบบ และเดินรถไฟฟ้าเอง รวมถึงต้องแบกรับความเสี่ยงจากรายได้ค่าโดยสารอาจทำให้ผลตอบแทนของโครงการในช่วงเริ่มต้นขาดทุนได้ ส่วนกำไรระยะ 1-2 ปี ของบีทีเอสจะยังไม่เด่นเนื่องจากธุรกิจอยู่ช่วงลงทุน แต่ระยะยาวกำไรจะเติบโตสูงตั้งแต่ปี 2561/62 เป็นต้นไปจากการเข้าสู่ช่วงพีคของการโอนอสังหาฯ ของบริษัทร่วมทุนบีทีเอสและแสนสิริ ตามด้วยการทยอยเปิดรถไฟฟ้าหลายเส้นทาง เริ่มจากเขียวใต้ในปี 2561 และเขียวเหนือในปี 2563

ส่วน ซิโน-ไทย ซึ่งจะได้เป็นผู้รับเหมาหลักในงานก่อสร้าง มูลค่ารวมกว่า 4 หมื่นล้านบาท รวมกับโอกาสได้งานก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้มที่ร่วมประมูลกับ ช.การช่าง (CK) และรถไฟทางคู่ หากประเมินให้ซิโน-ไทย ชนะงานประมูลในสัดส่วน 20% คาดว่าปี 2560 บริษัทจะได้งานรวมกันไม่ต่ำกว่า 8 หมื่นล้านบาท มากกว่าสมมุติฐานเดิมถึง 2 เท่า ฝ่ายวิจัยจึงปรับประมาณการกำไร ปี 2560-2561 ขึ้น 8% และ 14% ตามลำดับ
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> โครงการระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคต All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 143, 144, 145 ... 278, 279, 280  Next
Page 144 of 280

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©