View previous topic :: View next topic
Author
Message
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42783
Location: NECTEC
Posted: 20/05/2021 6:17 pm Post subject:
รฟม. เผยความคืบหน้าในการดำเนินงานโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล ช่วงแคราย - ลำสาลี (บึงกุ่ม) เตรียมก่อสร้างฐานรากโครงการรถไฟฟ้าฯ ไปพร้อมกับโครงการทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือ ตอน N2
การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย
20 พฤษภาคม 2564 เวลา 18:16 น.
วันนี้ (20 พฤษภาคม 2564) นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการ รฟม. ครั้งที่ 5/2564 ว่า คณะกรรมการ รฟม. ได้มีมติอนุมัติให้ รฟม. ดำเนินโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล ช่วงแคราย - ลำสาลี (บึงกุ่ม) ตามขั้นตอนในพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 ตามมติคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) ในคราวประชุมครั้งที่ 1/2563 เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2563 และเป็นไปตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2561 โดยให้ รฟม. นำเสนอขอความเห็นชอบในการดำเนินโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาลฯ จากกระทรวงคมนาคม และคณะรัฐมนตรี ต่อไป
พร้อมกันนี้ คณะกรรมการ รฟม. ได้มีมติอนุมัติให้ รฟม. ดำเนินการก่อสร้างฐานรากโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาลฯ ไปพร้อมกับโครงการทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือ ตอน N2 ในความรับผิดชอบของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) โดยมีกรอบวงเงินรวม 1,470 ล้านบาท ซึ่งประกอบด้วย ค่างานก่อสร้างฐานรากโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาลฯ ในส่วนที่ซ้อนทับกับโครงการทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือ ตอน N2 จำนวน 1,418 ล้านบาท (รวมค่า Provisional Sum) และค่าจ้างที่ปรึกษาควบคุมงานก่อสร้าง จำนวน 52 ล้านบาท และได้มีมติอนุมัติแหล่งเงินก่อสร้างฐานรากโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาลฯ โดยให้กระทรวงการคลังพิจารณาจัดหาแหล่งเงินกู้ที่เหมาะสม และให้สำนักงบประมาณพิจารณาจัดสรรเงินงบประมาณประจำปีเป็นรายได้แก่ รฟม. ให้เพียงพอเพื่อการชำระหนี้แก่แหล่งเงินกู้ ทั้งในส่วนเงินต้น ดอกเบี้ย ค่าใช้จ่ายในการกู้เงิน และค่าใช้จ่ายอื่นที่เกี่ยวข้อง ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กระทรวงการคลังจะตกลงกับ รฟม. ต่อไป
ทั้งนี้ รฟม. จะเร่งรัดนำเสนอเรื่องดังกล่าว ไปยังกระทรวงคมนาคม เพื่อพิจารณานำเรื่องเสนอขออนุมัติจากคณะรัฐมนตรีโดยเร็ว เพื่อให้สอดคล้องไปกับการดำเนินงานโครงการทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือ ตอน N2 ที่ปัจจุบัน กทพ. อยู่ในระหว่างเตรียมเสนอขออนุมัติดำเนินโครงการจากคณะรัฐมนตรี โดยทั้งสองหน่วยงานมีแผนจัดการประกวดราคาหาผู้รับจ้างก่อสร้างร่วมกันภายในเดือนตุลาคม 2564 อันจะเป็นประโยชน์ในด้านการลดภาระค่าก่อสร้าง ย่นระยะเวลาการก่อสร้าง และลดปัญหาการจราจรระหว่างการก่อสร้าง ทั้งยังช่วยลดผลกระทบในระหว่างก่อสร้างต่อประชาชนให้เหลือน้อยที่สุดอีกด้วย
สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล ช่วงแคราย ลำสาลี (บึงกุ่ม) เป็นระบบรถไฟฟ้ารางเดี่ยว (Monorail) มีโครงสร้างทางวิ่งยกระดับ จำนวน 20 สถานี ระยะทาง 22.1 กิโลเมตร โดยพื้นที่โครงการฯ มีส่วนซ้อนทับกับโครงสร้างทางด่วนขั้นที่ 3 ตอน N2 บนแนวถนนประเสริฐมนูกิจ เป็นระยะทาง 7.2 กิโลเมตร (จำนวน 6 สถานี) ซึ่งรูปแบบเบื้องต้นของฐานรากโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาลฯ จะก่อสร้างโครงสร้างทางวิ่งเป็นคานคอนกรีตที่วางบนคานขวาง และ Bearing Shoe และออกแบบให้มีเสาตอม่อสายสีน้ำตาลแทรกระหว่างเสาทางด่วนที่ก่อสร้างไว้แล้ว มีระยะระหว่างช่วงตอม่อโดยทั่วไปประมาณ 25 30 เมตร
บอร์ด รฟม.สั่งลุยรถไฟฟ้าสีน้ำตาล แคราย-ลำสาลี(บึงกุ่ม)
*ไฟเขียว 1,470 ล้านสร้างฐานรากพร้อมทางด่วน N2
*คาด ต.ค.64 เปิดประมูลส่วนทับซ้อนร่วมกับ กทพ.!!
https://www.facebook.com/TransportDailynews/posts/2908591099362389
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42783
Location: NECTEC
Posted: 20/05/2021 9:39 pm Post subject:
บอร์ด รฟม.เคาะลงทุน PPP สีน้ำตาล เร่งสร้างฐานราก 1.47 พัน ล.พร้อมด่วน N2
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: 20 พฤษภาคม 2564 เวลา 18:41 น.
ปรับปรุง: 20 พฤษภาคม 2564 เวลา 18:41 น.
บอร์ด รฟม.ไฟเขียว ลงทุน PPP รถไฟฟ้าสีน้ำตาลช่วง แคราย-ลำสาลี (บึงกุ่ม) เร่งชง ครม. อนุมัติสร้างฐานราก พร้อมกับทางด่วน N2 วงเงิน 1.47 พันล้านบาท ช่วงทับซ้อน 7.2 กม.คาดประมูลใน ต.ค. 64
นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟม. ครั้งที่ 5/2564 วันที่ 20 พ.ค. ว่า คณะกรรมการ รฟม. ได้มีมติอนุมัติให้ รฟม. ดำเนินโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล ช่วงแคราย-ลำสาลี (บึงกุ่ม) ตามขั้นตอนในพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 ตามมติคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) ในคราวประชุมครั้งที่ 1/2563 เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2563 และเป็นไปตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2561 โดยให้ รฟม. นำเสนอขอความเห็นชอบในการดำเนินโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาลฯ จากกระทรวงคมนาคม และคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป
พร้อมกันนี้ บอร์ด รฟม. ได้มีมติอนุมัติให้ รฟม. ดำเนินการก่อสร้างฐานรากโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาลฯ ไปพร้อมกับโครงการทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือ ตอน N2 ในความรับผิดชอบของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) โดยมีกรอบวงเงินรวม 1,470 ล้านบาท ซึ่งประกอบด้วย ค่างานก่อสร้างฐานรากโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาลฯ ในส่วนที่ซ้อนทับกับโครงการทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือ ตอน N2 จำนวน 1,418 ล้านบาท (รวมค่า Provisional Sum) และค่าจ้างที่ปรึกษาควบคุมงานก่อสร้าง จำนวน 52 ล้านบาท
และได้มีมติอนุมัติแหล่งเงินก่อสร้างฐานรากโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาลฯ โดยให้กระทรวงการคลังพิจารณาจัดหาแหล่งเงินกู้ที่เหมาะสม และให้สำนักงบประมาณพิจารณาจัดสรรเงินงบประมาณประจำปีเป็นรายได้แก่ รฟม. ให้เพียงพอเพื่อการชำระหนี้แก่แหล่งเงินกู้ ทั้งในส่วนเงินต้น ดอกเบี้ย ค่าใช้จ่ายในการกู้เงิน และค่าใช้จ่ายอื่นที่เกี่ยวข้อง ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กระทรวงการคลังจะตกลงกับ รฟม. ต่อไป
ทั้งนี้ รฟม. จะเร่งรัดนำเสนอเรื่องดังกล่าว ไปยังกระทรวงคมนาคม เพื่อพิจารณานำเรื่องเสนอขออนุมัติจากคณะรัฐมนตรีโดยเร็ว เพื่อให้สอดคล้องไปกับการดำเนินงานโครงการทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือ ตอน N2 ที่ปัจจุบัน กทพ. อยู่ในระหว่างเตรียมเสนอขออนุมัติดำเนินโครงการจากคณะรัฐมนตรี โดยทั้งสองหน่วยงานมีแผนจัดการประกวดราคาหาผู้รับจ้างก่อสร้างร่วมกันภายในเดือน ต.ค. 2564 อันจะเป็นประโยชน์ในด้านการลดภาระค่าก่อสร้าง ย่นระยะเวลาการก่อสร้าง และลดปัญหาการจราจรระหว่างการก่อสร้าง ทั้งยังช่วยลดผลกระทบในระหว่างก่อสร้างต่อประชาชนให้เหลือน้อยที่สุดอีกด้วย
หลักการคือ รฟม.ได้ออกแบบฐานรากรถไฟฟ้าสีน้ำตาลไว้แล้ว เนื่องจากต้อวก่อสร้างไปพร้อมกับทางด่วน N2 เพื่อลดผลกระทบจึงจำเป็นต้องให้ผู้รับเหมาก่อสร้าง ทางด่วน N2 ช่วยทำส่วนฐานรากสายสีน้ำตาลด้วย โดยให้ กทพ. ออกประมูลฐานรากรถไฟฟ้าไปด้วยภายใต้แบบของ รฟม.
สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล ช่วงแคราย-ลำสาลี (บึงกุ่ม) เป็นระบบรถไฟฟ้ารางเดี่ยว (Monorail) มีโครงสร้างทางวิ่งยกระดับ จำนวน 20 สถานี ระยะทาง 22.1 กิโลเมตร วงเงินลงทุนประมาณ 4.8 หมื่นล้านบาท โดยพื้นที่โครงการฯ มีส่วนซ้อนทับกับโครงสร้างทางด่วนขั้นที่ 3 ตอน N2 บนแนวถนนประเสริฐมนูกิจ เป็นระยะทาง 7.2 กิโลเมตร (จำนวน 6 สถานี) ซึ่งรูปแบบเบื้องต้นของฐานรากโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาลฯ จะก่อสร้างโครงสร้างทางวิ่งเป็นคานคอนกรีตที่วางบนคานขวาง และ Bearing Shoe และออกแบบให้มีเสาตอม่อสายสีน้ำตาลแทรกระหว่างเสาทางด่วนที่ก่อสร้างไว้แล้ว มีระยะระหว่างช่วงตอม่อโดยทั่วไปประมาณ 25-30 เมตร
คืบหน้ารถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล-ทางด่วนขั้น 3 ถึงไหนแล้ว เช็กที่นี่
เผยแพร่: 20 พฤษภาคม 2564 เวลา 18:52 น.
รฟม.เดินหน้ารถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล ช่วงแคราย - ลำสาลี (บึงกุ่ม) วงเงิน 4.8 หมื่นล้าน เล็งก่อสร้างฐานรากพร้อมทางด่วนขั้นที่ 3 ตอน N2 เตรียมชงคลังหาแหล่งเงินกู้ จ่อเปิดประมูล ต.ค.64
นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการ รฟม. ครั้งที่ 5/2564 ว่า คณะกรรมการ รฟม. ได้มีมติอนุมัติให้ รฟม. ดำเนินโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล ช่วงแคราย - ลำสาลี (บึงกุ่ม) วงเงิน 4.8 หมื่นล้านบาท ตามขั้นตอนในพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 ตามมติคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) ในคราวประชุมครั้งที่ 1/2563 เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2563 และเป็นไปตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2561 โดยให้ รฟม. นำเสนอขอความเห็นชอบในการดำเนินโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาลฯ จากกระทรวงคมนาคม และคณะรัฐมนตรี (ครม.)ต่อไป
ขณะเดียวกัน คณะกรรมการ รฟม. ได้มีมติอนุมัติให้ รฟม. ดำเนินการก่อสร้างฐานรากโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาลฯ ไปพร้อมกับโครงการทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือ ตอน N2 ในความรับผิดชอบของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) โดยมีกรอบวงเงินรวม 1,470 ล้านบาท ซึ่งประกอบด้วย ค่างานก่อสร้างฐานรากโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาลฯ ในส่วนที่ซ้อนทับกับโครงการทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือ ตอน N2 จำนวน 1,418 ล้านบาท (รวมค่า Provisional Sum) และค่าจ้างที่ปรึกษาควบคุมงานก่อสร้าง จำนวน 52 ล้านบาท และได้มีมติอนุมัติแหล่งเงินก่อสร้างฐานรากโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาลฯ โดยให้กระทรวงการคลังพิจารณาจัดหาแหล่งเงินกู้ที่เหมาะสม และให้สำนักงบประมาณพิจารณาจัดสรรเงินงบประมาณประจำปีเป็นรายได้แก่ รฟม. ให้เพียงพอเพื่อการชำระหนี้แก่แหล่งเงินกู้ ทั้งในส่วนเงินต้น ดอกเบี้ย ค่าใช้จ่ายในการกู้เงิน และค่าใช้จ่ายอื่นที่เกี่ยวข้อง ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กระทรวงการคลังจะตกลงกับ รฟม. ต่อไป ทั้งนี้รฟม. จะเร่งรัดนำเสนอเรื่องดังกล่าว ไปยังกระทรวงคมนาคม เพื่อพิจารณานำเรื่องเสนอขออนุมัติจากคณะรัฐมนตรีโดยเร็ว เพื่อให้สอดคล้องไปกับการดำเนินงานโครงการทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือ ตอน N2 ที่ปัจจุบัน กทพ. อยู่ในระหว่างเตรียมเสนอขออนุมัติดำเนินโครงการจากคณะรัฐมนตรี โดยทั้งสองหน่วยงานมีแผนจัดการประกวดราคาหาผู้รับจ้างก่อสร้างร่วมกันภายในเดือนตุลาคม 2564 อันจะเป็นประโยชน์ในด้านการลดภาระค่าก่อสร้าง ย่นระยะเวลาการก่อสร้าง และลดปัญหาการจราจรระหว่างการก่อสร้าง ทั้งยังช่วยลดผลกระทบในระหว่างก่อสร้างต่อประชาชนให้เหลือน้อยที่สุดอีกด้วย สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาลช่วงแคราย ลำสาลี (บึงกุ่ม) เป็นระบบรถไฟฟ้ารางเดี่ยว (Monorail) มีโครงสร้างทางวิ่งยกระดับ จำนวน 20 สถานี ระยะทาง 22.1 กิโลเมตร โดยพื้นที่โครงการฯ มีส่วนซ้อนทับกับโครงสร้างทางด่วนขั้นที่ 3 ตอน N2 บนแนวถนนประเสริฐมนูกิจ เป็นระยะทาง 7.2 กิโลเมตร (จำนวน 6 สถานี) ซึ่งรูปแบบเบื้องต้นของฐานรากโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาลฯ จะก่อสร้างโครงสร้างทางวิ่งเป็นคานคอนกรีตที่วางบนคานขวาง และ Bearing Shoe และออกแบบให้มีเสาตอม่อสายสีน้ำตาลแทรกระหว่างเสาทางด่วนที่ก่อสร้างไว้แล้ว มีระยะระหว่างช่วงตอม่อโดยทั่วไปประมาณ 25 30 เมตร
https://www.youtube.com/watch?v=Tf4bDPLeqww
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42783
Location: NECTEC
Posted: 23/05/2021 1:06 am Post subject:
บอร์ด รฟม.ไฟเขียวเคาะลงทุนสายสีน้ำตาลแคราย - ลำสาลี (บึงกุ่ม) วงเงิน1.47 พันล้านลุยเปิดประมูลต.ค.64
21 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 เวลา 08:58 น.
21 พ.ค. 2564 นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการ รฟม. ว่า คณะกรรมการ รฟม. ได้มีมติอนุมัติให้ รฟม. ดำเนินโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล ช่วงแคราย - ลำสาลี (บึงกุ่ม) ตามขั้นตอนในพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 ตามมติคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) ในคราวประชุมครั้งที่ 1/2563 เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2563 และเป็นไปตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2561 โดยให้ รฟม. นำเสนอขอความเห็นชอบในการดำเนินโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาลฯ จากกระทรวงคมนาคม และคณะรัฐมนตรี ต่อไป
นอกจากนี้ได้มีมติอนุมัติให้ รฟม. ดำเนินการก่อสร้างฐานรากโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาลฯ ไปพร้อมกับโครงการทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือ ตอน N2 ในความรับผิดชอบของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) โดยมีกรอบวงเงินรวม 1,470 ล้านบาท ซึ่งประกอบด้วย ค่างานก่อสร้างฐานรากโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาลฯ ในส่วนที่ซ้อนทับกับโครงการทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือ ตอน N2 จำนวน 1,418 ล้านบาท (รวมค่า Provisional Sum) และค่าจ้างที่ปรึกษาควบคุมงานก่อสร้าง จำนวน 52 ล้านบาท
และได้มีมติอนุมัติแหล่งเงินก่อสร้างฐานรากโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาลฯ โดยให้กระทรวงการคลังพิจารณาจัดหาแหล่งเงินกู้ที่เหมาะสม และให้สำนักงบประมาณพิจารณาจัดสรรเงินงบประมาณประจำปีเป็นรายได้แก่ รฟม. ให้เพียงพอเพื่อการชำระหนี้แก่แหล่งเงินกู้ ทั้งในส่วนเงินต้น ดอกเบี้ย ค่าใช้จ่ายในการกู้เงิน และค่าใช้จ่ายอื่นที่เกี่ยวข้อง ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กระทรวงการคลังจะตกลงกับ รฟม. ต่อไป
ทั้งนี้ รฟม. จะเร่งรัดนำเสนอเรื่องดังกล่าว ไปยังกระทรวงคมนาคม เพื่อพิจารณานำเรื่องเสนอขออนุมัติจากคณะรัฐมนตรี(ครม.)โดยเร็ว เพื่อให้สอดคล้องไปกับการดำเนินงานโครงการทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือ ตอน N2 ที่ปัจจุบัน กทพ. อยู่ในระหว่างเตรียมเสนอขออนุมัติดำเนินโครงการจากคณะรัฐมนตรี โดยทั้งสองหน่วยงานมีแผนจัดการประกวดราคาหาผู้รับจ้างก่อสร้างร่วมกันภายในเดือนตุลาคม 2564 อันจะเป็นประโยชน์ในด้านการลดภาระค่าก่อสร้าง ย่นระยะเวลาการก่อสร้าง และลดปัญหาการจราจรระหว่างการก่อสร้าง ทั้งยังช่วยลดผลกระทบในระหว่างก่อสร้างต่อประชาชนให้เหลือน้อยที่สุดอีกด้วย
สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล ช่วงแคราย ลำสาลี (บึงกุ่ม) เป็นระบบรถไฟฟ้ารางเดี่ยว (Monorail) มีโครงสร้างทางวิ่งยกระดับ จำนวน 20 สถานี ระยะทาง 22.1 กิโลเมตร โดยพื้นที่โครงการฯ มีส่วนซ้อนทับกับโครงสร้างทางด่วนขั้นที่ 3 ตอน N2 บนแนวถนนประเสริฐมนูกิจ เป็นระยะทาง 7.2 กิโลเมตร (จำนวน 6 สถานี) ซึ่งรูปแบบเบื้องต้นของฐานรากโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาลฯ จะก่อสร้างโครงสร้างทางวิ่งเป็นคานคอนกรีตที่วางบนคานขวาง และ Bearing Shoe และออกแบบให้มีเสาตอม่อสายสีน้ำตาลแทรกระหว่างเสาทางด่วนที่ก่อสร้างไว้แล้ว มีระยะระหว่างช่วงตอม่อโดยทั่วไปประมาณ 25 30 เมตร
https://www.thaipost.net/main/detail/103659
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42783
Location: NECTEC
Posted: 25/05/2021 11:46 pm Post subject:
บพท.หนุนมธ.ผนึกมทร.ธัญบุรี ดันระบบรางเชื่อมรังสิต-คลอง 6
วันที่ 25 พฤษภาคม 2564 เวลา 21.59 น.
...บพท.หนุนมธ.-มทร.ธัญบุรีและ 3 เทศบาลในพื้นที่เมืองปทุมธานีเตรียมผนึก กลุ่มไทยทีม ร่วมลงทุนเร่งขับเคลื่อนด้านการพัฒนาเมืองโดยใช้ระบบขนส่งมวลชนรูปแบบฟีดเดอร์เชื่อมโยงพื้นที่เศรษฐกิจจากสถานีรังสิตของรถไฟฟ้าสายสีแดงไปถึงฟิวเจอร์พาร์คก่อนต่อขยายไปเชื่อมถึงคลอง 6 ด้านกฎบัตรไทยเร่งระดมความเห็นจัดตั้งกองทุนพัฒนาระบบขนส่งมวลชน
รศ.ดร.ภาวิณี เอี่ยมตระกูล หัวหน้าชุดโครงการกลไกความร่วมมือในการส่งเสริมเศรษฐกิจท้องถิ่นผ่านพื้นที่การเรียนรู้ของจังหวัดปทุมธานี จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) เปิดเผยกับ UCDNEWS ว่า ได้รับทุนสนับสนุนจากหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่(บพท.) วงเงิน 1 ล้านบาทเพื่อดำเนินการขับเคลื่อนโครงการพัฒนาระบบฟีดเดอร์เชื่อมโยงในพื้นที่ปทุมธานีร่วมกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี(มทร.ธัญบุรี) ในการศึกษาความเป็นไปได้โครงการพัฒนาระบบฟีดเดอร์ด้วยการใช้พื้นที่คลองรังสิตประยูรศักดิ์ตั้งแต่ฟิวเจอร์พาร์คไปถึงมทร.ธัญบุรี
วัตถุประสงค์เพื่อให้เกิดการใช้ประโยชน์ในพื้นที่คลองอย่างเต็มประสิทธิภาพ ส่งเสริมให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว เนื่องจากพบว่ามีโครงการหมู่บ้านจัดสรรจำนวนมาก เหมาะเป็นจุดพักผ่อนหย่อนใจของครอบครัว พัฒนารูปแบบสวนหย่อมได้อีกหลายจุดแล้วเชื่อมโยงจุดต่างๆด้วยเรือโดยสารระบบไฟฟ้าให้บริการ พร้อมเปิดพื้นที่ค้าขายให้กับชุมชนตลอดแนวคลองดังกล่าว จึงเป็นการใช้พื้นที่สาธารณะให้เกิดประโยชน์
แม้ว่ากระทรวงคมนาคมโดยการทางพิเศษแห่งประเทศไทย(กทพ.) จะมีแผนก่อสร้างทางด่วนไปตามแนวถนนรังสิต-นครนายก แต่ยังไม่ใช่แนวทางแก้ไขปัญหาและการใช้ประโยชน์ของพื้นที่คลองให้เกิดประสิทธิภาพ การพัฒนาคลองสามารถเกิดประโยชน์ต่อชุมชนตลอดแนวคลองได้อย่างหลากหลายวิธีและเห็นผลชัด ประชาชนได้ประโยชน์จริง
นอกจากนั้นทราบว่ากลุ่มไทยทีม(ThaiTEAM) ยังพร้อมขับเคลื่อนโครงการรถไฟฟ้ารางเบาเชื่อมจากสถานีรังสิตของรถไฟฟ้าสายสีแดงไปถึงศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ครังสิตและโรงแรมเอเซียแอร์พอร์ตในเฟสแรก ก่อนที่จะขยายไปยังมทร.ธัญบุรีในเฟสถัดไป ซึ่งมธ.พร้อมเข้าไปช่วยศึกษาในเรื่องของการพัฒนาเมือง เชิงเทคนิค เรื่องการมีส่วนร่วมประชาชน คาดว่าภายหลังการเลือกตั้งท้องถิ่นแล่วเสร็จผู้บริหารเมืองปทุมธานีคงจะให้ความสนใจเข้ามาร่วมขับเคลื่อนเรื่องนี้
จังหวัดปทุมธานีคงต้องให้ความสำคัญและเร่งแก้ไขปัญหาจราจรในช่วงวิกฤติโควิด-19 นี้ก่อนที่จะรอให้ลุกลามจนยากจะแก้ไขได้เช่นในหลายเมือง ควบคู่ไปกับสร้างแลนด์มาร์กให้เป็นประโยชน์แก่เมืองทั้งเชิงเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม เพื่อปรับเปลี่ยนเมืองรองรับไว้ตั้งแต่วันนี้ เนื่องจากช่วงที่ผ่านมาหากเอ่ยถึงปทุมธานีหลายคนจะนึกถึงโรงงาน รถติด มลพิษ อาชญากรรม ภาพลักษณ์ที่ดีแทบไม่เห็นในเชิงสร้างสรรค์และกระตุ้นด้านการค่าการลงทุนแต่อย่างใด จึงต้องเร่งแก้ไขปัญหาจัดระบบการแก้ไขและกำหนดแผนพัฒนาไว้ให้ชัดเจนเพื่อระดมทุนเข้าไปดำเนินการให้ต่อเนื่อง โดยเฉพาะ 3 เทศบาลในพื้นที่จะได้เข้ามาร่วมขับเคลื่อนเรื่องนี้ด้วยการกำหนดกรอบและงบประมาณในแต่ละปีได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้นต่อไป
ยังติดปัญหาเรื่องงบประมาณเพื่อเข้าไปดำเนินการ เนื่องจากงบที่ได้รับจากบพท.ค่อนข้างจำกัด ดังนั้นขณะนี้ทำได้เพียงนำอาจารย์ของมธ.และมทร.ธัญบุรีเข้าไปดำเนินการเบื้องต้น หากองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี (อบจ.) มีงบประมาณจะนำไปพัฒนาก็สามารถดำเนินการต่อไปได้ทันที โดยให้อบจ.เป็นเจ้าภาพดำเนินการ ส่วนมธ.-มทร.ธัญบุรีพร้อมเป็นที่ปรึกษา
เล็งดึงฟิวเจอร์พาร์ค-เครือข่ายร่วมลงทุน
สำหรับการขับเคลื่อนเรื่องงบประมาณนั้นอยากเสนอให้บพท.เล็งเห็นถึงความจำเป็นและต่อเนื่องเนื่องจากกลไกการขับเคลื่อนจะต้องใช้พลังงานสูงมาก อยากให้ผู้ประเมินอย่ามองข้ามในจัดนี้ไว้ด้วย เพราะวัตถุประสงค์เพื่ออยากจะสร้างการเปลี่ยนแปลงจึงต้องร่วมมือกันหลายฝ่ายและใช้ระยะเวลานาน ดังนั้นจึงเป็นไปได้ว่าอาจเชิญชวนหน่วยงานที่สนใจด้านการพัฒนาเมืองเข้ามาร่วมลงทุนไม่ว่าจะเป็นฟิวเจอร์พาร์ค บริษัทรังสิตพัฒนา จำกัด โรงแรมเอเซียแอร์พอร์ต ตลาดไทย หรือตลาดสี่มุมเมือง เป็นต้น
ในฐานะที่เป็นชาวปทุมธานีคนหนึ่งจึงอยากเห็นเมืองปทุมธานีมีคุณภาพชีวิตที่ดี พยายามเชื่อมโยงโครงการให้เป็นรูปธรรมจริง อยากเห็นความร่วมมือจากชาวปทุมธานีมากขึ้น ให้เล็งขึ้นประโยชน์ที่จะเกิดกับพี่น้องชาวปทุมธานีจริงๆ ดังนั้นหากโครงการมีความน่าสนใจคงจะมีนักลงทุนเข้ามาร่วมทุนกันเป็นจำนวนมากเพราะเป็นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของเมืองปทุมธานี แต่คงใช้ระยะเวลานาน กว่าโครงการจะดำเนินการและเปิดใช้งานอาจจะไม่ทันการณ์ที่จะรองรับการเปลี่ยนแปลงของเมืองจึงต้องมีงบประมาณเพียงพอและสามารถทำได้รวดเร็ว
ประการหนึ่งนั้นพื้นที่รังสิตยังมีโครงการขนาดใหญ่ที่จะพัฒนาได้อีกหลายโครงการ อีกทั้งยังมีพื้นที่จอดรถโดยสารขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ(ขสมก.) ขนาดใหญ่ไว้รองรับ นอกเหนือจากสถานีรถไฟฟ้าสายสีแดง หน่วยงานเหล่านี้น่าจะเข้ามามีส่วนเป็นพี่เลี้ยงให้ท้องถิ่นได้ขับเคลื่อนโครงการเพื่อกระตุ้นการพัฒนาพื้นที่ได้อย่างเต็มที่มากขึ้น เนื่องจากจะเป็นฟีดเดอร์ป้อนผู้โดยสารให้รถเมล์โดยสารและรถไฟฟ้าสายสีแดงเพิ่มขึ้น
https://www.facebook.com/ake.bluechifamily/posts/4096503253729922
ปทุมธานี 🔵🔵อบจ. ลุยเมกะโปรเจ็กต์เดินหน้ารถไฟฟ้าโมโนเรลแก้ปัญหารถติดเพื่อชาวปทุมธานี
วันที่ 25 พฤษภาคม 2564 เวลา 19.36 น.
➡️เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 25 พฤษภาคม 2564 ที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ตำบลบ้านฉาง อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี นายเสวก ประเสริฐสุข รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี พร้อมกับหัวหน้าส่วนงาน อบจ.ปทุมธานีที่เกี่ยวข้อง และนายมารุต ศิริโก กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเอ็มอาร์ เอเซีย จำกัด พร้อมคณะร่วมประชุมการพัฒนาเมืองแก้ไขปัญหาจราจรติดขัดเพื่อการรองรับการขยายตัวจังหวัดปทุมธานีโดยใช้ระบบรถไฟฟ้ารางเดี่ยวหรือโมโนเรล
🙏พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี กล่าวว่าจากปัญหาจรราจรติดขัดในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี ที่ไม่ได้รับการแก้ไข ประกอบด้วย
1.เส้นทางรังสิต-นครนายก
2.เส้นทางคูคต-ลำลูกกา
3.เส้นทางคลองหลวง
โดยได้เชิญ ทางบริษัท เอเอ็มอาร์ เอเชีย จำกัด ได้เข้ามาสำรวจว่ารถไฟฟ้ารางเดี่ยวหรือโมโนเรลจะสามารถใช้ในเส้นทางไหนบ้างเพื่อแก้ปัญหารถติด ส่วนการเชื่อมต่อกับสถานีรถไฟฟ้าสายสีแดง รังสิต-บางซื่อ ทางเราก็มีแผนที่จะดำเนินการให้เป็นรูปธรรม แต่การประสานเพื่อดำเนินการยังไม่เป็นทางการ ทั้งนี้จังหวัดปทุมธานีเป็นเมื่องมหาวิทยาลัย มีนักศึกษาจำนวนมาก การเดินทางจึงเป็นสิ่งจำเป็น หากแก้ปัญหาด้านจราจรติดขัดได้เร็วคุณภาพชีวิตของประชาชนก็จะดีขึ้น โดยเฉพาะถนนเส้นรังสิต- นครนายก มีปัญหารถติดหนักมาก รองลงมาคือถนนเส้น คลองหลวง-หนองเสือ และเส้นอื่นๆก็เริ่มมีปัญหาแล้วเช่นกันซึ่งจะต้องเร่งแก้ไขความเดือดร้อนของประชาชนต่อไป
✌️นายมารุต ศิริโก กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเอ็มอาร์ เอเซีย จำกัด กล่าวว่า เอเอ็มอาร์ เอเซีย เป็นบริษัทที่ได้ดำเนินการทำรถไฟฟ้าสายสีเขียว และรถไฟฟ้าสายสีทองให้กับกรุงเทพมหานคร และได้ส่งงานไปเมื่อปีที่แล้วที่ผ่านมา บริษัทของเราเป็นบริษัทของคนไทยที่ดำเนินการด้านระบบควบคุมการเดินรถและอาคารสถานี ระบบไฟฟ้าขนาดใหญ่ รวมถึงเครื่องจักรของศูนย์ซ่อมรถไฟฟ้า นอกจากนี้กลุ่มของบริษัทเราได้มีส่วนในการพัฒนาเมือง โดยเราจะสำรวจว่ามีอะไรบ้างที่เหมาะสมกับเมืองนั้น ๆ ในส่วนของจังหวัดปทุมธานียังไม่มีรถไฟฟ้าเป็นของตัวเอง ที่มีอยู่เป็นเพียงส่วนขยายที่มาจากกรุงเทพมหานครได้แก่ รถไฟฟ้าสายสีแดงจากบางซื่อมายังรังสิต และรถฟ้าสายสีเขียวจากหมอซิต สะพานใหม่มายังคูคต ในความเหมาะสมของรถที่จะมาใช้ นั้นท่านนายก อบจ.ต้องการให้เป็นรถ ไฟฟ้าที่มีขนาดเล็ก ใช้พื้นที่ไม่มาก เน้นบริการได้ทั่วถึง และไม่เป็นมลภาวะตัวรางรถต้องเป็นแบบที่เหมาะกับถนนในจังหวัดปทุมธานี ซึ่งตนเองเชื่อมั่นว่าหลังจากมีเส้นทางรถไฟฟ้าเข้ามาทำให้วิถีการเดินทางที่เปลี่ยนไปเนื่องจากมีการเดินทางที่สะดวกขึ้น ตนเองคาดว่ารถไฟฟ้าจะเป็นตัวตอบโจทย์เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตและแก้ปัญหาจราจรติดขัดในจังหวัดปทุมธานี. โดยท่านนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานีให้แนวความคิดไปศึกษาว่าการแก้ปัญหาแบบครบวงจรถนนทุกเส้นไม่ทำเพียง เส้นใดเส้นหนึ่งเพราะเล็งเห็นว่าจะต้องแก้ปัญหาในภาพรวมของจังหวัดทั้งหมดโดยทางบริษัท จะต้องกลับไปทำการบ้านตามที่ท่านมีวัตถุประสงค์ไว้และกลับมารายงานให้ท่านทราบอีกครั้งภายใน 30 วัน.
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42783
Location: NECTEC
Posted: 04/06/2021 6:53 am Post subject:
รถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล จะเริ่มสร้างจริงๆ แล้วใช่ไหม? แนวรถไฟฟ้าซ้อนทับทางด่วนจะสร้างอย่างไร? สรุปว่าช่วงที่ผ่าน ม.เกษตร จะสร้างแบบไหน? วันนี้เราจะพาทุกคนมารู้จักกับ รถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล และ ทางด่วนขั้นที่ 3 กันครับ
เผื่อใครที่กำลังดูบ้าน/คอนโดในย่านนี้ จะได้มีข้อมูลประกอบการตัดสินใจ ว่าถ้าซื้อตอนนี้แล้วจะได้เริ่มใช้รถไฟฟ้าหรือทางด่วนจริงๆ เมื่อไหร่?
ตามไปดูกันเลยครับ
#รถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล
https://www.facebook.com/livingpopth/posts/1131937430653260
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42783
Location: NECTEC
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42783
Location: NECTEC
Posted: 08/06/2021 9:42 pm Post subject:
อัปเดตก่อสร้างรถไฟฟ้า "สีส้ม" กว่า 82% ส่วน "เหลือง-ชมพู" ทยอยทดสอบเดินรถ
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: 8 มิถุนายน 2464 เวลา 10:41 น.
ปรับปรุง: 8 มิถุนายน 2464 เวลา 10:41 น.
รฟม.เผยก่อสร้างรถไฟฟ้า 3 สายคืบหน้าตามแผน สีส้ม คืบหน้า 82.56% เร็วกว่าแผน 0.41% สีเหลืองคืบหน้า 79.60% ส่วนสีชมพูคืบ 76.51% เริ่มทดสอบเดินรถ ทยอยเปิดบริการปลายปี 64
รายงานข่าวจากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า ความก้าวหน้างานก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าในความรับผิดชอบของ รฟม.จำนวน 3 โครงการ ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2564 ได้แก่
โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ระยะทางประมาณ 22.57 กม. มีความก้าวหน้างานโยธา 82.56% เร็วกว่าแผน 0.41%
โดยสัญญา 1 งานก่อสร้างอุโมงค์ทางวิ่งและสถานีใต้ดินช่วงศูนย์วัฒนธรรมฯ-รามคำแหง 12 มี CKST Joint Venture เป็นผู้รับจ้าง ผลงานคืบหน้า 89.02%
สัญญาที่ 2 งานก่อสร้างอุโมงค์ทางวิ่งและสถานีใต้ดิน ช่วงรามคำแหง 12-หัวหมาก มี CKST Joint Venture เป็นผู้รับจ้าง ผลงานคืบหน้า 84.19%
สัญญาที่ 3 งานก่อสร้างอุโมงค์ทางวิ่งและสถานีใต้ดินช่วงหัวหมาก-คลองบ้านม้า มี บมจ.อิตาเลียนไทยฯ เป็นผู้รับจ้าง ผลงานคืบหน้า 80.06%
สัญญาที่ 4 งานก่อสร้างโครงสร้างทางวิ่งและสถานียกระดับช่วงคลองบ้านม้า-สุวินทวงศ์ มี บมจ.ยูนิค เอ็นจิเนียริ่งฯ เป็นผู้รับจ้าง ผลงานคืบหน้า 72.65%
สัญญาที่ 5 งานก่อสร้างอาคารศูนย์ซ่อมบำรุงและอาคารจอดแล้วจร มี CKST Joint Venture เป็นผู้รับจ้าง ผลงานคืบหน้า 83.66%
สัญญาที่ 6 งานก่อสร้างระบบราง มี บมจ.ยูนิค เอ็นจิเนียริ่งฯ เป็นผู้รับจ้าง ผลงานคืบหน้า 74.82%
โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง ระยะทางทั้งสิ้น 30.4 กิโลเมตร บริษัท อีสเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด เป็นผู้รับสัญญาสัมปทาน มีความก้าวหน้างานโยธา 84.19% งานระบบรถไฟฟ้า 73.62% โดยคิดเป็นความก้าวหน้าโดยรวม 79.60%
โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย- มีนบุรี ระยะทางทั้งสิ้น 34.5 กิโลเมตร บริษัท นอร์ทเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด เป็นผู้รับสัญญาสัมปทานร่วมลงทุน ความก้าวหน้างานโยธา 79.39% ความก้าวหน้างานระบบรถไฟฟ้า 72.81% ความก้าวหน้าโดยรวม 76.51%
สำหรับรถไฟฟ้าสายสีเหลืองเริ่มมีการทดสอบระบบเดินรถแล้วคาดว่าจะทยอยเปิดให้บริการตั้งแต่ปลายปี 64 และสายสีชมพูคาดว่าระบบจะมีความพร้อมและทยอยเปิดให้บริการเป็นช่วงๆ ตั้งแต่ต้นปี 65
📣วันนี้น้องทันใจจะมาอัพเดท 🚧🚆ความก้าวหน้างานก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าในความรับผิดชอบของ รฟม. ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2564 🔛 ดังนี้
การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย
8 มิถุนายน 2464 เวลา 08:31 น.
1. โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-มีนบุรี 🏗ความก้าวหน้างานโยธา 82.56%
ติดตามรายละเอียดโครงการฯ https://www.mrta-orangelineeast.com
อัพเดทปิดเบี่ยงจราจร/แสดงความคิดเห็น/ร้องเรียน ช่องทางLine: @Orangeline
2. โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง 🏗ความก้าวหน้างานโยธา 84.19% 🚧ความก้าวหน้างานระบบรถไฟฟ้า 73.62% ความก้าวหน้าโดยรวม 79.60%
ติดตามรายละเอียดโครงการฯ https://mrta-yellowline.com
อัพเดทปิดเบี่ยงจราจร/แสดงความคิดเห็น/ร้องเรียน ช่องทางLine: mrtyellowline
3. โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี 🏗ความก้าวหน้างานโยธา 79.39% 🚧ความก้าวหน้างานระบบรถไฟฟ้า 72.81% ความก้าวหน้าโดยรวม 76.51%
ติดตามรายละเอียดโครงการฯ https://www.mrta-pinkline.com
อัพเดทปิดเบี่ยงจราจร/แสดงความคิดเห็น/ร้องเรียน ช่องทางLine: @mrtpinkline
-------------------------------------------------
#วิสัยทัศน์ รฟม. (พ.ศ.2560-2565)
เป็นองค์กรที่มีความเป็นเลิศด้านรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน ที่สามารถยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนและส่งเสริมการพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืน Last edited by Wisarut on 09/06/2021 8:56 pm; edited 1 time in total
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42783
Location: NECTEC
Posted: 08/06/2021 11:13 pm Post subject:
รฟม.คลอดกฎเหล็กดูแลงานก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม-เหลือง-ชมพูคุมเข้มโควิด-19
08 มิถุนายน พ.ศ. 2564 เวลา 13:38 น.
8 มิ.ย.2564-รายงานข่าวจากการรถไฟขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม) เปิดเผยถึงความคืบหน้างานก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าในความรับผิดชอบของ รฟม. ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2564 ดังนี้ 1.โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย - มีนบุรี (สุวินทวงศ์)ความก้าวหน้างานโยธา 82.56% 2.โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว - สำโรง ความก้าวหน้างานโยธา 84.19% ความก้าวหน้างานระบบรถไฟฟ้า 73.62% ความก้าวหน้าโดยรวม 79.60% ละ3. โครงกาถรรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย - มีนบุรี ความก้าวหน้างานโยธา 79.39% ความก้าวหน้างานระบบรถไฟฟ้า 72.81% ความก้าวหน้าโดยรวม 76.51%
สำหรับรถไฟฟ้าสายสีเหลืองเริ่มมีการทดสอบระบบเดินรถแล้วคาดว่าจะทยอยเปิดให้บริการตั้งแต่ ปลายปี 64 และสายสีชมพู คาดว่าระบบจะมีความพร้อมและทยอยเปิดให้บริการเป็นช่วงๆ ตั้งแต่ต้นปี 65 อย่างไรก็ตามปัจจุบันทุกโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างยังเป็นไปตามแผนงาน ซึ่งงานหลักๆ จะเป็นงานตกแต่งและติดตั้งงานระบบไฟฟ้าเครื่องกล อย่างไรก็ตาม รฟม. ได้ให้ผู้รับสัมปทานและผู้รับจ้าง ประเมินผล กระทบที่อาจจะเกิดขึ้นพร้อมแนวทางในการแก้ไขเพื่อปรับแผนการดำเนินงานต่อไป
สัมผัสความงามของฤดูใบไม้ผลิในญี่ปุ่น หรือ ชุนบุน (Shunbun) กับ Grand Seiko SBGJ251
Grand Seiko
นายกิตติกร ตันเปาว์ รองผู้ว่าการ (วิศวกรรมและก่อสร้าง) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ในฐานะผู้อำนวยการโครงการเปิดเผยว่า รฟม. ได้กำกับดูแลโครงการรถไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินงานก่อสร้าง จำนวน 3 โครงการ ได้แก่ โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม -สายสีชมพู -สายสีเหลือง ได้ตระหนัก ถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ตามนโยบายของรัฐบาล และกระทรวงคมนาคม
โดย รฟม. ได้เน้นย้ำให้ที่ปรึกษาโครงการฯ และผู้รับจ้างก่อสร้างโครงการฯ ดำเนินการตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ในที่พักแรงงานก่อสร้างและพื้นที่ปฏิบัติงานอย่างเคร่งครัด ดังนี้1. ตรวจคัดกรอง วัดอุณหภูมิก่อนเข้าพื้นที่ปฏิบัติงานทุกครั้ง2. สวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้าตลอดเวลาการปฏิบัติงาน3. จัดจุดให้บริการเจลแอลกอฮอล์ และอ่างล้างมือ 4. ห้ามแรงงานก่อสร้างเดินทางออกนอกพื้นที่ปฏิบัติงานและที่พัก
5. ห้ามแรงงานก่อสร้างเดินทางออกนอกเส้นทาง ขณะโดยสารรถรับส่งระหว่างที่พักและพื้นที่ปฏิบัติงาน และจัดเว้นระยะห่างของที่นั่งในรถไม่ให้แออัด
6. ห้ามแรงงานก่อสร้าง พาบุคคลภายนอก เข้ามาในพื้นที่ปฏิบัติงานและที่พักโดยเด็ดขาด7. ห้ามแรงงานก่อสร้างเดินทางไปยังพื้นที่เสี่ยงตามที่ภาครัฐกำหนด8. จัดการเรื่องสุขอนามัยภายในที่พัก ให้สะอาด ปราศจากการแพร่เชื้ออยู่เสมอ เช่น ฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อบริเวณ ที่พัก เปลี่ยนระบบอาบน้ำ จากเดิมที่ใช้อ่างอาบน้ำรวม เป็นระบบฝักบัว แยกเฉพาะคน และจัดให้มีการแยกภาชนะ ในการรับประทานอาหาร เช่น แก้วน้ำ ช้อนส่วนตัว
9. กรณีที่พักแรงงานก่อสร้างอยู่ในพื้นที่เดียวกับสถานที่ปฏิบัติงาน หากพบผู้ติดเชื้อให้ดำเนินการควบคุมพื้นที่ไม่ให้มีการเข้า-ออก ก่อนทำการส่งตัวไปรักษา10. กรณีที่พักแรงงานก่อสร้างไม่ได้อยู่ในพื้นที่เดียวกับสถานที่ปฏิบัติงาน หากพบผู้ติดเชื้อให้กักตัวผู้ที่ติดเชื้อในบริเวณที่พักแรงงาน ภายใต้การดูแลของสำนักงานเขตและสำนักอนามัย ก่อนทำการส่งตัวไปรักษา ทั้งนี้ผู้ที่ไม่ติดเชื้อ เมื่อเดินทางไปปฏิบัติงาน รถโดยสารรับส่ง จะไม่จอดหรือหยุดพักระหว่างทาง
11. ผู้ที่มีความเสี่ยงสูง หรือผู้ที่ใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ จะดำเนินการเฝ้าระวังและจัดที่พักแยกเป็นสัดส่วนเพื่อกักตัว 12. จัด Safety Talk พูดคุยก่อนการเริ่มปฏิบัติงาน เพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานเกิดความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 13. ให้ความรู้เกี่ยวกับมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ผ่านสื่อประชาสัมพันธ์ในรูปแบบต่างๆ เช่น โปสเตอร์ บอร์ดประชาสัมพันธ์ และเสียงตามสาย
นอกจากนี้ ได้มีมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ในอาคารสำนักงานโครงการฯ ด้วยการตรวจคัดกรองอุณหภูมิ ต้องสวมใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ เว้นระยะห่าง จัดประชุมด้วยระบบ Video Conference แทนการนั่งประชุมรวมกลุ่มในอาคารสำนักงานโครงการฯ และให้ผู้ปฏิบัติงาน ในอาคารสำนักงานโครงการฯ ปฏิบัติงานในที่พักอาศัย (Work From Home) ให้มากที่สุด โดยหมุนเวียนสลับกันเข้ามาปฏิบัติงาน รวมถึงเพิ่มความถี่ในการทำความสะอาดบริเวณจุดที่สัมผัสร่วมกันในอาคารสำนักงานโครงการฯ เช่น บานจับประตู ปุ่มกดลิฟต์ ราวบันได เครื่องลงเวลาเข้าออกงาน และห้องน้ำ
ทั้งนี้ รฟม. และทุกโครงการฯ จะให้ความร่วมมือกับหน่วยงานที่กำกับดูแลเรื่อง COVID-19 อย่างเต็มที่ ในการตรวจหาเชื้อไวรัส COVID-19 เชิงรุกของกลุ่มแรงงานในพื้นที่ก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้า และจะเดินหน้ากำชับมาตรการต่างๆ ให้มีความเข้มข้นและรัดกุม เพื่อความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติงาน และเป็นการแสดงความรับผิดชอบ ต่อสังคมส่วนรวม จนกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 จะกลับสู่ภาวะปกติ
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42783
Location: NECTEC
Posted: 09/06/2021 10:58 pm Post subject:
รฟม.คลอด13กฎคุมเข้มโควิดแคมป์คนงานก่อสร้าง
อังคารที่ 8 มิถุนายน 2564 เวลา 11.23 น.
รฟม. คลอด 13 มาตรการคุมเข้มโควิดแคมป์คนงานก่อสร้าง-พื้นที่ปฏิบัติงานสร้างรถไฟฟ้า 3 สาย ย้ำห้ามแรงงานออกนอกพื้นที่ ห้ามพาคนนอกเข้ามา จัดเรื่องสุขอนามัยภายในที่พักใหม่ ให้ใช้ฝักบัวแทนอ่างอาบน้ำรวม
นายกิตติกร ตันเปาว์ รองผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ในฐานะผู้อำนวยการโครงการ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ขยายวงกว้างอย่างรวดเร็ว และมีการแพร่ระบาดในที่พักแรงงานก่อสร้างในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล รฟม. จึงเน้นย้ำที่ปรึกษาโครงการ และผู้รับจ้างก่อสร้างโครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง 3 โครงการ ได้แก่ โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ตะวันออก) ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทยมีนบุรี (สุวินทวงศ์), โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแครายมีนบุรี และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าวสำโรง ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในที่พักแรงงานก่อสร้าง และพื้นที่ปฏิบัติงานอย่างเคร่งครัด
นายกิตติกร กล่าวต่อว่า มาตรการต่างๆ มีดังนี้ 1. ตรวจคัดกรอง วัดอุณหภูมิก่อนเข้าพื้นที่ปฏิบัติงานทุกครั้ง, 2. สวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้าตลอดเวลาปฏิบัติงาน, 3. จัดจุดให้บริการเจลแอลกอฮอล์ และอ่างล้างมือ, 4. ห้ามแรงงานก่อสร้างเดินทางออกนอกพื้นที่ปฏิบัติงานและที่พัก, 5. ห้ามแรงงานก่อสร้างเดินทางออกนอกเส้นทาง ขณะโดยสารรถรับส่งระหว่างที่พัก และพื้นที่ปฏิบัติงาน และจัดเว้นระยะห่างของที่นั่งในรถไม่ให้แออัด, 6. ห้ามแรงงานก่อสร้างพาบุคคลภายนอกเข้ามาในพื้นที่ปฏิบัติงานและที่พักโดยเด็ดขาด
7. ห้ามแรงงานก่อสร้างเดินทางไปยังพื้นที่เสี่ยงตามที่ภาครัฐกำหนด, 8. จัดการเรื่องสุขอนามัยภายในที่พักให้สะอาด ปราศจากการแพร่เชื้ออยู่เสมอ เช่น ฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อบริเวณที่พัก เปลี่ยนระบบอาบน้ำ จากเดิมที่ใช้อ่างอาบน้ำรวม เป็นระบบฝักบัว แยกเฉพาะคน และจัดแยกภาชนะ ในการรับประทานอาหาร, 9. กรณีที่พักแรงงานก่อสร้างอยู่ในพื้นที่เดียวกับสถานที่ปฏิบัติงาน หากพบผู้ติดเชื้อให้ดำเนินการควบคุมพื้นที่ไม่ให้มีการเข้า-ออก ก่อนทำการส่งตัวไปรักษา
10. กรณีที่พักแรงงานก่อสร้างไม่ได้อยู่ในพื้นที่เดียวกับสถานที่ปฏิบัติงาน หากพบผู้ติดเชื้อให้กักตัวผู้ที่ติดเชื้อในบริเวณที่พักแรงงาน ภายใต้การดูแลของสำนักงานเขตและสำนักอนามัย ก่อนส่งตัวไปรักษา, 11. ผู้ที่มีความเสี่ยงสูง หรือผู้ที่ใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ จะเฝ้าระวังและจัดที่พักแยกเพื่อกักตัว, 12. จัด Safety Talk ทำความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ก่อนปฏิบัติงาน และ 13. ให้ความรู้เกี่ยวกับมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ผ่านสื่อประชาสัมพันธ์รูปแบบต่างๆ
นายกิตติกร กล่าวต่อว่า ขณะนี้การก่อสร้างทั้ง 3 โครงการยังเป็นไปตามแผนงาน ซึ่งปัจจุบันงานหลักๆ จะเป็นงานตกแต่ง และติดตั้งงานระบบไฟฟ้าเครื่องกล อย่างไรก็ตาม รฟม. ได้ให้ผู้รับสัมปทาน และผู้รับจ้างประเมินผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น พร้อมแนวทางในการแก้ไข เพื่อปรับแผนการดำเนินงานต่อไป..
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42783
Location: NECTEC
Posted: 28/06/2021 11:32 pm Post subject:
รฟม.ลุยปรับแผนก่อสร้างหลังรัฐสั่งปิดแคมป์คนงาน
จันทร์ที่ 28 มิถุนายน 2564 เวลา 16.09 น.
รฟม. สั่งที่ปรึกษา-ผู้รับเหมาคุมเข้มโควิด ประเมินผลกระทบ ลุยปรับแผน หลังรัฐสั่งปิดแคมป์คนงาน หยุดก่อสร้างชั่วคราว
นายกิตติกร ตันเปาว์ รองผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ในฐานะผู้อำนวยการโครงการ เปิดเผยว่า โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าทั้ง 3 โครงการ ได้แก่ โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-มีนบุรี โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง ขณะนี้มีความคืบหน้างานโยธาเกือบ 80% ปัจจุบันอยู่ในช่วงงานตกแต่ง งานสถาปัตย์ และงานติดตั้งระบบไฟฟ้าเครื่องกล
นายกิตติกร กล่าวต่อว่า ภายหลังจากภาครัฐมีมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดในกลุ่มแรงงานก่อสร้าง โดยสั่งปิดที่พัก (แคมป์) คนงานก่อสร้าง และพื้นที่ก่อสร้างชั่วคราว ทาง รฟม. ได้มอบให้ที่ปรึกษาฯ กำชับผู้รับจ้างก่อสร้างทุกโครงการปฏิบัติตามข้อกำหนดและประกาศของภาครัฐในการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในกลุ่มแรงงานก่อสร้างในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลอย่างเคร่งครัด พร้อมทั้งเร่งประเมินสถานการณ์และผลกระทบต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นในภาพรวม รวมถึงดำเนินการปรับแผนงานให้สอดคล้องกับสถานการณ์ และมีผลกระทบต่อระยะเวลาตามสัญญาให้น้อยที่สุด
ทั้งนี้ รฟม. และทุกโครงการจะยังคงดำเนินมาตรการต่างๆ ให้มีความเข้มข้นและรัดกุม อย่างต่อเนื่อง รวมถึงให้ความร่วมมือและปฏิบัติตามมาตรการของภาครัฐอย่างเคร่งครัด เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ตลอดจนเป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมส่วนรวม และสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชน จนกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จะกลับสู่ภาวะปกติ
Back to top