RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai.Com

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311324
ทั่วไป:13287971
ทั้งหมด:13599295
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - รวมข่าวรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคตตามนโยบายรัฐบาล
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

รวมข่าวรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคตตามนโยบายรัฐบาล
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 260, 261, 262 ... 278, 279, 280  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> โครงการระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคต
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44842
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 21/02/2023 7:40 am    Post subject: Reply with quote

“คมนาคม” เร่งเคาะ 5 โปรเจกต์ 8 หมื่นล้าน ดันเข้า ครม. อนุมัติในรัฐบาลนี้
เดลินิวส์ 20 กุมภาพันธ์ 2566 16:37 น.
เศรษฐกิจ-ยานยนต์

“คมนาคม” เร่งเคาะ 5 โปรเจกต์ กว่า 8 หมื่นล้าน ดันเข้า ครม. อนุมัติภายในรัฐบาลชุดนี้ ขณะที่รถไฟฟ้าสายสีส้ม ยันรอศาลตัดสิน “ศักดิ์สยาม” จวก ส.ส.อย่ามโนให้มาก ควรทำตามหน้าที่ ไม่ใช่วินิจฉัยแทนตุลาการ ชี้รัฐบาลรักษาการมีสิทธิเสนอ ครม. ไฟเขียวได้ แต่ต้องผ่าน กกต.ก่อน

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า กระทรวงคมนาคม อยู่ระหว่างพิจารณารายละเอียดโครงการที่จะเสนอขออนุมัติจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายในรัฐบาลชุดนี้ ประกอบด้วย โครงการระบบรถไฟชานเมือง ส่วนต่อขยาย สายสีแดง 3 เส้นทาง ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้แก่ ช่วงตลิ่งชัน-ศิริราช ระยะทาง 5.7 กิโลเมตร (กม.) วงเงิน 4,616 ล้านบาท, ช่วงรังสิต-มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ระยะทาง 8.84  กม. วงเงิน 6,468 ล้านบาท และช่วงตลิ่งชัน-ศาลายา ระยะทาง 14.8 กม. วงเงิน 10,670 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาตัวเลขวงเงินลงทุน ทั้งนี้ ต้องยอมรับข้อเท็จจริงว่าปัจจุบันค่าก่อสร้างเปลี่ยนแปลงไปจากราคาที่ศึกษาไว้เดิม อีกทั้งชุมชนที่เกิดขึ้นในพื้นที่ก็เปลี่ยนแปลงไป จึงต้องพิจารณาให้รอบคอบ และสมบูรณ์ที่สุดก่อนเสนอ ครม.

นายศักดิ์สยาม กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) ส่วนต่อขยายทางยกระดับอุตราภิมุข หรือดอนเมืองโทลล์เวย์ ช่วงรังสิต-บางปะอิน (M5) เชื่อมต่อกับมอเตอร์เวย์ บางปะอิน-โคราช (M6) วงเงินประมาณ 3 หมื่นล้านบาท ของกรมทางหลวง (ทล.) และโครงการทางพิเศษสายฉลองรัช-นครนายก-สระบุรี ช่วงจตุโชติ-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร รอบที่ 3 (MR 10) วงเงินประมาณ 3 หมื่นล้านบาท ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ซึ่งกระทรวงคมนาคมจะเร่งพิจารณา เพื่อเสนอ ครม. ให้ทันภายในรัฐบาลชุดนี้ แต่หากไม่ทัน ในขณะที่เป็นรัฐบาลรักษาการก็เสนอได้ เพียงแต่ต้องเสนอผ่านไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก่อน

นายศักดิ์สยาม ยังกล่าวถึงโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ด้วยว่า ได้รับรายงานเบื้องต้นจากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ว่า ยังอยู่ในกระบวนการยุติธรรม ซึ่งยังยืนนโยบายว่าต้องรอให้คำวินิจฉัยของศาลเป็นที่สิ้นสุดก่อน โดยเฉพาะประเด็นการยกเลิกการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุน หากศาลมีคำพิพากษาได้ข้อยุติเกี่ยวกับคดีดังกล่าวแล้ว จะเสนอ ครม.เห็นชอบต่อไป อย่างไรก็ตาม หากเรื่องนี้ศาลพิพากษาช่วงรัฐบาลรักษาการ ก็สามารถเสนอโครงการให้ ครม.พิจารณาได้ แต่ต้องเสนอไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พิจารณาก่อนว่า การดำเนินการเป็นภาระของประเทศ และมีความได้เปรียบเสียเปรียบของรัฐบาลรักษาการหรือไม่

ต่อข้อถามถึงกรณีที่ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) พรรคประชาชาติ ระบุว่า โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มที่กำลังจะนำเข้า ครม. หวังฟอกด้วยความคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดคนละคดีคนละประเด็นกัน เหมือนฟอกดำให้เป็นดำที่ ครม. นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า อย่าไปมโนให้มาก และอย่าไปกังวลเรื่องเสนอ ครม. แต่ละฝ่ายมีหน้าที่ความรับผิดชอบตามอำนาจ ตามกฎหมายที่ให้ไว้ ส.ส. เป็นฝ่ายนิติบัญญัติ มีหน้าที่ออกกฎหมาย กำกับรัฐบาล และให้ข้อเสนอแนะในการทำงาน ไม่ได้มีหน้าที่วินิจฉัยแทนตุลาการ ซึ่งโครงการนี้ รฟม. เป็นผู้ดำเนินการรับผิดชอบ ส่วนรัฐมนตรี ก็มีหน้าที่ตรวจสอบให้เกิดความเรียบร้อยก่อนเสนอ ครม.... สามารถติดตามต่อได้ที่ : https://www.dailynews.co.th/news/2017639/
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44842
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 23/02/2023 7:41 am    Post subject: Reply with quote

จับตาโปรเจกต์ 'ทิ้งทวน' 7 แสนล้าน 'คมนาคม' เล็งชงประมูลสายสีส้ม
กรุงเทพธุรกิจ 23 ก.พ. 2566 เวลา 7:00 น.

รัฐบาลเร่งเคลียร์โครงการค้างท่อ เสนอ ครม.ก่อนยุบสภา “คมนาคม” ค้าง 7 แสนล้าน ดันส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีแดง เคลียร์ปมโอน 3 สนามบิน จับตาประมูลสายสีส้ม “คลัง” เร่งเสนอบัตรสวัสดิการรัฐ เก็บภาษีขายหุ้น “พลังงาน” ชงประมูลปิโตรเลียม ดันมาตรการส่งเสริมแบต
รัฐบาลกำลังนับถอยหลังการทำงานหลังจากที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประกาศจะยุบสภาในภายในต้นเดือน มี.ค.2566 และอาจมีเลือกตั้งในวันที่ 7 พ.ค.2566 ซึ่งทำให้โครงการที่ต้องได้รับการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) จะต้องรีบดำเนินการ

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) วางปฏิทินการเลือกตั้งไว้ในเดือน พ.ค.2566 โดยปัจจุบันมีโครงการของกระทรวงคมนาคมที่รอเสนอ ครม.หลายโครงการ เช่น โครงการส่วนต่อขยายรถไฟชานเมืองสายสีแดง รวมถึงการโอนสิทธิบริหาร 3 สนามบินให้บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. (สนามบินอุดรธานี บุรีรัมย์ และกระบี่) และโครงการรถไฟทางคู่ ระยะ 2 ที่ส่วนใหญ่ขั้นตอนรับฟังความคิดเห็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

“แม้เป็นรัฐบาลรักษาการก็เสนอโครงการให้ ครม.พิจารณาได้ แต่ต้องไม่ผูกพันกับรัฐบาลชุดต่อไป ส่วนการแต่งตั้งโยกย้ายก็ทำได้แต่ต้องให้ กกต.พิจารณาตามความเหมาะสม และในช่วง 4 เดือนที่เป็นรัฐบาลรักษาการ ส่วนตัวก็มีแผนที่จะเร่งรัดโครงการที่อยู่ในแผนงบประมาณปี 2566 ซึ่งเป็นหน้าที่ของรัฐบาลอยู่แล้ว ต้องทำปกติยืนยันว่าไม่มีเกียร์ว่างแน่นอน และปีนี้กระทรวงคมนาคมเร่งรัดงบลงทุนได้กว่า 80% แล้ว ถือว่าเร็วกว่าแผนและเร็วกว่าปีงบประมาณที่ผ่านมา” นายศักดิ์สยาม กล่าว


จับตาเสนอ ครม.เคาะสายสีส้ม

รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคม ระบุว่า โครงการที่รอเสนอ ครม.รวมวงเงินกว่า 7 แสนล้านบาท ประกอบด้วย ผลการประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมฯ และการเดินรถทั้งเส้นทางช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ซึ่งบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM เป็นผู้ยื่นข้อเสนอดีที่สุด แต่ยังมีข้อพิพาทในศาลปกครอง รวมทั้งที่ผ่านมาเคยมีการยกเลิกการประมูลมาแล้ว รวมแล้วการประมูลมีความล่าช้าเกือบ 3 ปี

โครงการรถไฟไทย-จีน ที่เตรียมเสนอ ครม.เป็นโครงการระยะ 2 (นครราชสีมา-หนองคาย) ระยะทาง 365 กิโลเมตร วงเงิน 300,000 ล้านบาท ในขณะที่ระยะที่ 1 (กรุงเทพฯ-นครราชสีมา) ระยะทาง 253 กิโลเมตร รวม 14 สัญญา วงเงิน 179,000 ล้านบาท การก่อสร้างงานโยธาคืบหน้า 16.72% เป็นโครงการที่ดำเนินการมาแล้ว 5 ปี และติดขัดหลายปัญหา เช่น สัญญาที่ 4-5 ช่วงบ้านโพ-พระแก้ว ระยะทาง 13.3 กิโลเมตร อยู่ขั้นตอนต่อรองราคากับบริษัท บุญชัยพาณิชย์ (1979) อีกทั้งตัวสถานีอยุธยาต้องรอผลรายงานผลกระทบด้านทรัพย์สินทางวัฒนธรรม (Heritage Impact Assessment : HIA) ของแหล่งมรดกโลกนครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาแล้วเสร็จก่อน

ชงโอนสิทธิ 3 สนามบินให้ ทอท.

การโอนสิทธิบริหาร 3 ท่าอากาศยานของกรมท่าอากาศยานได้แก่ ท่าอากาศยานอุดรธานี, บุรีรัมย์ และกระบี่ ซึ่งยังเสนอครม.ไม่ได้เพราะอยู่ระหว่างทำรายละเอียดทางการเงินตามข้อเสนอแนะของกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.)จะเสนอครม.เห็นชอบได้ภายในไตรมาส1 ปี 2566 ซึ่งในส่วนของเงินชดเชยจาก ทอท.เพื่อนำเข้ากองทุนหมุนเวียนกรมท่าอากาศยาน โดยต้องได้มากกว่าที่เคยได้รับเพื่อนำเงินไปดูแลและพัฒนาท่าอากาศยานแห่งอื่น

โครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง (ตลิ่งชัน-ศาลายา) 14.8 กิโลเมตร วงเงิน 10,670 ล้านบาท รวมถึงช่วงตลิ่งชัน-ศิริราช ระยะทาง 5.7 กิโลเมตร วงเงิน 4,694 ล้านบาท และช่วงรังสิต-มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต ระยะทาง 8.84 กิโลเมตร วงเงิน 6,468 ล้านบาท และจะเสนอรถไฟฟ้า Missing link ช่วงบางซื่อ-พญาไท-มักกะสัน-หัวหมาก และช่วงบางซื่อ-หัวลำโพง ระยะทาง 25.9 กิโลเมตร วงเงิน 47,000 ล้านบาท

โครงการรถไฟทางคู่ ระยะ 2 ตามแผนมี 7 เส้นทาง ระยะทางรวม 1,479 กิโลเมตร วงเงิน 275,301 ล้านบาท ซึ่งในเบื้องต้นมีแผนเสนอ ครม.อนุมัติเส้นทางขอนแก่น-หนองคาย ระยะทาง 167 กิโลเมตร วงเงินลงทุน 29,748 ล้านบาท รวมถึงเส้นทางปากน้ำโพ-เด่นชัย ระยะทาง 285 กิโลเมตร วงเงิน 62,800 ล้านบาท และเส้นทางชุมทางถนนจิระ-อุบลฯ ระยะทาง 308 กิโลเมตร วงเงิน 37,500 ล้านบาท

Click on the image for full size

“คลัง”ค้างภาษีหุ้น-บัตรสวัสดิการ

แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง กล่าวว่า กระทรวงการคลังมีโครงการใหญ่ที่รอเสนอ ครม.และรอดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย รวม 2 โรงการ คือ โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเพิ่มเติมปี 2565 ซึ่งผ่านการอนุมัติให้ลงทะเบียนใหม่แล้ว แต่กำลังพิจารณาคุณสมบัติผู้ลงทะเบียนเพื่อสรุปเสนอจำนวนผู้รับสิทธิให้ ครม.รับทราบ

ทั้งนี้ เดิมจะใช้สิทธิ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่วันที่ 1 มี.ค.2566 แต่ยังประกาศรายชื่อไม่ได้หลังจากมีผู้ลงทะเบียน 22 ล้านคน ขณะนี้ธนาคารกรุงไทยแจ้งผู้ผ่านการตรวจสอบรอบแรก 14 ล้านคน แต่กระทรวงการคลังขอให้ธนาคารชี้แจงสาเหตุของผู้ไม่ผ่าน 8 ล้านคน

นอกจากนี้มีการจัดเก็บภาษีหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่ง ครม.อนุมัติเมื่อปลายปี 2565 แต่ยังไม่ประกาศร่างกฎหมายในราชกิจจานุเบกษา โดยให้กรมสรรพากรจัดเก็บภาษีอัตรา 0.10% และเก็บภาษีจากธุรกรรมการขายหุ้น (Transaction Tax) ในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งปีแรกเก็บอัตรา 0.055% เมื่อรวมภาษีท้องถิ่น แบ่งเป็นภาษีขายหุ้น 0.050% และภาษีท้องถิ่น 0.005% และเดิมคาดว่าเริ่มใช้ไตรมาส 2 ปี 2566

เสนอมาตรการหนุนแบต“อีวี”

รวมทั้ง คณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ (บอร์ดอีวี) ที่มีนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เตรียมเสนอ ครม.พิจารณาโครงการสนับสนุนมาตรการส่งเสริมการผลิตแบตเตอรี่ โดยลดภาษีสรรพสามิตแบตเตอรี่จาก 8% ลดเหลือ 1% รวมทั้งมีมาตรการสนับสนุนผู้ลงทุนผลิตแบตเตอรี่ วงเงิน 24,000 ล้านบาท

นายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการบอร์ดอีวี กล่าวว่า มาตรการสนับสนุนแบตเตอรี่อีวีที่ได้รับการอนุมัติไปเมื่อวันที่ 2 ก.พ.2566 จะนำเสนอต่อที่ประชุม ครม.เห็นชอบทันรัฐบาลชุดปัจจุบันแน่นอน

ผลประมูลปิโตรเลียมรอบ24

แหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า กระทรวงพลังงานเตรียมเสนอ ครม.พิจารณาผลการประมูลโครงการยื่นขอสิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียมรอบที่ 24 จำนวน 3 แปลงในอ่าวไทย ประกอบด้วย แปลง G1/65 แปลง G2/65 และแปลง G3/65 ซึ่งกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติปิดประมูลแล้ว โดยขณะนี้รอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นำเสนอรายชื่อผู้ชนะประมูล

รวมทั้งกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ เตรียมเปิดให้ยื่นขอสิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียมรอบที่ 25 ถือเป็นพื้นที่บนบกภายในปี 2566 โดยจะหารือกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมถึงแนวทางการประมูล ในประเด็นพื้นที่ปิโตรเลียมทับซ้อนกับพื้นที่อนุรักษ์ป่าไม้ และพื้นที่ปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) เพราะที่ผ่านมาเกิดปัญหาเหล่านี้กระทบผู้ลงทุน ดังนั้นการประมูลรอบนี้อาจเลือกพื้นที่ที่ไม่มีปัญหามาประมูลก่อน
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42784
Location: NECTEC

PostPosted: 23/02/2023 7:09 pm    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
จับตาโปรเจกต์ 'ทิ้งทวน' 7 แสนล้าน 'คมนาคม' เล็งชงประมูลสายสีส้ม
กรุงเทพธุรกิจ วันพฤหัสบดี ที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566 เวลา 7:00 น.



“ศักดิ์สยาม” ลุยดันโปรเจกต์ “คมนาคม” เข้า ครม. ส่งท้ายรัฐบาลชุดนี้
เศรษฐกิจ-ยานยนต์
วันพุธ ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566 เวลา 17:58 น.
“ศักดิ์สยาม” ดันโปรเจกต์คมนาคม “ต่อขยายสีแดง-ทางคู่เฟส 2-ผู้ให้บริการภาคพื้น-แลนด์บริดจ์” เข้า ครม. ชี้ยังติดรับฟังความเห็น ลั่นหากทันก็ทัน ไม่ทันก็ส่งให้ กกต.พิจารณา ย้ำรัฐบาลรักษาการ มีหน้าที่กำกับดูแลทุกโครงการ เร่งงานแผนปี 66




นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ขณะนี้มีอีกหลายโครงการที่กระทรวงคมนาคมเร่งผลักดันให้เข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในรัฐบาลชุดนี้ แต่เนื่องจากตามขั้นตอนเมื่อเรื่องจากหน่วยงานเสนอมายังกระทรวงคมนาคมแล้ว ก่อนเข้า ครม. ต้องส่งเรื่องไปยังหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อรับฟังความคิดเห็นด้วย อาทิ สำนักงานสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และสำนักงบประมาณ โดยปัจจุบันหน่วยงานเหล่านี้ยังไม่ได้ส่งความคิดเห็นกลับมา ดังนั้น หากเสนอทันรัฐบาลชุดนี้ก็จะเสนอ แต่หากไม่ทันก็ต้องเสนอคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พิจารณาว่าเป็นโครงการที่สามารถเสนอ ครม. ได้หรือไม่ เพราะมีบางเรื่องที่ไม่สามารถดำเนินการได้ อาทิ โครงการที่มีงบผูกพันกับรัฐบาลต่อไป ส่วนเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการก็ต้องผ่านการพิจารณาของ กกต. ก่อน

นายศักดิ์สยาม กล่าวต่อว่า สำหรับโครงการอยู่ระหว่างรับฟังความคิดเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ โครงการระบบรถไฟชานเมือง ส่วนต่อขยาย สายสีแดง 3 เส้นทาง และโครงการรถไฟทางคู่ ระยะ (เฟส) ที่ 2 ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.), โครงการสรรหาผู้ให้บริการภาคพื้นรายที่ 3 ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เพื่อช่วยบรรเทาปัญหาต่าง ๆ ของ ทสภ. โดยเฉพาะการขนถ่ายกระเป๋าสัมภาระล่าช้า และโครงการสะพานเศรษฐกิจเชื่อมฝั่งทะเลอ่าวไทย-อันดามัน (แลนด์บริดจ์) ของสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) อย่างไรก็ตาม กระทรวงคมนาคมจะพยายามทำทุกโครงการให้เต็มที่และดีที่สุด


นายศักดิ์สยาม กล่าวอีกว่า แม้จะเป็นรัฐบาลรักษาการ แต่ก็มีหน้าที่ที่ต้องกำกับดูแลงานโครงการต่าง ๆ และเร่งรัดการดำเนินโครงการที่อยู่ในแผนงานปี 66 อย่างไรก็ตาม สำหรับโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) หมายเลข 6 (M6) สายบางปะอิน-นครราชสีมา ในส่วนที่เหลืออีก 4 ตอนนั้น ทางกรมทางหลวง (ทล.) สามารถแก้ไขปัญหาในระดับกรมได้ และคาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการเส้นทางอย่างเต็มรูปแบบได้ในปี 68 ช้าสุดไม่เกินปี 69 แต่ปลายปี 66 จะเปิดให้ใช้บริการบางส่วนก่อน ตั้งแต่ช่วงปากช่อง ถึงทางเลี่ยงเมืองนครราชสีมา ระยะทางประมาณ 80 กิโลเมตร (กม.)...
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44842
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 27/02/2023 7:21 am    Post subject: Reply with quote

ดัดหลัง'ค้าเศษเหล็ก'มั่ว โกงคืนภาษีแวต
Source - มติชน
Monday, February 27, 2023 07:15

สรรพากรรื้อกฎเช็กเข้ม 'อินเดีย'บุกธุรกิจพัทยา ซื้อผับบาร์รับทัวร์ภารต

'สรรพากร'ดัดหลังผู้ค้าเศษเหล็กโกงภาษีมูลค่าเพิ่มจำนวนมาก เตรียมออก กม.กำหนดให้โรงหลอมมีหน้าที่นำส่งภาษีแทน

ดัดหลังผู้ค้าเศษเหล็กโกงแวต

เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า กรมสรรพากรเตรียมแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวกับการเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) ของธุรกิจรับซื้อเศษเหล็ก เพื่อแก้ปัญหาการโกงขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยกรมเสนอที่จะออกพระราชกฤษฎีกาให้โรงหลอมเหล็กซึ่งเป็นปลายทางของระบบการค้าขายธุรกิจค้าเหล็กในประเทศ ทำหน้าที่ในการออกใบกำกับภาษีขายแทนผู้ค้าเหล็ก

นายลวรณกล่าวว่า ในระบบการค้าขายธุรกิจค้าเหล็กจะเริ่มจากผู้รับซื้อเศษเหล็กรายย่อย เช่น คนขี่รถซาเล้งออกไปรับซื้อเศษเหล็กตามบ้าน เพื่อมานำส่งขายให้กับผู้รวบรวมเศษเหล็ก ซึ่งมีทั้งรายเล็กและรายใหญ่ จากนั้นผู้รวบรวมเศษเหล็กจะขายเศษเหล็กให้กับโรงหลอมเหล็ก เพื่อแปรรูปนำกลับมาใช้อีกครั้ง ซึ่งกฎหมายปัจจุบันในระบบภาษีมูลค่าเพิ่มกำหนดให้ผู้ขายเป็นผู้ออกใบกำกับภาษีขาย

"ดังนั้น เมื่อบริษัทผู้รวบรวมเหล็กมาขายเหล็กให้กับโรงหลอมเหล็ก ผู้รวบรวมจะต้องออกใบกำกับภาษีขายให้กับโรงหลอม ผู้ขายจึงมีหน้าที่นำส่งภาษีมูลค่าเพิ่มที่อยู่ในอัตรา 7% ให้กับกรมสรรพากร แต่พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้จะกำหนดให้ธุรกิจโรงหลอมเหล็ก เป็นผู้ออกใบกำกับภาษีขายแทนธุรกิจผู้รวบรวมเศษเหล็ก" นายลวรณกล่าว
นายลวรณกล่าวว่า สำหรับสาเหตุที่ต้องแก้ไขกฎหมายดังกล่าว เนื่องจากเกิดปัญหาการปลอมใบกำกับภาษีมูลค่าเพิ่มในธุรกิจนี้จำนวนมาก มีทั้งที่ตั้งใจปลอมใบกำกับภาษีมูลค่าเพิ่ม เพื่อหวังขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มมากกว่าปกติ และมีทั้งที่ไม่ได้ตั้งใจปลอมใบกำกับภาษี แต่เนื่องจากโรงหลอมเหล็กที่เป็นผู้รับซื้อเศษเหล็ก อาจมีใบกับภาษีปลอมติดเข้ามาด้วยจากผู้รวบรวมเศษเหล็กขาย เช่น มีใบกำกับภาษี 1 พันใบ พบใบกำกับภาษีปลอม 20 ใบ เมื่อกรมตรวจพบก็จะกลายเป็นคดีโกงภาษีโดยไม่ได้ตั้งใจเป็นจำนวนมาก และกฎของกรมสรรพากรคือ หากมีกรณีตรวจพบใบกำกับภาษีปลอมจะไม่มีการเจรจาเด็ดขาด

ดึงโรงหลอมนำส่งภาษีแทน

"สรรพากรมีคดีที่เกี่ยวกับการโกงใบกำกับภาษีในธุรกิจค้าเหล็กเยอะ เราก็ตรวจเข้ม ก็ไปดูจะทำอย่างไร ได้ทางออกมาแล้วคือ ระบบภาษีมูลค่ามีกลไกหนึ่งที่เรียกว่าการตรวจสอบย้อนหลัง ถ้าเราเชื่อมั่นในการทำธุรกิจของเขา เขาสามารถทำหน้าที่ทั้งภาษีขายและภาษีซื้อได้ทั้งสองขา เราคิดในกรมแล้ว กำลังดำเนินการด้านกฎหมาย และคุยกับผู้ประกอบการแล้ว เขาก็แฮปปี้ ในระยะสั้นจะออกเป็นพระราชกฤษฎีกา แต่ในระยะยาวจะทำให้ดีต้องแก้ที่ประมวลรัษฎากร" นายลวรณกล่าว

นายลวรณกล่าวว่า การแก้ไขกฎหมายเพื่อให้โรงหลอมเหล็กเป็นผู้ออกใบกำกับภาษีขายแทนผู้รวบรวมเหล็ก จะทำให้กรมสรรพากรตรวจสอบใบกำกับภาษี ของโรงหลอมเหล็กได้สะดวก เพราะมีไม่กี่รายในประเทศ แทนที่จะต้องไปตรวจสอบใบกำกับภาษีจากผู้รวบรวมเหล็กที่มีเป็นจำนวนมากในประเทศ ซึ่งกรมได้คุยกับผู้ประกอบการในธุรกิจนี้แล้ว ซึ่งเห็นด้วยกับระบบนี้ว่าจะสามารถสร้างความโปร่งใสในการเสียภาษีมูลค่าเพิ่มของธุรกิจนี้ได้ ซึ่งกรมคาดว่าจะสามารถประกาศใช้กฎหมายดังกล่าวได้ภายในปีนี้

วางมาตรการตามแนวยุโรป

นายลวรณกล่าวว่า ตามกฎหมายของกรมสรรพากรกำหนดให้ทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคลที่ประกอบการค้า และมีรายได้เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี จะต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม และมีหน้าที่ต้องนำส่งภาษีมูลค่าเพิ่มให้กับกรม โดยทุกครั้งที่ขายสินค้าออกไปจะต้องออกใบกำกับภาษีมูลค่าเพิ่มให้กับผู้ซื้อ ซึ่งในฝั่งผู้ขายจะเรียกว่าใบกำกับภาษีขาย ขณะที่ฝั่งผู้ซื้อซึ่งจะได้รับใบกำกับภาษีซื้อ

"เช่น ราคาสินค้าราคา 100 บาท ผู้ขายจะบวกภาษีมูลค่าเพิ่มอีก 7 บาท รวมเป็น 107 บาท ซึ่งผู้ขายมีหน้าที่นำส่งภาษีมูลค่าเพิ่ม 7 บาทต่อกรมสรรพากรในเดือนถัดไป ส่วนฝั่งผู้ซื้อสินค้าที่ต้องชำระเงินในราคา 107 บาทนั้น เท่ากับว่ามีภาระภาษี 7 บาท ซึ่งภาษี 7 บาทนี้ถือเป็นภาษีซื้อของผู้ซื้อ ซึ่งผู้ซื้อสามารถนำภาษีซื้อดังกล่าวมาหักออกจากยอดภาษีขายได้ กรณีภาษีขายน้อยกว่าภาษีซื้อ ธุรกิจนั้นก็จะได้รับการคืนภาษีส่วนเกิน" นายลวรณกล่าว
ด้านนายวินิจ วิเศษสุวรรณภูมิ รองอธิบดีกรมสรรรพากร ในฐานะโฆษกกรมสรรพากร กล่าวว่า แนวทางแก้ไขปัญหาดังกล่าวเป็นมาตรการใช้ชั่วคราวที่เปลี่ยนคนนำส่งภาษีเท่านั้น ซึ่งในต่างประเทศ เช่น ยุโรป ก็นำมาใช้เช่นกัน โดยเลือกใช้เฉพาะบางกิจการ หากไทยนำมาใช้ก็จะเป็นประเทศแรกในภูมิภาค เชื่อว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาใบกำกับภาษีปลอมในธุรกิจดังกล่าวได้

ลุ้นรบ.ใหม่ลุยต่อขยายรถไฟฟ้า

นายสุเมธ องกิตติกุล ผู้อำนวยการวิจัยนโยบายด้านการขนส่งและโลจิสติกส์ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) เปิดเผยว่า การเลือกตั้งที่กำลังจะมีขึ้นในเดือนพฤษภาคมนี้ ยังไม่เห็นพรรคการเมืองพูดถึงนโยบายการลงทุนพัฒนาโครงการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายในแผนแม่บท ที่ยังค้างคาอยู่อีกหลายสาย และคงจะชะลอออกไปไม่มีกำหนด เช่น สายสีเขียวสมุทรปราการ-บางปู, สีเขียวลำลูกกา-คูคต, สีน้ำเงินบางแค-พุทธมณฑลสาย 4, สีแดงหัวลำโพง-มหาชัย, สีทองคลองสาน-ประชาธิปก, สีเทาวัชรพล-ทองหล่อและพระโขนง-ท่าพระ, สีฟ้าดินแดง-สาทร, สีเหลืองแยกรัชดา-รัชโยธิน
    "ดูจากนโยบายตอนนี้ ส่วนต่อขยายใหม่คงจะชะลอไม่มีกำหนด ซึ่งรัฐบาลใหม่มีเวลา 4 ปีดำเนินการ แต่กว่าจะเดินหน้าแต่ละขั้นตอนใช้เวลานาน เช่น เวนคืนที่ดิน ประมูล ความซับซ้อนของพื้นที่ที่รถไฟฟ้าพาดผ่านกับหน่วยงานที่กำกับดูแลไม่ว่าจะเป็นกรุงเทพมหานคร หรือ กทม. หรือการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย หรือ รฟม. ที่สำคัญรัฐมีเงินลงทุนหรือไม่ ดังนั้น รัฐบาลใหม่คงจะเข้ามาสะสางสายเก่ายังตกค้าง เช่น สายสีเขียว สายสีส้ม รวมถึงสายสีแดงต่อขยายรังสิต-ม.ธรรมศาสตร์, ตลิ่งชัน-ศาลายา, ตลิ่งชัน-ศิริราช จะเปิดประมูลอีกกว่า 21,833 ล้านบาท เพราะรัฐบาลชุดปัจจุบันคงจะประชุมคณะรัฐมนตรีอีก 2 ครั้งก่อนยุบสภาและรัฐบาลรักษาคงไม่กล้าอนุมัติโครงการขนาดใหญ่ ต้องรอรัฐบาลใหม่" นายสุเมธกล่าว


ค่าตั๋ว20-40บาทตลอดสายเกิดยาก

นายสุเมธกล่าวว่า อีกนโยบายที่ดูแล้วไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ คือค่าโดยสารรถไฟฟ้าตลอดสาย 20 บาท ของพรรคเพื่อไทย และ 40 บาทตลอดสายของพรรคภูมิใจไทย เพราะไม่ได้ระบุว่าจะมีวิธีการดำเนินการอย่างไร นำเงินจากไหนเพื่อรับภาะระส่วนต่างค่าโดยสาร และคำว่าตลอดสายหมายถึงรวมกันทุกสายหรือเฉพาะสายเดียว หากเป็นเฉพาะสายก็คงทำได้และใช้เงินอุดหนุนไม่มาก เนื่องปัจจุบันรถไฟฟ้าแต่ละสายจะเก็บค่าโดยสารสูงสุดไม่เกิน 50 บาทอยู่แล้ว เช่น บีทีเอสส่วนหลักอยู่ที่ 47 บาท สีน้ำเงิน 43 บาท แต่จะให้คิดตลอดสายทุกระบบคงยาก และรัฐต้องมีเงินมาอุดหนุนจำนวนมาก

ชี้ขยายรถไฟฟ้าช่วยกทม.ลดแออัด

นายอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า หากรัฐมีการต่อขยายเส้นทางรถไฟฟ้าออกไปตามที่แผนแม่บทกำหนดไว้ จะเป็นเรื่องดีมาก ทำให้เกิดการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจและการขยายตัวของเมืองไปยังพื้นที่รอบนอกมากขึ้น จะทำให้บ้านราคาจะถูกกว่าในเมืองซึ่งมีต้นทุนที่ดินราคาสูง อีกทั้ง หากรถไฟฟ้าขยายออกไปคนที่ซื้อบ้านอยู่ชานเมืองจะสามารถใช้เดินทางเข้ามาทำงานในเมืองได้ ทำให้เมืองไม่กระจุกอยู่เฉพาะกรุงเทพฯ
    "ขึ้นอยู่กับภาครัฐจะมีงบประมาณเพียงพอในการลงทุนหรือไม่ ซึ่งการลงทุนมีหลายรูปแบบ รัฐจะลงทุนเองหรือให้เอกชนร่วมลงทุนแบบพีพีพีก็ได้ สิ่งสำคัญคือต้องทำให้ค่าโดยสารรถไฟฟ้าถูกลงกว่านี้ ที่ผ่านมาเห็นหลายรัฐบาลมี นโยบายแต่ยังไม่ออกมาเป็นรูปธรรม เพราะถ้าค่าโดยสารถูกจะจูงใจให้คนหันมาใช้รถไฟฟ้ามากขึ้น" นายอุทัยกล่าว


ก๊าซหุงต้มขึ้น1มี.ค.กก.ละ1บาท

รายงานข่าวจากสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) แจ้งว่า ราคาแอลพีจี (ก๊าซหุงต้ม) ยังคงเป็นไปตามมติคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ที่ตรึงราคา 408 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม (กก.) วันที่ 1-28 กุมภาพันธ์และวันที่ 1-31 มีนาคมนี้ จะปรับขึ้น กก.ละ 1 บาท หรือ 15 บาทต่อถัง ทำให้ราคาแอลพีจีขยับเป็น 423 บาทต่อถัง เนื่องจากราคาแอลพีจีตลาดโลกยังสูงกว่าราคาขายปัจจุบัน แม้จะปรับถึง 423 บาทต่อถัง 15 กก.แล้วก็ตาม

รายงานข่าวระบุว่า ด้านราคาน้ำมันดีเซล หลังลดลงรวม 1 บาทต่อลิตร คือลดลง 50 สตางค์ต่อลิตรเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ และวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ลดอีก 50 สตางค์ ตามมติที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ทำให้ราคาลดเหลือ 33.94 บาทต่อลิตร และหลังวันที่ 1 มีนาคม กบน.จะพิจารณาราคาอีกครั้งว่า จะลดลงได้อีกหรือไม่ จาก 2 ปัจจัยสำคัญคือ ราคาตลาดโลก และฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง

นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ในฐานะโฆษก กกพ. เปิดเผยถึงแนวโน้มค่าไฟงวดใหม่ (พฤษภาคม-สิงหาคม) ว่า แนวโน้มยังคงลดลงแน่นอน โดยประเมินว่าจะต่ำกว่า 5 บาทต่อหน่วย แต่ต้องรอสรุปตัวเลขต้นทุนที่เกี่ยวข้องอีกครั้งเดือนมีนาคมนี้ จึงจะทราบชัดเจนว่าลดลงได้เท่าไร จากปัจจุบันอัตราค่าไฟอยู่ที่ 5.24 บาทต่อหน่วย แต่รัฐบาลโดยคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) มีมติแบ่งเป็น 2 อัตรา คือสำหรับครัวเรือนตรึงไว้ที่ 4.72 บาทต่อหน่วย และสำหรับกลุ่มอื่นที่ไม่ใช่ครัวเรือน อาทิ เอกชน อัตรา 5.33 บาทต่อหน่วย

ทุนอินเดียลามเข้าพัทยา

แหล่งข่าวจากวงการธุรกิจใน จ.ชลบุรี เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีนักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนทำธุรกิจที่ จ.ชลบุรีกันมาก โดยเฉพาะจากอินเดียเข้ามาลงทุนทำธุรกิจร้านอาหารและผับบาร์ย่านถนนวอล์กกิ้งสตรีทพัทยา รองรับนักท่องเที่ยวชาวอินเดียที่เข้ามาท่องเที่ยวจำนวนมาก แต่ยังไม่ครบวงจรเหมือนนักลงทุนจีน ที่มีเข้ามาซื้อกิจการร้านอาหาร โรงแรมขนาด 3-4 ดาว และโครงการพูลวิลล่าในย่านบางละมุง พัทยา หาดจอมเทียน ทำเป็นธุรกิจท่องเที่ยวครบวงจรรองรับนักท่องเที่ยวจีน เหมือนกับทัวร์ศูนย์เหรียญที่กำลังจะกลับมาอีกครั้ง

นายมีศักดิ์ ชุนหรักษ์โชติ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย กล่าวว่า ขณะนี้มีคนจีนเข้าซื้อบ้านอยู่อาศัยใน จ.ชลบุรีอย่างต่อเนื่อง นอกจากนั้นยังมีนักลงทุนจีนเข้ามาพัฒนาโครงการบ้านจัดสรรด้วย เพื่อรองรับชาวจีนโดยเฉพาะ ทั้งลงทุนเองและลงทุนโดยคนไทยเป็นตัวแทน (นอมินี) อย่าไรก็ตาม ภายหลังเกิดกรณีทุนจีนสีเทาก็เริ่มซาลงไปบ้างแล้ว

ต่างชาติแห่เที่ยว-รร.ภูเก็ตจอง100%

นายธเนศ ตันติพิริยะกิจ นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยว่า ภาพรวมการท่องเที่ยวในภูเก็ตปัจจุบัน ตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติฟื้นตัว 70-80% ทำให้ธุรกิจโรงแรมกลับมาเปิดให้บริการแล้ว 70% เช่นกัน บางส่วนที่ยังไม่สามารถกลับมาเปิดได้เพราะติดปัญหาเงินทุนและความไม่แน่นอนของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะตลาดจีนแม้กลับเข้ามามากขึ้น แต่ยังถือว่าน้อยอยู่

นายธเนศกล่าวว่า ขณะนี้อัตราการเข้าพักอยู่ที่ประมาณ 80% แต่มีบางโรงแรมที่มีอัตราการเข้าพักฟื้นถึง 100% แล้ว เพราะมีทั้งนักท่องเที่ยวต่างชาติและคนไทย คาดว่าหลังจากนี้จะมีการทยอยเปิดบริการของโรงแรมมากขึ้น รวมถึงบางโรงแรมที่เปิดบางส่วนก็จะเปิดให้บริการเต็มรูปแบบมากขึ้น

"ปัญหาที่สำคัญในตอนนี้คือ การขาดแคลนแรงงานในภาคบริการ และระดับปฏิบัติงาน อาทิ แม่บ้าน พนักงานในครัว มีความต้องการสูงมากจนต้องดึงแรงงานจากจังหวัดอื่นเข้ามาเสริม รวมถึงจ้างเป็นรายวันเข้ามาสนับสนุนในบางวันที่ลูกค้ามีสูงกว่าปกติ อาทิ วันหยุดสุดสัปดาห์ อยากให้ภาครัฐช่วยหาทางแก้ไขปัญหาตรงนี้ เพื่อรองรับจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่กำลังจะฟื้นตัวเพิ่มมากขึ้นด้วย" นายธเนศกล่าว

ที่มา: นสพ.มติชน ฉบับวันที่ 28 ก.พ. 2566 (กรอบบ่าย)
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44842
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 03/03/2023 8:43 am    Post subject: Reply with quote

​โฆษกรัฐบาลเผย รัฐบาลบริหารหนี้สาธารณะอย่างรอบคอบ ระมัดระวัง ยึดหลัก “ครบถ้วน ถูกต้อง ตรงเวลา” ไม่เคยผิดนัดชำระหนี้ วางแผนการใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่า เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด

https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/65677

​โฆษกรัฐบาลเผย รัฐบาลบริหารหนี้สาธารณะอย่างรอบคอบ ระมัดระวัง ยึดหลัก “ครบถ้วน ถูกต้อง ตรงเวลา” ไม่เคยผิดนัดชำระหนี้ วางแผนการใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่า เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติ และประชาชน

วันที่ 3 มีนาคม 2566 นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีหนี้สาธารณะคงค้าง และความสามารถในการชำระหนี้ของประเทศไทย ว่า หนี้สาธารณะของประเทศไทยส่วนใหญ่กว่าร้อยละ 98 เป็นหนี้ในประเทศ และใช้เพื่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเพื่อกระจายความเจริญ ลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม ขยายโอกาส และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน รวมทั้งเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ เช่น โครงการพัฒนาการขนส่งทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ อาทิเช่นโครงการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ และปรับปรุงทางรถไฟทั่วประเทศ โครงการก่อสร้างทางสายหลักเป็น 4 ช่องจราจร การพัฒนาโครงข่ายถนนมอเตอร์เวย์ โครงการพัฒนาระบบสายส่งและสถานีไฟฟ้าทั่วประเทศ โครงการพัฒนาระบบบริหารจัดการทรัพยากรน้ำและก่อสร้าง การปรับปรุงขยายการประปา ไฟฟ้า ทั้งในส่วนของกรุงเทพฯ และปริมณฑล และในส่วนภูมิภาค เป็นต้น

นายอนุชา กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมารัฐบาลบริหารหนี้สาธารณะอย่างรอบคอบและระมัดระวัง ภายใต้กรอบในการบริหารหนี้สาธารณะ ตลอดจนชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยได้อย่างมีวินัย โดยยึดหลัก “ครบถ้วน ถูกต้อง ตรงเวลา” อย่างเคร่งครัด และไม่เคยผิดนัดชำระหนี้ นอกจากนี้ บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือในระดับสากล อาทิ S&P Moody’s และ Fitch คงอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทยที่ระดับ BBB+ และมุมมองความน่าเชื่อถือของประเทศไทยอยู่ในระดับมีเสถียรภาพ (Stable Outlook) ปัจจุบัน เนื่องจากประเทศไทยมีความเข้มแข็งภาคการคลังและภาคการเงินต่างประเทศอยู่ในระดับสูง

“สถานะทางการคลังของประเทศยังคงแข็งแกร่ง ซึ่งหลายสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือจากต่างประเทศ ได้ออกบทความให้การยอมรับความมีเสถียรภาพทางการคลังของประเทศไทยมาอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา นอกจากนั้น รัฐบาลมีศักยภาพในการชำระหนี้ และยังไม่เคยผิดนัดชำระหนี้ และที่สำคัญรัฐบาลวางแผนการใช้งบประมาณอย่างรอบคอบ คุ้มค่า เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติ และประชาชน” นายอนุชา กล่าว
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44842
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 08/03/2023 6:07 am    Post subject: Reply with quote

รฟม.ปรับเป้าเปิดโมโนเรล สีเหลืองธ.ค.66-ชมพูมิ.ย.67
Source - ข่าวหุ้น
Wednesday, March 08, 2023 05:18

รฟม.ปรับเป้าเปิดบริการสายสีเหลืองเป็น ธ.ค.นี้ จากแผนเดิม มิ.ย. 66 พร้อมเปิดบริการสายสีชมพู มิ.ย. 67 จากแผนเดิม ก.ค. 66 ประเมินปี 66 ผู้โดยสารสายสีน้ำเงินเฉลี่ย 2.32 แสนเที่ยวคนต่อวัน ส่วนสายสีม่วงเฉลี่ย 3.9 หมื่นเที่ยวคนต่อวัน

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วานนี้ (7 มี.ค. 2566) ได้รับทราบผลการดำเนินงานประจำปีงบประมาณ 2565 (ต.ค. 2564-ก.ย. 2565) ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) รวมถึงโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการและแผนงานในอนาคต ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ โดยในปีงบประมาณ 2565 รฟม. มีรายได้รวม 15,600.30 ล้านบาท ค่าใช้จ่าย 14,282.67 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 1,317.63 ล้านบาท สำหรับปี 2566 รฟม. มีเป้าหมายสร้างรายได้จากธุรกิจหลักและธุรกิจต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า 5% จากปี 2565

โดยปัจจุบัน รฟม. มีโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการ คือ
โครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง 4 โครงการ ได้แก่

1. รถไฟฟ้าโมโนเรล (รางเดี่ยว) สายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง งานโยธามีความก้าวหน้า 96.79% (เร็วกว่าแผน 1.35%) คาดว่าจะเปิดบริการเดือน ธ.ค. 2566,

2. โมโนเรล สายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี งานโยธาและติดตั้งงานระบบรถไฟฟ้าและการเดินรถก้าวหน้า 93.04% (เร็วกว่าแผน 2.74%) คาดว่าจะเปิดบริการเดือน มิ.ย. 2567

3. รถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรมฯ-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) การก่อสร้างงานโยธา ก้าวหน้า 98.31% (เร็วกว่าแผน 0.77%) งานผลิตและติดตั้งระบบรถไฟฟ้าและงานเดินรถ ก้าวหน้า 21.25% (ตามแผน) คาดว่าจะเปิดบริการเดือน ธ.ค. 2568 และ

4. สายสีม่วง ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) งานก่อสร้างโยธาก้าวหน้า 27.53% (เร็วกว่าแผน 1.82%) คาดว่าจะเปิดบริการเดือน ธ.ค. 2570

สำหรับโครงการที่อยู่ระหว่างการประกวดราคามี 1 โครงการ ได้แก่ รถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมฯ คาดว่าจะเปิดบริการเดือน พ.ค. 2571

สำหรับผลการให้บริการรถไฟฟ้า 2 เส้นทางในปี 2565

รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน มีผู้โดยสารเฉลี่ย 226,834 เที่ยวคนต่อวัน เพิ่มขึ้น 28.58% จากปีก่อน ความพึงพอใจของผู้ใช้บริการระดับมาก-มากที่สุดอยู่ที่ 89.52% (เป้าหมาย 87%) ส่วนปี 2566 คาดว่าจะมีผู้โดยสาร 232,000 เที่ยวคนต่อวัน ความพึงพอใจระดับมาก-มากที่สุดอยู่ที่ 85%

ขณะที่รถไฟฟ้าสายสีม่วง ในปี 2565 มีผู้โดยสารเฉลี่ย 38,802 เที่ยวคนต่อวัน เพิ่มขึ้น 18.47% จากปีก่อน ความพึงพอใจของผู้ใช้บริการระดับมากถึงมากที่สุด อยู่ที่ 89.62% (เป้าหมาย 88%) ส่วนปี 2566 คาดว่าจะมีผู้โดยสาร 39,772 เที่ยวคนต่อวัน ความพึงพอใจระดับมาก-มากที่สุดอยู่ที่ 85%

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า รฟม.ยังมีโครงการที่อยู่ระหว่างศึกษาและวิเคราะห์โครงการ คาดว่าจะได้รับการอนุมัติจาก ครม. ในปีงบประมาณ 2567-2569 จำนวน 5 โครงการ ประกอบด้วย
1. รถไฟฟ้าจังหวัดภูเก็ต
2. รถไฟฟ้าจังหวัดเชียงใหม่
3. รถไฟฟ้าจังหวัดนครราชสีมา
4. รถไฟฟ้าจังหวัดพิษณุโลก และ
5. รถไฟฟ้าสายสีน้ำตาลช่วงแคราย-ลำสาลี (บึงกุ่ม)

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้กระทรวงคมนาคม ระบุว่า รถไฟฟ้าสายสีเหลืองมีแผนเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบในเดือน มิ.ย. 2566 ส่วนสายสีชมพู มีแผนเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบในเดือน ก.ค. 2566

ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น ฉบับวันที่ 8 มี.ค. 2566
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44842
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 09/03/2023 6:02 am    Post subject: Reply with quote

กวนน้ำให้ใส
สารส้ม
วันพฤหัสบดี ที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2566, 02.00 น.
รถไฟฟ้ามาหานะเธอ

https://www.naewna.com/politic/columnist/54483

โครงการโครงสร้างพื้นฐาน ระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน เกิดขึ้นและคืบหน้าที่สุด ในยุคนี้

บางโครงการเสร็จแล้ว บางโครงการจวนเสร็จ บางโครงการกำลังก่อสร้างบางโครงการกำลังจะประมูล


บางโครงการทยอยจะเสร็จในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

มีทั้งใน กทม. และต่างจังหวัดในหัวเมืองใหญ่ๆ

ทั้งหมด มีความคืบหน้าเป็นรูปธรรม ต่างจากยุครัฐบาลนักการเมืองน้ำเน่าในอดีต ที่มีโครงการในอากาศ เอาไว้หลอกชาวบ้านหาคะแนนเสียง

ในการประชุม ครม.ล่าสุด ได้มีการอัปเดตความคืบหน้าของโครงการถไฟฟ้าทั้งใน กทม.และต่างจังหวัด ปรากฏข้อมูลที่น่าสนใจ และน่าคิดต่อ ดังนี้

1. รถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี

งานก่อสร้างงานโยธา ผลิตและติดตั้งงานระบบรถไฟฟ้าและงานเดินรถมีความก้าวหน้าร้อยละ 93.04 (เร็วกว่าแผนร้อยละ 2.74)

คาดว่าจะเปิดให้บริการในเดือนมิถุนายน 2567

2. รถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง

งานก่อสร้างงานโยธา ผลิตและติดตั้งงานระบบรถไฟฟ้า และงานเดินรถมีความก้าวหน้าร้อยละ 96.79 (เร็วกว่าแผนร้อยละ 1.35)

คาดว่าจะเปิดให้บริการในเดือนธันวาคม 2566

3. รถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก)

งานศึกษาวิเคราะห์รูปแบบการลงทุนงานระบบ มีความก้าวหน้าร้อยละ 40.80 (ตามแผน)

งานจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน มีความก้าวหน้าร้อยละ 70.33 (ตามแผน)

งานที่ปรึกษาโครงการฯ มีความก้าวหน้าร้อยละ 27.75 (เร็วกว่าแผนร้อยละ 2)

งานก่อสร้างงานโยธา ผลิตและติดตั้งงานระบบรถไฟฟ้าและงานเดินรถ มีความก้าวหน้าร้อยละ 27.57 (เร็วกว่าแผนร้อยละ 1.82)

คาดว่าจะเปิดให้บริการในเดือนธันวาคม 2570

4. รถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-มีนบุรี (สุวินทวงศ์)

งานก่อสร้างงานโยธา มีความก้าวหน้าร้อยละ 98.31 (เร็วกว่าแผนร้อยละ 0.77)

งานผลิตและติดตั้งงานระบบรถไฟฟ้าและงานเดินรถ มีความก้าวหน้าร้อยละ 21.25 (ตามแผน)

คาดว่าจะเปิดให้บริการในเดือนธันวาคม 2568

การเดินรถโครงการนี้ รอผลการประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก

5. รถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ – ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย (สายตะวันตก)

โครงการที่อยู่ระหว่างการประกวดราคา

คาดว่าจะเปิดให้บริการในเดือนพฤษภาคม 2571

6. โครงการที่อยู่ระหว่างการศึกษาและวิเคราะห์โครงการ

(1) รถไฟฟ้าจังหวัดภูเก็ต

เสนอขอความเห็นชอบรูปแบบการลงทุนฯ มีความก้าวหน้าร้อยละ 20 (ตามแผน)

งานคัดเลือกที่ปรึกษาฯ มีความก้าวหน้าร้อยละ 72 (ตามแผน)

คาดว่าจะเปิดให้บริการในเดือนธันวาคม 2570

(2) รถไฟฟ้าจังหวัดเชียงใหม่

เสนอขอความเห็นชอบรูปแบบการลงทุนฯ มีความก้าวหน้าร้อยละ 34 (ตามแผน) คาดว่าจะเปิดให้บริการในเดือนธันวาคม 2571

(3) รถไฟฟ้าจังหวัดนครราชสีมา

เสนอขอความเห็นชอบรูปแบบการลงทุนฯ มีความก้าวหน้าร้อยละ 34 (ตามแผน) คาดว่าจะเปิดให้บริการในเดือนธันวาคม 2571

(4) รถไฟฟ้าจังหวัดพิษณุโลก

อยู่ระหว่างคัดเลือกที่ปรึกษาความเหมาะสมโครงการฯ

คาดว่าจะเปิดให้บริการในเดือนกุมภาพันธ์ 2574

(5) รถไฟฟ้าสายสีน้ำตาลช่วงแคราย-ลำสาลี (บึงกุ่ม)

งานศึกษาและวิเคราะห์โครงการตามพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 มีความก้าวหน้าร้อยละ 64 (ตามแผน)

คาดว่าจะเปิดให้บริการในเดือนสิงหาคม 2571

7. นี่เฉพาะระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนที่อยู่ในการดูแลของ รฟม.

ยังไม่นับโครงการรถไฟความเร็วสูง ที่กำลังก่อสร้างร่วมกับจีน และที่กำลังศึกษาร่วมกับญี่ปุ่น ตลอดจนการลงทุนระบบราง โครงการรถไฟทางคู่ ซึ่งมีความคืบหน้ากว่าทุกยุคทุกสมัย อย่างชัดเจน เป็นรูปธรรม

รถไฟความเร็วสูงไทย-จีน กำลังก่อสร้าง เส้นทางช่วงกรุงเทพฯ-โคราช

รถไฟความเร็วสูง ที่ไทยร่วมมือกับญี่ปุ่น ล่าสุด มีความคืบหน้าการประชุมหารือด้านเทคนิคโครงการรถไฟความเร็วสูง ช่วงกรุงเทพฯ – เชียงใหม่

เมื่อวานนี้ (8 มี.ค.) การประชุม ประกอบด้วย ผู้แทนฝ่ายไทย ประกอบด้วย กรมการขนส่งทางราง สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ การรถไฟแห่งประเทศไทย และผู้แทนจากฝ่ายญี่ปุ่น ประกอบด้วย ผู้แทนจากกระทรวงที่ดิน โครงสร้างพื้นฐานการขนส่งและการท่องเที่ยวของญี่ปุ่น (MLIT) องค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (JICA) และสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย

ทั้งสองฝ่ายได้ร่วมกันพิจารณาผลการศึกษาความเหมาะสมทางด้านเศรษฐกิจและการเงินของโครงการรถไฟความเร็วสูงช่วงกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ฉบับสมบูรณ์ รวมถึงความร่วมมือในอนาคต

ฝ่ายญี่ปุ่นได้นำเสนอผลการศึกษาความเหมาะสมทางเศรษฐกิจ รวมทั้งผลประโยชน์ทางตรงและทางอ้อม พบว่า โครงการรถไฟความเร็วสูงช่วงกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพฯ – พิษณุโลก มีอัตราผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ (EIRR) อยู่ที่ร้อยละ 17.3

สูงกว่าเกณฑ์ ร้อยละ 12

โดยมีมูลค่าปัจจุบันสุทธิ (NPV) เป็นบวกตลอดระยะเวลาดำเนินการ

จึงก่อให้เกิดความคุ้มค่าในด้านเศรษฐศาสตร์

นี่คือตัวอย่าง “ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ”

ตามที่นายกฯ ลุงตู่ ประกาศไว้นั่นเอง

สารส้ม


Last edited by Mongwin on 09/03/2023 11:26 am; edited 1 time in total
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42784
Location: NECTEC

PostPosted: 09/03/2023 11:10 am    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
รฟม.ปรับเป้าเปิดโมโนเรล สีเหลืองธ.ค.66-ชมพูมิ.ย.67
Source - ข่าวหุ้น
Wednesday, March 08, 2023 05:18




รถไฟฟ้าสายสีเหลือง "ลาดพร้าว-สำโรง" คาดเปิดบริการเดือน ธ.ค. 2566 นี้
ข่าวการเมือง
ไทยรัฐออนไลน์
วันอังคาร ที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2566 เวลา 20:01 น.

ครม.รับทราบผลดำเนินงานปีงบประมาณ 65 ของ รฟม. พร้อมแผนงานในอนาคต เผยรถไฟฟ้าสายสีเหลืองเตรียมเปิดบริการ ธ.ค. 66 นี้

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) วันที่ 7 มี.ค. 66 ได้รับทราบผลการดำเนินงานประจำปีงบประมาณ 2565 ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) รวมถึงโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการและแผนงานในอนาคต ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ

ทั้งนี้ ปีงบประมาณ 65 (ต.ค.64 - ก.ย.65) รฟม.มีรายได้รวม 15,600.30 ล้านบาท ค่าใช้จ่าย 14,282.67 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 1,317.63 ล้านบาท สำหรับปี 66 รฟม.มีเป้าหมายที่จะสร้างรายได้จากธุรกิจหลักและธุรกิจต่อเนื่องเพิ่มขึ้นเท่ากับ หรือมากกว่าร้อยละ 5 จากปี 65


น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ทางด้านผลการให้บริการรถไฟฟ้า 2 เส้นทาง สายเฉลิมรัชมงคล (สายสีน้ำเงิน) มีผู้โดยสารเฉลี่ย 226,834 คน-เที่ยว/วัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 28.58 ความถึงพอใจของผู้ใช้บริการระดับมาก-มากที่สุดอยู่ที่ร้อยละ 89.52 (เป้าหมายร้อยละ 87) ส่วนเป้าหมายปี 66 คาดว่าจะมีผู้โดยสาร 232,000 คน-เที่ยว/วัน ความพึงพอใจระดับมาก-มากที่สุดอยู่ที่ร้อยละ 85

สายฉลองรัชธรรม (สายสีม่วง) มีผู้โดยสารเฉลี่ย 38,802 คน-เที่ยว/วัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 18.47 ความพึงพอใจของผู้ใช้บริการระดับมากถึงมากที่สุด อยู่ที่ร้อยละ 89.62 (เป้าหมายร้อยละ 88) ปี 66 คาดว่าจะมีผู้โดยสาร 39,772คน-เที่ยว/วัน ความพึงพอใจระดับมาก-มากที่สุดอยู่ที่ร้อยละ 85

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า รฟม.มีโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการประกอบด้วย โครงการอยู่ระหว่างการก่อสร้าง 4 โครงการ ได้แก่ 1) สายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง งานโธยาฯ ก้าวหน้าร้อยละ 96.79 (เร็วกว่าแผนร้อยละ 1.35) คาดว่าจะเปิดบริการเดือน ธ.ค. 66 2) รถไฟฟ้าสายสีชมพูช่วงแคราย-มีนบุรี การก่อสร้างงานโยธาและติดตั้งงานระบบรถไฟฟ้าและการเดินรถก้าวหน้าร้อยละ 93.04 (เร็วกว่าแผนร้อยละ 2.74) คาดว่าจะเปิดบริการเดือน มิ.ย. 67

3) รถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรมฯ-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) การก่อสร้างงานโยธาก้าวหน้าร้อยละ 98.31 (เร็วกว่าแผนร้อยละ 0.77) งานผลิตและติดตั้งระบบรถไฟฟ้าและงานเดินรถ ก้าวหน้าร้อยละ 21.25 (ตามแผน) คาดว่าจะเปิดบริการเดือน ธ.ค. 68 และ 4) สายสีม่วง ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) งานก่อสร้างโยธาฯ ก้าวหน้าร้อยละ 27.53 (เร็วกว่าแผนร้อยละ 1.82) คาดว่าจะเปิดบริการ ธ.ค. 70 สำหรับโครงการที่อยู่ระหว่างการประกวดราคามี 1 โครงการ ได้แก่ รถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมฯ คาดว่าจะเปิดบริการ พ.ค. 71

นอกจากนี้มีโครงการที่อยู่ระหว่างการศึกษาและวิเคราะห์โครงการซึ่งคาดว่าจะได้รับการอนุมัติจาก ครม. ในปีงบประมาณ 2567-2569 จำนวน 5 โครงการ ประกอบด้วย รถไฟฟ้าจังหวัดภูเก็ต, รถไฟฟ้าจังหวัดเชียงใหม่, รถไฟฟ้าจังหวัดนครราชสีมา, รถไฟฟ้าจังหวัดพิษณุโลก และรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาลช่วงแคราย-ลำสาลี (บึงกุ่ม) นอกจากนี้มีแผนพัฒนาระบบเชื่อมต่อเพื่อสนับสนุนการเดินทางต่อเนื่องหลายรูปแบบ เช่น การพัฒนาระบบจอดรถอัตโนมัติ (Smart Parking) ด้วย.
รถไฟฟ้าสายสีเหลืองเตรียมเปิดบริการ ธ.ค. 66
โดย PPTV Online

เผยแพร่ วันอังคาร ที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2566 เวลา 16:17 น.


ครม. รับทราบผลดำเนินงานปีงบประมาณ 65 ของ รฟท. พร้อมแผนงานในอนาคต เผยรถไฟฟ้าสายสีเหลืองเตรียมเปิดบริการ ธ.ค. 66 นี้

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) วันที่ 7 มี.ค. 66 ได้รับทราบผลการดำเนินงานประจำปีงบประมาณ 2565 ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) รวมถึงโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการและแผนงานในอนาคต ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ

เงินเฟ้อ ธ.ค. สูงขึ้น 5.89% ค่าไฟ ก๊าซหุงต้ม น้ำมัน อาหารสด ยังกดดัน ทั้งปี เพิ่มขึ้น 6.08%

ไฟเขียว ทอท.สรรหาบริษัทภาคพื้นรายใหม่ สนามบินสุวรรณภูมิ รองรับเที่ยวบินแออัด

ซึ่งโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการ และคาดว่าคาดว่าจะเปิดบริการเดือน ธ.ค. 66 คือ สายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง งานโธยาฯ ก้าวหน้าร้อยละ 96.79 (เร็วกว่าแผนร้อยละ 1.35)



นอกจากนั้นยังมี รถไฟฟ้าสายสีชมพูช่วงแคราย-มีนบุรี การก่อสร้างงานโยธาและติดตั้งงานระบบรถไฟฟ้าและการเดินรถก้าวหน้าร้อยละ 93.04 (เร็วกว่าแผนร้อยละ 2.74) คาดว่าจะเปิดบริการ เดือน มิ.ย. 67


รถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรมฯ-มีนบุรี(สุวินทวงศ์) การก่อสร้างงานโยธา ก้าวหน้าร้อยละ 98.31(เร็วกว่าแผนร้อยละ 0.77) งานผลิตและติดตั้งระบบรถไฟฟ้าและงานเดินรถ ก้าวหน้าร้อยละ 21.25(ตามแผน) คาดว่าจะเปิดบริการเดือนธ.ค. 68

สายสีม่วง ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ(วงแหวนกาญจนาภิเษก) งานก่อสร้างโยธาฯ ก้าวหน้าร้อยละ 27.53 (เร็วกว่าแผน ร้อยละ 1.82) คาดว่าจะเปิดบริการ ธ.ค. 70

สำหรับโครงการที่อยู่ระหว่างการประกวดราคามี 1 โครงการ ได้แก่ รถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมฯ คาดว่าจะเปิดบริการ พ.ค. 71

รายได้สีน้ำเงิน-ม่วง ปีงบประมาณ 65 อยู่ที่ 15,600.30 ล้านบาท

ส่วนใน ปีงบประมาณ 65 (ต.ค.64-ก.ย.65) รฟม. มีรายได้รวม 15,600.30 ล้านบาท ค่าใช้จ่าย 14,282.67 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 1,317.63 ล้านบาท สำหรับปี 66 รฟม. มีเป้าหมายที่จะสร้างรายได้จากธุรกิจหลักและธุรกิจต่อเนื่องเพิ่มขึ้นเท่ากับหรือมากกว่าร้อยละ 5 จากปี 65

โดยผลการให้บริการรถไฟฟ้า 2 เส้นทาง สายเฉลิมรัชมงคล(สายสีน้ำเงิน) มีผู้โดยสารเฉลี่ย 226,834 คน-เที่ยว/วัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 28.58 ความถึงพอใจของผู้ใช้บริการระดับมาก-มากที่สุดอยู่ที่ร้อยละ 89.52 (เป้าหมายร้อยละ 87) ส่วนเป้าหมายปี 66 คาดว่าจะมีผู้โดยสาร 232,000 คน-เที่ยว/วัน ความพึงพอใจระดับมาก-มากที่สุดอยู่ที่ร้อยละ 85


สายฉลองรัชธรรม (สายสีม่วง) มีผู้โดยสารเฉลี่ย 38,802 คน-เที่ยว/วัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 18.47 ความพึงพอใจของผู้ใช้บริการระดับมากถึงมากที่สุด อยู่ที่ร้อยละ 89.62 (เป้าหมายร้อยละ 88) ปี 66 คาดว่าจะมีผู้โดยสาร 39,772คน-เที่ยว/วัน ความพึงพอใจระดับมาก-มากที่สุดอยู่ที่ร้อยละ 85


นอกจากนี้ มีโครงการที่อยู่ระหว่างการกศึกษาและวิเคราะห์โครงการซึ่งคาดว่าจะได้รับการอนุมัติจาก ครม. ในปีงบประมาณ 2567-69 จำนวน 5 โครงการ ประกอบด้วย

รถไฟฟ้าจังหวัดภูเก็ต, รถไฟฟ้าจังหวัดเชียงใหม่, รถไฟฟ้าจังหวัดนครราชสีมา, รถไฟฟ้าจังหวัดพิษณุโลก และรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาลช่วงแคราย-ลำสาลี(บึงกุ่ม)

และมีแผนพัฒนาระบบเชื่อมต่อเพื่อสนับสนุนการเดินทางต่อเนื่องหลายรูปแบบ เช่น การพัฒนาระบบจอดรถอัตโนมัติ (Smart Parking) ด้วย

รถไฟฟ้าสายสีเหลือง "ลาดพร้าว-สำโรง" คาดเปิดบริการเดือน ธ.ค. 2566 นี้
ข่าวการเมือง
ไทยรัฐออนไลน์
เผยแพร่ วันอังคาร ที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2566 เวลา 20:01 น.

ครม.รับทราบผลดำเนินงานปีงบประมาณ 65 ของ รฟม. พร้อมแผนงานในอนาคต เผยรถไฟฟ้าสายสีเหลืองเตรียมเปิดบริการ ธ.ค. 66 นี้

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) วันที่ 7 มี.ค. 66 ได้รับทราบผลการดำเนินงานประจำปีงบประมาณ 2565 ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) รวมถึงโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการและแผนงานในอนาคต ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ

ทั้งนี้ ปีงบประมาณ 65 (ต.ค.64 - ก.ย.65) รฟม.มีรายได้รวม 15,600.30 ล้านบาท ค่าใช้จ่าย 14,282.67 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 1,317.63 ล้านบาท สำหรับปี 66 รฟม.มีเป้าหมายที่จะสร้างรายได้จากธุรกิจหลักและธุรกิจต่อเนื่องเพิ่มขึ้นเท่ากับ หรือมากกว่าร้อยละ 5 จากปี 65


น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ทางด้านผลการให้บริการรถไฟฟ้า 2 เส้นทาง สายเฉลิมรัชมงคล (สายสีน้ำเงิน) มีผู้โดยสารเฉลี่ย 226,834 คน-เที่ยว/วัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 28.58 ความถึงพอใจของผู้ใช้บริการระดับมาก-มากที่สุดอยู่ที่ร้อยละ 89.52 (เป้าหมายร้อยละ 87) ส่วนเป้าหมายปี 66 คาดว่าจะมีผู้โดยสาร 232,000 คน-เที่ยว/วัน ความพึงพอใจระดับมาก-มากที่สุดอยู่ที่ร้อยละ 85

สายฉลองรัชธรรม (สายสีม่วง) มีผู้โดยสารเฉลี่ย 38,802 คน-เที่ยว/วัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 18.47 ความพึงพอใจของผู้ใช้บริการระดับมากถึงมากที่สุด อยู่ที่ร้อยละ 89.62 (เป้าหมายร้อยละ 88) ปี 66 คาดว่าจะมีผู้โดยสาร 39,772คน-เที่ยว/วัน ความพึงพอใจระดับมาก-มากที่สุดอยู่ที่ร้อยละ 85

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า รฟม.มีโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการประกอบด้วย โครงการอยู่ระหว่างการก่อสร้าง 4 โครงการ ได้แก่ 1) สายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง งานโธยาฯ ก้าวหน้าร้อยละ 96.79 (เร็วกว่าแผนร้อยละ 1.35) คาดว่าจะเปิดบริการเดือน ธ.ค. 66 2) รถไฟฟ้าสายสีชมพูช่วงแคราย-มีนบุรี การก่อสร้างงานโยธาและติดตั้งงานระบบรถไฟฟ้าและการเดินรถก้าวหน้าร้อยละ 93.04 (เร็วกว่าแผนร้อยละ 2.74) คาดว่าจะเปิดบริการเดือน มิ.ย. 67

3) รถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรมฯ-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) การก่อสร้างงานโยธาก้าวหน้าร้อยละ 98.31 (เร็วกว่าแผนร้อยละ 0.77) งานผลิตและติดตั้งระบบรถไฟฟ้าและงานเดินรถ ก้าวหน้าร้อยละ 21.25 (ตามแผน) คาดว่าจะเปิดบริการเดือน ธ.ค. 68 และ 4) สายสีม่วง ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) งานก่อสร้างโยธาฯ ก้าวหน้าร้อยละ 27.53 (เร็วกว่าแผนร้อยละ 1.82) คาดว่าจะเปิดบริการ ธ.ค. 70 สำหรับโครงการที่อยู่ระหว่างการประกวดราคามี 1 โครงการ ได้แก่ รถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมฯ คาดว่าจะเปิดบริการ พ.ค. 71

นอกจากนี้มีโครงการที่อยู่ระหว่างการศึกษาและวิเคราะห์โครงการซึ่งคาดว่าจะได้รับการอนุมัติจาก ครม. ในปีงบประมาณ 2567-2569 จำนวน 5 โครงการ ประกอบด้วย รถไฟฟ้าจังหวัดภูเก็ต, รถไฟฟ้าจังหวัดเชียงใหม่, รถไฟฟ้าจังหวัดนครราชสีมา, รถไฟฟ้าจังหวัดพิษณุโลก และรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาลช่วงแคราย-ลำสาลี (บึงกุ่ม) นอกจากนี้มีแผนพัฒนาระบบเชื่อมต่อเพื่อสนับสนุนการเดินทางต่อเนื่องหลายรูปแบบ เช่น การพัฒนาระบบจอดรถอัตโนมัติ (Smart Parking) ด้วย.


Last edited by Wisarut on 09/03/2023 1:31 pm; edited 1 time in total
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42784
Location: NECTEC

PostPosted: 09/03/2023 11:26 am    Post subject: เสี่ยหนูฝากฝังบิ๊กแจ๊สทำรถไฟฟ้าโมโนเรลเชื่อมสายแดงและบีทีเอส Reply with quote

“อนุทิน” ลุย “ปทุมธานี” ตอกเสาเข็ม ประกาศจับมือ “บิ๊กแจ๊ส” ขอโอกาส ภูมิใจไทย ยกทีม :

"อนุทิน" ประกาศพร้อมจับมือ "บิ๊กแจ๊ส" ลั่นตอกเสาเข็มปทุมธานี
การเมือง
05 มี.ค. 2566 เวลา 17:16 น.
เลือกตั้ง 2566 : "อนุทิน" จับมือ "บิ๊กแจ๊ส" สร้าง "โมโนเรล" ให้ชาวปทุมฯ
การเมือง
05 มี.ค. 2566 เวลา 18:15 น.






"อนุทิน" นำทัพภูมิใจไทย ไป "ปทุมธานี" ขอตอกเสาเข็มเพิ่ม ประกาศจับมือ "บิ๊กแจ๊ส" สร้าง "โมโนเรล" ย้ำ นโยบาย กองทุนประกันชีวิต ผู้สูงอายุ 60 ปี ขึ้นไป มีเงินใช้ 2 หมื่นบาท หากจากไปทั้งมรดก 1 แสน

นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ลงพื้นที่ ช่วยนางสาวณัฐธิดา เกียรติพัฒนาชัย หรือ ส.จ.หนึ่ง หาเสียงที่จังหวัดปทุมธานี ประกาศจับมือ "บิ๊กแจ๊ส"พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี พัตนาเมืองปทุมฯ
"อนุทิน" ทำทีมเยือนปทุมธานี เปิด"7ผู้สมัคร" รับสัมพันธ์"บิ๊กแจ๊ส" ฝากฝังทีมสจ.-พร้อมจับมือ พร้อมประกาศตอกเสาเข็ม
ที่หมู่บ้านไวท์เฮ้าท์ จ.ปทุมธานี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณะสุข ในฐานะ หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พร้อมแกนนำ ส.ส. และว่าที่ผู้สมัครลงพื้นที่ช่วยนางสาวณัฐธิดา เกียรติพัฒนาชัยหรือ"สจ.หนึ่ง" ว่าที่ผู้สมัครเขต4 หาเสียง

โดยเน้นย้ำนโยบายผู้สูงอายุ คือ เมื่อท่านอายุ 60 ปีขึ้นไป เราให้สิทธิ์ท่านเป็นสมาชิกกองทุนประกันชีวิต และมีกรมธรรม์ประกันชีวิตทันที โดยไม่ต้องสมัคร และไม่ต้องจ่ายค่าเบี้ยประกันชีวิต ให้สิทธิ์กู้เงินดูแลตัวเอง และ ประกอบอาชีพ หาเลี้ยงตัวเองได้
.
"ท่านมีเงิน 20,000 บาทใช้ จากกรมธรรม์ของท่านเอง ไม่ต้องไปใช้ของลูกหลาน เมื่อท่านจากไป ท่านยังทิ้งมรดกให้ลูกหลานอีก 100,000 บาท"
.
จากนั้น นายอนุทิน ได้กล่าวถึงนโยบายขึ้นค่าตอบแทน อสม.เป็น 2,000 บาทต่อเดือน, นโยบายพักหนี้ 1,000,000 บาท หยุดต้น ปลอดดอกเบี้ย , นโยบายด้านการสาธารณสุข อาทิ การจัดหาเครื่องฉายรังสีรักษามะเร็งมาติดตั้งไว้ทุกจังหวัด และการสร้างศูนย์ไตเทียมในทุกอำเภอ

"อนุทิน" ประกาศพร้อมจับมือ "บิ๊กแจ๊ส" ลั่นตอกเสาเข็มปทุมธานี


นายอนุทิน ยังกล่าวถึงกรณีปรากฎภาพร่วมกับ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกอบจ.ปทุมธานี ท่ามกลางการจับตาไปที่กระแสข่าวการย้ายพรรคว่า

"ผมเจอท่าน และท่านฝากทีมของท่านไว้กับผม ซึ่งท่านแนะนำว่า ให้ประกาศไปเลยว่า หากภูมิใจไทยคว้า ส.ส.แบบยกจังหวัด จะสร้างโมโนเรลให้ชาวปทุมธานี ซึ่งทาง อบจ. พร้อมสนับสนุน ผมเลยบอกว่า จะได้กี่คน ผมก็จะประกาศนโยบายนี้ เพราะดูแล้วเป็นนโยบายที่ชาวปทุมฯ ต้องการ

ผมขอบคุณท่านคำรณวิทย์ ท่านรู้ว่าพี่น้องต้องการอะไร และท่านก็อยากช่วยเหลือเต็มที่ หวังว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ เราจะตอกเสาเข็มเพิ่ม ยิ่งท่านวางใจเรา เราก็ยิ่งมีพาวเวอร์ในการทำงานรับใช้ท่าน"

.


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับผู้สมัคร ส.ส.จ.ปทุมธานี พรรคภูมิใจไทย ประกอบไปด้วย นายนพพร ขาวขำ ผู้สมัคร ส.ส.จ.ปทุมธานี เขต 1, พล.ต.ต.วัฒนา วงศ์จันทร์ ผู้สมัคร ส.ส.จ.ปทุมธานี เขต 2, นายอนาวิล รัตนสถาพร ผู้สมัคร ส.ส.จ.ปทุมธานี เขต 3, นางสาว ณัฐธิดา เกียรติพัฒนาชัย ผู้สมัคร ส.ส.จ.ปทุมธานี 4 , นายพิษณุ พลธี ผู้สมัคร ส.ส.จ.ปทุมธานี เขต 5, นายเอกชัย ศรีสุขชยะกุล ผู้สมัคร ส.ส.จ.ปทุมธานี เขต 6 และนางสาวพรพิมล ธรรมสาร ผู้สมัคร ส.ส.จ. ปทุมธานี เขต 7
https://www.youtube.com/watch?v=l2d1cFeZQpM
https://www.youtube.com/watch?v=r81388uumGs[/url]
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42784
Location: NECTEC

PostPosted: 09/03/2023 1:55 pm    Post subject: Reply with quote

เช็กความคืบหน้ารถไฟฟ้า 5 เส้นทาง สายสีเหลืองเปิดเดินรถเร็วสุด
ในประเทศ
วันที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2566 เวลา 17:41 น.

เช็กความคืบหน้ารถไฟฟ้า 5 เส้นทาง 89 สถานีทั่วกรุงเทพฯ-ปริมณฑล เริ่มเปิดเดินรถเร็วสุด สายสีเหลืองลาดพร้าว-สำโรง เริ่มปลายปี 2566

วันที่ 8 มีนาคม 2566 การรถไฟขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้า 5 สาย หลังรายงานให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบเมื่อวานนี้ (7 มีนาคม) ประกอบด้วย โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในเดือนธันวาคม 2566 ถัดไปคือโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในเดือนมิถุนายน 2567


ส่วนรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันออก คาดว่าจะมีเปิดให้บริการได้ในเดือนธันวาคม 2568 และโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ส่วนต่อขยาย ช่วงสถานีศรีรัช -เมืองทองธานี ตามแผนคาดว่าจะเริ่มเปิดให้บริการได้ในปี 2568 จากนั้นโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) หรือรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในเดือนธันวาคม 2570



โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) หรือรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันออก ความก้าวหน้างานโยธา 99.00% คาดว่าจะมีเปิดให้บริการได้ในเดือนธันวาคม 2568 ถึงแม้ว่า จะเปิดเต็มระบบเดือนพฤษภาคม 2571 มีสถานี 17 สถานีดังต่อไปนี้

สถานีแยกร่มเกล้า
สถานีมีนบุรี
สถานีเคหะรามคำแหง
สถานีมีนพัฒนา
สถานีราษฎร์พัฒนา
สถานีน้อมเกล้า
สถานีสัมมากร
สถานีคลองบ้านม้า
สถานีศรีบูรพา
สถานีแยกลำสาลี
สถานีรามคำแหง 34
สถานี กกท.
สถานีรามคำแหง
สถานีรามคำแหง 12
สถานีวัดพระราม 9
สถานี รฟม.
สถานีศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย
โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง ความก้าวหน้างานโยธา 98.54% ความก้าวหน้างานระบบรถไฟฟ้า 98.57% ความก้าวหน้าโดยรวม 98.55% คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในเดือนธันวาคม 2566 ทั้งสิ้น 23 สถานี ดังต่อไปนี้

สถานีลาดพร้าว
สถานีภาวนา
สถานีโชคชัย 4
สถานีลาดพร้าว 71
สถานีลาดพร้าว 83
สถานีมหาดไทย
สถานีลาดพร้าว 101
สถานีบางกะปิ
สถานีแยกลำสาลี
สถานีศรีกรีฑา
สถานีหัวหมาก
สถานีกลันตัน
สถานีศรีนุช
สถานีศรีนครินทร์ 38
สถานีสวนหลวง ร.9
สถานีศรีอุดม
สถานีศรีเอี่ยม
สถานีศรีลาซาล
สถานีศรีแบริ่ง
สถานีศรีด่าน
สถานีศรีเทพา
สถานีทิพวัล
สถานีสำโรง
โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี ความก้าวหน้างานโยธา 95.37% ความก้าวหน้างานระบบรถไฟฟ้า 95.70% ความก้าวหน้าโดยรวม 95.56% คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในเดือนมิถุนายน 2567 โดยมีสถานีทั้งสิ้น 30 สถานี ดังต่อไปนี้


สถานีศูนย์ราชการนนทบุรี
สถานีแคราย
สถานีสนามบินน้ำ
สถานีสามัคคี
สถานีกรมชลประทาน
สถานีแยกปากเกร็ด
สถานีเลี่ยงเมืองปากเกร็ด
สถานีแจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด 28
สถานีเมืองทองธานี
สถานีศรีรัช
สถานีแจ้งวัฒนะ 14
สถานีศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ
สถานีทีโอที
สถานีหลักสี่
สถานีราชภัฏพระนคร
สถานีวัดพระศรีมหาธาตุ
สถานีรามอินทรา 3
สถานีลาดปลาเค้า
สถานีรามอินทรา กม.4
สถานีมัยลาภ
สถานีวัชรพล
สถานีรามอินทรา กม.6
สถานีคู้บอน
สถานีรามอินทรา 83
สถานีปัญญาอินทรา
สถานีนพรัตน์
สถานีบางชัน
สถานีเศรษฐบุตรบำเพ็ญ
สถานีตลาดมีนบุรี
สถานีมีนบุรี
โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ส่วนต่อขยาย ช่วงสถานีศรีรัช -เมืองทองธานี ความก้าวหน้างานโยธา 19.06% ความก้าวหน้างานระบบรถไฟฟ้า 7.87% ความก้าวหน้าโดยรวม 15.31% ตามแผนคาดว่าจะเริ่มเปิดให้บริการได้ในปี 2568 มีสถานีทั้งสิ้น 2 สถานี คือ

สถานีเมืองทองธานี
สถานีทะเลสาบเมืองทองธานี
โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) หรือรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ ความก้าวหน้างานโยธา 7.73% คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในเดือนธันวาคม 2570 มีสถานีทั้งสิ้น 17 สถานี ดังนี้

สถานีรัฐสภา
สถานีศรีย่าน
สถานีสามเสน
สถานีหอสมุดแห่งชาติ
สถานีบางขุนพรหม
สถานีผ่านฟ้า
สถานีวังบูรพา
สถานีสะพานพุทธ
สถานีวงเวียนใหญ่
สถานีสำเหร่
สถานีจอมทอง
สถานีดาวคะนอง
สถานีบางปะกอก
สถานีประชาอุทิศ
สถานีราษฎร์บูรณะ
สถานีพระประแดง
สถานีครุใน[/url]
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> โครงการระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคต All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 260, 261, 262 ... 278, 279, 280  Next
Page 261 of 280

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©