Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Ads Service

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311296
ทั่วไป:13274004
ทั้งหมด:13585300
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - รวมข่าวรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคตตามนโยบายรัฐบาล
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

รวมข่าวรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคตตามนโยบายรัฐบาล
Goto page Previous  1, 2, 3 ... , 278, 279, 280  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> โครงการระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคต
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44651
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 05/04/2024 8:01 am    Post subject: Reply with quote

ครม.รับทราบปี66รฟม.เบิกจ่ายงบลงทุน1.78หมื่นล้าน ปรับแผนวิสาหกิจปี67เดินหน้ารถไฟฟ้า9เส้นทาง
Source - ผู้จัดการรายวัน 360 องศา
Friday, April 05, 2024 06:02

ผู้จัดการรายวัน360 - ครม.รับทราบผลดำเนินงาน รฟม.ปีงบประมาณ 66 รถไฟฟา MRT สีน้ำเงินมีผู้โดยสารเฉลี่ย 375,658 คน/วัน เพิ่มขึ้น 65.62% สีม่วง 56,405 คน/วัน เพิ่มขึ้น 45.37% เบิกจ่ายงบลงทุน 1.78 หมื่นล้านบาท เปิดบริการรถไฟฟา สีเหลือง-สีชมพู ปรับแผนวิสาหกิจ ปี 67 เดินหน้ารถไฟฟา อีก 9 เส้นทาง

รายงานข่าวเปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 2 เม.ย. 2567 รับทราบรายงานผลการดำเนินงานของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 รวมถึงนโยบายของคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟม. โครงการและแผนงานของ รฟม. ในอนาคต ตามมาตรา 73 แห่งพระราชบัญญัติการรถไฟฟ้า ขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2543 ตามที่กระทรวงคมนาคม เสนอ ซึ่งผลดำเนินงาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 (ณ วันที่ 30 กันยายน 2566) รถไฟฟ้า สายเฉลิมรัชมงคล (MRTสายสีน้ำเงิน) มีจำนวนผู้โดยสารเฉลี่ยสะสม 375,658 คน-เที่ยว/วัน เพิ่มขึ้น 65.62% จากปี 2565 (เป้าหมายต้องเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 2.5% ) สายฉลองรัชธรรม (MRTสายสีม่วง) มีจำนวนผู้โดยสาร เฉลี่ยสะสม 56,405 คน-เที่ยว/วัน เพิ่มขึ้น 45.37 % จากปี 2565 (เป้าหมายต้องเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 2.5% )

นอกจากนี้ รฟม. มีแผนพัฒนาบริการด้านต่าง ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการและความพึงพอใจของผู้ใช้บริการและเพื่อช่วยเพิ่มจำนวนผู้ใช้บริการรถไฟฟ้า ทั้งนี้ผลสำรวจความพึงพอใจของ ผู้ใช้บริการต่อการให้บริการรถไฟฟ้ามหานคร และบริการเสริมอื่นๆ สายสีน้ำเงิน 89.52% (เป้าหมาย 87%) และสายสีม่วง 89.62% (เป้าหมาย 88%) ด้านการรักษาความปลอดภัยและกู้ภัย สายสีน้ำเงิน เกิดเหตุอาชญากรรม จำนวน 15 ครั้ง (เป้าหมายไม่เกิน 16 ครั้ง) โดยมีอัตราส่วนแก้ไขปัญหาอาชญากรรม 100% (เป้าหมายต้องไม่ต่ำกว่า 90%) สายสีม่วง เกิดเหตุอาชญากรรม จำนวน 5 ครั้ง(เป้าหมายไม่เกิน 6 ครั้ง โดยมีอัตราส่วนการแก้ไขปัญหาอาชญากรรม 100% (เป้าหมายต้องไม่ต่ำกว่า 90%)

ณ สิ้นเดือนกันยายน 2566สามารถเบิกจ่ายงบลงทุนได้ทั้งหมดจำนวน 17,889.71 ล้านบาท คิดเป็น 100% ของวงเงินเบิกจ่ายที่ได้รับอนุมัติ

สำหรับโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง จำนวน 4 โครงการ ได้แก่ 1. โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง 2.โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรีมีความก้าวหน้า 100% โดยให้ผู้รับสัมปทานเริ่มให้บริการเดินรถไฟฟ้าแล้ว

3.โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) มีความก้าวหน้ารวม 84.51% โดยคาดว่าจะเปิดให้บริการในเดือนตุลาคม 2569

4. โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูนราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) มีความก้าวหน้ารวม 43.86% โดยคาดว่าจะเปิดให้บริการในเดือนมิถุนายน 2571

ทั้งนี้ ประชาชน 86.06% มีความพึงพอใจต่อมาตรการลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและจราจรจากการก่อสร้าง โครงการรถไฟฟ้าสายทางต่างๆ (ค่าเป้าหมาย 90%)

โครงการที่อยู่ระหว่างการประกวดราคา จำนวน 1 โครงการ ได้แก่ โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย มีความก้าวหน้า 32.14% โดยคาดว่าจะเปิดให้บริการในเดือนมีนาคม 2572

มีโครงการที่อยู่ระหว่างการศึกษาและวิเคราะห์โครงการ จำนวน 5 โครงการ ได้แก่ โครงการรถไฟฟ้าจังหวัดภูเก็ต มีความก้าวหน้า 24% โดยคาดว่าจะเปิดให้บริการในเดือนธันวาคม 2574, โครงการรถไฟฟ้าจังหวัดเชียงใหม่ มีความก้าวหน้า 13.25 % โดยคาดว่าจะเปิดให้บริการในเดือนพฤษภาคม 2573, โครงการรถไฟฟ้าจังหวัดนครราชสีมา มีความก้าวหน้า 13.25% โดยคาดว่าจะเปิดให้บริการในเดือนพฤษภาคม 2573, โครงการรถไฟฟ้าจังหวัดพิษณุโลก มีความก้าวหน้า 3.37% โดยคาดว่าจะเปิดให้บริการในเดือนมกราคม 2575 และโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล ช่วงแคราย-ลำสาลี (บึงกุ่ม) มีความก้าวหน้า 13.53% โดยคาดว่าจะเปิดให้บริการในเดือนตุลาคม 2571

ทั้งนี้ บอร์ด รฟม. มีนโยบายให้นำเทคโนโลยีมาพัฒนาปรับปรุงการให้บริการ รวมถึงนำระบบตั๋วร่วมและอัตราค่าโดยสารร่วมมาใช้ และเร่งรัดดำเนินโครงการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนสายต่างๆ ตามที่ได้รับมอบหมายให้แล้วเสร็จ เปิดบริการได้ตามแผนงาน และในการศึกษาระบบรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายและในเมืองหลักอื่น ให้คำนึงถึงความคุ้มค่าในการลงทุน ภาระงบประมาณ ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และความพึงพอใจของประชาชนในพื้นที่เป็นหลักด้วย

ให้ศึกษาและพัฒนาระบบเชื่อมต่อ (Feeders) และอำนวยความสะดวกให้ประชาชนในการเชื่อมการเดินทางจากระบบรถไฟฟ้าฯ ไปยังจุดหมายต่างๆ รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวโดยรอบ และให้บริหารสินทรัพย์ ดำเนินธุรกิจต่อเนื่อง ให้บริการเสริมต่างๆ ศึกษาโอกาสและริเริ่ม พัฒนาธุรกิจใหม่ เพื่อเพิ่มรายได้และลดภาระการสนับสนุนจากภาครัฐ รวมทั้งแก้ไขข้อปัญหาการใช้พื้นที่เชิงพาณิชย์

แผนวิสาหกิจ ปี 67 เดินหน้ารถไฟฟ้า อีก 9 เส้นทาง

สำหรับโครงการและแผนงานของ รฟม. ในอนาคต บอร์ด รฟม.เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2566 ได้มีมติเห็นชอบผลการทบทวน/ปรับปรุงแผนวิสาหกิจ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566-2570 ฉบับปรับปรุงปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 และแผนปฏิบัติการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 และแผนระดับรอง ซึ่งในปีงบประมาณ 2567 รฟม. ได้มีแผนดำเนินโครงการรถไฟฟ้าต่อเนื่องจำนวน 9 เส้นทาง ได้แก่ สายสีชมพูส่วนต่อขยาย ช่วงสถานีศรีรัช-เมืองทองธานี, สายสีส้มตะวันออก ช่วงสถานีศูนย์ วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-มีนบุรี, สายสีม่วงใต้ ช่วงสถานีเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ, สายสีส้มตะวันตก ช่วงสถานีบาง ขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย, สายสีน้ำตาล ช่วงสถานีแคราย-ลำสาลี, โครงการรถ ไฟฟ้าจังหวัด เชียงใหม่, โครงการรถไฟฟ้าจังหวัดนครราชสีมา, โครงการรถไฟฟ้าจังหวัดภูเก็ต และโครงการรถไฟฟ้าจังหวัด พิษณุโลก) และดำเนินโครงการอื่นๆ อีกจำนวน 28 โครงการ เพื่อสนับสนุนยุทธศาสตร์ขององค์กรในด้านการให้บริการด้านการเงินและด้านการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน.

ที่มา: นสพ.ผู้จัดการรายวัน 360 องศา ฉบับวันที่ 5 เม.ย. 2567
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44651
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 06/04/2024 6:59 am    Post subject: Reply with quote

'คมนาคม'ดัน14 บิ๊กโปรเจ็กต์ 6.3 แสนล้านกระตุ้นเศรษฐกิจ
Source - ฐานเศรษฐกิจ
Saturday, April 06, 2024 05:59

"คมนาคม" เร่งสปีด 14 บิ๊กโปรเจ็กต์ งบปี67 วงเงิน 6.3 แสนล้านบาท ลุยเพิ่มฟีดเดอร์ 30 เส้นทาง เชื่อมรถไฟฟ้าสายสีแดง-สายสีม่วง กระตุ้นเศรษฐกิจ ด้านรับเหมาคึกรอรับงาน

สภาผู้แทนราษฎร (สส.) ผ่านร่าง พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 คาดว่าจะเริ่มเบิกจ่ายได้ ในเดือนพฤษภาคมนี้ ส่งผลให้กระทรวงคมนาคม เร่งผลักดัน โครงการขนาดใหญ่ เครื่องยนต์สำคัญที่รัฐบาลใช้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศออกประมูลในช่วงครึ่งปีหลัง

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า เมื่อวันที่ 2เมษายน ที่ผ่านมา กระทรวงคมนาคมได้เร่งรัดทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมร่วมขับเคลื่อนโครงการสำคัญในการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนและติดตามผลการดำเนินโครงการสำคัญตามนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ครั้งที่ 1/2567

โดยแผนโครงการลงทุนด้านคมนาคมในปีงบประมาณ 2567 มีจำนวน 14 โครงการ วงเงินรวม 631,371 ล้านบาท ซึ่งโครงการสำคัญลำดับเร่งด่วน เช่น
1.โครงการรถไฟทางคู่ ช่วงขอนแก่น-หนองคาย ระยะทาง 167 กม. วงเงิน 29,748 ล้านบาท
2.โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ทั้งงานโยธาและงานระบบ ระยะทาง 35.9 กม. วงเงิน 1.4 แสนล้านบาท
3.โครงการที่พักริมทางศรีราชาบน M7 ช่วงชลบุรี-พัทยา พื้นที่ฝั่งละ 59 ไร่ วงเงิน 3,757 ล้านบาท
4.โครงการที่พักริมทางบางละมุง บน M7 ช่วงพัทยา-มาบตาพุด พื้นที่ฝั่งละ 38 ไร่ วงเงิน 2,476 ล้านบาท
5.มอเตอร์เวย์ ส่วนต่อขยาย M7 เชื่อมต่อสนามบินอู่ตะเภา ระยะทาง 1.92 กม. วงเงิน 4,508 ล้านบาท
6.ทางพิเศษฉลองรัช ส่วนต่อขยาย (ช่วงจตุโชติ - ลำลูกกา) ระยะทาง 16.2 กม. วงเงิน 24,060 ล้านบาท
7.ทางพิเศษจังหวัดภูเก็ต ตอนกะทู้-ป่าตอง ระยะทาง 3.9 กม. วงเงิน 16,494 ล้านบาท
8.รถไฟชานเมืองสายสีแดงเข้ม ช่วงรังสิต-มธ. ศูนย์รังสิตระยะทาง 8.84 กม. วงเงิน 6,468 ล้านบาท
9.รถไฟชานเมืองสายสีแดงช่วงตลิ่งชัน-ศาลายา ระยะทาง 14.80 กม. วงเงิน 10,670 ล้านบาท
10.รถไฟชานเมืองสายสีแดงอ่อน ช่วงตลิ่งชันศิริราช ระยะทาง 5.7 กม. วงเงิน 4,616 ล้านบาท ฯลฯ

นอกจากนี้สำนักนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) และกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) อยู่ระหว่างพิจารณาแนวทางการจัดเส้นทาง Feeder เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย โดยจะผลักดันดำเนินการระยะเร่งด่วน 30 เส้นทาง ภายในปี 2567 เพื่อรองรับการให้บริการรถไฟฟ้าสายสีม่วงและสายสีแดง ขณะที่ระยะกลางภายในปี 2568-2569 จะผลักดันอีก 15 เส้นทางรองรับการเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สายสีเขียว สายสีชมพู และสายสีส้ม ส่วนอีก 66 เส้นทางจะดำเนินการในระยะถัดไปตั้งแต่ปี 2570 เป็นต้นไป

นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กล่าวว่า ที่ผ่านมาคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท.ได้อนุมัติเห็นชอบดำเนินการโครงการรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 จำนวน 3 เส้นทาง วงเงินรวม 133,146 ล้านบาท ประกอบด้วย

1.โครงการรถไฟทางคู่ ช่วงปากน้ำโพ-เด่นชัย ระยะทาง 281 กม. วงเงิน 81,143 ล้านบาท
2.โครงการรถไฟทางคู่ ช่วงชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี ระยะทาง 308 กม. วงเงิน 44,103 ล้านบาท
3.โครงการรถไฟทางคู่ ช่วงหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ ระยะทาง 45 กม. วงเงิน 7,900 ล้านบาท

โดยทั้ง 3 เส้นทาง อยู่ระหว่างจัดทำข้อมูลเพื่อเสนอขออนุมัติโครงการฯ หลังจากนั้นรฟท.จะเสนอรายงานผลการประชุมคณะกรรมการฯในครั้งนี้ต่อกระทรวงคมนาคมและคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบต่อไป

แหล่งข่าวจากวงการรับเหมาเปิดเผย เป็นโอกาสที่ดีที่งบประมาณปี2567 ใกล้เบิกจ่ายเชื่อว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศอย่างมาก จากการจับจ่าย การจ้างงาน โดยเฉพาะผู้รับเหมารายย่อยที่รับงานต่อมาจากผู้รับเหมารายใหญ่ และมีโครงการขนาดใหญ่ใหม่ๆ เกิดขึ้นซึ่งจะช่วยสร้างความเจริญให้กับประเทศเพิ่มขีดการแข่งขันทางการค้ากับประเทศเพื่อนบ้าน

ที่มา: นสพ.ฐานเศรษฐกิจ ฉบับวันที่ 7 - 10 เม.ย. 2567
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44651
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 12/04/2024 8:56 am    Post subject: Reply with quote

รัฐบาลเน้นย้ำเส้นทางก่อสร้าง'รถไฟฟ้า'ทุกสาย ให้ ปชช.เดินทางสะดวก-ปลอดภัยช่วงสงกรานต์
Source - เว็บไซต์แนวหน้า
Friday, April 12, 2024 08:31

รัฐบาลเน้นย้ำความปลอดภัยเส้นทางก่อสร้าง'รถไฟฟ้า'ทุกสาย ให้ประชาชนเดินทางสะดวก-ปลอดภัยช่วงเทศกาล'สงกรานต์' เปิดบริการให้ผู้มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ขึ้นรถไฟฟ้า MRT ฟรี ระหว่าง 13-15 เมษายน

12 เมษายน 2567 นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาล โดยการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กระทรวงคมนาคม เตรียมอำนวยความสะดวกและปลอดภัยในการเดินทางให้แก่ประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2567 ด้วยยกเว้นค่าโดยสารรถไฟฟ้า MRT ทั้ง 4 สาย ได้แก่ รถไฟฟ้ามหานคร สายฉลองรัชธรรม (MRT สายสีม่วง) รถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล (MRT สายสีน้ำเงิน) รถไฟฟ้ามหานคร สายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว - สำโรง (MRT สายสีเหลือง) และรถไฟฟ้ามหานครสายสีชมพู ช่วงแคราย - มีนบุรี (MRT สายสีชมพู) ให้แก่ผู้โดยสารที่มีอายุ 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ระหว่างวันที่ 13 - 15 เมษายน 2567 และได้เตรียมพร้อมการอำนวยความสะดวกปลอดภัย ในบริเวณเส้นทางพื้นที่ก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างก่อสร้างทุกสายรองรับการเดินทางของประชาชน

นายคารม กล่าวว่า รัฐบาลใส่ใจ ห่วงใยความปลอดภัยต่อการเดินทางของประชาชนช่วงเทศกาลสงกรานต์ เน้นย้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อมเพื่ออำนวยความสะดวก โดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัยในบริเวณพื้นที่ก่อสร้างโครงการรถไฟที่อยู่ระหว่างก่อสร้างทุกสาย รองรับการเดินทางของประชาชนที่จะเดินทางกลับภูมิลำเนา หรือเดินทางไปท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2567 ให้ปฏิบัติตามมาตรการความปลอดภัยในงานก่อสร้างอย่างเคร่งครัด หมั่นตรวจสอบ และจัดสภาพหน้างานให้อยู่ในสภาพเรียบร้อย เช่น การปิดกั้นพื้นที่ก่อสร้างและช่องเปิดต่าง ๆ การจัดเก็บอุปกรณ์เครื่องมือ เครื่องจักรให้เรียบร้อยและปลอดภัย ไม่กีดขวางการจราจร การจัดแนวแบริเออร์ให้เป็นระเบียบ ติดตั้งป้ายเตือน ป้ายทางเบี่ยง ทางเลี่ยง และปิดกั้นแนวรั้วคอนกรีตบริเวณจุดที่เป็นอันตรายให้เรียบร้อย รวมถึงการติดตั้งไฟส่องสว่างให้ชัดเจน การตรวจสอบอุปกรณ์ไฟฟ้า จัดเก็บวัตถุไวไฟหรือสารไวไฟให้ปลอดภัย นอกจากนี้ จัดให้มีเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังและจัดเตรียมอุปกรณ์ด้านจราจร เพื่อเตรียมพร้อมให้การช่วยเหลือกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อทำให้เกิดความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน รวมทั้งป้องกันอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้น
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44651
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 12/04/2024 1:25 pm    Post subject: Reply with quote

ทำไมขนส่งสาธารณะในต่างจังหวัดถึงยังไม่โต | เศรษฐกิจติดบ้าน

คนกรุงเทพฯ ตอนนี้มีทางเลือกในการเดินทางมากมาย ทั้งรถเมล์ รถไฟฟ้า รถมอเตอร์ไซค์ รถแท็กซี่ รถตู้ รถไฟ ขณะที่ประชาชนในต่างจังหวัดเดินทางลำบากกว่าหลายเท่า เพราะในต่างจังหวัดไม่ได้มีรถโดยสารครอบคลุมเกือบทั่วพื้นที่เหมือนในกรุงเทพฯ และที่มีก็ความถี่น้อยชนิดที่ว่าอาจจะมีรถแค่วันละเที่ยว หากพลาดรถที่มีเพียงเที่ยวเดียวไปก็จะต้องเปลี่ยนวันเดินทางไปอีกวัน คลิปนี้ ดร.วิทย์ สิทธิเวคิน จะพูดคุยกับคุณจุฑาพงศ์ แซ่ตั้ง เจ้าของเพจ Render Thailand ว่าทำไมขนส่งสาธารณะในต่างจังหวัดถึงยังไม่โต

ติดตามชมช่วงเศรษฐกิจติดบ้าน ได้ในรายการวันใหม่วาไรตี้ วันจันทร์ – พฤหัสบดี เวลา 8.00 - 10.00 น. ทางไทยพีบีเอส


https://www.youtube.com/watch?v=dgAQtj91RkQ
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44651
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 14/04/2024 10:41 am    Post subject: Reply with quote

ตัดเกรด...'7เดือนคมนาคม'
Source - เดลินิวส์
Sunday, April 14, 2024 06:40
ทีมข่าวนวัตกรรมขนส่งเดลินิวส์

เข้าเดือน 7 กับการปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมของ "นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ" ที่แทคทีมมากับ นางมนพร เจริญศรี และนายสุรพงษ์ ปิยะโชติ 2 รมช.คมนาคมส่งตรงจากพรรคเพื่อไทย เข้ายึดกระทรวงใหญ่เกรด A+ งบประมาณกว่าแสนล้านบาทต่อปี

ย้อนกลับไปวันที่ 7 ก.ย. 2566 ทั้ง 3 รมต.ถือฤกษ์งามยามดีเข้าทำงานที่กระทรวงฯ พร้อมกันเป็นวันแรก และเมื่อนายกรัฐมนตรีแถลงนโยบายต่อรัฐสภาเรียบร้อย วันที่ 14 ก.ย. 2566 ได้ประชุมมอบนโยบายฯ หัวหน้าหน่วยงาน 22 แห่งในสังกัดพร้อมแบ่งเค้กกำกับดูแล โดย รมว.สุริยะ คุม 9 หน่วยงานหลักด้านถนนและการบิน รมช.มนพร 5 หน่วยเน้นดูแลงานขนส่งทางน้ำ ส่วน รมช.สุรพงษ์กำกับ 8 หน่วยดูงานขนส่งทางรางทั้งหมด

"สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ" ประกาศในวันมอบนโยบายว่าจะสร้างความสุขให้ประชาชน 4 มิติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ ความปลอดภัย การให้บริการที่เป็นมาตรฐานสากล และการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เมื่อไล่เรียงลงลึกในแต่ละเรื่องล้วนเป็นโครงการเดิมที่แต่ละหน่วยงานกำหนดไว้ในแผนอยู่แล้วตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีตั้งแต่ยุคคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ที่ให้ความสำคัญกับการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานคมนาคมของประเทศเป็นครั้งประวัติศาสตร์

มีเพียง "รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย" ที่พรรคเพื่อไทยประกาศไว้ตอนหาเสียงเลือกตั้ง เป็นนโยบายใหม่เรื่องเดียว และช่วงแรกที่เข้ารับตำแหน่งถูกประชาชนทวงถามเมื่อนโยบายนี้ไม่ได้ถูกบรรจุอยู่ในคำแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา รมว.สุริยะขอเวลา 2 ปีจนทัวร์ลงหนักอัดยับไม่ตรงปกตามที่หาเสียงไว้ รมว.สุริยะ ต้องกลับลำทันทีเปลี่ยนไทม์ไลน์จาก 2 ปี เป็น 3 เดือน โดยอ้างสื่อสารผิดพลาด

วันนี้ประชาชน ได้นั่งรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายแล้ว แต่ยังไม่สำเร็จ 100% เนื่องจากนำร่องแค่ 2 สายรถไฟชานเมืองสายสีแดง (รถไฟฟ้าสายสีแดง) ช่วงบางซื่อ-รังสิต และบางซื่อ-ตลิ่งชัน กับรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-บางใหญ่ ส่วนสายอื่น ๆ ขอเวลา 2 ปี นับจากวันที่ 16 ต.ค. 2566 ที่เริ่มนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายกับสายสีม่วงและสีแดงหรือไม่เกินวันที่ 16 ต.ค. 2568 รถไฟฟ้าทั้ง 8 สี 8 สายที่เปิดบริการในปัจจุบันจะเก็บค่าโดยสาร 20 บาทตามนโยบายให้ได้

กรมการขนส่งทางราง (ขร.) ประเมินตัวเลขคร่าว ๆ รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย (8 สี 8 สาย) ต้องใช้เงินชดเชยให้กับผู้รับสัมปทานและหน่วยงานที่ดูแลรวมประมาณ 8 พันล้านบาทต่อปี ก่อนหน้านี้ รมว.สุริยะ แถลงจะนำเงินจากกองทุนที่ได้จากการขึ้นภาษีน้ำมัน แต่ถูกสังคมอัดซ้ำอีกรอบ ถอยไม่เป็นท่าแก้เกี้ยวว่าสื่อสารผิดพลาดเป็นครั้งที่ 2

...นอกจากนโยบายใหม่เพียง 1 เดียวกับรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายแล้ว รมว.สุริยะหมดเวลาไปกับการร่วมคณะนายกรัฐมนตรีเดินสายไปประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก เพื่อโรดโชว์ เชิญชวนเอกชนร่วมลงทุนโครงการสะพานเศรษฐกิจภาคใต้เชื่อมฝั่งทะเลอ่าวไทย-อันดามัน (ชุมพร-ระนอง) หรือ "แลนด์บริดจ์" วงเงิน 1 ล้านล้านบาท บิ๊กโปรเจกต์ตั้งแต่ สมัยรัฐบาลที่ผ่านมา ที่รัฐบาลนี้ลุยผลักดันต่อแม้จะมีเสียงคัดค้านจากหลายฝ่ายว่าไม่คุ้มค่าการลงทุน แต่ก็ยังมั่นอกมั่นใจว่าเป็นโครงการสำคัญเพิ่มช่องทางการค้าแห่งใหม่สำหรับขนถ่ายสินค้าหลักระดับภูมิภาคและเปิดประตูสู่ภูมิภาคเอเชีย

รวมไปถึงการแก้ปัญหารายวันหรืองานรูทีน อาทิ งานก่อสร้าง 7 ชั่วโคตรบนถนนพระราม 2 ที่สังคมทวงถามจะเสร็จกี่โมง?? ตามไทม์ไลน์โครงการจะเสร็จปีหน้า 2568 อยู่แล้ว แต่หลังปี 2568 รมว.สุริยะประกาศปิดตำนานงานก่อสร้างบนถนนพระราม 2 ไม่ให้ประชาชนเดือดร้อนอีกต่อไป ทำให้โครงการที่มีแผนก่อสร้าง อาทิ ส่วนต่อขยายมอเตอร์เวย์ถนนพระราม 2 จากบ้านแพ้ว-แยกวังมะนาว ด้วนลงแค่บ้านแพ้ว

ซูมแล้วซูมอีก ว่า รมต.เพื่อไทยยูไนเต็ด มีไอเดียแจ่ม ๆ หรือโครงการเจิด ๆ ที่เป็นของตัวเองอีกบ้าง?? ...ออกมาตรการระยะสั้นให้ 6 สายการบินของไทยเพิ่มเที่ยวบินพิเศษกว่า 1.7 หมื่นที่นั่ง ลดค่าตั๋ว 20% เส้นทางในประเทศช่วงเทศกาลสงกรานต์ มาตรการระยะยาวพิจารณาปรับลดเพดานค่าโดยสารใหม่ทั้งหมดหลังจากประชาชนฟาดเดือดค่าตั๋วเครื่องบินในประเทศแพงมากกก

ให้นโยบาย การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษ (ทางด่วน) ฉลองรัช ช่วงเทศกาลสงกรานต์ 11-17 เม.ย. เพิ่มอีก 1 สาย และให้พิจารณาปรับลดค่าทางด่วน โดยเจรจาเอกชนแลกกับการขยายสัมปทาน เพราะผู้ใช้ทางด่วนมากกว่า 1 เส้นทางต้องควักจ่าย 150-160 บาท ขีดเส้นให้ได้ข้อสรุปใน 2 เดือน

รวมทั้งนโยบายอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม "Green Transport"ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องปรับทัศนียภาพโครงสร้างพื้นฐานของกระทรวงคมนาคม โดยเฉพาะตอม่อทางด่วน และรถไฟฟ้าภายในเมืองให้เป็นพื้นที่สีเขียว ยกตัวอย่างการปลูกไม้เลื้อยปกคลุมเสาตอม่อทางด่วน บนถนน Chengdu's Second Ring เมืองเฉิงตู ประเทศจีน เป็นต้นแบบ สร้างความร่มรื่น สดชื่น สวยงาม สบายตาให้ผู้ใช้รถใช้ถนน และช่วยดูดซับมลพิษด้วย

ขณะที่อีก "2 รมต.มนพรและสุรพงษ์" ก็ยังไม่มีผลงานโดดเด่นเป็นชิ้นเป็นอัน ...ผ่านมาแล้ว 6 เดือน ความสุขที่เกิดจากผลงาน "กระทรวงคมนาคมยุคเพื่อไทย" ประชาชนตัดเกรดให้เท่าไหร่???.

ที่มา: นสพ.เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 15 เม.ย. 2567 (กรอบบ่าย)
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44651
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 17/04/2024 7:59 am    Post subject: Reply with quote

เร่งฟีดเดอร์รถไฟฟ้า111สาย
Source - เดลินิวส์
Wednesday, April 17, 2024 07:50
สนับสนุนนโยบาย 20 บาท

รถส่วนตัวลด4หมื่นคัน/วัน

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ได้เร่งรัดให้จัดระบบขนส่งสาธารณะรอง (ฟีดเดอร์) เชื่อมต่อโครงข่ายระบบรถไฟฟ้าให้ครอบคลุมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ปัจจุบันได้ปรับปรุงเส้นทางรถโดยสารประจำทาง (รถเมล์) หมวดที่ 1 ในเขตกรุงเทพฯ และจังหวัดที่มีเส้นทางต่อเนื่องเชื่อมต่อกับสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์แล้ว 15 เส้นทาง โดยเป็นรถเมล์ของ ขสมก. 8 เส้นทาง และรถเมล์ของไทยสมายล์ และบริษัทในเครือ 7 เส้นทาง ช่วยอำนวยความสะดวก การเดินทางเชื่อมต่อใช้บริการรถไฟชานเมืองสายสีแดงได้อย่างสะดวกสบาย

นายสุริยะ กล่าวต่อว่า สำหรับแผนการพัฒนาระบบฟีดเดอร์ เบื้องต้นระยะเร่งด่วน ภายในปี 67 จะผลักดันระบบฟีดเดอร์เชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีแดง และรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง เพิ่มขึ้นอีก 30 เส้นทาง อาทิ รังสิต (สายสีแดง)-ฟิวเจอร์พาร์ครังสิต, กรุงเทพอภิวัฒน์ (สายสีแดง)-อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ, กรุงเทพอภิวัฒน์(สายสีแดง)-MRT เตาปูน (สายสีม่วง)-ท่าเรือบางโพ, วัดเสมียนนารี (สายสีแดง)-BTS เสนานิคม, MRT บางกระสอ(สายสีม่วง)-สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล, MRT สะพาน พระนั่งเกล้า (สายสีม่วง)-กระทรวงพาณิชย์ และ MRT บางซ่อน(สายสีม่วง)-วัดสร้อยทอง-กรมสรรพาวุธทหารบก-MRT เตาปูน (สายสีม่วง) เป็นต้น อยู่ในขั้นตอนการจัดทำเส้นทาง

นายสุริยะ กล่าวอีกว่า ส่วนระยะกลาง ปี 68-69 จะผลักดันเพิ่มขึ้นอีก 15 เส้นทาง และในระยะยาว ตั้งแต่ปี 70 จะผลักดันให้เพิ่มขึ้นอีก 66 เส้นทางเชื่อมต่อรถไฟฟ้าทุกสาย ไม่ใช่เฉพาะสายสีแดง และสายสีม่วง สำหรับขั้นตอนการจัดทำเส้นทางต่าง ๆ นั้น จะเริ่มตั้งแต่สำรวจเส้นทาง, การตรวจสอบเส้นทางที่ทับซ้อน/ผู้ได้รับผลกระทบ, จัดส่งหนังสือถึงผู้ได้รับผลกระทบ, สรุปผลการคัดค้าน, จัดทำรายละเอียดเปรียบเทียบผลประโยชน์, เสนอคณะกรรมการกลั่นกรองเส้นทาง, เสนอคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลาง, ประกาศเส้นทางในราชกิจจานุเบกษา, ประกาศรับคำขอ (ผู้ประกอบการ), และสรรหาผู้ประกอบการ

นายสุริยะ กล่าวด้วยว่า ปัจจุบันยังขาดระบบขนส่งสาธารณะรอง ที่จะมาช่วยเชื่อมการเดินทางแบบไร้รอยต่อ และดึงดูดประชาชนใช้บริการรถไฟฟ้ามากขึ้น จากข้อมูลการเปรียบเทียบผลการศึกษาเมื่อมีนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ในรถไฟฟ้าสายสีแดง และสายสีม่วง พบว่า สายสีแดง ก่อนปี 65 (16 ต.ค.-31 ธ.ค. 65) ผู้โดยสาร 1.33 ล้านคน เทียบเท่ารถยนต์ส่วนบุคคลบนถนนลดลง 8,300 คันต่อวัน ส่วนหลังปี 66 (16 ต.ค.-31 ธ.ค. 66) ผู้โดยสาร 2.04 ล้านคน เพิ่มขึ้น 7.1 แสนคน เทียบเท่ารถยนต์ส่วนบุคคลบนถนนลดลง 12,749 คันต่อวัน และหากมีระบบฟีดเดอร์ ผู้โดยสารจะเป็น 3.74 ล้านคน เพิ่มขึ้น 2.41 ล้านคน เทียบเท่ารถยนต์ส่วนบุคคลบนถนนลดลง 23,434 คันต่อวัน

ขณะที่สายสีม่วง ก่อนปี 65 (16 ต.ค.-31 ธ.ค. 65) ผู้โดยสาร 4.13 ล้านคน เทียบเท่ารถยนต์ส่วนบุคคลบนถนน ลดลง 25,877 คันต่อวัน ส่วนหลังปี 66 (16 ต.ค.-31 ธ.ค. 66) ผู้โดยสาร 4.90 ล้านคน เพิ่มขึ้น 7.7 แสนคน เทียบเท่ารถยนต์ส่วนบุคคลบนถนนลดลง 30,701 คันต่อวัน และหากมีระบบ ฟีดเดอร์ ผู้โดยสาร 5.63 ล้านคน เพิ่มขึ้น 1.5 ล้านคน เทียบเท่ารถยนต์ส่วนบุคคลบนถนนลดลง 35,275 คันต่อวัน.

ที่มา: นสพ.เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 18 เม.ย. 2567 (กรอบบ่าย)
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44651
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 18/04/2024 1:42 pm    Post subject: Reply with quote

"สุริยะ" ทุบโต๊ะ! รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายทำได้แน่ภายใน ก.ย.68
Source - IQ สำนักข่าวอินโฟเควสท์
Thursday, April 18, 2024 11:38

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม ตอบโต้ สส. พรรคก้าวไกล ที่วิพากษ์วิจารณ์ว่าไม่มีผลงานเป็นรูปธรรมว่า ยินดีรับฟังคำติชมจากทั้งประชาชนและพรรคฝ่ายค้าน แต่การที่พรรคก้าวไกลวิจารณ์ว่ารัฐบาลไม่ควรทำเรื่องรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายนั้น ไม่เห็นด้วยและยอมรับไม่ได้

รมว.คมนาคม ยืนยันว่า จะดำเนินการโครงการรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายให้เกิดขึ้นภายใน 2 ปีแรกของรัฐบาล เพราะการเดินทางเป็นภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน หากค่ารถไฟฟ้ามีอัตราค่าโดยสารที่สูงแล้วประชาชนต้องโดยสารในระยะทางไกลจะเป็นภาระค่าใช้จ่ายอย่างมาก หากทำให้ถูกลงก็จะทำให้ประชาชนหันมาใช้บริการขนส่งสาธารณะมากขึ้น ซึ่งนอกจากช่วยลดภาระรายจ่ายแล้ว ยังสามารถช่วยลดปัญหา PM2.5 ลงด้วย

"ในก.ย.ปี 68 รัฐบาลจะทำเรื่องนี้ให้ได้ โดยจะใช้วิธีการผ่านทาง พ.ร.บ.ตั๋วร่วม ซึ่งจะมีการตั้งกองทุนขึ้นมา เพื่อชดเชยให้กับผู้ประกอบการ และคาดว่าจะเสนอเข้าสู่ที่ประชุม ครม.เร็วๆ นี้" นายสุริยะ กล่าว
พร้อมระบุว่า สิ่งที่กระทรวงคมนาคมได้ดำเนินการในช่วงที่ผ่านมาเป็นผลงานที่เป็นรูปธรรม ไม่ว่าจะเป็นการปรับปรุงสถานีขนส่งหมอชิตใหม่ ประชาชนสามารถใช้บริการได้สะดวกสบาย และรองรับผู้โดยสารที่เดินทางกลับภูมิลำเนาในช่วงเทศกาลสงกรานต์ได้อย่างดี นอกจากนี้ การเดินทางในช่วงสงกรานต์ก็มีความปลอดภัย รวดเร็ว ไม่มีปัญหาการจราจรติดขัดในถนนสายหลัก เช่น ถ.พระราม 2 หรือ ถ.มิตรภาพ เส้นทางสู่โคราชก็มีการจราจรที่คล่องตัว

อย่างไรก็ดี หลังจากประชุม ครม.วันนี้ ก็จะลงพื้นที่ จ.ภูเก็ต เพื่อติดตามการแก้ปัญหาการจราจรติดขัด และไปติดตามการสร้างสะพานต่างๆ ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะลงไปตรวจราชการในวันพรุ่งนี้ (19 เม.ย.)

Transport Minister Suriya Confident in 20-Baht Electric Train Plan by September 2025

Thailand's Transport Minister, Mr. Suriya Juangroongruangkit, responded to criticism from the Kao Klai (Move Forward) Party regarding the lack of progress on the 20-baht electric train project. The Minister welcomed feedback but disagreed with criticism from the opposition Kao Klai party, who questioned the government's ability to implement the plan.

Mr. Suriya reaffirmed his commitment to the 20-baht electric train fare plan, aiming to have it fully operational within the government's first two years in office. He emphasized the project's goal of easing the financial burden of transportation costs for citizens, particularly those who travel long distances. The plan is also expected to encourage greater public transportation use, potentially aiding in reducing PM2.5 air pollution.

"The government is confident that this plan will be realized by September 2025," Mr. Suriya stated. "We will utilize the Common Ticket Act to establish a fund that will compensate operators. This proposal is expected to be presented to the Cabinet soon."

The Transport Minister also highlighted existing achievements made by the Ministry, including the successful renovation of the Mo Chit bus station, citing its improved convenience and ability to handle a high volume of passengers during the recent Songkran festival. He further noted improvements in traffic flow during the holiday period, pointing to reduced congestion on major roads.

Mr. Suriya indicated additional plans to travel to Phuket province to address traffic congestion issues and oversee bridge construction projects. These efforts precede a scheduled inspection of government work in the area by the Prime Minister on April 19th.

Source - IQ InfoQuest News Agency
Thursday, April 18, 2024 11:38
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42751
Location: NECTEC

PostPosted: 18/04/2024 6:45 pm    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
"สุริยะ" ทุบโต๊ะ! รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายทำได้แน่ภายใน ก.ย.68
Source - IQ สำนักข่าวอินโฟเควสท์
วันพฤหัสบดี ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2567 เวลา 11:38 น.


"สุริยะ" โต้ "ส.ส.ก้าวไกล" ยันรถไฟฟ้า 20 บาททำได้ทุกสี-ทุกสายใน ก.ย. 68 ปลื้มสุวรรณภูมิขึ้นอันดับ 58 ของโลก
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันพฤหัสบดี ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2567 เวลา 12:55 น.
ปรับปรุง: วันพฤหัสบดี ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2567 เวลา 14:21 น.


'สุริยะ' ย้ำนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ช่วยลดค่าครองชีพให้ประชาชน ชี้ครบทุกสี-ทุกสายภายใน ก.ย.68
วันพฤหัสบดี ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2567 เวลา 14:37 น.

‘สุริยะ’โต้ ‘สุรเชษฐ์’ส.ส.ก้าวไกล กรณีกล่าวหา นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ทำไม่ได้และไม่ควรทำ เผยเป็นมาตรการช่วยลดค่าครองชีพให้ประชาชน-แก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ยันเดินหน้านโยบายต่อเนื่อง ชี้ครบทุกสี-ทุกสายภายใน ก.ย. 68
"สุริยะ" โต้ "สุรเชษฐ์" ส.ส.ก้าวไกล ยัน "นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย" ทำได้ครบทุกสี-ทุกสายภายใน ก.ย. 68 โชว์มีผลงาน สุวรรณภูมิขึ้นอันดับ 57 จากเดิม 67 ของโลก วันนี้ลงพื้นที่ จ.ภูเก็ต เร่งแก้ปัญหาจราจร

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า จากกรณีที่นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ว่า "นโยบายรถไฟฟ้าอัตราค่าโดยสาร 20 บาทตลอดสาย ทำไม่ได้และไม่ควรทำ“ นั้น ซึ่งกรณีดังกล่าวตนมองว่าไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิออกมากล่าวอย่างนั้น เนื่องด้วยในปัจจุบันนี้อัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าระยะไกลสุด มีค่าโดยสารสูงถึง 192 บาท ถือว่าสร้างภาระต่อประชาชนเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังกระทบต่อภาระและความจำเป็นในค่าใช้จ่ายด้านอื่นๆ ด้วย

ขณะเดียวกัน นโยบายดังกล่าวถือเป็นการดำเนินการที่ดีมากๆ ประชาชนมีความพอใจ โดยเมื่ออัตราค่าโดยสารมีราคาถูกลง จะทำให้ประชาชนหันมาเดินทางด้วยระบบรถไฟฟ้ามากขึ้น ซึ่งจะเป็นส่วนช่วยลดปัญหาฝุ่น PM 2.5 ได้อีกด้วย ประกอบกับประชาชนยังสามารถลดค่าครองชีพได้อย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้นนโยบายรถไฟฟ้าอัตราค่าโดยสาร 20 บาทตลอดสาย ยืนยันว่าจะเดินหน้าต่อไปอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เป็นรูปธรรมระดับสูงสุด โดยภายในช่วงเดือนกันยายน 2568 รถไฟฟ้าทุกสี และทุกสาย ต้องร่วมนโยบายดังกล่าวทั้งหมด

ทั้งนี้ ขอยืนยันอีกครั้งว่ากระทรวงคมนาคม “จะต้องทำให้ได้” โดยขณะนี้กระทรวงคมนาคมและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการหารือและเจรจาร่วมกัน ซึ่งมีความคืบหน้าค่อนข้างมาก รวมถึงได้จัดเตรียมแผนด้านการทำตั๋วร่วม และการจัดตั้งกองทุนเพื่อชดเชยผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องจากมาตรการดังกล่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่า จะได้ข้อสรุปเร็วๆ นี้ หากมีความคืบหน้าจะแจ้งให้ประชาชนได้ทราบทันที

นายสุริยะกล่าวต่อว่า ส่วนประเด็นที่นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ได้กล่าวหาตนว่า ไม่มีผลงาน ต้องชี้แจงว่ากระทรวงคมนาคมได้ดำเนินโครงการ และนโยบายต่างๆ จำนวนมากจนมีผลงานเป็นรูปธรรม โดยล่าสุดการปรับปรุงและพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้เริ่มเห็นผลแล้ว คือ ปัจจุบันท่าอากาศสุวรรณภูมิถูกจัดให้อยู่ในอันดับที่ 58 ของโลก จากเดิมที่อยู่อันดับที่ 68 ของโลก ซึ่งนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และกระทรวงคมนาคม รวมถึงทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้มีความใส่ใจ และร่วมพัฒนาอย่างเคร่งครัด เพื่อรองรับภาคการท่องเที่ยวที่สามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง

ขณะที่สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (จตุจักร) หรือหมอชิต 2 ปัจจุบันนี้ได้มีการพัฒนา และสามารถรองรับผู้โดยสารได้อย่างเพียงพอ สะท้อนได้จากช่วงเทศกาลปีใหม่ รวมถึงเทศกาลสงกรานต์ 2567 ที่ผ่านมาล่าสุดส่งผลให้ประชาชนทุกภาคส่วนใช้บริการได้อย่างสะดวกสบาย เดินทางถึงจุดหมายปลายทางได้อย่างปลอดภัย นอกจากนี้ ในส่วนของถนนสายหลักทุกเส้นทางที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงคมนาคม ยังมีการสัญจรคล่องตัวเพิ่มมากขึ้น มีความปลอดภัย รวดเร็ว ไม่ติดขัดระหว่างการเดินทาง เช่น ถนนพระราม 2 เป็นต้น

@ลงพื้นที่ จ.ภูเก็ต เร่งรัดโครงการแก้ปัญหาจราจร

นายสุริยะกล่าวว่า วันนี้หลังจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ตนจะเดินทางไปจังหวัดภูเก็ต ซึ่งถือเป็นจังหวัดสำคัญด้านการท่องเที่ยวของประเทศไทย โดยกระทรวงคมนาคมได้มีนโยบายเร่งแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดในพื้นที่ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้สั่งการเรื่องการดำเนินโครงการก่อสร้างสะพาน รวมถึงโครงการอื่นๆ เพื่อแก้การจราจรติดขัด โดยในวันพรุ่งนี้ (19 เมษายน 2567) นายกรัฐมนตรีจะลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ตด้วยเช่นกัน หากมีความคืบหน้าจะชี้แจงรายละเอียดให้ได้ทราบต่อไป
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44651
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 21/04/2024 7:42 am    Post subject: Reply with quote

กางไทม์ไลน์พัฒนาระบบ 'ตั๋วร่วม' คาดบังคับใช้ปี 2568
กรุงเทพธุรกิจ By วรรณิกา จิตตินรากร 21 เม.ย. 2024 เวลา 6:52 น.

“คมนาคม” เปิดไทม์ไลน์ผลักดันระบบตั๋วร่วม คาดมีผลบังคับใช้ปี 2568 หวังจัดมาตรฐานระบบราง – กำหนดเพดานราคาค่าโดยสาร ยันจำเป็นต้องตั้งกองทุนตั๋วร่วม ชดเชยส่วนต่างค่าโดยสารรถไฟฟ้า 7 – 8 พันล้านบาทต่อปี

สถิติการเดินทางด้วยระบบรางช่วงวันหยุดต่อเนื่องในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา เป็นอีกหนึ่งเครื่องการันตีได้ว่าพฤติกรรมการเดินทางของประชาชนคนไทยได้ปรับเปลี่ยนไปจากเดิมที่นิยมเดินทางด้วยขนส่งทางบก หรือรถยนต์ส่วนตัว ขณะนี้หันมาเดินทางด้วยระบบรางซึ่งเป็นระบบขนส่งสาธารณะที่รวดเร็ว ตรงต่อเวลา และสามารถขนส่งผู้โดยสารได้ครั้งละจำนวนมาก

กระทรวงคมนาคมรวบรวมสถิติการเดินทางโดยระบบขนส่งสาธารณะภายในประเทศในช่วงวันหยุดต่อเนื่องในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2567 สะสม 7 วัน ระหว่างวันที่ 11 - 17 เม.ย.2567 มีปริมาณการเดินทางอยู่ที่ 17,541,181 คน-เที่ยว เพิ่มขึ้น 7.46% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยระบบการขนส่งทางรางมีการใช้บริการสูงสุด คิดเป็นสัดส่วน 44.69% รองลงมาเป็นระบบขนส่งทางถนน 33.02% ถัดมาเป็นทางอากาศ 12.16% และทางน้ำ 10.13%

ขณะที่กรมการขนส่งทางราง เปิดเผยถึงสถิติประชาชนเดินทางด้วยระบบรางในช่วงวันดังกล่าว มีจำนวนรวมกว่า 7.83 ล้านคน-เที่ยว เพิ่มขึ้นจากสงกรานต์ปีที่ผ่านมา 23.20% โดยรถไฟระหว่างเมืองมีปริมาณการเดินทางเพิ่มขึ้น 16.65% และรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีปริมาณการเดินทางเพิ่มขึ้น 23.75% สะท้อนให้เห็นว่าประชาชนให้ความสนใจเลือกใช้ระบบรางเป็นการเดินทางหลักภายในประเทศมากยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ดี จากแนวโน้มการใช้บริการของประชาชนที่มีต่อระบบรางนั้น กระทรวงคมนาคมจึงอยู่ระหว่างเร่งผลักดัน ร่างพระราชบัญญัติการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม พ.ศ. .... เพื่อประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชนในการใช้บริการระบบราง สามารถบริหารจัดการต้นทุน ค่าโดยสาร และมาตรฐานบริการ รวมไปถึงประชาชนจะได้รับความสะดวกสบายในการพก “บัตรโดยสารใบเดียว” ในการใช้จ่ายค่าบริการทุกระบบรางในประเทศไทย

โดยปัจจุบันกระทรวงคมนาคม กำหนดขั้นตอนดำเนินการผลักดันระบบตั๋วร่วม ดังนี้

1.ร่าง พ.ร.บ.การบริหารจัดการะบบตั๋วร่วม พ.ศ. ....

เสนอคณะกรรมการนโยบายระบบตั๋วร่วม (คนต.) เห็นชอบภายในเดือน เม.ย.2567
เสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบภายในเดือน พ.ค.2567
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา (สคก.) พิจารณาส่ง ครม. ภายในเดือน มิ.ย. - พ.ย. 2567
ครม. เสนอรัฐสภา พิจารณาภายในเดือน ธ.ค. 2567 - ก.ค. 2568
ประกาศใช้ พ.ร.บ. ภายในเดือน ส.ค. - ก.ย. 2568
2. ออกประกาศที่เกี่ยวข้อง ภายในเดือน ก.ย. - ธ.ค.2568

3. จัดตั้งกองทุนส่งเสริมระบบตั๋วร่วม

เสนอกรมบัญชีกลางและคณะกรรมการนโยบายการบริหารทุนหมุนเวียนเพื่อขอจัดตั้งกองทุนในเดือน ม.ค.2567
จัดตั้งกองทุนภายในเดือน ก.ย. - ธ.ค. 2568

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ปัจจุบันกระทรวงฯ อยู่ระหว่างผลักดัน พ.ร.บ.ตั๋วร่วม โดยการผลักดัน พ.ร.บ.ตั๋วร่วมจะมีผลใช้ในส่วนของโครงการรถไฟฟ้าที่รัฐบริหาร รวมไปถึงรถไฟฟ้าที่มีสัญญาสัมปทานร่วมกับเอกชน

ดังนั้นก็มีความจำเป็นต้องชดเชยส่วนต่างรายได้ที่หายไป จากการปรับลดค่าโดยสาร เพื่อไม่ให้กระทบต่อสัญญาสัมปทาน กระทรวงฯ ก็อยู่ระหว่างศึกษาแนวทางนำเงินไปจ่ายชดเชยเอกชน ผ่านการจัดตั้ง “กองทุนส่งเสริมระบบตั๋วร่วม” โดยเบื้องต้นกระทรวงฯ ประเมินวงเงินที่ใช้หมุนเวียนในกองทุนส่งเสริมระบบตั๋วร่วม เพื่อชดเชยส่วนต่างค่าโดยสารรถไฟฟ้าอยู่ที่ 7 – 8 พันล้านบาทต่อปี

ทั้งนี้ ภายในร่างพระราชบัญญัติการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม พ.ศ. .... จะมีการระบุรายละเอียดเกี่ยวกับกองทุนส่งเสริมระบบตั๋วร่วม ไว้ในมาตรา 29 และมาตรา 30 โดยแบ่งเป็น

มาตรา 29 กำหนดให้จัดตั้งกองทุนขึ้นกองทุนหนึ่งในสำนักงาน เรียกว่า “กองทุนส่งเสริมระบบตั๋วร่วม” มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนในการดำเนินงาน การพัฒนา และการส่งเสริมเกี่ยวกับการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม รวมทั้งมีวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้

1. เพื่อส่งเสริมและอุดหนุนประชาชนผู้ใช้บริการระบบตั๋วร่วมให้สามารถใช้ระบบขนส่งสาธารณะด้วยความสะดวก โดยมีต้นทุนการเดินทางที่สมเหตุสมผล

2. เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานระบบตั๋วร่วมของผู้รับใบอนุญาตที่ได้รับผลกระทบเนื่องจากการเข้าร่วมระบบตั๋วร่วม

3. เพื่อให้ผู้รับใบอนุญาตกู้ยืมสำหรับดำเนินการลงทุน ปรับปรุง และพัฒนาการให้บริการระบบตั๋วร่วม

ส่วนแหล่งที่มาของเงินกองทุนฯ มีการกำหนดไว้ใน มาตรา 30 กองทุนประกอบด้วยเงินและทรัพย์สิน ดังต่อไปนี้

1. เงินทุนประเดิมที่รัฐบาลจัดสรรให้

2. เงินอุดหนุนที่รัฐบาลจัดสรรให้

3. เงินค่าธรรมเนียมการออกใบอนุญาต

4. เงินที่ได้รับตามมาตรา 31 ว่าด้วยให้ผู้รับใบอนุญาตนำส่งเงินเข้ากองทุน

5. เงินที่ได้รับจากผู้ให้บริการขนส่ง เมื่อมีสัญญาสัมปทาน สัญญาร่วมงาน หรือสัญญาร่วมลงทุนแล้วแต่กรณี มีข้อสัญญาให้ผู้ให้บริการขนส่งจะต้องส่งเงินเข้ากองทุน

6. เงินค่าปรับทางปกครองตามมาตรา 40

7. เงินหรือทรัพย์สินที่มีผู้บริจาคให้แก่กองทุน

8. ดอกผลของเงินหรือทรัพย์สินของกองทุน

ทั้งนี้ เงินอุดหนุนตาม 2 นั้น ให้รัฐมนตรีดำเนินการขอรับการจัดสรรงบประมาณเพื่อสมทบเข้ากองทุนในแต่ละปีงบประมาณตามความจำเป็น เงินและทรัพย์สินของกองทุนตามวรรคหนึ่ง ไม่ต้องนำส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดิน


Thailand's Ministry of Transport Unveils Plans for Common Ticket System by 2025

The Ministry of Transport in Thailand is pushing forward with a plan to implement a long-awaited "common ticket" system for the country's rail network. This system, expected to be operational by 2025, aims to streamline the travel experience for passengers by allowing them to use a single ticket across all rail lines. Additionally, the common ticket system will standardize fare structures, promoting transparency and potentially making rail travel more affordable.

The initiative comes in response to a growing shift in public travel preferences. Recent travel statistics compiled during the Songkran festival highlight this trend. Rail transportation saw a significant surge in usage during the holiday period, accounting for nearly half (44.69%) of all public transport trips. This rise in ridership underscores the public's growing interest in rail travel as a convenient and efficient mode of transportation.

Clear Roadmap for Implementation

The Ministry of Transport has outlined a comprehensive roadmap for the implementation of the common ticket system. The plan breaks down the process into several key stages:

Drafting and Approval Phase (April 2024 - July 2025): During this initial phase, the Ministry will focus on drafting the Common Ticket System Management Act. This act will establish the legal framework for the new system and will need to be approved by relevant government bodies before proceeding.

Enactment and Announcement (August - September 2025): Following the successful approval of the Act, it is expected to be officially enacted and announced sometime between August and September of 2025.

Regulation Development (September - December 2025): Once the Act is in place, the Ministry will then shift its focus to developing supplementary regulations that provide more specific details about the operation of the common ticket system. This stage is anticipated to take place between September and December of 2025.

Fund Establishment (September - December 2025): The Ministry also plans to establish a dedicated Common Ticket System Promotion Fund during this timeframe (September - December 2025). This fund will play a crucial role in supporting the implementation and ongoing operation of the new system.

Addressing Potential Revenue Shortfalls

The implementation of a standardized fare structure across the rail network might lead to revenue shortfalls for some private-sector rail operators. To address this potential concern, Transport Minister Suriya Juangroongruangkit has emphasized the importance of the Common Ticket System Promotion Fund. This fund is estimated to provide around 7-8 billion baht annually to compensate private rail companies for any revenue gaps caused by the new fare structure. The Minister has indicated that the Ministry will request annual budget allocations to contribute to the fund and ensure its long-term sustainability.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> โครงการระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคต All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... , 278, 279, 280  Next
Page 279 of 280

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©