View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 45089
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 11/06/2009 12:24 am Post subject: เรื่องเล่าจากนายสถานีกำแพงแสน |
|
|
วันนี้ได้มีโอกาสพูดคุยทางโทรศัพท์กับคุณพ่อของอาจารย์วิรัตน์ BanPong1
ซึ่งท่านเป็นอดีตนายสถานีกำแพงแสนคนแรก ตั้งแต่ พ.ศ.2506-2508 ครับ
มีข้อมูลทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจดังต่อไปนี้ครับ
1. ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี มีรางหลีกระหว่างทางเพียง 2 สถานี คือ ที่สถานีกำแพงแสนและสถานีศรีสำราญ
(ต่อมาในปี 2514 สร้างรางหลีก รางตันและชานบรรทุกที่สถานีทะเลบก--ข้อมูลจากพี่ช.โกวิท)
2. สถานีกำแพงแสน มีเจ้าหน้าที่ประจำเพียง 3 คน คือ นายสถานีและคนการอีก 2 คน ไม่มีเสมียน คนการมีหน้าที่คุมประแจ สับประแจ
3. รางหลีกของสถานีกำแพงแสน ซึ่งมีความยาว 600 เมตรนั้น ไม่ได้ใช้ในการสับหลีกขบวนรถ แต่มักใช้เป็นที่จอดขบวนรถบรรทุกน้ำมากกว่า ซึ่งเป็นน้ำที่ใช้ในการอุปโภคบริโภคของสถานีรถไฟรายทาง เพราะยังไม่มีน้ำบ่อ น้ำบาดาลใช้
4. ใน 1 วันมีขบวนรถโดยสารและรถสินค้า (รถรวม) เพียง 2 ชุด รวม 4 ขบวน
5. สถานีกำแพงแสนในสมัยนั้น ไม่มีถนนรถยนต์ออกสู่ตลาดกำแพงแสน และอยู่ห่างจากวัดกำแพงแสนกิโลกว่า และอยู่ห่างจากตลาดกำแพงแสนถึง 5 กิโล การเดินทางไปยังตลาดต้องใช้วิธีปั่นจักรยานเลียบคูรอบเมืองเก่ากำแพงแสน (ปัจจุบันใช้เป็นค่ายลูกเสือกำแพงแสน)
6. เมื่อถึงฤดูน้ำหลาก ทางเดียวที่จะออกสู่โลกภายนอก คือทางรถไฟเท่านั้น บริเวณหน้าสถานีเป็นหนองน้ำ (ปัจจุบันยังเหลือหนองน้ำให้เห็นอยู่) คันทางรถไฟสูงจากพื้นมากพอสมควร น้ำเลยไม่ท่วม
7. เพื่อนๆ ของนายสถานีกำแพงแสน เข้าใจว่าเป็นนายสถานีกำแพงแสนแล้วดี เพราะเป็นสถานีประจำอำเภอ แต่กำแพงแสนสมัยเมื่อ 40 กว่าปีก่อนนั้นเป็นชุมชนเล็กมาก สภาพไม่น่าเป็นอำเภอได้เลย ตัวสถานีเองก็ไม่มีไฟฟ้าใช้ ต้องใช้ตะเกียง
สถานีหนองฟักยังดีเสียกว่า เพราะใกล้ถนน ออกสู่ภายนอก เข้าเมืองได้ง่ายกว่า
8. อาคารสถานีกำแพงแสน อยู่ทางด้านตะวันตกของราง โถงที่พักผู้โดยสารอยู่ทางด้านทิศใต้ ส่วนบริเวณที่เป็นห้องเจ้าหน้าที่มี 2 ชั้น ชั้นบนเป็นห้องพัก กลางวันลมพัดเย็นสบาย
กลางคืนไม่มีรถไฟผ่าน
9. ช่วงเปิดการเดินรถใหม่ๆ มีผู้โดยสารมากพอสมควร วันหนึ่งขายตั๋วได้ถึง 200-300 บาท
ผู้โดยสารส่วนใหญ่เดินทางไปหนองปลาดุกและนครปฐม
10. การเดินทางเข้าตลาดกำแพงแสนสมัยนั้น ที่สะดวกที่สุดคือ เดินทางด้วยรถไฟไปนครปฐมก่อน แล้วย้อนกลับมาตามถนนมาลัยแมน
11. สินค้าที่บรรทุกขึ้นรถสินค้าที่กำแพงแสน ส่วนใหญ่เป็นผลิตผลทางการเกษตรจำพวกพืชไร่ และที่สำคัญคือถ่านไม้ ส่งไปขายแถวๆ มหาสวัสดิ์
12. ผมลืมถามท่านอดีตนายสถานีกำแพงแสนเสียสนิทเลยครับ ว่าเคยเห็นรถจักรไอน้ำผ่านเข้ามาในสายสุพรรณบุรีหรือไม่ (แม้จะมีงวงเติมน้ำ ถังน้ำและวงเวียนกลับรถจักรที่สุพรรณบุรี แต่ปัญหาคือได้ใช้งานจริงมากน้อยแค่ไหน เพราะตั้งแต่วันที่ 15 ก.พ. 2514 ก็มีการเปลี่ยนขบวนรถโดยสารที่ 115/116 เดินระหว่างธนบุรี-สุพรรณบุรี เป็นรถดีเซลรางแล้ว)
ขอขอบพระคุณท่านอดีตนายสถานีกำแพงแสนเป็นอย่างสูงครับ ที่ได้เล่าเรื่องราวในอดีตสมัยผมยังไม่เกิดให้ฟังครับ
----------------------------------------------------------
ภาพถ่ายทางอากาศวันที่ 17 ธ.ค. 2518 กรมแผนที่ทหาร บริเวณสถานีกำแพงแสน มีหนองน้ำหน้าสถานี ราง 2 ราง และอาคาร 2 ชั้นให้เห็นอย่างชัดเจน
หลังจากนี้ 1 ปี คือในวันที่ 15 ธ.ค. 2519 ก็ถูกยุบเป็นที่หยุดรถจนถึงปัจจุบัน
|
|
Back to top |
|
|
ksomchai
1st Class Pass (Air)
Joined: 08/04/2009 Posts: 6384
Location: เมืองทองเนื้อเก้า มะพร้าว สัปรด สวยสดหาด เขา ถ้ำ งามล้ำน้ำใจ ป่าชุ่มน้ำผืนใหญ่ แหล่งวางไข่ปลาทู
|
Posted: 11/06/2009 7:00 am Post subject: |
|
|
อาจารย์หม่องวินครับ สอบถามท่านหรือเปล่าครับว่าอาคารสถานีรูปทรงแบบใด
ผมเคยเห็นป้ายบอกระยะทางและค่าโดยสาร สายใต้เมื่อก่อน ในสายสุพรรณบุรี
ไม่มีเครื่องหมายดอกจัน แค่ ๒ สถานี คือ กำเพงแสน และศรีสำราญเช่นกันครับ แสดง
ว่าเส้นทางสายนี้มี ๒ สถานีจริง ๆ |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 45089
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 11/06/2009 9:04 am Post subject: |
|
|
ยังไม่ได้คุยกับท่านอดีตนายสถานีกำแพงแสน เกี่ยวกับลักษณะทางสถาปัตยกรรมของอาคารเลยครับ
งานนี้ถ้ามีโอกาส อาจจะต้องรบกวนสถาปนิกคืออาจารย์วิรัตน์ BanPong1 สเก็ตช์ภาพตามคำบอกเล่าของคุณพ่อและจากภาพถ่ายทางอากาศที่พอมองเห็นได้นิดหน่อย
ไม่ทราบมีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหนครับ
แต่อาคารมีสองชั้นคล้ายกับสถานีนาผักขวงแน่นอนครับ
สถานีนาผักขวง สร้าง 2499 ส่วนสถานีกำแพงแสนสร้างก่อนปี 2506 แน่ๆ
(เริ่มก่อสร้างสายสุพรรณบุรีราวปี พ.ศ.2497 แต่มีอุปสรรคต่างๆ เช่น ขาดงบประมาณ น้ำท่วม ทำให้กว่าจะเปิดเดินรถได้ก็เข้าปี 2506)
ดังนั้นยุคสมัยไม่ต่างกันมากเลยครับ ดีไม่ดีสร้างห่างกันปีสองปีแค่นั้นเอง ผมคิดว่าอย่างนั้นครับ
นำโปสเตอร์บอกราคาค่าโดยสาร ที่พี่สมชายกล่าวถึงมาให้ชมครับ ถ่ายที่สถานีนครปฐม
ผมเข้าใจว่าโปสเตอร์นี้น่าจะใช้ข้อมูลบัญชีสถานี/ที่หยุดรถ ราวปี 2525 ครับ
ซึ่งตอนนั้นสถานีรายทาง 9 ใน 10 สถานียุบเป็นที่หยุดรถหรือยุบเลิกไปแล้ว เหลือสถานีศรีสำราญเพียงแห่งเดียวครับ
ปัจจุบันศรีสำราญก็โดนยุบเป็นที่หยุดรถไปเรียบร้อยแล้วครับ
ทำให้ทางตอนชุมทางหนองปลาดุก-สุพรรณบุรี เป็นตอนที่ยาวที่สุดในประเทศไทย ที่ไม่มีรางหลีกครับ |
|
Back to top |
|
|
Rakpong
President
Joined: 29/03/2006 Posts: 1716
Location: แคว้นโบราณ ด่านเจดีย์ มณีเมืองกาญจน์ สะพานข้ามแม่น้ำแคว แหล่งแร่น้ำตก
|
Posted: 11/06/2009 6:25 pm Post subject: |
|
|
เส้นทางสายบ้านโป่ง - ยางประสาท - โพรงมะเดื่อ - นครปฐม ผมเคยใช้บริการตอนที่กำลังก่อสร้าง overpass ข้ามทางรถไฟที่บ้านโป่ง มีรถสิบล้อใช้บริการกันมาก ถนนสภาพไม่ค่อยดี มาเจอทางรถไฟสายสุพรรณบุรี เชื่อว่ารถไฟต้องหยุดรอให้สิบล้อผ่านไปมาหมดก่อนจึงค่อย ๆ ผ่านทางตัด
และเป็นโอกาสอันดี ของอาจารย์เอก ที่ได้รับฟังเรื่องราวในประวัติศาสตร์จากท่านนายสถานีกำแพงแสนท่านแรก ผมรู้สึกว่าประวัติของเส้นทางสายนี้ มันขาด ๆ หาย ๆ ชอบกล ทั้งที่ช่วงเวลาผ่านไปไม่กี่สิบปี
การลงสำรวจสถานที่จริง ข้อมูลเอกสาร และสัมภาษณ์ผู้เกี่ยวข้อง น่าจะชำระประวัติศาสตร์เส้นทางรถไฟสายสุพรรณบุรีได้ และมีโอกาสจะรื้อฟื้นความทคิดที่จะเชื่อมต่อรถไฟสายเหนือ - สายใต้ได้อีกครั้ง |
|
Back to top |
|
|
BanPong1
1st Class Pass (Air)
Joined: 07/12/2006 Posts: 2733
Location: กม.37 สายเหนือ, กม.68 สายกาญจนบุรี
|
Posted: 11/06/2009 10:44 pm Post subject: |
|
|
ต้องขอบคุณอาจารย์เอกที่ตั้งคำถามหลายคำถามที่ผมไม่เคยได้ถามด้วยตัวเองครับ
ได้สนทนากันด้วยภาษาสงขลาหรือเปล่าครับ
ตัวอาคารสถานี จากที่ได้ดูจากภาพถ่ายทางอากาศ คล้ายกับสถานีนาผักขวงมากครับ
ผมคาดว่าคงเป็นแบบเดียวกันแน่นอน เดี๋ยวสัปดาห์หน้ากลับไปที่บ้านจะพริ้นท์ภาพที่คุณสมชายถ่ายมาไปให้พ่อดูครับ _________________
|
|
Back to top |
|
|
BanPong1
1st Class Pass (Air)
Joined: 07/12/2006 Posts: 2733
Location: กม.37 สายเหนือ, กม.68 สายกาญจนบุรี
|
Posted: 11/06/2009 11:05 pm Post subject: |
|
|
ขอนำภาพถ่ายทางอากาศ บริเวณสถานีรถไฟบางบำหรุ สมัยปี พ.ศ.2517 มาเปรียบเทียบเพื่อวิเคราะห์ลักษณะอาคารครับ
ที่มา: ภาพถ่ายทางอากาศชุด น.ส.3 กรมแผนที่ทหาร วันที่ 6 กันยายน 2517 _________________
|
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 45089
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 12/06/2009 7:19 am Post subject: |
|
|
Rakpong wrote: | และเป็นโอกาสอันดี ของอาจารย์เอก ที่ได้รับฟังเรื่องราวในประวัติศาสตร์จากท่านนายสถานีกำแพงแสนท่านแรก ผมรู้สึกว่าประวัติของเส้นทางสายนี้ มันขาด ๆ หาย ๆ ชอบกล ทั้งที่ช่วงเวลาผ่านไปไม่กี่สิบปี |
เห็นด้วยกับพี่หมอรักษ์พงศ์ครับ ประวัติศาสตร์ขาดช่วงไปจริงๆ ครับ ทั้งที่เป็นเส้นทางรถไฟใหม่ล่าสุดของทางรถไฟสายใต้เชียวนะครับ
เห็นภาพถ่ายทางอากาศสถานีรถไฟบางบำหรุของอาจารย์วิรัตน์แล้ว ทำให้ยิ่งมั่นใจครับว่า ลักษณะรูปแบบอาคารสถานีรถไฟในสายสุพรรณบุรีทุกสถานี ยกเว้นสถานีศรีสำราญกับสุพรรณบุรี เป็นแบบนี้แน่ๆ
มีข้อที่น่าสังเกตอีกประการคือ เมื่อหันหน้าเข้าหาด้านหน้าอาคารสถานี จะมีอาคารอีกหลังหนึ่ง อยู่หลังสถานี เยื้องไปทางด้านขวา ตามที่ผมวงไว้นี้ครับ
อาคารหลังนี้ คืออะไรครับ
มีทุกสถานีเลยครับ
ที่สถานีหนองผักชีก็มีครับ
สถานีนาผักขวง ของพี่สมชายก็มีครับ
|
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 45089
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 12/06/2009 7:22 am Post subject: |
|
|
จำได้ว่าอาจารย์วิรัตน์เคยตั้งข้อสังเกตไว้ในกระทู้สถานีนาผักขวงของพี่สมชายไว้ดังนี้ครับ
http://portal.rotfaithai.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=3653&postdays=0&postorder=asc&start=50
BanPong1 wrote: | สถานีนี้มีรูปแบบสถาปัตยกรรมคล้ายกันกับ สถานีบางบำหรุ
ในสมัยที่สร้างสถานีนี้คงใช้แบบเดียวกันหลายสถานีในทางสายใต้นะครับ
คุณสมชายมีภาพเปรียบเทียบเก่าใหม่ในหลายๆมุมได้เยี่ยมเลยครับ ผมเคยเข้าไปที่บ้านกรูด เห็นป้ายบอกทางไปที่นาผักขวง แต่ไม่เคยเข้าไปสักที ขอบคุณมากครับที่นำภาพมาให้ชมกัน
ที่พูดถึงบางบำหรุและลักษณะอาคารแบบนี้ เพราะเห็นภาพถ่ายแล้วนึกขึ้นได้จากความทรงจำในวัยเด็ก ผมยังพอจะจำแบบแปลนอาคารสถานีลักษณะนี้ได้ดีอยู่เลยครับ ช่วงนั้นอายุยังไม่สิบขวบดีตอนปิดเทอมได้มีโอกาสตามพ่อไปที่บางบำหรุ และที่อื่นๆที่พ่อย้ายไปประจำที่สถานีต่างๆ อาคารแบบนี้ค่อนข้างพิเศษที่มีที่พักอยู่บนชั้นสองของตัวสถานี (ได้เห็นรถไฟจากมุมสูงด้วยครับ) และมีเรือนครัวกับห้องน้ำอยู่ที่ระดับพื้นด้านข้างสถานีแบบเดียวกับในภาพ นับว่าเป็นการออกแบบสถานที่สาธารณะกับที่ไม่สาธารณะไว้ด้วยกันอย่างไม่ขัดเขิน หลังๆเห็นสถานีรถไฟในแถบยุโรปที่เป็นสถานีขนาดเล็กในท้องถิ่นก็มักจะเป็นลักษณะนี้เหมือนกัน ซึ่งอาจจะได้รับการถ่ายทอดวิธีการออกแบบมานะครับ
พูดถึงเรื่องสถาปัตยกรรมสถานีรถไฟ ที่อยากเห็นมากที่สุดตอนนี้คือภาพอดีตสถาน "กำแพงแสน" และสถานี "บ้านโป่งใหม่" ครับ อ.เอก |
|
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 45089
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 12/06/2009 7:26 am Post subject: |
|
|
ภาพซากพื้นอาคารสถานีหนองฟัก พอจะคลี่คลายปริศนาได้ระดับหนึ่งครับ
ส่วนสถานีบ้านโป่งใหม่ ในสายกาญจนบุรีนั้น ท่านอดีตนายสถานีกำแพงแสนบอกว่าเคยเห็น
รูปแบบอาคารชั้นเดียว แบบเดียวกับสถานีสระโกสินารายณ์ เพราะรื้อย้ายบ้านโป่งใหม่ไปสร้างเป็นสถานีสระโกสินารายณ์ครับ ในปี พ.ศ.2512
สำหรับบ้านพัก รื้อมาจากสถานีท่าม่วง ซึ่งยุบเป็นที่หยุดรถตั้งแต่ 1 มิ.ย. 2504
BanPong1 wrote: | ได้สนทนากันด้วยภาษาสงขลาหรือเปล่าครับ |
ได้สนทนากันด้วยภาษาถิ่นใต้สงขลาด้วย ดีจังครับ
ท่านอดีตนายสถานีกำแพงแสนบอกกับผมด้วยว่า เสียดายที่ไม่มีโอกาสเป็นนายสถานีสงขลาครับ และยังถามด้วยว่าสถานีสงขลารื้อไปหรือยัง ผมก็ตอบท่านว่า ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานแล้วครับ |
|
Back to top |
|
|
BanPong1
1st Class Pass (Air)
Joined: 07/12/2006 Posts: 2733
Location: กม.37 สายเหนือ, กม.68 สายกาญจนบุรี
|
Posted: 13/06/2009 11:51 pm Post subject: |
|
|
Rakpong wrote: | เส้นทางสายบ้านโป่ง - ยางประสาท - โพรงมะเดื่อ - นครปฐม ผมเคยใช้บริการตอนที่กำลังก่อสร้าง overpass ข้ามทางรถไฟที่บ้านโป่ง มีรถสิบล้อใช้บริการกันมาก ถนนสภาพไม่ค่อยดี มาเจอทางรถไฟสายสุพรรณบุรี เชื่อว่ารถไฟต้องหยุดรอให้สิบล้อผ่านไปมาหมดก่อนจึงค่อย ๆ ผ่านทางตัด |
ปัจจุบันทางดีแล้วครับ
ผมลองดูระยะทางแล้วจะประหยัดระยะทางไปได้เกือบ 10 กม.ครับ ถ้าไปจากบ้านโป่ง-กำแพงแสน
แต่ถ้า บ้านโป่ง-นครปฐม คงมีระยะมากกว่าปกติครับ
Rakpong wrote: | และเป็นโอกาสอันดี ของอาจารย์เอก ที่ได้รับฟังเรื่องราวในประวัติศาสตร์จากท่านนายสถานีกำแพงแสนท่านแรก ผมรู้สึกว่าประวัติของเส้นทางสายนี้ มันขาด ๆ หาย ๆ ชอบกล ทั้งที่ช่วงเวลาผ่านไปไม่กี่สิบปี |
เคยถามกับพ่อครับว่ามีภาพถ่ายสมัยนั้นไหม ก็อย่างที่รู้กันว่ากล้องถ่ายรูปเป็นสิ่งที่มีราคาแพง การจะถ่ายรูปแต่ละครั้งก็ต้องไปจ้างช่างภาพมาถ่ายให้ ถ้าอยู่ในเมืองใหญ่ก็อาจจะสะดวกหน่อย ผมเคยเห็นภาพที่ถ่ายคู่กับป้ายประเพณีตามสถานีต่างๆเหมือนกัน ว่าจะลองไปค้นดูครับ _________________
|
|
Back to top |
|
|
|