View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
nop2
2nd Class Pass (Air)
Joined: 06/03/2008 Posts: 985
Location: เพชรบุรี
|
Posted: 09/04/2008 12:47 pm Post subject: ช่วยเสนอความเห็น การเปลี่ยนความกว้างรางเป็น 1.435 หน่อยครับ |
|
|
สำหรับผมข้อดีตามความคิดของผมมีดังนี้
1. ทำขบวนได้เร็วขึ้นเฉลี่ยจาก 70-90 มาเป็น 110-200(ทั้งนี้ ต้องทำจุดตัดทั้งหมด ให้เป็นจุดต่างระดับ โค้งให้กว้าง ขึ้นและรั้วกันสารพัดสัตว์ และคนไม่ให้เข้ามาบริเวณรางด้วย)
2. สามารถนำรถจักรแรงม้าสูงเข้ามาทำขบวนได้ หน่วยลากต่อเที่ยวจูงขึ้น(ขึ้นอยู่ รางเราจะรับน้ำหนักได้เท่า ถ้าจะนำรับจักรอเมริกาพวก dash9 ควรให้รับน้ำหนักได้อย่างต่ำก็ 30ตัน แต่ไม่รู้จะเดือดร้อนเรื่อง วงเวียนกลับรถรึเปล่า เพราะรถอเมริกาเป็นแคปเดียวซะส่วนใหญ่ )
3. สามารถนำรถไฟฟ้าความเร็วสูง TGV ชินคันเซ็น หรือดีเซลรางรุ่นใหม่ๆ มาวิ่งได้ (แต่การใช้รางร่วมกันกับรถสินค้าอาจจะปัญหาได้ เรื่องความเร็วได้)ทำให้การเดินทางไปที่ต่างรวดเร็วขึ้น ซึ่งอาจจะลดเวลาได้ถึง 6ชั่วโมง (กรุงเทพ-หาดใหญ่ ใน 6ชั่วโมง)
4. หาซื้อรถจักร รถพ่วง รถดีเซลราง ได้ง่ายราคาถูกกว่า รถจักรราง 1เมตร ดีไซน์เดียว กับที่ขายอยู่ ไม่ต้องมาออกแบบใหม่สำหรับราง 1เมตร(ไม่ทราบว่าเอารถจักรอเมริกามาวิ่งบ้านเรา จะปัญหาเรื่องน้ำร้อนรึเปล่า เพราะอากาศบ้านเราร้อน การที่เอาเครื่องยนต์เมืองหนาวมาวิ่งอาจจะปัญหาได้)
ข้อเสีย
1. ลงทุนมหาศาลมากๆ เพราะต้องทำทางใหม่ สะพานใหม่ ทั้งหมด รวมถึงบ้านเราจำนวนเส้นทางยังมีน้อยมาก ร่วมถึงต้องหารถจักร รถพ่วงใหม่ ทั้งหมดด้วย(ส่วนหนึงอาจจะแก้ไขใ้ห้กับราง 1.435ได้)
2. คนไทยยังมักง่ายอยู่ ทำทางลักผ่าน หรือไหมก็อาจจะขโมยรั้วไปขาย (กรณีเป็นเหล็ก)
3. ต้องเร่งสร้างจุดรับสินค้าและท่าเรือให้เยอะ(งบประมาณบานปลายอีก) เพราะให้การขนส่งทำได้รวดเร็วไปขึ้นอีก
สรุป ถ้าจะทำราง 1เมตรให้ดีๆ(แบบมาเลเซีย) กับ ราง 1.435เมตร ผมคิดว่า ราง 1.435 จะเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ากว่า เพราะต้นทุนไม่ต่างกันมากนัก (ไม่นับเรื่องรถจักร รถพ่วงที่ต้องซื้อใหม่นะครับ) และยังสามารถนำรถไฟ ความเร็วสูงมาวิ่งได้อีก
สำหรับผมมีความคิดเห็นแค่นี้ใคร พวกพี่ ป้า น้า อา และเหล่าอาจารย์ ทั้งหลายช่วยเสริมหน่อยครับ
*ขอ EDIT เพิ่มเติม 110-160KM/H สำหรับรถจักรทำขบวน 110 สำหรับรถสินค้า 140-160KM/H สำหรับ รถโดยสาร 160-200KM/H สำหรับรถดีเซลราง
Last edited by nop2 on 09/04/2008 1:14 pm; edited 1 time in total |
|
Back to top |
|
|
pattharachai
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 6536
Location: ราชอาณาจักรไทย
|
Posted: 09/04/2008 1:06 pm Post subject: |
|
|
หากทำรางมาตรฐานแล้วรถวิ่งแค่ 110 กม./ชม. แล้ว อย่าทำเช่นนั้นเลยจะดีกว่า
ส่วนรถไฟความเร็วสูง ไม่ควรจะใช้รางเดียวกับรถไฟปกติครับ ในต่างประเทศ รถไฟความเร็วสูงจะใช้รางร่วมกับรถไฟปกติเฉพาะเวลาวิ่งในเมืองเมื่อใช้ความเร็วไม่มากเท่านั้นครับ พอถึงช่วงที่ใช้ความเร็วสูง ต้องเป็นทางที่สร้างมาเฉพาะเท่านั้นครับ
การเปลี่ยนรางเป็นรางมาตรฐาน อาจเป็นแนวคิดที่ดี แต่ส่งผลกระทบกับทุกสิ่งที่เกี่ยวข้องครับ คือต้องรื้อระบบใหม่ทุกอย่างไม่ใช่แค่รางกับล้อเลื่อน
ราง 1 เมตรของมาเลเซียไม่ได้ดีไปกว่าของเราหรอกครับ อิอิ
ในส่วนตัวผม ยังคงความเห็นที่ว่า ควรสร้างราง 1.435 เมตร เฉพาะเส้นทางที่สร้างใหม่ ที่ใช้สำหรับรถไฟความเร็วสูงในอนาคตเป็นเหมาะกว่า |
|
Back to top |
|
|
Leonedovis
3rd Class Pass
Joined: 19/06/2007 Posts: 39
Location: 89/104 ถ.กาญจนาวนิช สงขลา
|
Posted: 09/04/2008 1:29 pm Post subject: |
|
|
ข้อเสีย ในข้อ 1 และ 2 คือปัญหาใหญ่ ในการเปลี่ยนแปลง |
|
Back to top |
|
|
New_Henry
2nd Class Pass
Joined: 19/11/2006 Posts: 562
Location: สถานีรถไฟ
|
Posted: 09/04/2008 1:56 pm Post subject: |
|
|
ถ้าเปลี่ยนจากการเปลี่ยนรางเป็นทำรางคู่ทั่วประเทศน่าจะดีกว่าน่ะครับ... _________________
|
|
Back to top |
|
|
Naranong
3rd Class Pass
Joined: 04/07/2006 Posts: 126
Location: บ้านทับช้าง ซอยวัดลานบุญ ลาดกระบัง พระจอมเกล้า หัวตะเข้
|
Posted: 09/04/2008 1:57 pm Post subject: Re: ช่วยเสนอความเห็น การเปลี่ยนความกว้างรางเป็น 1.435 หน่อยค |
|
|
nop2 wrote: |
2. คนไทยยังมักง่ายอยู่ ทำทางลักผ่าน หรือไหมก็อาจจะขโมยรั้วไปขาย (กรณีเป็นเหล็ก)
|
อันนี้มีแล้วครับ แถวบ้านรั้วไม่หายแต่น็อตไปหมดแล้ว เจอที่ ซอยวัดลานบุญ คงเนื่องจากเป็นป้ายหยุดรถเลยไม่มีคนดูแล |
|
Back to top |
|
|
saraburi
1st Class Pass (Air)
Joined: 03/07/2006 Posts: 3321
Location: ถิ่นเนื้อนุ่ม นมดี กะหรี่(ปํ๊บ)ดัง สระบุรี
|
Posted: 09/04/2008 2:14 pm Post subject: |
|
|
ความคิดผมนะ ถ้าเกิดจะนำทางรถไฟระบบเก่าที่เราใช้อยู่ จาก 1 เมตร เป็น 1.435 เมตร แล้วนะ ผมว่า อย่าเลย
ตามเหตุผลพี่บอยครับ ทั้ง ล้อเลื่อน ทั้งเส้นทางที่ต้อง ย้าย เบี่ยง เจาะเขาใหม่ ทำ Over Pass ใหม่ ........
เหมือนเอางบ มาผลานเล่นโดยที่ไม่ได้ประโยชน์สูงสุด
อย่างที่ว่า ราง 1.435 เมตรจะเอารถสินค้า มาวิ่งร่วมกับรถไฟความเร็วสูง 200 กม/ชม ขึ้นผมว่ามันไม่ดีแน่ครับ
อันนี้ผมว่าเอาราง 1 เมตร ทำทำทางคู่สายใต้ เหนือ อิสานให้ได้ ก่อนครับ เพื่อจะได้ไม่ต้องรอหลีก ความเร็วเฉลี่ยของขบวนรถไฟเราจะได้เพื่มขึ้น
แบบว่าทำของเก่าให้มันดีก่อน ก่อนจะไปทำอะไรที่ดีกว่านะ เจ้านาย..
ปล. Dash 9 หนัก เกือบ 200 ตัน ดังนั้น ทางรถไฟที่จะทำต้องรับโหลดเพลา สูงมากถึง 35 ตันเชียวนะครับ ไม่งั้น วิ่งได้ไม่เกิน 20 กม/ชมแน่ ....... _________________ ช่างภาพระดับพื้นโลก
|
|
Back to top |
|
|
CENTENNIAL
1st Class Pass (Air)
Joined: 30/03/2006 Posts: 3642
Location: Thailand
|
Posted: 09/04/2008 2:21 pm Post subject: |
|
|
ผมเดาว่าไม่มีใครอยากคอมเมนต์ในเรื่องนี้แล้วครับ โดยผมก็เป็นคนนึง
เพราะตอนนี้ หากพวกเราสังเกตดีๆ จะพบว่า หลวงท่านคงไม่คิดจะปรับปรุงอะไรเกี่ยวกับรถไฟแล้วทั้งนั้นละครับ ไม่ว่าจะเป็น 1 เมตร หรือ 1.435 เมตร
โครงการต่างๆ ที่ยกกันมาพูดนั้น ก็เป็นเพียงแค่สายลมพัดผ่านให้รู้สึกเย็นวูบๆ วาบๆ เล่นเท่านั้น แล้วก็ผ่านเลยไป ไม่มีโครงการชิ้นไหนที่จะมาเป็นรูปธรรมได้เลย |
|
Back to top |
|
|
suraphat
1st Class Pass (Air)
Joined: 12/02/2007 Posts: 1117
Location: ดินแดง ห้วยขวาง
|
Posted: 09/04/2008 2:43 pm Post subject: ควรสร้างทางคู่ในช่วงใดดีเป็นลำดับแรก |
|
|
เปลี่ยนขนาดทางไม่ได้หรอกในเรื่องนี้ เพราะถ้าจะเปลี่ยนแล้ว ก็ต้องเปลี่ยนใหม่ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นสะพาน อุโมงค์ ล้อเลื่อน ที่มีอยู่ทั่วประเทศ
ซึ่งทางเดียวที่ทำได้ก็คือ สร้างทางให้มากขึ้นกว่านี้ เช่นสร้างทางคู่ในเส้นทางต่างๆ
อย่างที่พวกเราได้ไปกันมาแล้วก็เช่นที่เดินทางไปที่ ทส. เราจะพบว่า พอขบวนรถวิ่งเลยประจวบไปแล้ว ขบวนรถก็จะมีการจอดรอหลีกตามสถานีรายทาง แต่พอมาในตอนเช้า เมื่อขบวนรถได้วิ่งออกมาจากสุราษฎร์ธานีมาแล้ว เราก็จะพบว่าจะมีเฉพาะรถท้องถิ่นเท่านั้นที่จะมารอหลีกขบวนรถของเรา
ซึ่งนั่นก็แสดงว่าถ้าทางในช่วงประจวบถึงสุราษฎร์นี้เป็นทางคู่ ก็จะส่งผลให้การเดินทางของขบวนรถทุกขบวนสามารถเดินทางได้เร็วขึ้น เพราะไม่ได้มีการหลีกเกิดขึ้นอีกต่อไป
ส่วนทางในช่วงอื่นๆนั้น กระผมเห็นว่าในช่วงนี้ควรที่จะปล่อยให้มีการรอหลีกไปได้ไปก่อนในระยะแรกแล้วเราค่อยมาขยายระบบทางคู่นี้กันต่อไป กล่าวคือให้หันไปสร้างทางคู่ในแบบนี้ในเส้นทางสายอื่นๆอีกต่อไป |
|
Back to top |
|
|
black_express
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ
|
Posted: 09/04/2008 2:50 pm Post subject: |
|
|
ผมเห็นว่ามีข้อดีและข้อเสีย
ข้อดี
1. มีผู้ได้รับประโยชน์มหาศาลทั้งด้านงานก่อสร้างปรับปรุงทาง โครงสร้าง จัดหารถจักร และล้อเลื่อนทั้งหมด
2. ปริมาณขนส่งสินค้าเพิ่มขึ้น ( แต่ไม่รับรองปริมาณผู้โดยสาร เพราะปัจจัยที่ชี้ขาดคือความถี่ และความรวดเร็วของพาหนะเดินทาง)
3. ชนะรถยนต์ทั้งขนาดเล็กและใหญ่ เมื่อเกิดอุบัติเหตุตรงทางตัด ทางลักผ่านทั้งปวง เมือเทียบตัวต่อตัว
4. ขนส่งสินค้าข้ามทวีปได้ ถ้าเชื่อมกับระบบทางรถไฟของจีน
ข้อเสีย
1. สิ้นเปลืองงบประมาณในการลงทุนก่อสร้างระบบทางรถไฟขึ้นใหม่ทั้งหมด
2. ไม่สามารถเชื่อมโยงระบบทางรถไฟกับประเทศเพื่อนบ้าน (ปิดตัวเอง)
3. ไม่อาจพิสูจน์ได้ว่ารวดเร็วกว่าเดิม ( เว้นแต่ว่าเป็นระบบรถไฟความเร็วสูงที่เป็นทางยกระดับตลอดสาย )
4. ผลตอบแทนที่ได้รับช้ากว่าปรับปรุงทางระบบเดิมเป็นทางคู่ทั่วประเทศ รวมทั้งการปรับปรุงย่านสถานีทั้งหมด
......................
คิดดูเอาเองครับ |
|
Back to top |
|
|
ter123
3rd Class Pass (Air)
Joined: 06/12/2007 Posts: 333
Location: เชียงราก-บางมูลนาก-หอไกร
|
Posted: 09/04/2008 2:56 pm Post subject: |
|
|
ทางในบ้านเรามักเกิดน้ำท่วม ดินถล่มบ่อย
ถ้าเอารถจักรขนาดใหญ่มาจะไม่จมดินหรอครับ
ผมว่าทำทางคู่ทั่วประเทศแล้วซ่อมบำรุงรถจักรเสมอ
ไม่ให้ไปเสียระหว่างทางเท่านี้ก็ดีแล้วเรื่องรถเสียเวลา
ก็คงจะน้อยลงด้วย |
|
Back to top |
|
|
|