RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai Gallery in Facebook

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311326
ทั่วไป:13289539
ทั้งหมด:13600865
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - โครงการทางรถไฟสายเด่นชัย-เชียงราย
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

โครงการทางรถไฟสายเด่นชัย-เชียงราย
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 18, 19, 20 ... 77, 78, 79  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44867
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 13/07/2012 12:59 pm    Post subject: Reply with quote

“กาจพล” หวังทางรถไฟ ฯ เชื่อม “บ้านฮวก” _เล็งรับกับ R3A-ประชาคมอาเซียน
นสพ.ภาคเหนือรายวัน 12/7/2555 14:42:00

วันที่ 12 กรกฎาคม 2555 นายกาจพล เอิบสุขสิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา กล่าวว่า จากการที่ราชการโดยการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) มีนโยบายจะดำเนินการก่อสร้างทางรถไฟสายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ระยะทาง 273 กิโลเมตร มูลค่าประมาณ 60,000 ล้านบาท นั้น พบว่าเส้นทางรถไฟจะผ่านจังหวัดพะเยา ในท้องที่ อ.เมือง อ.ภูกามยาว จ.พะเยา หากสามารถก่อสร้างได้จริงตามแผนของ รฟท. ถือเป็นโอกาสดีของชาวพะเยาที่จะได้ใช้ประโยชน์จากเส้นทางรถไฟสายดังกล่าว

โดยเฉพาะเป็นช่องทางการเชื่อมโครงข่ายถนนทางหลวงกับเส้นทางรถไฟให้เกิดประโยชน์ด้านการคมนาคม ขนส่ง ทั้งคนและสินค้าประเภทต่าง ๆ ไปยังพื้นที่อื่น ๆ ง่ายขึ้น ช่วยลดทั้งต้นทุนการขนส่ง ความรวดเร็วและความปลอดภัยก็มีมากกว่าเส้นประเภทอื่น

รอง ผวจ.พะเยา กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ตนยังมองเชื่อมไปถึงด่านบ้านฮวก ที่เป็นช่องทางเปิดไปสู่ประเทศในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง ได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้เส้นทางโครงข่ายถนนทางหลวงแผ่นดิน ทางหลวงชนบท ที่กำลังมีแผนจะก่อสร้างในพื้นที่ จ.พะเยา มุ่งเน้นให้รองรับกับถนนอาร์สามเอ(R3A) ที่จะมาจากประเทศจีน ผ่าน สปป.ลาว และเข้ามาทางตอนเหนือของไทย ทั้งถนน R3A ด่านบ้านฮวก สามารถเชื่อมระบบขนส่งกับทางรถไฟได้อย่างลงตัว ซึ่งเมื่อทั้งคนและของถูกลำเลียงขนส่งมาทางถนนแล้ว จะลำเลียงขนส่งต่อไปด้วยรถไฟทำให้เกิดความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย

“ผมมองไปไกลกว่านั้นอีก คือ ปี 2558 ประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จำนวน 10 ประเทศ จะเปิดตัวร่วมกันเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน เมื่อจังหวัดพะเยา มีทั้งทางรถไฟ ถนน ที่สะดวกก่อให้เกิดความรวดเร็วด้านคมนาคม ขนส่ง จึงเป็นโอกาสและผลดีมหาศาลต่อชาวพะเยา ได้มีทางเลือกการใช้ช่องทางด้านการขนส่งให้เหมาะสมกับสถานการณ์ต่าง ๆ มากขึ้น ทั้งการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของจังหวัดพะเยาจะขยายตัวยิ่งขึ้นไปอีก เพราะสามารถเชื่อมต่อไปได้ทุกทิศทาง” นายกาจพล กล่าว
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44867
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 24/07/2012 8:23 am    Post subject: Reply with quote

"อ.เชียงของ" พร้อมเปิดเสรีอาเซียนปี 58
เดลินิวส์ วันอังคารที่ 24 กรกฎาคม 2555

สิ้นเดือนธันวาคมปี 2555 สะพานข้ามแม่น้ำโขง-ตามแนวเศรษฐกิจเหนือ-ใต้ (ห้วยทราย-เชียงของ) หรือโครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพแห่งที่ 4 อ.เชียงของ จ.เชียงราย จะแล้วเสร็จ (ไทยและจีนร่วมกันก่อสร้าง มูลค่าการก่อสร้าง 44.81 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ความยาวรวม 630 เมตร) สะพานแห่งนี้ข้ามไปสู่แขวงบ่อแก้วของลาวที่เชื่อมเข้าเส้นทางหมายเลข 3A (R3A) ถนนที่เชื่อมระหว่างจีน-ลาว-ไทย (เปิดใช้เมื่อปี 2551 ภายใต้โครงการสี่เหลี่ยมเศรษฐกิจ) ถนนเส้นนี้มีต้นทางเริ่มจากเชียงของ ประเทศไทย-บ่อแก้ว-หลวงน้ำทา-บ่อเต็น ประเทศลาว แล้วเชื่อมไปยัง-บ่อหาน-เชียงรุ่งหรือจิ่งหง ในแคว้นสิบสองปันนา สิ้นสุดที่นครคุนหมิงมณฑลยูนนาน ในประเทศจีน โดยมีระยะทางจากกรุงเทพฯถึงคุนหมิง 1,800 กม.

ในฐานะที่ อ.เชียงของ เป็นเมืองหน้าด่านหลักที่จะรองรับการเดินทางท่องเที่ยว การค้าขายที่การขนส่งสินค้าด้วยระบบถนนผ่านจุดเชื่อมคือสะพานดังกล่าว อำเภอเล็ก ๆ ที่เคยเป็นแดนสงบเงียบริมน้ำโขง กำลังเกิดกระแส การลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ รีสอร์ท โรงแรม การพัฒนาระบบสาธารณูปโภคขนาดใหญ่ อาทิ โครงการสร้างถนนสี่เลนจาก อ.เชียงของ สู่ตัวเมืองเชียงราย และขยายเส้นทางรถไฟเพื่อรองรับการขนส่งสินค้าจากประเทศจีนตอนใต้มาสู่ประเทศไทย (สถานีเด่นชัย-เชียงของ คาดว่าจะแล้วเสร็จอีก 3 ปี) เตรียมความพร้อมสู่การเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี พ.ศ. 2558

ยุทธศาสตร์ อ.เชียงของ ในบทบาทภาครัฐที่ต้องเตรียมรับมือ การเปิดเสรีอาเซียนปี 2558 นายสรธร สันทัด นายอำเภอเชียงของ เปิดเผยถึงยุทธศาสตร์ภายใต้การดำเนินงานให้แก่ นายอภิชาติ เทียวพานิช รองอธิบดีกรมการปกครอง ระหว่างตรวจราชการ ว่าอำเภอเชียงของ เน้นทำงานใน 3 เสาหลัก ได้แก่ 1. สังคมและวัฒนธรรม 2. เศรษฐกิจ 3. ความมั่นคง ด้านวัฒนธรรมนั้นจะพัฒนาเชียงของให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม เป็นจุดศูนย์กลางการท่องเที่ยว 3 ประเทศ คือ พม่า ลาว จีน เพราะจากเชียงของไป อ.แม่สายที่เชื่อมไปพม่า มีระยะทางเพียง 100 กม. ตั้งเป้าว่าเมื่อสะพานแล้วเสร็จจะไม่ให้เชียงของเป็นแค่ทางผ่าน ต้องสร้างจุดท่องเที่ยวเพื่อให้การจับจ่ายใช้สอยในเชียงของ โดยได้ตั้งงบประมาณ 20 ล้านบาท พัฒนาแหล่งท่องเที่ยว ในเบื้องต้นได้ก่อสร้างสวนดอกไม้เมืองหนาว บริเวณจุดชมวิวห้วยทราย และแหล่งท่องเที่ยวชมสวนผลไม้ ปัจจุบันเชียงของเกษตรกรได้หันมาปลูกผลไม้เงาะ ลำไย เพิ่มขึ้น

ในตัวอำเภอเชียงของจะไม่มีโครงการขยายถนน โดยจะคงเอกลักษณ์ของชุมชนริมแม่น้ำโขง ที่มีร้านค้าที่เป็นอาคารไม้เจ้าของผู้มีเชื้อสายจีนเป็นสำคัญ รวมทั้งโครงการการสร้างหอแก้ว หอคำ พิพิธภัณฑ์ทางพุทธศาสนา ซึ่งท่าน ว.วชิรเมธี ได้รวบรวมเงินจากผู้มีจิตศรัทธา สร้างไว้ริมแม่น้ำโขง ซึ่งจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญในอนาคต

เพื่อเตรียมความพร้อมด้านภาษา โรงเรียนอนุบาลเชียงของได้ทำการเรียนการสอนด้านภาษาจีน อังกฤษ และภาษาลาว โดยมีครูเจ้าของภาษามาสอนให้ อีกทั้งจัดกิจกรรมเพื่อเรียนรู้วัฒนธรรมในกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน โรงเรียนได้เป็นศูนย์กลางทางภาษาโดยเปิดร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเปิดอบรมภาษาอังกฤษ ภาษาจีนให้พ่อค้า ประชาชนรวมทั้งผู้มีอาชีพขับรถรับจ้าง เพื่อเตรียมตัวรับนักท่องเที่ยว และการค้าขาย

เชียงของเป็นเมืองเล็ก ๆ ที่กำลังโตแบบก้าวกระโดด ปัญหาที่จะมาพร้อมความเจริญของเมืองที่ทางอำเภอได้วิเคราะห์ออกมาได้ อาทิปัญหาขยะ ปัญหาเรื่องของการเจ็บป่วย เมื่อมีนักท่องเที่ยวเข้ามา หากเกิดอุบัติเหตุฉุกเฉินสถานพยาบาลที่มีอยู่อย่างจำกัดจะรองรับไม่ได้ และปัญหาที่สำคัญคือการขายที่ดินภาคการเกษตรของชาวบ้าน เพราะตอนนี้มีนายทุนเริ่มเข้ามากว้านซื้อที่ทำกินของชาวบ้านเพื่อเก็งกำไรแล้ว ขณะเดียวกันพื้นที่ทำการเกษตรส่วนใหญ่เริ่มปลูกยางพารามากขึ้น และอีก 2 ปีจากนี้จะมีการสร้างโรงงานผลิตแผ่นยางพาราในพื้นที่

“ตอนนี้ราคาที่ดินค่อนข้างสูงมีนักลงทุนเข้ามา ให้ราคาไร่ละเป็น ล้าน เผลอ ๆ คนในท้องถิ่นอาจทำงานได้แค่เป็นยาม เพราะความรู้ไม่เท่าทันนายทุน” นายอำเภอเชียงของแสดงความเป็นห่วง

รองอธิบดีกรมการปกครอง กล่าวว่าการเปิดประชาคมอาเซียนในปี 2558 จะส่งผลกระทบทางอ้อมต่อความมั่นคงรูปแบบใหม่ เช่นปัญหายาเสพติด อาชญากรข้ามชาติ การลักลอบนำเข้าเคลื่อนย้ายสินค้าผิดกฎหมาย โดยกรมการปกครองจะจัดทำแผนแม่บทเตรียมความพร้อมในการรองรับประชาคมอาเซียนของฝ่ายปกครอง ซึ่งขณะนี้ได้จัดประชุมเชิงปฏิบัติการไปแล้ว และประเด็นหลักที่กระทบอย่างต่อเนื่อง ซึ่งต้อง
เตรียมการวางแผน ได้แก่ การบริการประชาชน งานทะเบียนราษฎร กิจการชายแดน ซึ่งภารกิจเหล่านี้ในอนาคตจะเน้นความทันสมัยมากขึ้นระบบเป็นมาตรฐานสากล การนำระบบอิเล็กทรอนิกส์มาปรับใช้ในทุกภารกิจของฝ่ายปกครอง

ภาคราชการเขตอำเภอชายแดนต้องเตรียมความพร้อมเปิดประชาคมอาเซียนมากกว่าพื้นทื่อื่น ๆ ตลอดจนประชาชนในพื้นที่ต้องปรับตัวและเรียนรู้ความแตกต่างทางวัฒนธรรมของผู้คนจาก 10 ประเทศที่จะหลั่งไหลเข้ามาในปี 2558.

พรประไพ เสือเขียว article@dailynews.co.th
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44867
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 29/07/2012 11:47 pm    Post subject: Reply with quote

ทุ่ม 1.5 พันล.เชียงของ คมนาคมผุดศูนย์โลจิสติกส์
วันศุกร์ที่ 27 กรกฏาคม 2012 เวลา 14:34 น. กอง บก.ฐานเศรษฐกิจ

คมนาคมวาดแผนผุดศูนย์กลางโลจิสติกส์แห่งภาคเหนือ เร่งสร้างศูนย์เปลี่ยนถ่ายรูปแบบการขนส่งสินค้าที่เชียงของ หวังเปลี่ยนประตูการขนส่งเป็นประตูการค้าและประตูเศรษฐกิจ สู่จีนและประเทศเพื่อนบ้าน รองรับการเกิดเออีซี ส่วนคิวต่อไปเล็งเปิดเพิ่มที่นครพนมเพื่อเชื่อมโยงสู่เวียดนาม ล่าสุดร่วมมือจีนเร่งเครื่องโครงข่ายงานก่อสร้างถนน สะพานข้ามโขงแห่งที่ 4 และท่าเรือพื้นที่ภาคเหนือเชื่อมโยงท่าเรือแหลมฉบังเพื่อลดต้นทุนโลจิสติกส์

Click on the image for full size

นายสมชัย ศิริวัฒนโชค อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า จากการที่รัฐบาลกำหนดเป้าหมายให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางธุรกิจและการค้าของภูมิภาคอินโดจีน โดยมีระบบโลจิสติกส์ที่สนับสนุนเพื่อไปสู่เป้าหมายดังกล่าว ในส่วนของกรมการขนส่งทางบกจะดำเนินโครงการศูนย์เปลี่ยนถ่ายรูปแบบการขนส่งสินค้า (Inter Modal Facilities) ที่บริเวณสะพานเชียงของ จังหวัดเชียงราย ใช้เนื้อที่ประมาณ 200 ไร่ งบประมาณการสร้างคาดว่าจะใช้ประมาณ 1,500 ล้านบาท(งบผูกพัน 3 ปี พ.ศ.2556-2558) เพื่อรองรับการขนส่งสินค้าจากประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ทางถนนจากประเทศจีนผ่านเส้นทาง R3A เข้าสู่ประเทศไทยทางสะพานเชียงของ จากนั้นสามารถเปลี่ยนมาใช้ระบบการขนส่งทางถนนภายในประเทศ หรือเปลี่ยนรูปแบบการขนส่งเป็นการขนส่งทางรถไฟ และการขนส่งทางเรือ ณ สถานที่ดังกล่าว เพื่อไปยังท่าเรือน้ำลึกแหลมฉบัง

ส่วนรูปแบบการดำเนินโครงการจะเป็นการร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน โดยภาครัฐมีหน้าที่ในการเวนคืนที่ดินมาพัฒนา ตลอดจนการสร้างสาธารณูปโภคและสิ่งก่อสร้างต่างๆ ภายในศูนย์เปลี่ยนถ่ายรูปแบบการขนส่ง รวมถึงสิทธิของการเป็นเจ้าของโครงการ ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2535 ในขณะที่ภาคเอกชนจะมีหน้าที่ในการจัดซื้อเครื่องมืออุปกรณ์ยกขน อุปกรณ์สำนักงานต่างๆ การจ้างแรงงาน การให้บริการที่มีคุณภาพได้มาตรฐานที่เป็นที่ยอมรับ และจ่ายค่าสัมปทานตามสัญญาตลอดอายุสัมปทานซึ่งกระทรวงการคลังจะเป็นผู้พิจารณาในเรื่องนี้อีกครั้ง

"ในการคัดเลือกผู้ที่ได้รับสัมปทานนั้นจะไม่ใช้วิธี Bidding มอบสิทธิแก่ผู้ที่เสนอผลประโยชน์หรือค่าสัมปทานให้แก่รัฐสูงสุด แต่จะใช้วิธี Tendering ซึ่งจะให้สัมปทานแก่ผู้ที่เสนอเงื่อนไขที่ดีที่สุดให้แก่ผู้ใช้บริการ เช่น การให้สัมปทานแก่ผู้ที่เสนอค่าบริการที่เก็บจากผู้ใช้บริการต่ำที่สุด และขณะเดียวกันต้องมีการให้บริการที่มีคุณภาพดีได้มาตรฐานเป็นที่ยอมรับ ภายใต้พันธะสัญญาในการชำระค่าสัมปทานรายปีตามที่กำหนดไว้"

นายสมชัยกล่าวว่า กรมการขนส่งทางบกได้เร่งจัดเตรียมกระบวนการเชิญชวนภาคเอกชนเข้ามาแข่งขันเพื่อเป็นผู้ประกอบการศูนย์เปลี่ยนถ่ายรูปแบบการขนส่ง ตามหลักเกณฑ์ของพระราชบัญญัติว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2535 โดยมีเป้าหมายว่าจะสามารถจัดหาผู้ประกอบการได้ภายในปี พ.ศ. 2561 แต่เนื่องจากยังเป็นของใหม่ในประเทศไทยคาดว่าจะมีผู้สนใจทั้งในและต่างประเทศร่วมมือกันเข้าร่วมยื่นข้อเสนอในครั้งนี้หลายรายแน่ๆ

"การพัฒนาศูนย์เปลี่ยนถ่ายรูปแบบการขนส่งสินค้าที่เชียงของจะทำให้ประตูการขนส่งกลายเป็นประตูการค้า และประตูเศรษฐกิจ ในอนาคต มีความสำคัญต่อการพัฒนาที่เกี่ยวเนื่อง เช่น การเกิดกิจกรรมการค้าและการลงทุนในบริเวณเชียงของไม่ใช่เพียงการขนส่งผ่านพื้นที่ อีกทั้งยังเป็นต้นแบบในการพัฒนาและบริหารโครงสร้างพื้นฐานด้านการค้าและการขนส่งเพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในประตูการขนส่งอื่นๆของประเทศโดยจะทำให้ประเทศไทยได้ประโยชน์จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการขนส่งทางถนนระหว่างประเทศ อีกทั้งยังเป็นการกระตุ้นให้ผู้ประกอบการขนส่งของไทยให้มีความกระตือรือร้นที่จะพัฒนาความรู้ความสามารถเพิ่มขึ้นจากการเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน"

นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวถึงความคืบหน้าโครงข่ายการสร้างถนน-สะพาน-ท่าเรือในพื้นที่ภาคเหนือว่า ขณะนี้ภาพรวมของการพัฒนาโครงข่ายคมนาคมทั้งถนนสาย R3 และถนนในไทย สะพานข้ามโขงแห่งที่ 4 หรือท่าเรือเชียงแสนแห่งที่ 2 มีความคืบหน้าไปมาก สามารถเชื่อมโยงกันได้มากขึ้น เพื่อให้เกิดการเชื่อมโยงการขนส่งสินค้าและผู้โดยสารไปสู่ท่าเรือแหลมฉบังและจุดต่างๆได้ง่ายและรวดเร็วขึ้น

"สะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 4 จะกำหนดเชื่อมช่วงกลางสะพานในวันที่ 12 ธันวาคมปีนี้ก่อนที่จะเร่งก่อสร้างจุดต่างๆให้แล้วเสร็จเพื่อเปิดให้บริการในเดือนธันวาคมปี 2556 ส่วนหลังจากนั้นจะตั้งคณะกรรมการร่วมไทย-สปป.ลาวบริหารจัดการดูแลบำรุงรักษาโดยใช้งบจากค่าข้ามของรถยนต์เช่นด่านอื่นต่อไป คาดว่าในเบื้องต้นจะมีรถยนต์ใช้บริการประมาณ 1,000 คันต่อวันโดยจะเป็นรถบรรทุกประมาณ 30%"

ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่านอกจากจะสร้างศูนย์เปลี่ยนถ่ายโหมดการขนส่งสินค้าที่เชียงของแล้ว ยังมีแผนจัดสร้างขึ้นที่นครพนมให้เชื่อมโยงกับสะพานข้ามแม่น้ำโขงที่เชื่อมไปสู่เวียดนามได้อีกด้วย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการสำรวจพื้นที่และศึกษาความเหมาะสมในระยะต่อไป

ร.ต.วิโรจน์ จงชาณสิทโธ ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย กล่าวเสริมว่าสำหรับท่าเรือเชียงแสน 2 และสะพานข้ามโขงแห่งที่ 4 นั้นถือได้ว่าเป็นประตูทางการค้าที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของไทย ต้องให้เชื่อมโยงตั้งแต่ต้นน้ำ-ปลายน้ำเพื่อลดต้นทุนโลจิสติกส์ของประเทศให้ได้

อย่างไรก็ตาม ท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 อยู่ระหว่างการเร่งสรุปผลศึกษาเรื่องผลกระทบสิ่งแวดล้อมหรืออีไอเอ เช่นเดียวกับการเร่งระบบรถไฟทางคู่เชื่อมโยงถึงภายในโดยตรง อีกทั้งยังเร่งจัดระเบียบเพื่อเตรียมความพร้อมรับมือการขนส่งสินค้าจากท่าเรือสำคัญ ๆ ที่เชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้านของไทย ไม่ว่าจะเป็นสินค้าจากท่าเรือน้ำลึกทวาย ประเทศพม่า และท่าเรือเชียงแสน 2 อำเภอเชียงแสน หรือสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 4 อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงรายที่เชื่อมโยงสปป.ลาวและจีนซึ่งเป็นการเตรียมพร้อมพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ให้สร้างรายได้เพิ่ม"

สำหรับเส้นทางเชื่อมโยงที่กระทรวงคมนาคมเร่งดำเนินการนั้นประกอบด้วยการเชื่อมโยงทางรถไฟเพื่อการขนส่งสินค้าและผู้โดยสารเริ่มจากเชียงของผ่านเด่นชัย อุตรดิตถ์ พิษณุโลก อยุธยา แก่งคอย มุ่งสู่ท่าเรือแหลมฉบังที่ปัจจุบันก่อสร้างรถไฟทางคู่รองรับไว้แล้ว สำหรับช่วงเด่นชัย-เชียงรายระยะทางประมาณ 326 กิโลเมตร คาดว่าจะใช้งบประมาณ 4หมื่นล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างการเร่งสรุปผลการศึกษาออกแบบ และช่วงที่จะมีการก่อสร้างรถไฟรางคู่ ช่วงฉะเชิงเทรา - คลองสิบเก้า(อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา) - แก่งคอย มูลค่า 11,348 ล้านบาท ระยะทาง 106 กิโลเมตรขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมนำเสนอครม.เห็นชอบให้ดำเนินการ ส่วนอีก 1 เส้นทางเริ่มจากอยุธยามุ่งสู่บางซื่อไปใช้เส้นทางสายใต้ผ่านนครปฐม มุ่งสู่ชะอำ ชุมพร หาดใหญ่ออกสู่ท่าเรือน้ำลึกปากบาราได้อีกด้วย

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 2,761 29 กรกฎาคม - 1 สิงหาคม พ.ศ. 2555
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44867
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 25/08/2012 6:03 am    Post subject: Reply with quote

ขนส่งอัดงบ 1.5 พันล.สร้างจุดถ่ายสินค้าสะพานข้ามโขงเชียงของ
เนชั่นทันข่าว 24 ส.ค. 55 13:20 น.

นายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการวางแผนการก่อสร้างศูนย์เปลี่ยนถ่ายสินค้า บริเวณเชิงสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 4 (เชียงของ - ห้วยทราย) ว่า ในขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการศึกษาพื้นที่ เพื่อทำการเวนคืนที่ดิน 280 ไร่ โดยแบ่งเป็นพื้นที่สปก.จำนวน 190ไร่ และพื้นที่ของชาวบ้าน จำนวน 90 ไร่ บริเวณเชิงสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 4 (เชียงของ -ห้วยทราย) เพื่อเป็นจุดเปลี่ยนถ่ายสินค้า โดยทางสนข.เป็นผู้ดำเนินการออกแบบและวางแผนเท่านั้น แต่ส่วนของการดำเนินการจะเป็นหน้าที่ของกรมการขนส่งทางบก ที่จะทำหน้าที่สำรวจและเวนคืนที่ดิน เนื่องจากอยู่ใกล้กับสะพาน และมีการเวนคืนที่ดินน้อยที่สุด โดยทาง สนข.เองไม่ต้องการให้ชาวบ้านในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อน หรือได้รับความเดือดร้อนน้อยที่สุด ซึ่งการเวนคืนที่ดินของชาวบ้านจำนวน 90 ไร่ จะมีผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนประมาณ 17 ราย ซึ่งทางกรมการขนส่งจะเป็นผู้ดำเนินการในการเก็บข้อมูลและทำตามขั้นตอนของการเวนคืนโดยขั้นตอนแรกคือเรื่องการจัดการกรรมสิทธิ์ในที่ดิน ก่อนดำเนินการตามขั้นตอนอื่นต่อไป เบื้องต้นได้มีการส่งเจ้าหน้าที่ไปสร้างความเข้าใจให้กับชาวบ้านแล้ว และเชื่อชาวบ้านจะเข้าใจถึงจุดประสงค์หลักของการเวนคืนที่ดิน

ส่วนการจ่ายค่าชดเชยนั้นทางกรมการขนส่งทางบก จะเป็นผู้ดำเนินการตามขั้นตอนและหลักเกณฑ์ ในการจ่ายค่าชดเชย ซึ่งเบื้องต้นได้มีการประมาณการในการจ่ายค่าชดเชยในการเวนคืนที่ดินจำนวน 90 ไร่ และค่าชดเชยให้กับชาวบ้านที่ใช้ที่ดินของสปก.ในการประกอบอาชีพ รวมกว่า 223 ล้านบาท แต่ในขณะนี้ทราบว่า ราคาที่ดินบริเวณรัศมีของการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 4 (เชียงของ -ห้วยทราย) มีการปรับราคาสูงขึ้น ซึ่งอาจส่งผลให้ราคาที่มีการประเมินในการชดเชยการเวนคืนปรับสูงขึ้นด้วย ทั้งนี้ในส่วนของงบประมาณในการจ่ายค่าชดเชยจะเป็นหน้าที่ของการกรมการขนส่งทางบก

นายจุฬา กล่าวต่อว่า ส่วนแผนในการก่อสร้างจุดเปลี่ยนถ่ายสินค้า คงต้องใช้เวลาอีกสักระยะหนึ่ง เนื่องจากจะต้องมีการทำการเวนคืนที่ดินให้แล้วเสร็จก่อนจึงจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างได้ และคาดว่าจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างได้ในปีงบประมาณของปี 2557 ซึ่งจะแล้วเสร็จช้าหลังจากมีการเปิดใช้สะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 4 ที่มีกำหนดจะแล้วเสร็จในกลางปี 2556 โดยเบื้องต้นจะให้ มีการใช้จุดเปลี่ยนถ่ายสินค้า ที่บริเวณด่านศุลกากรไปก่อน จนกว่าศูนย์เปลี่ยนถ่ายสินค้าจะแล้วเสร็จ เบื้องต้นคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2559 โดยงบประมาณที่จะใช้ในการก่อสร้างอยู่ที่ราว 1,520 ล้านบาท โดยเป็นงบของทางกรมการขนส่งทางบก

นอกจากนี้จุดเปลี่ยนถ่ายสินค้าที่จะใช้ในการเปลี่ยนถ่ายหัวรถบรรทุกและสินค้าแล้ว จุดนี้ยังสามารถเชื่อมต่อไปยังเส้นทางรถไฟ ในเส้นทางเด่นชัย -เชียงของ ซึ่งในขณะนี้ การรถไฟแห่งประเทศไทยได้เริ่มดำเนินการออกแบบ และศึกษาถึงขั้นตอนการดำเนินการว่าจะดำเนินการอย่างไร เนื่องจากเส้นทางมีความยาวกว่า 300 กิโลเมตร และเป็นภูเขา จึงต้องมีการศึกษาออกแบบค่อนข้างนาน และมีการประเมินค่าใช้จ่ายในการดำเนินการอยู่ที่ราว 30,000 ล้านบาท ซึ่งหากเส้นทางรถไฟสามารถดำเนินการก่อสร้างได้ ก็จะเป็นการเปลี่ยนถ่ายสินค้าไปยังภูมิภาคอื่นได้ง่าย เนื่องจากการขนส่งทางรถไฟใช้ต้นทุนในการขนส่งถูกที่สุด


เผยแพร่เมื่อ 20 ส.ค. 2012 โดย 0864048588


Last edited by Mongwin on 25/08/2012 6:45 pm; edited 1 time in total
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
nathapong
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/03/2006
Posts: 3515
Location: Ayuthaya - Lamlukka - Navanakhon - Silom

PostPosted: 25/08/2012 12:19 pm    Post subject: Reply with quote

^
น่าพัฒนา การขนส่งต่อเนื่อง และ เครื่องมือ / เครื่องจักร ระหว่างล้อยาง กับล้อเหล็ก ที่ลดการ อัพ แอนด์ ดาวน์ (Lift on / off ) และ เพิ่มขีดการขนส่งแบบ ประตูถึงประตู (Door to Door) และกฎระเบียบ ที่เป็นอุปสรรค อย่างเรื่องความสูงของเขตโครงสร้างรถบรรทุก กว่าจะผ่อนปรนหรือแก้ไขได้ ปาไปซะเกือบหกปี

แต่ที่ฮา ๆ คือผู้ปฎิบัติภาครัฐที่มักจะแกล้งไม่รู้ ระเบียบ หรือคำสั่ง ที่แก้ไขแล้วแต่ใช้อำนาจหน้าที่ จับกุมให้ผู้รับขนส่ง วุ่นวายไปเสียซะงั้น ... เฮ้อ

นอกจากนี้ ถ้าจะนำนวตกรรม (ใหม่บ้านเรา เก่าบ้านเขา) เกี่่ยวกับรถพ่วง โดยเฉพาะหางลาก กับแคร่ รถสินค้าที่ออกแบบมาใช้กับหางลากรถพ่วง ได้ออกมาใช้ อย่างน้อยการลดค่าใช้จ่าย ไปบ้างไม่มากก็น้อย

เรื่องที่เขียน ๆ บ่น ๆ มาข้างต้น เจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ทราบ แต่คนที่ทราบและเข้าใจ บ่ มีหน้าที่แล อำนาจที่จะผลักดันออกมา ให้เป็นรุปธรรม ซะงั้นแหละ
Back to top
View user's profile Send private message Send e-mail
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42789
Location: NECTEC

PostPosted: 10/03/2013 7:23 pm    Post subject: Reply with quote

ไปดูโฆษณาชนวนเชื่อของรัฐบาลว่าจะเร่งทำไฟสาย เด่นชัย - เชียงราย - ท่าเรือเชียงของ ระยะทาง 324 กิโลเมตรมูลค่า 77450 ล้านบาท ให้เสร็จในปี 2562
Back to top
View user's profile Send private message
black_express
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/03/2006
Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ

PostPosted: 10/03/2013 10:15 pm    Post subject: Reply with quote

ยังไม่ได้เวนคืน เหมืือนกับสายไปท่านุ่น

เพียงแต่เป็นแนวทางรถไฟเท่านั้น
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44867
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 20/03/2013 7:20 pm    Post subject: Reply with quote

โดยส่วนตัว ผมไม่ชอบเลย ที่บอกว่าโครงการสร้างทางรถไฟโน้นนี้ จะเสร็จภายในปี 25xx
อยากได้ยินว่า จะิเริ่มก่อสร้างภายในปี 25xx มากกว่าครับ
ดูมีหวังและน่าเชื่อถือกว่า Wink

----

กมธ.สวล.แนะทางออกการทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม โครงการระบบขนส่งทางราง
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 20 มีนาคม 2556 18:29 น.

ศูนย์ข่าวศรีราชา - คณะอนุ กมธ. สิ่งแวดล้อมและภัยธรรมชาติ วุฒิสภา และคณะอนุ กมธ. คมนาคมทางราง แนะหลักเกณฑ์การพิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม โครงการระบบขนส่งทางราง

วันนี้ (20 มี.ค.) นายสนธิ คชวัฒน์ เลขาฯ และอนุกรรมาธิการ (กมธ.) สิ่งแวดล้อมและภัยธรรมชาติ วุฒิสภา เปิดเผยว่า ตามที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) จ้างที่ปรึกษาจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) โครงการก่อสร้างทางรถไฟหลายเส้นทาง และทางรถไฟสายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ โดยมีงบประมาณก่อสร้างแล้ว แต่ยังไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากอีไอเอยังไม่ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงาน และคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ

จึงทำให้ประชาชนเสียโอกาสในการเดินทาง และงบประมาณที่ได้รับอนุมัติก็ต้องเลื่อนออกไป ดังนั้น คณะอนุ กมธ. สิ่งแวดล้อมและภัยธรรมชาติ วุฒิสภา จึงได้เชิญผู้แทนร.ฟ.ท. ผู้แทนสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) และผู้แทนสำนักงานนโยบายและแผนขนส่งและจราจร (สนข.) หารือกันโดยมีรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคม และรัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมประชุมด้วย เพื่อผลักดันให้เกิดความร่วมมือระหว่างกระทรวง หาทางออกให้แก่อีไอเอได้รับความเห็นชอบโดยเร็ว

โดยจะต้องให้เกิดผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมน้อยที่สุด รวมทั้งหามาตรการป้องกันและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน ให้อยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้ ซึ่งคณะอนุ กมธ.สิ่งแวดล้อมและภัยธรรมชาติ วุฒิสภา และคณะอนุ กมธ. คมนาคมทางราง มีข้อเสนอแนะ ดังต่อไปนี้ คือ

1.เนื่องจากมาตรา 47 แห่ง พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ 2535 กำหนดให้โครงการ หรือกิจกรรมซึ่งต้องจัดทำอีไอเอ ที่เป็นโครงการ หรือกิจการของส่วนราชการ หรือรัฐวิสาหกิจ หรือโครงการร่วมกับเอกชน ซึ่งต้องเสนอขอรับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีตามระเบียบของทางราชการ ให้ส่วนราชการ หรือรัฐวิสาหกิจ ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบโครงการ หรือกิจการนั้นจัดทำอีไอเอเพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี

ซึ่งจากมาตรา 47 คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ได้ตั้งคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณาอีไอเอโครงการของรัฐ และรัฐวิสาหกิจ โครงการร่วมกับเอกชนขึ้นมาพิจารณา เพื่อให้ความเห็นประกอบการพิจารณาของคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ โดยมีเจ้าหน้าที่ สผ.เป็นฝ่ายเลขานุการ ในการกลั่นกรองความเห็นเบื้องต้นต่อคณะกรรมการผู้ชำนาญการ ดังนั้น เพื่อให้เกิดความร่วมมือในการทำงาน จึงควรมีการประสานงานเบื้องต้นระหว่าง ร.ฟ.ท. และ สผ.ตั้งแต่เริ่มโครงการ (Streamline Process) ดังนี้

1.1 ในการกำหนดขอบเขตการศึกษาโครงการ (TOR Terms of Reference) ของ ร.ฟ.ท.เพื่อทำการจัดจ้างที่ปรึกษา ควรใช้แนวทางการจัดทำอีไอเอของ สผ.เป็นเกณฑ์ และจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นจากนักวิชาการ (Technical Hearing) ซึ่งควรเชิญหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณาอีไอเอ สผ. และผู้ทรงคุณวุฒิ มาร่วมหารือร่วมกัน เพื่อเพิ่มเติมให้ขอบเขตการศึกษามีความสมบูรณ์มากขึ้น ซึ่งจะได้ขอบเขตการศึกษาโครงการที่สมบูรณ์นำไปสู่การว่าจ้างที่ปรึกษาต่อไป

1.2 เมื่อทำการจัดจ้างที่ปรึกษาแล้ว ควรมีการแต่งตั้งคณะกรรมการกำกับการศึกษา โดยให้ประธานคณะกรรมการผู้ชำนาญการในการพิจารณารายงานด้านคมนาคม หรือผู้แทนเข้าร่วมเป็นคณะกรรมการกำกับการศึกษาด้วย เพื่อมอบหมายให้ที่ปรึกษาทำการศึกษาตามความเห็นของคณะกรรมการผู้ชำนาญการตั้งแต่เบื้องต้น ซึ่งจะทำให้ประเด็น หรือหัวข้อที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบสิ่งแวดล้อมได้รับการศึกษาอย่างครบถ้วน จะทำให้ง่ายต่อการพิจารณาของคณะกรรมการชำนาญการ เมื่อมีการเสนออีไอเอต่อ สผ.

1.3 เนื่องจากโครงการของรัฐ รัฐวิสาหกิจ และโครงการเอกชนที่ต้องเสนอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีไม่มีการกำหนดเวลาในการพิจารณารายงานอีไอเอ หากดำเนินตามข้อ 1.1 และ 1.2 แล้ว ขอให้ สผ.ควรพิจารณาออกระเบียบเพื่อกำหนดเวลาในการพิจารณาโครงการดังกล่าวให้เท่ากับโครงการเอกชน คือ พิจารณาครั้งแรกภายใน 45 วัน พิจารณาครั้งที่สอง ภายในเวลา 30 วัน และนำเสนอต่อคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติต่อไป

1.4 ร.ฟ.ท.ควรกำหนดเวลาให้แก่ที่ปรึกษาในการแก้ไข หรือปรับปรุงอีไอเอไว้ในสัญญาให้ชัดเจน เพื่อป้องกันไม่ให้ที่ปรึกษาใช้เวลานานเกินไปในการทำการศึกษา

2.เนื่องจากโครงการด้านคมนาคมทางบกของ ร.ฟ.ท. มีหลายโครงการที่ต้องเวนคืนที่ดิน และตัดผ่านป่าสงวนแห่งชาติ หรือพื้นที่ลุ่มน้ำ หรือผ่านพื้นที่ที่ห้ามล่าสัตว์ป่า เป็นต้น ดังนั้น จึงต้องขออนุญาตจากกรมป่าไม้ หรือกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ในการเข้าไปสำรวจ หรือทำการศึกษา ซึ่งการขออนุญาตดังกล่าวบางครั้งใช้เวลาค่อนข้างนาน และเมื่อทำการศึกษาแล้วต้องขออนุมัติใช้พื้นที่ก่อสร้างด้วย ดังนั้น เพื่อให้เกิดความร่วมมือระหว่างกระทรวงคมนาคม และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

และเพื่อให้ได้ข้อสรุปในการก่อสร้างทางรถไฟผ่านพื้นที่อ่อนไหวต่อการได้รับผลกระทบสิ่งแวดล้อมดังกล่าวโดยเร็ว จึงเห็นควรจัดตั้งคณะกรรมการประสานการจัดการสิ่งแวดล้อมด้านคมนาคม ระหว่างกระทรวงคมนาคม และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อพิจารณาร่วมกันถึงรูปแบบของโครงสร้างทางรถไฟ แนวเส้นทาง ตลอดจนการขอใช้พื้นที่อนุรักษ์ตั้งแต่เบื้องต้น ซึ่งจะทำให้โครงการดังกล่าวใช้เวลาในการพิจารณาอีไอเอน้อยลง และผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีเร็วขึ้น

3.เนื่องจากที่ผ่านมา การจัดทำอีไอเอใช้เวลาค่อนข้างนาน จึงขอให้ ร.ฟ.ท.และ สนข. กำกับดูแลบริษัทที่ปรึกษาอย่างเข้มงวด ตั้งแต่การเลือกที่ปรึกษาด้านสิ่งแวดล้อม ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางสำหรับงานการศึกษาด้านคมนาคมขนส่งทางราง และเจ้าหน้าที่ควรเอาใจใส่ในการตอบข้อเสนอแนะของคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณาอีไอเอ เพื่อทำให้ผ่านความเห็นชอบได้เร็วขึ้นด้วย

4.เนื่องจากโครงการก่อสร้างทางรถไฟสายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ มีคาวมจำเป็นและเป็นนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลในการขยายความเจริญไปยังภาคเหนือตอนบน เพื่อรองรับการขนส่งสินค้า และการท่องเที่ยวระหว่างประเทศไทย และประเทศจีน ตลอดจนกลุ่มประเทศในอาเซียน ดังนั้น จึงควรให้ ร.ฟ.ท. และ สผ. ประสานความร่วมมือข้างต้น เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด และดำเนินโครงการได้โดยเร็วต่อไป
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42789
Location: NECTEC

PostPosted: 27/03/2013 12:29 pm    Post subject: Reply with quote

โผบัญชีรายชื่อทางรถไฟสาย เด่นชัย - เชียงราย - เชียงแสน

0 Denchai (เด่นชัย) - Major station - km 533 + 532 - แทนอาคารสถานีเด่นชัยเดิม
1 Soong Men (สูงเม่น) - Minor station - km 547 + 750
2 Phrae (แพร่) - Major station - km 560 + 500
3 Mae Kham Mee (แม่คำมี) -a minor station - dropping point for Nong Muang Khai - km 572 + 250
4 Nong Siaw (หนองเสี้ยว) - stopping place - km 584 + 200
5 Song (สอง) - minor station - km 590 + 900

Passing through 1100-meter long Ban Klang tunnel in Song district of Phrae (km 606+200 - km 607+300)
and 6300-meter Mae Teeb tunnel in Ngao district of Lampang (km 609+100 - km 615+400)

6 Mae Teeb (แม่ตีบ) - stopping place - km 617 + 925
7 Ngao (งาว) - minor station - km 636 + 975
8 Pong Tao (ปงเตา) - stopping place - km 642 + 300
passing the 2800-meter Mae Ka tunnel in Mueang District (km 663+400 - km 666+200)

9 Phayao University - (มหาวิทยาลัยพะเยา) minor station - km 670 + 700
10 Ban Thok Kwak - (บ้านโทกหวาก) stopping place - km 677 + 600
11 Phayao station (พะเยา) - major station - km 683 + 600
12 Dong Jen (ดงเจน) - stopping place - km 689 + 800
13 Ban Raung (บ้านร้อง) - stopping place - km 696 + 600
14 Ban Mai (บ้านใหม่) - stopping place - km 709 + 900
15 Pa Daed (ป่าแดด) - minor station - km 724 + 500
16 Pa Ngae (ป่าแงะ) - stopping place - km 732 + 715
17 Ban Pong Kluea (บ้านโป่งเกลือ) - stopping place - km 743 + 025
18 San Pa Heang (สันป่าเหียง) - stopping place - km 756 + 600
19 Chiang Rai (เชียงราย) - Major station - km 771 + 800
20 Thung Kor (ทุ่งก่อ) - stopping placs - km 785 + 500
21 Wiang Chiang Rung (เวียงเชียงรุ้ง) - minor station - km 796 + 425
22 Ban Pa Sang junction (ชุมทางบ้านป่าซาง) - minor station - km 756 + 600

passing the 3400-meter Doi Luang tunnel in Chiang Saen district of Chiang Rai (km 816+600 - km 820+000)

23 Bang Kiang (บ้านเกี๋ยง) - stopping place - km 829 + 300
24 Sri Don Chai (ศรีดอนชัย) - Stopping place - km 839 + 300
25 Chiang Khong (เชียงของ) - near the foot of the 4th Friendship Brdige - Minor station (km 852 + 750)
Branch line to Chiang Saen
Chiang Saen (เชียงแสน) - EOL of branch line - 24.252 km from Ban Pa Sang junction => km 780 + 852

http://denchai-chiangrairailway.com/PDF/paper_M2.pdf

http://denchai-chiangrairailway.com/route.html

http://denchai-chiangrairailway.com/PDF/Brochure@M02.pdf
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44867
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 27/03/2013 3:34 pm    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
โผบัญชีรายชื่อทางรถไฟสาย เด่นชัย - เชียงราย - เชียงแสน

0 Denchai (เด่นชัย) - Major station - km 533 + 532 - แทนอาคารสถานีเด่นชัยเดิม

ต้องย้ายสถานีลงมาทางใต้ 400 เมตร เพื่อสร้างทางแยกขึ้นไปเชียงรายนะครับ
ต่อไปย่านเด่นชัยเดิมก็จะกลายเป็นย่านเก่า แบบเดียวกับสถานีเพชรบุรีเดิม

แต่แปลกตรงดูในแผนที่ประกอบที่นี่
http://denchai-chiangrairailway.com/route.html
ทางแยกอยู่ทางด้านเหนือของย่าน ไม่เห็นต้องสร้างสถานีใหม่เลยครับ
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 18, 19, 20 ... 77, 78, 79  Next
Page 19 of 79

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©