View previous topic :: View next topic
Author
Message
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44867
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 13/07/2012 12:59 pm Post subject:
กาจพล หวังทางรถไฟ ฯ เชื่อม บ้านฮวก _เล็งรับกับ R3A-ประชาคมอาเซียน
นสพ.ภาคเหนือรายวัน 12/7/2555 14:42:00
วันที่ 12 กรกฎาคม 2555 นายกาจพล เอิบสุขสิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา กล่าวว่า จากการที่ราชการโดยการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) มีนโยบายจะดำเนินการก่อสร้างทางรถไฟสายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ระยะทาง 273 กิโลเมตร มูลค่าประมาณ 60,000 ล้านบาท นั้น พบว่าเส้นทางรถไฟจะผ่านจังหวัดพะเยา ในท้องที่ อ.เมือง อ.ภูกามยาว จ.พะเยา หากสามารถก่อสร้างได้จริงตามแผนของ รฟท. ถือเป็นโอกาสดีของชาวพะเยาที่จะได้ใช้ประโยชน์จากเส้นทางรถไฟสายดังกล่าว
โดยเฉพาะเป็นช่องทางการเชื่อมโครงข่ายถนนทางหลวงกับเส้นทางรถไฟให้เกิดประโยชน์ด้านการคมนาคม ขนส่ง ทั้งคนและสินค้าประเภทต่าง ๆ ไปยังพื้นที่อื่น ๆ ง่ายขึ้น ช่วยลดทั้งต้นทุนการขนส่ง ความรวดเร็วและความปลอดภัยก็มีมากกว่าเส้นประเภทอื่น
รอง ผวจ.พะเยา กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ตนยังมองเชื่อมไปถึงด่านบ้านฮวก ที่เป็นช่องทางเปิดไปสู่ประเทศในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง ได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้เส้นทางโครงข่ายถนนทางหลวงแผ่นดิน ทางหลวงชนบท ที่กำลังมีแผนจะก่อสร้างในพื้นที่ จ.พะเยา มุ่งเน้นให้รองรับกับถนนอาร์สามเอ(R3A) ที่จะมาจากประเทศจีน ผ่าน สปป.ลาว และเข้ามาทางตอนเหนือของไทย ทั้งถนน R3A ด่านบ้านฮวก สามารถเชื่อมระบบขนส่งกับทางรถไฟได้อย่างลงตัว ซึ่งเมื่อทั้งคนและของถูกลำเลียงขนส่งมาทางถนนแล้ว จะลำเลียงขนส่งต่อไปด้วยรถไฟทำให้เกิดความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย
ผมมองไปไกลกว่านั้นอีก คือ ปี 2558 ประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จำนวน 10 ประเทศ จะเปิดตัวร่วมกันเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน เมื่อจังหวัดพะเยา มีทั้งทางรถไฟ ถนน ที่สะดวกก่อให้เกิดความรวดเร็วด้านคมนาคม ขนส่ง จึงเป็นโอกาสและผลดีมหาศาลต่อชาวพะเยา ได้มีทางเลือกการใช้ช่องทางด้านการขนส่งให้เหมาะสมกับสถานการณ์ต่าง ๆ มากขึ้น ทั้งการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของจังหวัดพะเยาจะขยายตัวยิ่งขึ้นไปอีก เพราะสามารถเชื่อมต่อไปได้ทุกทิศทาง นายกาจพล กล่าว
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44867
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 24/07/2012 8:23 am Post subject:
"อ.เชียงของ" พร้อมเปิดเสรีอาเซียนปี 58
เดลินิวส์ วันอังคารที่ 24 กรกฎาคม 2555
สิ้นเดือนธันวาคมปี 2555 สะพานข้ามแม่น้ำโขง-ตามแนวเศรษฐกิจเหนือ-ใต้ (ห้วยทราย-เชียงของ) หรือโครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพแห่งที่ 4 อ.เชียงของ จ.เชียงราย จะแล้วเสร็จ (ไทยและจีนร่วมกันก่อสร้าง มูลค่าการก่อสร้าง 44.81 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ความยาวรวม 630 เมตร) สะพานแห่งนี้ข้ามไปสู่แขวงบ่อแก้วของลาวที่เชื่อมเข้าเส้นทางหมายเลข 3A (R3A) ถนนที่เชื่อมระหว่างจีน-ลาว-ไทย (เปิดใช้เมื่อปี 2551 ภายใต้โครงการสี่เหลี่ยมเศรษฐกิจ) ถนนเส้นนี้มีต้นทางเริ่มจากเชียงของ ประเทศไทย-บ่อแก้ว-หลวงน้ำทา-บ่อเต็น ประเทศลาว แล้วเชื่อมไปยัง-บ่อหาน-เชียงรุ่งหรือจิ่งหง ในแคว้นสิบสองปันนา สิ้นสุดที่นครคุนหมิงมณฑลยูนนาน ในประเทศจีน โดยมีระยะทางจากกรุงเทพฯถึงคุนหมิง 1,800 กม.
ในฐานะที่ อ.เชียงของ เป็นเมืองหน้าด่านหลักที่จะรองรับการเดินทางท่องเที่ยว การค้าขายที่การขนส่งสินค้าด้วยระบบถนนผ่านจุดเชื่อมคือสะพานดังกล่าว อำเภอเล็ก ๆ ที่เคยเป็นแดนสงบเงียบริมน้ำโขง กำลังเกิดกระแส การลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ รีสอร์ท โรงแรม การพัฒนาระบบสาธารณูปโภคขนาดใหญ่ อาทิ โครงการสร้างถนนสี่เลนจาก อ.เชียงของ สู่ตัวเมืองเชียงราย และขยายเส้นทางรถไฟเพื่อรองรับการขนส่งสินค้าจากประเทศจีนตอนใต้มาสู่ประเทศไทย (สถานีเด่นชัย-เชียงของ คาดว่าจะแล้วเสร็จอีก 3 ปี) เตรียมความพร้อมสู่การเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี พ.ศ. 2558
ยุทธศาสตร์ อ.เชียงของ ในบทบาทภาครัฐที่ต้องเตรียมรับมือ การเปิดเสรีอาเซียนปี 2558 นายสรธร สันทัด นายอำเภอเชียงของ เปิดเผยถึงยุทธศาสตร์ภายใต้การดำเนินงานให้แก่ นายอภิชาติ เทียวพานิช รองอธิบดีกรมการปกครอง ระหว่างตรวจราชการ ว่าอำเภอเชียงของ เน้นทำงานใน 3 เสาหลัก ได้แก่ 1. สังคมและวัฒนธรรม 2. เศรษฐกิจ 3. ความมั่นคง ด้านวัฒนธรรมนั้นจะพัฒนาเชียงของให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม เป็นจุดศูนย์กลางการท่องเที่ยว 3 ประเทศ คือ พม่า ลาว จีน เพราะจากเชียงของไป อ.แม่สายที่เชื่อมไปพม่า มีระยะทางเพียง 100 กม. ตั้งเป้าว่าเมื่อสะพานแล้วเสร็จจะไม่ให้เชียงของเป็นแค่ทางผ่าน ต้องสร้างจุดท่องเที่ยวเพื่อให้การจับจ่ายใช้สอยในเชียงของ โดยได้ตั้งงบประมาณ 20 ล้านบาท พัฒนาแหล่งท่องเที่ยว ในเบื้องต้นได้ก่อสร้างสวนดอกไม้เมืองหนาว บริเวณจุดชมวิวห้วยทราย และแหล่งท่องเที่ยวชมสวนผลไม้ ปัจจุบันเชียงของเกษตรกรได้หันมาปลูกผลไม้เงาะ ลำไย เพิ่มขึ้น
ในตัวอำเภอเชียงของจะไม่มีโครงการขยายถนน โดยจะคงเอกลักษณ์ของชุมชนริมแม่น้ำโขง ที่มีร้านค้าที่เป็นอาคารไม้เจ้าของผู้มีเชื้อสายจีนเป็นสำคัญ รวมทั้งโครงการการสร้างหอแก้ว หอคำ พิพิธภัณฑ์ทางพุทธศาสนา ซึ่งท่าน ว.วชิรเมธี ได้รวบรวมเงินจากผู้มีจิตศรัทธา สร้างไว้ริมแม่น้ำโขง ซึ่งจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญในอนาคต
เพื่อเตรียมความพร้อมด้านภาษา โรงเรียนอนุบาลเชียงของได้ทำการเรียนการสอนด้านภาษาจีน อังกฤษ และภาษาลาว โดยมีครูเจ้าของภาษามาสอนให้ อีกทั้งจัดกิจกรรมเพื่อเรียนรู้วัฒนธรรมในกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน โรงเรียนได้เป็นศูนย์กลางทางภาษาโดยเปิดร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเปิดอบรมภาษาอังกฤษ ภาษาจีนให้พ่อค้า ประชาชนรวมทั้งผู้มีอาชีพขับรถรับจ้าง เพื่อเตรียมตัวรับนักท่องเที่ยว และการค้าขาย
เชียงของเป็นเมืองเล็ก ๆ ที่กำลังโตแบบก้าวกระโดด ปัญหาที่จะมาพร้อมความเจริญของเมืองที่ทางอำเภอได้วิเคราะห์ออกมาได้ อาทิปัญหาขยะ ปัญหาเรื่องของการเจ็บป่วย เมื่อมีนักท่องเที่ยวเข้ามา หากเกิดอุบัติเหตุฉุกเฉินสถานพยาบาลที่มีอยู่อย่างจำกัดจะรองรับไม่ได้ และปัญหาที่สำคัญคือการขายที่ดินภาคการเกษตรของชาวบ้าน เพราะตอนนี้มีนายทุนเริ่มเข้ามากว้านซื้อที่ทำกินของชาวบ้านเพื่อเก็งกำไรแล้ว ขณะเดียวกันพื้นที่ทำการเกษตรส่วนใหญ่เริ่มปลูกยางพารามากขึ้น และอีก 2 ปีจากนี้จะมีการสร้างโรงงานผลิตแผ่นยางพาราในพื้นที่
ตอนนี้ราคาที่ดินค่อนข้างสูงมีนักลงทุนเข้ามา ให้ราคาไร่ละเป็น ล้าน เผลอ ๆ คนในท้องถิ่นอาจทำงานได้แค่เป็นยาม เพราะความรู้ไม่เท่าทันนายทุน นายอำเภอเชียงของแสดงความเป็นห่วง
รองอธิบดีกรมการปกครอง กล่าวว่าการเปิดประชาคมอาเซียนในปี 2558 จะส่งผลกระทบทางอ้อมต่อความมั่นคงรูปแบบใหม่ เช่นปัญหายาเสพติด อาชญากรข้ามชาติ การลักลอบนำเข้าเคลื่อนย้ายสินค้าผิดกฎหมาย โดยกรมการปกครองจะจัดทำแผนแม่บทเตรียมความพร้อมในการรองรับประชาคมอาเซียนของฝ่ายปกครอง ซึ่งขณะนี้ได้จัดประชุมเชิงปฏิบัติการไปแล้ว และประเด็นหลักที่กระทบอย่างต่อเนื่อง ซึ่งต้อง
เตรียมการวางแผน ได้แก่ การบริการประชาชน งานทะเบียนราษฎร กิจการชายแดน ซึ่งภารกิจเหล่านี้ในอนาคตจะเน้นความทันสมัยมากขึ้นระบบเป็นมาตรฐานสากล การนำระบบอิเล็กทรอนิกส์มาปรับใช้ในทุกภารกิจของฝ่ายปกครอง
ภาคราชการเขตอำเภอชายแดนต้องเตรียมความพร้อมเปิดประชาคมอาเซียนมากกว่าพื้นทื่อื่น ๆ ตลอดจนประชาชนในพื้นที่ต้องปรับตัวและเรียนรู้ความแตกต่างทางวัฒนธรรมของผู้คนจาก 10 ประเทศที่จะหลั่งไหลเข้ามาในปี 2558.
พรประไพ เสือเขียว article@dailynews.co.th
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44867
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 29/07/2012 11:47 pm Post subject:
ทุ่ม 1.5 พันล.เชียงของ คมนาคมผุดศูนย์โลจิสติกส์
วันศุกร์ที่ 27 กรกฏาคม 2012 เวลา 14:34 น. กอง บก.ฐานเศรษฐกิจ
คมนาคมวาดแผนผุดศูนย์กลางโลจิสติกส์แห่งภาคเหนือ เร่งสร้างศูนย์เปลี่ยนถ่ายรูปแบบการขนส่งสินค้าที่เชียงของ หวังเปลี่ยนประตูการขนส่งเป็นประตูการค้าและประตูเศรษฐกิจ สู่จีนและประเทศเพื่อนบ้าน รองรับการเกิดเออีซี ส่วนคิวต่อไปเล็งเปิดเพิ่มที่นครพนมเพื่อเชื่อมโยงสู่เวียดนาม ล่าสุดร่วมมือจีนเร่งเครื่องโครงข่ายงานก่อสร้างถนน สะพานข้ามโขงแห่งที่ 4 และท่าเรือพื้นที่ภาคเหนือเชื่อมโยงท่าเรือแหลมฉบังเพื่อลดต้นทุนโลจิสติกส์
นายสมชัย ศิริวัฒนโชค อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า จากการที่รัฐบาลกำหนดเป้าหมายให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางธุรกิจและการค้าของภูมิภาคอินโดจีน โดยมีระบบโลจิสติกส์ที่สนับสนุนเพื่อไปสู่เป้าหมายดังกล่าว ในส่วนของกรมการขนส่งทางบกจะดำเนินโครงการศูนย์เปลี่ยนถ่ายรูปแบบการขนส่งสินค้า (Inter Modal Facilities) ที่บริเวณสะพานเชียงของ จังหวัดเชียงราย ใช้เนื้อที่ประมาณ 200 ไร่ งบประมาณการสร้างคาดว่าจะใช้ประมาณ 1,500 ล้านบาท(งบผูกพัน 3 ปี พ.ศ.2556-2558) เพื่อรองรับการขนส่งสินค้าจากประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ทางถนนจากประเทศจีนผ่านเส้นทาง R3A เข้าสู่ประเทศไทยทางสะพานเชียงของ จากนั้นสามารถเปลี่ยนมาใช้ระบบการขนส่งทางถนนภายในประเทศ หรือเปลี่ยนรูปแบบการขนส่งเป็นการขนส่งทางรถไฟ และการขนส่งทางเรือ ณ สถานที่ดังกล่าว เพื่อไปยังท่าเรือน้ำลึกแหลมฉบัง
ส่วนรูปแบบการดำเนินโครงการจะเป็นการร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน โดยภาครัฐมีหน้าที่ในการเวนคืนที่ดินมาพัฒนา ตลอดจนการสร้างสาธารณูปโภคและสิ่งก่อสร้างต่างๆ ภายในศูนย์เปลี่ยนถ่ายรูปแบบการขนส่ง รวมถึงสิทธิของการเป็นเจ้าของโครงการ ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2535 ในขณะที่ภาคเอกชนจะมีหน้าที่ในการจัดซื้อเครื่องมืออุปกรณ์ยกขน อุปกรณ์สำนักงานต่างๆ การจ้างแรงงาน การให้บริการที่มีคุณภาพได้มาตรฐานที่เป็นที่ยอมรับ และจ่ายค่าสัมปทานตามสัญญาตลอดอายุสัมปทานซึ่งกระทรวงการคลังจะเป็นผู้พิจารณาในเรื่องนี้อีกครั้ง
"ในการคัดเลือกผู้ที่ได้รับสัมปทานนั้นจะไม่ใช้วิธี Bidding มอบสิทธิแก่ผู้ที่เสนอผลประโยชน์หรือค่าสัมปทานให้แก่รัฐสูงสุด แต่จะใช้วิธี Tendering ซึ่งจะให้สัมปทานแก่ผู้ที่เสนอเงื่อนไขที่ดีที่สุดให้แก่ผู้ใช้บริการ เช่น การให้สัมปทานแก่ผู้ที่เสนอค่าบริการที่เก็บจากผู้ใช้บริการต่ำที่สุด และขณะเดียวกันต้องมีการให้บริการที่มีคุณภาพดีได้มาตรฐานเป็นที่ยอมรับ ภายใต้พันธะสัญญาในการชำระค่าสัมปทานรายปีตามที่กำหนดไว้"
นายสมชัยกล่าวว่า กรมการขนส่งทางบกได้เร่งจัดเตรียมกระบวนการเชิญชวนภาคเอกชนเข้ามาแข่งขันเพื่อเป็นผู้ประกอบการศูนย์เปลี่ยนถ่ายรูปแบบการขนส่ง ตามหลักเกณฑ์ของพระราชบัญญัติว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2535 โดยมีเป้าหมายว่าจะสามารถจัดหาผู้ประกอบการได้ภายในปี พ.ศ. 2561 แต่เนื่องจากยังเป็นของใหม่ในประเทศไทยคาดว่าจะมีผู้สนใจทั้งในและต่างประเทศร่วมมือกันเข้าร่วมยื่นข้อเสนอในครั้งนี้หลายรายแน่ๆ
"การพัฒนาศูนย์เปลี่ยนถ่ายรูปแบบการขนส่งสินค้าที่เชียงของจะทำให้ประตูการขนส่งกลายเป็นประตูการค้า และประตูเศรษฐกิจ ในอนาคต มีความสำคัญต่อการพัฒนาที่เกี่ยวเนื่อง เช่น การเกิดกิจกรรมการค้าและการลงทุนในบริเวณเชียงของไม่ใช่เพียงการขนส่งผ่านพื้นที่ อีกทั้งยังเป็นต้นแบบในการพัฒนาและบริหารโครงสร้างพื้นฐานด้านการค้าและการขนส่งเพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในประตูการขนส่งอื่นๆของประเทศโดยจะทำให้ประเทศไทยได้ประโยชน์จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการขนส่งทางถนนระหว่างประเทศ อีกทั้งยังเป็นการกระตุ้นให้ผู้ประกอบการขนส่งของไทยให้มีความกระตือรือร้นที่จะพัฒนาความรู้ความสามารถเพิ่มขึ้นจากการเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน"
นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวถึงความคืบหน้าโครงข่ายการสร้างถนน-สะพาน-ท่าเรือในพื้นที่ภาคเหนือว่า ขณะนี้ภาพรวมของการพัฒนาโครงข่ายคมนาคมทั้งถนนสาย R3 และถนนในไทย สะพานข้ามโขงแห่งที่ 4 หรือท่าเรือเชียงแสนแห่งที่ 2 มีความคืบหน้าไปมาก สามารถเชื่อมโยงกันได้มากขึ้น เพื่อให้เกิดการเชื่อมโยงการขนส่งสินค้าและผู้โดยสารไปสู่ท่าเรือแหลมฉบังและจุดต่างๆได้ง่ายและรวดเร็วขึ้น
"สะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 4 จะกำหนดเชื่อมช่วงกลางสะพานในวันที่ 12 ธันวาคมปีนี้ก่อนที่จะเร่งก่อสร้างจุดต่างๆให้แล้วเสร็จเพื่อเปิดให้บริการในเดือนธันวาคมปี 2556 ส่วนหลังจากนั้นจะตั้งคณะกรรมการร่วมไทย-สปป.ลาวบริหารจัดการดูแลบำรุงรักษาโดยใช้งบจากค่าข้ามของรถยนต์เช่นด่านอื่นต่อไป คาดว่าในเบื้องต้นจะมีรถยนต์ใช้บริการประมาณ 1,000 คันต่อวันโดยจะเป็นรถบรรทุกประมาณ 30%"
ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่านอกจากจะสร้างศูนย์เปลี่ยนถ่ายโหมดการขนส่งสินค้าที่เชียงของแล้ว ยังมีแผนจัดสร้างขึ้นที่นครพนมให้เชื่อมโยงกับสะพานข้ามแม่น้ำโขงที่เชื่อมไปสู่เวียดนามได้อีกด้วย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการสำรวจพื้นที่และศึกษาความเหมาะสมในระยะต่อไป
ร.ต.วิโรจน์ จงชาณสิทโธ ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย กล่าวเสริมว่าสำหรับท่าเรือเชียงแสน 2 และสะพานข้ามโขงแห่งที่ 4 นั้นถือได้ว่าเป็นประตูทางการค้าที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของไทย ต้องให้เชื่อมโยงตั้งแต่ต้นน้ำ-ปลายน้ำเพื่อลดต้นทุนโลจิสติกส์ของประเทศให้ได้
อย่างไรก็ตาม ท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 อยู่ระหว่างการเร่งสรุปผลศึกษาเรื่องผลกระทบสิ่งแวดล้อมหรืออีไอเอ เช่นเดียวกับการเร่งระบบรถไฟทางคู่เชื่อมโยงถึงภายในโดยตรง อีกทั้งยังเร่งจัดระเบียบเพื่อเตรียมความพร้อมรับมือการขนส่งสินค้าจากท่าเรือสำคัญ ๆ ที่เชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้านของไทย ไม่ว่าจะเป็นสินค้าจากท่าเรือน้ำลึกทวาย ประเทศพม่า และท่าเรือเชียงแสน 2 อำเภอเชียงแสน หรือสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 4 อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงรายที่เชื่อมโยงสปป.ลาวและจีนซึ่งเป็นการเตรียมพร้อมพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ให้สร้างรายได้เพิ่ม"
สำหรับเส้นทางเชื่อมโยงที่กระทรวงคมนาคมเร่งดำเนินการนั้นประกอบด้วยการเชื่อมโยงทางรถไฟเพื่อการขนส่งสินค้าและผู้โดยสารเริ่มจากเชียงของผ่านเด่นชัย อุตรดิตถ์ พิษณุโลก อยุธยา แก่งคอย มุ่งสู่ท่าเรือแหลมฉบังที่ปัจจุบันก่อสร้างรถไฟทางคู่รองรับไว้แล้ว สำหรับช่วงเด่นชัย-เชียงรายระยะทางประมาณ 326 กิโลเมตร คาดว่าจะใช้งบประมาณ 4หมื่นล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างการเร่งสรุปผลการศึกษาออกแบบ และช่วงที่จะมีการก่อสร้างรถไฟรางคู่ ช่วงฉะเชิงเทรา - คลองสิบเก้า(อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา) - แก่งคอย มูลค่า 11,348 ล้านบาท ระยะทาง 106 กิโลเมตรขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมนำเสนอครม.เห็นชอบให้ดำเนินการ ส่วนอีก 1 เส้นทางเริ่มจากอยุธยามุ่งสู่บางซื่อไปใช้เส้นทางสายใต้ผ่านนครปฐม มุ่งสู่ชะอำ ชุมพร หาดใหญ่ออกสู่ท่าเรือน้ำลึกปากบาราได้อีกด้วย
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 2,761 29 กรกฎาคม - 1 สิงหาคม พ.ศ. 2555
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44867
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 25/08/2012 6:03 am Post subject:
ขนส่งอัดงบ 1.5 พันล.สร้างจุดถ่ายสินค้าสะพานข้ามโขงเชียงของ
เนชั่นทันข่าว 24 ส.ค. 55 13:20 น.
นายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการวางแผนการก่อสร้างศูนย์เปลี่ยนถ่ายสินค้า บริเวณเชิงสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 4 (เชียงของ - ห้วยทราย) ว่า ในขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการศึกษาพื้นที่ เพื่อทำการเวนคืนที่ดิน 280 ไร่ โดยแบ่งเป็นพื้นที่สปก.จำนวน 190ไร่ และพื้นที่ของชาวบ้าน จำนวน 90 ไร่ บริเวณเชิงสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 4 (เชียงของ -ห้วยทราย) เพื่อเป็นจุดเปลี่ยนถ่ายสินค้า โดยทางสนข.เป็นผู้ดำเนินการออกแบบและวางแผนเท่านั้น แต่ส่วนของการดำเนินการจะเป็นหน้าที่ของกรมการขนส่งทางบก ที่จะทำหน้าที่สำรวจและเวนคืนที่ดิน เนื่องจากอยู่ใกล้กับสะพาน และมีการเวนคืนที่ดินน้อยที่สุด โดยทาง สนข.เองไม่ต้องการให้ชาวบ้านในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อน หรือได้รับความเดือดร้อนน้อยที่สุด ซึ่งการเวนคืนที่ดินของชาวบ้านจำนวน 90 ไร่ จะมีผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนประมาณ 17 ราย ซึ่งทางกรมการขนส่งจะเป็นผู้ดำเนินการในการเก็บข้อมูลและทำตามขั้นตอนของการเวนคืนโดยขั้นตอนแรกคือเรื่องการจัดการกรรมสิทธิ์ในที่ดิน ก่อนดำเนินการตามขั้นตอนอื่นต่อไป เบื้องต้นได้มีการส่งเจ้าหน้าที่ไปสร้างความเข้าใจให้กับชาวบ้านแล้ว และเชื่อชาวบ้านจะเข้าใจถึงจุดประสงค์หลักของการเวนคืนที่ดิน
ส่วนการจ่ายค่าชดเชยนั้นทางกรมการขนส่งทางบก จะเป็นผู้ดำเนินการตามขั้นตอนและหลักเกณฑ์ ในการจ่ายค่าชดเชย ซึ่งเบื้องต้นได้มีการประมาณการในการจ่ายค่าชดเชยในการเวนคืนที่ดินจำนวน 90 ไร่ และค่าชดเชยให้กับชาวบ้านที่ใช้ที่ดินของสปก.ในการประกอบอาชีพ รวมกว่า 223 ล้านบาท แต่ในขณะนี้ทราบว่า ราคาที่ดินบริเวณรัศมีของการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 4 (เชียงของ -ห้วยทราย) มีการปรับราคาสูงขึ้น ซึ่งอาจส่งผลให้ราคาที่มีการประเมินในการชดเชยการเวนคืนปรับสูงขึ้นด้วย ทั้งนี้ในส่วนของงบประมาณในการจ่ายค่าชดเชยจะเป็นหน้าที่ของการกรมการขนส่งทางบก
นายจุฬา กล่าวต่อว่า ส่วนแผนในการก่อสร้างจุดเปลี่ยนถ่ายสินค้า คงต้องใช้เวลาอีกสักระยะหนึ่ง เนื่องจากจะต้องมีการทำการเวนคืนที่ดินให้แล้วเสร็จก่อนจึงจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างได้ และคาดว่าจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างได้ในปีงบประมาณของปี 2557 ซึ่งจะแล้วเสร็จช้าหลังจากมีการเปิดใช้สะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 4 ที่มีกำหนดจะแล้วเสร็จในกลางปี 2556 โดยเบื้องต้นจะให้ มีการใช้จุดเปลี่ยนถ่ายสินค้า ที่บริเวณด่านศุลกากรไปก่อน จนกว่าศูนย์เปลี่ยนถ่ายสินค้าจะแล้วเสร็จ เบื้องต้นคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2559 โดยงบประมาณที่จะใช้ในการก่อสร้างอยู่ที่ราว 1,520 ล้านบาท โดยเป็นงบของทางกรมการขนส่งทางบก
นอกจากนี้จุดเปลี่ยนถ่ายสินค้าที่จะใช้ในการเปลี่ยนถ่ายหัวรถบรรทุกและสินค้าแล้ว จุดนี้ยังสามารถเชื่อมต่อไปยังเส้นทางรถไฟ ในเส้นทางเด่นชัย -เชียงของ ซึ่งในขณะนี้ การรถไฟแห่งประเทศไทยได้เริ่มดำเนินการออกแบบ และศึกษาถึงขั้นตอนการดำเนินการว่าจะดำเนินการอย่างไร เนื่องจากเส้นทางมีความยาวกว่า 300 กิโลเมตร และเป็นภูเขา จึงต้องมีการศึกษาออกแบบค่อนข้างนาน และมีการประเมินค่าใช้จ่ายในการดำเนินการอยู่ที่ราว 30,000 ล้านบาท ซึ่งหากเส้นทางรถไฟสามารถดำเนินการก่อสร้างได้ ก็จะเป็นการเปลี่ยนถ่ายสินค้าไปยังภูมิภาคอื่นได้ง่าย เนื่องจากการขนส่งทางรถไฟใช้ต้นทุนในการขนส่งถูกที่สุด
เผยแพร่เมื่อ 20 ส.ค. 2012 โดย 0864048588 Last edited by Mongwin on 25/08/2012 6:45 pm; edited 1 time in total
Back to top
nathapong
1st Class Pass (Air) Joined: 24/03/2006 Posts: 3515
Location: Ayuthaya - Lamlukka - Navanakhon - Silom
Posted: 25/08/2012 12:19 pm Post subject:
^
น่าพัฒนา การขนส่งต่อเนื่อง และ เครื่องมือ / เครื่องจักร ระหว่างล้อยาง กับล้อเหล็ก ที่ลดการ อัพ แอนด์ ดาวน์ (Lift on / off ) และ เพิ่มขีดการขนส่งแบบ ประตูถึงประตู (Door to Door) และกฎระเบียบ ที่เป็นอุปสรรค อย่างเรื่องความสูงของเขตโครงสร้างรถบรรทุก กว่าจะผ่อนปรนหรือแก้ไขได้ ปาไปซะเกือบหกปี
แต่ที่ฮา ๆ คือผู้ปฎิบัติภาครัฐที่มักจะแกล้งไม่รู้ ระเบียบ หรือคำสั่ง ที่แก้ไขแล้วแต่ใช้อำนาจหน้าที่ จับกุมให้ผู้รับขนส่ง วุ่นวายไปเสียซะงั้น ... เฮ้อ
นอกจากนี้ ถ้าจะนำนวตกรรม (ใหม่บ้านเรา เก่าบ้านเขา) เกี่่ยวกับรถพ่วง โดยเฉพาะหางลาก กับแคร่ รถสินค้าที่ออกแบบมาใช้กับหางลากรถพ่วง ได้ออกมาใช้ อย่างน้อยการลดค่าใช้จ่าย ไปบ้างไม่มากก็น้อย
เรื่องที่เขียน ๆ บ่น ๆ มาข้างต้น เจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ทราบ แต่คนที่ทราบและเข้าใจ บ่ มีหน้าที่แล อำนาจที่จะผลักดันออกมา ให้เป็นรุปธรรม ซะงั้นแหละ
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42789
Location: NECTEC
Posted: 10/03/2013 7:23 pm Post subject:
ไปดูโฆษณาชนวนเชื่อของรัฐบาลว่าจะเร่งทำไฟสาย เด่นชัย - เชียงราย - ท่าเรือเชียงของ ระยะทาง 324 กิโลเมตรมูลค่า 77450 ล้านบาท ให้เสร็จในปี 2562
Back to top
black_express
1st Class Pass (Air) Joined: 24/03/2006 Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ
Posted: 10/03/2013 10:15 pm Post subject:
ยังไม่ได้เวนคืน เหมืือนกับสายไปท่านุ่น
เพียงแต่เป็นแนวทางรถไฟเท่านั้น
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44867
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 20/03/2013 7:20 pm Post subject:
โดยส่วนตัว ผมไม่ชอบเลย ที่บอกว่าโครงการสร้างทางรถไฟโน้นนี้ จะเสร็จภายในปี 25xx
อยากได้ยินว่า จะิเริ่มก่อสร้างภายในปี 25xx มากกว่าครับ
ดูมีหวังและน่าเชื่อถือกว่า
----
กมธ.สวล.แนะทางออกการทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม โครงการระบบขนส่งทางราง
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 20 มีนาคม 2556 18:29 น.
ศูนย์ข่าวศรีราชา - คณะอนุ กมธ. สิ่งแวดล้อมและภัยธรรมชาติ วุฒิสภา และคณะอนุ กมธ. คมนาคมทางราง แนะหลักเกณฑ์การพิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม โครงการระบบขนส่งทางราง
วันนี้ (20 มี.ค.) นายสนธิ คชวัฒน์ เลขาฯ และอนุกรรมาธิการ (กมธ.) สิ่งแวดล้อมและภัยธรรมชาติ วุฒิสภา เปิดเผยว่า ตามที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) จ้างที่ปรึกษาจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) โครงการก่อสร้างทางรถไฟหลายเส้นทาง และทางรถไฟสายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ โดยมีงบประมาณก่อสร้างแล้ว แต่ยังไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากอีไอเอยังไม่ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงาน และคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ
จึงทำให้ประชาชนเสียโอกาสในการเดินทาง และงบประมาณที่ได้รับอนุมัติก็ต้องเลื่อนออกไป ดังนั้น คณะอนุ กมธ. สิ่งแวดล้อมและภัยธรรมชาติ วุฒิสภา จึงได้เชิญผู้แทนร.ฟ.ท. ผู้แทนสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) และผู้แทนสำนักงานนโยบายและแผนขนส่งและจราจร (สนข.) หารือกันโดยมีรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคม และรัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมประชุมด้วย เพื่อผลักดันให้เกิดความร่วมมือระหว่างกระทรวง หาทางออกให้แก่อีไอเอได้รับความเห็นชอบโดยเร็ว
โดยจะต้องให้เกิดผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมน้อยที่สุด รวมทั้งหามาตรการป้องกันและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน ให้อยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้ ซึ่งคณะอนุ กมธ.สิ่งแวดล้อมและภัยธรรมชาติ วุฒิสภา และคณะอนุ กมธ. คมนาคมทางราง มีข้อเสนอแนะ ดังต่อไปนี้ คือ
1.เนื่องจากมาตรา 47 แห่ง พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ 2535 กำหนดให้โครงการ หรือกิจกรรมซึ่งต้องจัดทำอีไอเอ ที่เป็นโครงการ หรือกิจการของส่วนราชการ หรือรัฐวิสาหกิจ หรือโครงการร่วมกับเอกชน ซึ่งต้องเสนอขอรับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีตามระเบียบของทางราชการ ให้ส่วนราชการ หรือรัฐวิสาหกิจ ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบโครงการ หรือกิจการนั้นจัดทำอีไอเอเพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี
ซึ่งจากมาตรา 47 คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ได้ตั้งคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณาอีไอเอโครงการของรัฐ และรัฐวิสาหกิจ โครงการร่วมกับเอกชนขึ้นมาพิจารณา เพื่อให้ความเห็นประกอบการพิจารณาของคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ โดยมีเจ้าหน้าที่ สผ.เป็นฝ่ายเลขานุการ ในการกลั่นกรองความเห็นเบื้องต้นต่อคณะกรรมการผู้ชำนาญการ ดังนั้น เพื่อให้เกิดความร่วมมือในการทำงาน จึงควรมีการประสานงานเบื้องต้นระหว่าง ร.ฟ.ท. และ สผ.ตั้งแต่เริ่มโครงการ (Streamline Process) ดังนี้
1.1 ในการกำหนดขอบเขตการศึกษาโครงการ (TOR Terms of Reference) ของ ร.ฟ.ท.เพื่อทำการจัดจ้างที่ปรึกษา ควรใช้แนวทางการจัดทำอีไอเอของ สผ.เป็นเกณฑ์ และจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นจากนักวิชาการ (Technical Hearing) ซึ่งควรเชิญหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณาอีไอเอ สผ. และผู้ทรงคุณวุฒิ มาร่วมหารือร่วมกัน เพื่อเพิ่มเติมให้ขอบเขตการศึกษามีความสมบูรณ์มากขึ้น ซึ่งจะได้ขอบเขตการศึกษาโครงการที่สมบูรณ์นำไปสู่การว่าจ้างที่ปรึกษาต่อไป
1.2 เมื่อทำการจัดจ้างที่ปรึกษาแล้ว ควรมีการแต่งตั้งคณะกรรมการกำกับการศึกษา โดยให้ประธานคณะกรรมการผู้ชำนาญการในการพิจารณารายงานด้านคมนาคม หรือผู้แทนเข้าร่วมเป็นคณะกรรมการกำกับการศึกษาด้วย เพื่อมอบหมายให้ที่ปรึกษาทำการศึกษาตามความเห็นของคณะกรรมการผู้ชำนาญการตั้งแต่เบื้องต้น ซึ่งจะทำให้ประเด็น หรือหัวข้อที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบสิ่งแวดล้อมได้รับการศึกษาอย่างครบถ้วน จะทำให้ง่ายต่อการพิจารณาของคณะกรรมการชำนาญการ เมื่อมีการเสนออีไอเอต่อ สผ.
1.3 เนื่องจากโครงการของรัฐ รัฐวิสาหกิจ และโครงการเอกชนที่ต้องเสนอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีไม่มีการกำหนดเวลาในการพิจารณารายงานอีไอเอ หากดำเนินตามข้อ 1.1 และ 1.2 แล้ว ขอให้ สผ.ควรพิจารณาออกระเบียบเพื่อกำหนดเวลาในการพิจารณาโครงการดังกล่าวให้เท่ากับโครงการเอกชน คือ พิจารณาครั้งแรกภายใน 45 วัน พิจารณาครั้งที่สอง ภายในเวลา 30 วัน และนำเสนอต่อคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติต่อไป
1.4 ร.ฟ.ท.ควรกำหนดเวลาให้แก่ที่ปรึกษาในการแก้ไข หรือปรับปรุงอีไอเอไว้ในสัญญาให้ชัดเจน เพื่อป้องกันไม่ให้ที่ปรึกษาใช้เวลานานเกินไปในการทำการศึกษา
2.เนื่องจากโครงการด้านคมนาคมทางบกของ ร.ฟ.ท. มีหลายโครงการที่ต้องเวนคืนที่ดิน และตัดผ่านป่าสงวนแห่งชาติ หรือพื้นที่ลุ่มน้ำ หรือผ่านพื้นที่ที่ห้ามล่าสัตว์ป่า เป็นต้น ดังนั้น จึงต้องขออนุญาตจากกรมป่าไม้ หรือกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ในการเข้าไปสำรวจ หรือทำการศึกษา ซึ่งการขออนุญาตดังกล่าวบางครั้งใช้เวลาค่อนข้างนาน และเมื่อทำการศึกษาแล้วต้องขออนุมัติใช้พื้นที่ก่อสร้างด้วย ดังนั้น เพื่อให้เกิดความร่วมมือระหว่างกระทรวงคมนาคม และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
และเพื่อให้ได้ข้อสรุปในการก่อสร้างทางรถไฟผ่านพื้นที่อ่อนไหวต่อการได้รับผลกระทบสิ่งแวดล้อมดังกล่าวโดยเร็ว จึงเห็นควรจัดตั้งคณะกรรมการประสานการจัดการสิ่งแวดล้อมด้านคมนาคม ระหว่างกระทรวงคมนาคม และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อพิจารณาร่วมกันถึงรูปแบบของโครงสร้างทางรถไฟ แนวเส้นทาง ตลอดจนการขอใช้พื้นที่อนุรักษ์ตั้งแต่เบื้องต้น ซึ่งจะทำให้โครงการดังกล่าวใช้เวลาในการพิจารณาอีไอเอน้อยลง และผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีเร็วขึ้น
3.เนื่องจากที่ผ่านมา การจัดทำอีไอเอใช้เวลาค่อนข้างนาน จึงขอให้ ร.ฟ.ท.และ สนข. กำกับดูแลบริษัทที่ปรึกษาอย่างเข้มงวด ตั้งแต่การเลือกที่ปรึกษาด้านสิ่งแวดล้อม ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางสำหรับงานการศึกษาด้านคมนาคมขนส่งทางราง และเจ้าหน้าที่ควรเอาใจใส่ในการตอบข้อเสนอแนะของคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณาอีไอเอ เพื่อทำให้ผ่านความเห็นชอบได้เร็วขึ้นด้วย
4.เนื่องจากโครงการก่อสร้างทางรถไฟสายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ มีคาวมจำเป็นและเป็นนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลในการขยายความเจริญไปยังภาคเหนือตอนบน เพื่อรองรับการขนส่งสินค้า และการท่องเที่ยวระหว่างประเทศไทย และประเทศจีน ตลอดจนกลุ่มประเทศในอาเซียน ดังนั้น จึงควรให้ ร.ฟ.ท. และ สผ. ประสานความร่วมมือข้างต้น เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด และดำเนินโครงการได้โดยเร็วต่อไป
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42789
Location: NECTEC
Posted: 27/03/2013 12:29 pm Post subject:
โผบัญชีรายชื่อทางรถไฟสาย เด่นชัย - เชียงราย - เชียงแสน
0 Denchai (เด่นชัย) - Major station - km 533 + 532 - แทนอาคารสถานีเด่นชัยเดิม
1 Soong Men (สูงเม่น) - Minor station - km 547 + 750
2 Phrae (แพร่) - Major station - km 560 + 500
3 Mae Kham Mee (แม่คำมี) -a minor station - dropping point for Nong Muang Khai - km 572 + 250
4 Nong Siaw (หนองเสี้ยว) - stopping place - km 584 + 200
5 Song (สอง) - minor station - km 590 + 900
Passing through 1100-meter long Ban Klang tunnel in Song district of Phrae (km 606+200 - km 607+300)
and 6300-meter Mae Teeb tunnel in Ngao district of Lampang (km 609+100 - km 615+400)
6 Mae Teeb (แม่ตีบ) - stopping place - km 617 + 925
7 Ngao (งาว) - minor station - km 636 + 975
8 Pong Tao (ปงเตา) - stopping place - km 642 + 300
passing the 2800-meter Mae Ka tunnel in Mueang District (km 663+400 - km 666+200)
9 Phayao University - (มหาวิทยาลัยพะเยา) minor station - km 670 + 700
10 Ban Thok Kwak - (บ้านโทกหวาก) stopping place - km 677 + 600
11 Phayao station (พะเยา) - major station - km 683 + 600
12 Dong Jen (ดงเจน) - stopping place - km 689 + 800
13 Ban Raung (บ้านร้อง) - stopping place - km 696 + 600
14 Ban Mai (บ้านใหม่) - stopping place - km 709 + 900
15 Pa Daed (ป่าแดด) - minor station - km 724 + 500
16 Pa Ngae (ป่าแงะ) - stopping place - km 732 + 715
17 Ban Pong Kluea (บ้านโป่งเกลือ) - stopping place - km 743 + 025
18 San Pa Heang (สันป่าเหียง) - stopping place - km 756 + 600
19 Chiang Rai (เชียงราย) - Major station - km 771 + 800
20 Thung Kor (ทุ่งก่อ) - stopping placs - km 785 + 500
21 Wiang Chiang Rung (เวียงเชียงรุ้ง) - minor station - km 796 + 425
22 Ban Pa Sang junction (ชุมทางบ้านป่าซาง) - minor station - km 756 + 600
passing the 3400-meter Doi Luang tunnel in Chiang Saen district of Chiang Rai (km 816+600 - km 820+000)
23 Bang Kiang (บ้านเกี๋ยง) - stopping place - km 829 + 300
24 Sri Don Chai (ศรีดอนชัย) - Stopping place - km 839 + 300
25 Chiang Khong (เชียงของ) - near the foot of the 4th Friendship Brdige - Minor station (km 852 + 750)
Branch line to Chiang Saen
Chiang Saen (เชียงแสน) - EOL of branch line - 24.252 km from Ban Pa Sang junction => km 780 + 852
http://denchai-chiangrairailway.com/PDF/paper_M2.pdf
http://denchai-chiangrairailway.com/route.html
http://denchai-chiangrairailway.com/PDF/Brochure@M02.pdf
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44867
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 27/03/2013 3:34 pm Post subject:
Wisarut wrote: โผบัญชีรายชื่อทางรถไฟสาย เด่นชัย - เชียงราย - เชียงแสน
0 Denchai (เด่นชัย) - Major station - km 533 + 532 - แทนอาคารสถานีเด่นชัยเดิม
ต้องย้ายสถานีลงมาทางใต้ 400 เมตร เพื่อสร้างทางแยกขึ้นไปเชียงรายนะครับ
ต่อไปย่านเด่นชัยเดิมก็จะกลายเป็นย่านเก่า แบบเดียวกับสถานีเพชรบุรีเดิม
แต่แปลกตรงดูในแผนที่ประกอบที่นี่
http://denchai-chiangrairailway.com/route.html
ทางแยกอยู่ทางด้านเหนือของย่าน ไม่เห็นต้องสร้างสถานีใหม่เลยครับ
Back to top