โครงการทางรถไฟสายเด่นชัย-เชียงราย

[black_express]

ไหมล่ะ มัวผลัดวันประกันพรุ่ง เปลี่ยนโน่นแก้ไขนี่ จนป่ากลายเป็นมหานคร

ถ้าพร้อมก็ลุยเลย ไม่ต้องดูฤกษ์ผานาที จับยามสามตาแล้ว

[Wisarut]

เกิดแน่รถไฟ'เด่นชัย-เชียงของ
โดย กอง บก.ฐานเศรษฐกิจ ข่าวหน้า1 -
คอลัมน์ : ข่าวหน้า1
ออนไลน์เมื่อ วันอาทิตย์ที่ 16 พฤศจิกายน 2014 เวลา 10:21 น.
ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 34 ฉบับที่ 3,001 วันที่ 16 - 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

รถไฟเด่นชัย-เชียงของทำแน่ คมนาคม-สนข.-ร.ฟ.ท.ประสานเสียงเดินหน้าตามยุทธศาสตร์เดิม ปรับขนาดรางจาก 1.435 เป็น 1 เมตร แม้จีนไม่สนลงทุนเชื่อมทาง เผยขั้นตอนรอสู่กระบวนการEIA คาดน่าจะผ่านภายในปี 58 เผยเวนคืนเขตทางกว้าง 80 เมตร ตัวสถานี 160 เมตร มีที่ดินกว่า 6,000 แปลงที่ถูกเวนคืนตลอดเส้นทาง 26 สถานี

สืบเนื่องจากที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)เดินทางไปร่วมประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจแห่งเอเชีย-แปซิฟิก(เอเปก) ครั้งที่ 22 ระหว่างวันที่ 9-11 พฤศจิกายน 2557 ณ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน และได้มีการหารือทวิภาคีกับนายหลี่ เค่อ เฉียง นายกรัฐมนตรี และนายสี จิ้น ผิง ประธานาธิบดีจีน จากการหารือทั้งสองฝ่ายเห็นชอบจะทำยุทธศาสตร์ร่วมกัน โดยทางจีนมีความต้องการฟื้นเส้นทางสายไหม เชื่อมจีนสู่อาเซียน ส่วนประเทศไทยมีแผนพัฒนารถไฟหลายเส้นทางในการเชื่อมไทยสู่อาเซียน ซึ่งทางสาธารณรัฐประชาชนจีนพร้อมจะร่วมมือและสนับสนุน เบื้องต้นตกลงที่จะร่วมมือกันแบบรัฐต่อรัฐหรือจีทูจี พัฒนาเส้นทางรถไฟทางคู่มาตรฐาน 1.435 เมตร 3 เส้นทาง คือ หนองคาย-นครราชสีมา-แก่งคอย, แก่งคอย-กรุงเทพฯ และแยกแก่งคอย-ชลบุรี-มาบตาพุด รวมระยะทาง 867 กิโลเมตรนั้น

ล่าสุดพล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่ากระทรวงคมนาคมเตรียมนำเสนอหลักการความร่วมมือพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระหว่างไทยกับสาธารณรัฐประชาชนจีน ให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)พิจารณาในวันที่ 18 พฤศจิกายน 2557

ขณะที่ นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ"ว่า จากการหารือทวิภาคีระหว่างพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กับท่านผู้นำสาธารณรัฐประชาชนจีน ในโอกาสเดินทางไปประชุมสุดยอดผู้นำเศรษฐกิจเอเปก ณ กรุงปักกิ่ง นั้น ทางสาธารณรัฐประชาชนจีนได้ให้ความสนใจร่วมพัฒนารถไฟทางคู่ขนาด 1.435 เมตร 3 เส้นทาง(หนองคาย-นครราชสีมา-แก่งคอย, แก่งคอย-กรุงเทพฯ และแยกแก่งคอย-ชลบุรี-มาบตาพุด) โดยไม่มีสายเด่นชัย-เชียงของ นั้น อย่างไรก็ดี กระทรวงคมนาคม ยังคงเดินหน้าพัฒนาโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ สายเด่นชัย-เชียงของ การรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.) ตามแผนยุทธศาสตร์ที่วางไว้ 8 ปี(ปี 2558 -2565) ต่อไป โดยจะปรับลดขนาดรางจาก ขนาด 1.435 เมตร เป็นขนาด 1 เมตรเหมือนเดิมตามแผนของร.ฟ.ท.ที่เคยเสนอไว้

ทั้งนี้โครงการดังกล่าวเป็นหนึ่งในแผนยุทธศาสตร์การก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานภายในประเทศ เมื่อจีนไม่สนใจต่อเชื่อมลงมาทางอำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย ก็ไม่กระทบแต่อย่างใด เพราะจะต้องพัฒนาตามแผนที่วางไว้ โดยเฉพาะการเสริมศักยภาพการเดินทางของคนในพื้นที่ที่รอมานานให้สะดวกสบายขึ้น มีทางเลือกมากขึ้น รวมถึงทางเลือกในการขนส่งสินค้าที่มีมากขึ้น

ด้านนายพีระพล ถาวรสุภเจริญ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายการขนส่งและจราจร(สนข.) กล่าวว่า ตามแผนยุทธศาสตร์ ยังคงเดินหน้าทางรถไฟสายเด่นชัย-เชียงของตามปกติ เนื่องจากเป็นโครงสร้างพื้นฐานภายในประเทศไทย รอขั้นตอนเข้าสู่การวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรือEIA ต่อไป โดยไม่ต้องกลับมาศึกษารางขนาด 1.435 เมตรใหม่ ให้เดินหน้าตามขั้นตอนต่อไปได้ทันที

"หากผ่านอีไอเอก็สามารถเดินหน้าเวนคืนและก่อสร้างได้ โครงการนี้ต้องเดินหน้าก่อสร้างตามแผน เพราะคนในพื้นที่อย่างอำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย เขารอคอยกันมากว่า 40 ปี ที่ยังไม่เคยมีเส้นทางรถไฟมาก่อน ดังนั้นเราก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานตามแผนปกติ เพื่อรองรับการเดินทางสำหรับคนในประเทศ"

ส่วนแหล่งข่าวจาก ร.ฟ.ท. กล่าวว่า ขณะนี้โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ สายเด่นชัย-เชียงของ ระยะทาง 326 กิโลเมตร ซึ่งเป็นแนวที่ต้องเวนคืนใหม่ เพื่อวางระบบรางทั้งหมด อยู่ในขั้นตอนรอเข้าสู่การพิจารณาอีไอเอ ซึ่งจะใช้เวลาผ่านอีไอเอเร็วสุด 4-5 เดือน อย่างช้า 8 เดือน นับจากวันที่เข้าสู่กระบวนการพิจารณา ซึ่งมั่นใจว่าน่าจะผ่านกระบวนการนี้ได้ภายในปี 2558

"การรถไฟฯยึดแผนเดิม คือ เร่งสร้างทางคู่ สายเด่นชัย-เชียงของ ขนาดราง 1 เมตร ซึ่งรอแค่ให้ผ่านอีเอ หากผ่านแล้วก็น่าจะเวนคืนและเปิดประมูลได้ ปี 2559 น่าจะดำเนินการได้ หากไม่มีข้อผิดพลาดอะไร เพราะเส้นทางนี้มีความคืบหน้ามากที่สุด"

สำหรับขนาดเขตทาง ร.ฟ.ท.กำหนดเวนคืนเขตทางกว้าง 80 เมตร คือ ซ้าย 40 เมตร ขวา 40 เมตรและบริเวณตัวสถานี 160 เมตร ไม่ต้องใช้ความเร็ว 160-180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เหมือนราง 1.435 เมตร ซึ่งเขตทางขนาดนี้ก็สามารถรองรับรางมาตรฐานขนาด 1.435 เมตรได้ในอนาคต

อนึ่ง โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ขนาดราง 1 เมตร สายเด่นชัย-เชียงของ ใช้งบประมาณ7.7 หมื่นล้านบาท มีทั้งหมด 26 สถานี เป็นโครงการเวนคืนที่ดินใหม่ทั้งหมดประมาณ 6,000 แปลง มีจุดเริ่มต้นจากสถานีเด่นชัย จังหวัดแพร่ จากนั้นจะเปิดเส้นทางใหม่ทั้งหมดขึ้นไป เป็นสถานีสูงเม่น สถานีแพร่ สถานีแม่คำมี สถานีหนองเสี้ยว สถานีสอง สถานีแม่ตีบ สถานีงาว สถานีปงเตา สถานีมหาวิทยาลัยพะเยา สถานีบ้านโทกกวาก สถานีพะเยา สถานีดงเจน สถานีบ้านร้อง สถานีบ้านใหม่ สถานีป่าแดด สถานีป่าแงะ สถานีบ้านโป่งเกลือ สถานีสันป่าเหียง สถานีเชียงราย สถานีทุ่งก้อ สถานีเวียงเชียงรุ้ง สถานีบ้านเกี๋ยง สถานีศรีดอนชัย และสถานีปลายทางสถานีเชียงของ จังหวัดเชียงราย

[nutsiwat]

น่ายินดีกับเส้นทางรถไฟสายเด่นชัย - เชียงราย - เชียงของ ด้วยนะครับ โครงการก่อสร้างเส้นทางสายนี้คงจะเป็นรูปธรรมซักทีนะครับ
_________________

--------------------------

สถานีต่อไป สถานีเรณูนคร
next station Renunakorn

[mirage_II]

จะว่าไปรัฐบาลอย่างนี้ก็ดีไปอย่างที่ไม่ต้องมาเจอกับ การประท้วง ที่รัฐบาลมาจากการเลือกตั้งมักจะเจอการต่อต้าน เช่นของ NGO ขอให้เริ่มทำเร็วๆ ก่อนที่รัฐบาลนี้จะสิ้นสุดวาระนะครับ

[Wisarut]

เวิลด์แบงก์หนุนทางคู่สายเหนือ
โดย กอง บก.ฐานเศรษฐกิจ อสังหา REAL ESTATE -
คอลัมน์ : อสังหาฯ REAL ESTATE
ออนไลน์เมื่อ วันอังคารที่ 09 ธันวาคม 2557 เวลา 10:28 น.
ตีพิมพ์ใน หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 34 ฉบับที่ 3,008 วันที่ 11 - 13 ธันวาคม พ.ศ. 2557
เวิลด์แบงก์จ้องหนุนงบก่อสร้างรถไฟทางคู่สแตนดาร์ดเกจเส้นทางสายเหนือหลังจีนให้ความสนใจเส้นทางผ่านสปป.ลาวเชื่อมหนองคายมุ่งกทม.-แหลมฉบัง รฟม.ลุ้นคมนาคมนำเสนอครม.รถไฟฟ้า 3 เส้นทางทิ้งทวนปลายปีนี้ ด้าน ร.ฟ.ท.ยังเกาะติดสายสีแดงช่วงมิสซิ่งลิงค์และแอร์พอร์ตลิงค์ส่วนต่อขยายเชื่อมดอนเมือง ล่าสุดของบเพิ่มอีกกว่า 8 พันล้านบาท
alt แหล่งข่าวระดับสูงของกระทรวงคมนาคม เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า จากที่กระทรวงวางแผนเร่งผลักดันโครงการภายใต้ยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม ให้สามารถเปิดประมูลได้ภายในปลายปีนี้ แต่จนถึงขณะนี้หลายโครงการที่มีความพร้อมโดยเฉพาะโครงการรถไฟทางคู่ หรือโครงการรถไฟฟ้าก็พบว่ามีบางโครงการที่ต้องให้กลับไปปรับปรุงเพิ่มเติมใหม่ก่อนที่จะนำเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี(ครม.)เห็นชอบ มีรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ช่วงตะวันออก) จากศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี รถไฟฟ้าสายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) รถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) และโครงการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดงอ่อน (บางซื่อ-พญาไท-มักกะสัน-หัวหมาก) และสายสีแดงเข้ม (บางซื่อ-หัวลำโพง) หรือมิสซิ่งลิงค์ ในส่วนรถไฟทางคู่ขนาดทางมาตรฐาน 1.435 เมตรนั้นยังอยู่ระหว่างการเร่งคัดเลือกกลุ่มบริษัทที่ปรึกษาศึกษาออกแบบเพื่อนำเสนอครม.อนุมัติให้ดำเนินการโดยเร็วต่อไป
ในส่วนเส้นทางรถไฟทางคู่สายเหนือเส้นทางเชียงของ-เด่นชัย-พิษณุโลก-บ้านภาชี-แก่งคอยนั้นขณะนี้ชัดเจนแล้วว่าจีนไม่แสดงความสนใจ แต่ธนาคารโลก(เวิลด์แบงก์)กลับพร้อมให้การสนับสนุนแหล่งการลงทุนเส้นทางนี้เพื่อให้เกิดการเชื่อมโยง โดยอยู่ระหว่างการหารือร่วมกับกระทรวงการคลังและ ร.ฟ.ท.
สำหรับการปรับปรุงในโครงการรถไฟฟ้านั้นให้ปรับแก้ค่าก่อสร้างฐานรากสร้างเดโปเพื่อพัฒนาเชิงพาณิชย์ ซึ่งมีสายสีชมพู ตัดศูนย์ซ่อมบำรุงมีนบุรีออกไปก่อนเพื่อไม่ให้เกิดความล่าช้า เช่นเดียวกับสายสีเหลือง ก็ให้ปรับราคาก่อสร้างฐานรากที่สำโรงออกไปด้วย ส่วนสายสีส้มมีการขอนำกลับไปปรับแก้ช่วงการปรับเส้นทางระหว่างสถานีศูนย์วัฒนธรรมมาเป็นสถานีพระราม 9 เท่านั้นเพื่อให้สอดคล้องกับการปรับแนวเส้นทางช่วงตลิ่งชัน-ศูนย์วัฒนธรรมที่จะผ่านชุมชนประชาสงเคราะห์ซึ่งล่าสุดได้เห็นชอบให้มีการปรับแนวเส้นทางผ่านดินแดง-โบสถ์แม่พระ-แยกพระราม 9 เพื่อไปเชื่อมกับแนวตะวันออกที่สถานีพระราม 9 มุ่งสู่มีนบุรีแทน ส่วนสายสีม่วงใต้ ช่วงเตาปูน-พระประแดง รฟม.อยู่ระหว่างการเร่งสรุปผลการศึกษาออกแบบคาดแล้วเสร็จปี 2558
เช่นเดียวกับรถไฟฟ้ามิสซิ่งลิงค์วงเงินประมาณ 3.8 หมื่นล้านบาทและแอร์พอร์ตลิงค์ส่วนต่อขยายพญาไท-บางซื่อ-ดอนเมืองต้องนำเสนอให้คณะกรรมการ(บอร์ด)ร.ฟ.ท.พิจารณางบประมาณเพื่อการก่อสร้างอีกครั้งเนื่องจากปรับราคาจากกรณีคำนวณผิดพลาด โดยแอร์พอร์ตลิงค์ลดลงอีกกว่า 100 ล้านบาท สำหรับมิสซิ่งลิงค์พบว่าราคาขาดไปอีกประมาณ 8,000 ล้านบาท เนื่องจากคิดราคามาตั้งแต่ปี 2551 จึงไม่สอดคล้องกับปัจจุบัน โดยวงเงินลงทุนเดิมประมาณ 3.3 หมื่นล้านบาท

[Wisarut]

ทุนจีนเท6พันล. ปั้นโลจิสติกส์ฮับรับR3Aบูม
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
16 ธันวาคม 2557 เวลา 12:44:41 น.



จีนรุกหนักยึดไทยเป็นฐานส่งออกสินค้าฮุบอาเซียน ทุนยูนนาน "เจ๋ฟง" ทุ่ม 6,000 ล้านปักธงเชียงของเนรมิตโลจิสติกส์ฮับ-คอมเพล็กซ์บิสซิเนสเซ็นเตอร์ครบวงจร ฟากรัฐบาลจีนวางแผนลงทุนทางบก-น้ำ ผุดรถไฟสายคุนหมิง-ลาว-เชียงรายคู่ขนานรถไฟเวียงจันทน์-หนองคาย

นายจ้าว หยุน ฟู รองผู้ว่าการเขตปกครองตนเองสิบสองปันนา มณฑลยูนนานสาธารณรัฐประชาชนจีน เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า รัฐบาลจีนได้วางเป้าหมายให้สิบสองปันนาเป็นเส้นทางยุทธศาสตร์การค้าที่จะเปิดประตูด้านตะวันตกของจีนสู่อาเซียนและประเทศรอบข้าง ทั้งนี้หลังจากมีการพัฒนาเส้นทางขนส่งทางบกเปิดใช้เส้นทาง R3A ทำให้การค้าของสิบสองปันนาเพิ่มขึ้นทุกปี โดยในปี 2556 มูลค่าทางการค้าอยู่ที่ 583 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 25.2%

ขณะที่ปี 2557 (ม.ค.-มี.ค.) มีมูลค่าราว 519 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาขยายตัวราว 7.1% โดยภาคการขนส่ง (Logistics) มีความได้เปรียบอย่างมากที่จะขนส่งสินค้าเข้าสู่ประเทศต่างๆ ซึ่งรัฐบาลจีนได้ส่งเสริมภาคอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ของจีนให้ใช้เส้นทาง R3A ในการขนส่งสินค้า เพราะเป็นเส้นทางที่ประหยัดต้นทุนและสะดวกที่สุด ขณะที่เส้นทางขนส่งแม่น้ำโขงที่ท่าเรือเชียงรุ่งก็เป็นระบบโลจิสติกส์ที่สะดวก และมีการค้าขายร่วมกันระหว่างประเทศ

ขณะนี้รัฐบาลจีนยังได้ให้ความสำคัญการขนส่งระบบรางเพิ่มอีกช่องทางหนึ่ง เพื่อที่จะเชื่อมโยงความร่วมมือทางการค้าระหว่างมณฑลยูนนานกับลาวและไทย โดยเตรียมพัฒนาเส้นทางรถไฟจากนครคุนหมิงเชื่อมสิบสองปันนาเข้าสู่ลาว สุดเส้นทางที่ชายแดนลาว-ไทยที่จังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นแผนล่าสุดของรัฐบาลจีนที่จะทำระยะต่อไป

เส้นทางรถไฟสายนี้จะเริ่มจากคุนหมิง-ยวี่ซี-ผูเอ่อร์-ด่านบ่อหาน-ด่านบ่อเต็น-หลวงน้ำทา-ห้วยทราย-เชียงของ-เชียงราย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้างเส้นทางรถไฟจากเมืองคุณหมิงมาถึงสิบสองปันนา คาดว่าจะเริ่มดำเนินการต่อจากโครงการเส้นทางรถไฟสายคุนหมิง-หนองคาย ที่รัฐบาลจีนและไทยได้ทำ MOU ที่จะสร้างร่วมกันแล้ว

นายเย่ว หู ประธานบริษัท เจ๋ฟง โลจิสติกส์ (ประเทศไทย) จำกัด ในเครือเจ๋ฟง ยูนนาน ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทโลจิสติกส์ใหญ่ที่สุดในมณฑลยูนนาน เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า บริษัทวางตำแหน่งให้พื้นที่อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย เป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ในเส้นทาง R3A ที่จะเชื่อมโยงไปยังตลาดอาเซียน สินค้ากลุ่มหลักที่ขนส่งมาจากจีน คือ พืชผลการเกษตร อาทิ ผักและผลไม้เกือบทุกชนิดที่ผลิตในมณฑลยูนนาน เช่น บร็อกโคลี ผักกาดขาว แอปเปิล องุ่น ส้ม ฯลฯ และเครื่องประดับของจีนที่มีปริมาณการนำเข้าเพิ่มขึ้นมาก ส่วนสินค้าที่ได้ส่งจากไทยไปยังมณฑลยูนนานคือ มังคุด ทุเรียน และข้าวสาร เป็นต้น

ล่าสุดได้เตรียมลงทุนก่อสร้างโครงการศูนย์โลจิสติกส์ (โลจิสติกส์ฮับ) และคอมเพล็กซ์บิสซิเนสเซ็นเตอร์ครบวงจร ที่อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย เนื้อที่ 302 ไร่ ห่างจากสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 4 ประมาณ 800 เมตร เงินลงทุนรวม 6,000 ล้านบาท จะเป็นศูนย์โลจิสติกส์ใหญ่ที่สุดในภาคเหนือ และให้บริการที่จุดเดียว (One Stop Service) เริ่มดำเนินการเฟสแรกก่อนคือ โลจิสติกส์ฮับ บนเนื้อที่ 149 ไร่ ใช้เงินลงทุน 1,000 ล้านบาท ขณะนี้เริ่มถมดินปรับพื้นที่แล้ว ใช้เวลาก่อสร้าง 1 ปี

"กลุ่มทุนจีนจากหลายเมืองในมณฑลยูนนานต่างมุ่งใช้ระบบโลจิสติกส์ผ่านเส้นทาง R3A เกือบทั้งสิ้น จึงจำเป็นต้องมีศูนย์โลจิสติกส์ในการพัก ขนถ่าย และเปลี่ยนถ่ายสินค้าที่จะส่งต่อไปที่กรุงเทพฯ และตลาดอาเซียน"

สำหรับพื้นที่อีก 153 ไร่ จะมีการลงทุนสร้างโรงแรมระดับ 4-5 ดาว อพาร์ตเมนต์ ฯลฯ เพื่อรองรับนักธุรกิจจีนและไทยที่เข้ามาทำการค้าขายในเส้นทาง R3A รวมถึงคนทำงาน ซึ่งจะมีคนเข้ามาอยู่ภายในโครงการโลจิสติกส์ฮับแห่งนี้ราว 2-3 หมื่นคน โดยโครงการจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ทั้งระบบภายใน 2 ปี

ด้านนายนิวัฒน์ ที่ปรึกษา ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เจ๋ฟง โลจิสติกส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ตนเป็นผู้ร่วมทุนกับบริษัทเจ๋ฟง โลจิสติกส์ ในส่วนของที่ดินที่จะพัฒนาโครงการทั้งหมด ซึ่งโครงการนี้จะรองรับความต้องการใช้บริการขนส่งสินค้าในเส้นทาง R3A ได้เป็นอย่างดี เพราะเป็นศูนย์โลจิสติกส์ครบวงจรที่วางรูปแบบให้เป็นศูนย์กระจายสินค้า มีคลังสินค้า ห้องเย็นที่จะเป็นสถานที่สำหรับวาง จัดเก็บ พัก และกระจายสินค้า รวมถึงมีพื้นที่คลังสินค้าให้เช่า ซึ่งกลุ่มธุรกิจที่ทำการค้าขายสินค้าพืชผักและผลไม้ในหลายจังหวัดของไทย จะมารับซื้อและขนถ่ายสินค้าที่นำเข้ามาจากเส้นทาง R3A เพื่อส่งไปยังตลาดอาเซียนด้วย

สำหรับการค้าการลงทุนในอำเภอเชียงของปัจจุบันพบว่า การลงทุนด้านโลจิสติกส์ของกลุ่มทุนจีนขยายตัวมากขึ้น มีกลุ่มเจ๋ฟงเป็นกลุ่มทุนรายใหญ่ที่สุด และมีกลุ่มทุนจีนและไทยอีก 5-6 ราย ที่ทำธุรกิจด้านโลจิสติกส์ อาทิ กลุ่ม KTY (จีน) กลุ่ม YYS (จีน) กลุ่มดอยตุง (ไทย) เป็นต้น

ส่วนการลงทุนด้านอื่นๆ ในอำเภอเชียงของที่ชัดเจนอีกธุรกิจหนึ่งก็คือ ธุรกิจโรงแรม ซึ่งมีกลุ่มทุนไทย 3 ราย ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างและเตรียมที่จะก่อสร้างโรงแรมระดับ 3 ดาว และมีการลงทุนปลูกยางพาราจำนวนหลายหมื่นไร่ เพื่อป้อนวัตถุดิบไปยังตลาดจีน

[Mongwin]

ชะลอทางคู่"เด่นชัย-เชียงของ"-เพิ่มรถไฟเชื่อม"เชียงราย"
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ 09 เม.ย 2558 เวลา 13:01:24 น.

"ประจิน" สั่งศึกษาทางด่วน มอเตอร์เวย์ รถไฟเชื่อม "เชียงใหม่-เชียงราย" ชะลอทางคู่สายใหม่ "เด่นชัย-เชียงของ" เบี่ยงแนวปักหมุดเชียงใหม่แทน เล็งต่อขยายถึงเชียงราย เชื่อมการเดินทาง เสริมแกร่งท่องเที่ยวภาคเหนือ รอเคาะรูปแบบรถไฟ 1 เมตร หรือรถไฟรางเบา สนข.ชง 3 แนวทางคู่ "เด่นชัย-เชียงใหม่"

พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ขณะนี้มอบนโยบายให้กระทรวงคมนาคมเร่งศึกษาการเชื่อมโยงระหว่างจังหวัดเชียงใหม่-เชียงราย ทั้งทางรางและทางถนน โดยทางรางจะต่อขยายเส้นทางรถไฟจากเชียงใหม่-เชียงราย ระยะทางประมาณ 150 กม. แนวเส้นทางจะตัดผ่านพื้นที่ใหม่ จะสรุปโครงการในปี 2559-2560 จะเป็นรถไฟทางปกติขนาด 1 เมตร หรือรถไฟรางเบา

เนื่องจากรัฐบาลปัจจุบันได้ชะลอแผนการลงทุนก่อสร้างโครงการรถไฟสายใหม่ เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ระยะทาง 326 กม. แต่ยังคงบรรจุอยู่ในแผนงาน แต่จะให้ความสำคัญรถไฟเส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่เป็นลำดับแรกก่อน เนื่องจากมองว่าจังหวัดเชียงใหม่น่าจะมีศักยภาพมากกว่า

พล.อ.อ.ประจินกล่าวอีกว่า สำหรับทางถนนให้การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ศึกษาก่อสร้างทางด่วนเชื่อมจากเชียงใหม่-เชียงราย ซึ่งในแผนเบื้องต้นจะเจาะอุโมงค์ทะลุเขา เนื่องจากพื้นที่พาดผ่านภูเขาเป็นหลัก นอกจากนี้ทางกรมทางหลวง (ทล.) ยังศึกษาจะสร้างมอเตอร์เวย์จากเชียงใหม่-เชียงรายด้วยเช่นกัน ระยะทางประมาณ 150 กม.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรถไฟสายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ปัจจุบันการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ศึกษาโครงการเสร็จแล้ว อยู่ระหว่างรอการอนุมัติรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) เนื่องจากตัดผ่านพื้นที่ลุ่มน้ำ 1A ลงทุนรวม 77,486 ล้านบาท แยกเป็นค่าก่อสร้าง 71,000 ล้านบาท เวนคืนที่ดิน 3,808 ล้านบาท เดิมบรรจุอยู่ในแผนเงินกู้ 2 ล้านล้านบาท

แนวเส้นทางพาดผ่านพื้นที่ 4 จังหวัด คือ แพร่ ลำปาง พะเยา เชียงราย มี 26 สถานี แยกเป็น 1.จังหวัดแพร่ มีระยะทาง 77.20 กม. มี 6 สถานี คือ สถานีเด่นชัย สูงเม่น แพร่ แม่คำมี หนองเสี้ยว และสอง
2.จังหวัดลำปาง มีระยะทาง 52.40 กม. มี 3 สถานี คือ สถานีแม่ตีบ งาว ปงเตา

3.จังหวัดพะเยา ระยะทาง 54.10 กม. มี 6 สถานี มีสถานีมหาวิทยาลัยพะเยา บ้านโทกกวาก พะเยา ดงเจน บ้านร้อง บ้านใหม่
4.จังหวัดเชียงราย ระยะทาง 139.40 กม. มี 11 สถานี มีสถานีป่าแดด ป่าแงะ บ้านโป่งเกลือ สันป่าเหียง เชียงราย ทุ่งก่อ เวียงเชียงรุ้ง ชุมทางบ้านป่าซาง บ้านเกี๋ยง ศรีดอนชัย และเชียงของ โดยการก่อสร้างใช้เขตทางกว้าง 50 เมตร ขนาดราง 1 เมตร มีเวนคืนที่ดินประมาณ 10,000 ไร่ และมีเจาะอุโมงค์ 4 แห่ง รวม 13 กม.

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ขณะเดียวกันสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ได้งบประมาณ 117 ล้านบาท ศึกษาและออกแบบรายละเอียดโครงการรถไฟทางคู่ 1 เมตร ช่วงเด่นชัย-เชียงใหม่ ระยะทาง 217 กม. ตามนโยบายของรัฐบาลชุดปัจจุบัน

แนวเส้นทางจะพาดผ่าน 4 จังหวัด 10 อำเภอ 30 ตำบล ได้แก่ แพร่ ลำปาง ลำพูน และเชียงใหม่ แนวโครงการมี 3 ทางเลือก คือ
1.สร้างไปตามแนวรถไฟเดิม ระยะทาง 217 กม.
2.เป็นแนวเดียวกับทางเลือกที่ 1 เป็นหลัก แต่บางช่วงจะปรับแนวให้เป็นทางตรงหรือเพิ่มรัศมีโค้ง ระยะทาง 206 กม. และ
3.เป็นแนวตัดใหม่เป็นส่วนใหญ่ โดยคำนึงถึงความเร็วของรถไฟและระยะทางที่เหมาะสมจนถึงลำปาง จากนั้นใช้แนวเส้นทางคู่ขนานไปกับรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ระยะทาง 170 กม.

มี 27 สถานี ได้แก่ เด่นชัย ปากปาน แก่งหลวง บ้านปิน ผาคัน ผาคอ ปางป๋วย แม่จาง แม่เมาะ ห้วยรากไม้ ศาลาผาลาด แม่ทะ หนองวัวเฒ่า ลำปาง บ่อแฮ้ว ห้างฉัตร ปางม่วง ห้วยเรียน แม่ตานน้อย ขุนตาน ทาชมภู ศาลาแม่ทา หนองหล่ม ลำพูน ป่าเส้า สารภี และเชียงใหม่

[black_express]

เห็นข่าวออกมาแบบนี้ ส่วนตัวผมรู้สึกสับสนว่ารัฐจะเดินทางไปแบบไหนกันแน่ ?

เหมือนมีงบฯ ก้อนใหญ่พร้อมที่จะลงทุนเพียงก้อนเดียว มีแผนงานที่รอผ่านการพิจารณาด้านสิ่งแวดล้อมอยู่แล้ว จู่ๆ มีข่าวแบบล้มวงว่าชะลอไปก่อน ไปรอลุ้นโครงการที่ไม่เคยอยู่ในแผนงานใดๆ และโผล่พรวดพราดมาชิงดำหน้าตาเฉย

รู้อยู่ครับว่า เบื้องหลังของโครงการนี้มาจากแนวคิดที่ว่าวัตถุดิบจากจีน น่าจะมาแปรรูปยังนิคมอุตสาหกรรมที่ลำพูน ก่อนที่จะขนส่งมายังกรุงเทพฯ หรือชายฝั่งทะเลตะวันออก ที่ประหยัดเนื้อที่ในการขนส่งมากกว่า ซึ่งพื้นที่จังหวัดภาคเหนือ มีไม่กว้างขวางพอที่จะสร้างนิคมอุตสาหกรรมเช่นลำพูนอีกแล้ว นอกจากที่ จ.พิจิตร ที่ร้างมาหลายสิบปี แถมอยู่ไกลเส้นทางคมนาคมหลักอีกด้วย

จะว่าไปให้ใกล้เคียงยิ่งกว่านั้นคือเพื่อผลประโยชน์ของนายทุนเองนั่นแหละ แต่เสนอลัดคิวจนน่าเกลียดในสายตาของชาวบ้าน แถมแนวคิดเช่นนี้เสนอมาตั้งแต่ พตท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว

หากจะวางแผนสำรวจแนวทางอะไรก็ช่าง รู้จักต่อแถวเรียงลำดับเป็นไหม ? ถ้ารัฐคิดว่ามีผลประโยชน์ตอบแทนมากเพียงพอก็หาช่องทางหาทุนหรือความร่วมมือจากต่างประเทศมาเพิ่มเติมในแผนงานลำดับต่อไป หรือจะสร้างทางรถไฟขนาดรางมาตรฐานจากเชียงของไปเชียงใหม่ก็ได้ ไม่หวงไม่ห้ามหรอก

ตอนนี้หาทางตกลงกับชาวบ้านที่ อ.สวรรคโลก ให้ได้ก่อนก็แล้วกัน พื้นที่นั้น เป็นพื้นที่การเกษตรที่อุดมสมบูรณ์แถมเป็นชุมชนหนาแน่นริมฝั่งแม่น้ำยม ตั้งแต่ตัวจังหวัดสุโขทัย จนถึง อ.สวรรคโลกเชียวล่ะ และเหนือ อ.สวรรคโลก ขึ้นไปจนถึง อ.ศรีสัชนาลัย ก็เป็นเขตเมืองเก่าศรีสัชนาลัยอีกด้วย

อย่าให้เป็นปัญหาที่นายกฯ ต้องลงมาแก้ไขเอง แบบเคสกรมการบินพลเรือน กับ ICAO นะครับ

[Wisarut]

^^^
ส่อว่าเล่นการเมือง เพื่อล่อใจคนเชียงใหม่ ที่ ไม่ชอบใจรถไฟสาย เด่นชัย - เชียงราย - เชียงของที่บ่อนทำล่ยความเป็นศูนย์กลางภาคเหนือ เนื่องจากมหายใจไว้เด็ดขาดว่าจะให้ต่อจากเชียงใหม่ไปเชียงรายให้ได้ แม้ต้องกดคนเมืองแพร่ให้จมธรณีก็ตามที

นอกจากนี้ ก็เพราะ จีนที่ตั้งฐานการลงทุนที่เชียงรายได้ reject ทางรถไฟสายสถานีกลางบางซื่อไปเชียงใหม่ก็เพราะ ไม่ต่อไปเชียงราย - เชียงของ ก็เลยคิดล่อใจจีนแดงโดยคิดทางสายนี้ขึ้นมาหนะครับ

[Wisarut]

ทางรถไฟสายอุบล - ช่องเม็กอาจได้เกิด แต่ ทางรถไฟสาย เด่นชัย - เชียงรายทำท่าจะแท้งเพราะ ไม่โดนใจบิกจิน ที่อยากได้ทางรถไฟสายเชียงใหม่ - เชียงราย ที่น่าจะผ่านพะเยาด้วย
ตามข่าวต่อไปนี้
//------------------------

บูม "เชียงของ-หนองคาย-ช่องเม็ก" เชื่อมเขตเศรษฐกิจพิเศษทะลุเออีซี
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
27 เมษายน 2558 เวลา 12:59:06 น.


เออีซีกับโอกาสของประเทศไทย เพื่อก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางแห่งภูมิภาคอาเซียน "บิ๊กจิน-พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง" เจ้ากระทรวงคมนาคม จึงเดินหน้าขับเคลื่อนแผนงานที่จะมารองรับการเชื่อมการค้ากับมิตรประเทศชายแดนในเห็นเป็นรูปแบบในปี 2558

โครงข่าย ศก.พิเศษเสร็จปี60



"พล.อ.อ.ประจิน" เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า กระทรวงอยู่ระหว่างเร่งรัดลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่ได้รับงบฯกลาง 2,622 ล้านบาท มาก่อสร้าง 45 โครงการในปี 2558-2559 ให้เสร็จทั้งหมดในปี 2560 โดยมีระยะเร่งด่วน 7 พื้นที่ชายแดน ได้แก่ แม่สอด มุกดาหาร สระแก้ว ตราด สะเดา ปาดังเบซาร์ และหนองคาย เมื่อแล้วเสร็จจะทะลุชายแดนไทยไปยังมิตรประเทศทั้ง สปป.ลาว กัมพูชา เมียนมาร์

"อย่างน้อยปลายปี"58 ถนนเชื่อมเมียนมาร์เส้นทางแม่สอดไปกอกะเร็กน่าจะเสร็จ ตามมาด้วยสะพานข้ามแม่น้ำเมยแห่งที่ 2 กับถนนเชื่อมบ้านพุน้ำร้อนไปยังทวายเสร็จปี"59 เช่นกัน เส้นอื่นทยอยตามมา" พล.อ.อ.ประจินกล่าวและว่า

บูมเส้นทาง ปากเซ-ช่องเม็กŽ

นอกจากนี้ เตรียมเสนอรัฐบาลให้พิจารณาก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขง หรือสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 5 จ.บึงกาฬอีก 1 แห่ง สร้างเส้นทางรถไฟทางคู่สายใหม่เชื่อม สปป.ลาวใต้ จากสถานีอุบลราชธานี-ด่านช่องเม็ก ติดชายแดน สปป.ลาว แขวงปากเซ ระยะทาง 80 กิโลเมตร ทางการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) กำลังขอจัดสรรงบฯปี 2559 จำนวน 15 ล้านบาท ศึกษาและสำรวจเส้นทาง

ยกระดับรถไฟหนองคาย

ขณะเดียวกัน "สปป.ลาว" ขอให้ไทยสร้างทางรถไฟจากท่านาแล้ง-เวียงจันทน์ เป็นรางขนาดมาตรฐาน 1.435 เมตร เชื่อมกับรถไฟจีน-ลาว ที่จะสร้างจากคุนหมิงลงมาที่เวียงจันทน์

"จะนำเรื่องที่รัฐบาลลาวเสนอให้รัฐบาลไทยเห็นชอบ เพราะเดิมลาวสร้างเป็นรถไฟ 1 เมตร เชื่อมท่านาแล้ง-เวียงจันทน์ แต่ตอนนี้หมดความจำเป็นแล้ว จึงอยากได้รางมาตรฐาน"

สำหรับจุดเชื่อมต่อรถไฟ 3 ประเทศ "จีน-ลาว-ไทย" ที่หนองคาย ผลหารือร่วมกับรัฐบาลลาว เมื่อ 4 เมษายนที่ผ่านมา จะสร้างสะพานแห่งใหม่รางมาตรฐาน 1.435 เมตร คู่ขนานสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 1 (หนองคาย-เวียงจันทน์) ห่างสะพานเดิมไปทางด้านเหนือของแม่น้ำ 10-30 เมตร หรือหากมุ่งหน้าไปเวียงจันทน์จะอยู่ฝั่งขวามือ

ปั้นเชียงของ ฮับการค้า-ท่องเที่ยว

ด้านโครงข่ายรองรับ "ด่านเชียงของ" จ.เชียงราย อีกหนึ่งด่านการค้าสำคัญ และเป็นหนึ่งในพื้นที่พัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนภาคเหนือที่เชื่อมทะลุไปยังลาว-จีน "บิ๊กจิน" ระบุว่า นอกจากสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 4 (เชียงของ-ห้วยทราย) ที่เปิดใช้เมื่อปี 2556 ที่เชื่อมการค้าไทย ลาว จีน ผ่านเส้นทางบ่อเต็น บ่อหาน ไปจนถึงคุนหมิง ปัจจุบันเป็นเส้นทางที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวจีนเป็นจำนวนมาก โดยใช้บริการรถบัส-รถตู้ ล่าสุดมีนักท่องเที่ยวถึง 2 ล้านคน/ปี

กระทรวงมีแผนก่อสร้างศูนย์เปลี่ยนถ่ายสินค้าที่เชียงของ วงเงิน 1,490 ล้านบาท บนพื้นที่ 280 ไร่ใกล้ด่าน อยู่ระหว่างของบฯกลางเวนคืนที่ดิน 871 ล้านบาท ส่วนงบฯก่อสร้างให้กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ของบประมาณปี 2559 กำหนดแล้วเสร็จใน 2 ปีครึ่ง

"ต้องเร่งให้เร็วขึ้นเพราะโครงการล่าช้ามามากแล้ว อีกทั้งถูกกำหนดให้เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนในระยะที่ 2 เมื่อแล้วเสร็จจะเป็นจุดบริการครบวงจร ทั้งด่านศุลกากร ตรวจคนเข้าเมือง ตรวจสินค้าและสัตว์"

เร่งวงแหวน-รถไฟสายใหม่

ไม่เพียงแค่นั้น "บิ๊กจิน" บอกว่า ยังเร่งรัดให้กรมทางหลวง (ทล.) และกรมทางหลวงชนบท (ทช.) เร่งรัดก่อสร้างวงแหวนรอบนอกที่ทางหลวงหมายเลข 1 (ถนนพหลโยธิน) พร้อมสร้างทางลอดและทางข้ามบนถนนสายหลักและสายรองในเมือง-นอกเมือง เพื่อเป็นโครงข่ายรองรับท่าเรือเชียงแสนและด่านเชียงของ ป้องกันเชียงรายไม่ให้เกิดปัญหารถติดเหมือนเชียงใหม่

โดยถนนของกรมทางหลวงจะสร้างด้านตะวันตก 18 กิโลเมตร ค่าก่อสร้าง 1,800 ล้านบาท จากช่วงก่อนเข้าเมืองมาบรรจบกับถนนพหลโยธิน แล้วเสร็จปี 2560 รองรับมอเตอร์เวย์เชียงใหม่-เชียงรายในอนาคต ส่วนถนนกรมทางหลวงชนบทสร้างตามถนนผังเมืองรวมเชียงรายสาย จ.3 (ถนนเวียงบูรพา) เชื่อมถนนวงแหวนตะวันตก 12 กิโลเมตร แนวเส้นทางอยู่ด้านตะวันออกต่อเชื่อมจากถนนสาย 1098 มาถึงถนนพหลโยธิน อยู่ระหว่างก่อสร้างช่วงที่ 4 กำหนดเสร็จปลายปี 2558

ส่วนเส้นทางรถไฟ "บิ๊กจิน" ย้ำชัดจะยกเลิกเส้นทางจากเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ เนื่องจากจีนไม่มีนโยบายจะสร้างเส้นทางรถไฟมาเชื่อมแล้ว ทำให้การพัฒนาเส้นทางรถไฟน่าจะเป็นเส้นทางตัดใหม่เชื่อมจากเชียงใหม่-เชียงราย เริ่มศึกษาปี 2559

นี่คือภาพการเชื่อมโยงกับมิตรต่างแดนที่จะเห็นผลในระยะสั้นและระยะยาวนับจากนี้