สลด! อีกครั้งกับรถไฟใน 3 จังหวัดใต้ (21/06/51)

[Theer]

งานนี้เห็นข่าวแล้วพูดไม่ออกบอกไม่ถูก สลดใจ คงต้องแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตทุกครอบครัวครับ
อยากรู้เหมือนกันว่าถ้าครอบครัวมันโดนบ้างเนี่ยจะรู้สึกอย่างไร แค่ประนามมันยังน้อยเกินไป แบบนี้มันต้องให้กรรมตามทันแบบติดจรวดจะดีกว่าครับ

[ukito]

จาก หนังสือพิมพ์ข่าวสด 24-6-51

พ.ต.อ.ชาญ วิมลศรี รอง ผบก.ภ.จ. นราธิวาส ซึ่งได้รับแต่งตั้งจากพล.ต.ต.พงษ์ศักดิ์ นาควิจิตร ผบก.ภ.จ.นราธิวาส เป็นหัวหน้าชุดในการคลี่คลายคดี ร่วมกับพนักงานสอบสวนและทีมงานชุดคลี่คลายคดีความมั่นคง ทยอยเรียกพยานบุคคล 30 รายซึ่งโดยสารอยู่ในโบกี้โดยสารที่ 2 ของขบวนรถไฟที่ 454 วิ่งต้นทางจากสถานีรถไฟสุไหงโก-ลก จรดปลายทางสถานีรถไฟนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุที่กลุ่มคนร้ายบุกยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจและพนักงานรถไฟเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ ให้ปากคำในเบื้องต้นแล้ว

จากการสอบสวนส่วนใหญ่พยานให้การคล้ายกันว่า คนร้ายแต่งกายคล้ายทหารจำนวน 5-6 คน ใช้ผ้าสีดำมาคาดศีรษะและสวมหมวกไหมพรมแต่เปิดหน้า แต่ข้อมูลไม่ชัดเจนว่ากลุ่มคนร้ายแฝงตัวขึ้นขบวนรถไฟจากที่ใดและนั่งโดยสารโบกี้ใด เนื่องจากก่อนที่จะก่อเหตุพยานเห็นกลุ่มคนร้ายได้ทยอยกันเดินมาจากโบกี้ด้านหลัง และมีการทักทายพูดคุยกับชาวบ้าน 1-2 คน ที่คาดว่าเป็นคนร้ายกลุ่มเดียวกันที่ทำหน้าที่ดูลาดเลาความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่ตำรวจและพนักงานรถไฟ ที่นั่งรวมกันในโบกี้ แต่พยานทั้งหมดไม่สงสัยคิดว่าเป็นเจ้าหน้าที่ทหารที่ทำหน้าที่ รปภ.ขบวนรถไฟ

เมื่อขบวนรถไฟแล่นใกล้ถึงสถานีรถไฟมะรือโบ ทราบข่าวหัวรถจักรของขบวนรถไฟถูกยิง ต่างคนต่างใจจดใจจ่อไปที่เหตุยิงหัวรถจักร แล้วกลุ่มคนร้ายทยอยเดินจากโบกี้โดยสารที่ 3 มายังโบกี้โดยสารที่ 2 ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจและพนักงานรถไฟนั่งอยู่ โดยไม่ได้ระวังตัว กลุ่มคนร้าย 3 คน มีอาวุธปืนครบมือ เดินเข้าไปประชิดเจ้าหน้าที่ตำรวจและพนักงานรถไฟ พร้อมใช้อาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่จนมั่นใจว่าเสียชีวิต กลุ่มคน ร้ายที่ยืนคุมเชิงอีก 2 คน ได้ตะโกนเป็นภาษายาวี ให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องขัดขวางและเงยหน้าดูกลุ่มคนร้ายเด็ดขาด

เวลา 09.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.ยะลา หลังเกิดเหตุยิงเจ้าหน้าที่รถไฟ เป็นเหตุให้รถไฟสายใต้หยุดบริการ ส่งผลให้ประชาชนในพื้นที่หันไปใช้บริการรถตู้และรถแท็กซี่แม้จะมีราคาสูง เนื่องจากมีความจำเป็นในการเดินทางไปทำงาน และประกอบอาชีพ

น.ส.พันทิพย์ ศรีพนม หัวหน้าคิว บริษัทวีระกร จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทรถตู้ที่รับส่งผู้โดยสารใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เปิดเผยว่า หลังจากที่ขบวนรถไฟได้ประกาศหยุดวิ่ง สายสุไหงโกลก-ยะลา ทำให้ผู้โดยสารแห่มาใช้บริการรถตู้และรถแท็กซี่กันเป็นจำนวนมาก ทำให้ผู้ประกอบการรถตู้ช่วงนี้คึกคักเป็นพิเศษ ทางบริษัทได้มีการเสริมรถเพื่อรองรับผู้โดยสาร พร้อมให้บริการแก่ประชาชนอย่างเต็มที่ ขณะนี้มีรถวิ่งอยู่ 3 คิว คือคิววีระกร คิวสามัคคีปัตตานีขนส่ง และคิวสามัคคี โดยค่าโดยสาร ยะลา-สุไหงโกลก 140 บาท ยะลา-นราธิวาส 120 บาท หากรถไม่เพียงพอก็จะประสานขอรถจากคิวอื่น ส่วนใหญ่ผู้โดยสารจะมากในวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ จันทร์

"หากมีรถไฟวิ่งก็จะไม่มีผู้โดยสารมาใช้บริการรถตู้ เพราะผู้โดยสารส่วนใหญ่จะหันไปใช้บริการรถไฟ เนื่องจากเดินทางด้วยรถไฟราคาค่าโดยสารจะถูกกว่ารถตู้" น.ส.พันทิพย์ กล่าว

ที่สถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่ จ.สงขลา บรรยา กาศค่อนข้างเงียบเหงา หลังจากขบวนรถไฟเส้นทางสถานีหาดใหญ่ไปยัง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้หยุดวิ่งชั่วคราว ซึ่งมีทั้งขบวนรถท้องถิ่นและขบวนรถทางไกล รวม 22 ขบวน เนื่องจากผู้โดยสารที่จะเดินทางไปยังพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ส่วนใหญ่ ได้ทราบข่าวการหยุดเดินรถและหันไปใช้บริการรถยนต์โดยสารแทน แต่สำหรับประชาชนที่เดินทางด้วยรถไฟจากกรุงเทพฯ ซึ่งจะสิ้นสุดที่สถานีชุมทางหาดใหญ่ต้องใช้บริการรถบัส รถตู้ หรือรถแท็กซี่แทน และในส่วนของเส้นทางหาดใหญ่-กรุงเทพฯ และขบวนรถท้องถิ่นจากสถานีหาดใหญ่ขึ้นไป ประชาชนยังคงมาซื้อตั๋วเดินทางตามปกติ เนื่องจากทางการรถไฟยังเปิดเดินรถตามปกติทุกขบวน จึงไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชนแต่อย่างใด
_________________
ทรายเม็ดเล็ก ๆ ถ้ามากพอก็สามารถจมเรือใหญ่ได้ Ukito Yoji

[Mongwin]

ตำรวจนราฯ เผยคนร้ายยิง จนท.รถไฟ ยังกบดานในพื้นที่

นราธิวาส 24 มิ.ย.- เมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้ (24 มิ.ย.) พ.ต.อ.สมพงษ์ ชิงดวง รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส แถลงที่ห้องประชุมปาหนัน กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส ถึงกำลังสนธิกว่า 800 นาย เข้าปิดค้นพื้นที่เป้าหมาย 42 จุด 13 อำเภอ เมื่อเช้ามืดที่ผ่านมาว่า เป็นการขยายผลจากเหตุคนร้ายยิงพนักงานและตำรวจรถไฟเสียชีวิต 4 ราย บนขบวนที่ 454 สุไหงโก-ลก-นครศรีธรรมราช ที่ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 21 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลากว่า 4 ชั่วโมง สามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้ 2 ราย อยู่ระหว่างการสอบขยายผลที่ศูนย์เสริมสร้างสมานฉันท์ ค่ายอิงคยุทธบริหาร อ.หนองจิก จ.ปัตตานี นอกจากนี้ ยังจับกุมผู้ต้องหาคดีต่าง ๆ ได้อีก 10 ราย พร้อมของกลางจำนวนหนึ่ง



ล่าสุดเจ้าหน้าที่พบเบาะแสแล้วว่าคนร้ายเป็นกลุ่มเดียวที่ทำร้าย น.ส.จูหลิง ปงกันมูล ครูโรงเรียนบ้านกูจิงลือปะ อ.ระแงะ เสียชีวิตเมื่อวันที่ 19 พ.ค. 2549 และคนร้ายที่ยิงพนักงานรถไฟยังถูกเจ้าหน้าที่ยิงบาดเจ็บด้วย ขณะนี้ยังคงหลบซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ ซึ่งต้องขอความร่วมมือประชาชนช่วยกันแจ้งเบาะแส หากพบกลุ่มคนร้ายเข้ามาอาศัยกบดาน.-สำนักข่าวไทย

อัพเดตเมื่อ 2008-06-24 15:34:59

[Nuntachai]

ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตครับ
ผมเชื่อเรื่องกฎแห่งกรรม ทำดี ได้ดี ทำชั่ว ได้ชั่ว

คัพภเมเกอุปัชชันติ นิรยัง ปาปกัมมิโน
สัคคัง สุคติโน ยันติ ปรินิพพันติ อนาสวา

สัตว์บางพวกกลับมาเกิดอีก
พวกที่ทำบาป ไปนรก
พวกที่ทำดี ไปสวรรค์
พวกที่หมดอาสวกิเลส ปรินิพพาน

___________

[Mongwin]

ออกหมายจับ 4 ป่วนใต้ คดียิง จนท.รถไฟ นราธิวาส

สงขลา 25 มิ.ย.51 -ศาลจังหวัดนราธิวาสอนุมัติหมายจับแล้ว 4 ราย คดียิง จนท.รถไฟเสียชีวิตบนขบวนรถไฟเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา หลังตำรวจสอบพยานให้การชัดและชี้ตัวตรงกันในแฟ้มอาชญากร ด้าน รฟท.หาดใหญ่ ประชุมอีกรอบเสนอใช้หัวรถจักรประสิทธิภาพวิ่งล่องชายแดนใต้

พ.ต.อ.ชาญ วิมลศรี รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส หัวหน้าชุดคลี่คลายคดีคนร้ายยิงเจ้าหน้าที่รถไฟเสียชีวิตในโบกี้ 4 ราย รวบรวมพยานหลักฐานเสนอศาลจังหวัดนราธิวาส ในวันนี้ (25 มิ.ย.) เพื่อขออนุมัติหมายจับ 4 ราย หลังจากเจ้าหน้าที่เรียกสอบพยานบุคคลถึง 30 ปาก ในเหตุการณ์มีความคืบหน้ามาก โดยเฉพาะรูปพรรณสัณฐานของคนร้ายที่นำมาเทียบกับเทปบันทึกภาพในกล้องวงจรปิด และแฟ้มประวัติอาชญากรรมคดีความมั่นคงที่พยานสามารถชี้ได้ตรงกัน

ล่าสุด ศาลอนุมัติหมายจับแล้วทั้ง 4 ราย ซึ่งเป็นคนในพื้นที่ อ.ระแงะ คือ นายฮาเร็ม เจ๊ะแน นายดือราพา เจ๊ะอูมา นายอำรัน มิง และนายอาซือมิง สาแม สำหรับนายฮาเร็ม กับนายดือราพา เป็นผู้ที่ร่วมทำร้าย น.ส.จูหลิง ปงกันมูล ครูโรงเรียนบ้านกูจิงลือปะ อ.ระแงะ เสียชีวิต เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2549 ส่วนนายอำรัน และนายอาซือมิง มีประวัติก่อเหตุในพื้นที่มากมาย ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ส่งตำรวจนอกเครื่องแบบติดตามหาตัวบุคคลทั้ง 4 อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะตามบ้านเครือญาติ และทราบว่าทั้งหมดหลบหนีไปก่อนแล้ว

นายสุพิเชษฐ สุวรรณชาตรี ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการรถไฟแห่งประเทศไทย (สร.รฟท.) สาขาหาดใหญ่ จ.สงขลา กล่าวว่า จากการประชุมร่วมกับฝ่ายเทคนิค รฟท. ในวันนี้ เห็นว่าควรนำเครื่องจักรและอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่มีความคงทนแข็งแรง ทันสมัย โดยเฉพาะหัวรถจักรที่จะนำมาใช้ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีประสิทธิภาพสูง เพื่อป้องกันอันตรายให้กับพนักงานในระหว่างปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งเป็นหนึ่งในแนวทางที่พนักงานเรียกร้องก่อนเปิดบริการอีกครั้ง.-สำนักข่าวไทย

อัพเดตเมื่อ 2008-06-25 15:21:23

[Mongwin]

รถไฟหยุดวิ่ง 4 จว.ภาคใต้ อย่าปล่อยยืดเยื้อ...ระวังเข้าทางโจร

สถานการณ์ไฟใต้ที่ดูเงียบ ๆ ไป จนหลายฝ่ายมองกันว่าความรุนแรงอาจจะลดลงแล้ว แต่สุดท้ายเป็นแค่ความฝัน ในที่สุดก็เดือดปะทุขึ้นมาอีกแถมรุนแรงยิ่งกว่าเดิม เริ่มจากลอบวางระเบิดรถยนต์ พ.ต.ท.นรัตน์ เทพเฉลิม รอง ผกก.สภ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี ทำให้ รอง ผกก. และตำรวจชั้นประทวนอีก 1 นาย พลีชีพถึง 2 ศพ ต่อด้วยการซุ่มยิง ตชด.ชุดคุ้มครองครู บ้านสันติ 1 อ.บันนังสตา เป็นเหตุให้ “ผู้หมวดตี้” ร.ต.ต.กฤตติกุล บุญลือ เสียชีวิต พร้อมด้วย พ.ต.ท.กิตติกาล กัปปิยบุตร และลูกน้อง บาดเจ็บสาหัส

จากนั้นแนวร่วมโจรใต้แฝงกายบุกขึ้นขบวนรถไฟสายนครศรีธรรมราช-สุไหงโก-ลก จ่อยิง นายสถานีรถไฟ ตำรวจ และ พขร. ประจำขบวนรถเสียชีวิตสุดสยอง 4 ศพ เหตุเกิดท้องที่ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ก่อนปิดท้ายด้วยการเผาที่ทำการสาธารณภัย เทศบาล ต.ตะลุบัน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี จนวอดวายรวมทั้งรถยนต์อีก 9 คัน รวมมูลค่าเสียหายไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการย้ำเตือนให้สังคมได้รับรู้ว่า ขบวนการแบ่งแยกดินแดน ยังมีความสามารถในการก่อความไม่สงบในพื้นที่ทั้ง 3 จังหวัด เพื่อข่มขู่มวลชนในพื้นที่ มิให้ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่รัฐ และนอกจากนั้น ยังเป็นการทำให้เห็นว่า การที่ กอ.รมน. ภาค 4 ส่วนหน้า ออกมาระบุว่า การปฏิบัติการทางการเมือง และการทหาร ได้ผลดี สามารถกดดัน “แนวร่วม” จนไม่สามารถก่อเหตุร้าย อย่างต่อเนื่องนั้น เป็นเพียงการโฆษณาชวนเชื่อ เท่านั้น

หลังเกิดเหตุยิงเจ้าหน้าที่รถไฟที่ ต.มะรือโบ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส สิ่งที่ติดตามมา ไม่ได้หมายถึงความตึงเครียดในพื้นที่หรือความล้มเหลวในการป้องกันชีวิตและทรัพย์สินของราชการ และประชาชน แต่ยังหมายถึงความเดือดร้อนของประชาชนใน 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทุกวันนี้ต้องใช้บริการรถไฟในชีวิตประจำวันแทนการใช้รถยนต์ จากพิษของน้ำมันแพง การสัญจรด้วยการโดยสารรถไฟเป็นปัจจัยสำคัญ เพราะราคาถูกที่สุด ในบรรดาพาหนะที่ใช้เดินทาง และสิ่งสำคัญผู้ที่ใช้บริการรถไฟ เป็น นักเรียน นักศึกษา ข้าราชการระดับเล็ก และชาวบ้านในพื้นที่

หลังเกิดเหตุโจรใต้บุกยิงกราดเจ้าหน้าที่รถไฟและตำรวจเสียชีวิตอุกอาจ 4 ศพ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้ประกาศหยุดเดินรถในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประกอบด้วย ยะลา ปัตตานี นราธิวาส และ 4 อำเภอของ จ.สงขลา เพื่อความปลอดภัยจนกว่าจะได้รับคำตอบที่พอใจจากหน่วยงานฝ่ายความมั่นคงหรือรัฐบาล โดยหวังว่าจะดูแลให้ความปลอดภัยแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานของการรถไฟ และประชาชนผู้ใช้บริการได้มากน้อยเพียงใด

โดยข้อเท็จจริงขบวนรถไฟและเส้นทางรถไฟ คือหนึ่งในเป้าหมายของ ขบวนการแบ่งแยกดินแดน ในการซุ่มโจมตี และการก่อวินาศกรรม แต่ในระยะหลัง การซุ่มยิงขบวนรถไฟถูกลดการปฏิบัติการลง เนื่องจากไม่ต้องการให้ผู้โดยสารที่เป็น “ชาวบ้าน” ซึ่งส่วนใหญ่เป็น “ชาวมุสลิม” ถูกลูกหลง ดังนั้นปฏิบัติการล่าสุดของโจรใต้คือการ แต่งชุดลายพรางแบบ ทหาร ขึ้นไปปฏิบัติการ บนขบวนรถไฟ ทำให้เล็ดลอดสายตาการรักษาความปลอดภัยก่อเหตุได้อย่างอุกอาจ

หากย้อนกลับไปวิเคราะห์ยุทธวิธีของ “แนวร่วม” ขบวนการบีอาร์เอ็นโคออดิเนต ที่นำมาใช้ ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ถ้าสังเกตให้ถี่ถ้วน จะพบว่า การก่อวินาศกรรม เส้นทางรถไฟ หรือการถอดนอตเสาไฟฟ้าแรงสูง หวังผลใน 2 ด้านเป็นหลัก ด้านหนึ่ง คือการทำลายทรัพย์สินทางราชการ เช่น รถไฟเสียหาย เสาไฟเสียหาย กับอีกด้านคือ ขบวนการต้องการให้กำลังทหาร ที่เกาะติดในหมู่บ้าน ต้องแบ่งกำลังเป็นชุดเล็ก ๆ เพื่อลาดตระเวนเส้นทางรถไฟ และเฝ้าเสาไฟฟ้าแรงสูง ซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนมาก เมื่อทหาร ต้องแบ่งกำลังเป็น ชุดเล็ก ๆ ชุดละ 7-10 คน จะทำให้การยึดพื้นที่ในหมู่บ้านทำได้ไม่ทั่วถึง “แกนนำ” และ “แนวร่วม” สามารถเคลื่อนไหวข่มขู่ ปลุกระดม ชาวบ้านได้สะดวก และเมื่อกำลังทหารจัดเป็นชุดเล็ก ๆ ออกลาดตระเวนทางรถไฟ เฝ้าเสาไฟฟ้า ทั้งหมดล้วนอยู่ในป่า แนวร่วมก็จะถือโอกาสซุ่ม ยิงได้ง่าย สร้างความสูญเสียให้เกิดขึ้นกับทหาร ตำรวจได้ทุกวัน

ถ้าสังเกตต่อไปจะเห็นว่า ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา “สายข่าว” ของบ้านเมือง ไม่ว่าจะเป็น ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำศาสนา และ ชาวบ้าน ที่เป็น “มุสลิม” ต่างตกเป็น “เป้าหมาย” ในการเอาชีวิต จนทำให้จำนวนผู้เสียชีวิตใน 3 เดือนที่ผ่านมา เป็นชาวมุสลิมเกือบทุกราย ซึ่งการมุ่งเอาชีวิตจะทำกันอย่างโหดเหี้ยม เช่นกรณีถ้าสายข่าวมีลูกชายกี่คน ถ้าอยู่ในที่เกิดเหตุก็จะฆ่าหมดยกครอบครัว เพื่อเป็นการตัดตอนแบบถอนรากถอนโคน เนื่องจากหลายครั้งที่เกิดเหตุการณ์แนวร่วมฆ่าสายข่าว เจ้าหน้าที่รัฐจะนำเอาลูกหลาน ของผู้ตายไปทำงานเป็นทหารพราน ลูกจ้าง หรืออื่น ๆ เพื่อเป็นกำลังของเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น ในการเพิ่มขีดความสามารถ ไล่ล่าแนวร่วมในพื้นที่ ดังนั้นในระยะหลัง “แนวร่วม” จึงได้ปฏิบัติการ “ฆ่ายกครัว” ให้หมด ตามที่เป็นข่าว

ณ วันนี้ สิ่งแรกที่รัฐต้องให้ความสนใจคือ ในพื้นที่ จ.นราธิวาส หลังจากที่ ตำรวจ ทหาร และ นาวิกโยธิน สนธิกำลัง ปฏิบัติการ ตรวจค้น กวาดล้าง จับกุม เกาะติดพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ทำให้แนวร่วมจำนวน มาก หลบไปอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน ในขณะที่กลุ่มติดอาวุธ ระดับ “คอมมานโด” จะอาศัยการเคลื่อนไหว ในระหว่างแนวชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน กับพื้นที่ปฏิบัติการ เช่นเดียวกับชุดปฏิบัติการ ยิงเจ้าหน้าที่บนขบวนรถไฟ ที่ อ.รือเสาะ ซึ่งเป็นชุดคอมมานโด นอกพื้นที่ หลังจากปฏิบัติการเสร็จ ได้เคลื่อนย้าย เข้าไปยังประเทศเพื่อนบ้านทันที

และสถานการณ์นับตั้งแต่นี้ต่อไป ซึ่งมีรายงานข่าวในเชิงลึก ขบวนการจะปฏิบัติการด้วยความโหดเหี้ยม และรุนแรงยิ่งขึ้น มีการใช้ชุดปฏิบัติการ คอมมานโด เพิ่มขึ้นในทุกพื้นที่ทั้ง 4 จังหวัด โดยเป้าหมายหลักอยู่ที่ เจ้าหน้า ที่รัฐระดับผู้นำหน่วย และจะมีการปฏิบัติการ ก่อวินาศกรรม ที่ รุนแรงต่อเป้าหมาย โดยจะไม่มีการปฏิบัติการแบบสะเปะสะปะ เหมือนในอดีต เพื่อยกระดับการก่อการร้าย และสุดท้าย กองกำลังติดอาวุธของขบวนการ ในพื้นที่ 3 จังหวัด ถูกบ่มเพาะ ให้มีความกล้า ในการนำกำลังเข้าปะทะซึ่งหน้ากับกำลังเจ้าหน้าที่ ด้วยการพร้อมที่จะสละชีวิต ตามอุดมการณ์ ที่ถูกสอนกันมาแบบ “สุดโต่ง”

ทั้งหมดคือโจทย์ที่ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ต้องแก้ให้ได้ โดยเฉพาะเรื่องความเดือดร้อนของประชาชน ที่ใช้บริการรถไฟ ซึ่งเป็นสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานของประชาชนระดับ “ชาวบ้าน” ในพื้นที่ ถ้ารถไฟหยุดนานเท่าไหร่ ยิ่งสร้างความรู้สึกให้กับชาวบ้านว่า รัฐไม่มีความสามารถในการดูแลความเป็นอยู่ของประชาชน ซ้ำเติมให้ได้รับความเดือดร้อน ทั้งหมดเป็นความล้มเหลวของงานดับไฟใต้ที่มีผลจาก “การเมือง” ที่ไม่เหลียวแลประชาชนในท้องถิ่น เป็นการ “ผลัก” ให้ประชาชนอีกส่วนหนึ่งที่ยัง “ลังเล” กลับไปเข้ากับขบวนการโจรใต้ ยิ่งกลายเป็นการเพิ่มความรุนแรงของสถานการณ์ให้เลวร้ายยิ่งขึ้น

ถึงเวลาแล้วที่ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า จึงต้องประเมินสถานการณ์ให้รอบคอบและเพิ่มแนวรุกในพื้นที่ให้มากขึ้น รวมทั้งฝ่ายการเมืองเองต้องมีความจริงใจในการแก้ปัญหา 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ไม่ใช่ “ผู้รับผิดชอบ” ตัวจริงกลับ “ตาขาว” ไม่เคยลงพื้นที่ดูแลทุกข์สุขของประชาชน แบบนี้เมื่อไหร่ไฟใต้จะมอดสนิทเสียที มองไปมองมาแล้ว “ความหวัง” ริบหรี่เหลือเกิน.

ข้อมูลใช้รถบริการรถไฟ 4 จังหวัดภาคใต้

การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จัดขบวนรถให้บริการประชาชน ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เฉลี่ยวัน ละ 22 ขบวน แบ่งออกเป็นขบวนรถ ด่วน 4 ขบวน รถเร็ว 6 ขบวน รถสินค้า 2 ขบวน และรถโดยสารท้องถิ่นอีก 10 ขบวน

ทุกวันจะมีประชาชนมาใช้บริการ ไม่ต่ำกว่า 6,000 คน/วัน นับเป็นสายเลือดหลักในการสัญจรระหว่างชุมชนต่อชุมชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนภาค ใต้ ที่ราคาประหยัดและเซฟค่าใช้จ่ายได้ ดีที่สุด เนื่องจากราคาจำหน่ายตั๋วถูกมาก ค่าใช้จ่ายต่อเที่ยวไม่กี่บาท ยิ่งในปัจจุบันภาวะน้ำมันแพงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ ประชาชนหันมาใช้บริการรถไฟกันมากขึ้นหลายเท่าตัว
http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?Columnid=59223&Newstype=2&template=2

[Mongwin]

รถไฟใต้รอผลประชุมบ่ายวันนี้ก่อนเปิดบริการ

สงขลา 26 มิ.ย.51 - รถไฟชายแดนใต้หยุดวิ่งมาเป็นวันที่ 5 แล้ว นับตั้งแต่เกิดเหตุพนักงานถูกยิงเสียชีวิตบนโบกี้ถึง 4 ราย เตรียมประชุมร่วมหน่วยความมั่นคงบ่ายวันนี้ ปรับแผนความปลอดภัย หากได้ข้อยุติพร้อมเปิดบริการทันที

นายเรียงศักดิ์ แข็งขัน ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย (สร.รฟท.) พร้อมตัวแทน สร.รฟท.หาดใหญ่ จ.สงขลา และตัวแทนผู้บริหารจากการรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดการหารือกันอีกครั้งเช้าวันนี้ (26 มิ.ย.) ที่ห้องประชุมสถานีรถไฟหาดใหญ่ เพื่อหาข้อสรุปของปัญหาและแผนรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ ก่อนเสนอเข้าที่ประชุมร่วมกับหน่วยงานด้านความมั่นคงในบ่ายวันนี้ ที่มณฑลทหารบกที่ 42 ค่ายเสนาณรงค์ อ.หาดใหญ่

นายสุพิเชษฐ์ สุวรรณชาตรี ประธาน สร.รฟท.หาดใหญ่ กล่าวว่า สิ่งที่พนักงานต้องการคือความมั่นใจในความปลอดภัยขณะให้บริการประชาชน ซึ่งต้องดูว่าแผนที่จะออกมาปรับเปลี่ยนไปจากเดิมอย่างไร นอกจากนี้ ยังต้องการให้นำหัวรถจักรที่มีประสิทธิภาพสูง รวมทั้งอุปกรณ์และเครื่องมือต่าง ๆ มาใช้ในพื้นที่ สำหรับรถไฟยังคงหยุดบริการต่อเป็นวันที่ 5 (26 มิ.ย.) แต่ถ้าการประชุมวันนี้ได้ข้อยุติและพนักงานมีความมั่นใจมากขึ้นจะสามารถเปิดบริการได้ทันที. -สำนักข่าวไทย

อัพเดตเมื่อ 2008-06-26 10:30:58

[Wisarut]

ผอ.ศูนย์ภาคใต้การรถไฟ เผยพร้อมกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ ปล่อยขบวนรถล่องใต้

วันศุกร์ที่ 27 มิถุนายน 2008 15:01น.
สุเมธ ปานเพชร
โต๊ะข่าวภาคใต้ สถาบันอิศรา

ทนงศักดิ์ พงษ์ประเสริฐ ผอ.ศูนย์ภาคใต้การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้กล่าวถึงความพร้อมในการเปิดเส้นทางรถไฟหาดใหญ่ - สุไหงโกลก ในวันพรุ่งนี้( 28 มิ.ย.51) ว่า หลังจากที่ไดมีการประชุมกับหารือกับทางเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงในเรื่องของการรักษาความปลอดภัยการเดินรถไฟในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ขณะนี้ทางการรถไฟได้นำเนินการตรวจสอบความพร้อมของรถไฟและโบกี้รถไฟ โดยเร่งด้วยเพื่อที่จะเปิดให้บริการประชาชนได้ตามปกติ คาดว่า วันพรุ่งนี้สามารถเปิดเดินรถได้กว่า 90 เปอร์เซนต์ ยกเว้นบางขบวนที่กำลังรอเรื่องตรวจสอบความพร้อมของหัวรถจักร เพื่อดำเนินการเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด โดยพรุ่งนี้ขบวนแรกที่จะใช้เส้นทางนี้ คือขบวนรถไฟกรุงเทพ – สุไหงโกลก ออกจากชุมทางรถไฟหาดใหญ่ 06.30 น.

“ส่วนในเรื่องของมาตรการความปลอดภัยนั้น ที่ประชุมได้มีการเสริมมาตรการรักษาความปลอดภัยมากขึ้น ซึ่งมาตรการรักษาความปลอดภัยเดิมที่ใช้อยู่ ก็ถือว่าเป็นมาตรการที่ดีอยู่แล้ว เพียงแต่ว่า คนร้ายอาศัยช่องโหว่บางจุดของมาตรการเดิมที่มีอยู่ ออกมาก่อเหตุได้ ในการเสริมมาตรการเป็นการอุดช่องโหว่และกระตุ้นมาตรการเดิมที่มีอยู่ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับพนักงานของการรถไฟและประชาชนผู้ใช้บริการ ส่วนในรายละเอียดของมาตรการคงไม่สามารถพูดเปิดเผยได้”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มาตรการรักษาความปลอดภัยเส้นทางเดินรถไฟ ทางกำลังเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่ที่มีเส้นทางรถไฟผ่าน ได้จัดกำลังลาดตระเวนเส้นทาง ทุกๆ 5 กิโลเมตร จะมีเจ้าหน้าที่ 1 ชุดรับผิดชอบดูแลลาดตระเวนไป - กลับตลอดเส้นทางที่รับผิดชอบ ทั้งยังเสริมกำลังไปรักษาความปลอดภัยเพิ่มเติมในช่วงของเส้นทางเดินรถที่เป็นพื้นที่เสี่ยง โดยกำลังเจ้าหน้าที่ที่ใช้ในการรักษาความปลอดภัยเส้นทางเดินรถไฟ จะมีทั้งกำลังทหาร ฉก.ในพื้นที และกำลังทหารพรานที่จะมาเสริมการปฏิบัติงานในมาตรการรักษาความปลอดภัยเส้นทางรถไฟ

[Wisarut]

ชาวบ้านสุดทนเดือดร้อนขาดรถไฟจี้ “หมัก” ลาออกแก้ปัญหาไม่ได้

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 26 มิถุนายน 2551 14:01 น.











ยะลา – บรรยากาศของสถานีรถไฟยะลายังคงเงียบเหงา หลังจากที่ขบวนรถไฟในท้องถิ่นประกาศหยุดวิ่ง จนกว่าเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะสามารถหาข้อสรุปมาตรการรักษาความปลอดภัยในการเดินทางได้ ขณะที่ชาวบ้านต่างได้รับความเดือดร้อน ต้องใช้รถยนต์โดยสารแทนซึ่งมีค่าใช้จ่ายแพง จวกรัฐบาลรักษาความปลอดภัยไม่ได้ จะอยู่ไปทำไมยุบสภาไปเลย

วันนี้ (26 มิ.ย.) ที่บริเวณหน้าสถานีรถไฟยะลา อ.เมือง จ.ยะลา บรรดาเจ้าของรถโดยสารขนาดเล็กวิ่งรับส่งผู้โดยสารรอบเมืองยะลา ได้พากันนำรถไปจอดที่สถานี รอผู้มาใช้บริการ แต่ก็ต้องรอเก้อ เพราะไม่มีประชาชนมาใช้บริการ และก็ยังคงมีประชาชนบางส่วนทยอยมาคืนตั๋วโดยสารรถไฟที่ซื้อไว้เพื่อที่จะเดินทางไปยังต่างจังหวัด แต่ก็ไม่สามารถเดินทางไปได้ ต้องหันไปใช้บริการรถโดยสารประเภทอื่นแทน

หลังจากที่การรถไฟแห่งประเทศไทยได้ประกาศหยุดวิ่งรถไฟทุกขบวน เข้ามายังพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย.51 ที่ผ่านมา เพราะไม่มั่นใจในความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน หลังคนร้ายใช้อาวุธสงครามบุกยิงเจ้าหน้าที่รถไฟ บนรถไฟจนทำให้เสียชีวิตจำนวน หลายรายในพื้นที่ จ.นราธิวาส

นายอุดม แซ่เอี้ยว ประชาชนที่ต้องใช้บริการรถไฟเป็นประจำ กล่าวด้วยท่าทางที่ไม่ค่อยพอใจ ว่าตนเองต้องอาศัยรถไฟเดินทางไปทำธุระที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เป็นประจำ เดือดร้อนมากรถไฟไม่กล้าวิ่ง หยุดปิด เอารางรถไฟไปขายดีกว่า เอาไปชั่งเศษเหล็กขาย รัฐบาลรักษาความปลอดภัยไม่ได้จะอยู่ไปทำไมยุบสภาไปเลย ตำรวจทหารก็อย่าให้มีจากปกติเคยนั่งรถไฟไป อ.หาดใหญ่

"เดี่ยวนี้ต้องอาศัยรถเพื่อนๆ ไป ลำบากมากรถตู้โดยสารก็มีราคาแพง สิ่งที่สำคัญคืออยากให้เจ้าหน้าที่ปราบโจรให้หมดไป ให้รัฐบาลปราบโจรให้หมดให้มีความปลอดภัยในชีวิตในทรัพย์สินให้ประชาชนอยู่เย็นเป็นสุข ไปไหนมาไหนก็ไม่ต้องกังวล ไม่ต้องกลัว แม้แต่เจ้าหน้าที่ไปไหนมาไหนยังพกปืนเลย แล้วประชาชนในพื้นที่จะอยู่ยังไง ปืนเต็มไปหมด ต้องอยู่อย่างหวาดระแวง"


// ---------------------------------------------------------

[Mongwin]

'รถไฟ' หัวใจบริการ

นสพ.โฟกัสภาคใต้ เล่มที่ 547 ประจำวันที่ 28 มิถุนายน - 4 กรกฎาคม 2551

การเดินทางบวกกับยานพาหนะ ดูจะเป็นปัจจัยที่ห้าที่หกไปแล้วสำหรับชีวิตคนปัจจุบัน เราจึงพบว่าแต่ละครอบครัวมักมียานพาหนะ ไม่ว่า รถยนต์ รถจักรยานยนต์ จักรยาน ทั้งใช้โดยสารบุคคลและขนส่งสินค้า

คนที่ไม่มียานพาหนะเป็นของตัวเอง ก็ต้องหวังพึ่งขนส่งมวลชนสาธารณะ ทั้งรถโดยสาร รถสองแถว รถเมล์ รถไฟ เครื่องบิน หรือ รถจักรยานยนต์รับจ้าง ก็เป็น
ขนส่งมลชนอย่างหนึ่ง

คนขับรถเหล่านั้น ก็คือคนธรรมดาอย่างเราๆ นี่แหละ พวกเขาต้องทำหากิน
ด้วยการบริการให้ประชาชนสามารถเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางได้อย่างสะดวก
ปลอดภัย

แต่จะเกิดอะไรขึ้น เมื่อพวกเขาเองรู้สึกไม่ปลอดภัยในการทำงาน โดยเฉพาะคนทำงานในระบบขนส่งมวลชนขนาดใหญ่ อย่างรถไฟ

เมื่อพวกเขาไม่กล้าทำหน้าที่แล้ว แน่นอนผลกระทบก็ย่อมเกิดขึ้นในวงกว้าง
เพราะคนที่ต้องพึ่งพารถไฟมีจำนวนมาก ยิ่งในภาวะน้ำมันแพง ระบบขนส่งมวลชน
และขนส่งสินค้าอย่างอื่น ต่างพากันขึ้นค่าบริการ

รถไฟไทย ที่อยู่เคียงข้างคนยากคนจน ก็ยังไม่ขึ้นราคาตามต้นทุนน้ำมัน การ
รถไฟยอมแพงรับภาระที่เพิ่มขึ้นทุกวันแทนประชาชน เพื่อมิให้ประชาชนต้องจ่ายค่า
โดยสารสูงขึ้น แม้ว่าเท่าที่ทราบมา การรถไฟไทยมีภาระ หนี้สินค้างอยู่เป็นหมื่นล้าน
ก็ตาม

วันนี้ รถไฟสายใต้ไปไม่ถึงปลายทาง เพราะอะไรหรือจะสำคัญเท่ากับรักษาชีวิตเอาไว้ แทนที่ต้องวิ่งฝ่าดงกระสุนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในภาวะที่มาตรการรักษา
ความปลอดภัยในสถานการณ์ไม่สงบ จะว่าไปแล้วก็เข้มข้นพอสมควร ก็ยังมีช่องโหว่
ช่องวาง ให้คนบางกลุ่มพวกพวก ที่มีแนวคิดใช้ความรุนแรงในการต่อสู้ หาโอกาสก่อ
เหตุจนได้

เย็นวันที่ 17 มิถุนายน 2551 ขบวนรถไฟสายสุไหงโก - ลก - ยะลา ก็ถูก
กลุ่มก่อนความไม่สงบบุกขึ้นไปยิงทำร้ายจนเสียชีวิตไป 4 คน บาดเจ็บอีก 1 คน

แน่นอนว่าเป้าหมายของกลุ่มขบวนการคือคนของรัฐ ตามยุทธศาสตร์ การต่อสู้ แต่เมื่อเป็นคนรัฐผู้รับบทนักบริการ ผู้รับบริการก็ย่อมต้องได้รับผลกระทบไปด้วย
เป็นธรรมดา

ในภาวะเช่นนี้ พวกเขาก็ต้องหวังพึ่งคนรัฐผู้รับบทรักษาความมั่นคง ในการดูแล
รักษาความปลอดภัยให้ ก็อาจเป็นเรื่องธรรมดาด้วย เพราะ 3 ใน 4 คนรถไฟนั่น
ไม่ใช่เหยื่อรายแรก

ทางเดียวที่พอทำได้ ฝ่ายความมั่นคงก็คงต้องมีมาตรการที่เข้มงวด มากขึ้น ซึ่ง
แน่นอนย่อมสร้างความอึกอัดมากขึ้นในการรับบริการของประชาชน แต่ทุกคนก็
ต้องการความปลอดภัยมากที่สุดด้วยเช่นกัน

เช่นเดียวกับระบบขนส่งมวลชนอื่นๆ ความปลอดภัยคือหัวใจของงานบริการ
นั่นเอง

งานความปลอดภัยในชายแดนใต้ เป็นเหตุผลหลักในการทำงานในพื้นที่ของคนรัฐผู้รับบทความมั่นคง ทั้งงานความปลอดภัยเชิงรุกและเชิงรับ

จึงไม่แปลกที่เกือบทุกหย่อมหญ้าในชายแดนใต้ คนรัฐผู้รับบทดูแล ด้ายความ
มั่นคงได้เข้ายึดกุมพื้นที่ สร้างฐานที่มั่นไว้รับมือกับอุปสรรค ทำลายความปลอดภัย
ทุกรูปแบบ

ชายแดนใต้วันนี้ ยังไม่ทีท่าว่าจะมีสันติสุขอย่างแท้จริง คนรัฐนักบริการก็ยังมี
หัวใจนักบริการ แต่การที่ต้องทำงานท่ามกลางความเสี่ยง ดูอาจ ไม่คุ้มค่าหากต้อง
แลกด้วยลมหายใจ

วันนี้ จึงเป็นอีกครั้งหนึ่งที่ รถไฟสายใต้ไปไม่ถึงปลายทาง

โดย Focus Team เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. 2551 10:19:28 น.