ของฝากจาก GERMANY ตอนที่ 2

[tuie]

ส่องเข้าไปในช่องกระจกทรงกลมที่ฐานประติมากรรมเห็นมีกงล้อเหล็กวางท่ามกลางเศษอิฐ เศษปูน แต่ไม่มีป้ายบอกว่าเป็นเศษวัสดุมาจากที่ใด มีความหมายว่าอย่างไร ตอนแรกผมยังนึกว่าเป็นเศษซาก “กำแพงเบอลิน” อันลือลั่นสะท้านโลกนำมาแสดงไว้ แต่พอไม่มีป้ายยืนยันเลยชักไม่แน่ใจครับ



ที่ฐานด้านหนึ่งมีแผ่นโลหะจารึกประวัติความเป็นมาของ Berlin Hbf. (เป็นภาษาเยอรมันและอังกฤษ) ตั้งแต่เมื่อครั้งที่บริเวณนี้เป็นสถานี Lehrter Bahnhof เชื่อมต่อทางรถไฟสายฮันโนเวอร์และสายฮัมบูร์ก ในปี ค.ศ. ๑๘๗๑ (พ.ศ. ๒๔๑๔) ต่อมาปิดไปในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สองซึ่งมีการแบ่งกรุงเบอลินออกเป็นส่วนของเยอรมนีตะวันออก(คอมมิวนิสต์) กับส่วนของเยอรมนีตะวันตก(ประชาธิปไตย) จนกระทั่งมีการรวมเยอรมนี และย้ายเมืองหลวงจากกรุงบอนน์มาที่กรุงเบอลินอีกครั้งในปี ค.ศ. ๑๙๙๑ โครงการพัฒนาระบบการขนส่งมวลชนในกรุงเบอลินก็เกิดขึ้น ซึ่งการสร้างอาคารสถานี Berlin Hbf. ก็ได้รับการอนุมัติให้ดำเนินงานจนแล้วเสร็จ ประกอบพิธีเปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ ๒๖ พฤษภาคม ค.ศ.๒๐๐๖ (พ.ศ.๒๕๔๙)



ที่ฐานอีกด้านหนึ่งสลักเป็นลายนูนดูคล้ายๆกับกงล้อนะครับ

[tuie]

ใกล้จะแปดโมงครึ่งแล้ว เวลาเหลืออีกไม่มากเท่าไรรีบขึ้นไปยังชานชาลาที่ ๑๓-๑๔ ตามแผนดีกว่า พอก้าวเท้าถึงพื้นชานชาลาก็เห็น “รถกระเช้า” ของ DB แล่นผ่านมาพอดีเลยครับ



ป้ายสี่เหลี่ยมสีแดงขอบขาวที่วางอยู่หน้ารถกระเช้าดูคุ้นตาดีไหมครับ เข้าใจว่าจะใช้ในวัตถุประสงค์เดียวกัน คือ ปักไว้ที่ทางเพื่อแสดงว่าห้ามผ่าน สังเกตว่าที่หลังคารถมีอุปกรณ์รับกระแสไฟฟ้าด้านบนด้วยนะครับ แต่มิได้กางออกใช้เนื่องจากขณะนั้นใช้เครื่องยนต์ดีเซลขับเคลื่อนอยู่



ตอนนั้นรถกระเช้าคันนี้มิได้จอดนิ่งๆเป็นนายแบบให้ช่างภาพพรนรกถ่ายดีๆนะครับ ยังแล่นต่อไปเรื่อยๆเพียงแต่แล่นช้าๆพอที่คนชราแถวๆนี้จะวิ่งไล่ตามทัน ท่ามกลางสายตาประหลาดใจของผู้โดยสารอื่นที่เขามีแต่วิ่งไล่ตามขึ้นรถโดยสารที่กำลังจะได้เวลาปิดประตูเคลื่อนขบวนออกจากสถานี แต่เจ้านี่กลับวิ่งไล่ตามรถกระเช้าซึ่งขึ้นโดยสารไม่ได้เฉยเลย

[tuie]

ไหนๆก็ลงทุนวิ่งไล่ตามรถกระเช้าแล้วสมควรจะวิ่งต่อไปถึงช่วงปลายชานชาลาที่ ๑๓-๑๔ จะได้หายเขินผู้โดยสารที่ยืนมองงงงงแถวๆนั้น ปรากฏว่าโชคเข้าข้างครับ รถกระเช้าจอดรอสัญญาณบริเวณปลายชานชาลาพอดีเลย



สังเกตว่าเจ้าหน้าที่ฝ่ายช่างของ DB ซึ่งปฏิบัติหน้าที่บนรถกระเช้าคันนี้ สวมเสื้อสะท้อนแสงทุกคนตามมาตรฐานความปลอดภัยในการปฏิบัติงานครับ ภาพนี้ถ่ายจากปลายชานชาลาที่ ๑๓-๑๔ ย้อนกลับไปทาง “ลำโพงกระจก” เห็นสัญลักษณ์ DB ที่คุณวางใจเด่นเป็นสง่า



โชคดีอีกชั้นหนึ่งเนื่องจากมีถังขยะเป็นอุปกรณ์ทดแทนขาตั้งกล้อง(อีกแล้วครับ)อยู่แถวๆนั้น ผมกำลังอยากจะชักภาพตนเองคู่กับรถกระเช้า และ “ลำโพงกระจก” อันล้ำสมัยของ Berlin Hbf. อยู่พอดี ช่างภาพพรนรกไม่รอช้ารีบจัดการตั้งกล้องตั้งเวลาลั่นชัตเตอร์ในบัดดล



ภาพไม่งามต้องโทษถังขยะนะครับ

[black_express]

ถึงที่ตั้งกล้องเป็นเพียงถังขยะ ภาพออกมาก็ยังหล่อเหมือนเดิมครับ

[tuie]

^
ถ้าเช่นนั้น ต้องยกความชอบให้แก่ "ถังขยะ" ครับพี่ตึ๋ง

--------------------------------------------------------------------------------------

ชมวิวแถวๆปลายชานชาลาที่ ๑๓-๑๔ ด้านทิศตะวันออกอีกสักหน่อย มองไปที่ขอบลำโพงเห็นอุปกรณ์สำหรับขึ้นไปทำความสะอาดกระจกผนัง และหลังคา ที่เคยนำชมจากด้านล่างมาแล้วครับ



มี ICE-1 กำลังแล่นจากทางด้านสถานี Berlin Ost. (เบอลินฝั่งตะวันออก) เข้าสู่สถานี Berlin Hbf. ครับ เอกลักษณ์ของ ICE-1 ที่เห็นได้ชัดเจนจากภายนอก คือ รถในชุดยาวถึง ๑๖ คัน รถเสบียงที่พ่วงกลางๆขบวนมีหลังคาสูงกว่ารถคันอื่นๆ และหมายเลขรถนำหน้าด้วยเลข 401…… ครับ



จอดเทียบชานชาลาที่ ๑๔ เรียบร้อยแล้ว ดูเหมือนหน้าตาท้ายขบวนจะผ่องใสกว่าต้นขบวนนะครับ

[box_car]

[tuie]

[beer45]

แวะมาฮา...ครับ ฝา หลั่ง เสด ครับ อ.ตุ้ยผมเองก็เคยดูในการบ้านของลูกชาย อ. หรือมิส โรงเรียนลูกผมให้คัดคำว่า ผรั่งเศส แบบที่ อ.ตุ้ยว่านี่แหละครับ สงสัยลูกชายผมคงจะเขียนผิด เลยโดนคัดลายมือไปซะ 1 หน้ากระดาษเต็มๆๆ คราวหน้าถ้า อ. หรือมิส มาให้คัดลายมืออีก ผมจะให้อ.หรือมิส ตกบ้าง คอยดูนะ

[ExtendeD]

ถ้าทริปทัวร์เมืองฝาหรั่งครั้งหน้า พี่ตุ้ยไม่อยากมองหาถังขยะ ผมมีอีกทางเลือกหนึ่งให้พี่ตุ้ยพิจารณา นั่นก็คือพาผมไปด้วย แล้วผมจะเป็นคนถ่ายรูปพี่ตุ้ยคู่กับทุกสรรพสิ่งที่พี่ตุ้ยต้องการเลยล่ะครับ เหอะ เหอะ เหอะ . . .

พาผมไปด้วยไม่เปลืองหรอกครับ ขอแค่มีที่ซุกหัวนอน อาหารกินพออิ่มไม่ต้องครบ 3 มื้อก็ได้ เสพรถไฟแทนพอให้หายหิว . . .

หยอกล้อเล่น ๆ นะครับพี่ตุ้ย . . . เรื่องรถไฟต่างประเทศผมไม่ถนัด เรื่องภาษาต่างด้าวก็ไม่ใช่ว่าจะรู้เยอะ ปลา ๆ งู ๆ ไปตามประสา คอยชมเรื่องฮา ๆ ปนมีสาระอยู่หน้าจอคอมตามแต่เวลาและโอกาสจะอำนวยดีกว่าครับ
_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[tuie]

^
^
เรื่องคัดคำที่เขียนผิด หรือคัดสำนวนการตอบข้อสอบนี่ อาจารย์ชราแถวๆนี้ก็เคยสั่งให้ลูกศิษย์คัดลงสมุดหลายๆจบเหมือนกันครับ เล่นเอาสมุดหมดสหกรณ์ในมหาวิทยาลัยเลย น่ากลัวจริงๆ น่ากลัวจริงๆ