ของฝากจาก GERMANY ตอนที่ 2

[tuie]

^
^
พี่นพ และพี่ณัฐ ยังหนุ่มอยู่ทั้งสองท่านละครับ

ผมยังไม่มีโอกาสได้ขึ้นไปชมภายในรถ ARL สักทีได้แต่ดูภาพจากกระทู้ของคุณบอมบ์ ถ้าได้ขึ้นไปดู(โดยชอบ)คงจะดีไม่น้อย อยากเห็นจริงๆ อยากเห็นจริงๆ

-------------------------------------------------------------------------------

เดินต่อมาจนสุดห้องโดยสารชั้นบนอีกด้านหนึ่งก็มีบันไดลงไปชั้นล่างเช่นกัน เพดานลดระดับต่ำลงตามแนวบันได สังเกตว่าที่เพดานช่วงนี้มีเครื่องหมายบอกที่ตั้งเครื่องมือหยุดรถฉุกเฉิน ทางออกฉุกเฉิน ถังดับเพลิง ทางไปห้องสุขา ตลอดจนป้ายอิเล็กทรอนิกส์แสดงวัน เดือน ปี เวลาในขณะนั้น ซึ่งจะแสดงสลับกับหมายเลขขบวนรถ และปลายทางด้วยครับ



บันไดทางลงสู่ชานพักระหว่างชั้นบนกับชั้นล่างครับ มีราวจับสองแนวไม่ว่าคนสูงมาก-สูงน้อย(เตี้ย)ใช้จับได้สะดวก

[black_express]

รฟท.น่าจะมีโบกี้สองชั้นแบบนี้บ้างนะ ? สายเหนือ กับสายใต้

[tuie]

^
เกรงว่าจะลอดอุโมงค์บ้านเราไม่พ้น กับปัญหาเรื่องการทรงตัวเวลาเจอสภาพทางไม่ดีนี่สิครับ ทางรถไฟของเราก็กว้างแค่ ๑ เมตร ในขณะที่ของเยอรมนีกว้าง ๑.๔๓๕ เมตร

------------------------------------------------------------------------------------------

บริเวณพื้นชานพักบันไดด้านนี้ ที่เห็นเป็นห้องกระจกในภาพเป็นห้องทำงานของพนักงานขบวนรถ(เทียบได้กับ พรร. พหล. บ้านเรา)ครับ เห็นแล้วชักอิจฉา พรร./พหล. DB ซะแล้ว ห้องทำงานเขาน่านั่งน่าทำงานจริงๆ



อีกด้านหนึ่งเป็นแผงสวิตซ์อุปกรณ์ไฟฟ้า ระบบปรับอากาศครับ



บริเวณนี้มีเก้าอี้แบบพับติดอยู่ที่ผนังทั้งสองด้านครับ

[AEM-7]

จริงๆแล้วจุดประสงค์ของการมีรถ2ชั้นคือเป็นรถCommuterหรือรถชานเมืองนะครับ ไม่ใช่รถวิ่งระยะไกล คือระยะทางไม่เกิน300กิโลเมตรอะครับ เพื่อให้ขนได้เยอะ และใส่ที่นั่งได้เยอะ สังเกตได้เลยว่าที่นั่งไม่ได้ออกแบบมาเพื่อให้วิ่งไกล เพราะเอนไม่ได้ ซอยที่นั่งถ อย่างไทยถ้าทำได้หนีไม่พ้นรถชานเมืองอะครับ เพราะี่ไม่ได้วิ่งเร็ว เพราะราง1เมตร และ ไม่ผ่านอุโมงค์ต่างๆแน่ครับ แต่ผมงงว่าเก้าอี้ระทมแบบบลูเทรนนี่ไว้ให้เจ้าของจักรยาน หรือใครก็นั่งได้กันแน่อ่าครับ

[tuie]

[tuie]

ประตูระหว่างโบกี้เป็นแบบกึ่งอัตโนมัติ ต้องกดปุ่มไฟสีเหลืองก่อนประตูถึงจะเลื่อนเปิดจากนั้นสักพักหนึ่งประตูจะปิดเองครับ



เพื่อเป็นการประหยัดเงินค่าเข้าห้องสุขา(ครั้งละ ๑๕-๓๕ บาท) เวลามาเที่ยวทางแถบยุโรปผมจะวางแผนการบริหารจัดการปริมาณน้ำในร่างกายให้ได้จังหวะ “ระบายน้ำเสีย” ตอนที่มีห้องสุขาฟรีให้ใช้ เช่น บนขบวนรถ เป็นต้น (เค็มซะไม่มี ) ไหนๆจะเข้าห้องสุขาอยู่แล้วพาท่านเข้าไปชมบรรยากาศในห้องสุขาของเอสบาห์น ซึ่งเทียบได้กับขบวนรถชานเมืองของบ้านเราว่าเป็นเช่นใด



ปรากฏว่าสะอาดเอี่ยม มีกลิ่นหอมไม่แพ้สุขาบน ICE เลยละครับ โถส้วมมีระบบดูดของเสียลงถังเก็บ มีอ่างล้างมือพร้อมก๊อกน้ำอัตโนมัติ สบู่ล้างมือ กระดาษชำระหลายรูปแบบให้พร้อมสรรพ

[tuie]

ว่าจะพาท่านไปชมรถรางเมืองฮัลเลอไต่ขึ้นเนินแถวๆข้างๆสถานี รีบลงจากขบวนรถเอสบาห์นเดินลอดอุโมงค์ไปยังทางออกที่อาคารด้านทิศตะวันตกเลยครับ บรรยากาศภายในอุโมงค์ลอดทางรถไฟเชื่อมต่อชานชาลาต่างๆของสถานีนี้มีการเล่นแสงสีสวยงามจริงๆ ภาพแรกเป็นมุมมองไปทางทิศตะวันออกด้านที่จะไปยังอาคารหลักของสถานีที่มีทางรถไฟขนาบสองข้างครับ



ภาพต่อมาเป็นมุมมองไปทางทิศตะวันตกครับ



กำลังจะเดินขึ้นสู่ห้องโถงอาคารสถานีฝั่งทิศตะวันตกแล้ว เห็นผนังเป็นสีส้มเข้มๆแบบนี้ถูกใจผมยิ่งนัก

[tuie]

บรรยากาศบริเวณห้องโถงอาคารสถานีด้านทิศตะวันตกครับ ภาพนี้เป็นมุมมองย้อนไปทางลงอุโมงค์เชื่อมระหว่างชานชาลา



มองต่อไปทางขวามีร้านสะดวกซื้อตั้งอยู่หนึ่งร้าน

[tuie]

เวลามีจำกัด(อีกแล้วครับ )รีบออกมาด้านนอกอาคารสถานีดีกว่า เห็นทางตัดเสมอระดับมีเครื่องหมายกากบาทสีขาว-แดง มีรูปสายฟ้าฟาดตรงกลางแบบนี้ เป็นทางตัดทางรถรางครับ



ทางรถรางเมืองนี้(และอีกหลายๆเมือง)มีหญ้าขึ้นปกคลุมจนเห็นแค่รางเหล็กสองข้าง ดูเป็นธรรมชาติดีมาก



จะเรียกว่า “รางหญ้า” ก็ยังไหว แต่ไม่ใช่รางหญ้าที่สุนัขลงไปขวางไม่ให้โคกินหญ้านะครับ

[tuie]

หันกลับไปมองอาคารสถานี Halle (Saale) Hbf. ฝั่งทิศตะวันตกที่ผมเพิ่งจะเดินออกมาบ้างครับ



บริเวณนั้นมีป้ายประชาสัมพันธ์ข้อมูลการเดินทางไปยังสถานที่สำคัญโดยรถรางสายต่างๆของ HAVAC ซึ่งเป็นผู้ดำเนินกิจการขนส่งมวลชนเมืองฮัลเลอครับ