View previous topic :: View next topic
Author
Message
conrail
1st Class Pass (Air) Joined: 28/03/2006 Posts: 1271
Location: Bangplad , Bangkok
Posted: 05/02/2009 7:18 am Post subject:
ทราบหรือไม่ว่า ชิ้นส่วนอุปกรณ์สองตัวด้านล่างคืออะไรครับ ?
รางขนาดต่างๆที่เคยมีใช้งาน ส่วนล้อกำลังด้านขวามือเป็นล้อของรถจักร C56 ที่กล่าวถึง
Rack rail แบบ Abt ที่ใช้งานในประเทศญี่ปุ่น
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42784
Location: NECTEC
Posted: 05/02/2009 9:14 am Post subject:
conrail wrote: รางขนาดต่างๆที่เคยมีใช้งาน ส่วนล้อกำลังด้านขวามือเป็นล้อของรถจักร C56 ที่กล่าวถึง
อ่า นี่แสดงว่าบริษัท มิตซุย ได้เป็นเอเยนต์ขายราง 60 และ 75 ปอนด์ต่อหลา (30 และ 37 กิโลกรัมต่อเมตร) จากโรงเหล็กคาร์เนกี้แห่งเมืองพิตต์สเบิร์กอันโด่งดังแน่ๆ
ตั้งแต่ปี 1914 กรมรถไฟซื้อราง 50 ปอนด์ จากโรงเหล็กคาร์เนกี้มาใช้เพราะ โรงเหล็กกรุปป์ต้องเอาเหล้กไปสร้างรถถัง เรือรบ ในงานพระราชสงคราม
ราง 45 ปอนด์ต่อหลา (22 กิโลกรัมต่อเมตร) จากโรงเหล็กเมเทรแคมเมล ประเทศอังกฤษก็มีใช้ด้วย ส่วน ราง 50 ปอนด์ ต่อหลา (25 กิโลกรัมต่อเมตร) มาจากโรงเหล็ก A & R
Back to top
conrail
1st Class Pass (Air) Joined: 28/03/2006 Posts: 1271
Location: Bangplad , Bangkok
Posted: 05/02/2009 9:19 pm Post subject:
คิดไว้อยู่แล้วว่าคุณวิศรุตต้องเข้ามาแน่ๆ
ว่าแต่รางที่ผลิตโดยยาวาตะ(Yawata)ที่การรถไฟไทยใช้อยู่นี้ อยู่ที่เมืองนาโกยาหรือเปล่าครับ ? เพราะถ้าใช่ ผมก็ใกล้เกลือกินด่างไปแล้ว
ภาพสุดท้ายก่อนที่จะอำลาไปจากสถานีเซนซุ โอกาสหน้า(ถ้ายังมีวาสนา) คงจะได้กลับมาเยี่ยมเยือนอีกครั้งพร้อมๆกับสัมผัส C56 44 ได้ใกล้ชิดกว่านี้ น่าเสียดายที่ผมและคุณโดนัทไปผิดเวลาที่รถคันนี้วิ่งใช้งานในการทำขบวนในขณะที่แปลงโฉมเป็นสไตล์รถไฟไทย โอกาสแบบนี้คงจะมีไม่บ่อยนัก
Back to top
conrail
1st Class Pass (Air) Joined: 28/03/2006 Posts: 1271
Location: Bangplad , Bangkok
Posted: 05/02/2009 9:50 pm Post subject:
ระหว่างเดินทางกลับได้หยุดรอถ่ายภาพขบวนรถจักรไอน้ำที่วิ่งกลับคานายะซึ่งเป็นขบวนสุดท้าย ใช้ C11 190 ลากจูง จุดนี้เป็นอีกจุดที่นิยมมีคนมาดักรอถ่ายภาพขบวนรถจักรไอน้ำวิ่งผ่านสะพานข้ามแม่น้ำโออิ (ตั้งใจถ่ายจัดจนรูปออกมาเบลอ ซึ่งจริงๆแล้วสมาธิผมขาดหายไปจากรถไฟตั้งแต่ไปนั่งรอขบวนรถจะวิ่งผ่าน เพราะข้างหลังที่ผมนั่งอยู่ที่ริมแม่น้ำเป็นบ่ออาบน้ำแร่กลางแจ้ง จนสุดท้ายเมื่อขบวนรถไปแล้วก็ต้องเข้าไปใช้บริการเนื่องจากร่างกายเพลียอย่างแรง จนต้องประกาศความเป็นไทยให้โลกรู้.....ครั้งแรกด้วยสิ )
ต้องขออภัยที่กว่าจะจบเรื่องจบราวก็ใช้เวลามาตั้งหลายเดือน ทั้งๆที่ไม่ค่อยได้ถ่ายอะไรมามากนัก ก็หวังว่าจะเป็นเกร็ดสาระเล็กๆน้อยๆในส่วนของรถไฟต่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับรถไฟไทยนะครับ โอกาสหน้าถ้ามีเวลาและสะดวกแล้วจะพยายามลงเรื่องราวต่างๆให้จบไปพร้อมๆกับทุกสิ่งทุกอย่างครับ
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42784
Location: NECTEC
Back to top
Rakpong
President Joined: 29/03/2006 Posts: 1716
Location: แคว้นโบราณ ด่านเจดีย์ มณีเมืองกาญจน์ สะพานข้ามแม่น้ำแคว แหล่งแร่น้ำตก
Posted: 06/02/2009 8:40 am Post subject:
conrail wrote: [color=indigo]ระหว่างเดินทางกลับได้หยุดรอถ่ายภาพขบวนรถจักรไอน้ำที่วิ่งกลับคานายะซึ่งเป็นขบวนสุดท้าย ใช้ C11 190 ลากจูง จุดนี้เป็นอีกจุดที่นิยมมีคนมาดักรอถ่ายภาพขบวนรถจักรไอน้ำวิ่งผ่านสะพานข้ามแม่น้ำโออิ (ตั้งใจถ่ายจัดจนรูปออกมาเบลอ ซึ่งจริงๆแล้วสมาธิผมขาดหายไปจากรถไฟตั้งแต่ไปนั่งรอขบวนรถจะวิ่งผ่าน เพราะข้างหลังที่ผมนั่งอยู่ที่ริมแม่น้ำเป็นบ่ออาบน้ำแร่กลางแจ้ง จนสุดท้ายเมื่อขบวนรถไปแล้วก็ต้องเข้าไปใช้บริการเนื่องจากร่างกายเพลียอย่างแรง จนต้องประกาศความเป็นไทยให้โลกรู้.....ครั้งแรกด้วยสิ )
ได้อาบบ่อน้ำแร่กลางแจ้งแบบนี้เลยหรือครับ ขนาดออนเซนที่เป็นสัดส่วนยังน่า เขินไม่น้อย
น่าเสียดายที่รถจักร C56 ที่กลับมาจากเมืองไทย ไม่ได้วิ่งให้ชม แต่ดูเหมือนว่าเขาจะกลับมาประกอบใหม่ใช่ไหมครับ
Back to top
conrail
1st Class Pass (Air) Joined: 28/03/2006 Posts: 1271
Location: Bangplad , Bangkok
Posted: 06/02/2009 11:43 am Post subject:
ในช่วงตลอดเส้นทางสายโออิกาวามีบ่ออาบน้ำแร่หลายแห่งครับคุณหมอ แต่ตรงที่ผมมาดักถ่ายรถไฟนั้นถ้าเรานั่งอาบน้ำอยู่ข้างใน เราจะสามารถมองดูขบวนรถไฟวิ่งข้ามสะพานแห่งนี้ได้ ถ้ามีโอกาสออกทริปไปทัวร์ต่างประเทศ น่าจะไปอาบน้ำที่นี่กัน
(เรื่องของเรื่องคือมีคนข้างในลุกขึ้นมาดูขบวนรถไฟวิ่งผ่านนี่สิครับและพอดีว่าบ่อนั้นเป็นบ่อของผู้หญิง เล่นเอาชาวต่างประเทศอย่างผมเลือดลมไหลเวียนอย่างแรง)
สำหรับรถจักรไอน้ำ C56 44 หรือ 735 (เดิม) นั้น ยังสามารถวิ่งใช้งานได้อยู่ครับ แต่ช่วงที่ไปอาจจะอยู่ในช่วงที่ซ่อมบำรุง หรือ ช่วงที่หมุนเวียนสับเปลี่ยนกับรถจักรคันอื่นวิ่งใช้งาน ส่วนข่าวที่ว่ารถจักรคันนี้ได้เปลี่ยนกลับมาใช้สีดำแบบเดิมแล้วนั้น ต้องขอตรวจสอบก่อนครับ ถ้าทราบแล้วจะแจ้งให้ทราบต่อไป ( ก็อาจจะเป็นไปได้)
Back to top
CivilSpice
1st Class Pass (Air) Joined: 18/03/2006 Posts: 11192
Location: หนองวัวหนุ่มสเตชั่น
Posted: 15/02/2010 8:53 pm Post subject:
มิได้มีเจตนาจะขุดกระทู้ขึ้นมาเล่นๆ แต่อย่างใดนะครับ พอดีไปเปิดดู VDO ใน YouTube แล้วไปพบกับ VDO ของ C56-735 ที่ยังเป็นรูปแบบและสีสัน ของ รฟท. อยู่ขณะทำขบวนรถพิเศษที่ประเทศญี่ปุ่น ความยาวเกือบ 10 นาที เห็นว่าสอดคล้องกับกระทู้นี้ ที่คุณ Conrail ได้นำเสนอเอาไว้ จึงขออนุญาตโพสต์เพิ่มเติมครับ เผื่อใครจะอยากชม
VDO by: nukuri
URL: http://www.youtube.com/watch?v=16HeFrfsmiI
Back to top
pak_nampho
1st Class Pass (Air) Joined: 25/06/2007 Posts: 2371
Location: คนสี่แควพลัดถิ่น ทำมาหากิน ที่เกาะภูเก็ต
Posted: 15/02/2010 9:10 pm Post subject:
ขอบคุณครับท่าน วมต.ที่เสาะหาและนำมาให้ชมครับ
ขอรออาจารย์บ้านโป่ง แนะนำเปลี่ยนจากพ่วงโบกิ้โดยสารมาพ่วงด้วยตู้อะไรดี
และจัดเส้นทางวิ่งดีกว่าครับ _________________ +++++++++++++++++ ๑๑๖ ปี รถไฟไทยก้าวไกล....จากรถจักรไอน้ำ +++++++++++++++++
....................บุตร ครฟ. พขร.ตรี แขวงรถพ่วงปากน้ำโพ ...................
Back to top
BanPong1
1st Class Pass (Air) Joined: 07/12/2006 Posts: 2733
Location: กม.37 สายเหนือ, กม.68 สายกาญจนบุรี
Posted: 15/02/2010 9:34 pm Post subject:
pak_nampho wrote: ขอบคุณครับท่าน วมต.ที่เสาะหาและนำมาให้ชมครับ
ขอรออาจารย์บ้านโป่ง แนะนำเปลี่ยนจากพ่วงโบกิ้โดยสารมาพ่วงด้วยตู้อะไรดี
และจัดเส้นทางวิ่งดีกว่าครับ
สมัยที่ C56-7xx หลายสิบคัน เป็นราชาอยู่ในเส้นทางสายหนองปลาดุก-กาญจนบุรี-น้ำตก เมื่อราว 40-50 ปีที่แล้วหรือเปล่าครับพี่นพ
ช่วงนั้นรถจักรใหญ่เข้าไปได้แค่กาญจนบุรี ยังไม่สามารถเลยไปวังโพ-น้ำตกได้
C56 เลยเป็นรถจักรหลักที่ใช้ลากรถรวม 4 ขบวนในสายนี้ครับ ส่วนรถโดยสารอื่นจะเป็นรถดีเซลราง Hitachi เมื่อราวปี 251x แล้วก็มีพวกรถงานเช่น รถหิน รถฟืน ที่ใช้ C56 ลากจูง
เท่าที่จำได้รถรวมจะมีหน่วยลากจูงได้ 250 หน่วย รูปขบวนเท่าที่จำได้ (ช่วงหนองปลาดุก-กาญจนบุรี)
รถจักร+ตญ.ซ.+............+ขส.+2/3 ตญ.+รส.+บพห.+บสข.(รถเสบียง)+บชส.+ตญ.ซ.
ที่..............คือรถสินค้าเหมาคันในรูปแบบต่างๆที่ไม่ใช้รถประจำ เช่น รถ ตญ., รถขนซุง , รถ บขส. ขนไม้ไผ่, รถน้ำ
ส่วน 2/3 ตญ. คือรถที่ไว้บรรทุกสินค้าที่รับส่งรายย่อย ขึ้นลงรายทาง เขาเรียกว่ารถภาระ
จำได้ลางๆเท่านี้ครับ ยุครุ่งเรืองเมื่อกว่า 40 ปี ที่ยังไม่มีถนนไปไทรโยค-ทองผาภูมิ ขบวนรถรวมมักจะลากจูงแบบเต็มหน่วยทุกวันครับ _________________
Back to top