View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
BanPong1
1st Class Pass (Air)
Joined: 07/12/2006 Posts: 2733
Location: กม.37 สายเหนือ, กม.68 สายกาญจนบุรี
|
Posted: 09/12/2008 11:16 pm Post subject: รางวัลอนุรักษ์ศิลปสถาปัตยกรรมดีเด่น เกี่ยวกับรถไฟไทย |
|
|
มรดกสถาปัตกยรรมในประเทศไทย รางวัลอนุรักษ์ศิลปสถาปัตยกรรมดีเด่น
ที่มา: สมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์ www.asa.or.th
ผมขออนุญาตทำการเชื่อมโยงเวปเพจเฉพาะที่เกี่ยวกับรถไฟไทยมาไว้ในกระทู้นี้เพื่อเป็นการเผยแพร่ความรู้ครับ
ตึกแดง การรถไฟแห่งประเทศไทย (ที่ทำการการรถไฟยศเส)
http://www.asa.or.th/heritage/bkk097.html
ที่ตั้ง ถ.รองเมือง เขตปทุมวัน กรุงเทพ 10330
สถาปนิก/ ผู้ออกแบบ หลวงสุขวัฒน์
ผู้ครอบครอง การรถไฟแห่งประเทศไทย
ปีที่สร้าง เริ่มก่อสร้าง พ.ศ.2471 แล้วแสร็จ พ.ศ.2474
ปีที่ได้รับรางวัล พ.ศ. 2549
ตึกแดงตั้งอยู่ริมสะพานกษัตริย์ศึก (สะพานยศเส) ริมคลองผดุงกรุงเกษฒ เป็นอาคาร 3 ชั้น ผังรูปตัวยู ปีกเหนือและปีกใต้เป็นอาคาร 2 ชั้น ผนังก่ออิฐสีแดง จึงเรียกว่า ตึงแดง ก่อสร้างขึ้นในปี พ.ศ.2471 2474 เพื่อใช้เป็นที่เก็บวัสดุ (โรงเก็บของ) ออกแบบโดย หลวงสุขวัฒน์ ในสมัยที่พระยาสารศาสตร์ศิริลัษณ์ เป็นผู้บัญชาการกรมรถไฟ
ลักษณะเด่นของตึกแดง คือ เทคนิคการก่อสร้างที่แสดงโครงสร้าง และการก่ออิฐโชว์แนวอย่างเป็นระบบ ซึ่งต้องมีการออกแบบและฝีมือการก่อสร้างที่ดีเยี่ยม เป็นตัวอย่างที่หาดูได้ยาก รูปแบบสถาปัตยกรรมของอาคารเป็นแบบสมัยใหม่ (Modern) เรียบง่าย ดูแข็งแรง แสดงสัจจะของสถาปัตยกรรม เหมาะสมกับประโยชน์ใช้สอย ตามแนวคิดสถาปัตยกรรมสมัยใหม่อย่างแท้จริง นอกจากนี้ ด้วยวัสดุก่อสร้างและเทคนิคดังกล่าว ทำให้อาคารมีความทนทาน และมีรูปลักษณ์โดดเด่นอาจจะกล่าวได้ว่า เป็นที่หมาย (landmark) แห่งหนึ่งของสะพานยศเส ที่ประชาชนรู้จักและจำได้เป็นอย่างดี
ปัจจุบันอาคารนี้ใช้เป็นที่ทำการต่างๆ ของหน่วยงานการรถไฟแห่งประเทศไทย โดยได้รับการปรับปรุงและติดตั้งอุปกรณ์อนุรักษ์พลังงาน ภายใต้โครงการอาคารของรัฐโดยกองทุนส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน และดำเนินการโดยกรมพัฒนาและส่งเสริมพลังงาน กระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อม พ.ศ.2540
ที่มา: สมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์ www.asa.or.th
Last edited by BanPong1 on 09/12/2008 11:27 pm; edited 3 times in total |
|
Back to top |
|
|
BanPong1
1st Class Pass (Air)
Joined: 07/12/2006 Posts: 2733
Location: กม.37 สายเหนือ, กม.68 สายกาญจนบุรี
|
Posted: 09/12/2008 11:22 pm Post subject: |
|
|
โรงงานรถไฟมักกะสัน
http://www.asa.or.th/heritage/bkk095.html
ที่ตั้ง ถนนนิคมมักกะสัน แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กรุงเทพฯ
สถาปนิก/ผู้ออกแบบ สันนิษฐานว่าออกแบบโดยวิศวกรชาวอิตาลี
ผู้ครอบครอง การรถไฟแห่งประเทศไทย
ปีที่สร้าง พ.ศ. 2450 - 2453
ปีที่ได้รับรางวัล พ.ศ. 2549
ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อแรกก่อตั้งกรมรถไฟหลวงนั้น กรมรถไฟหลวงสังกัดอยู่ในกระทรวงโยธาธิการ ซึ่งแบ่งส่วนราชการเป็น 2 กรม คือกรมรถไฟสายเหนือ และกรมรถไฟสายใต้ กรมรถไฟสายเหนือบังคับบัญชาทางสายตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา ส่วนสายใต้บังคับบัญชาทางสายตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา
กรมรถไฟสายเหนือ เดิมมีโรงงานซ่อมสำหรับรถจักรและล้อเลื่อนอยู่ที่สถานีหัวลำโพง เป็นโรงซ่อมเล็กๆ สำหรับซ่อมแซมและบำรุงรักษารถ ส่วนกรมรถไฟสายใต้มีโรงซ่อมบำรุงอยู่ที่บางกอกน้อย ครั้น พ.ศ. 2450 กระทรวงโยธาธิการได้ประกาศพระราชกฤษฎีกา ความว่า โรงงานที่สถานีหัวลำโพงนั้นคับแคบ จึงจะย้ายไปปลูกสร้างใหม่ที่ตำบลทุ่งบางกระสันหรือทุ่งสามเสนฝั่งใต้ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้โปรดเกล้าฯ ให้ขยายเขตที่ดินบริเวณนั้นออกไปอีก 180 วา เพื่อให้พอเพียงกับการก่อสร้างโรงซ่อมบำรุงแห่งใหม่ จากนั้นจึงได้ดำเนินการก่อสร้างจนแล้วเสร็จ เปิดทำการเมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2453
กรมรถไฟสายเหนือและสายใต้ได้รวมเข้าด้วยกันในปีพ.ศ. 2460 โดยพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระกำแพงเพ็ชรอัครโยธิน ทรงดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการกรมรถไฟหลวง และโรงงานซ่อมก็ได้รวมไว้ที่โรงงานมักกะสันเพียงแห่งเดียวตั้งแต่นั้นมา
อาคารโรงงานรถไฟมักกะสัน เป็นสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ ผนังก่อด้วยอิฐขนาดใหญ่อย่างแข็งแรงแบบ running bond โครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก หลังคาโครงถัก (truss) เหล็ก หน้าต่างโค้ง segmental arch มีรูปแบบที่เรียบง่าย แต่มีลักษณะเด่นด้านวิศวกรรมและระบบการก่อสร้างซึ่งเป็นตัวอย่างงานที่หาได้ยากในปัจจุบัน โรงงานนี้ได้รับการบูรณะในปีพ.ศ. 2494 เนื่องจากโรงงานบางส่วนเสียหายจากสงคราม ปัจจุบัน โรงงานรถไฟมักกะสันยังเป็นโรงงานซ่อมรถไฟที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนี่ง ของการรถไฟแห่งประเทศไทย
ที่มา: สมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์ www.asa.or.th
//-----------------------------------------------------------------
หมายเหตุ แต่ก่อน อาคารส่วนใหญ่ในสมัยแรก ที่ได้ผู้รับเหมาอังกฤษมาทำ ช่วงปี 2451 เป็นอาคาร สังกะสี ต่อมา เมื่อ ปลายปี พ.ศ. 2464 จึงได้มีการเปิดประมูลสร้างอาคาร โรงซ่อมรถโดยสาร ก่ออิฐแดง เสร็จเปิดใช้งานปี พ.ศ. 2465
ต่อมาปี พ.ศ. 2471 ได้เปิดโรงซ่อมรถจักรไอน้ำ ที่มีปั่นจั่น 80 ตันยก รถจักรไอน้ำขนาดใหญ่เช่นรถจักรฮาโนแมกล้อแปซิฟิก และ รถจักรมิกาโดญี่ปุ่นขึ้นได้
ต่อมาปี 2475 จึงเพิ่มโรงซ่อมรถจักรดีเซลขึ้นมา
ต่อมาปี 2481 จึงเริ่มการขยายโรงงานมักกะสัน เป็นการใหญ่ เมื่อมีเหตุตอ้งขยายงานขึ้นมาและ ข้อวิจารณ์จากสถานทูตอังกฤษ ว่าโรงงานเริ่มคับแคบ ซ่อมรถจักรรถพ่วงได้ไม่ทันตามต้องการ แต่ การขยายโรงงานหยุดชงัก เพราะสงครามโลกครั้งที่ 2
ต่อมา ในปี 2493 ได้มีการกู้เงินธนาคารโลกมาบูรณะ ตอนแรก จะใช้แบบ ของ บริษัทที่ปรึกษา อเมริกัน แต่ นายช่างกรมรถไฟ ใช้ความสามารถชี้แจ้งให้ใช้แบบของกรมรถไฟ เพื่อเป้นการประหยัดเงินจน บริษัทที่ปรึกษา อเมริกัน เห็นดีด้วย จึงใช้แบบของกรมรถไฟสร้างขึ้นมาไหม่ สำเร็จบริบูรณ์ปี 2500 |
|
Back to top |
|
|
BanPong1
1st Class Pass (Air)
Joined: 07/12/2006 Posts: 2733
Location: กม.37 สายเหนือ, กม.68 สายกาญจนบุรี
|
Posted: 09/12/2008 11:30 pm Post subject: |
|
|
สถานีรถไฟหัวลำโพง (สถานีรถไฟกรุงเทพ)
http://www.asa.or.th/heritage/bkk061.html
ที่ตั้ง ถนนพระรามที่ 4 แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ
สถาปนิก/ผู้ออกแบบ สถาปนิก : นายมาริโอ ตามานโญ (Mario Tamango) และนาย อัลเฟรโด ริกาซซี ( Alfredo Rigazzi)
วิศวกร : นาย เกอร์เบอร์ (Gerber)
ผู้ครอบครอง การรถไฟแห่งประเทศไทย
ปีที่สร้าง ประมาณ พ.ศ. 2453 - 2459
ปีที่ได้รับรางวัล พ.ศ. 2545
สถานีรถไฟกรุงเทพ หรือที่รู้จักกันดีในนามสถานีรถไฟหัวลำโพงนั้น เป็นผลงานสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นและมีเอกลักษณ์ ประกอบด้วยอาคารโถงสถานีหลังคาโค้งกว้าง ด้านหน้าเป็นอาคารแบบนีโอคลาสสิค หลังคาดาดฟ้า มีหอคอยสี่เหลี่ยมจัตุรัสที่ปลายปีกทั้งสองด้าน ทำให้ดูเหมือนโถงกลางขนาบข้างด้วยหอคอยคู่ ยิ่งไปกว่านั้น อาคารนี้ยังเป็นตัวอย่างของวิศวกรรมโครงสร้างเหล็กที่ได้รับการออกแบบมาอย่างลงตัว มีการคำนึงถึงการระบายอากาศ และก่อสร้างอย่างประณีตหาได้ยากในปัจจุบัน โดยโครงสร้างดังกล่าวมิได้ถูกรูปด้านนีโอคลาสสิคบดบังไว้อย่างสถานีรถไฟรุ่นแรกๆในยุโรป
หัวลำโพง เป็นจุดเริ่มต้นของทางรถไฟสายแรกของไทยคือสายกรุงเทพฯ ปากน้ำ ซึ่งได้เริ่มลงมือก่อสร้างเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2434 โดยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงจรดจอบแซะแผ่นดินเป็นพระฤกษ์ อย่างไรก็ดี สถานีในสมัยนั้นยังคงเป็นเพียงโรงสังกะสี ส่วนอาคารโถงสถานีที่ถาวรได้ก่อสร้างขึ้นระหว่างพ.ศ. 2449 2455 หลังจากนั้นจึงมีการก่อสร้างอาคารโถงหน้า ออกแบบโดย นายมาริโอ ตามานโญ สถาปนิกชาวอิตาลี ซึ่งสร้างเสร็จในปี 2459และเปิดใช้เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2459 รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
ต่อมา ได้เปิดโรงแรมราชธานี ออกแบบโดย นายอัลเฟรโด ริกาซซี ซึ่งเป็นโรงแรมรถไฟของสถานีกรุงเทพ ที่หรูหราไม่แพ้โรงแรมชั้นหนึ่งของยุโรป เมื่อ 24 มกราคม 2470 ปัจจุบันได้ปรับเปลี่ยนเป็นที่ทำการของทางสถานี หลังเลิกการใช้งาน เมื่อปี 2511
ถึงแม้ว่าสถานีจะมีการใช้สอยและปรับปรุงมาโดยตลอด แต่ตัวอาคารเดิมยังได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี ทำให้หัวลำโพงเป็นสถานีรถไฟประวัติศาสตร์ที่ยังมีชีวิตตลอดมา
ที่มา: สมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์ www.asa.or.th |
|
Back to top |
|
|
BanPong1
1st Class Pass (Air)
Joined: 07/12/2006 Posts: 2733
Location: กม.37 สายเหนือ, กม.68 สายกาญจนบุรี
|
Posted: 09/12/2008 11:34 pm Post subject: |
|
|
พลับพลาสถานีรถไฟบางปะอิน
http://www.asa.or.th/heritage/mid013.html
ที่ตั้ง ข้างสถานีรถไฟบางปะอิน อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
สถาปนิก/ผู้ออกแบบ -
ผู้ครอบครอง การรถไฟแห่งประเทศไทย
ปีที่สร้าง ก่อน พ.ศ. 2439
ปีที่ได้รับรางวัล พ.ศ. 2540
พลับพลาสถานีรถไฟบางปะอิน เป็นอาคารเปิดโล่งลักษณะศาลา ตัวอาคารเป็นไม้ ตกแต่งด้วยไม้ฉลุและกระจกสีแบบยุโรป ตามที่นิยมกันในยุควิคตอเรียน
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพลับพลานี้ เพื่อเป็นที่ประทับรอรถไฟระหว่างเสด็จพระราชดำเนินแปรพระราชฐานมาประทับ ณ พระราชวังบางปะอิน เวลานั้น ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างทางรถไฟสายแรกจากกรุงเทพฯ ถึงนครราชสีมา เมื่อทางรถไฟสร้างมาถึงสถานีอยุธยา พระองค์จึงทรงประกอบพิธีเปิดการเดินรถไฟอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2439 และในวันเดียวกันนั้น ได้เสด็จพระราชดำเนินมาเปิดพลับพลาสถานีรถไฟบางปะอินด้วย
พลับพลาสถานีรถไฟบางปะอิน เคยเป็นที่รับเสด็จและที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบัน สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอทุกพระองค์ในการเสด็จพระราชดำเนินทางรถไฟ ตัวอาคารได้รับการบูรณะและดูแลรักษาไว้เป็นอย่างดี
ที่มา: สมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์ www.asa.or.th |
|
Back to top |
|
|
heerchai
1st Class Pass (Air)
Joined: 29/07/2006 Posts: 7730
Location: อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
|
Posted: 09/12/2008 11:36 pm Post subject: |
|
|
โรงงานมักกะสัน ได้รับรางวัลฯ แต่ได้รับการคุ้มครองจากการอาจถูกรื้อทิ้งด้วยหรือไม่ ครับ |
|
Back to top |
|
|
BanPong1
1st Class Pass (Air)
Joined: 07/12/2006 Posts: 2733
Location: กม.37 สายเหนือ, กม.68 สายกาญจนบุรี
|
Posted: 09/12/2008 11:37 pm Post subject: |
|
|
สถานีรถไฟลำปาง
http://www.asa.or.th/heritage/north007.html
ที่ตั้ง อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง
สถาปนิก/ผู้ออกแบบ วิศวกรชาวเยอรมัน
ผู้ครอบครอง การรถไฟแห่งประเทศไทย
ปีที่สร้าง พ.ศ. 2458 - 2459
ปีที่ได้รับรางวัล พ.ศ. 2536
สถานีรถไฟลำปางเป็นสถานีรถไฟรุ่นแรกๆ ที่สร้างขึ้นในประเทศไทยและยังคงเหลืออยู่ภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 ออกแบบโดยวิศวกรชาวเยอรมันซึ่งได้รับมอบหมายให้สร้างทางรถไฟสายเหนือ นับว่าการสร้างสถานีรถไฟแห่งนี้ได้นำความก้าวหน้ามาสู่นครลำปางก่อนเชียงใหม่หลายปี เนื่องจากการเจาะอุโมงค์ที่ถ้ำขุนตานยังไม่แล้วเสร็จ โดนสถานีลำปางเปิดใช้งาน 1 เมษายน 2459 รองรับ ขบวน รถรวม พิษณุโลก - ลำปาง และ อุตรดิตถ์ - ลำปางก่อน มีรถด่วนสายเหนือ ตรงจากกรุงเทพ ขึ้นมาทำขบวนเมื่อ 1 พฤศจิกายน 2465
ในพ.ศ. 2506 การรถไฟแห่งประเทศไทยได้จัดส่งหัวรถจักรไอน้ำมาแสดงไว้ที่สถานีรถไฟลำปาง และกำหนดให้สถานีรถไฟแห่งนี้เป็นสถานีประวัติศาสตร์ และทำการอนุรักษ์ไว้
รูปแบบสถาปัตยกรรมของสถานีรถไฟลำปาง เป็นอาคาร 2 ชั้น ก่ออิฐฉาบปูน ผังรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีปีก 2 ข้างเชื่อมกับโถงกลาง รูปแบบสถาปัตยกรรมโคโลเนียล มีการใช้โค้ง (arch) และการประดับตกแต่งด้วยไม้ฉลุ และปูนปั้น
อาคารสถานีดังที่เห็นในปัจจุบันได้ผ่านการต่อเติมมาเป็นบางส่วน โดยเฉพาะช่วงก่อนปีพ.ศ. 2520 มีการต่อเติมส่วนควบคุมบริเวณปีกทางทิศใต้ ส่วนพักคอยด้านติดรางรถไฟ และ ซุ้มด้านหน้าที่จอดรถ จากนั้นมีการเปลี่ยนกระเบื้องหลังคา กระเบื้องพื้น และปรับปรุงพื้นชั้นล่างทั้งหมดในปี พ.ศ. 2538
ที่มา: สมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์ www.asa.or.th |
|
Back to top |
|
|
BanPong1
1st Class Pass (Air)
Joined: 07/12/2006 Posts: 2733
Location: กม.37 สายเหนือ, กม.68 สายกาญจนบุรี
|
Posted: 09/12/2008 11:40 pm Post subject: |
|
|
สถานีรถไฟเชียงใหม่
http://www.asa.or.th/heritage/chg005.html
ที่ตั้ง ถนนเจริญเมือง ตำบลวัดเกตุ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
สถาปนิก/ผู้ออกแบบ ศาสตราจารย์ หม่อมเจ้าโวฒยากร วรวรรณ
ผู้ครอบครอง การรถไฟแห่งประเทศไทย
ปีที่สร้าง ช่วงประมาณปี พ.ศ. 2490-91
ปีที่ได้รับรางวัล พ.ศ. 2549
สถานีเชียงใหม่ เป็นสถานีปลายทางของทางรถไฟสายเหนือ มีพื้นที่ทั้งหมด 119 ไร่ ระยะทางจากกรุงเทพฯ ถึงสถานีเชียงใหม่คือ 751 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 11 ถึง 13 ชั่วโมง
สถานีเชียงใหม่ก่อสร้างขึ้นเมื่อใดไม่มีข้อมูลแน่ชัด ทราบเพียงว่าสถาปนิกผู้ออกแบบ คือ ศาสตราจารย์ หม่อมเจ้าโวฒยากร วรวรรณ ได้ออกแบบอาคารนี้ในช่วงที่ท่านทรงรับราชการอยู่ในกรมรถไฟ ในราวปี พ.ศ. 2481 2493 ซึ่งอยู่ในช่วงระยะเวลาใกล้เคียงกับการก่อสร้างสถานีรถไฟธนบุรี สถานีเชียงใหม่ เปิดใช้งาน เมื่อ ปี 2491 แทนอาคารเดิมที่ พินาศไปกับการทิ้งระเบิดปูพรมเมืองเชียงใหม่ เมื่อ 21 ธันวาคม 2486
รูปแบบสถาปัตยกรรมของสถานีเชียงใหม่เป็นแบบไทยประยุกต์ ซึ่งมีลักษณะของอาคารทางภาคเหนือตัวอาคารโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก หลังคามุงกระเบื้องเคลือบ มีจุดเด่นคือหอนาฬิกา เป็นสถานีรถไฟเก่าแก่ที่ได้มีการใช้งานอย่างต่อเนื่อง และได้รับการดูแลรักษาอย่างดีมาจนปัจจุบัน
ที่มา: สมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์ www.asa.or.th |
|
Back to top |
|
|
BanPong1
1st Class Pass (Air)
Joined: 07/12/2006 Posts: 2733
Location: กม.37 สายเหนือ, กม.68 สายกาญจนบุรี
|
Posted: 09/12/2008 11:42 pm Post subject: |
|
|
สถานีรถไฟหัวหิน
http://www.asa.or.th/heritage/south005.html
ที่ตั้ง อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
สถาปนิก/ผู้ออกแบบ -
ผู้ครอบครอง การรถไฟแห่งประเทศไทย
ปีที่สร้าง พ.ศ. 2454
ปีที่ได้รับรางวัล พ.ศ. 2525
สถานีรถไฟหัวหิน ประกอบด้วยอาคาร 2 หลัง เป็นอาคารชั้นเดียว โครงสร้างเสา-คานคอนกรีตเสริมเหล็ก ผนังไม้ หลังหนึ่งมีรูปแบบสถาปัตยกรรมวิคตอเรียนแบบ Stick Style หลังคาจั่วปาดมุม (hipped gable) มุงกระเบื้องว่าว ด้านหน้ามีมุขทางเข้า 3 มุข ผนังตกแต่งด้วยการตีไม้แบ่งเป็นช่วงจังหวะ และมีเท้าแขนไม้รับชายคา ส่วนอีกหลังหนึ่งมีรูปแบบและองค์ประกอบแบบไทยประยุกต์ ก่อสร้างขึ้นในปีพ.ศ. 2454 รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งเป็นช่วงที่หัวหิน เป็นสถานตากอากาศที่เป็นที่นิยมสูงสุดในหมู่คหบดีและพระบรมวงศานุวงศ์
สถานีนี้ เป็นหนึ่งในสถานีประวัติศาสตร์ที่การรถไฟแห่งประเทศไทยได้อนุรักษ์ไว้ และได้ดำเนินการบูรณะปรับปรุงมาเป็นระยะๆ โดยรักษารูปแบบเดิม และได้มีการใช้สอยเป็นสถานีรถไฟสืบเนื่องมาตลอดนับแต่แรกสร้างจนปัจจุบัน
อาคารสถานีหัวหินที่เห็นในปัจจุบันนี้ ได้ริ้อมาจากอาคาร ที่จะใช้ในงานสยามรัฐพิพิธภัณฑ์ พ.ศ. 2468 ที่ไม่ได้มีการจัดขึ้นตามกำหนดเนื่องจาก มีการยกเลิกการจัดงานเมื่อ 2 มกราคม พ.ศ. 2468 ก่อน การจัดงานในวันที่ 23 มกราคม 2468 โดย การตั้งอาคารสถานีหัวหินสำเร็จเมื่อ ปี 2469
ที่มา: สมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์ www.asa.or.th |
|
Back to top |
|
|
BanPong1
1st Class Pass (Air)
Joined: 07/12/2006 Posts: 2733
Location: กม.37 สายเหนือ, กม.68 สายกาญจนบุรี
|
Posted: 09/12/2008 11:46 pm Post subject: |
|
|
heerchai wrote: | โรงงานมักกะสัน ได้รับรางวัลฯ แต่ได้รับการคุ้มครองจากการอาจถูกรื้อทิ้งด้วยหรือไม่ ครับ |
หากจะได้รับการคุ้มครอง ต้องได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นอาคารอนุรักษ์ จากกรมศิลปากร
ตามกฎหมายเกี่ยวกับโบราณสถานครับ |
|
Back to top |
|
|
casanotoey
3rd Class Pass (Air)
Joined: 03/07/2006 Posts: 412
|
Posted: 10/12/2008 10:26 am Post subject: |
|
|
ทำไมไม่มีสถานีชุมทางบ้านภาชี (ต้นแบบของสถานี BTS สยาม )ในปัจจุบัน |
|
Back to top |
|
|
|