ข่าวรถไฟอินโดนิเซีย

[Wisarut]

จะเปิดการเดินรถไฟสาย สนามบินซูกาโน - ฮัตตา ยาว 6 กิโลเมตร จากBatu Ceper ใน Tangerang ไป สนามบินซูกาโน - ฮัตตา เดือนเมษายน 2016 โดยจะเริ่มสร้าง เดือนมิถุนายน ศกนี้
http://www.thejakartapost.com/news/2015/03/09/airport-railway-take-april-2016-ap-ii.html

[Wisarut]

จีนแดงสนับสนุนโครงการ รถไฟความไวสูง จาการ์ตา - บันดุง โดยเริ่มเฟสแรก ยาว 144 กิโลเมตร

นอกจากนี้อินโดนิเซียจะต้องสร้างทางรถไฟเกาะสุลาเวสี และ รถไฟขนถ่านหิน ที่เกาะกาลิมันตัน และวางแผนการสร้างรถไฟบนเกาะปาปัว ฝั่งอิราอันไจยา เชื่อม นคร Jayapura กะ Sorong ยาว 595 กิโลเมตร

http://www.railwaygazette.com/news/news/asia/single-view/view/china-backs-jakarta-bandung-high-speed-proposal.html

[Wisarut]

Wow Asean : อินโดนีเซียเร่งสร้างรถไฟความเร็วสูง
Written by: newmedia
สำนักข่าวไทย
20 กรกฎาคม 2558 09:22 AM



อินโดนีเซีย 20 ก.ค.-อินโดนีเซียเป็นอีกประเทศหนึ่งที่เห็นความสำคัญของรถไฟความเร็วสูง ที่จะนำพาความเจริญมาสู่ประเทศ ล่าสุดผู้นำอินโดนีเซีย ถึงขั้นสั่งการให้เริ่มต้นการก่อสร้างในเดือนหน้านี้แล้ว


หลังเข้าร่วมการประชุมคณะรัฐมนตรี ซึ่งมีการหารือเรื่องโครงการรถไฟความเร็วสูง ประธานาธิบดีโจโก วิโดโด้ของอินโดนีเซีย ก็ได้สั่งการให้มีการ ก่อสร้างโครงการรถไฟความเร็วสูง ที่เชื่อมระหว่างกรุงจาการ์ตากับเมืองบันดุง เมืองเอกของจังหวัดชวาตะวันตก โดยจะต้องเริ่มต้นก่อสร้างในเดือน สิงหาคมนี้ ผู้นำอินโดนีเซียกล่าวว่ารถไฟเป็นการคมนาคมที่ถูกและมีประสิทธิภาพ ดังนั้นจึงต้องลงมือพัฒนาในทันที ขณะนี้มีเพียงญี่ปุ่นและจีน สองประเทศยักษ์ใหญ่ที่ได้ทำการศึกษาความเป็นไปได้ของการทำโครงการนี้โดยละเอียด


ต่อไปก็อยู่ที่การแข่งขันกันด้านราคาซึ่งยังไม่มีการเปิดเผยว่าทั้งสองประเทศได้เสนอราคาเท่าไร ทราบแต่เพียงว่าทั้งจีนและญี่ปุ่นได้เสนอให้เงินกู้ในการทำโครงการ โดยให้เวลาชำระคืนภายใน 40 ปีและให้ระยะเวลาปลอดหนี้นาน 10 ปี ส่วนอัตราดอกเบี้ยของญี่ปุ่นอยู่ที่ 0.1% ขณะที่อัตราดอกเบี้ยของจีนจะสูงกว่านิดหน่อย แต่แหล่งข่าวเผยว่าประธานาธิบดีโจโกวี่ ดูจะถูกใจรถไฟความเร็วสูงของญี่ปุ่นมากกว่า เพราะหากเลือกจีนจะต้องเวนคืนที่ดินผืนใหญ่ของกองทัพอากาศ อย่างไรก็ตาม ในการตัดสินผู้ที่จะได้ทำโครงการนี้ รัฐบาลอินโดนีเซียจะเปิดให้มีการแข่งขันและจ้างบริษัทที่ร่วมในขั้นตอนการประมูล บริษัทที่ปรึกษาจะเป็นผู้ปรึกษาอิสระที่เชื่อถือได้จากประเทศเป็นกลางที่ไม่มีส่วนได้ส่วนเสีย ซึ่งอาจจะเป็นเยอรมนี หรือฝรั่งเศส มามีส่วนตัดสินใจว่า ใครที่เหมาะสมที่จะได้ทำโดยพิจารณาจากหลายปัจจัย .-

[Wisarut]

รถไฟความไวสูง จาการ์ตา - บันดุง (140 กิโลเมตร) - ยังตกลงไม่ได้ว่าจะเอาระบบ ญี่ปุ่นหรือระบบจีนแดง
http://print.kompas.com/baca/2015/08/12/Berbagai-Aspek-Dikaji

[Mongwin]

^^^
ญี่ปุ่นมีโอกาสคว้าโครงการรถไฟความเร็วสูงในอินโดนีเซีย
ครอบครัวข่าว 3 วันที่ 12 สิงหาคม 2558 เวลา 17:37:07 น.

จีนและญี่ปุ่นกำลังขับเคี่ยวกันอย่างหนักเพื่อคว้าโอกาสในการลงทุนโครงการรถไฟความเร็วสูงเส้นทาง จาการ์ตา-บันดุง ในประเทศอินโดนีเซีย มูลค่ากว่าแสนล้านบาท โดยทั้งสองประเทศได้เริ่มนำเสนอแผนการลงทุนต่อรัฐบาลอินโดนีเซียในสัปดาห์นี้

แต่ข้อเสนอเบื้องต้นของญี่ปุ่นทั้งด้านการจ้างงาน คาดการณ์รายได้ รวมถึงอัตราดอกเบี้ย ที่จะช่วยเหลือทางการเงินน่าดึงดูดใจมากกว่า ทำให้ผู้เชี่ยวชาญประเมินว่าญี่ปุ่นมีโอกาสชนะโครงการนี้

ญี่ปุ่นได้ทำการศึกษาความเป็นไปได้และคำนวณราคา โครงการรถไฟความเร็วสูงสาย จาการ์ตา-บันดุง เป็นเงินประมาณ 120,000 ล้านบาท โดยเสนอดอกเบี้ยต่ำสำหรับเงินกู้ที่ร้อยละ 0.1 และให้ระยะเวลาชำระคืน นานถึง 40 ปี พร้อมทั้งเสนอเงื่อนไขให้ทางรัฐบาลอินโดนีเซียสามารถผ่อนชำระคืนเงินงวดแรกตั้งแต่ปีที่ 11 หลังโครงการสามารถดำเนินการได้

นอกจากนี้ หากรัฐบาลอินโดนีเซียเลือกญี่ปุ่นเป็นผู้ดำเนินโครงการนี้ ญี่ปุ่นสัญญาว่าจะสร้างโรงงานในอินโดนีเซีย เพื่อผลิตชิ้นส่วนรถไฟอีกด้วย ซึ่งจะทำให้เกิดการถ่ายทอดความรู้ในด้านวิศวกรรม และทำให้เกิดการจ้างงานของคนในท้องถิ่นมากขึ้น ทั้งนี้ญี่ปุ่นพร้อมเริ่มโครงการได้เร็วสุดต้นปีหน้า และเริ่มต้นทดสอบเดินรถในปี 2562 และดำเนินการเต็มรูปแบบเชิงพาณิชย์ในปี 2564

ญี่ปุ่นคาดการณ์ว่า เส้นทางรถไฟความเร็วสูง จาการ์ตา-บันดุง ระยะทาง 180 กิโลเมตรนี้ จะมีผู้โดยสารเฉลี่ย 44,000 คนต่อวัน และปีแรกรัฐบาลอินโดนีเซียจะมีรายได้จากค่าโดยสารประมาณ 9,400 ล้านบาท ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ชดเชยรายได้จากสินค้าโภคภัณฑ์ที่ตกต่ำลง

เปรียบเทียบกับข้อเสนอจาก ประเทศจีน ที่เสนอต้นทุนโครงการที่ระดับ 140,000 ล้านบาท และเสนอดอกเบี้ยที่ระดับร้อยละ 2 ต่อปี โดยให้ระยะเวลากู้ยืมเงิน 25 ปี และยังไม่สัญญาว่าจะสร้างโรงงานที่อินโดนีเซียหรือไม่

ทำให้ผู้เชี่ยวชาญ จากมหาวิทยาลัยกลาโหมแห่งชาติอินโดนีเซีย ประเมินว่า ข้อเสนอจากญี่ปุ่นน่าดึงดูดใจ และเป็นประโยชน์กับประเทศอินโดนีเซียมากกว่าจีน แต่แนะนำว่าอินโดนีเซียควรมีท่าทีเจรจากับทั้งสองประเทศอย่างเหมาะสม เพราะต่างเป็นประเทศมหาอำนาจของโลก ซึ่งอาจจะทำให้อินโดนีเซียเสียผลประโยชน์ในระยะยาวหากเลือกประเทศใดประเทศหนึ่งมากเกินไป

[Mongwin]

สร้างทางรถไฟบนเกาะสุลาเวสีเดือนตุลาคมนี้

Trans Sulawesi railway to start in October
thejakartapost.com, Jakarta | Archipelago | Thu, August 13 2015, 9:17 AM

President Joko "Jokowi" Widodo is set to inaugurate the initial construction stage of the Trans Sulawesi railway connecting Makassar and Pare-Pare in mid-October.

According to the Transportation Ministry's director general for railways Hermanto Dwiatmoko, the ministry is currently making final preparations for the new railway including land acquisitions and land leveling along the tracks.

Hermanto added that the project will use around 10 percent imported materials and is scheduled to open in 2019, providing a modern, high-speed rail service.

"We will need around Rp 11 trillion [US$796 million] to finish the [project]," said Hermanto on Wednesday as quoted by tempo.co.

To further strengthen local involvement and understanding, the government is cooperating with six higher education institutions in the region to carry out technical surveys, discuss design and develop railways education. The institutions involved are: Hasanuddin University, Haluoleo University, Tadulako University, Sam Ratulangi University, Gorontalo State University and West Sulawesi University.

"Developing the railway is more than just the construction itself. Human resources are also important," said Hermanto. He added that the railways education will include a dedicated railways major as yet unavailable, introducing students to technology, design and planning as specifically related to railways.

Hasanuddin University’s deputy rector IV Prof. Dr. Budu has welcomed the government's move to collaborate with higher education institutions to develop the railway industry in Sulawesi.

"We are totally ready to help out, including by developing railways education at our university," said Budu.

[Wisarut]

แผนพัฒนารถไฟของอินโดนิเซีย
http://www.indonesia.nl/if3/if3_2015_railway_indonesia.pdf

งานนี้ เปิดศึกระหว่างจีนกะญี่ปุ่นเพื่อให้ได้ deal รถไฟความไวสูงจาการ์ตา - บันดุง - สมารัง - สุราบายา ยาว 750 กิโลเมตร - แค่ รถไฟความไวสูงจาการ์ตา - บันดุง ก็ 144 กิโลเมตรแล้ว
http://jakarta.coconuts.co/2015/08/26/china-and-japan-battling-build-indonesias-first-bullet-train

รถไฟชานเมืองสำหรับกรุงจาการ์ตา จะเพิ่มรถเป็น 12 ตู้ในสายไปโบกอร์ และ เบกาซีที่คนใช้เยอะ
http://jakarta.coconuts.co/2015/08/05/krl-commuterline-introduce-12-car-trains-busy-bogor-and-bekasi-lines



Focus : “จีน-ญี่ปุ่น” เปิดศึกชิงสัมปทาน“รถไฟความเร็วสูง” เชื่อมจาการ์ตา-บันดุง สายแรกในอินโดนีเซีย
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
26 สิงหาคม 2558 14:22 น.


แผนที่ เส้นทางรถไฟความเร็วสูง จาการ์ตา-บันดุง ยาว 144 กิโลเมตร

เอเอฟพี – โครงการก่อสร้างระบบรถไฟความเร็วสูงสายแรกในอินโดนีเซียเป็นอีกหนึ่งสนามแข่งขันที่ทั้งญี่ปุ่นและจีนต่างยื่นข้อเสนอเพื่อช่วงชิงสัมปทาน และยังถือเป็นความพยายามล่าสุดของปักกิ่งที่จะท้าทายบทบาทของญี่ปุ่นในฐานะแหล่งทุนใหญ่สำหรับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ญี่ปุ่นเป็น 1 ใน 3 ประเทศที่เข้าไปลงทุนในอินโดนีเซียมากที่สุด โดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรมรถยนต์และเหมืองแร่ จึงเป็นที่คาดหมายว่าจะคว้าโครงการรถไฟความเร็วสูงในแดนอิเหนาไปแบบไม่ต้องลุ้น ทว่าความไม่แน่นอนก็เกิดขึ้น หลังจากที่จีนประกาศตัวเป็นคู่แข่งเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา

บรรยากาศการแข่งขันระหว่าง 2 มหาอำนาจยิ่งร้อนระอุหนัก หลังจากประธานาธิบดี โจโค วิโดโด แห่งอินโดนีเซีย เดินทางไปเยือนทั้งจีนและญี่ปุ่นในเดือนเมษายน เพื่อกระชับความสัมพันธ์ และเชื้อเชิญให้ทั้ง 2 ประเทศเข้ามาร่วมลงทุนในโครงการพัฒนาสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานที่ จะต้องใช้งบประมาณหลายพันล้านดอลลาร์

วิโดโด ได้ทดลองนั่งรถไฟหัวกระสุนระหว่างไปเยือนจีนและญี่ปุ่น พร้อมเผยวิสัยทัศน์ของรัฐบาลในการสร้างระบบรถไฟความเร็วสูงเชื่อมต่อระหว่างกรุงจาการ์ตากับ “บันดุง” ซึ่งเป็นเมืองมหาวิทยาลัยและศูนย์กลางไอทีที่อยู่ห่างจากเมืองหลวงเพียงราวๆ 160 กิโลเมตร

ถ้าหาก วิโดโด มีเจตนาที่จะดึงความสนใจจากเจ้าภาพทั้ง 2 ประเทศ ก็ดูเหมือนว่าเขาจะประสบความเร็จงดงาม เพราะหลังจากนั้นญี่ปุ่นและจีนต่างก็ทยอยส่งคณะผู้แทนไปเยือนกรุงจาการ์ตา พร้อมกับข้อเสนอที่หวังมัดใจรัฐบาลอินโดนีเซีย

“ให้พวกเขาแข่งกันมาลงทุนในอินโดนีเซียเถอะ เรามีแต่จะได้ประโยชน์” ลูฮุต ปันไจตัน ประธานคณะเจ้าหน้าที่ประจำทำเนียบประธานาธิบดีและคนสนิทของ วิโดโด ให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพี

“เหมือนหญิงสาวสวยที่มีชายหลายคนหมายปอง เธอย่อมมีสิทธิ์จะเลือกคนที่เธอชอบที่สุด” เขากล่าวเสริม

รถไฟความเร็วสูงไม่เพียงจะช่วยย่นระยะเวลาในการเดินทางระหว่างจาการ์ตากับบันดุงเท่านั้น แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นที่จะนำไปสู่การขยายเครือข่ายระบบรางเพื่อเชื่อมกับเมืองใหญ่อันดับ 2 อย่าง “สุราบายา” ในจังหวัดชวาตะวันออกด้วย


จีนไม่เรียกร้องเงินทุนค้ำประกันจากรัฐบาลจาการ์ตา ทั้งยังรับปากจะเริ่มโครงการได้ภายในปีนี้ โดยจะแล้วเสร็จและให้บริการได้อย่างช้าที่สุดภายในปี 2019

เมื่อช่วงกลางเดือนสิงหาคม จีนได้จัดนิทรรศการโมเดลรถไฟความเร็วสูงที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในกรุงจาการ์ตา โดยเอกอัครราชทูตจีนประจำอินโดนีเซียถึงกับหยอดคำหวานว่า โครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงจะเป็นเสมือน “ลูก” ที่ปักกิ่งและอิเหนาช่วยกันเลี้ยงดู

“สิ่งสำคัญอันดับแรกคือการดูแลให้เด็กคนนี้มีสุขภาพดีและเติบโตสมวัย ไม่ใช่บังคับให้เขาต้องโตเพื่อหาเงินมาเลี้ยงดูครอบครัว” เซี่ย เฟิง เอกอัครราชทูตจีนกล่าว หลังมีเสียงครหาว่าจีนพยายามแย่งสัมปทานกับญี่ปุ่นเพราะหวังผลประโยชน์เท่านั้น

สำหรับข้อเสนอของญี่ปุ่นนั้นต้องใช้งบประมาณสูงกว่าจีน มิหนำซ้ำโตเกียวยังระบุว่ารถไฟจะเริ่มให้บริการได้ภายในปี 2021 ซึ่งช้ากว่าที่จีนสัญญาไว้ถึง 2 ปี ทว่าในแง่ดีนั้น ญี่ปุ่นเสนออัตราดอกเบี้ยเงินกู้เพียง 0.1% ในขณะที่จีนตั้งไว้ถึง 2.0%

เครือข่ายรถไฟหัวกระสุน “ชินคันเซ็น” ของญี่ปุ่นมีชื่อเสียงมานานหลายสิบปีว่าสามารถพาผู้คนเดินทางเชื่อมต่อระหว่างเมืองใหญ่ๆ ได้ในเวลาอันรวดเร็ว และมีประวัติเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงเพียง 1 ครั้งเท่านั้น แต่เรื่องนี้จีนก็โต้แย้งว่า ระบบรถไฟความเร็วสูงที่จีนสร้างมีระยะทางยาวถึง 17,000 กิโลเมตร หรือคิดเป็น 55% ของเส้นทางรถไฟความเร็วสูงที่มีอยู่ทั่วโลก โดยจีนสร้างสำเร็จได้ภายในเวลาแค่ 12 ปีนับจากที่เริ่มผลิตรถไฟหัวกระสุนขบวนแรก

อย่างไรก็ดี อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับขบวนรถไฟความเร็วสูงของจีนเมื่อปี 2011 ได้คร่าชีวิตผู้โดยสารไปอย่างน้อย 40 ราย และยังมีคนบาดเจ็บอีก 200 คน ซึ่งนักวิจารณ์ชี้ว่า เป็นผลมาจากการเร่งรีบก่อสร้างโดยไม่คำนึงถึงมาตรฐานความปลอดภัย

Focus : “จีน-ญี่ปุ่น” เปิดศึกชิงสัมปทาน“รถไฟความเร็วสูง” เชื่อมจาการ์ตา-บันดุง สายแรกในอินโดนีเซีย

รัฐบาลอิเหนาเองก็ทราบดีว่า ระบบรางของญี่ปุ่นมีประวัติเป็นที่น่าเชื่อถือมากกว่าจีน ส่วนเจ้าหน้าที่ซึ่งได้รับมอบหมายให้พิจารณาข้อเสนอของทั้ง 2 ประเทศก็ยอมรับกับเอเอฟพีว่า เศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวในระยะนี้ทำให้อินโดนีเซียเริ่มไม่มั่นใจว่าปักกิ่งจะสามารถดำเนินโครงการได้ตามเป้าหมายที่ได้ให้สัญญาไว้หรือไม่

ปีที่แล้ว เศรษฐกิจจีนมีการขยายตัวเพียง 7.4% ซึ่งเป็นสถิติต่ำสุดตั้งแต่ปี 1990 และยังคงชะลอตัวลงมาเหลือเพียง 7.0% ในช่วง 2 ไตรมาสแรกของปีนี้

แหล่งข่าวของเอเอฟพี ระบุว่า อินโดนีเซียเคย “ได้บทเรียน” มาแล้วจากการลงทุนร่วมกับจีนในอดีต ไม่ว่าจะเป็นเม็ดเงินลงทุนที่ไม่มาตามนัด รวมถึงโรงไฟฟ้าแห่งใหม่ซึ่งเมื่อสร้างเสร็จสมบูรณ์กลับมีศักยภาพด้อยกว่าที่ปักกิ่งระบุเอาไว้ในสัญญา

รัฐบาลอิเหนาได้จ้างบริษัทที่ปรึกษา บอสตัน คอนซัลติง กรุ๊ป เข้ามาช่วยประเมินข้อเสนอของทั้ง 2 ชาติ แต่อำนาจตัดสินใจขั้นสุดท้ายยังคงอยู่ที่ประธานาธิบดี วิโดโด

เจ้าหน้าที่อาวุโสยอมรับว่า การให้สัมปทานรถไฟความเร็วสูงเป็น “เรื่องละเอียดอ่อน” เพราะจีนและญี่ปุ่นต่างเป็นคู่ค้าที่สำคัญต่ออินโดนีเซียด้วยกันทั้งคู่ และบรรดาผู้เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ก็เตือนให้ประธานาธิบดีต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ

มัคมูร์ เกอเลียต ผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศจากมหาวิทยาลัยแห่งชาติอินโดนีเซีย (UI) ระบุว่า รัฐบาลจะต้องใช้ทักษะการทูตอย่างสูง เพื่อให้ทั้งจีนและญี่ปุ่นยอมรับได้

“รัฐบาลจะต้องอธิบายให้ทั้ง 2 ฝ่ายฟังได้ว่า กระบวนการตัดสินใจของเราเป็นไปอย่างโปร่งใส และนี่ก็ไม่ใช่สนามแข่งขันเพียงแห่งเดียว เรายังมีโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ ที่จะเสนออีกมาก”

[Wisarut]

ส่วนการเปรียบเทียบระหว่างรถไฟจีนแดงและ รถไฟญี่ปุ่น ดูทีนี่

[Mongwin]

อินโดนีเซียสนใจข้อเสนอรถไฟความเร็วสูงจีนมากกว่าญี่ปุ่น
สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์ 1 ก.ย. 2558

-แหล่งข่าวจากอินโดนีเซียแจ้งว่า อินโดนีเซียให้ความสนใจข้อเสนอสร้างรถไฟความเร็วสูงสายแรกของจีนมากกว่าญี่ปุ่น เนื่องจากข้อเสนอสร้างภาระทางการเงินให้น้อยกว่า ส่วนเประเด็นความปลอดภัยก็ได้รับการแก้ไขอย่างเพียงพอ ขณะที่อินโดนีเซียต้องการสร้างสมดุลระหว่างสองมหาอำนาจเอเชีย ในการจัดการโครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ หลังจากญี่ปุ่นได้ทำสัญญาสร้างระบบขนส่งมวลชนด่วนในกรุงจาการ์ตา และโรงไฟฟ้าถ่านหินใหญ่สุดในภูมิภาคไปแล้ว ทั้งนี้ ช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมาสองประเทศยักษ์ใหญ่แห่งเอเชียต่างส่งทูตเข้าหว่านล้อมทางการอินโดนีเซีย ถึงเงื่อนไขที่น่าสนใจของตนในโครงการรถไฟความเร็วสูงมูลค่าราว 50,000 ล้านดอลลาร์และเชื่อว่า ผู้ที่ชนะประมูลจะกลายเป็นดาวเด่นในการทำโครงการรถไฟความเร็วสูงอื่น ๆ ในเอเชีย รวมทั้งสายกัวลาลัมเปอร์-สิงคโปร์ด้วย

[Mongwin]

อินโดยกเลิกใช้รถไฟ"ความเร็วสูง"เหตุไม่จำเป็น-ชี้จีน"ผลักดันหนัก"เร่ขายให้ต่างชาติ!
มติชนออนไลน์ วันที่ 04 กันยายน พ.ศ. 2558 เวลา 13:10:06 น.

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า อินโดนีเซียจะยกเลิกแผนสร้างรถไฟหัวกระสุนความเร็วสูงแล้ว พร้อมทั้งขอให้จีนและญี่ปุ่น ชาติผู้ประมูลโครงการเสนอแผนใหม่ สำหรับการสร้างรถไฟระดับความเร็วขนาดกลาง กับราคาที่ถูกลง

รายงานระบุว่า ทางการอินโดนีเซียจะยกเลิกแผนการสร้างรถไฟหัวกระสุนความเร็วสูงมูลค่า 38,250 ล้านบาท เนื่องจากเห็นว่าไม่สามารถนำไปใช้ได้เชิงพาณิชย์ และได้ขอให้ผู้เสนอประเทศ คือ จีน และญี่ปุ่น ยื่นข้อเสนอใหม่ โดยทางการอินโดนีเซียต้องการได้รถไฟความเร็วในระดับ 200 กิโลเมตร ต่อชม.ระหว่างกรุงจาการ์ตา เมืองหลวง ไปยังเมืองบันดุง เมืองใหญ่อันดับสามของประเทศ ในราคาที่ต่ำลง 30-40 เปอร์เซนต์ของรถไฟความเร็วสูงดังกล่าว

โดยนายริซัล รามลี รัฐมนตรีกระทรวงการขนส่งอินโดนีเซีย กล่าวว่า เราไม่ต้องการรถไฟความเร็วสูง แต่ต้องการแค่รถไฟความเร็วขนาดกลาง โดยจีนและญี่ปุ่นกำลังแข่งขันกับเสนอประมูลอย่างเข้มข้น ซึ่งเราก็ปล่อยให้พวกเขาแข่งขันกันไปให้ถึงที่สุด โดยจะให้เวลาญี่ปุ่นและจีนเสนอประมูลใหม่ไปอีกราวหลายสัปดาห์

ขณะที่รายงานระบุว่า ที่ผ่านมา จีนและญี่ปุ่นได้พยายามล๊อบบี้ให้ทางการอินโดนีเซียใช้รถไฟความเร็วสูง ซึ่งถือเป็นโครงการที่ริเริ่มโดยประธานาธิบดีโจโค วิโดโด้ แต่รัฐบาลอินโดนีเซียไม่มีความคืบหน้าในการบรรลุโครงการนี้ นอกจากนี้ ที่ผ่านมา จีนยังได้พยายามผลักดัน"อย่างหนักหน่วง"ที่จะขายรถไฟความเร็วสูงให้แก่ต่างชาติ ผ่านความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการทูต ขณะที่นายกรัฐมนตรีหลี่ เคอเฉียง ยังได้พยายามเสนอโครงการนี้ต่อประเทศกำลังพัฒนาต่าง ๆ ด้วย

นอกจากนี้ ข้อเสนอของจีนต่ออินโดนีเซียยังรวมทั้งการการจัดตั้งกองทุนให้กู้ยืมของจีน และบริษัทของทางการอินโดนีเซีย และทำให้จีนต้องแข่งขันกับญี่ปุ่น ซึ่งมองว่า โครงการรถไฟความเร็วสูง คือสินค้าส่งออกของญี่ปุ่น เพื่อใช้ช่วยฟื้นเศรษฐกิจของประเทศ ส่วนญี่ปุ่นก็ได้เสนอที่จะเสนอโครงการนี้ผ่านการใช้งบประมาณของอินโดนีเซีย รวมทั้งการให้กู้ดอกเบี้ยต่ำจากทางการญี่ปุ่นเอง