RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai Gallery in Facebook

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311409
ทั่วไป:13308553
ทั้งหมด:13619962
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - การสร้างทางรถไฟเชื่อมกับเพื่อนบ้านของจีนแผ่นดินใหญ่
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

การสร้างทางรถไฟเชื่อมกับเพื่อนบ้านของจีนแผ่นดินใหญ่
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 137, 138, 139, 140  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> เกี่ยวกับรถไฟต่างประเทศ
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 45126
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 29/04/2024 10:25 am    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
Durian train across Friendship Bridge to Tha Nalaeng before transshipping to Lao - China train

https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=1477419103160327&id=100026767552460

ไม่น่าเชื่อ ส่งทุเรียนไทยถึงจีนใน 3 วัน ภูมิธรรม เจรจาเปิดด่านโม่ฮาน-บ่อเต็นฉลุย
ประชาชาติธุรกิจ วันที่ 29 เมษายน 2567 - 09:30 น.

”ภูมิธรรม“ ลุยด่านโม่ฮาน-บ่อเต็น เจรจาขอเปิดด่านถึงสามทุ่ม ลดเวลาขนส่งทุเรียน-มังคุดไปจีน จาก 5 วัน เหลือ 3 วัน ส่งผลไม้สดคุณภาพถึงมือผู้บริโภคชาวจีนเร็วขึ้น

วันที่ 29 เมษายน 2567 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการนำคณะตรวจเยี่ยมด่านตรวจจำเพาะสินค้าผลไม้ด่านรถไฟโม่ฮาน และรับฟังข้อมูลสถานการณ์การขนส่งสินค้าผ่านด่านรถไฟโม่ฮาน จากหน่วยงานภาครัฐจีน ว่า ได้เจรจาขอเพิ่มเวลาทำการลดการแออัดบริเวณด่านเพื่ออำนวยความสะดวกให้การขนส่งผลไม้ไทยมายังจีน

โดยในช่วงเดือนพฤษภาคม 2567 เป็นต้นไป ผลผลิตผลไม้ไทยจะเริ่มออกสู่ตลาดมากขึ้น และที่ผ่านมาผลไม้ไทยประสบปัญหาเรื่องความแออัดบริเวณด่านบางครั้งต้องใช้เวลาถึง 5 วัน สำหรับรอตู้ผ่านเข้าจีนแล้วกลับออกมาบ่อเต็น และปัญหาเรื่องแคร่ที่จะมารับตู้คอนเทนเนอร์ไม่เพียงพอ

ทั้งนี้ เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวจึงต้องการหารือกับทางการจีน และผู้ว่าการเขตปกครองตนเองสิบสองปันนา เพื่อเสนอขอให้เพิ่มเวลาทำการเปิด-ปิดด่าน จากปกติ 8.00-18.00 น. ขอให้เพิ่มเวลาทำการอีก 3 ชั่วโมง เป็น 8.00-21.00 น. เพื่อลดความแออัดของรถบรรทุกบริเวณหน้าด่าน ซึ่งประสบความสำเร็จ ทางจีนตอบรับให้การสนับสนุน และเรื่องช่องทางการเข้า-ออกของรถบรรทุกที่คับแคบ

นอกจากนี้ ทางด่านโม่ฮานแจ้งว่ากำลังปรับปรุงขยายถนนออกไปอีก จากเดิม 2 ช่อง (จุดตรวจรถเข้า-ออก) เป็น 12 ช่อง และขอให้ช่วยประสานบ่อเต็นและทางการลาว คาดว่าภายใน 2 ปี จะทำช่องทางเสร็จ

ส่วนฝั่ง สปป.ลาว ได้หารือกับนายอ่อนจัน คำพาวง รองเจ้าแขวงหลวงน้ำทา สปป.ลาว ซึ่งเห็นด้วยในการเพิ่มเวลาทำการ ซึ่งการค้าผ่านแดนจุดนี้เป็นจุดใหญ่ที่สุด มีความสำคัญมาก เพราะเป็นช่องทางเข้าสู่ตลาดจีนตอนใต้และกระจายไปทั่วประเทศ และได้ขอให้ทางฝั่งลาวช่วยรายงานสภาพการจราจรบริเวณด่านและส่งให้ไทยทุกเดือน เพื่อจะได้เป็นข้อมูลในการบริหารจัดการ

ซึ่งทางการลาวรับไปพิจารณา และได้มอบหมายกรมการค้าต่างประเทศติดตามผลการขยายเวลาทำการของด่าน ว่าจะทำให้การส่งออกผลไม้ในเส้นทางนี้คล่องตัวขึ้นแค่ไหนเพียงใด

“ตนได้มาที่ด่านตรวจจำเพาะสินค้าผลไม้ด่านรถไฟโม่ฮาน ดูกระบวนการตรวจผลไม้ อาทิ ทุเรียน มังคุด ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรฯ ทางการจีน ศุลกากรจีน เราประสานงานการทำงานร่วมกัน คิดว่าจะสามารถแก้ปัญหาได้ดี จะช่วยให้ผู้บริโภคชาวจีนได้ทานผลไม้ที่สด ลดต้นทุนการขนส่ง เป็นประโยชน์กับผู้บริโภคชาวจีน และในวันพรุ่งนี้ตนจะพบไปกับธุรกิจสิบสองปันนาที่สนใจไปลงทุนที่ไทย ซึ่งการเดินทางมาสิบสองปันนา ที่ด่านโม่ฮานและด่านบ่อเต็น ครั้งนี้เป็นประโยชน์มาก” นายภูมิธรรม กล่าว

ข้อมูลจากกรมการค้าต่างประเทศระบุว่า ในปี 2566 ไทยส่งสินค้าผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็งและแห้ง มูลค่ารวม 6,941.55 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 22.77 เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน แบ่งเป็น

ผลไม้สด มูลค่าส่งออกรวม 5,400.75 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 22.30
ผลไม้แช่แข็ง 764 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 52.17
ผลไม้แห้ง 320.89 ล้านเหรียญสหรัฐ หดตัวร้อยละ 4.39 โดยมีจีนเป็นตลาดส่งออกสำคัญอันดับ 1 มีมูลค่าการส่งออกคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 89.68 ของการส่งออกผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็งและแห้งของไทย

เจรจาผู้ว่าสิบสองปันนา
นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า ได้เข้าหารือกับนายตาว เหวิน (Mr.Dao Wen)ผู้ว่าการเขตปกครองตนเองสิบสองปันนา มณฑลยูนนาน และคณะ ที่ห้องประชุมโรงแรม Mekong River Jing Land Hotel สิบสองปันนา มณฑลยูนนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน

ทั้งนี้ สิบสองปันนา เป็นเขตปกครองตนเองที่อยู่ทางตอนใต้ของมณฑลยูนนานของจีน และอยู่ใกล้ไทยมากที่สุด มีความสำคัญในการนำเข้า-ส่งออกสินค้า อาทิ พืชผัก ผลไม้สด ผลไม้แช่แข็ง ผลไม้แปรรูป เครื่องเทศ และสินค้าอุปโภคบริโภคต่างๆ

โดยการหารือครั้งนี้ ต้องการให้เพิ่มตู้คอนเทนเนอร์ให้เพียงพอต่อความต้องการในช่วงฤดูผลไม้ที่จะถึงนี้ และความต้องการที่ไทยจะส่งออกโคมีชีวิตไปยังจีน โดยขอให้ช่วยผลักดันการเจรจาเพื่อจัดทำพื้นที่เขตปลอดโรคให้ประสบความสำเร็จ ซึ่งขณะนี้ทั้งฝ่ายไทยและ สำนักงานศุลกากรแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (General Administration of Customs of China: GACC) อยู่ระหว่างการทำงานร่วมกัน

และได้หารือถึงการขนส่งสินค้าจากด่านท่าเรือเชียงแสน ผ่านแม่น้ำโขงไปยังท่าเรือกวนเหล่ยของจีน ขอให้สิบสองปันนาเตรียมความพร้อมในการจัดสถานที่ทำโรงชำแหละเนื้อโคมีชีวิตเพื่อรองรับการนำเข้าจากไทย ถ้าสำเร็จจะเป็นประโยชน์ร่วมกันทั้งสองฝ่าย ลดต้นทุนการขนส่งและสะดวกรวดเร็วขึ้น

โดยผู้ว่าฯ ได้แจ้งว่ากำลังปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานเส้นทางนี้ให้มีศักยภาพรองรับการค้าในอนาคต ทั้งนี้ ได้สั่งการให้กรมการค้าต่างประเทศและคณะที่ปรึกษาติดตามความคืบหน้าอย่างใกล้ชิด

นอกจากนี้ ทางผู้ว่าการเขตปกครองตนเองสิบสองปันนา ได้ขอให้ฝ่ายไทยให้การสนับสนุนการเปิดเส้นทางการบิน สิบสองปันนา-กรุงเทพฯ ซึ่งขณะนี้ได้มีเส้นทางบินตรง เชียงใหม่-สิบสองปันนาแล้ว วันละ 1 ไฟล์ท หากเปิดเส้นทางการบินเพิ่มจะเป็นประโยชน์ ต่อการเดินทางท่องเที่ยว และช่วยเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างสองประเทศได้ ซึ่งได้รับเรื่องไว้

สิบสองปันนา เป็น 1 ใน 16 เขตปกครองตนเองที่ตั้งอยู่ทางใต้สุดของมณฑลยูนนาน ในปี 2566 มูลค่าการค้าระหว่างจีนและไทยประมาณ 126,280 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยการค้าระหว่างเขตฯสิบสองปันนากับไทย ราว 7,667 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ซึ่งมณฑลยูนนานเป็นมณฑลที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 8 ของจีน ตั้งอยู่ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีน เป็นมณฑลที่ไม่มีทางออกทะเล แต่มีพรมแดนติดกับเมียนมาร์ เวียดนาม และ สปป.ลาว จึงมีความโดดเด่นด้านการค้าชายแดน และตั้งอยู่ใกล้ไทยมากที่สุด

โดยใช้เส้นทางถนน R3A ซึ่งการส่งเสริมการค้ากับมณฑลยูนนานจะมีความสำคัญอย่างสูงต่อการเชื่อมโยงการค้า การคมนาคม ทั้งทางบก อากาศ และทางเรือ ในการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ

Thailand's Durian Exports to China Expedited: 3-Day Delivery Achieved

Deputy Prime Minister Phumtham Negotiates Extended Checkpoint Hours, Improving Trade Flow
April 29, 2024 - 9:30 a.m.

Deputy Prime Minister and Minister of Commerce Phumtham Wechayachai announced a successful negotiation to extend operating hours at the Mohan-Boten checkpoint. The change aims to reduce congestion and facilitate faster transport of Thai fruits to China. This will significantly reduce the transport time of durian and mangosteen from 5 days to just 3, ensuring Chinese consumers receive fresher produce.

Mr. Phumtham revealed these details on April 29, 2024, after leading an inspection team to the Mohan Railway Checkpoint, where he gathered information about freight transport conditions. He explained that extended hours are essential as the volume of Thai fruit exports to China is set to increase significantly from May 2024 onwards.

Previously, congestion at the checkpoint often resulted in delays of up to 5 days. To address this, Thailand initiated discussions with Chinese authorities and the Governor of Sipsongbanna Autonomous Region. The proposal to extend checkpoint hours from 8:00 a.m. to 9:00 p.m. was met with support from the Chinese side.

Additionally, the Mohan checkpoint is working to expand its lanes from 2 to 12, a project expected to be completed within two years. Thailand has also coordinated with Boten and Lao authorities to ensure smooth logistics across the border.

Mr. Phumtham also met with Mr. Onchan Khamphawong, Deputy Provincial Governor of Luang Namtha (Laos), securing agreement for extended hours at this vital trade point. The Laotian government will also provide monthly traffic reports around the checkpoint, aiding in logistical management.

"This visit to the Mohan Railway Checkpoint has proven extremely valuable,” stated Mr. Phumtham. “We are working closely with the Ministry of Agriculture and Chinese authorities to streamline fruit inspections. This collaboration benefits Chinese consumers through fresher produce and reduced costs, while also supporting Thai exporters.”
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42834
Location: NECTEC

PostPosted: 30/04/2024 11:25 am    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
รถไฟเชื่อมต่อเวียงจันทน์ มณฑลกุ้ยโจวของจีน
VNA วันพุธที่ 24 เมษายน 2567 16:52



https://en.vietnamplus.vn/rail-connects-vientiane-chinas-guizhou-province/285009.vnp


🇨🇳🇱🇦 The Guiyang-Laos tourist train will be launched on May 8, signifying a pivotal step in boosting tourism and cultural ties between China and Southeast Asia.
This rail service that will debut with a ride from Guiyang city in China’s Guizhou province to Laos capital of Vientiane promises to be a catalyst for tourism development across the region.


https://e.vnexpress.net/news/places/guiyang-laos-tourist-train-to-be-launched-to-boost-tourism-4738490.html
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42834
Location: NECTEC

PostPosted: 30/04/2024 7:22 pm    Post subject: Reply with quote

"กนอ.-ไชน่า แมเนจเม้นท์" รุกดึงทุนจีนปักหมุดนิคมอุตสาหกรรมไทย
ฐานเศรษฐกิจ
วันอังคาร ที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2567 เวลา 13:14 น.

"กนอ.-ไชน่า แมเนจเม้นท์" รุกดึงทุนจีนปักหมุดนิคมอุตสาหกรรมไทย เดินหน้าตามกรอบหนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง เชื่อมโยงโครงข่ายเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และโลจิสติกส์ ยกระดับการพัฒนาด้านภูมิภาคสร้างกลไกนวัตกรรม
นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ได้ดำเนินการร่วมกับไชน่า แมเนจเม้นท์ เซ็นจูรี่ กรุ๊ป (China Management Century Group) ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจจากมณฑลเหอหนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน

ทั้งนี้ เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดการลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมภายใต้กรอบความร่วมมือ “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” (BRI) เชื่อมโยงโครงข่ายเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และโลจิสติกส์ ยกระดับการพัฒนาด้านภูมิภาคสร้างกลไกนวัตกรรมร่วมกัน

สำหรับไทยกับสาธารณรัฐประชาชนจีนนั้น มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดโดยเฉพาะในมิติทางเศรษฐกิจ ทั้งสองประเทศมีความร่วมมือกันมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะภายใต้กรอบ หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง ซึ่งนำไปสู่ความร่วมมือทวิภาคีด้านเศรษฐกิจ อุตสาหกรรม การค้า การลงทุน และการพัฒนากลไกความร่วมมือด้านการลงทุนอย่างต่อเนื่อง



รัฐบาลไทยและจีนให้ความสำคัญกับการส่งเสริมและสนับสนุนการลงทุน โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าหรืออีวี (EV ซึ่งไทยมีศักยภาพและได้รับความสนใจจากนักลงทุนจีนเป็นอย่างมาก ปัจจุบันมีบริษัทจีนมาลงทุนตั้งโรงงานผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในนิคมอุตสาหกรรมของไทยเพิ่มมากขึ้น"

นายเหอ ซีออง นายกเทศมนตรีเมืองเจิ้งโจว กล่าวว่า ความร่วมมือดังกล่าวไม่เพียงเป็นการพัฒนาความร่วมมือของจีนและไทยเท่านั้น แต่ช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับการพัฒนาเมืองเจิ้งโจว และจังหวัดระยองอีกด้วย เมืองเจิ้งโจว ในฐานะเมืองหลวงของมณฑลเหอหนาน ในปี 2566 มี GDP ของภูมิภาคเกินกว่า 1.36 ล้านล้านหยวน

จากจำนวนประชากรเกินกว่า 13 ล้านคน ผ่านตัวชี้วัดหลายประการ เช่น อัตราการเติบโตของมูลค่าเพิ่มทางอุตสาหกรรม อัตราการเติบโตของยอดขายปลีกรวมของสินค้าอุปโภค-บริโภค และการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนา



นอกจากนี้ เจิ้งโจว มีทำเลที่ตั้งโดดเด่น เป็นหนึ่งใน 12 ศูนย์กลางการคมนาคมระหว่างประเทศ และศูนย์กลางการขนส่งโดยสายการบินต่างๆ 6 แห่ง เป็นเส้นทางสายไหมทั้งสี่" ของทางอากาศ ทางบก ทางออนไลน์ และทางทะเล นอกจากนี้ สนามบินเจิ้งโจวยังติดอันดับหนึ่งในสนามบินขนส่งสินค้าชั้นนำ 40 แห่งของโลก รถไฟบรรทุกสินค้าจีน-ยุโรป ครอบคลุมมากกว่า 40 ประเทศ และมากกว่า 140 เมือง

"จีนและไทยมีความใกล้ชิดและเชื่อมโยงทางวัฒนธรรม ซึ่งในระหว่างการเยือนประเทศไทยของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เสนอให้สร้างชุมชนจีน-ไทยที่มั่นคง โดยการบูรณาการ หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง เปิดตัวศูนย์อาเซียนอย่างเป็นทางการสร้าง เส้นทางสายไหมทางอากาศ เจิ้งโจว-อาเซียน และบรรลุข้อตกลงเมืองพี่กับจังหวัดระยอง ในประเทศไทย เปิดตัวรถไฟสายเย็นพิเศษสำหรับผลไม้นำเข้าจากประเทศไทย และรถไฟสายเย็นพิเศษสำหรับส่งออกสินค้าเกษตร เปิดเส้นทางการบินให้กับสายการบินนกแอร์เที่ยวบินแรกสู่เจิ้งโจว โดยในปี 2567 เจิ้งโจว ประสบความสำเร็จในการเป็นเจ้าภาพเดือนแห่งการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมจีน (เหอหนาน)-อาเซียน และจัดเทศกาลอาหารไทย "Thai Heartbeat"

นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการ กนอ. กล่าวว่า ความร่วมมือดังกล่าวสอดคล้องกับนโยบายของประเทศ ที่มุ่งเน้นการพัฒนาประเทศด้วยเทคโนโลยี พัฒนาอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ วัฒนธรรม และบริการที่มีมูลค่าสูง ซึ่งประเทศไทยเป็นประเทศที่มีศักยภาพทางด้านทำเลที่ตั้ง และเป็นเป้าหมายของนักลงทุนจากหลายประเทศทั่วโลก


ขณะที่เมืองเจิ้งโจว ซึ่งเป็นเมืองหลวงของมณฑลเหอหนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นเมืองที่มีการปรับปรุงสภาพแวดล้อมการลงทุนอย่างต่อเนื่อง เพื่อก้าวไปสู่ระดับโลก และมีแผนงานที่จะพัฒนาสภาพแวดล้อมทางธุรกิจในหลากหลายส่วนอย่างต่อเนื่องเช่นกัน ที่สำคัญยังมีการใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานต่างๆ อีกด้วย

“กนอ. มุ่งส่งเสริมการลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมไทยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งความร่วมมือดังกล่าวถือเป็นก้าวสำคัญในการกระชับความสัมพันธ์ และส่งเสริมความร่วมมือระหว่างไทยกับจีน ภายใต้กรอบความร่วมมือ BRI มั่นใจว่าความร่วมมือนี้จะดึงดูดนักลงทุนจีนให้เข้ามาลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมของ กนอ. มากขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจไทยโดยรวม”
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42834
Location: NECTEC

PostPosted: 30/04/2024 7:24 pm    Post subject: Reply with quote

"ภูมิธรรม" เจรจาผู้ว่าฯสิบสองปันนา เร่งเพิ่มตู้ส่งผลไม้-ส่งออกโคมีชีวิต
ฐานเศรษฐกิจ
วันอาทิตย์ที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2567 เวลา 09:41 น.

รองนายกฯ “ภูมิธรรม” เจรจากับผู้ว่าการสิบสองปันนา มณฑลยูนนาน เร่งเพิ่มตู้คอนเทนเนอร์รองรับผลไม้ไทย การผลักดันเขตปลอดโรคเพื่อส่งออกโคมีชีวิตไปจีน ขอไทยหนุนเปิดเส้นทางบินตรงสิบสองปันนา-กรุงเทพฯ เพิ่มมูลค่าการท่องเที่ยวและการค้าระหว่างสองประเทศ
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้นำคณะผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ เดินทางมาปฎิบัติราชการที่สาธารณรัฐประชาชนจีน และสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ระหว่างวันที่ 27-29 เมษายน 2567 โดยได้เข้าหารือกับนายตาว เหวิน (Mr.Dao Wen) ผู้ว่าการเขตปกครองตนเองสิบสองปันนา มณฑลยูนนาน และคณะ ที่ห้องประชุมโรงแรม Mekong River Jing Land Hotel สิบสองปันนา มณฑลยูนนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน

นายภูมิธรรม เวชยชัย เปิดเผยว่า ได้นำคณะเดินทางมาที่สิบสองปันนา เนื่องจากเป็นเขตปกครองตนเองที่อยู่ทางตอนใต้ของมณฑลยูนนานของจีน และอยู่ใกล้ไทยมากที่สุด มีความสำคัญในการนำเข้า-ส่งออกสินค้า อาทิ พืชผัก ผลไม้สด ผลไม้แช่แข็ง ผลไม้แปรรูป เครื่องเทศ และสินค้าอุปโภคบริโภคต่าง ๆ ซึ่ง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มีความเป็นห่วงพี่น้องชาวสวน เรื่องปัญหาอุปสรรคที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในในช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาดมากในช่วงฤดูกาลผลไม้


ซึ่งตนได้หารือกับท่านผู้ว่าการเขตปกครองตนเองสิบสองปันนา อยากให้เพิ่มตู้คอนเทนเนอร์ให้เพียงพอต่อความต้องการในช่วงฤดูผลไม้ และความต้องการที่ไทยจะส่งออกโคมีชีวิตไปยังจีน โดยขอให้ช่วยผลักดันการเจรจาเพื่อจัดทำพื้นที่เขตปลอดโรคให้ประสบความสำเร็จ ซึ่งขณะนี้ทั้งฝ่ายไทยและ สำนักงานศุลกากรแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (General Administration of Customs of China :GACC) อยู่ระหว่างการทำงานร่วมกัน

ขณะเดียวกัน การขนส่งสินค้าจากด่านท่าเรือเชียงแสน ผ่านแม่น้ำโขงไปยังท่าเรือกวนเหล่ยของจีน ขอให้สิบสองปันนาเตรียมความพร้อมในการจัดสถานที่ทำโรงชำแหละเนื้อโคมีชีวิตเพื่อรองรับการนำเข้าจากไทย ถ้าสำเร็จจะเป็นประโยชน์ร่วมกันทั้งสองฝ่าย ลดต้นทุนการขนส่งและสะดวกรวดเร็วขึ้น โดยท่านผู้ว่าฯได้แจ้งว่ากำลังปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานเส้นทางนี้ให้มีศักยภาพรองรับการค้าในอนาคต ทั้งนี้ตนได้สั่งการให้กรมการค้าต่างประเทศและคณะที่ปรึกษาติดตามความคืบหน้าอย่างใกล้ชิด

"ภูมิธรรม" เจรจาผู้ว่าฯสิบสองปันนา เร่งเพิ่มตู้ส่งผลไม้-ส่งออกโคมีชีวิต


นอกจากนี้ทางผู้ว่าการเขตปกครองตนเองสิบสองปันนา ได้ขอให้ฝ่ายไทยให้การสนับสนุนการเปิดเส้นทางการบิน สิบสองปันนา-กรุงเทพฯ ซึ่งขณะนี้ได้มีเส้นทางบินตรง เชียงใหม่-สิบสองปันนาแล้ว วันละ 1 ไฟล์ท หากเปิดเส้นทางการบินเพิ่มจะเป็นประโยชน์ ต่อการเดินทางท่องเที่ยว และช่วยเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างสองประเทศได้ ซึ่งตนได้รับเรื่องไว้

นายภูมิธรรม ระบุเพิ่มเติมว่า จากนี้ตนจะเดินทางไปเยี่ยมชมด่านโม่ฮาน(จีน) และด่านบ่อเต็น (ลาว) เพื่อเจรจาเรื่องการขอให้เพิ่มเวลาทำงานที่หน้าด่านลดการแออัดในการขนส่งสินค้า และจะไปที่ด่านรถไฟโม่ฮาน เพื่อรับฟังข้อมูลสถานการณ์การขนส่งสินค้าผ่านด่านรถไฟโม่ฮาน และวิธีการตรวจปล่อยผลไม้ไทยด้วย

"ภูมิธรรม" เจรจาผู้ว่าฯสิบสองปันนา เร่งเพิ่มตู้ส่งผลไม้-ส่งออกโคมีชีวิต

สิบสองปันนา เป็น 1 ใน 16 เขตปกครองตนเองที่ตั้งอยู่ทางใต้สุดของมณฑลยูนนาน ในปี 2566 มูลค่าการค้าระหว่างจีนและไทยประมาณ 126,280 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยการค้าระหว่างเขตฯสิบสองปันนากับไทย ราว 7,667 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ซึ่งมณฑลยูนนานเป็นมณฑลที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 8 ของจีน ตั้งอยู่ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีน เป็นมณฑลที่ไม่มีทางออกทะเล แต่มีพรมแดนติดกับเมียนมาร์ เวียดนาม และ สปป.ลาว จึงมีความโดดเด่นด้านการค้าชายแดน และตั้งอยู่ใกล้ไทยมากที่สุด โดยใช้เส้นทางถนน R3A ซึ่งการส่งเสริมการค้ากับมณฑลยูนนานจะมีความสำคัญอย่างสูงต่อการเชื่อมโยงการค้า การคมนาคม ทั้งทางบก อากาศ และทางเรือ ในการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ

ไทย-สิบสองปันนา ยกระดับการค้า-ท่องเที่ยว
วันจันทร์ ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2567 เวลา 07:29 น.


นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยภายหลังนำคณะผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ เดินทางมาปฏิบัติราชการที่สาธารณรัฐประชาชนจีน และสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ระหว่างวันที่ 27-29 เมษายน 2567 โดยได้เข้าหารือกับนายตาว เหวิน (Mr.Dao Wen)ผู้ว่าการเขตปกครองตนเองสิบสองปันนา มณฑลยูนนาน และคณะ ที่ห้องประชุมโรงแรม Mekong River Jing Land Hotelสิบสองปันนา มณฑลยูนนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน (ช่วงค่ำวันที่ 27 เมษายน 2567)

นายภูมิธรรม กล่าวว่าการนำคณะเดินทางมาที่สิบสองปันนา เนื่องจากเป็นเขตปกครองตนเองที่อยู่ทางตอนใต้ของมณฑลยูนนานของจีน และอยู่ใกล้ไทยมากที่สุด มีความสำคัญในการนำเข้า-ส่งออกสินค้า อาทิ พืชผัก ผลไม้สด ผลไม้แช่แข็งผลไม้แปรรูป เครื่องเทศ และสินค้าอุปโภค-บริโภคต่างๆ ซึ่งท่านนายกฯ มีความเป็นห่วงพี่น้องชาวสวน เรื่องปัญหาอุปสรรคที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในในช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาดมากในช่วงฤดูกาลผลไม้ที่จะถึงนี้


ทั้งนี้ได้หารือกับท่านผู้ว่าการเขตปกครองตนเองสิบสองปันนา อยากให้เพิ่มตู้คอนเทนเนอร์ให้เพียงพอต่อความต้องการในช่วงฤดูผลไม้ที่จะถึงนี้และความต้องการที่ไทยจะส่งออกโคมีชีวิตไปยังจีน โดยขอให้ช่วยผลักดันการเจรจาเพื่อจัดทำพื้นที่เขตปลอดโรคให้ประสบความสำเร็จ ซึ่งขณะนี้ทั้งฝ่ายไทยและสำนักงานศุลกากรแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (General Administration of Customs of China : GACC) อยู่ระหว่างการทำงานร่วมกัน

และได้หารือถึงการขนส่งสินค้าจากด่านท่าเรือเชียงแสน ผ่านแม่น้ำโขงไปยังท่าเรือกวนเหล่ยของจีน ขอให้สิบสองปันนาเตรียมความพร้อมในการจัดสถานที่ทำโรงชำแหละเนื้อโคมีชีวิตเพื่อรองรับการนำเข้าจากไทย ถ้าสำเร็จจะเป็นประโยชน์ร่วมกันทั้งสองฝ่าย ลดต้นทุนการขนส่งและสะดวกรวดเร็วขึ้น โดยท่านผู้ว่าฯได้แจ้งว่ากำลังปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานเส้นทางนี้ให้มีศักยภาพรองรับการค้าในอนาคต ทั้งนี้ตนได้สั่งการให้กรมการค้าต่างประเทศและคณะที่ปรึกษาติดตามความคืบหน้าอย่างใกล้ชิด

นอกจากนี้ทางผู้ว่าการเขตปกครองตนเองสิบสองปันนา ได้ขอให้ฝ่ายไทยให้การสนับสนุนการเปิดเส้นทางการบิน สิบสองปันนา-กรุงเทพฯ ซึ่งขณะนี้ได้มีเส้นทางบินตรง เชียงใหม่-สิบสองปันนาแล้ววันละ 1 ไฟลท์ หากเปิดเส้นทางการบินเพิ่มจะเป็นประโยชน์ต่อการเดินทางท่องเที่ยว และช่วยเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างสองประเทศได้ ซึ่งตนได้รับเรื่องไว้นายภูมิธรรม ระบุเพิ่มเติมว่า จากนี้ตนจะเดินทางไปเยี่ยมชมด่านโม่ฮาน(จีน) และด่านบ่อเต็น (ลาว)เพื่อเจรจาเรื่องการขอให้เพิ่มเวลาทำงานที่หน้าด่านลดการแออัดในการขนส่งสินค้า และจะไปที่ด่านรถไฟโม่ฮาน เพื่อรับฟังข้อมูลสถานการณ์การขนส่งสินค้าผ่านด่านรถไฟโม่ฮาน และวิธีการตรวจปล่อยผลไม้ไทยด้วย

สิบสองปันนา เป็น 1 ใน 16 เขตปกครองตนเองที่ตั้งอยู่ทางใต้สุดของมณฑลยูนนาน ในปี 2566มูลค่าการค้าระหว่างจีนและไทยประมาณ 126,280 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยการค้าระหว่างเขตฯสิบสองปันนากับไทย ราว 7,667 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมณฑลยูนนานเป็นมณฑลที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 8ของจีน ตั้งอยู่ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีน เป็นมณฑลที่ไม่มีทางออกทะเล แต่มีพรมแดนติดกับเมียนมา เวียดนาม และ สปป.ลาว จึงมีความโดดเด่นด้านการค้าชายแดน และตั้งอยู่ใกล้ไทยมากที่สุด โดยใช้เส้นทางถนน R3A ซึ่งการส่งเสริมการค้ากับมณฑลยูนนานจะมีความสำคัญอย่างสูงต่อการเชื่อมโยงการค้า การคมนาคม ทั้งทางบก อากาศ และทางเรือในการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42834
Location: NECTEC

PostPosted: 01/05/2024 10:46 am    Post subject: Reply with quote

“ภูมิธรรม” เจรจาเพิ่มเวลาเปิดด่านโม่ฮาน-บ่อเต็น รองรับส่งผลไม้ไทยไปจีน
ฐานเศรษฐกิจ
วันจันทร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2567 เวลา 12:14 น.

ผ่านฉลุย "ภูมิธรรม" คุยเปิดด่านโม่ฮาน-บ่อเต็นส่งออกสินค้าไทย

กรมการค้าต่างประเทศ DFT
วันจันทร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2567


คลิปข่าว เรื่อง ผ่านฉลุย "ภูมิธรรม" คุยเปิดด่านโม่ฮาน-บ่อเต็นส่งออกสินค้าไทย ขอขอบพระคุณคลิปจากรายการ Top Story สำนักข่าว INN NEWS วันที่ 29 เมษายน 2567

รองนายกฯ ภูมิธรรม ลุยตรวจด่านโม่ฮาน-บ่อเต็น เจรจาเพิ่มเวลาเปิดด่านถึง 3 ทุ่ม รองรับการส่งออกผลไม้ไทยช่วงผลผลิตออกมาก ฝั่งจีน พร้อมเดินขยายช่องทางผ่านแดนจาก 2 ช่อง เป็น 12 ช่อง ภายใน 2 ปี
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า หลังจากตรวจเยี่ยมด่านตรวจจำเพาะสินค้าผลไม้ด่านรถไฟโม่ฮาน และรับฟังข้อมูลสถานการณ์การขนส่งสินค้าผ่านด่านรถไฟโม่ฮาน จากหน่วยงานภาครัฐจีน และได้นำคณะลงพื้นที่ด่านบ่อเต็น สปป.ลาว และด่านโม่ฮาน มณฑลยูนนาน สาธารณรัฐประชาชนจีนด้วย เพื่อเจรจาขอเพิ่มเวลาทำการลดการแออัดบริเวณด่านเพื่ออำนวยความสะดวกให้การขนส่งผลไม้ไทย

โดยช่วงเดือนพฤษภาคม เป็นต้นไป ผลผลิตผลไม้ไทยจะเริ่มออกสู่ตลาดมาก ที่ผ่านมาเราประสบปัญหาเรื่องความแออัดบริเวณด่านบางครั้งต้องใช้เวลาถึง 5 วัน สำหรับรอตู้ผ่านเข้าจีนแล้วกลับออกมาบ่อเต็น และปัญหาเรื่องแคร่ที่จะมารับตู้คอนเทนเนอร์ไม่เพียงพอ ซึ่งก่อนที่ผลผลิตผลไม้จะออกมาก ได้มีการเจรจากับทางการจีน และได้หารือผู้ว่าการเขตปกครองตนเองสิบสองปันนา เสนอขอให้เพิ่มเวลาทำการเปิด-ปิดด่าน จากปกติ 8.00-18.00 น. ขอให้เพิ่มเวลาทำการอีก 3 ชั่วโมง เป็น 8.00-21.00 น. เพื่อลดความแออัดของรถบรรทุกบริเวณหน้าด่าน ซึ่งประสบความสำเร็จ ทางจีนตอบรับให้การสนับสนุน และเรื่องช่องทางการเข้า-ออกของรถบรรทุกที่คับแคบ ทางด่านโม่ฮานแจ้งว่ากำลังปรับปรุงขยายถนนออกไปอีก จากเดิม 2 ช่อง (จุดตรวจรถเข้า-ออก) เป็น 12 ช่อง และขอให้ช่วยประสานบ่อเต็นและทางการลาว คาดว่าภายใน 2 ปี จะทำช่องทางเสร็จ


นอกจากนั้นได้หารือกับ นายอ่อนจัน คำพาวง รองเจ้าแขวงหลวงน้ำทา สปป.ลาว ซึ่งท่านเห็นด้วยในการเพิ่มเวลาทำการ ซึ่งการค้าผ่านแดนจุดนี้เป็นจุดใหญ่ที่สุด มีความสำคัญมาก เพราะเป็นช่องทางเข้าสู่ตลาดจีนตอนใต้และกระจายไปทั่วประเทศ และได้ขอให้ทางฝั่งลาวช่วยรายงานสภาพการจราจรบริเวณด่านและส่งให้ไทยทุกเดือน เพื่อจะได้เป็นข้อมูลในการบริหารจัดการ ซึ่งทางการลาวรับไปพิจารณา และได้มอบหมายกรมการค้าต่างประเทศติดตามผลการขยายเวลาทำการของด่าน ว่าจะทำให้การส่งออกผลไม้ในเส้นทางนี้คล่องตัวขึ้นแค่ไหนเพียงใด

“ภูมิธรรม” เจรจาเพิ่มเวลาเปิดด่านโม่ฮาน-บ่อเต็น รองรับส่งผลไม้ไทยไปจีน

“ตนได้มาที่ด่านตรวจจำเพาะสินค้าผลไม้ด่านรถไฟโม่ฮาน ดูกระบวนการตรวจผลไม้ อาทิ ทุเรียน มังคุด ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรฯ ทางการจีน ศุลกากรจีน เราประสานงานการทำงานร่วมกัน คิดว่าจะสามารถแก้ปัญหาได้ดี จะช่วยให้ผู้บริโภคชาวจีนได้ทานผลไม้ที่สด ลดต้นทุนการขนส่ง เป็นประโยชน์กับผู้บริโภคชาวจีน และในวันพรุ่งนี้ตนจะพบไปกับธุรกิจสิบสองปันนาที่สนใจไปลงทุนที่ไทย ซึ่งการเดินทางมาสิบสองปันนา ที่ด่านโม่ฮานและด่านบ่อเต็น ครั้งนี้เป็นประโยชน์มาก” นายภูมิธรรม กล่าว

“ภูมิธรรม” เจรจาเพิ่มเวลาเปิดด่านโม่ฮาน-บ่อเต็น รองรับส่งผลไม้ไทยไปจีน


ข้อมูลจากกรมการค้าต่างประเทศระบุว่า ในปี 2566 ไทยส่งสินค้าผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็งและแห้ง มูลค่ารวม 6,941.55 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 22.77% เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน แบ่งเป็น

ผลไม้สด มูลค่าส่งออกรวม 5,400.75 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 22.30%
ผลไม้แช่แข็ง 764 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 52.17%
ผลไม้แห้ง 320.89 ล้านดอลลาร์ หดตัว 4.39%
โดยมีจีนเป็นตลาดส่งออกสำคัญอันดับ 1 มีมูลค่าการส่งออกคิดเป็นสัดส่วน 89.68% ของการส่งออกผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็งและแห้งของไทย

ภูมิธรรมหารือผู้ว่ายูนนาน เปิดเส้นทางรถ-ราง-เรือส่งสินค้าเข้าจีน
วันพุธ ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2567 เวลา 06.00 น.


นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ เปิดเผยภายหลังหารือกับนายหวัง หยู่โป (H.E.Mr.Wang Yubo) รองเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีนประจำมณฑลยูนนาน ผู้ว่าการมณฑลยูนนานและเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีนประจำรัฐบาลมณฑลยูนนาน ที่ Haigeng Garden ห้องประชุม 1 เมืองคุนหมิง มณฑลยูนนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน ช่วงเย็นวันที่ 29 เมษายน 2567


นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนมาครั้งนี้เพื่อกระชับความสัมพันธ์การค้าระหว่างกันในระดับมณฑลให้รวดเร็วและเข้าถึงปัญหาได้อย่างเต็มที่ รัฐบาลฯมุ่งมั่นที่จะขยาย
ความร่วมมือทางการค้ากับมณฑลยูนนาน ผ่านเส้นที่ 1 หนองคายต่อรถไฟเวียงจันทน์สู่มณฑลยูนนาน และเส้นที่ 2 จังหวัดเชียงราย (เชียงของ - บ่อเต็น - โม่ฮาน) ผ่านถนน R3A สู่ด่านบ่อเต็นเข้าด่านโม่ฮาน และอีกเส้นทางที่มาเจรจาเพื่อเปิดเส้นทางการเดินเรือผ่านท่าเรือเชียงแสนมาท่าเรือกวนเหล่ยซึ่งจะเป็นเส้นทางการค้าใหม่ ที่ยังไม่คึกคักเท่าที่ควร อยากเปิดเส้นทางนี้ให้ดียิ่งขึ้น เพราะสามารถเชื่อมโยงการค้าจากเชียงรายสู่คุนหมิงได้โดยตรง ซึ่งฝ่ายจีนรับจะร่วมมือกำกับดูแลให้สะดวกทั้ง 3 เส้นทาง


นอกจากนั้นนายภูมิธรรมได้กล่าวขอบคุณรัฐบาลจีน ที่ช่วยแก้ปัญหาอุปสรรคทางการค้าอย่างเต็มที่ ทั้งการขยายเวลาเปิด-ปิดด่าน แก้ปัญหาความแออัดรถบรรทุกที่ขนส่งผลไม้ ซึ่งผลผลิตกำลังจะออกมาก บางครั้งต้องใช้เวลาถึง 5 วัน สำหรับรอตู้ผ่านเข้าจีนแล้วกลับออกมาบ่อเต็นให้เหลือเพียง 3 วัน และทางจีนกำลังปรับปรุงขยายถนนจากเดิม 2 ช่อง เป็น 12 ช่อง ที่จะแล้วเสร็จในอีก 2 ปี จะเป็นประโยชน์กับทั้งสองฝ่าย ไทยสามารถส่งสินค้าที่สดคุณภาพดีให้กับจีน และลดต้นทุนสินค้าลง และทางด่านบ่อเต็น (สปป.ลาว) ก็ให้ความร่วมมือเต็มที่ ความร่วมมือ 3 ประเทศทั้ง ไทย สปป.ลาว และจีน จะเป็นประโยชน์ต่อการค้าร่วมกัน และขอให้ทางการจีนสนับสนุนเรื่องการนำเข้าโคมีชีวิตและโคแช่แข็งจากไทยให้มาที่จีน รวมไปถึงผลไม้ตามฤดูกาลอื่น โดยยินดีที่จะปฏิบัติตามกฎระเบียบของจีน ซึ่งทางผู้ว่าการฯตอบรับที่จะไปช่วยผลักดันต่อไป

ข้อมูลจากกรมการค้าต่างประเทศ ระบุว่า มณฑลยูนนาน มีพรมแดนติดกับเมียนมา เวียดนาม และลาว เป็นมณฑลของจีนที่อยู่ใกล้กับไทยมากที่สุด มีความโดดเด่นด้านการค้าชายแดน โดยใช้เส้นทางถนน R3A (คุนหมิง-สปป.ลาว-กรุงเทพฯ) ซึ่งมีความสำคัญในการส่งออกผลไม้ของไทยไปจีน

ปัจจุบันไทยสามารถส่งออกผลไม้สดไปจีนทางบกได้ 6 ด่าน คือ ด่านนครพนม ด่านมุกดาหาร ด่านเชียงของ ด่านหนองคาย ด่านบ้านผักกาด (จันทบุรี) และด่านบึงกาฬ ซึ่งการส่งออกผลไม้สู่มณฑลยูนนานจะขนส่งผ่าน 2 ด่านหลัก คือ ด่านเชียงของ (จ.เชียงราย) ตามเส้นทาง R3A เข้าสู่จีนที่ด่านโม่ฮาน และด่านหนองคาย ขึ้นรถไฟลาว-จีน เข้าสู่จีนที่ด่านรถไฟโม่ฮาน


โดยในปี 2566 ไทยมีการส่งออกสินค้าผลไม้และลูกนัทที่บริโภคได้(HS 08) ไปมณฑลยูนนานผ่านเส้นทางทั้งสอง มูลค่ารวม 1,680 ล้านเหรียญสหรัฐเพิ่มขึ้น 33.6% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยมีสัดส่วน 50% ของการส่งออกสินค้าดังกล่าวทางบก และมีสัดส่วนคิดเป็น 27% ของการส่งออกสินค้าผลไม้และลูกนัทไปจีนทั้งหมด
https://www.youtube.com/watch?v=Cc-rvV5zwBI
Mongwin wrote:
Wisarut wrote:
Durian train across Friendship Bridge to Tha Nalaeng before transshipping to Lao - China train

https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=1477419103160327&id=100026767552460

ไม่น่าเชื่อ ส่งทุเรียนไทยถึงจีนใน 3 วัน ภูมิธรรม เจรจาเปิดด่านโม่ฮาน-บ่อเต็นฉลุย
ประชาชาติธุรกิจ วันจันทร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2567 เวลา 09:30 น.


Last edited by Wisarut on 01/05/2024 1:41 pm; edited 1 time in total
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 45126
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 01/05/2024 1:24 pm    Post subject: Reply with quote

ตามสัญญา! การเดินทางตามรอยเส้นทางรถไฟลาว-จีน
ຕາມສັນຍາ!ການເດີນທາງຕາມຮອຍເສັ້ນທາງລົດໄຟລາວ-ຈີນ/Vientiane-Kounming
Kinoy CHANNEL
May 1, 2024


https://www.youtube.com/watch?v=oFLtlg3ClIo

ຕາມແລວເສັ້ນທາງລົດໄຟລາວ-ຈີນ!ບໍ່ເຕັນວັນນີ້ພັດທະນາໄປໄວຫຼາຍ!BorTen Today!เขตเศรษฐกิจพิเศษบ่อเต็มวันนี้24
Kinoy CHANNEL
May 2, 2024


https://www.youtube.com/watch?v=oYBXr_PKp_U


Ep3 ບໍ່ເຕັນ-ບໍ່ຫານ-ຊຽງຮຸ້ງ12ປັນນາ/Borten-Mohan-Xienghoung/บ่อเต็ม-โม้หาร-เชียงรุ่ง12ปันนา
Kinoy CHANNEL
May 2, 2024


https://www.youtube.com/watch?v=y-3nJSHCWik


ຕາມແລວເສັ້ນທາງລົດໄຟລາວ-ຈີນ!ຊຽງຮຸ້ງສິບສອງປັນນາ/ตามรอยทางรถไฟ ลาว-จีน!เชียงรุ้งสิบสองปันนา
Kinoy CHANNEL
May 2, 2024


https://www.youtube.com/watch?v=_TkO0IKoMxo

ທ່ຽວຊົມຕະຫຼາດໃໝ່ 9ຈອມ 12ຊຽງ |New market 12Panna/เที่ยวตลาดใหม่ 9 จอม 12 เชียง
Kinoy CHANNEL
May 3, 2024


https://www.youtube.com/watch?v=_yQjeCgUMvA

12ປັນນາໃນຍາມຄໍ່າຄືນງາມໆພີ່ນ້ອງ!12Panna at the night time/สิบสองปันนาในเวลากลางคืน
Kinoy CHANNEL
May 3, 2024


https://www.youtube.com/watch?v=K0yjfNyLI1M

ຕາມແລວເສັ້ນທາງລົດໄຟລາວ-ຈີນ 12ປັນນາ-ຄຸນໝິງ/12Panna-Kungming/12ปันนา-คุนหมิง
Kinoy CHANNEL
May 4, 2024


https://www.youtube.com/watch?v=c27hcY19Fzw
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 45126
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 04/05/2024 9:03 am    Post subject: Reply with quote

เปิด 10 ตลาดส่งออกสำคัญของไทยพาเหรดติดลบฉุดส่งออกเดือนมี.ค.ทรุด
กรุงเทพธุรกิจ 04 พ.ค. 2024 เวลา 8:00 น.

ส่งออกมี.ค.ร่วงแรง ลบ 10.9% ครั้งแรกในรอบ 8 เดือน พบส่งออกไป 10 ตลาดสำคัญของไทยติดลบถ้วนหน้า ยกเว้นตลาดสหรัฐ ทวีปออสเตรเลียและกลุ่มประเทศ CLMV ยังเป็นบวก จับตา ผลไม้ช่วยชาติ เดือนเม.ย.ดันตัวเลขส่งออกไทยกลับเป็นบวกอีกครั้ง

สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.)กระทรวงพาณิชย์ รายงานภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทย หรือการ ส่งออก มี.ค. 67 มีมูลค่า 24,960.6 ล้านดอลลาร์ หดตัว 10.9% จากฐานการส่งออกที่สูงในเดือนเดียวกันของปีก่อนหน้า แต่ยังคงรักษาระดับการส่งออกได้ใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยของมูลค่าการส่งออกย้อนหลัง 5 ปี ท่ามกลางเศรษฐกิจโลกที่เผชิญความไม่แน่นอนและขยายตัวต่ำ จากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ในหลายพื้นที่

อีกทั้งการดำเนินนโยบายทางการเงินอย่างเข้มงวดยาวนาน ส่งผลต่อกำลังซื้อ ปัญหาหนี้สิน และการตัดสินใจลงทุนของภาคธุรกิจ นอกจากนี้สภาพอากาศแปรปรวนทำให้อุปทานของสินค้าเกษตรออกสู่ตลาดล่าช้าทั้งนี้ การส่งออกไทยไตรมาสแรกของปี 2567 ติดลบ 0.2 %

การส่งออกในเดือนมี.ค.ที่ติดลบ 10.9% ถือเป็นการติดลบครั้งแรกในรอบ 8 เดือน แม้การติดลบจะมาจากฐานปีก่อนสูงมาก ส่งออกได้ถึง 28,004.2 ล้านดอลลาร์ แต่เมื่อเจาะลึกการส่งออกในตลาดสำคัญที่เป็นประเทศคู่ค้าของไทยก็พบว่า ตลาดส่งออกสำคัญของไทยติดลบถ้วนหน้า ยกเว้นตลาดสหรัฐที่ขยายตัว 2.5 % เป็นการขยายตัวต่อเนื่อง 6 เดือน ทวีปออสเตรเลียขยายตัว 13.5 % ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 เช่นกันและกลุ่มประเทศ CLMV ขยายตัว 0.5 % ต่อเนื่อง 3 เดือน

เปิด 10 ตลาดส่งออกสำคัญของไทยพาเหรดติดลบฉุดส่งออกเดือนมี.ค.ทรุด


โดยตลาดสำคัญของไทยในเดือนมี.ค.ที่ติดลบล้วนเป็นตลาดสำคัญและเป็นตลาดใหญ่ของไทยทั้งสิ้น ได้แก่

ตลาดจีน ติดลบ 9.7 % สินค้าสำคัญที่หดตัว เช่น ผลิตภัณฑ์ยาง เคมีภัณฑ์และผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง เป็นต้น

ตลาดญี่ปุ่น ติดลบ 19.3 % สินค้าสำคัญที่หดตัว เช่น ไก่แปรรูป รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ และแผงวงจรไฟฟ้า เป็นต้นตลาดสหภาพยุโรป (27) ติดลบ 0.1 % โดยกลับมาหดตัวในรอบ 3 เดือน สินค้าสำคัญที่หดตัว เช่น เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ และหม้อแปลงไฟฟ้าและส่วนประกอบ เป็นต้น

ตลาดอาเซียน (5) ติดลบ 26.1 % สินค้าสำคัญที่หดตัว เช่น รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ น้ำมันสำเร็จรูป และแผงวงจรไฟฟ้า เป็นต้น

ตลาดเอเชียใต้ ติดลบ 6.1% สินค้าสำคัญที่หดตัว เช่น เม็ดพลาสติก ไขมันและน้ำมันจากพืชและสัตว์ และเหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เป็นต้น

ตลาดตะวันออกกลาง ติดลบ 7.3 % สินค้าสำคัญที่หดตัว เช่น รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ และข้าว เป็นต้น

ตลาดแอฟริกา ติดลบ 11.9 สินค้าสำคัญที่หดตัว เช่น รถยนต์ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์ยาง และเครื่องยนต์สันดาปภายใน เป็นต้น

ตลาดลาตินอเมริกา กลับมาติดลบ 10.2 % สินค้าสำคัญที่หดตัว เช่น รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องยนต์สันดาปภายใน และเครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เป็นต้น

ตลาดรัสเซียและกลุ่มประเทศ CIS ติดลบ 14.2% กลับมาติดลบในรอบ 13 เดือน) สินค้าสำคัญที่หดตัว เช่น อากาศยาน ยานอวกาศ และส่วนประกอบ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ และเครื่องสำอาง สบู่ และผลิตภัณฑ์รักษาผิว เป็นต้น

ตลาดสหราชอาณาจักร ติดลบ 19.3% สินค้าสำคัญที่หดตัว เช่น รถจักรยานยนต์และและส่วนประกอบ รถปิคอัพ รถบัสและรถบรรทุก และยางยานพาหนะ เป็นต้น

จากข้อมูลการส่งออกไปยังตลาดสำคัญของไทยส่วนใหญ่ติดลบ จึงไม่แปลกที่การส่งออกในเดือน มี.ค.จะติดลบสูงถึง 10.9 % รวมทั้งการส่งออกผลไม้สด โดยเฉพาะทุเรียนที่ล่าช้าออกไป 1 เดือนจากผลผลิตที่ออกสู่ตลาดช้าจากสภาพอากาศร้อน ส่ผลให้ตัวเลขการส่งออกเดือนมี.ค.ลดลง อย่างไรก็ตามในเดือนเม.ย.ทางกระทรวงพาณิชย์มั่นใจว่า การส่งออกไทยจะกลับมาบวกอีกครั้ง โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการส่งออกสินค้าเกษตร โดยเฉพาะผลไม้ ที่ขณะนี้กำลังออกสู่ตลาด

ล่าสุด 2 รัฐมนตรีพาณิชย์ “นายภูมิธรรม เวชชชัย ”นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และ “นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์” ได้นำทีมพาณิชย์เดินทางไปยังประเทศจีนและเวียดนาม เพื่อพบปะผู้บริหารด่าน

โดยนายภูมิธรรม ได้เดินทางไปสำรวจ “ด่านบ่อเต็น” สปป.ลาว และ “ด่านโม่ฮาน” ของจีน ขณะที่ นายนภินทร เดินทางไปสำรวจ “ด่านสากลหูหงิ” ซึ่งเป็นด่านสำคัญที่รถขนส่งผลไม้จากไทยมาใช้บริการก่อนที่จะเข้าสู่ “ด่านโหย่วอี้กวน” ของจีน และ “ด่านรถไฟด่งดัง” ซึ่งเป็นด่านที่เชื่อมต่อไปยัง “ด่านรถไฟผิงเสียง” ของจีน ทั้งนี้ก็เพื่อเปิดทางสะดวกในการขนส่งผลไม้เข้าสู่ตลาดจีนได้อย่างมีประสิทธิภาพและไม่มีปัญหา ซึ่งตลาดจีนถือเป็นตลาดใหญ่สุดของ “ผลไม้สด” คือ จีน มีสัดส่วนการส่งออกถึง 91%

ทั้งกระทรวงพาณิชย์คาดว่า การส่งออกของไทยในปี 2567 จะยังขยายตัวได้จากสินค้าเกษตรและอาหารที่ไทยมีความได้เปรียบในการแข่งขัน ท่ามกลางภาวะขาดแคลนอาหารทั่วโลกและภาวะสงครามในบางประเทศ ทำให้ความต้องการสินค้าอาหารยังอยู่ในระดับสูง ซึ่งคงต้องติดตามต่อไปว่า หลังจากผลไม้ไทยออกสู่ตลาดแล้วจะดันตัวเลขการส่งออกของไทยกลับมาเป็นบวกได้มากน้อยแค่ไหน

Thailand's Export Market Struggles, Railway Issues Not a Primary Factor

March 2024 Thai exports experienced a significant decline of 10.9%, the first negative result in 8 months.
This decline is attributed to a high base from the previous year, global economic uncertainty, strict monetary policies, and weather-related delays in agricultural supply.
Exports to Thailand's 10 major markets were mostly negative, except for the US, Australia, and CLMV nations.

Railway's Role:

While the article mentions the opening of the "Dongdang Railway Checkpoint" in facilitating fruit exports to China, railways appear to play a minor role in Thailand's overall export picture.
The primary causes driving negative export results seem to be external macroeconomic factors and supply-side disruptions, not railway-related limitations.

Key Points:

Thai exports are facing challenges due to global economic conditions and agricultural product delays.
Fruit exports could provide a boost in April, driven by increased market availability.
The Ministry of Commerce is working to expand transportation routes into China, including rail, to improve future export figures.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 45126
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 05/05/2024 9:25 am    Post subject: Reply with quote

ความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างจีนและสหภาพยุโรปที่แข็งแกร่งนั้นขาดไม่ได้ต่อความเจริญของโลก

บทความนี้เน้นย้ำถึงความสำคัญของความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างจีนและสหภาพยุโรป โดยหยิบยกตัวอย่างความสำเร็จของโครงการต่าง ๆ ภายใต้ข้อริเริ่ม 'เส้นทางสายไหมและเศรษฐกิจใหม่' (Belt and Road Initiative - BRI) ของจีน เช่น รถไฟสายฮังการี-เซอร์เบีย

มีการกล่าวว่าความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่าง จีน-สหภาพยุโรปมีคุณูปการอย่างยิ่งต่อทั้งสองฝ่าย รวมถึงประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก ความร่วมมือทางเศรษฐกิจส่งผลดีทั้งในเรื่องการค้า การลงทุน และนวัตกรรม นอกจากนี้ ในสภาพโลกที่เต็มไปด้วยความท้าทาย ความร่วมมือนี้ยังสำคัญต่อการรักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจโลก และการแก้ไขปัญหาระดับนานาชาติ อาทิ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

สรุปได้ว่า ประเทศจีนและสหภาพยุโรป ถือว่าเป็นหุ้นส่วน ไม่ใช่คู่แข่ง โดยต่างฝ่ายต่างพึ่งพาและสร้างประโยชน์ร่วมกัน เส้นทางสายเศรษฐกิจจีนเปรียบเสมือนรถด่วนจีน (China Express) ที่เปิดโอกาสการลงทุนและการค้าให้กับยุโรปและทั่วโลก

http://en.people.cn/n3/2024/0505/c90000-20164541.html

By Xinhua writer Zeng Yan (Xinhua) 09:33, May 05, 2024
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 45126
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 06/05/2024 7:48 am    Post subject: Reply with quote

เส้นทางสายไหมใหม่ของจีนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้: รถไฟความเร็วสูง ผลประโยชน์ และข้อโต้แย้ง

(ซีเอ็นเอ็น) – โครงการ "หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง" (One Belt, One Road initiative) ของจีนถือเป็นการลงทุนครั้งใหญ่ที่สุดในโครงสร้างพื้นฐานสำหรับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งรวมถึงการสร้างเครือข่ายรถไฟความเร็วสูงเพื่อเชื่อมจีนกับภูมิภาคนี้ ในปี 2021 โครงการรถไฟความเร็วสูงจีน-ลาวได้เปิดให้บริการ โดยเชื่อมระหว่างคุนหมิง เมืองเศรษฐกิจสำคัญในจีนตอนใต้ กับเวียงจันทน์ เมืองหลวงของลาว ต่อมาในเดือนตุลาคม 2023 อินโดนีเซียก็ได้เปิดให้บริการรถไฟความเร็วสูงสายแรกในภูมิภาคเช่นกัน โดยเชื่อมระหว่างกรุงจาการ์ต้ากับบันดุง

อย่างไรก็ตาม ประเทศอื่นๆ อย่างไทยและมาเลเซีย ประสบกับความท้าทายในการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง โดยมีทั้งความล่าช้าและค่าก่อสร้างที่สูงเกินงบประมาณที่คาดการณ์ไว้ ปัญหาเหล่านี้นำไปสู่การถกเถียงอย่างดุเดือดเกี่ยวกับความคุ้มค่าของโครงการ และการวิพากษ์วิจารณ์ข้อตกลงระหว่างรัฐบาลกับจีน

ผู้เชี่ยวชาญมองว่าโครงการหนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทางมีจุดมุ่งหมายทางยุทธศาสตร์และด้านภูมิรัฐศาสตร์ของจีนในการขยายอิทธิพลทางเศรษฐกิจไปยังประเทศเพื่อนบ้านในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในขณะเดียวกัน การท่องเที่ยวในภูมิภาคนี้ก็ได้ประโยชน์จากการคมนาคมที่สะดวกขึ้น โดยนักท่องเที่ยวจีนแสดงความชื่นชอบเป็นพิเศษต่อจุดหมายปลายทางในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยให้ความสนใจด้านประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และธรรมชาติที่มีเอกลักษณ์

https://www.newsdirectory3.com/chinas-one-belt-one-road-initiative-in-southeast-asia-high-speed-railways-benefits-and-controversies/
May 5, 2024
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 45126
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 06/05/2024 10:28 am    Post subject: Reply with quote

ราคาส่งออกทุเรียนปีนี้ไม่แผ่ว ขนาดตกไซส์ยังขายได้กิโลละ 100 บาท
ประชาชาติธุรกิจ วันที่ 6 พฤษภาคม 2567 - 09:23 น.

กรมการค้าภายใน เผยทุเรียนส่งออกไทยปี 2567 ดี ราคาเฉลี่ย 160 บาทต่อกิโลกรัม แนะผู้ประกอบการเช็คด่านทางบกจุดนำเข้า-ส่งออกผลไม้ระหว่างไทยและจีน ก่อนส่งออกผลไม้

วันที่ 6 พฤษภาคม 2567 นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า สถานการณ์ผลผลิตทุเรียนไทยภาคตะวันออก ออกสู่ตลาดแล้วกว่า 50% โดยเฉพาะทุเรียนพันธุ์ชะนี ก้านยาว เป็นต้น จะ ยังคงเหลือส่วนใหญ่เป็นพันธุ์หมอนทอง โดยราคาทุเรียนตกไซส์ เฉลี่ยอยู่ที่ 100-110 บาทต่อกิโลกรัม เกรดตกไซส์ส่งออก 120 บาทต่อกิโลกรัม และเกรดส่งออก 160 บาทต่อกิโลกรัม จากปีที่แล้วอยู่ที่ 150 บาทต่อกิโลกรัม โดยราคาทุเรียนปีนี้ดีมาก

“ทำให้การส่งออกทุเรียนปีนี้ ของชาวสวนได้ราคาดี กรมพร้อมติดตามสถานการณ์ การส่งออก ราคาทุเรียนอย่าวใกล้ชิดต่อไป”

ส่วนราคามังคุดส่งออก พบว่าเฉลี่ยอยู่ที่ 88 บาทต่อกิโลกรัม เกรกคละพระ เฉลี่ยอยู่ที่ 50-58 บาทต่อกิโลกรัม โดยผลผลิตออกสู่ตลาดแล้ว 37% ส่วนเงาะโรงเรียน เกรดส่งออกเฉลี่ยอยู่ที่ 35-40 บาทต่อกิโลกรัม ขายในประเทศ เฉลี่ยอยู่ที่ 27-32 บาทต่อกิโลกรัมโดยผลผลิตออกแล้ว 20% ส่วนลองกองผลผลิตออกตลาดเพียง 1% ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 50 – 90 บาทต่อกิโลกรัม

ดังนั้น เพื่อดูแลผลผลิตผลไม้ กระทรวงพาณิชย์ได้เตรียมมาตรการบริหารจัดการผลไม้ปี 2567 ใน 6 มาตรการกับ 25 แผนงานเพื่อรองรับผลผลิตที่จะออกสู่ตลาด โดย 6 มาตรการดังกล่าวประกอบด้วย 1. การส่งเสริมการผลิตและการแปรรูป ตั้งเป้าหมายไว้ที่ 1.2 แสนแปลง

2. การส่งเสริมตลาดภายในประเทศ 3.การส่งเสริมตลาดต่างประเทศ 4. การเพิ่มประสิทธิภาพทางการค้า 5. การอำนวยความสะดวกทางการค้า 6. เป็นมาตรการทางกฎหมาย โดยผู้ค้าจะต้องปิดป้ายราคารับซื้ออย่างชัดเจนและต้องรับซื้อตามราคาที่ปิดป้ายเท่านั้น

เช็กด่านส่งออกทุเรียนไปจีน
รายงานจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ระบุ การขนส่งผลไม้ผ่านเส้นทางบกผ่านประเทศที่สาม โดยรถบรรทุก และรถไฟ จะต้องปฏิบัติตามพิธีสารว่าด้วยข้อกำหนดในการกักกันโรคและตรวจสอบสำหรับการส่งออกและนำเข้าผลไม้ไทยผ่านประเทศที่สามเข้าสู่ประเทศจีน ระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และสำนักงานศุลกากรแห่งจีน ซึ่งภายใต้พิธีสารดังกล่าว ได้มีการกำหนดด่านทางบกเพื่อเป็นจุดนำเข้าและส่งออกผลไม้ระหว่างไทย-จีน

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ดำเนินการเจรจาขอเปิดด่านทางบกของจีนในการเป็นจุดนำเข้าผลไม้ไทย เพื่ออำนวยความสะดวกการขนส่งผลไม้จากไทยไปจีนอย่างต่อเนื่อง

ปัจจุบันด่านทางบกที่กำหนดให้เป็นจุดนำเข้า-ส่งออกผลไม้ระหว่างไทยและจีน ประกอบด้วย ด่านฝั่งไทย จำนวน 6 ด่าน ได้แก่ ด่านเชียงของ ด่านบึงกาฬ ด่านนครพนม ด่านมุกดาหาร ด่านจันทบุรี และด่านหนองคาย

ด่านฝั่งจีน จำนวน 10 ด่าน ดังนี้ ด่านในมณฑลยูนนาน จำนวน 5 ด่าน ได้แก่ ด่านโม่ฮาน ด่านรถไฟโม่ฮาน ด่านเหอโขว่ ด่านรถไฟเหอโข่ว และด่านเทียนเป่า ด่านในเขตฯ กว่างซีจ้วง จำนวน 5 ด่าน ได้แก่ ด่านโหย่วอี้กวน ด่านตงซิง ด่านรถไฟผิงเสียง ด่านหลงปัง และด่านสุยโข่ว

ทั้งนี้ ด่านรถไฟเหอโข่ว และด่านสุ่ยโข่ว ยังไม่สามารถนำเข้าผลไม้ไทยได้ เนื่องจากอยู่ระหว่างการสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับการนำเข้าผลไม้

ราคาผลไม้ไทยในจีน
ข้อมูลราคาขายส่งผลไม้ไทยที่จำหน่ายในตลาดค้าส่งผักและผลไม้เจียงหนาน ล่าสุดพบว่า ราคาเฉลี่ยของการจำหน่ายผลไม้ไทยที่สำคัญ ในตลาดเจียงหนาน เฉลี่ย ทุเรียน ราคาเฉลี่ย 54.01 หยวน/กก. (270.05 บาท/กก.)

มังคุด เกรด 1 ราคาเฉลี่ย 25.71 หยวน/กก. (128.55 บาท/กก.) ลำไย เกรด 1 ราคาเฉลี่ย 17.60 หยวน/กก. (88 บาท/กก.)


This year's durian export price is not low; even smaller sizes can be sold for 100 baht per kilo (Prachachat Thurakit, May 6, 2024 - 9:23 a.m.).

The Department of Internal Trade reveals that durian exports from Thailand in 2024 will be good, with an average price of 160 baht per kilogram. Entrepreneurs are advised to check land checkpoints at fruit import-export points between Thailand and China before exporting fruit.

On May 6, 2024, Mr. Wattanasak Sueaiam, Director-General of the Department of Internal Trade, revealed that over 50% of Thai durian production in the Eastern Region has already entered the market, especially Chanee, Kan Yao, etc. durians. Most of them will remain, but they are still primarily of the Monthong variety. The price of durian has decreased in size, with the average ranging from 100-110 baht per kilogram for lower grades, 120 baht per kilogram for export size, and 160 baht per kilogram for export grade. This marks an increase from last year's average of 150 baht per kilogram. Therefore, this year's durian price is considered very good.

"Making durian exports this year beneficial for gardeners is a priority. The Department is ready to closely monitor the export situation and durian prices."

As for the export price of mangosteen, it averages 88 baht per kilogram, with the average price for rambutan being 50-58 baht per kilogram. Only 1% of the longkong produce is in the market, with an average price ranging from 50 to 90 baht per kilogram.

To support fruit production, the Ministry of Commerce has prepared fruit management measures for 2024, consisting of 6 measures and 25 plans to support produce entering the market. These measures include promoting production and processing, both domestically and internationally, increasing trade efficiency, facilitating trade, and implementing legal measures to ensure fair transactions.

Regarding the checkpoint for exporting durian to China, a report from the Ministry of Agriculture and Cooperatives states that transporting fruit via land routes through third countries by trucks and trains must comply with the Protocol on Quarantine and Inspection Requirements for Exporting and Importing Thai Fruit through Third Countries, between the Ministry of Agriculture and Cooperatives and the Chinese Customs Administration. Under this protocol, land checkpoints have been established as points of import and export of fruit between Thailand and China.

The Ministry of Agriculture and Cooperatives has negotiated to open a Chinese land checkpoint as an import point for Thai fruits to facilitate continuous transportation from Thailand to China.

Currently, there are 6 designated land checkpoints for fruit import-export between Thailand and China on the Thai side, namely Chiang Khong Checkpoint, Bueng Kan Checkpoint, Nakhon Phanom Checkpoint, Mukdahan Checkpoint, Chanthaburi Checkpoint, and Nong Khai Checkpoint. On the Chinese side, there are 10 checkpoints, including 5 in Yunnan Province and 5 in Guangxi Zhuang District.

However, Hekou Railway Checkpoint and Shuikou Checkpoint still cannot import Thai fruits due to ongoing construction of facilities for importing fruit.

Recent data on wholesale prices of Thai fruits sold in the Jiangnan Fruit and Vegetable Wholesale Market show that the average durian price is 54.01 yuan/kg (270.05 baht/kg), mangosteen grade 1 averages 25.71 yuan/kg (128.55 baht/kg), and longan grade 1 averages 17.60 yuan/kg (88 baht/kg).
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> เกี่ยวกับรถไฟต่างประเทศ All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 137, 138, 139, 140  Next
Page 138 of 140

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©