หัวรถจักรไทยหมดสภาพ 90% (ข่าวจาก นสพ.สยามธุรกิจ 27/02/52)

Mongwin

ข่าวพาดหัว นสพ.สยามธุรกิจ ปีที่ 15 ฉบับที่ 976 ประจำวันที่ 28 ก.พ. - 3 มี.ค. 2552
อนาถ!ซากวัตถุโบราณวิ่งได้ /14 ปีรัฐไม่เคยซื้อใหม่

การรถไฟฯ || อนาถใจ “ม้าเหล็ก” ไทย “หัวรถจักร” มีแต่ซากวัตถุโบราณเก่าคร่ำครึ 90% ผ่านการใช้งานเกิน 18 ปี
“ยุทธนา” ยอมรับกว่า 14 ปีแล้วที่ไม่ได้ซื้อของใหม่ เหตุไม่ได้รับการเหลียวแลงบประมาณจากรัฐ
โอดปัจจุบันมี กว่า 200 คัน ใช้ได้แค่ 135-150 คัน ที่เหลือจอดซ่อมตามวาระ
ระบุที่ผ่านมาทำได้แต่ชงแผนจัดซื้อ

black_express · Posted: 27/02/2009 3:21 pm Post subject:

ไม่อยากจะออกความเห็นเพิ่มเติมเลยครับ... Embarassed

ถ้ารัฐบาลเอาจริงเรื่องระบบขนส่งทางรางและโลจิสติกส์ให้สู้กับประเทศเพื่อนบ้านได้ล่ะก็ เร่งทำความฝันจากแผนงานให้เป็นรูปธรรมจับต้องได้จริงๆ ด้วยครับ

ขนาดสั่งซื้อรถจักรเพียง 7 คัน ต้องใช้เวลารอถึง 3 ปี กว่าจะได้รับมอบ ช้ายิ่งกว่ารับมอบเรือรบด้วยซ้ำไป

ผมกลัวว่าเราจะล้าหลังประเทศเวียตนามในอนาคตอันใกล้นี้แหละ Rolling Eyes

donatt76 · Posted: 27/02/2009 3:41 pm Post subject:

เป็นความจริงอันน่าเศร้าที่ต้องยอมรับครับ.....

ดีใจที่มีข่าวออกมาซะทีนึง เผื่อว่าจะมีเสียงเบาๆถึงผู้มีอำนาจบ้าง
แต่ไม่รู้ว่าข่าวกรอบเล็กๆ จะมีผลบ้าง หรือเป็นเพียง "เสียงแว่วในสายลม"

-ขสมก. ได้รถใหม่เมื่อ 4 ปีที่แล้ว....และกำลังจะได้รถใหม่อีก 4,000 คัน (ตกคันละ 1,500,000)
-บขส. ได้รถใหม่ปีที่แล้ว 30 - 40 คัน (ตกคันละ 5,000,000)
-การบินไทย ปีที่แล้วได้เครื่องใหม่เอี่ยมมา 6 ลำ ปีนี้มาอีก 8 ลำ...ไม่อยากคิดว่าตกลำละกี่ร้อยล้าน

แล้วรถไฟไทย....เพิ่งจะได้แค่ Blue Train เก่าเก็บ จากญี่ปุ่นมาไม่กี่คัน....
ส่วนรถใหม่....ก็ตามข่าวล่ะครับ.... 14 ปีที่แล้วจนทุกวันนี้...ยังไม่ได้ใหม่ซักคัน

ซ้ำยังโดนบ่น โดนด่า ว่าบริการไม่พัฒนา เดี๋ยวรถเสีย เดี๋ยวเสียเวลา เดี๋ยวรถไม่พอ....เฮ้อ
_________________
Click on the image for full size

nathapong · Posted: 27/02/2009 4:28 pm Post subject:

black_express · Posted: 27/02/2009 4:51 pm Post subject:

นั่นสิป๋า... นี่ก็หมดไปครึ่งปีแล้วมั้ง ? Laughing

anusorn · Posted: 27/02/2009 5:05 pm Post subject:

รถไฟเป็นเครื่องจักรที่ใช้งานได้ยาวนานเพราะมีการทำวาระหนักทุกๆ 4 ปี จึงทำให้มีอายุการใช้งานยาวนานถึง 40 ปีโดยประมาณ

แต่ถ้าจะมองถึงหลักทางการใช้งานเมื่อมีรถจักรตัดบัญชีถึงระดับที่เรียกว่าเกือบจะตึงตัว(โดยไม่นับถึงการซ่อมบำรุงหรือรอคิวซ่อม) ย่อมต้องมีการซื้อทดแทนเพื่อให้เกิดสภาพคล่องในการใช้งาน ซึ่งรถจักรที่จะมาใหม่นั้นเป็นเพียงแค่การนำมาทดแทนของเดิมเท่านั้นเอง และจะว่าไปแค่เพียง 7 คัน ก็ไม่น่าจะเพียงพอกับสถานการณ์รถจักรตึงตัวในปัจจุบันด้วยซ้ำ เพราะถ้าได้รับมาจริงๆ มันต้องมีการหมุนเวียนซ่อมบำรุง ของเก่าก็ต้องทยอยนำไปซ่อมอยู่ดี สถานการณ์คล้ายๆ กับตอนที่รถดีเซลราง Daewoo ขาดแคลน แล้วรถที่มีเพียงไม่กี่ชุดไม่เคยได้หยุดพักเลย

เมื่อก่อนนี้เวลานั่งรถไฟจะลุ้นเพียงแค่เที่ยวล่องจะช้าเท่าไหร่ แต่เดี๋ยวนี้ไม่ใช่แล้วครับ

ต้องลุ้นเพิ่มว่าไอ้รถเที่ยวไปเมื่อวานมันออกช้าเท่าไหร่ รถจักรตายที่หลักสี่หรือไม่ แล้วพอเปลี่ยนเป็นเที่ยวกลับมันช้ากว่าเดิมกี่ร้อยนาที พอมาถึงหัวลำโพงแล้วจะเปลี่ยนชุดรถเป็นเที่ยวไปทันเวลาตาม ป.ดร. หรือไม่ รถจักรที่จะทำการกลับมาจากรถช้าขบวนอื่นหรือยัง

ส่วนตัวผมเห็นว่ารถจักรสมรรถนะปานกลางแต่มีจำนวนมากน่าจะเหมาะสมกับประเทศเรามากที่สุด มากกว่าจะซื้อรถจักรกำลังสูงแต่จำนวนน้อยนิด ตราบใดที่ความเร็วในพิกัดทางยังเท่าเดิมและไม่ได้เพิ่มหน่วยลากจูงให้มากไปกว่าเดิมครับ

Compressor · Posted: 27/02/2009 5:57 pm Post subject:

สงสัยครับสงสัย

4124 ที่ย่านอุบลฯ ข้างบน ใช่เว็บเราถ่ายรึเปล่าครับ ภาพมันคุ้นตามาก คุ้นตามากจริงๆ Rolling Eyes

pak_nampho · Posted: 27/02/2009 6:13 pm Post subject:

อ่านปุจฉาของป๋าแล้ว....เหนื่อยใจจริง Rolling Eyes

มันเข้าภาษิตที่ว่า " รำไม่ดีโทษปี่โทษกลอง " ไหมหนอ
รฟท ไม่ต้องตอบคำถามสเป็ครถจักรมากมายถ้าคิดเหมือน อ.อนุสรณ์ Razz

BanPong1 · Posted: 27/02/2009 10:24 pm Post subject:

คำนวณคร่าว (โดยไม่ได้แยกรุ่นของAlsthom) อายุเฉลี่ยรถจักรทั้งหมด = 30.77 ปี
ไม่น่าเชื่อเลยว่าการเมืองได้ทอดทิ้งการขนส่งพื้นฐานชื่อ "การรถไฟแห่งประเทศไทย" มาได้อย่างไร
_________________
Click on the image for full size

unique · Posted: 27/02/2009 11:05 pm Post subject: