View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
Joined: 04/07/2006 Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร
|
Posted: 02/03/2009 1:23 pm Post subject: |
|
|
ต่อไปก็เริ่มเข้าสู่โปรแกรมอุ่นเครื่องก่อนเจอของจริงครับ หลังจากลงจากบริเวณที่มีหมุดจุดสูงสุดของ ดอยอินทนนท์ ปักอยู่ พวกเราก็เดินข้ามถนนมาที่บริเวณทางเข้าสู่ เส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกา ครับ
บริเวณทางเข้าของ เส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกา นี้ มีแผนที่ของเส้นทางที่นักท่องเที่ยวต้องเดินเอาไว้ให้ดูก่อนที่จะเข้าสู่ด้านในด้วยครับ
ข้อมูลตามป้าย wrote: | อ่างกา ( Ang Ka )
อ่างกาเป็นแอ่งน้ำธรรมชาติ ( พรุน้ำจืด ) อยู่สูงที่สุดของประเทศไทย ประมาณ 2,500 เมตรจากระดับน้ำทะเล ในอดีตมีฝูงกาลงกินน้ำ จึงเรียกบริเวณนี้ว่า อ่างกา สภาพแวดล้อมโดยรอบเป็นป่าดิบเขาชุ่มชื้นตลอดปี สิ่งมีชีวิตในบริเวณนี้ทั้งพืชและสัตว์ได้ปรับตัวเข้ากับระบบนิเวศเฉพาะถิ่นอย่างน่าอัศจรรย์ |
ใน Website ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับ เส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกา เอาไว้ว่า
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย wrote: |
อ่างกาหลวง เส้นทางนี้สำรวจวางแนวและออกแบบเส้นทางเดินโดย คุณไมเคิล แมคมิลแลน วอลซ์ นักสัตววิทยาและอาสาสมัครชาวแคนาดาประจำอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ซึ่งเป็นผู้หนึ่งที่ทำงานทุ่มเทให้กับอินทนนท์ และได้เสียชีวิตที่นี่ด้วยโรคหัวใจ เส้นทางนี้มีระยะทาง 1,800 เมตร พื้นที่นี้เป็นหนองน้ำซับในหุบเขา จุดเด่นที่น่าสนใจ คือ ป่าดิบเขาระดับสูง ลักษณะของพรรณไม้เขตอบอุ่นผสมกับเขตร้อนที่พบเฉพาะในระดับสูง การสะสมของอินทรียวัตถุในป่าดิบเขา ลักษณะอากาศเฉพาะถิ่น พืชที่อาศัยเกาะติดต้นไม้ ลักษณะของต้นน้ำลำธาร และลักษณะของต้นไม้บนดอยอ่างกา เช่นต้นข้าวตอกฤาษีที่ขึ้นตามพื้นดิน (ข้าวตอกฤาษี เป็นพืชที่ต้องการความอุดมสมบูรณ์สูง จะขึ้นในที่สูงกว่า 2,000 เมตรเท่านั้น และเจริญเติบโตได้ดีในพื้นที่ชุ่มชื้น อากาศเย็น) กุหลาบพันปี เป็นต้น ยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติ อีกหลายเส้น เช่น เส้นทางศึกษาธรรมชาติ กิโลเมตรที่ 38 และ เส้นทางศึกษาธรรมชาติกลุ่มน้ำตกแม่ปาน เป็นต้น แต่ละเส้นใช้เวลาในการเดินต่างกันตั้งแต่ 20 นาที - 7 ชั่วโมง และเหมาะที่จะศึกษาสภาพธรรมชาติที่ต่างกันด้วย ศึกษารายละเอียดเส้นทางได้จากที่ทำการอุทยานฯ และจะต้องติดต่อขอเจ้าหน้าที่นำทางจากที่ทำการฯ บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 31 เพื่อป้องกันการทำลายทรัพยากรธรรมชาติ และปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น และเป็นการส่งเสริมให้เกิดการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ การใช้สถานที่เพื่อการพักค้างแรมหรือจัดกิจกรรมอื่น ๆ นอกเหนือจากบริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ต้องขออนุญาตจากหัวหน้าอุทยานฯ เป็นลายลักษณ์อักษร |
_________________ Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.
|
|
Back to top |
|
|
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
Joined: 04/07/2006 Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร
|
Posted: 02/03/2009 1:40 pm Post subject: |
|
|
ตลอดเวลาที่เดินอยู่ใน เส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกา นักท่องเที่ยวก็จะได้เห็นพืชพันธุ์ไม้ทั้งใหญ่และเล็กมากมาย บางชนิดก็เคยเห็นผ่านตามาบ้างแล้ว แต่บางชนิดก็ไม่รู้สึกว่าจะดูคุ้นตาสักเท่าไหร่ สำหรับผมก็ว่าเพลิน ๆ ดีครับ คิดว่ามาเดินออกกำลังกาย อากาศดี ๆ แบบนี้ เดี๋ยวกลับไปก็ไม่มีให้สูดเข้าปอดแล้วครับ
ข้าวตอกฤาษี นี่ตอนไปเที่ยวเขาค้อก็ได้ผ่านตามาบ้างครับ
_________________ Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.
|
|
Back to top |
|
|
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
Joined: 04/07/2006 Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร
|
Posted: 02/03/2009 1:55 pm Post subject: |
|
|
ภายใน เส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกา นี้ มีทางเดินแยกไปที่ ศาลเจ้ากรมเกียรติ ด้วยครับ
ข้อมูลตามป้าย wrote: | ศาลนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แด่ พลอากาศเอก เกียรติ มังคละพฤกษ์ และหัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ( นายนิพนธ์ บุญหารมณ์ ) ผู้ทำคุณประโยชน์ให้แก่กองทัพอากาศ และประเทศชาติ ซึ่งประสบอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ตก และถึงแก่อนิจกรรม ณ ที่นี้ หลังจากเสร็จภารกิจสำรวจที่ตั้งศูนย์ควบคุมและรายงานดอยอินทนนท์ เมื่อวันที่ ๒๕ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๑๔
อุทิศโดย พ.ท.หญิง ศิริภาพรรณ ประภากร นายอรรถพร สมจินดา
วันที่ ๑๐ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๔๘ |
_________________ Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.
|
|
Back to top |
|
|
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
Joined: 04/07/2006 Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร
|
Posted: 02/03/2009 2:11 pm Post subject: |
|
|
หลังจากออกมาจาก เส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกา แล้ว พวกเราก็นั่งรถย้อนกลับมาที่บริเวณลานจอดรถใกล้ ๆ กับทางเข้าสู่ เส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน ที่เป็นโปรแกรมทัวร์ลำดับต่อไปของพวกเราครับ
แต่ก่อนหน้าที่จะย่างก้าวเข้าสู่ เส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน พวกเราก็แวะกินอาหารมื้อกลางวัน เพื่อสะสมพลังงานกันก่อน โดยที่อาหารที่มีขายอยู่ที่นั่นก็เป็นพวก ข้าวเหนียว ส้มตำ ไก่ย่าง ขนมขบเคี้ยว และน้ำดื่มประมาณนี้ล่ะครับ นอกจากอาหารแล้ว ก็ยังมีของที่ระลึกเป็นโปสการ์ดด้วย
รูปนี้ถ่ายเอาไว้เมื่อเวลา 12.15 น. ในเทอร์โมมิเตอร์บอกว่าอุณหภูมิในขณะนั้นก็คือ ประมาณ 19 องศาเซลเซียส ดูเหมือนจะหนาว แต่ผมไม่รู้สึกว่าจะหนาวมากขนาดนั้นครับ น่าจะประมาณ 25 องศาเซลเซียสได้ หรือว่าอยู่นานแล้ว ผิวหนังเกิดด้านขึ้นมาก็ไม่รู้สิ แต่ไม่หนาวจริง ๆ ครับ แค่เย็นสบาย ไม่ต้องใส่เสื้อกันหนาวแล้ว
_________________ Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.
|
|
Back to top |
|
|
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
Joined: 04/07/2006 Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร
|
Posted: 02/03/2009 2:34 pm Post subject: |
|
|
กินกันจนอิ่มท้อง เติมพลังกันเติมที่แล้ว ก็ได้เวลาที่พวกเราจะลุย " ของจริง " กันแล้วล่ะครับ ตอนนี้ผมยืนอยู่บริเวณทางเข้าสู่ เส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน ครับ ที่เห็นพื้นที่ที่กำลังมีการก่อสร้างอยู่ทางซ้ายนั้น กำลังก่อสร้างที่ทำการของเจ้าหน้าที่ จากข้อมูลที่สอบถามมากำหนดสร้างเสร็จก็คือช่วงเดือนเมษายน นักท่องเที่ยวที่มาเยือนที่นี่ช่วงวันหยุดสงกรานต์ก็น่าจะได้เห็นตอนที่สร้างเสร็จแล้วครับ
ใน Website ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับ เส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน เอาไว้ว่า
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย wrote: | เส้นทางศึกษาธรรมชาติบนดอยอินทนนท์ กิ่วแม่ปาน ทางเข้าอยู่กิโลเมตรที่ 42 ด้านซ้ายมือ ระยะทางเดิน 3 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินเท้าประมาณ 3 ชั่วโมง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสธรรมชาติแท้จริง ระหว่างทางเดินจะพบป่าดิบเขา ( Hill Evergreen ) ก่อนผ่านเข้าสู่ทุ่งหญ้าซึ่งเคยเป็นพื้นที่ป่าถูกทำลาย เพื่อเป็นการศึกษาลักษณะการเกิดผลกระทบต่อเนื่องบริเวณรอยต่อระหว่างพื้นที่ป่าสมบูรณ์กับพื้นที่ถูกทำลาย หลังจากนั้นทางเดินจะเลาะริมผามีไอหมอกปลิวผ่านตลอดเวลา จะพบดอกกุหลาบพันปี หรือ Rhododendron ( ไม้พุ่มหรือไม้ต้นขนาดเล็ก ขึ้นตามป่าในระดับสูง มีพันธุ์ดอกสีขาวและสีแดง เวลาออกดอกช่วงแรกมีลักษณะเหมือนปลีกล้วย ก่อนที่จะบานเต็มต้นในช่วงเดือนธันวาคม - กุมภาพันธ์ พบมากในแถบเทือกเขาหิมาลัยและเป็นไม้ประจำชาติของเนปาลด้วย ) มองลงไปยังเบื้องล่างจะพบทัศนียภาพที่งดงามของอำเภอแม่แจ่ม
การใช้เส้นทางนี้ต้องลงทะเบียนขอรับใบอนุญาตให้ใช้เส้นทางโดยติดต่อที่ศูนย์ประชาสัมพันธ์อุทยานฯ และควรจัดกลุ่มละไม่เกิน 15 คน ทางอุทยานฯไม่อนุญาตให้นำอาหารเข้าไปรับประทานในเส้นทางในช่วงฤดูฝน และจะปิดเส้นทางเพื่อให้ธรรมชาติฟื้นตัวไม่อนุญาติให้เข้าไปท่องเที่ยวตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน ถึงวันที่ 30 ตุลาคม ของทุกปี เส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปานแห่งนี้ ได้รับรางวัลดีเด่นประเภทแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ รางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ครั้งที่ 4 ประจำปี พ.ศ. 2545 เพราะมีการจัดการที่เน้นความเป็นธรรมชาติ ระหว่างทางมีป้ายสื่อความหมายให้ความรู้กับนักท่องเที่ยว และประชาชนในท้องถิ่นมีส่วนร่วมในการนำเที่ยว |
ก่อนที่จะเริ่มออกเดินทางเข้าสู่ เส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน นักท่องเที่ยวก็จะต้องจ่ายเงินให้กับเจ้าหน้าที่เป็นค่านำทาง 200 บาท / 1 กลุ่ม ( ไม่เกิน 10 คน ) ซึ่งหากนักท่องเที่ยวกลุ่มใดไม่มีผู้นำทางร่วมเดินทางไปด้วย ก็จะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปใน เส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน เพราะว่าเส้นทางนี้ค่อนข้างไกล ( ใช้เวลาเดินประมาณ 2 - 3 ชั่วโมง ) เส้นทางบางช่วงอยู่ในพื้นที่สูง นักท่องเที่ยวอาจได้รับอันตราย นอกจากนั้นยังป้องกันไม่ให้นักท่องเที่ยวทำลายพืชพันธุ์สำคัญบางชนิดที่ขึ้นอยู่ข้าง ๆ เส้นทางด้วยครับ
ข้อมูลตามป้าย wrote: | อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์และกลุ่มบริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด ( มหาชน ) หรือ เอ็กโก ร่วมกันจัดทำเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน ตั้งแต่ปี 2539 โดยเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปานนี้ ได้รับรางวัลกินนรี จากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ( ททท. ) ประจำปี 2545 ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวดีเด่น ประเภทแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ
1. เส้นทางนี้เปิดให้เดินระหว่างเวลา 06.00 น. ถึง 16.00 น. เท่านั้น
2. การเดินเส้นทางกิ่วแม่ปานต้องมีผู้นำเที่ยวเฉพาะถิ่นร่วมทาง 1 คน : นักท่องเที่ยว 10 คน
3 โปรดปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้นำเที่ยว
4 เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปานจะปิด เพื่อฟื้นฟูสภาพธรรมชาติ ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน - 31 ตุลาคม ของทุกปี
5 โปรดช่วยกันรักษาความสะอาด
6 โปรดปฏิบัติตามกฎของเส้นทางต่อไปนี้ ( ห้ามทิ้งขยะ ห้ามรับประทานอาหาร ห้ามปีนเขา ห้ามสูบบุหรี่ ) |
รายละเอียดเกี่ยวกับ เส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน สามารถอ่านเพิ่มเติมได้จาก Folktravel.com _________________ Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.
|
|
Back to top |
|
|
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
Joined: 04/07/2006 Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร
|
Posted: 02/03/2009 2:45 pm Post subject: |
|
|
ผู้นำทางของพวกเราก็คือหญิงสาวคนนี้ครับ จากข้อมูลที่ผมสูบมาได้เธอเล่าว่า ผู้นำทางใน เส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน ที่มีความยาวประมาณ 3.4 กิโลเมตร ทุกคนก็คือชาวเขาเผ่าม้ง ที่อาศัยอยู่บริเวณพื้นที่ด้านล่างของ ดอยอินทนนท์ นี่ล่ะครับ แต่ผู้ที่จะมาทำหน้าที่เป็นผู้นำทางได้จะต้องพูดภาษาไทยได้ดี ส่วนภาษาอังกฤษนั้นพอสื่อสารกันรู้เรื่องก็พอ โดยที่ชาวม้งทั้งหมดที่มาทำหน้าที่นี้มีอยู่ประมาณ 50 คน จะสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาทำหน้าที่ วันละประมาณ 10 - 20 คนแล้วแต่ปริมาณนักท่องเที่ยวของแต่ละช่วงเวลา ช่วง High Season เธอเล่าว่าบางวันต้องเดินกันวันละ 2 - 3 รอบเลยทีเดียว แต่ถ้าเป็นช่วง Low Season แบบนี้ รอบเดียวก็กลับบ้านแล้วครับ
หน้าที่ของผู้นำทางนอกจากจะต้องนำทางนักท่องเที่ยวไปตลอดเส้นทางแล้ว ก็ยังต้องอธิบายสิ่งต่าง ๆ ที่ได้พบเห็นระหว่างทางให้นักท่องเที่ยวได้ฟังด้วย ในวันนั้นเธอชี้ให้พวกเราดูร่องรอยของกงเล็บหมี ที่ปีนขึ้นไปบนต้นไม้ ซึ่งเธอบอกว่าเป็นหลักฐานสำคัญที่บอกว่าในอดีตบน ดอยอินทนนท์ แห่งนี้เคยมีหมีอาศัยอยู่ แต่หลังจากทางราชการได้ทำถนนขึ้นมาบนดอย ในปี 2530 เหล่าสัตว์ป่าขนาดใหญ่ก็เริ่มหายไป จนถึงทุกวันนี้สัตว์ป่าขนาดใหญ่ที่สุดที่สามารถพบได้ ( หากโชคดี เพราะมันไม่โผล่มาให้เห็นบ่อยนัก ) ก็คือ กวางผา ส่วนที่อยู่ในรูปนี้ก็คือ ลูกของต้นก่อหมวกเล็ก ที่ถูกกระรอกแทะกินไปเรียบร้อยแล้ว
_________________ Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.
Last edited by ExtendeD on 03/03/2009 5:40 am; edited 1 time in total |
|
Back to top |
|
|
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
Joined: 04/07/2006 Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร
|
Posted: 02/03/2009 2:55 pm Post subject: |
|
|
ช่วงแรก ๆ ของ เส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน นี้ ก็จะเป็นเส้นทางเดินที่อยู่ในป่า
นอกจากจะได้เห็นต้นไม้น้อยใหญ่มากมายแล้ว ก็ยังได้ยินเสียงธารน้ำไหลอยู่เป็นระยะ ๆ นอกจากนั้นก็ยังมีน้ำตกขนาดย่อม ๆ อีกด้วย
น้ำใส ๆ แบบนี้เห็นแล้วอยากลงไปเล่นจริง ๆ ช่วงแรก ๆ อากาศเย็นสบายดีครับ เพราะแสงแดดแทบจะส่องลงมาไม่ถึงพื้นด้านล่างเลย ต้นไม้ใบไม้บังเอาไว้หมด
_________________ Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.
|
|
Back to top |
|
|
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
Joined: 04/07/2006 Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร
|
Posted: 02/03/2009 3:05 pm Post subject: |
|
|
พวกเราเดินอยู่ในเส้นทางช่วงที่เป็นป่าทึบอยู่ประมาณ 30 นาที จากนั้นเราก็จะได้กลับออกมาสู่โลกภายนอกอีกครั้ง ภาพที่เห็นตรงหน้านั้นเป็นทุ่งหญ้ากว้าง ๆ บนภูเขา ข้าง ๆ ทางเดินมีป้าย " ทุ่งหญ้ากึ่งอัลไพน์ ( Alpine Savanna ) " ติดอยู่ด้วย
ผู้นำทางของพวกเราบอกว่าบริเวณนี้มีทั้งพื้นที่ที่เป็นป่าทีบ และทุ่งหญ้ากว้าง ก็เลยเรียกพื้นที่นี้ว่า " ทุ่งหญ้ากึ่งอัลไพน์ " นั่นเอง ทางซ้ายของรูป คือป่าทึบที่พวกเราเพิ่งจะเดินผ่านออกมา ส่วนทางขวาก็คือทุ่งหญ้ากว้าง ๆ ที่รอคอยพวกเราอยู่ครับ
_________________ Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.
|
|
Back to top |
|
|
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
Joined: 04/07/2006 Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร
|
Posted: 02/03/2009 3:19 pm Post subject: |
|
|
เดินผ่านทุ่งหญ้ากว้าง ๆ เมื่อสักครู่มาสักพัก พอมาถึงบริเวณที่มีลักษณะคล้าย ๆ กับหน้าผาสูง ๆ มองไปก็เห็นว่ามีป้าย " พื้นที่ถิ่นอาศัยกวางผา ( Goral Habitat Area ) " ติดอยู่ ผู้นำทางของพวกเราบอกว่า ถ้าโชคดีนักท่องเที่ยวก็จะได้เห็นกวางผาตัวเป็น ๆ ด้วย แต่กลุ่มของพวกเราหาได้มีบุญตามากขนาดนั้นไม่ คงเป็นเพราะมาไม่ถูกเวลา ผู้นำทางของเราบอกว่าในกลุ่มของผู้นำทางเล่าต่อ ๆ กันมาว่านักท่องเที่ยวกลุ่มที่มาเยือนที่นี่ช่วงเช้าได้เห็นกวางผาอยู่แถว ๆ นี้ด้วยครับ อดเลย . . . มาช้าไปแค่ครึ่งวันเอง มัวแต่กินอยู่ เหอะ เหอะ . . .
ในเมื่อไม่ได้เห็นกวางผาแล้ว มาดูหน้าผาแทนแล้วกันครับ ผู้นำทางของพวกเราบอกว่าเหตุผลหนึ่งที่ต้องมีผู้นำทางที่เป็นชาวท้องถิ่นเดินนำทางตลอดเวลานั้น ก็เป็นเพราะเส้นทางช่วงนี้อยู่บนพื้นที่สูงชัน อาจจะเป็นอันตรายต่อนักท่องเที่ยวที่ไม่คุ้นชินเส้นทาง มองไปรอบ ๆ ก็มีแต่หน้าผาอย่างที่เธอบอกมาจริง ๆ ครับ
หันมาดูทางซ้ายบ้าง ผู้นำทางของพวกเราบอกว่าในช่วงที่ท้องฟ้าเปิด มองลงไปด้านล่างก็จะเห็นพื้นที่ของอำเภอแม่แจ่มได้อย่างชัดเจน แต่ในวันนี้ได้เห็นเป็นแถบจาง ๆ สีขาว ๆ เทา ๆ ก็ขอให้เป็นหมอก ไม่ใช่ควันจากไฟป่าก็แล้วกันครับ
_________________ Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.
|
|
Back to top |
|
|
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
Joined: 04/07/2006 Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร
|
Posted: 02/03/2009 3:45 pm Post subject: |
|
|
เดินลัดเลาะมาตามทางเดินจากถิ่นอาศัยของเจ้ากวางผามาเรื่อย ๆ ถ้าใครที่ไม่รู้สึกหวั่นไหวกับความสูง ก็คงจะบอกว่าสนุกล่ะครับ แต่สำหรับผมวิวก็สวยดี อยากจะเดินช้า ๆ หยุดยืนดูอยู่นาน ๆ แต่ใจมันเต้นไม่ค่อยจะเป็นจังหวะ เอาเป็นว่าพยายามเดินชิดซ้ายให้มากที่สุด มีทางคู่ขนานก็ขอเลี้ยวเข้าไปใช้บริการหน่อยก็แล้วกันครับ
เดินชมวิวไปเรื่อย ๆ สักพักก็จะมาถึงจุดชมวิวอีกแห่งหนึ่ง มีป้าย " ธรณีสันฐานกิ่วแม่ปาน " ติดอยู่ด้วย ตรงจุดนี้ก็น่าจะมีไว้ให้นักท่องเที่ยวได้หยุดยืนชมภูเขา และพื้นที่โดยรอบที่สามารถมองเห็นได้จากที่สูง ๆ ครับ
พอมายืนอยู่ที่ตรงนี้ สิ่งที่สะดุดตามากที่สุดก็คงจะเป็นก้อนหินขนาดใหญ่ที่ตั้งสูงเด่นอยู่คู่กันนี้
หันมองอีกด้านหนึ่งก็เป็นภูเขาเตี้ย ๆ ( จริง ๆ ก็ไม่เตี้ยหรอกครับ แต่เรายืนอยู่สูง และไกลมากเท่านั้นเอง ) ผู้นำทางบอกว่ามีแต่เจ้าหน้าที่อุทยานเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้เดินออกนอกเส้นทางได้ เพราะพี่ ๆ เขามีประสบการณ์ และมีอุปกรณ์พร้อมที่จะเดินทางผ่านเส้นทางในจุดที่มีความสูงชันมาก ๆ ครับ
_________________ Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.
|
|
Back to top |
|
|
|