View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
Winning
2nd Class Pass (Air)
Joined: 28/10/2006 Posts: 933
Location: สุรินทร์,มหาสารคาม
|
Posted: 27/02/2009 11:36 pm Post subject: |
|
|
Compressor wrote: | สงสัยครับสงสัย
4124 ที่ย่านอุบลฯ ข้างบน ใช่เว็บเราถ่ายรึเปล่าครับ ภาพมันคุ้นตามาก คุ้นตามากจริงๆ |
ปิ พี่ก็ว่ามันคุ้นๆ อยู่นะ
ถ่ายเมื่อวันที่ ๒๓ ธันวาคม พศ.๒๕๕๐
วันที่พี่ไปอุบลกับพี่แจน
งานนี้ต้องให้ พี่แจน มายืนยันด้วย |
|
Back to top |
|
|
CENTENNIAL
1st Class Pass (Air)
Joined: 30/03/2006 Posts: 3642
Location: Thailand
|
Posted: 27/02/2009 11:38 pm Post subject: |
|
|
ถ้าจะให้ดี ควรจัดหาหัวรถจักรในระดับ 2,500 แรงม้า พิกัดเพลาสูงสุด 15 ตัว เพิ่มอีก 50 หัว โดยไม่นับรวมกับโครงการที่มีมาแล้ว เพื่อประโยชน์ด้านการขนส่งสินค้าและบริการผู้โดยสาร
เพราะดูๆ แล้ว รถจักรเมืองไทยใช้ระบบหมุนเวียนไปเรื่อย เกรงว่าถ้าจัดคิวไม่ดี ดันมาตรงคิวทำขบวนรถหนักขึ้นภูเขา สุดท้ายก็ขึ้นไม่ไหว ต้องลำบากในหารถจักรมาช่วยอีก
แต่พวกเราคุยๆ กัน แค่ในวงเล็กๆ แบบนี้ มันแทบจะไม่มีประโยชน์เลยครับ จะทำอย่างไรให้ผู้หลักผู้ใหญ่ ผู้บริหารประเทศได้ทราบถึงปัญญานี้ดี |
|
Back to top |
|
|
hermit
2nd Class Pass
Joined: 14/01/2007 Posts: 562
Location: Udon Thani Downtown
|
Posted: 27/02/2009 11:57 pm Post subject: |
|
|
เห็นกระทู้นี้แล้วนึกถึงสิ่งที่อาจารย์ตุ้ยได้ว่าเอาไว้ในกระทู้ หนีรถไฟที่ขุนตานเลยนะครับ |
|
Back to top |
|
|
donatt76
1st Class Pass (Air)
Joined: 03/09/2006 Posts: 2587
Location: บางนา สุวรรณภูมิครับ
|
Posted: 28/02/2009 1:25 am Post subject: |
|
|
CENTENNIAL wrote: | แต่พวกเราคุยๆ กัน แค่ในวงเล็กๆ แบบนี้ มันแทบจะไม่มีประโยชน์เลยครับ จะทำอย่างไรให้ผู้หลักผู้ใหญ่ ผู้บริหารประเทศได้ทราบถึงปัญญานี้ดี |
เสนอเล่นๆนะครับ...เราน่าจะจัดสัมมนาทางวิชาการเป็นเรื่องเป็นราวซักครั้งน่าจะดีนะครับ
เป็นแบบ Open Seminar ให้คนที่สนใจเข้าร่วมรับฟัง ร่วมเสนอความคิดด้วย
เพราะแต่เดิมเมื่อสัมมนาปัญหาระบบการขนส่ง ก็จำกัดวงอยู่แค่บุคคลผู้มีอำนาจภายในองค์กร ฉะนั้น ท่านก็ไม่ได้รับฟังปัญหาจากมุมมองของคนภายนอก
ไม่แน่นะครับ..ถ้า วงสนทนาเย็นวันเสาร์ ณ บ้านรั้วมะขาม ขยายมุมออกมาให้คนอื่นได้รับฟัง...เฉพาะในบ้าน RFT.com (ขอเรียกว่าบ้านละกันนะครับ) เราก็มีทั้งมุมมองจากหลายเพศ หลายวัย หลายอาชีพ ตั้งแต่ นักเรียน พนักงานบริษัท ข้าราชการ อาจารย์ และผู้ที่เกี่ยวข้องโดยตรงก็มาก ข้อมูล ทางวิชาการ ประวัติศาสตร์ และอีกมากมาย...
ผมเชื่อครับ ถ้ามีข่าวเมื่อไหร่...รับรองว่ารู้ถึงหูท่านแน่ๆ
บอกครั้งเดียว คนเดียว น่ะไม่ได้ผลครับ ไม่มีคนสนใจ...แต่ถ้าบอกหลายครั้ง หลายคน...ย้ำเข้าไป มันต้องได้ยิน ต้องเหลียมมามองมั่งล่ะครับ _________________
|
|
Back to top |
|
|
casanotoey
3rd Class Pass (Air)
Joined: 03/07/2006 Posts: 412
|
Posted: 28/02/2009 8:31 am Post subject: |
|
|
ต้องให้ ก คมนาคม งดตัดถนนใหม่ 4 ปี แล้วหันมาสร้างทางรถไฟกับซื้อหัวรถจักรแทน 4 ปี จะได้มั้ย |
|
Back to top |
|
|
donatt76
1st Class Pass (Air)
Joined: 03/09/2006 Posts: 2587
Location: บางนา สุวรรณภูมิครับ
|
Posted: 28/02/2009 10:03 am Post subject: |
|
|
nathapong wrote: | ประเด็นนี้ สงสัยจริง ๆ จริง ๆ ทางรฟท ว่าจะตอบคำว่ารัฐบาลไม่เหลียวแล รฟท น่าจะทบทวนว่าทำงานกันอย่างไร และมาแลดูตัวเองก่อน น่าจะดีกว่า ขอรับ |
น่าเสียดายนิดเดียวที่ รฟท. ยังต้องพึ่ง "คลัง" อยู่ คือไม่สามารถบริหารายได้ด้วยตัวเองอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย...ยังต้องเบิกจ่าย ผ่านคลัง อยู่นะครับ
รัฐเลยอาจจะมองว่า รถไฟเป็นการลงทุนที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ แปลภาษาชาวบ้านว่า "ได้ไม่คุ้ม" หรืออีกนัยหนึ่ง ก็ คืด "Reason we know why!...(Why I have to agree?)" ล่ะครับ...
ซึ่งตรงนี้เห็นด้วยกับ ป๋าณัฐว่า รถไฟเองน่าจะมีแผนหารายได้ให้เค้าเห็นก่อน...หมายถึงชี้ให้เห็นไปเลยว่า "ตอนนี้บำรุงทางแล้วนะ ไม่เป็นทางเกวียนอีกแล้ว" ฉะนั้น ถ้าได้รถใหม่มา จะเอามาสร้างรายได้อะไรได้บ้าง รายได้จาก Logistic เท่าไหร่ ถ้าเรา gaurantee ได้ว่า สินค้าจะถึงท่าเรือตามเวลา ไม่โดนเด็ดหัวกลางทางเหมือนปัจจุบัน
รายได้จากรถโดยสารจะเพิ่มเท่าไหร่...อยากให้มองไปทางรถเชิงพาณิชย์ มากกว่า รถเชิงสังคม (ซึ่งแน่นอนว่า รัฐบาลไม่ยอม เพราะใช้หาเสียง) สร้างรายได้ให้ตัวเองก่อน ใช้ Model อย่าง KTMB ดูก็ได้ _________________
|
|
Back to top |
|
|
nathapong
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 3515
Location: Ayuthaya - Lamlukka - Navanakhon - Silom
|
Posted: 01/03/2009 10:38 am Post subject: |
|
|
จริงเรื่องนี้มันขยายวง ๆไปถึง ผู้ที่เกี่ยวข้องมาพักใหญ่ ๆ แล้วครับ
เพียงแต่เรายังไม่พร้อมในการจัดนำเสนอ ในเชิงวิชาการอย่างจริง ๆ จัง ในเวบเรามากกว่า
ขอยกตัวอย่างเช่น ปัญหาล้อเลื่อน ขาดแคลน รถชานเมืองมันสั้นมีไม่กี่คัน แต่ทำไม บรรดารถชนิดต่าง ๆ ไปจอดเต็มย่านพหลโยธิน อย่างรถ บชส
เรื่องนี้ ปัญหาคืออะไร ที่เราจะหยิบประเด็นมาเสวนากันนั้น
เพราะเราเคยได้ยินเขาเล่ามาว่าเกิดจากปลอกล้อขาดแคลน ที่ขาดแคลนเกิดจากอะไร การใช้งานที่สมบุกสมบัน ไม่มีเวลาหายใจ
รวมถึงในอดีตมีคำถามจากผู้บริหาร ฯ ว่า ซื้อมาทำไมทีละเยอะแยะนับพันวง ทำไมไม่ซื้อให้พอใช้ ซื้อแบบประหยัดไม่ได้หรือไง มีนอกมีในหรือเปล่า ทำไมไม่เอาของฝรั่งเอาของจีนทำไม
จากประเด็นแบบนี้เราอยากจะเข้าไปรับรู้และเห็นปัญหาตั้งแต่รากเหง้าหรือไม่ และคนที่ตั้งคำถามมีความรู้ในองค์กรนี้ขนาดไหน ที่สำคัญการตอบแบบบ้าจี้ ทำให้คนที่เกี่ยวข้องซวยชนิดว่าเกษียณแล้วจะต้องตามไปให้ถ้อยคำสอบสวนคดี ในกระบวนการยุติธรรมจนถึงชั้นชั้นศาล บางทีอาจจะตายก่อนมีคำพิพากษา หรือเปล่าก็ไม่รู้
จริงอยู่ที่บ้านหลังมีคนหลากหลายสาขาความรู้ และหลากหลายอาชีพ จากประเด็นข้างต้น
ลองใช้กระทู้นี้มาเป็นปุจฉา กันดูนะครับ เรื่องวิธีสร้างล้อรถไฟ http://portal.rotfaithai.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=666
ซึ่งกระทู้นี้ เปิดประเด็นมาตั้งแต่ 09/11/2006 วันนี้ วันทื่ 01/03/2009 ระยะเวลาของกระทู้นี้ มีอายุ 2 ปีเศษ แต่ทำไมกระทู้นี้ไม่มีคนมาเล่น หรือมีคนเล่นก็ไม่กี่คน
ถ้าหยิบเรื่องนี้มาเสวนา เพื่อนำเสนอแนวทางแก้ไข รวมถึงข้ออุปสรรค ณ วันนี้ เราพร้อมที่อยากจะเดินเรื่องวิชาการอย่างจริง ๆ จัง หรือไม่ คำตอบอยู่ที่ตรงนี้ครับ |
|
Back to top |
|
|
CivilSpice
1st Class Pass (Air)
Joined: 18/03/2006 Posts: 11192
Location: หนองวัวหนุ่มสเตชั่น
|
Posted: 01/03/2009 11:00 am Post subject: |
|
|
ขออนุญาตพาดพิงต่อจากป๋านัทครับ เท่าที่สัมผัสกับที่นี่มาตั้งแต่ปี 2004 จนถึงปัจจุบัน ก็ต้องยอมรับความจริงครับว่า เรื่องราวที่เป็นทางวิชาการ เรื่องทางเทคนิค และประวัติศาตร์ จะมีคนเข้ามาเล่นเพียงจำนวนไม่มาก มีกระทู้ออกมาได้สักพักก็จะค่อยๆ เงียบไป แล้วก็จะมีแต่คนดูมากกว่าคนออกความเห็น ส่วนหนึ่งก็คือเป็นเพราะว่าไม่มีความเชี่ยวชาญทางด้านนี้โดยตรง และไม่แม่นเรื่องข้อมูล เกรงว่าหากลงไปแล้ว อาจจะข้อผิดพลาด เป็นต้น แต่ในทางกลับกัน หากเป็นกระทู้นั่งรถไฟเที่ยว กระทู้ถ่ายภาพ กระทู้เยี่ยมชมสถานี หรือกระทู้ที่ไปออกทริปต่างๆ ฯลฯ กลับเป็นกระทู้ที่มีผู้ชม และการโพสต์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งก็น่าจะทำให้เห็นภาพบางอย่างว่า ความถนัดหรือความสนใจในบ้านเรา มากกว่า 80% จะเน้นเรื่องท่องเที่ยวและบันเทิง มากกว่างานทางวิชาการครับ ...... หรือใครจะเถียงผม ว่ามันไม่จริง ลองกลับไปเปิดดูก็ได้ครับว่า เรื่องราวที่เป็นสาระทางวิชาการจริงๆ นั้นมีกี่กระทู้ มีคนเปิดประเด็นกี่คน มีกี่โพสต์ แล้วแต่ละโพสต์ตายไปตั้งแต่เมื่อไหร่
ป.ล. แต่บางคนอาจจะบอกนะครับว่า เพราะกลัว Staff ที่นี่ ถ้าโพสต์อะไรไม่เข้าท่า เลยไม่กล้าโพสต์ ..... อ่ะอ่ะอ่ะ ..... ผมว่ากรณีนี้ ถ้าโพสต์ข้อความแบบสุภาพชนปกติ ตามที่ควรจะเป็น ไม่ทำตัวโชว์พาว ไม่ทำตัวเกรียน ให้คนอื่นเขาหมั่นไส้ และปฏิบัติตามกติกาของเว็บ ก็คงไม่มี Staff คนไหนกล้าไปยุ่งกับโพสต์ของท่านหรอกครับ
|
|
Back to top |
|
|
nathapong
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 3515
Location: Ayuthaya - Lamlukka - Navanakhon - Silom
|
Posted: 01/03/2009 11:15 am Post subject: |
|
|
เรื่องวิชาการ จริง ๆ กว่าจะเขียนออกมาได้ ต้องทำการบ้านเยอะพอควร
อย่างแรก ถ้าลงข้อมูลผิดพลาด คนโพสต้องรับกันเอาเอง
อย่างที่สอง พอเอามาลง เจอพวกดูด ๆ ไปไม่ว่า
แต่คนที่ดูดเอาไปไปบอกกับชาวบ้านว่าเป็นการค้นคว้าของตัวเอง เจอแบบนี้ เป็นใครก็เซ็ง อ่าท่าน
ท่าน วมต เองก็เคยเจอกับตัวเองไม่ใช่เรอะ ที่ในหนังสือ ทริป ตีพิมพ์ ลงกับที่ท่าน วมต
เอามาลงในเวบ มันเหมือนในหนังสือตรงไหน อะอะ......
ย้อนกลับมาเรื่องปลอกล้อ ถามกันเล่น ๆ ว่าปลอกล้อ 1 วง หนักกี่ กก. ใครตอบได้บ้างครับ |
|
Back to top |
|
|
Cummins
2nd Class Pass
Joined: 28/03/2006 Posts: 719
Location: มหาวิทยาลัยราชมงคลอิสาน วิทยาเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นครราชสีมา
|
Posted: 01/03/2009 11:18 am Post subject: ไหน ๆ ก็ ไหน ๆ |
|
|
ก็ขอเปิดใจสักนิดในฐานะที่เป็ผู้ที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับเรื่องที่ว่ามาในเว็บนี้ เรื่องทางด้านสาระ และเทคนิคนั้นจริง ๆ แล้วเป็นเรื่องที่น่าสนใจ แต่ในฐานะคนเขียนเรื่องคนหนึ่งก็ขอบอกว่า เรื่องราวในแต่ละเรื่องนั้นการที่จะเรียบเรียงนั้นใช้เวลาค่อนข้างนาน และต้องใช้สำนวนในการเขียนเรื่องมาก เพราะพอออกหน้าเว็บจะมีคนอ่านร้อยแปดพันเก้า ต้องพยายามเขียนให้คนอ่านทุก ๆ คนอ่านแล้วรู้เรื่องซึ่งต่างจากการเขียนตำรา หรือเขียนหนังสือซึ่งจำกัดกลุ่มผู้อ่าน และต้องระมัดระวังเรื่องรายละเอียดเพราะเป็นเรื่องเฉพาะทางต้องค้นคว้าให้ดี แล้วต้องเขียนออกมาให้เป็นกลางเจาะลึกตรง ๆ ไม่ได้พลาดขึ้นมาก็เข้าตัว แต่ก็จะพยายามหาเวลาเขียนให้อ่านกันครับ แต่ก็อย่างที่ว่าล่ะครับพอหย่อนจ๋อมลงไปก็เหมือนคลื่นกระทบฝั่ง ไม่ค่อยมีใครสนใจเท่าไรนัก ส่วนใหญ่จะเข้ามาแหย่แบบลองของมากกว่า ถ้าเข้ามาเล่นแบบถกปัญหา หรือแลกเปลี่ยนความรู้ แลกเปลี่ยนข้อมูลล่ะไม่ว่าเลยสนุกดีด้วย ผมก็พร้อมที่จะยอมรับฟังความคิดเห็นของเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ สมาชิกเหมือนกัน อ่างที่บอมบ์ว่า อย่ามาแนวเกรียน อวดรู้ ดันทุรัง หัวชนฝา ล่ะอย่างนี้มันก็จะไม่ได้อะไรเลย ใจเย็น ๆ ครับเดี๋ยวผมสอบปริญญานิพนธ์นักศึกษาเสร็จ เดี๋ยวมีเรื่องให้อ่านครับ _________________ อดีตโชเฟอร์ล้อเหล็ก |
|
Back to top |
|
|
|