หัวรถจักรไทยหมดสภาพ 90% (ข่าวจาก นสพ.สยามธุรกิจ 27/02/52)

nathapong · Posted: 01/03/2009 12:03 pm Post subject:

ย้อนกลับมาเรื่องปลอกล้อ ถามกันเล่น ๆ ว่าปลอกล้อ 1 วง หนักกี่ กก. ใครตอบได้บ้างครับ

แวะมาเพิ่มข้อมูล จากประเด็นปลอกล้อ มันไปโยงกับอุตสาหกรรมอื่น ยังไง

ในการผลิตเหล็กและเหล็กกล้า* ที่จะหลอมเหล็กที่มาเป็นเหล็กหล่อทำ เป็นปลอกล้อรถไฟ
การผลิตครั้งนึง ตกราว ๆ 20 ตัน ขั้นต่ำก็ตก 4 ครั้งใน 1 รอบหรือ 80 ตัน เป็นอย่างต่ำ

ตอนนี้ เท่ากับเรารู้ว่าถ้าจะซื้อของขั้นต่ำ ต้องมีการใช้ของที่ 80 ตัน เป็นอย่างน้อย

ตานี้ ไม่มีใครมาตอบเรื่องปลอกล้อ ว่าปลอกนึงหนักกี่ กก.

ถ้างั้น ขอสมมติว่าปลอกนึงหนัก 50 กก ก็แล้วกัน เนอะ เดือนนึง การรถไฟ มีวงรอบที่ต้องการที่ 50 คัน ในรถ 8 ล้อ เช่น บรรดารถโดยสาร พวกรถบชส เนี่ยแหละ เท่ากับว่า ความต้องการเปลี่ยนที่ 400 วงต่อ 1 เดือน คิดเป็นน้ำหนักเหล็ก ก็ตกราว ๆ 20 ตัน ต่อเดือน หรือ 80 ตันต่อ 4 เดือน
เท่ากับว่า 4 เดือน ต้องมีการเปลี่ยนปลอกล้อสำหรับรถ รถ 8 ล้อ ถึง 200 คัน หรือ 600 คันต่อปี

nathapong · Posted: 01/03/2009 12:20 pm Post subject:

ย้อนกลับมาดูเรื่องการจัดซื้อจัดจ้าง
ต้องรบกวนคนอ่านไปหาระเบียบสำนักนายก ฯ เรื่องการจัดซื้อจัดจ้าง และกระบวนการกว่าจะได้จัดซื้อจัดจ้างจริง ๆ มีกี่ขั้นตอน ใช้เวลาเท่าใด และการเตรียมงบประมาณ เพื่อรองรับการจัดซื้อของที่ว่า
และที่สำคัญ ในรอบ สี่ห้าปีที่ผ่านมา อัตราแลกเปลี่ยนบ้านเรา มันอ่อนเป็นมะเขือเผา หรือ แข็งยิ่งกว่าสากกะเบือ

ปล.ถ้าถามว่าทำไมไม่จัดเตรียมงบ ฯ เป็นเงินสกุลเงินตราต่างประเทศ
เรื่องนี้กรุณาไปหาอ่านเรื่องระเบียบการถือครองเงินตราต่างประเทศ ของ ธนาคารแห่งประเทศไทย
และพรบ.งบประมาณประจำปี ว่า เขาตั้งงบเป็นสกุลต่างประเทศหรือไม่ เอาเองเน้อ
…………………………………………………………………………………………………..

ย้อนกลับมาฉากใน รฟท
วันนึง มี เจ้ากระทรวงมาเยี่ยมโรงงาน เห็นปลอกล้อ กองจำนวนมากมาย

เลยมีปุจฉาว่า ที่ซื้อๆ มาเพราะมีนอกมีในหรือไม่ เพราะข่าวเรื่องทุจริต คอรัปชั่น มันไม่เคยจืดจาง....

อีตอนนี้ถ้าผู้บริหารตอบได้ดี เข้าใจงานและอุตสาหกรรมต่อเนื่อง ก็ดีไป
ถ้าตอบแบบ ว่าขอตั้งกรรมการสอบสวนที่มาที่ไปเรื่องปลอกล้อที่ว่า แถมบรรดานักข่าว ท่านก็เอามาเล่นข่าวซะสนุกสนาน ว่าที่ นี่มันโกงกิน......

ลองมาเดา ๆ กันว่าฉากต่อไปมันเกิดอะไรขึ้น Rolling Eyes

nathapong · Posted: 01/03/2009 12:38 pm Post subject:

คำว่า “งานเข้า” คิดว่าในบรรดาพี่น้องในบ้านหลังนี้คงจะรู้จัก อ่านะ

เมื่อมีการสอบสวนที่มาที่ไป บรรดา พวกเราในบ้านคิดว่าจะมีใครคนใดกล้าดำเนินการ
ซื้อปลอกล้อต่อมั่ง อ่า...
แต่อย่าลืมว่า กว่าจะซื้อมาได้ ก็ผ่านไปอีก 3 – 4 ปี
รถทุกคันยังวิ่งอยู่ เมื่อถึงวาระ ก็ เลือกของจากศพที่พอใช้ได้ นึงมาใส่อีกศพนึง
แต่อย่าลืมกันว่า ศพที่วิ่งได้ จะพาไปเทกระจาดถลาออกจากรางกันตอนไหน ครานี้ ศพ ก็อืดไปเรื่อย ๆ ท้ายที่สุด ศพก็มากองเต็มย่านพหล ฯ อย่างที่เห็น

พอไม่มีรถวิ่ง รายได้ จะมีไหม ขอรับพี่น้อง แถมโดนตัดตอนเรื่องการปรับราคาค่าโดยสาร
ตอนนี่น้ำมันดีเซลปาไปเกือบ สี่สิบบาท ขอโทษ กท มาบ้านที่ภาชี ยังราคาเดิม คือ 19 บาทตั้งแต่ปี 2521 แถมมาให้นั่งฟรี อีก 1 ปี รายได้จะมาจากไหน (ส่วนใครจะด่าใคร ผมไม่เกี่ยวเน้อ)

ส่วนเรื่องทางเทคนิคที่ จะตรวจสอบว่าปลอกล้อที่ว่า มันตรวจสอบและรับรองว่า เป็นไปตามมาตรฐานหรือไม่

(บอกตามตรงว่า ไม่มีเวลาไปนั่งค้นมาตรฐาน ที่เกี่ยวกับระบบราง ถ้ามีเพื่อนพ้องเป็นอาจารย์ ด้านเครื่องกล จะขอร้องให้นักเรียน ด้านนี้มาค้นซะ จะได้ เคลียร์ ข้อสงสัยซะที)

donatt76 · Posted: 01/03/2009 12:48 pm Post subject:

ตกลงผมผิดมั้ยเนี่ยที่เปิดประเด็นเรื่อง Siminar ?????

แต่เห็นด้วยกับป๋านัฐ กะ พี่บอม ว่า กระทู้บันเทิงเริงใจ คนจะสนใจมากกว่า กระทู้ทางวิชาการ (ซึ่งเป็นปกติของมนุษย์ที่เข้ามาอ่านเวป เพื่อความบันเทิงนอกเวลางาน อยู่แล้ว)

แต่ผมมองต่างซักนิดในกรณีกระทู้นี้นะครับ...เรื่องนี้มันเป็นเรื่องของความคิดเห็น ของมุมมองมากกว่าเรื่องของวิชาการน่ะครับ

เพราะอย่างมุมมองของผม (คนเดียว)...ผมคงจะมองในแง่ของผู้ใช้บริการล่ะรับ ที่อยากให้มีของใหม่เอี่ยม วิ่งอยู่บนรางบ้านเราบ้าง...ส่วนเรื่องของการจัดซื้อจัดจ้าง อันนี้ เราคงไม่เข้าไปก้าวล่วง เนื่องจาก มันเป็นระบบ เป็นขั้นตอนของทางการรถไฟฯเค้า ซึ่งแน่นอนว่า ต้องติด "ระเบียบราชการ" เป็นธรรมดา

อย่างประเด็นของป๋านัฐนี่น่าสนใจครับ...เรื่องของการตรวจของเจ้ากระทรวง เพราะเราก็รู้กันอยู่ว่าวงการเมืองบ้านเรา นิสัยมันเป็นยังไง...อะไรที่คนเก่าทำไว้ จะถูกมองในแง่ลบเอาไว้ 50% ก่อน

บวกกับประเด็นสร้างข่าวของสือมวลชน...ที่เรื่องแค่หยดน้ำ ตีความเป็นทะเลสาบไปได้หมด อันนี้ คุณอัลสตุ้ย 4222 กะ พี่รถกล่องเราทราบดี จากกรณี ไฟไฟม้รถจักร 4103 ที่กลายเป็นข่าวใหญ่โตปานประหนึ่งไฟลุกท่วมรถจักรทั้งคัน...ทั้งที่จริงไหม้แค่ฉนวนกันความร้อน (แล้วรถจักร คันนั้นก็วิ่งกลับโรงรถจักรด้วยตัวเองได้ด้วย)

แน่นอนครับ การแสดงความเห็น ไม่ว่าด้วยการสัมมนาเป็นชิ้นเป็นอัน หรือ สัมมนาผ่านเวปบอร์ด ผู้พูด ผู้พิมพ์ ก็ต้องรับผิดชอบ ในคำพูดของตัวเอง

ส่วนผู้ที่เกี่ยวข้องโดยตรง ถ้าจะเชิญท่านมาให้ข้อมูลคงจะยากซักหน่อยครับ เพราะดีไม่ดี ความซวยอาจตกอยู่กับท่านเมื่อกลับไปถึงหน่วยงาน.....
_________________
Click on the image for full size

nathapong · Posted: 01/03/2009 1:10 pm Post subject:

donatt76 · Posted: 01/03/2009 2:05 pm Post subject:

^
^
^

เข้าใจเลยล่ะครับ

จัดแล้ว ไม่มีคนมา....อันเนี้ย คนจัดเซ็ง
งั้นสดดีกรีลงหน่อย....ไม่เอาเป็นสัมมนาละกัน...เอาเป็นแค่ "เสวนา" กันดีกว่า

(แต่....มันก็กลับมาหาว่าอยู่ในวงแคบแค่ไม่กี่คนอยู่ดี)

.........................................................................................................

เรื่องเกรียน เรื่องลองของเนี่ย ผมว่ามันมีทุกบ้านล่ะครับ...
เพราะเมื่อสร้างเวปบอร์ดขึ้นมา...จะมีเกรียน กับพวกแฝงขายของ มาเป็น Complimentary ด้วยเสมอๆล่ะครับ

ผมมองว่า เสวนาเนี่ย ถ้ามาแบบตัวเป็นๆ เก็นหน้าเห็นตากัน พวกเกรียนคงไม่กล้า....เพราะเอกลักษณ์เกรียนที่สำคัญ คือ หน้าตัวเมีย แฝงอยู่ภายใต้ Log in นามแฝง....แต่ไม่ปรากฏตัวเด็ดขาด

.........................................................................................................

เอาเป็นว่า...ถ้าการทำเสวนา สัมมนา มันทำท่าจะไม่ได้ผล หรือ ส่งผลเสียต่อ ผู้ที่ทำงานโดยตรง...แล้วมีวิธีไหนมั้ยหนอที่จะทำให้ผู้ใหญ่รู้ วาถึงเวลาซื้อรถใหม่แล้วนะ

- แกล้งทำรถเสียมันซะเลย...ไม่ดีแฮะ ประชาชนเดือดร้อน (อันที่จริงไม่ต้องแกล้ง มันก็เสียอยู่แล้วนิ)
- ดีเลย์มันทุกขบวน...ไม่ดีแฮะ เพราะปัจจุบันนี้มันก็ ดีเลย์มากพอแล้ว
- ยกเลิกขบวนรถ...ไม่ดีแฮะ ประชานเดือนร้อน...อีกอย่าง เค้าจะมองว่า ดีซะอีก เพราะรถน้อยลง

เอ....หรือต้องถึงกับ ให้รถขบวนสำคัญๆ เสียซะก่อนถึงจะตื่นเต้นกัน

หรือจะลองตั้งประเด็นในบอร์ดสาธารณะดูดี

ข้อนี้....เกรงว่าจะไม่ได้คำตอบ มีแต่คนมาเหยียบซ้ำ

(แต่อาจจะได้เสียงสะท้อนบ้าง)

แต่อย่าถึงกับ...นิ่งแล้วปล่อยให้มันผ่านไป เหมือนคอลัมภ็ ประเด็นของกระทู้เลยนะครับ...ที่หนังสือพิมพ์หมดอายุ...คนก็ลืมไปตามสายลม
_________________
Click on the image for full size

nathapong · Posted: 01/03/2009 2:29 pm Post subject:

อะอะ.... สิ่งที่เราเล่น ๆ กันเนี่ย

ลืมบอกไปว่า บางเรื่องไปอยู่ในมือคนชงไม่ว่า สภาพัฒน์ สนข ในกระทรวง มาเป็นปีๆ แล้วหงะ

ที่เหลือ อยู่ที่ ตัวองค์กร ของ รฟท ตะหาก หนะ คุณโดนัท...เมื่อไหร่จะเดิน น่อ

เอาไว้หาฤกษ์ เสวนาได้ เมื่อไหร่ รับรองได้ เม้าท์ กันกระจาย อะอะ Laughing

nathapong · Posted: 01/03/2009 2:45 pm Post subject:

pak_nampho · Posted: 01/03/2009 3:51 pm Post subject: