ShortStory : อุดรธานี - ห้วยเสียว ฉบับวุ่นวายแท้หนอ

[ExtendeD]

แล้วขบวนที่ 75 ก็มาถึง สถานีขอนแก่น เวลา 16:48 น. ทุกครั้งที่นั่งรถไฟผ่านมาถึงที่สถานีแห่งนี้ก็จะได้เห็นภาพชานชาลาที่มีผู้โดยสารเดินไปมาขวักไขว่ แต่ในวันนี้จำนวนที่อยู่บนขบวนรถมีไม่มาก ความคึกคักก็เลยลดลงไปกว่าทุก ๆ ครั้งที่เคยเห็นครับ




หันมองออกไปภายในย่านสถานีกันบ้าง ในบ่ายวันนั้นไม่มีขบวนรถน้ำมันจอดรอการสูบถ่ายเลยครับ




มองไปทางทิศใต้ก็เห็น บทค. จอดอยู่ประมาณ 10 คัน เงียบ ๆ เหงา ๆ . . .



สถานีขอนแก่น ในเส้นทางสายตะวันออกเฉียงเหนือ ( ปลายทาง สถานีหนองคาย )
เป็นสถานีระดับที่ 1 อักษรย่อ ขอ. รหัสสถานี 2163
ตั้งอยู่ใน ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น
ระยะทางจาก สถานีกรุงเทพ 449.75 กิโลเมตร
ระบบสัญญาณที่ใช้ : ประแจกลสายลวดพร้อมสัญญสณหางปลาชนิดมีเสาเตือน เสาเข้าเขตใน และเสาออก ก.3 *

* อ้างอิงจาก file station_northeast.pdf ที่ download มาจาก http://portal.rotfaithai.com
_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

แล้วก็มาถึงอีก 1 Location สำคัญที่ผมทั้งโม้ ทั้งฝอยสรรพคุณให้น้องนัทฟังเอาไว้ซะเยอะ ย้ำอีกต่างหากว่า " ห้ามพลาด ห้ามหลับเด็ดขาด " นั่นก็คือช่วงที่ขบวนที่ 75 วิ่งผ่าน สถานีโนนพยอม ผ่านจุดตัดถนนเสมอระดับ แล้วเข้าสู่โค้งขวายาว ๆ จากนั้นก็จะผ่าน สะพานข้ามลำน้ำพอง ผมยังจำบรรยากาศวันที่ลงพื้นที่ที่นั่นได้ดี นับว่าเป็นอีก 1 วันที่เหนื่อยและร้อนมาก ๆ เลยครับ

ใน Clip ที่อยู่ข้างล่างนี้จะเริ่มเก็บภาพตั้งแต่ช่วงที่ขบวนที่ 75 วิ่งผ่านจุดตัดถนนเสมอระดับทางด้านทิศเหนือของ สถานีโนนพยอม เรื่อยไปจนถึงช่วงที่ขบวนรถวิ่งผ่าน สะพานข้ามลำน้ำพอง Clip นี้เป็น Clip สุดท้ายที่ถ่ายเอาไว้ในตอนที่อยู่บนขบวนที่ 75 แล้วครับ

Screenshot Click here~!



ภาพและรายละเอียดเกี่ยวกับ สะพานข้ามลำน้ำพอง สามารถรับชมเพิ่มเติมได้จากกระทู้ สะพานข้ามแม่น้ำชี / สถานีโนนพยอม และสะพานข้ามลำน้ำพอง
_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

จาก สะพานข้ามลำน้ำพอง ขบวนที่ 75 ก็วิ่งผ่าน ที่หยุดรถบ้านวังชัย แล้วเข้าหยุดรับ - ส่งผู้โดยสารที่ สถานีน้ำพอง จากนั้นก็จะวิ่งผ่าน สถานีห้วยเสียว และ สถานีเขาสวนกวาง ไป ในตอนนั้นพระอาทิตย์ก็เริ่มคล้อยต่ำลงทุกที ๆ แสงอาทิตย์ก็เริ่มเปลี่ยนไป แต่ผู้โดยสารที่อยู่ใน กซม.ป.2107 ก็ยังคงบางตาเช่นเดิม คุณพี่ผู้หญิง 2 คนที่นั่งอยู่ที่ที่นั่งใกล้ ๆ ประตู กำลังรอลงจากขบวนรถที่ สถานีโนนสะอาด ที่เป็นสถานีต่อไปที่ขบวนที่ 75 จะเข้าหยุดรับ - ส่งผู้โดยสารครับ




ออกไปข้างนอก ไปยืนดูพระอาทิตย์ตกบ้างดีกว่า ในตอนนั้นขบวนที่ 75 ออกจาก สถานีห้วยเกิ้ง ไปแล้ว ถ้าจะระบุตำแหน่งที่แน่นอนก็น่าจะเป็นบริเวณกิโลเมตรที่ 525 - 526 ครับ




ยังไม่ทันได้ทำอะไรเลย นี่ก็จะหมดไป 1 วันแล้ว วันเวลามันผ่านไปเร็วจริง ๆ


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

ในช่วงเย็นวันนั้นขบวนที่ 75 เข้าหยุดรับ - ส่งผู้โดยสารที่ สถานีกุมภวาปี เวลา 17:55 น. ถึงตอนนี้ก็ช้ากว่ากำหนด 22 นาที เท่าที่สังเกตมีผู้โดยสารที่ซื้อตั๋วโดยสารอัตราพิเศษ ( ไม่คิดค่าธรรมเนียม ) ระหว่าง สถานีขอนแก่น - สถานีอุดรธานี ( สถานีหนองคาย ) มานั่งอยู่ในกซข.1115 หลายคนบรรยากาศภายในรถคันสุดท้ายของขบวนก็เลยไม่เงียบเหงาอย่างที่ผ่าน ๆ มาครับ



สถานีกุมภวาปี ในเส้นทางสายตะวันออกเฉียงเหนือ ( ปลายทาง สถานีหนองคาย )
เป็นสถานีระดับที่ 3 อักษรย่อ วป. รหัสสถานี 2186
ตั้งอยู่ใน ตำบลพันดอน อำเภอกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี
ระยะทางจาก สถานีกรุงเทพ 532.50 กิโลเมตร
ระบบสัญญาณที่ใช้ : ใช้ป้ายเขตสถานี ง. *

* อ้างอิงจาก file station_northeast.pdf ที่ download มาจาก http://portal.rotfaithai.com


รูปนี้เป็นรูปสุดท้ายที่ผมถ่ายเอาไว้เมื่อตอนที่อยู่บนขบวนที่ 75 ครับ 18:00 น. พอดี มองไม่เห็นพระอาทิตย์แล้ว นั่นก็หมายความว่าหลังจากนี้ไปคงไม่มีแสงมากพอที่จะให้ถ่ายรูปออกมาได้ชัดแล้วล่ะครับ



ตอนนี้งานหลักที่ต้องทำก็เปลี่ยนจากการตั้งหน้าตั้งตารอให้ถ่าย Clip / รูปภาพบรรยากาศข้างทาง มาเป็นคอยสังเกตการณ์บริเวณที่ต้องลงพื้นที่ในวันรุ่งขึ้น ซึ่งก็คือที่ สถานีห้วยสามพาด และ สะพานข้ามลำห้วยสามพาด ครับ

และแล้วเวลานั้นก็มาถึง 18:04 น. เป็นเวลาที่ขบวนที่ 75 วิ่งผ่าน สะพานข้ามลำห้วยสามพาด ที่อยู่ทางด้านทิศใต้ของ สถานีห้วยสามพาด ( ระยะทางประมาณ 820 เมตร ) อย่างที่เคยบอกไปว่าผมเองก็ไม่ได้เดินทางผ่านมาในเส้นทางนี้บ่อยนัก พอจะจำได้อยู่ว่ามีสะพานโครงเหล็กแห่งหนึ่งอยู่ไม่ไกลจาก สถานีห้วยสามพาด พอที่จะเดินไปสำรวจ และเดินกลับมาที่สถานีโดยที่ใช้เวลาไม่มาก แผนการเดินทางที่แปะเอาไว้ให้พี่ ๆ น้อง ๆ ได้ดูในตอนต้น จึงเผื่อเวลาอยู่ลงพื้นที่ที่นี่เอาไว้เพียงแค่ 1 ชั่วโมง 6 นาทีเท่านั้น แต่เป็นเพราะขนาดและรูปแบบโครงสร้างของ สะพานข้ามลำห้วยสามพาด ก็ทำให้พวกเราเริ่มมีความคิดที่อยากจะเปลี่ยนแผนการเดินทางที่ได้วางเอาไว้ทันที ลองนึกย้อนกลับไปตลอดเส้นทางจาก สถานีชุมทางบัวใหญ่ - สถานีห้วยสามพาด ก็ยังมี สะพานข้ามลำห้วยเสียว และ สะพานโครงเหล็กที่อยู่ไม่ไกลจาก สถานีเขาสวนกวาง เท่านั้น ที่น่าสนใจ สุดท้ายก็เลยคิดเปลี่ยนแผนมาลงพื้นที่ที่ สถานีห้วยเสียว และ สะพานข้ามลำห้วยเสียว แทน ตั้งแต่ตอนที่ขบวนที่ 75 ยังไม่ถึงปลายทางเลยครับ
_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

ในช่วงเย็นวันนั้น ขบวนที่ 75 มาถึง สถานีอุดรธานี ซึ่งเป็นสถานีปลายทาง เมื่อเวลา 18:27 น. ช้ากว่ากำหนดเวลา 17 นาที มีผู้โดยสารหลายคนทั้งนั่ง ทั้งยืนอยู่บริเวณชานชาลาหน้าอาคารสถานี ผมก็เลยต้องเดินออกมาเก็บภาพไกลสักหน่อย มาที่ สถานีอุดรธานี กี่ครั้ง ก็ได้เห็นผู้โดยสารกลุ่มใหญ่รอขึ้น ขบวนรถด่วนที่ 78 ต้นทางสถานีอุดรธานี - ปลายทางสถานีกรุงเทพ ทุกครั้งเลย




ย้ายตำแหน่งมาตั้งกล้องที่บริเวณชานชาลาที่อยู่ระหว่างรางที่ 2 - 3 บ้าง จากมุมนี้ จะเห็นบชส. ของ ขบวนรถเร็วที่ 134 ต้นทางสถานีหนองคาย - ปลายทางสถานีกรุงเทพ จอดอยู่ในรางที่ 3 กล่องสัมภาระที่วางกองอยู่บนชานชาลาก็รอขนย้ายขึ้นไปบนบพห. ของขบวนที่ 134 เช่นกัน ส่วนชุดรถของขบวนที่ 75 / 78 ก็ยังคงอยู่ระหว่างการทำความสะอาดบนขบวนรถอยู่ครับ



ภาพและรายละเอียดเกี่ยวกับ สถานีอุดรธานี สามารถรับชมเพิ่มเติมได้จากกระทู้ สถานีรถไฟอุดรธานีในวันฟ้าใส ๆ

สถานีอุดรธานี ในเส้นทางสายตะวันออกเฉียงเหนือ ( ปลายทาง สถานีหนองคาย )
เป็นสถานีระดับที่ 1 อักษรย่อ รด. รหัสสถานี 2195
ตั้งอยู่ใน ตำบลหมากแข้ง อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี
ระยะทางจาก สถานีกรุงเทพ 568.84 กิโลเมตร
ระบบสัญญาณที่ใช้ : ประแจกลสายลวดพร้อมสัญญสณหางปลาชนิดมีเสาเข้าเขตใน เสาออก ไม่มีสัญญาณเตือน ก.4 *

* อ้างอิงจาก file station_northeast.pdf ที่ download มาจาก http://portal.rotfaithai.com
_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

ครั้งสุดท้ายที่ผมมายืนอยู่ที่นี่ก็คือช่วงเดือนตุลาคมปี 2550 ตอนนั้นจำได้ว่าพื้นที่ฝั่งตรงข้ามกับ สถานีอุดรธานี ยังเป็นที่ว่างธรรมดา แต่ตอนนี้กลายเป็นร้านค้า ถ้าผมจำไม่ผิดเขาเรียกกันว่า UD บาซาร์ หรือยังไงเนี่ยล่ะครับ . . .




จากนั้นผมกับน้องนัทก็นั่งมอเตอร์ไซค์รับจ้างหน้า สถานีอุดรธานี ไปที่โรงแรมประชาพาเลสที่ผมเคยใช้เป็นที่พักทุกครั้งที่แวะมาเที่ยวที่อุดรธานี แต่ทางโรงแรมบอกว่าคืนนั้นห้องเต็ม เฮ้อ . . . ผมต้องเดินไปถามคุณพี่คนขับรถสกายแล๊ปที่จอดอยู่หน้าโรงแรมให้พาไปที่โรงแรมพาราไดซ์ ที่อยู่ไกลจากโรงแรมเดิมที่ผมเคยพักพอสมควร แถมผมยังไม่เคยผ่านไปแถว ๆ นั้นเลยสักครั้ง ยังโชคดีอยู่บ้างที่สามารถคลำหาทางกลับมาที่ สถานีอุดรธานี ได้ทันก่อนที่ขบวนที่ 70 จะมาถึง

19:24 น. เห็นไฟ HeadLight ของรถจักรที่ทำขบวนที่ 70 ส่องมาแต่ไกล


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

ในคืนนั้น ขบวนรถด่วนที่ 70 ต้นทางสถานีหนองคาย - ปลายทางสถานีกรุงเทพ ได้รถจักรดีเซลไฟฟ้า General Electric ( GEA. ) หมายเลข 4553 ทำขบวนครับ ( เจอกันอีกแล้ว 4553 . . . )




ย้ายมาส่องอีกด้านหนึ่งของขบวนรถบ้าง ตอนนี้เจ้าหน้าที่กำลังขนสัมภาระขึ้นไปบนบพห. ครับ


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

ในคืนนั้น ขบวนรถด่วนที่ 70 ต้นทางสถานีหนองคาย - ปลายทางสถานีกรุงเทพ จอดรับ - ส่งผู้โดยสารที่ สถานีอุดรธานี ประมาณ 5 นาที แล้วก็ทำขบวนออกเดินทางต่อ ช่วงที่ขบวนที่ 70 กำลังเคลื่อนขบวนออกไป ผมใช้กล้อง Olympus ถ่ายเป็น Clip เอาไว้ ภาพเคลื่อนไหวที่ได้จากกล้องตัวนี้จะชัดกว่าที่ได้จาก DSC-W17 ครับ แต่ข้อเสีย ( มาก ๆ ) ก็คือ Clip นี้ไม่มีเสียง . . . ไม่รู้จะทำยังไงดี ในคู่มือ ( ภาษาอังกฤษ ) ก็ไม่มีบอกเอาไว้อีก . . .



และเนื่องจาก Clip นี้มีขนาดเกิน 100MB ผมก็เลยต้องไปฝากเอาไว้ใน Youtube แทน หากต้องการรับชม ก็ Click ไปตาม Link ที่นี้เลยครับ -> Youtube.com
_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

หลังจากยืนดูขบวนที่ 70 เคลื่อนขบวนออกจาก สถานีอุดรธานี ไปแล้ว ผมกับน้องนัทก็ไปนั่งกินข้าวครับ ตอนแรกก็คิดว่าเผื่อเวลาเอาไว้ดีแล้ว แต่กว่าดีเซลมื้อเย็นที่สั่งไปจะมาเสิร์ฟที่โต๊ะก็ใช้เวลานานกว่าที่คิดเอาไว้มาก ( แถมยังไม่อร่อยอีกต่างหาก ) ผมยังกินไม่เสร็จเลย ขบวนรถเร็วที่ 134 ต้นทางสถานีหนองคาย - ปลายทางสถานีกรุงเทพ ก็เข้ามาถึง สถานีอุดรธานี ซะแล้ว

กว่าผมจะเดินกลับมาถึงที่สถานี รถจักรดีเซลไฟฟ้า Alsthom ( ALS. ) หมายเลข 4140 ที่ทำขบวนที่ 134 มาก็เตรียมลากบชส. ที่จอดรออยู่ในรางที่ 3 เข้าพ่วงรวมกับชุดรถที่ลากมาจาก สถานีหนองคาย แล้วครับ


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

หลังจากที่ ALS.4140 เปลี่ยนมาใช้เครื่องยนต์ MTU. นี่เป็นการพบกันครั้งที่ 2 ครับ ครั้งแรกได้เจอกันตอนที่ผมกับพี่อ้นพาเด็ก ๆ ขึ้น ขบวนรถด่วนที่ 51 ต้นทางสถานีกรุงเทพ - ปลายทางสถานีเชียงใหม่ เมื่อช่วงเดือนตุลาคม ปี 2551ตามที่ได้นำเสนอไปแล้วในกระทู้ แบกเป้ตะลอนขึ้นเหนือพานั่งรถไฟดูวิว - ลุยขึ้นเขาค้อ Clip ที่ถ่ายได้ในตอนนั้นไม่ได้ยินเสียงเครื่องยนต์ของรถจักรเลย เวลาผ่านไปจนกระทั่งผมได้มีโอกาสเจอกับรถจักรคันนี้อีกครั้ง ก็ขอแก้ตัวอีกสักครั้ง แต่เนื้อที่ใน Memory Stick ของ DSC-W17 มีเหลืออยู่ไม่มาก ผิดกับ Olympus ที่ยังสามารถถ่าย Clip ได้อีกเป็นสิบ ๆ นาที แต่ Clip ที่ถ่ายได้นั้น ดันไม่มีเสียงซะนี่ ( เฮ้อ . . . ) สุดท้ายก็เลยต้องพึ่งพาอาวุธชิ้นสุดท้าย ซึ่งก็คือ Nokia 5320 ถึงแม้ภาพที่อยู่ใน Clip จะไม่ชัดเจนเท่ากับกล้อง Digital ทั้ง 2 ตัวที่ผมใช้งานอยู่ แต่ว่าสถานการณ์ในตอนนั้นไม่มีทางเลือกอื่นจริง ๆ ครับ

Clip แรกเป็นภาพขณะที่ ALS. 4140 ลากบพห. และบชส. ที่จอดอยู่ในรางที่ 3 ออกมา


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.