SUMMER (?) TRIP 2009 : ล่องใต้ปะทะฝนหลงฤดู

[ExtendeD]

ขบวนที่ 169 ไม่หยุดรับ - ส่งผู้โดยสารที่ สถานีนาสาร ครับ ก็เลยวิ่งผ่านไปด้วยความรวดเร็ว ถึงแม้ว่าในใจผมคิดว่ายังไง ๆ ก็ช้าไม่น้อยกว่า 60 นาทีอยู่แล้ว แต่ตอนนี้ขบวนที่ 169 ล่าช้ากว่ากำหนดเวลาประมาณ 150+ นาที มันเยอะกว่าที่คิดเอาไว้อีกนะเนี่ย ผมน่ะยังไงก็ได้เพราะเผื่อเวลาเอาไว้พอสมควร แต่ผู้โดยสารคนอื่น ๆ ล่ะ . . . สงสัยที่บุคคลผู้หนึ่งเคยพูดเอาไว้ว่า " รถจักรอารมณ์ดี ผู้โดยสารอารมณ์เสีย " จะเป็นจริงซะแล้ว . . .




แล้วขบวนที่ 169 ก็วิ่งผ่าน สถานีพรุพี ไปเมื่อเวลา 06:23 น. ในรางที่ 3 มีบซล. จอดอยู่หลายคันเลยครับ



สถานีพรุพี ในเส้นทางสายใต้
เป็นสถานีระดับที่ 4 อักษรย่อ พพ. รหัสสถานี 4253
ตั้งอยู่ในพื้นที่ ตำบลพรุพี อำเภอบ้านนาสาร จังหวัดสุราษฎร์ธานี
ระยะทางจาก สถานีกรุงเทพ 700.03 กิโลเมตร

* อ้างอิงจาก file station_south.pdf ที่ download มาจาก http://portal.rotfaithai.com
_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

2 รูปข้างล่างนี้เป็นภาพบรรยากาศยามเช้าในเส้นทางระหว่าง สถานีพรุพี - ที่หยุดรถคลองสูญ ครับ




มองออกนอกหน้าต่างตอนนี้ข้างนอกมีแต่หมอก มากน้อยต่างกันแล้วแต่สถานที่ครับ


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

หลังจากวิ่งผ่าน สถานีพรุพี มาประมาณ 6 นาที ขบวนที่ 169 ก็มาถึง สถานีบ้านส้อง แต่ไม่ได้หยุดรับ - ส่งผู้โดยสารที่นี่ครับ ผ่านไปแบบยาว ๆ เลย . . .




มาถึงที่ สถานีบ้านส้อง แล้ว ก็ต้องเห็น บขต. กับกองยิปซั่ม เหมือนเป็นของคู่กันครับ



สถานีบ้านส้อง ในเส้นทางสายใต้
เป็นสถานีระดับที่ 2 อักษรย่อ บส. รหัสสถานี 4255
ตั้งอยู่ในพื้นที่ ตำบลบ้านส้อง อำเภอเวียงสระ จังหวัดสุราษฎร์ธานี
ระยะทางจาก สถานีกรุงเทพ 708.73 กิโลเมตร

* อ้างอิงจาก file station_south.pdf ที่ download มาจาก http://portal.rotfaithai.com
_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

รูปข้างล่างนี้เป็นช่วงที่ขบวนที่ 169 กำลังวิ่งผ่านโค้งซ้ายทางด้านทิศใต้ของ สถานีบ้านส้อง เสาสัญญาณหางปลาที่เห็นอยู่ใกล้ ๆ กับ GEA.4555 นั้นเป็นเสาสัญญาณเข้าของขบวนรถขาเข้ากรุงเทพครับ




อีกสักโค้งแล้วกันครับ โค้งซ้ายที่เห็นอยู่นี้อยู่ไม่ไกลจาก สถานีบ้านพรุกระแซง ครับ ที่นี่หมอกลงหนากว่าแถว ๆ สถานีบ้านส้อง อีกครับ


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

ตอนนี้ขบวนที่ 169 กำลังอยู่ในเส้นทางระหว่าง สถานีบ้านพรุกระแซง - สถานีห้วยปริก ครับ




หมอกลงหนามากเลยทีเดียว เห็นแบบนี้ก็อดคิดไม่ได้ว่าถ้าไปถึงที่ สถานีฉวาง แล้วยังมีหมอกลงหนาแบบนี้ คงทำให้นึกถึงตอนที่ไปเดินดูสะพานที่ปากน้ำโพ เมื่อช่วงงานวันเด็กเมื่อปี 2551 ครับ บรรยากาศแบบเดียวกันเลย แตกต่างกันแค่สถานที่ . . .




ผู้โดยสารโปรดทราบที่นี่ สถานีกระเบียด ขบวนที่ 169 ก็ยังคงวิ่งฝ่าสายหมอกหนา ๆ ต่อไป . . .


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

พอผ่าน สถานีกระเบียด มา หมอกก็เริ่มจางลง




แล้วก็กลับมามองเห็นได้ชัดขึ้นอีกครั้ง ตอนที่ขบวนที่ 169 วิ่งผ่าน สถานีกระเบียด มาได้สักระยะหนึ่งครับ จะเอายังไงกันแน่เนี่ย ปรับอารมณ์ไม่ทัน . . .


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

06:50 น. ขบวนที่ 169 ก็มาหยุดรับ - ส่งผู้โดยสารที่ สถานีทานพอ ซึ่งเป็นสถานีสุดท้ายก่อนที่ผมกับเจ้าตี๋จะไปถึงจุดหมายแห่งแรกที่ สถานีฉวาง ครับ




มองย้อนกลับไปทางท้ายขบวน ทัศนวิสัยไม่ค่อยดี มองไปได้ไม่ไกลเท่าไหร่ครับ แต่บรรยากาศสุดยอด . . .



สถานีทานพอ ในเส้นทางสายใต้
เป็นสถานีระดับที่ 3 อักษรย่อ ทา. รหัสสถานี 4261
ตั้งอยู่ในพื้นที่ ตำบลไม้เรียง อำเภอฉวาง จังหวัดนครศรีธรรมราช
ระยะทางจาก สถานีกรุงเทพ 732.66 กิโลเมตร

* อ้างอิงจาก file station_south.pdf ที่ download มาจาก http://portal.rotfaithai.com
_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[tuie]

เข้ามาช่วยกด F5 เอ๊ย! เข้ามารับชมสายหมอกยามเช้าคร้าบบบบบ

ทางใต้มี "หมอกฝน" เกิดขึ้นบ่อย ส่วนทางเหนือมักจะเป็น "หมอกหนาว" เกิดขึ้นในฤดูหนาว แต่ดูสวยงามน่มนวลไม่แพ้กันเลยครับ

กลับจากสวิสฯมาจะ ๗ เดือนแล้วยังลงไปได้ไม่เท่าไร แต่อย่างไรจะลัดคิวมาช่วยเสริมท้าย "มหากาพย์" เรื่องนี้ครับ

อนึ่ง สำหรับทริปของชาวคณะบ้านทรายทองนั้น ถ้านับถึงทริปล่าสุดก็มี ๔ ภาคแล้ว

ภาคแรก ทริปตามหาพจมาน ณ บ้านทรายทอง-นาชะอัง-ห้วยสัก(ชายน้อยย่องตกชานชาลา)

ภาคสอง ทริปตามหาพจมาน-หนีรถไฟที่ขุนตาน

ภาคสาม ทริปตามหาเจ้านครจันทึก (ทริปลับ-ไม่คับอุรา)

ภาคสี่ ทริปตามหาหม่อมป้า(ต.) ณ สะพานแคบนาสาร

ฝากข้อมูลไว้เผื่อใครจนำไปะลงในเอ็นไซโคปิเดีย(ตายทั้งกลม) เล่มละ ๙๙ บาท น่ะครับ

น่ากลัวจริงๆ น่ากลัวจริงๆ
_________________
นสน.าย./อ.ตุ้ย/อ.หลวงอัคคีเทพอาณัติ/
http//:www.facebook.com/VISIT-RAILWAY-MUSEUMS-1521959098131925/

[ExtendeD]

ออกจาก สถานีทานพอ ไป ก็ยังคงมีหมอกปกคลุมอยู่ทั่วไป ผมเองก็พยายามลุ้นอยากให้มีหมอกปกคลุมเป็นบริเวณกว้าง ให้ไปถึง สถานีฉวาง เลยจะเป็นการดีมากเลยล่ะครับ นาน ๆ จะได้สัมผัสบรรยากาศแบบนี้สักที




เวลาผ่านไปประมาณ 5 นาทีขบวนที่ 169 ก็มาถึง " โค้งนี้ที่รอคอย " ที่นี่คือโค้งซ้ายที่อยู่ทางด้านทิศเหนือของ สถานีฉวาง หมอกลงหนาจนมองไม่เห็น สะพานข้ามแม่น้ำฉวาง ที่อยู่ข้างหน้าเลยครับ แบบนี้ล่ะ ชอบ . . .


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

และแล้วในที่สุดการเดินทางอันแสนยาวนานกับ ขบวนรถเร็วที่ 169 ต้นทางสถานีกรุงเทพ - ปลายทางสถานียะลา สู่ สถานีฉวาง ของผมกับเจ้าตี๋ ก็สิ้นสุดลง เมื่อ GEA.4555 ทำขบวนที่ 169 จอดเทียบชานชาลาหน้าอาคาร สถานีฉวาง เมื่อเวลา 06:59 น. รวมระยะเวลาเดินทางประมาณ 15 ชั่วโมง 24 นาที ช้ากว่ากำหนดเวลา 135 นาที เรื่องรถช้าสำหรับผมไม่ค่อยคิดอะไรมาก เพราะว่าเผื่อเวลาเอาไว้ประมาณ 60 นาที แต่พอรถช้ามากขนาดนี้ก็คงต้องปรับเปลี่ยนแผนนิดหน่อยแล้วล่ะครับ . . .


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.