View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
beer45
1st Class Pass (Air)
Joined: 18/06/2007 Posts: 4249
Location: ประเทศสยาม
|
Posted: 10/04/2009 7:55 am Post subject: |
|
|
เข้ามาติดตามเอ็มด้วยครับ แหม๋ไปไม่ชวนเลยนะ แต่....ถ้าไปด้วยแล้วเป็น กขค....แน่เลย |
|
Back to top |
|
|
CENTENNIAL
1st Class Pass (Air)
Joined: 30/03/2006 Posts: 3642
Location: Thailand
|
Posted: 10/04/2009 9:07 am Post subject: |
|
|
^
ขอบคุณที่ติดตามชมครับ งั้นก็ร่วมเดินทางไปด้วยตั๋วเบ่งเลยครับ
อ้อ พี่เบียร์ครับ ยังไงช่วงปลายเดือนตุลาคม น่าจะเป็นเวลาที่น่าเดินทางไปเป็นที่สุดเลยครับ เพราะคิดว่าสีสันของต้นไม้จะมีเสน่ห์มากๆ เลย
.....................................................................................................
พอเครื่องจอดในหลุมจอดเรียบร้อย ในเวลาประมาณ 11.45 น. ตามเวลาไต้หวัน ซึ่งเร็วกว่าที่บ้านเรา 1 ชั่วโมงครับ โดยเครื่องจะจอดพักที่นี่ 1 ชั่วโมง แล้วจะเดินทางต่อไป
ก็ต้องรอซักพักครับจนกว่าสัญญาณไฟเตือนให้รัดเข็มขัดจะดับลง แล้วแอร์โฮสเตสกับสจ๊วตก็มาประชาสัมพันธ์ในผู้โดยสารทุกคนต้องลงจากเครื่องก่อนครับ ไม่ว่าจะนั่งต่อไปถึงโซลก็ตาม และให้นำสัมภาระลงไปด้วยครับ เพราะอาจสูญหายได้
ก็เท่ากับว่าการมาในครั้งนี้ ผมได้เหยียบแผ่นดินไต้หวันเพิ่มมาอีกประเทศนึงครับ แล้วเจ้าหน้าที่ก็แจ้งให้เข้าไปนั่งรอในห้องรอการโดยสาร B6 (ผมจำไม่ได้ครับว่าเค้ามีชื่อเรียกเป็นภาษาอังกฤษหรือไม่ อย่างไร)
มาเบื่อก็ตอนที่ต้องมานั่งรอเวลานี่ล่ะครับ จะเดินไปซื้อของ หรือดูโน่นดูนี่ ก็ปรากฏว่าเจอร้านค้า DUTY FREE ที่น่าจะมีไม่เกิน 15 ร้าน กับ ร้านอาหารอีกนิดหน่อย แถมยังไม่ได้แลกเงินสกุล US หรือ ฮ่องกง หรือจีนไต้หวันเลย สุดท้ายก็เลยเปิดคอมแล็ปท็อป งัดเกมส์ CTC มาสับรางรถไฟกันต่อดีกว่า ต้องขอบคุณฟางมากๆ ครับ ที่ได้ EDIT เกมส์นี้ให้ได้เล่นเพลินได้ดีมากๆ
ยังสับรางได้ไม่ถึงไหน ขบวน 13 ยังไม่ทันได้เข้า นว. เลย เวลาก็ผ่านไป 45 นาทีแล้วครับ พนักงานก็เรียกขึ้นเครื่องแล้ว ซึ่งจริงๆ แล้วเค้าเรียกขึ้นตั้งแต่ 15 นาทีที่ผ่านมาแล้ว แต่ผมไม่อยากขึ้นไปนั่งแกร่วๆ บนเครื่อง ก็เลยเล่นต่ออีกหน่อย
พอขึ้นไปนั่งประจำที่นั่ง 33K เรียบร้อย ปรากฏว่าที่นั่งด้านข้างอีก 2 ที่นั่ง ยังว่างเหมือนตอนที่มาจากกรุงเทพ 555+ เท่ากับว่า งานนี้จ่าย 1 แต่ได้ 3 ที่นั่งครับ จะนอนยาวก็ไม่มีใครว่า แต่ผมก็ไม่ได้ง่วงขนาดนั้นซะหน่อย แล้วพอได้เวลาประมาณ 12.45 น. ตามเวลาไต้หวัน เครื่องก็เริ่มเคลื่อนตัวออกมาจากหลุมจอด เตรียมตัวทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า มุ่งหน้าไปยังสนามบินอินชอนต่อไป ดีใจจริงๆ จะได้นั่งเครื่องบินขึ้นอีกครั้งแล้วครับ
เครื่องบินจะใช้เวลาบินในช่วงที่ 2 จากไทเป ไป โซล ประมาณ 2 ชั่วโมง 25 นาที ครับ ไม่นานเท่าไหร่ |
|
Back to top |
|
|
donatt76
1st Class Pass (Air)
Joined: 03/09/2006 Posts: 2587
Location: บางนา สุวรรณภูมิครับ
|
Posted: 10/04/2009 10:04 am Post subject: |
|
|
ผู้กองเอ็มงานยุ่งขนาดนี้...ยังสละเวลามาพาเราเที่ยวอีก...ขอบพระคุณอย่างสูงครับ
ชี้แจงเรื่องแอร์นิดนึง...ถ้า Flight VIA ที่ผู้กองเดินทางแบบนี้ แอร์รุ่นก่อตั้งไม่ค่อยมีหรอกครับ...เพราะต้องจัดเครื่อง 2 รอบ เหนื่อยกว่าปกติ!
รอดูต่อครับ....
อ้อ...เป็นกำลังใจให้ครับ ช่วงนี้านหนักหน่อย สู้สู้ครับผู้กอง _________________
|
|
Back to top |
|
|
CENTENNIAL
1st Class Pass (Air)
Joined: 30/03/2006 Posts: 3642
Location: Thailand
|
Posted: 10/04/2009 10:45 am Post subject: |
|
|
^
ผมเดินทางไปในช่วงเวลาก่อนที่เหตุการณ์การเมืองจะเข้มข้นมากครับคุณโดนัท ก็ถือว่าโชคดีจริงๆ ที่เลือกวันเวลาได้พอดี แล้วก็กลับมาทำงานในช่วงเวลาที่เค้ากำลังต้องการกำลังพลเลย ก็ไม่เสียงานครับ แล้วยังถือว่าไปชาร์จไฟมาอย่างเต็มที่ด้วย
..............................................................................................
แล้วผมก็ได้นั่งเครื่องบินขึ้นอีกรอบแล้วครับ ชอบจริงๆ พร้อมกับอวยพรให้เจ้าเครื่องยนต์โรลสรอยทั้ง 2 คู่ นี้ ให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ อย่าเกเร อย่าอู้
พอเครื่องบินได้ระดับเพดานบินระดับสูงได้ไม่นาน แอร์โฮสเตสสาวสวยคนเดิมก็มาเสริฟอาหารอีกรอบ คราวนี้ได้ทานข้าวผัดกับกับข้าวแล้วครับ แต่ว่าอาหารมื้อตะกี้ยังอิ่มอยู่เลย แต่ก็ไม่อยากเสียสิทธิครับ กินข้าวไปเถอะ ไม่ต้องกลัวอ้วนแล้ว เพราะไปถึงที่โน่นอาจจะหากินอาหารสไตล์แบบนี้ได้ยากแน่ๆ
เป็นข้าวกับเนื้อผัดซอสแบบเละๆ ครับ ก็พอทานได้ครับ แม้ในใจจะคิดถึงปลาช่อนนึ่งแจ่วที่บ้านมะขามมากกว่าก็ตาม |
|
Back to top |
|
|
CENTENNIAL
1st Class Pass (Air)
Joined: 30/03/2006 Posts: 3642
Location: Thailand
|
Posted: 10/04/2009 3:33 pm Post subject: |
|
|
หลังจากรับประทานอาหารกลางวันกลางอากาศด้วยความเร็วประมาณ 800 กม./ชม. ซึ่งเร็วกว่าการนั่งรับประทานอาหารบนรถด่วนพิเศษแดวูบ้านเราประมาณ 7-8 เท่า เรียบร้อย ผมก็งัดกล้องมาถ่ายภาพท้องฟ้าในมุมมองผ่านกระจกเครื่องบินอีกครั้ง ท้องฟ้าในเส้นทางการบินช่วงนี้ นับว่าปลอดโปร่งกว่าช่วงแรกมากๆ สามารถมองลงไปเห็นเกาะเจจู ของเกาหลีเลย แม้ว่าเครื่องบินจะบินด้วยเพดานบินสูงถึง 10 กม. ก็ตาม เหตุที่ผมรู้ว่าเป็นเกาะเจจู เพราะผมจำลักษณะรูปร่างของเกาะได้ จากการอ่านหนังสือและดูเว็ปไซต์ต่างๆ ได้ครับ และแนวเส้นทางการบินก็น่าจะผ่านด้วย และผมก็คาดการณ์ไม่ผิดจริงๆ เพราะจากจอภาพแสดงแผนที่เส้นทางการบิน ได้ฉายภาพว่าตอนนี้เครื่องบินได้เข้าสู่เขตน่านฟ้าเกาหลี เหนือเกาะเจจูพอดีเลย ดีใจจัง ใกล้จะถึงแล้ว
แต่ในภาพข้างบนนั้น มองไม่เห็นเกาะเจจูหรอกครับ อย่าได้พยายามเพ่งดูหล่ะ เพราะเมฆหมอกปกคลุมพื้นแผ่นดินข้างล่างหนาเกินกว่าโฟกัสของกล้องจะทำงานได้ครับ
ต่อมาขณะที่กำลังพยายามถ่ายภาพพื้นด้านล่าง ปรากฎว่ามีเสียงประกาศว่าห้ามถ่ายภาพเหนือน่านฟ้าเกาหลี ซึ่งทันทีที่เค้าประกาศผมก็เลยต้องเก็บกล้องไป ด้วยความเป็นคนที่เคารพกฎวินัยเสมอครับ และประการสำคัญคือ ตอนนี้เกาหลีทั้งสองกำลังฮึ่มๆ กันอยู่ จึงต้องระวังกันเป็นพิเศษ ในเมื่อเค้าห้ามและเราก็ไม่ใช่คนประเทศเค้าด้วย เกิดเค้าจับได้เอาตัวไปสอบสวนล่ะยุ่งเลย ไหนจะเรื่องความเข้มงวดของ ตม.เกาหลีอีก ฉะนั้นเจียมเนื้อเจียมตัวเถอะครับ เค้ามีกฎอย่างไรก็ทำตามเค้าไปเถอะ แล้วชีวิตจะดีเอง
แล้วเครื่องบิน BOEING 777-200 ไฟลท์ TG 634 ก็ลงสู่สนามบินอินชอน อย่างนิ่มนวลด้วยฝีมือกัปตันอำนาจ (ไม่บอกนามสกุล) ผมคิดไปเองครับว่า กัปตันการบินไทยที่นักบินเป็นคนไทย นำเครื่องบินลงนิ่มนวลมากๆ
หลังจากเครื่องจอดในหลุมจอดเรียบร้อยซึ่งอาคารโดยสารนี้เป็นส่วน A ซึ่งไม่ได้อยู่ติดกับอาคารหลัก ก็นั่งรถไฟใต้ดินในสนามบินไปอีกทีครับ 555+ ไฮโซ จริงๆ ขนาดสนามบินยังอุตส่าห์มีรถไฟใต้ดิน แล้วก็จะถึงปราการสำคัญที่สุดสำหรับนักท่องเที่ยวไทยที่จะเดินทางมาเกาหลีแล้ว นั่นคือ ด่านตรวจคนเข้าเมืองนั่นเอง หรือ ตม. นั่นเอง
สมาชิกหลายคนน่าจะเคยได้ยินกิตติศัพท์ของเจ้าหน้าที่ ตม.เกาหลีนะครับว่า เข้มงวดกับคนไทยมากเพียงใด หากเป็นผู้ชาย พี่แกก็อาจจะสันนิษฐานก่อนว่า เข้ามาเป็นแรงงานเถื่อน ส่วนผู้หญิงก็อาจจะสันนิษฐานก่อนว่า เข้ามาทำงานบริการกลางคืน ส่วนจะใช่หรือไม่ ก็จะพิจารณาอีกที แต่ผมก็ไม่ได้หวาดหวั่นในเรื่องนี้เลย ผมเดินทางมาในครั้งนี้ แม้จะมาเองเพียงลำพังก็ตาม แต่ผมก็มีเอกสารยืนยันเที่ยวบินที่จะกลับ เอกสารยืนยันเรื่องที่พัก เอกสารยืนยันถึงอาชีพที่มั่นคงในเมืองไทย มีเบอร์โทรศัพท์และที่อยู่ของเพื่อนที่เป็นชาวเกาหลีและพร้อมจะออกตัวยืนยันถึงอาชีพของผมในเมืองไทยได้ และผมก็พอจะพูดภาษาอังกฤษได้ แม้จะไม่ออกสำเนียงถึงเสี้ยวของคุณนิน่าในรายการช่อง 3 ตอนเย็นก็ตาม ผมจึงมั่นใจว่าผมไม่มีปัญหาเรื่อง ตม.แน่นอน
แล้วก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ ครับ แม้พาสปอร์ตผมจะสะอาดมากก็ตาม แต่ เจ้าหน้าที่ ตม.เกาหลีก็ใช้เวลาในการพิจารณาตัวผมประมาณ 5 วินาที ก็ได้นำพาสปอร์ตไปสแกนและประทับตรา admit แล้วยื่นคืนพาสปอร์ตให้ผม เป็นการเสร็จสิ้นการพิจารณาโดยไม่ถามอะไรซักคำ ซึ่งถือได้ว่า ผมได้เข้าสู่เกาหลีเกือบสมบูรณ์เต็มร้อยแล้วครับ
จากนั้นก็ไปรอรับกระเป๋าซึ่งก็โชคดีครับที่กระเป๋าผมแทบจะมาในชุดแรกๆ แรกเลยไม่ต้องรอนาน รับกระเป๋าแล้ว รอผ่านด้านสุดท้ายคือ Custom หรือ ศุลกากร ซึ่งก็ไม่มีปัญหาอะไรครับ เพราะผมไม่ได้นำสิ่งของต้องห้ามเข้ามา พร้อมจะให้ตรวจค้นได้อยู่แล้ว ถ้าเค้าสงสัยหรืออยากจะสุ่มตรวจ
แล้วก็ได้ออกมาถึงในส่วนพื้นที่ทั่วไปของอาคารสนามบินอินชอนแล้วครับ
มองผ่านไปยังเคาท์เตอร์แลกเงินของธนาคารเกาหลี ได้เรทดีกว่าธนาคารในไทยมากมายเลย แต่ก็ไม่ดีไม่กว่าเรทที่ผมแลกมาจากร้านรับแลกเงิน ก็เลยไม่คิดจะเข้าไปแลกเพิ่มอีก เพราะเท่าที่เตรียมมาเกือบๆ 1 ล้านวอน ก็น่าจะเพียงพอแล้ว สำหรับค่าที่พัก อาหาร ค่าเดินทาง ค่าตั๋วนั่งรถไฟเล่น และอื่นๆ จิปาถะ
ไปรอขึ้นรถบัสลีมูซีน สาย 6011 เพื่อจะเข้าที่พักในกรุงโซล ดีกว่าครับ |
|
Back to top |
|
|
Rakpong
President
Joined: 29/03/2006 Posts: 1716
Location: แคว้นโบราณ ด่านเจดีย์ มณีเมืองกาญจน์ สะพานข้ามแม่น้ำแคว แหล่งแร่น้ำตก
|
Posted: 10/04/2009 6:11 pm Post subject: |
|
|
ฮ่าฮ่า พกตังค์ไปเที่ยวเกาหลี หลักล้านเชียวนะครับ ผู้กอง
สมัยที่ผมไปนักศึกษา เคยไปประชุมนักศึกษาแพทย์แห่งเอเชีย ที่เกาหลี ตอนนั้นไปกับสายการบินเดลต้าแอร์ไลน์ของอเมริกา ซึ่งแวะพักที่สนามบินเจียงไคเช็ค ที่ไทเปเหมือนกัน ตอนนี้เลิกบินแล้ว ( เจ๊งไปหรือยังก็ไม่รู้ ) การบินไทยเลยบินแทน
ตอนนั้นบินไปลงสนามบินคิมโป ซึ่งเป็นสนามบินเก่าเหมือนดอนเมืองของเรา เจอพายุก่อนลง เสียอ้วกแตกอ้วกแตนกันทั้งลำ ทีเดียว
แต่ทริปนี้ ของผู้กองท้องฟ้า่แจ่มใส และมีความสุขมาก ๆ ใช่ไหมครับ |
|
Back to top |
|
|
CENTENNIAL
1st Class Pass (Air)
Joined: 30/03/2006 Posts: 3642
Location: Thailand
|
Posted: 10/04/2009 9:09 pm Post subject: |
|
|
^
ล้านวอนก็จริงครับพี่หมอ แต่ตอนเอาเงินไทยไปแลกหรือถ้าจะแลกกลับมาเป็นเงินไทยก็ยังไม่สามารถเอาเงินนี้ไปซื้อโทรศัพท์มือถือบางรุ่นได้เลยเลยครับ
ทริปนี้นับว่ามีความสุขสมหวังดีหลายประการครับ โดยเฉพาะช่วงที่ไปนั้น ไม่มีเหตุการณ์เหนือความคาดหมายที่หลวงต้องเรียกกำลังพลกลับเข้าที่ตั้งเลย เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ทำให้ผมว้าวุ่นใจที่สุดในทริปนี้แล้ว
เรื่องสภาพอากาศก็ดีเยี่ยมครับ แทบไม่มีอากาศที่ส่งผลให้เครื่องบินต้องสั่นแรงๆ ทั้งขาไปและกลับเลยครับ ไม่เหมือนคราวก่อนที่ผมไป กัปตันไม่กดปล่อยสัญญาณรัดเข็มขัดตลอดทางเลย
..........................................................................................................
ทันทีที่ผมออกมาจากอาคารสนามบิน สู่อากาศภายนอก ผมต้องแทบจะถอยหลังเข้าไปตั้งหลักในอาคารเลยครับ เพราะอากาศข้างนอกมันเย็นมากๆ ยังกับเดินเข้ามาในโรงน้ำแข็งที่ปิดมิดชิด ยังไงยังงั้นเลย ซึ่งเป็นอากาศที่เหนือความคาดหมายไปพอสมควรครับ เพราะผมสอบถามเพื่อนชาวเกาหลีแล้ว เธอก็บอกว่าอากาศเย็นสบาย แต่นี่มันไม่ใช่แล้ว ขนาดตอนนี้แค่ 5 โมงเย็นเอง พระอาทิตย์ยังสูงกว่าพื้นดินตั้งเยอะ ยังกับว่าอากาศข้างนอกมันติดเครื่องปรับอากาศขนาดยักษ์ ตั้งอุณหภูมิเย็นสุดไว้ ส่วนภายในอาคารนั้นเหมือนอากาศภายในห้องแอร์บ้านเราครับ อะไรมันจะหนาวขนาดนี้ แถมผมไม่ได้เตรียมเสื้อหนาวหนา แบบเสื้อโค๊ทมาเลย มีแต่เสื้อแจ็คเก็ต อากาศตอนนี้ทำเอาผาเสด็จชิดขอบไปเลย
แต่ก็ไม่หวั่นครับ เพราะปกติผมชอบความหนาวอยู่แล้ว นี่ถ้าไม่เกรงใจร่างกายจะใส่เสื้อยืดตัวเดียวให้ดู
นั่งไงเจอรถบัสลีมูซีนสนามบิน สาย 6011 แล้ว เตรียมตัวไปขึ้นรถเลยครับ
ผมต้องไปลงที่ป้ายหยุดรถบัสสนามบินอันกุก ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กับวังเคียงบกกุง ในกรุงโซล ตามคำแนะนำของที่พักที่แนะนำไว้ตอนที่ผมจองที่พักกับเค้า ซึ่งกรุงโซลนั้น จะอยู่ห่างจากสนามบินอินชอน ประมาณ 60 กม. ไกลกว่าระยะทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ กับ กทม.เป็นเท่าตัวเลยครับ แต่เรื่องระบบการขนส่งจากสนามบินสู่กรุงโซล ผมว่ายอดเยี่ยมกว่าเราในตอนนี้เยอะเลย เอาแค่ระบบรถบัสสนามบิน ระบบถนนมาสนามบิน ก็ดีกว่าแล้วครับ และผมไม่แน่ใจว่ารถไฟ AREX จากกรุงโซลไปสนามบินอินชอนเรียบร้อยหรือยัง แต่ดูแล้วน่าจะยังไม่เรียบร้อยนะ
บ้านเรานั้นปัญหามากมายครับ แท็กซี่ก็สุดยอดแห่งความเห็นแก่ตัว พอเจอคนไทยนั่งแท็กซี่ก็ชักสีหน้าไม่พอใจ ฟันเงินไม่ได้ เพราะคนไทยต้องกดมิเตอร์ ไม่เหมือนชาวต่างชาติที่ใช้เหมาเอาในราคาแพง อย่างไรก็ตาม ถ้ารถไฟแอร์พอร์ตลิงค์บ้านเราเสร็จเรียบร้อยเมื่อไหร่ ก็คงต้องสมน้ำหน้าคนขับแท็กซี่ที่เห็นแก่ตัวทั้งหลายเหล่านั้น
ระบบรถบัสลีมูซีนเค้าบริหารดีมากครับ ถึงเวลาออกตามตารางก็ออกจริงๆ ไม่จอดหวานเย็นแบบรถบัสบ้านเรา ทั้งๆ ที่ผู้โดยสารบนรถก็ยังไม่เต็มคันเลย ชำระเงิน 9,000 วอน เรียบร้อย ก็ไปหาที่นั่งได้ตามสะดวก
ที่นี่ขับรถชิดขวามือนะครับ ไม่ได้ชิดซ้ายแบบบ้านเรา ตอนผมไปเกาหลีครั้งแรก มีหลายครั้งที่ผมพยายามจะเปิดประตูคนขับรถให้ได้ ตอนเดินขึ้นรถบัส บ้าจริงๆ
ถนนหนทางบ้านเค้าค่อนข้างเรียบ แทบไม่มีรอยปะ หรือหลุมแบบบ้านเราเลย
ภายในรถไม่ต้องเปิดแอร์ครับ ถึงกระนั้นอากาศก็ยังเย็นสบาย จนถึงหนาว จนทำให้ผมอดขำไม่ได้ว่า รถเมล์ ขสมก แบบรถร้อนบ้านเรา ถ้าเอามาแล่นที่นี่ มันก็คงกลายเป็น รถเมล์หนาวแข็งตายแน่ๆ |
|
Back to top |
|
|
CENTENNIAL
1st Class Pass (Air)
Joined: 30/03/2006 Posts: 3642
Location: Thailand
|
Posted: 10/04/2009 9:36 pm Post subject: |
|
|
ช่วงระยะทางประมาณ 5-10 กิโลเมตร แรก เราจะอยู่บนเกาะนะครับ ประมาณว่าสนามบินอินชอนที่เป็นสนามบินใหม่นี้ มาสร้างที่เกาะแห่งนี้โดยเฉพาะเลย ทำให้มีเนื่อที่กว้างขวางมองไปด้านนอก สีของต้นไม้ดูแห้งแล้งพอสมควรเลย เพราะเพิ่งจะหลุดจากฤดูหนาวได้ไม่นาน ถ้าผมมาช้ากว่านี้ซัก 1 เดือน ซึ่งจะเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ ก็น่าจะเห็นสีเขียวมากกว่านี้แน่ๆ
แต่เห็นว่าแล้งๆ แบบนี้ ไม่ได้แล้งแล้วอากาศร้อนแบบบ้านเรานะ แต่เป็นแล้งแบบหนาวจับใจเลยล่ะครับ ยิ่งถ้ามีลมพัดมาด้วยแล้ว ก็แทบจะต้องซุกในอ้อมกอดของสาวเลย เอ๊ะยังไงกัน
แล้วสิ่งที่ผมพยายามสังเกตก็ปรากฏแก่สายตาแล้วครับ นั่นคือทางรถไฟ AREX หรือรถไฟด่วนสนามบินอินชอน - สนามบินกิมโป - กรุงโซล ของเกาหลี ผมมองเห็นเส้นทางรถไฟสายนี้ตั้งแต่คราวที่ไปครั้งก่อนแล้ว และนั่นคือตัวจุดประกายที่ทำให้ผมสนใจอยากจะมานั่งรถไฟเกาหลีเลยครับ คราวนั้นผมมองสอดส่องสายตาจะดูรถไฟ AREX จะถายภาพรถไฟมาให้ได้
แต่คราวนี้ ผมไม่ง้อแล้วครับ เพราะผมมีเวลาเหลือเฟือที่จะสำรวจรถไฟเกาหลีทั้งหลาย แต่ก็ถ่ายภาพเป็นที่ระลึกซักภาพก็แล้วกัน
มองเห็นรถไฟ AREX แล่นผ่านเป็นระยะๆ แต่เท่าที่มองเข้าไปภายในรถ ผมเห็นแต่ทหารม้าอยู่ในรถทั้งขบวนเลยนะครับ ไม่เห็นมีคนนั่งซักคนเลย |
|
Back to top |
|
|
CENTENNIAL
1st Class Pass (Air)
Joined: 30/03/2006 Posts: 3642
Location: Thailand
|
Posted: 10/04/2009 9:57 pm Post subject: |
|
|
อย่างผมที่บอกไว้ข้างบนครับว่า สนามบินอินชอนตั้งอยู่บนเกาะ ดังนั้นการจะเดินทางไปยังกรุงโซลซึ่งอยู่บนแผ่นดินคาบสมุทรเกาหลี ก็ต้องมีการข้ามทะเลไปครับ
ตอนนี้รถกำลังแล่นอยู่บนสะพานข้ามเกาะอยู่ ส่วนทางรถไฟ AREX ก็ไม่รู้ว่าหายไปไหนแล้วครับ คาดว่าน่าจะอยู่ด้านล่างของสะพานนี้นะ
หลังจากนั้น รถบัสลีมูซีนก็แล่นมาตามถนนเรื่อยๆ ด้วยความเร็วจำกัด ซึ่งผมไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเท่าไหร่ แต่น่าจะไม่เกิน 100 กม./ชม. ครับ และถ้าขับเร็วเกินก็ไม่จำเป็นต้องรอให้ตำรวจทางหลวงมายิงกล้องจับแบบบ้านเราเลยครับ แต่กล้องตรวจจับความเร็วที่มีเป็นระยะๆ จะเป็นตัวตรวจจับความเร็วโดยอัตโนมัติ ไฮเทคใช้ได้เลย
และแล้วผมก็ได้เห็นสภาพบ้านเมือง ที่แสดงความเป็นตัวตนของเกาหลีแล้วครับนั่นคือ
สภาพบ้านเมือง ที่จะเห็นอาคารเป็นตึกแท่งๆ หลายๆ ตึกเรียงรายติดกันครับ ซึ่งตึกแท่งๆ ที่เห็นนั้น คือ ตึกอพาร์ตเมนต์หรือจะเรียกว่าตึกคอนโดมิเนียมก็ได้ น่าแปลกใจเหมือนที่เกาหลีนิยมสร้างอาคารอพาร์ตเมนต์มากๆ และสร้างแต่ละโครงการก็มีเป็นจำนวนหลายสิบอาคาร บางโครงการมีอพาร์ตเมนต์เป็นร้อยๆ แท่ง เลยก็มีครับ แถมแต่ละหลังก็มีความสูงประมาณ 20-30 ชั้นเลยทีเดียว
ตรงจุดนี้ต่างกับบ้านเรามากๆ ครับ เพราะบ้านเรานิยมสร้างบ้านทาวเฮาส์หรือไม่ก็บ้านเป็นหลังๆ มากกว่าที่จะสร้างคอนโดมิเนียมหรืออพาร์ตเมนต์แบบเป็นแท่งๆ หลายๆ แท่งแบบนี้
จะว่า บ้านเมืองเค้ามีพื้นที่จำกัดก็อาจเป็นไปได้ จึงต้องใช้พื้นที่ให้คุ้มค่ามากที่สุด การสร้างบ้านเป็นหลังๆ คงจะมีการเก็บภาษีมหาศาลเลยก็เป็นได้ |
|
Back to top |
|
|
coach
VIP Member
Joined: 08/12/2007 Posts: 110
Location: หัวลำโพง
|
Posted: 10/04/2009 10:14 pm Post subject: |
|
|
ละเอียดมากเลยครับหลับตามองเห็นภาพเลย รอต่อครับ..... |
|
Back to top |
|
|
|