View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
conrail
1st Class Pass (Air)
Joined: 28/03/2006 Posts: 1271
Location: Bangplad , Bangkok
|
Posted: 09/08/2006 1:26 pm Post subject: ความแตกต่างของหม้อเพลาที่ใช้ในรถสินค้า 4 ล้อ |
|
|
ช่วงนี้ค่อนข้างจะยุ่งกับงานพอสมควร เลยไม่ค่อยจะได้ลงอะไรมากนัก พอดีมองเห็นรูปที่เคยได้ถ่ายเอาไว้ เลยขอเอามาลงไว้ให้อ่านเล่นๆกันครับ โดยในคราวนี้จะว่ากันด้วยเรื่องของหม้อเพลาที่ใช้กับรถสินค้ากัน ซึ่งแบ่งมาเพียงบางส่วน ดังนี้ครับ
หม้อเพลาแบบกาบเพลาเรียบ ( Plain Bearing )
ทำจากเหล็กเหนียวหล่อ โดยปกติแล้วจะไม่แตก หรือสึกหรอง่ายนอกจากถูกกระแทกอย่างรุนแรง เช่น รถตกราง
หม้อเพลาแบบกาบเพลาเรียบนี้ต้องปิดฝาหม้อเพลาให้สนิท เพื่อไม่ให้ฝุ่นละออง หรือ สิ่งสกปรกเข้าไปภายใน ซึ่งจะทำให้น้ำมันหล่อลื่นสกปรก ทำให้การดูดซึมขึ้นไปหล่อลื่นที่คอเพลาไม่สะดวก เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหารถเพลาร้อนได้
โดยปกติ จะทำการเปลี่ยนน้ำมันเพลาในทุกๆ 4 เดือน
หมายเหตุ.....ที่จริงก็ไม่อยากจะกล่าวนัก แต่คิดไปคิดมาแล้วอยากจะให้ทราบถึงความแตกต่างและความผิดพลาดที่เกี่ยวกับการคาดรอยมาร์คที่ล้อกันครับ โปรดสังเกตรอยคาดสีขาวที่ล้อของรูปนี้ไว้นะครับ
Last edited by conrail on 09/08/2006 1:45 pm; edited 1 time in total |
|
Back to top |
|
|
conrail
1st Class Pass (Air)
Joined: 28/03/2006 Posts: 1271
Location: Bangplad , Bangkok
|
Posted: 09/08/2006 1:42 pm Post subject: |
|
|
หม้อเพลาแบบตลับลูกกลิ้ง ( Roller Bearing )
ในส่วนของหม้อเพลาแบบตลับลูกกลิ้งที่ใช้งานกับรถสินค้า 4 ล้อนั้นมีวาระการตรวจน้อยกว่าแบบกาบเพลาเรียบ อุปกรณ์จะประกอบกันอยู่ภายในและอัดไว้แน่นสนิท จาระบีที่อัดไว้ภายในไม่มีโอกาสรั่วออกมาได้ แต่จะต้องระวังให้ฝาเกลียวที่ปิดหม้อเพลานั้นปิดแน่นสนิท
อย่างไรก็ตาม จะต้องมีการตรวจความร้อนเช่นเดียวกัน โดยใช้มือแตะที่ตัวหม้อเพลา ถ้าหากพบว่ามีความร้อนผิดปกติแล้วจะต้องตรวจจาระบีหล่อลื่น และชุดตลับลูกกลิ้งภายในที่อาจจะแตกหรือ เลื่อนหลุดออกจากที่ได้ ซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดเพลาร้อนได้เช่นกัน..
หมายเหตุ.....โปรดสังเกตรอยคาดล้อจากรูปนี้ด้วยครับ |
|
Back to top |
|
|
conrail
1st Class Pass (Air)
Joined: 28/03/2006 Posts: 1271
Location: Bangplad , Bangkok
|
Posted: 09/08/2006 1:52 pm Post subject: |
|
|
พอที่จะทราบเกี่ยวกับเรื่องของหม้อเพลาไปกันแล้ว ทีนี้ย้อนกลับมาเรื่องของรอยคาดที่ล้อกันครับ
พอจะมีใครทราบกันบ้างไหมครับว่าผมต้องการให้สังเกตถึงอะไร... ?? |
|
Back to top |
|
|
Derail
3rd Class Pass
Joined: 03/07/2006 Posts: 69
|
Posted: 09/08/2006 3:43 pm Post subject: |
|
|
Quote: | มีการตรวจความร้อนเช่นเดียวกัน โดยใช้มือแตะที่ตัวหม้อเพลา |
ไม่เสี่ยงเกินไปหน่อยหรือครับ ผมคิดว่าน่าจะใช้เครื่องวัดอุณหภูมิด้วยแสง Infrared จะปลอดภัยกว่านะครับ
รอยมาร์คที่ล้อในรูปแรกมาร์คบนล้อแบบชิ้นเดียว(ไม่จำเป็น) แต่ในรูปที่ 2 นั้นรอยมาร์คจำเป็นเนื่องจากว่าใช้ในการตรวจสอบความแน่นหนาของปลอกล้อที่รัดอยู่บนแว่นล้อ (หลุดออกมาเมื่อไหร่ก็ converse(ทางใครทางมัน) นะครับ หยึย ) _________________ ร.ฟ.ท: ตื่นเต้นสุดขีด |
|
Back to top |
|
|
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
Joined: 04/07/2006 Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร
|
Posted: 09/08/2006 4:45 pm Post subject: |
|
|
จำได้ว่าเคยดูสารคดีทางช่อง 9 เรื่องเกี่ยวกับรถไฟความเร็วสูง ที่ประสบอุบัติเหตุตกรางแล้วไปกระแทกกับตอม่อสะพาน overpass เหตุการณ์น่ากลัวมากครับ
รถไฟความเร็วสูงขบวนที่ประสบอุบัติเหตุใช้ล้อแบบมีปลอกด้วยครับ ถ้าจำไม่ผิดในสารคดีบอกว่าหลังจากสืบพบสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุ เขาก็เลยเปลี่ยนไปใช้ล้อแบบไม่มีปลอกครับ เพราะปลอกของล้อด้านนอกตอนเกิดอุบัติเหตุแตกแล้วก็ทิ่มขึ้นมาบนตัวรถด้วยครับ _________________ Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.
|
|
Back to top |
|
|
nathapong
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 3515
Location: Ayuthaya - Lamlukka - Navanakhon - Silom
|
Posted: 09/08/2006 5:48 pm Post subject: |
|
|
ExtendeD wrote: | จำได้ว่าเคยดูสารคดีทางช่อง 9 เรื่องเกี่ยวกับรถไฟความเร็วสูง ที่ประสบอุบัติเหตุตกรางแล้วไปกระแทกกับตอม่อสะพาน overpass เหตุการณ์น่ากลัวมากครับ
รถไฟความเร็วสูงขบวนที่ประสบอุบัติเหตุใช้ล้อแบบมีปลอกด้วยครับ ถ้าจำไม่ผิดในสารคดีบอกว่าหลังจากสืบพบสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุ เขาก็เลยเปลี่ยนไปใช้ล้อแบบไม่มีปลอกครับ เพราะปลอกของล้อด้านนอกตอนเกิดอุบัติเหตุแตกแล้วก็ทิ่มขึ้นมาบนตัวรถด้วยครับ |
คงอดใจรอสักพักตอนนี้ ซีรี่ย์ เรื่องรถไฟความเร็วสูง ประมาณ 18 -19 ตอน
ที่อยู่ระหว่างการตรวจทาน ต้นฉบับ
หากผ่านความเห็นชอบของคณะที่ปรึกษา คงจะนำมาทยอยลงให้อ่านกัน
อาจจะเป็นประโยชน์ไม่มากไม่น้อย ต่อสมาชิกและผู้สนใจ
ในเรื่องรถไฟ และเทคโนโลยี ใหม่ๆ มากยิ่งขึ้นครับ
แต่อย่างไรก็ตาม คงฝากให้พี่ๆน้องๆ คิดกัน
นอกจาก ในเรื่องปัจจัยแวดล้อมในเรื่องของเงินทุน
หากมีการนำเทคโนโลยีใหม่ๆเข้ามาใช้
การสร้างนวตกรรม การสร้างทุนทางความคิดในทรัพย์กรมนุษย์
รวมถึงการมีจิตสำนึกที่จะปกป้องสิ่งแวดล้อม
คิดว่าบ้านเราพร้อมที่จะรับสิ่งเหล่านี้ และพร้อมเผชิญหน้า ในเรื่องนี้หรือยัง ?
อ่า นอกเรื่องในกระทู้ไปอีกแล้ว ขออภัยครับ |
|
Back to top |
|
|
conrail
1st Class Pass (Air)
Joined: 28/03/2006 Posts: 1271
Location: Bangplad , Bangkok
|
Posted: 09/08/2006 11:14 pm Post subject: |
|
|
Derail wrote: | ไม่เสี่ยงเกินไปหน่อยหรือครับ ผมคิดว่าน่าจะใช้เครื่องวัดอุณหภูมิด้วยแสง Infrared จะปลอดภัยกว่านะครับ
รอยมาร์คที่ล้อในรูปแรกมาร์คบนล้อแบบชิ้นเดียว(ไม่จำเป็น) แต่ในรูปที่ 2 นั้นรอยมาร์คจำเป็นเนื่องจากว่าใช้ในการตรวจสอบความแน่นหนาของปลอกล้อที่รัดอยู่บนแว่นล้อ (หลุดออกมาเมื่อไหร่ก็ converse(ทางใครทางมัน) นะครับ หยึย ) |
เทคโนโลยีในประเทศที่ทันสมัยแล้ว การใช้เครื่องมือในการตรวจสอบเป็นสิ่งที่ปกติในการทำงาน แต่ในประเทศที่กำลังพัฒนา หรือ ยังไม่มีความพร้อมในปัจจัยหลายๆอย่างนั้น บางครั้งก็จำเป็นที่จะต้องอาศัยประสาทสัมผัสในการตรวจสอบ ยกตัวอย่างในกรณีนี้นั้น ถ้าสมมุติว่ามีปัญหาเพลาร้อนเกิดขึ้นจริง ความร้อนที่เกิดขึ้นมานั้นจะมีไอความร้อนลอยออกมาจากหม้อเพลาจนสามารถรับรู้ได้โดยที่มือแทบจะไม่ต้องไปจับเลยครับ และอาจจะมีควันเกิดขึ้นตามมาด้วย เพียงแค่นี้ก็ใช้เป็นสิ่งประกอบการตัดสินใจได้แล้ว และปัญหานี้อาจจะเกิดขึ้นที่ไหนก็ได้ตามรายทาง การตรวจสอบเบื้องต้นโดยที่ปราศจากเครื่องมือในระหว่างทางก็ต้องใช้แบบนี้ล่ะครับ ส่วนถ้าจะมีเงินหาซื้อเครื่องวัดอุณหภูมิด้วยแสงอินฟราเรดมาใช้ตามแต่ละแห่งแล้วก็ดีครับ แต่ปัญหามันอยู่ที่ปัจจัยนี่สิครับ
สำหรับคำตอบเรื่องรอยมาร์คที่ล้อนั้นถูกต้องครับ เพียงแต่ยังสลับกันอยู่ครับ
รอยมาร์คที่ล้อในรูปแรกนั้นถูกต้องแล้ว โดยเป็นการทาสีขาวคาดระหว่าง ปลอกล้อ และ แว่นล้อ รอยสีขาวที่ทาอยู่ ที่เรามองเห็นในรูปนั้นเป็นส่วนของปลอกล้อครับ ถัดเข้าไปด้านในนั้นคือ ส่วนของแว่นล้อ ในรูปเราอาจจะมองไม่ค่อยเห็นเพราะก้ามปู ( Axle Guard ) บังเอาไว้
ส่วนรอยมาร์คของรูปที่สองนั้น อันที่จริงแล้วไม่จำเป็นต้องทาเอาไว้ เพราะนี่เป็น ล้อรีดทึบ เป็นล้อชิ้นเดียวที่สวมใส่กับเพลาโดยตรงเลย น่าจะเป็นความผิดพลาดของลูกจ้างที่ทามาร์คนี้มากกว่าครับ ส่วนที่เห็นเป็นรอยนั้นเป็นเพียงร่องเล็กๆที่ขอบของล้อครับ ไม่ได้แบ่งออกจากกัน |
|
Back to top |
|
|
pitch
2nd Class Pass
Joined: 14/07/2006 Posts: 694
Location: วังนารายณ์คู่บ้าน ศาลพระกาฬคู่เมือง ปรางค์สามยอดลือเรื่อง เมืองแห่งดินสอพอง แผ่นดินทองสมด็จพระนารายณ
|
Posted: 10/08/2006 7:01 pm Post subject: |
|
|
ดีจังครับ...ชอบจังกระทู้ดีไมสาระ ก็รู้เรื่องแคร่รถสินค้าก็ได้ข้อมูลดีๆจากคุณก้อง คราวนี้ได้รู้เรื่องเพลาล้อรถสี่ล้ออีก
คราวหน้าถ้ามีเวลาขอแคร่รถโดยสารนะครับ...... |
|
Back to top |
|
|
conrail
1st Class Pass (Air)
Joined: 28/03/2006 Posts: 1271
Location: Bangplad , Bangkok
|
Posted: 10/08/2006 8:21 pm Post subject: |
|
|
ขอบคุณครับที่ยังมีคนติดตามเรื่องน่าปวดหัวแบบนี้
เมื่อกล่าวมาถึงเรื่อง ล้อ เลยขอ recover ในส่วนที่เกี่ยวกับเรื่องของรอยมาร์คและความแตกต่างของล้อรีดทึบ / ล้อมีปลอก อีกทีก็แล้วกันครับ เคยกล่าวไปแล้วก่อนที่จะปิดเว็บปรับปรุง ลองมาสังเกตความแตกต่างกันครับ.....
เริ่มจาก ล้อมีปลอกซึ่งจำเป็นที่จะต้องคาดรอยมาร์คสีขาวให้เป็นที่สังเกตได้ง่ายว่ามีการเคลื่อนตัวกันหรือไม่ระหว่างปลอกล้อและแว่นล้อ การทานั้นจะทาในส่วนที่เป็นปลอกล้อและส่วนที่เป็นแว่นล้อ โดยทาให้เป็นแนวเดียวกัน ถ้ามีอาการปลอกล้อหลวมแล้ว รอยมาร์คนี้จะเคลื่อนตัวออก ไม่อยู่ในตำแหน่งเดียวกัน ล้อส่วนใหญ่ที่ใช้ในบ้านเราตอนนี้จะเป็นล้อมีปลอกครับ แต่ก็ยังมีล้อรีดทึบใช้งานอยู่เช่นกัน
ถ้าพวกเราพบเห็นรอยมาร์คนี้เคลื่อนที่ออก จะเป็นการดีที่จะแจ้งให้พนักงาน ณ ที่นั้นทราบเพื่อป้องกันเหตุอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นครับ ถือว่าเป็นการช่วยเหลือการรถไฟในทางอ้อมแม้ว่าเราจะไม่ได้ทำงานนี้ก็ตาม
|
|
Back to top |
|
|
conrail
1st Class Pass (Air)
Joined: 28/03/2006 Posts: 1271
Location: Bangplad , Bangkok
|
Posted: 10/08/2006 8:39 pm Post subject: |
|
|
ส่วนอันนี้เป็น ล้อรีดทึบ แม้ว่าล้อรีดทึบนั้นจะมีการดูแลที่น้อยกว่าและปลอดภัยกว่า แต่ก็มีราคาสูงกว่าตามไปด้วย ดังนั้นเมื่อใช้งานสึกจนถึงพิกัดเลิกใช้งานแล้ว เราจะทำการกลึงให้เป็นแว่นล้อและนำเอาปลอกล้อมาสวมใส่ กลายเป็นล้อมีปลอกต่อไป เป็นการประหยัดและนำทรัพยากรกลับมาใช้ใหม่
ล้อรีดทึบของรถบตญ.
ล้อรีดทึบของรถบทข.
|
|
Back to top |
|
|
|