ปัญหาที่จะเกิดในอนาคตของ ARL !!!

Wisarut · Posted: 13/05/2010 5:13 pm Post subject:

'แอร์พอร์ตลิงค์'ติดปัญหาสารพัด
ออนไลน์ เมื่อ วันอังคารที่ 11 พฤษภาคม 2010 เวลา 09:31 น.
โดย กอง บก.ฐานเศรษฐกิจ
หน้า อสังหา Real Estate
พิมพ์ ใน หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 2,530 13-15 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

แผนเปิดบริการแอร์พอร์ตลิงค์เชิงพาณิชย์เดือนสิงหาคมยังแขวนอยู่บนเส้นดาย คาดเปิดได้แค่ทดสอบไปก่อน แจงมาจากหลายสาเหตุทั้งตั้งบริษัทลูกยังไม่คืบ แถมไม่มีเงินหมุนเวียน ตั้งท่าของบจากครม. 2,000 ล้าน เป็นทุนช่วงปีแรก ยังไม่มีวี่แววว่าได้รับมอบพื้นที่จากผู้รับเหมาเมื่อไร ชี้หลังได้พื้นที่ต้องใช้เวลาอีก 3 เดือนทดสอบจริง การเชื่อมเส้นทางกับบีทีเอสยังไม่เสร็จ ด้านผู้ว่าการ ร.ฟ.ท. ระบุเปิดบริการปีแรกขาดทุนแน่ 1.4 พันล้าน

แหล่งข่าวระดับสูงจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ตามนโยบายของนายโสภณ ซารัมย์ รมว.กระทรวงคมนาคมที่ผลักดันให้เปิดบริการโครงการแอร์พอร์ตลิงค์ในเชิงพาณิชย์ ภายในเดือนสิงหาคมนี้ว่า ไม่มีความพร้อมในการเปิดบริการอย่างแน่นอน เนื่องจากยังติดปัญหาหลายประการ ไล่ตั้งแต่การตั้งบริษัทลูกในนาม บริษัทรถไฟฟ้า ร.ฟ.ท.จำกัด ที่ขณะนี้เป็นเพียงการยื่นจดทะเบียนหนังสือบริคณห์สนธิเท่านั้นยังต้องผ่านอีกหลายขั้นตอนทั้งการร่างระเบียบ การแต่งตั้งบอร์ด โครงสร้างการบริหารภายใน และที่สำคัญเรื่องเงินทุนซึ่งเป็นปัญหาใหญ่

"คาดเงินทุนเบื้องต้นนั้นจะของบประมาณจากรัฐบาลประมาณ 2,000 ล้านบาท เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินการ สำหรับการเปิดบริการปีแรกก่อนที่บริษัทจะมีรายได้เข้ามา โดยต้องนำเข้าที่ประชุม คณะรัฐมนตรี(ครม.)อนุมัติ ซึ่งต้องใช้เวลาเช่นกัน"

ด้านนายภากร ตั้งเจตสกาว รองผู้ว่าการร.ฟ.ท. กล่าวเสริมว่า ขั้นตอนการจัดตั้งบริษัทลูก ฝ่ายกฎหมายได้ยื่นเรื่องขอจดทะเบียนบริคณห์แล้วอยู่ระหว่างการจัดเตรียมรายละเอียดเพื่อนำเสนอผ่านบอร์ดการรถไฟฯก่อนส่งต่อให้กระทรวงคมนาคมเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีอนุมัติ จากนั้นจะไปยื่นขอจดทะเบียนก่อตั้งบริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด ซึ่งคาดว่าจะเสร็จสิ้นในเดือนพฤษภาคมนี้

พร้อมกันนี้ยังเร่งรัดเรื่องการแต่งตั้งคณะกรรมการบริหาร(บอร์ด)ตามที่ได้ทำหนังสือเรียนเชิญผู้แทนจากหน่วยงานต่าง ๆ อาทิ กระทรวงการคลัง กระทรวงคมนาคม รวมประมาณ 7 คน เพื่อให้มีอำนาจควบคุมการบริหารจัดการ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด ที่เป็นบริษัทลูกพร้อมกับการร่างระเบียบ และกำหนดโครงสร้างเงินเดือนคาดใช้ระยะเวลาดำเนินการคาดว่าประมาณ 1-2 เดือน

"เนื่องจากเป็นการบริหารรูปแบบรัฐวิสาหกิจการดำเนินงานบางขั้นตอนจึงต้องเป็นไปตามกฎหมายทำให้ล่าช้าและไม่คล่องตัว แต่ในฐานะ CEO บริษัทลูกแอร์พอร์ตเรลลิงค์จึงได้เตรียมพร้อมที่จะนำเสนอบิสิเนสแพลนพร้อมขอทุนจดทะเบียนก่อตั้งบริษัทจำนวน 140 ล้านบาทควบคู่ไปกับเรื่องการก่อตั้งบริษัทให้กระทรวงคมนาคมนำเสนอกระทรวงการคลังพิจารณาพร้อมกับขออนุมัติงบประมาณอีกจำนวนหนึ่งสำหรับใช้เป็นทุนบริหารจัดการเดินรถ เพื่อให้สามารถดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้ได้ประชุมซักซ้อมความพร้อมด้านการเดินรถกับผู้เชี่ยวชาญ Deutsche Bahm International(DBI) จากเยอรมนีและยังจัดเตรียมพนักงานที่ได้รับการฝึกอบรมจากสถาบันศศินทร์ฯ รองรับไว้แล้ว ดังนั้นเมื่อทุกขั้นตอนทางกฎหมายพร้อมเมื่อไหร่จะสามารถดำเนินการได้ทันที"

นายภากร ยังกล่าวอีกว่า คาดว่าในเร็ว ๆ นี้การรถไฟฯจะออกใบ TOC(Taking Over Certificate) ให้ผู้รับเหมาเพื่อคืนกรรมสิทธิ์งานก่อสร้างมาให้ ร.ฟ.ท. ก่อนที่จะส่งมอบให้บริษัทลูกเป็นลำดับต่อไป เมื่อได้รับมอบพื้นที่จะต้องใช้เวลาอีกประมาณ 3 เดือนในการทดสอบทุกระบบในนามบริษัทลูกก่อนที่จะส่งมอบงานให้ที่ปรึกษาวิศวกรอิสระ (I.C.E) ออกใบรับรองความปลอดภัยเพื่อยืนยันความพร้อมในการเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ต่อไป ซึ่งตามที่กำหนดไว้นั้นคาดว่าจะเป็นเดือนสิงหาคมปี 2533 นี้ แต่ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับการความรวดเร็วของการออกใบ TOC เป็นเกณฑ์เพราะหากล่าช้าก็จะต้องเลื่อนออกไปอีก

ด้านนายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธาน ร.ฟ.ท. กล่าวว่า ขณะนี้การปฏิบัติการเดินรถได้ทดสอบจนผ่านการทดสอบ 100% แล้ว ส่วนเรื่องระบบซอฟต์แวร์ ระบบสื่อสาร อาณัติสัญญาณต่าง ๆ ได้ผ่านการทดสอบไปแล้วเกือบ 100% เช่น จุดเช็กอินและออกตั๋วโดยสาร เหลือเพียงระบบซอฟต์แวร์ในการโหลดกระเป๋าโดยสารเพื่อเชื่อมต่อกับแต่ละสายการบินเท่านั้นอยู่ในช่วงการทดสอบ ซึ่งในเร็ว ๆ นี้จะทดสอบเป็นระยะๆ อีกครั้ง

ส่วนการเชื่อมต่อทางเดินที่สถานีพญาไทกับบีทีเอส คาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 1-2 เดือนนี้ เช่นเดียวกับสถานีมักกะสันก็อยู่ระหว่างการเตรียมก่อสร้างทางเชื่อมกับสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินเพชรบุรี คาดว่าจะเสร็จสิ้นในไม่ช้าอีกเช่นกัน

ขณะที่นายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการร.ฟ.ท. กล่าวว่า ขณะนี้พร้อมแล้วสำหรับการเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์โดยเฉพาะเรื่องบุคลากรทั้ง 500 คน ได้ถูกป้อนเข้าสู่ระบบทั้งหมดเพื่อศึกษาการทำงานให้เกิดความชำนาญ รอกระบวนการก่อตั้งบริษัทลูกให้แล้วเสร็จเท่านั้น ดังนั้นระยะเวลา 2-3 เดือน ต่อจากนี้ไปจึงเป็นการทำงานในพื้นที่จริงเพียงแต่ไม่เปิดให้บริการในเชิงพาณิชย์เท่านั้น

"ตามแผนธุรกิจที่บริษัทที่ปรึกษาได้นำเสนอคาดว่าจะมีรายได้ช่วงเริ่มต้น 4 ปีจะขาดทุนในปีแรก 1,417 ล้านบาท แต่จะลดลงอย่างต่อเนื่องจนสามารถทำกำไรในปีที่ 5 หลังจากเปิดให้บริการมีจำนวนประมาณ 467 ล้านบาท แต่ยังมีภาระจ่ายคืนหนี้จำนวน 7,035 ล้านบาทที่ผ่อนชำระเป็นรายปีจำนวน 15 งวด งวดละ 633 ล้านบาทเป็นระยะเวลา 15 ปี ซึ่งจะเริ่มจ่ายคืนในปีที่ 5 หลังเปิดให้บริการ

ทั้งนี้ยังได้เพิ่มสัดส่วนของการลงทุนอย่างต่อเนื่องอีกด้วยและคาดว่าภายใน 10 ปีแรกจะมีรายได้ตามทุนจดทะเบียนตามลำดับคือ 2,765 ล้านบาท(ทุน 500 ล้านบาท) 3,265 ล้านบาท(ทุน 1,000 ล้านบาท) 3,765 ล้านบาท(ทุน 1,500 ล้านบาท)และ 4,265 ล้านบาท(ทุน 2,000 ล้านบาท) โดยจะมีการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ในแต่ละสถานีเกิดขึ้นตามมา และยังจะมีโครงข่ายเชื่อมต่อเพื่ออำนวยความสะดวกให้ใช้บริการได้รวดเร็วและมากขึ้นรายได้ก็จะเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย"

nathapong · Posted: 13/05/2010 5:47 pm Post subject:

อะอะ.... จากข่าว
ประเด็นแรก การจัดตั้งบริษัท ฯ ในเบื้องต้น ทางครม มีมติอนุมัติตั้งแต่ปีที่แล้ว ทำไปทำมา กว่าจะตั้งบริษัท ฯ ได้ในเดือน พค ปีนี้...
เกิดอะไรขึ้นหนอ เพราะการจัดตั้งบริษัท ฯ นี้ มีทุนเจดทะเบียนเบื้องต้นหลายสิบล้าน บาทอยู่.... เกิดความขลุกขลัก.... อะไรหนอ

หรือเหมือนกับเรื่องคดีละเมิดที่บุรีรัมย์ ที่ศาลปิดหมายแต่ไม่มีใครเจอหมาย จนเต้องจ่ายไปกตั้งสิบกว่าล้าน.....

การที่ไม่มีการจัดตั้งบริษัท ฯ แล้ว
เลยหายสงสัย ว่า ทำไมการออกใบรับรองของ ICE ถึงออกไม่ได้ ถ้าออกได้ จะออกให้ การรถไฟ หรือบริษัทหละเนี่ย ....

ที่งุนงงต่อไป คือการโอนค่าใช้จ่าย ถึงวันที่ตั้งบริษัท ฯเสร็จ ขอให้บริษัท ฯ นี้ มีบริษัทผู้ตรวจสอบบัญชี มีมาตรฐานเหมือนกับ BTS หรือ MRT หละเด้อ เวลาเปิดอ่านงบ ที่รายงานต่อ กระทรวงพาณิชย์ อาจจะมีเฮฮา ที่อาจจะมีคนร้องหง่าว ๆ ว่ามีงานเข้าที่ ปปช.

เรื่องสุดท้าย จากแผนศึกษาฯ โดยเฉพาะ ผลตอบแทนในด้านการเงิน .... ทำไมตัวเลขจากข่าว ออกมาในแนว "เอ๋อเหรอ" ได้ยังไงหละเนี่ย

ที่สร้างความ งงงัน ถ้า ปฐมบท เป็นแบบนี้ แล้ว เรื่อง สายสีแดง กับคนให้กู้ ชาวญี่ปุ่นจะเฮฮา ขนาดไหนหละเนี่ย กึ๋ย ๆ ๆ Question

Wisarut · Posted: 18/08/2010 10:52 am Post subject:

ทางเข้าออกแอร์พอร์ตลิงก์ ระบบเชื่อมต่อยังไม่เวิร์ก

โดย ทีมข่าวกทม.
ไทยรัฐออนไลน์ 14 สิงหาคม 2553, 05:30 น.

นายชัยรัตน์ สงวนชื่อ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก ในฐานะประธานกรรมการบริษัท รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ จำกัด ซึ่งได้รับแต่งตั้งจากบอร์ดการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้โครงการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์อยู่ระหว่างเปิดให้ประชาชนทดลองใช้บริการฟรี โดยจะเริ่มเก็บค่าโดยสาร วันที่ 23 ส.ค.นี้ แยกเป็นรถไฟฟ้าด่วนพิเศษ ค่าโดยสาร 100 บาท ตลอดสาย หลังสิ้นปีจะเริ่มเก็บ 150 บาทตลอดสาย และรถไฟฟ้าด่วนธรรมดา 15 บาทตลอดสาย หลังสิ้นปีจะเก็บตามระยะทาง 15-45 บาท

สำหรับปริมาณผู้โดยสารในระหว่างทดลองเพิ่มขึ้นตามลำดับ เมื่อเทียบจากช่วงแรกๆที่เปิดทดลองให้บริการ แต่ยังไม่มากพอเมื่อเทียบกับโครงการรถไฟฟ้าบีทีเอส หรือรถไฟฟ้าใต้ดิน เนื่องจากโครงการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ มีปัญหาเรื่องการเข้าออกสถานี และการเชื่อมต่อระบบขนส่งสาธารณะประเภทอื่นๆยังไม่สมบูรณ์ รวมถึงการประชาสัมพันธ์ยังน้อยเกินไป ทำให้ประชาชนบางส่วนยังไม่ทราบรายละเอียดของโครงการจึงไม่กล้าที่จะใช้บริการเท่าที่ควรจะเป็น ขณะนี้ ได้สั่งการให้ขสมก.ปรับเส้นทางรถเมล์ที่วิ่งผ่านสถานีรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ ให้เข้าไปรับส่งผู้โดยสารภายในสถานีด้วย เพื่ออำนวยความสะดวก ให้กับผู้ใช้บริการ

นายชัยรัตน์ กล่าวว่า ในส่วนของบริษัท รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ อยู่ระหว่างดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมาย ส่วนการบริหารงานได้มอบให้สถาบันศศินทร์มาช่วยดูแลชั่วคราว เจ้าหน้าที่บางส่วนได้ขอกำลังจาก รฟท.มาช่วยงานจนกว่าจะคัดเลือกและแต่งตั้งแล้วเสร็จ ขณะนี้การบริหารงานจึงยังไม่สมบูรณ์ ระหว่างที่เปิดให้นั่งฟรีคำติชมยังไม่มาก แต่เมื่อไหร่ที่มีการเก็บค่าโดยสารประชาชนจะเริ่มบ่นมากขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องดีที่จะได้รู้ว่าประชาชนคิดอย่างไร มีจุดบกพร่องอะไรที่จะต้องแก้ไข บริษัทจะได้นำไป ปรับปรุงแก้ไขให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้บริการ

black_express · Posted: 23/08/2010 9:10 am Post subject:

ผมเห็นมีคนบ่นใน pantip.com เรื่อง ARL แล้วก็โดนรุมด่า ตามประสาไทยๆ

http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E9604494/E9604494.html

รู้สึกว่าจะมีชื่อคุ้นๆ ตาหลายคนไปร่วมวงในที่นั่นด้วย Razz

Mongwin · Posted: 23/08/2010 9:29 am Post subject:

เจ้าของกระทู้ท่านถนัดเกี่ยวกับการเดินทางโดยเครื่องบินครับ
อาจจะยังขาดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับระบบของ Airport Link Rolling Eyes

แต่มองในแง่ดีก็ช่วยประชาสัมพันธ์ไปในตัวครับ

black_express · Posted: 23/08/2010 9:39 am Post subject:

เป็นเรื่องปกติของสังคมที่นั่นครับ ขอให้ติไว้ก่อน แต่ข้อเท็จจริงต่างๆ นั้น ไม่ได้ลงลึกเช่นกลุ่มเฉพาะอย่างเราๆ

นั่งรถไม่ตรงประเภทก็บ่น จอดแวะสถานีรายทางก็บ่น ประตูรถปิดดังก็บ่น แถมยังจะเอาราคาค่าโดยสารถูกๆ อีกด้วย

ยังมีการเปรียบเทียบขนาดความกว้างที่นั่งว่าไม่กว้างเหมือน BTS อีกด้วย เอาอะไรมาวัดกันหว่า ? ก็บริษัทผู้ผลิตเดียวกันไม่ใช่หรือ

ท่านสัญญาณหางปลาว่าไงครับ ? Laughing

Wisarut · Posted: 23/08/2010 9:39 am Post subject:

ของผมที่เจอมากะตัวเอง ก็คือ

1. แหกขี้ตามาที่ มักกะสันแต่ตี 5 ครึ่ง กว่าจะขายตั๋ว Airport Express ทำให้ ก็ 6โมง 5 นาที ทำให้ มีคนทำท่าจะพลาด Flight 7โมง ที่จะปิดการ Check In ตอน 6 โมงครึ่ง เนื่องจากต้องขึ้นรถเที่ยว 6 โมง 15 นาที

2. ตอนจะกลับไปที่ Office ลองขึ้น City Line ก็ต้องรอนานทีเดียว ตอนแรก ไม่คิดอะไรมาก แต่พอขึ้น มา ก็ต้องเจอ ผู้โดยสารเข้ามทือง มารอกันที่สถานีรายทางกันมืดฟ้ามัวดิน จนผมคิด ว่า ถ้าพ้น Promotion 15 บาทตลอดสาย แล้วยังแน่นแทบยัดทะนาน ขนาดนี้อีก น่ากลัวว่าถ้าไม่สั่งรถมาเพิ่ม อีกหลายขบวน ก็ต้อง สั่งตู้เพิ่มต่อจาก 1 ขบวน 3 ตู้เป็น 1 ขบวน 6 ตู้

3. ทางลงที่สถานีมักกะสัน ชวนให้งงเอาเรื่องเหมือนกัน กว่าจะหาลงถูก แต่จะให้ถูกต้องดีแท้ รฟม. ควรทำประตู 4 มาที่ สถานีมักกะสันแล้วหละ เพราะ ชักไม่แน่ว่าสร้างสะพานลอยข้ามทางรถไฟ จะรับมือไหว

pattharachai · Posted: 23/08/2010 9:58 am Post subject:

ฮ่าๆ ไม่รู้จะเอารถกว้างแค่ไหน รางก็ทางมาตรฐาน เอาไว้รางกว้างเท่ารถไฟอินเดียก่อนค่อยมาพูดกัน ผมเองก็ไม่เคยไปนั่ง ARL หรอกครับ แต่เชื่อว่าที่ว่ารถแคบนั่นหนะ อุปาทานชัดๆ

ติไว้ก่อนหละครับ บางคนที่นั่น สถานีตั้งใกล้กันก็บ่น

nop2 · Posted: 23/08/2010 10:31 am Post subject:

bigbigtee · 3rd Class Pass Joined: 01/02/2010 Posts: 200