นั่งรถไฟ ไปยลเขื่อน แล้วเยือนเขา (พังเหย)

[Nakhonlampang]

บรรยากาศนิดหน่อยระหว่างเดินทางกลับครับ

ขบวนรถน้ำมันที่โคกคลีครับ ไม่แน่ใจว่าหัวตายหรือเปล่า เพราะเห็นตั้งแต่ตอนนั่ง 433 ผ่านไปรอบหนึ่งแล้ว ตอนที่ 440 ถึงลำนารายณ์ก็มีน้าต้อมเดินตัวเปล่าสวนขึ้นไปด้วย


สะพานโครงขึ้นที่ บ้านจงโก ครับ หลายปีที่ผ่านมา ภาพที่ชินตาของผู้ที่โดยสารรถไฟผ่านไปมาในบริเวณนี้ก็คือซากตู้รถไฟจำนวนมากที่ได้รับความเสียหายจากอุบัติเหตุขบวนรถเร็วที่ 133 ชนประสานงากับขบวนรถสินค้าที่ 2008 เมื่อหลายปีก่อน กองระเกะระกะอยู่ข้างทางด้านทิศใต้ของสะพานแห่งนี้ ซึ่งเมื่อคราวที่ผมไปช่องสำราญครั้งที่แล้วก็ยังเห็นมีซากอยู่ แต่ในวันนี้ซากรถไฟเหล่านั้นไม่ปรากฏต่อสายตาผู้ที่เดินทางผ่านไปมาแล้วครับ ซึ่งผมก็ว่าเป็นสิ่งที่ดี เพราะภาพซากรถไฟที่ปรากฏต่อสายตาผู้โดยสารย่อมไม่เกิดผลดีต่อสภาพจิตใจของผู้ที่ได้เห็นภาพเหล่านั้นอย่างแน่นอนครับ

[Nakhonlampang]

มา update สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนป่าสักอีกรอบครับ น้ำเต็มอ่างสวยงามมากครับ

[Nakhonlampang]

บรรยากาศเหมือนนั่งเรือออกทะเลมากกว่า


ต้องยืนยันว่าอยู่บนรถไฟจริงๆ


ไม่ต้องถ่ายรูปมากครับ เพราะเดี๋ยวอีกไม่กี่วันก็จะมีภาพงามๆ หลั่งไหลมาให้ได้รับชมอีกเป็นจำนวนมาก

จบข่าวเรื่องเขื่อนไปอีกหนึ่งเรื่องล่ะ

[Nakhonlampang]

นั่งรถผ่านทุ่งทานตะวันทั้งทีก็ต้องมีดอกทานตะวันมาฝากบ้างนิดๆหน่อยๆครับ

เท่าที่สังเกตเห็นในวันนั้น ทุ่งทานตะวันที่ออกดอกเป็นแปลงกว้างๆ จะอยู่ทางฝั่งตะวันออกของทางรถไฟเป็นหลักครับ (ฝั่งไม่มี สทล.) ที่จริงผมชอบฝั่งนี้ (พวกเราก็น่าจะชอบด้วย) เพราะเวลาถ่ายภาพก่อนเที่ยง จะสามารถถ่ายภาพดอกทานตะวันโดยมีรถไฟเป็นฉากหลังได้ แต่ภาพที่มองจากบนรถจะไม่สวยเท่านั้นเอง ซึ่งคนส่วนมากก็ไม่ใช่คนบ้ารถไฟซะด้วยสิ ส่วนแปลงฝั่งตะวันตกจะมีพัฒนาการตามหลังมาครับ แต่ผมก็ไม่ทราบว่าจะมีการพาเที่ยวแปลงไหนกันบ้าง

ภาพข้างล่างนี้ผมถ่ายแปลงฝั่งตะวันออก แต่เนื่องจากยังไม่เที่ยง เลยไม่เห็นหน้าดอกทานตะวันแบบเต็มๆครับ เพราะตอกทานตะวันสนใจแต่ดวงตะวัน เลยไม่หันมาแลรถไฟแม้แต่น้อย ส่วนฝั่งตะวันตกถ่ายไม่สะดวกเพราะมีผู้โดยสารมาก และฝั่งตรงข้ามกับผมยังเป็นพระภิกษุ ก็เลยต้องละเว้นไว้ แต่อีกไม่กี่วันคงจะมีภาพสวยๆจากพวกเรามาให้ได้ชมเช่นเคย

[Nakhonlampang]

ขอฝากปิดท้ายจริงๆ สำหรับกระทู้นี้ครับ

ข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อพิจารณาสำหรับคนที่คิดว่าอยากไปชมดอกบัวตองที่สถานีช่องสำราญครับ
ก่อนอื่นต้องทำใจยอมรับก่อนนะครับว่าคงจะไม่ใช่ความงามอลังการแบบทุ่งบัวตองที่มีชื่อเสียง การจะไปชมดอกบัวตองเป็นการเฉพาะคงต้องพิจารณาเองว่าจะคุ้มค่าหรือไม่ แต่ผมก็มีข้อแนะนำการเดินทางเป็นทางเลือกในการพิจารณาครับ โดยขอใช้การเดินทางจากกรุงเทพฯเป็นเกณฑ์หลักนะครับ

ทางเลือกที่ 1 เดินทางด้วยขบวน 143 ไปลงที่สถานีชุมทางแก่งคอย แล้วรอต่อขบวน 433 เพื่อเดินทางต่อไปยังสถานีช่องสำราญ เดินทางกลับด้วยขบวน 434 มาลงที่สถานีชุมทางแก่งคอย แล้วต่อขบวน 146 กลับกรุงเทพฯ
ทางเลือกนี้มีข้อดีคือ สามารถชมทัศนียภาพยามเช้าตรู่ในเส้นทางสายนี้ที่สวยงามมาก ตั้งแต่ออกจากแก่งคอย ผ่านเขื่อนป่าสัก ตลอดจนช่วงไต่ขึ้นเขาพังเหย รวมถึงทิศทางของแสงแดดที่สถานีช่องสำราญซึ่งหันหน้าไปทางทิศตะวันออกรับกับดอกบัวตองพอดี แต่เนื่องจากช่วงเวลาที่มีอยู่มากก่อนที่ขบวน 434 จะมาถึง คงต้องมีกิจกรรมอื่นมาประกอบด้วย อาทิ การเดินไปชมถ้ำเขาพังเหยทางด้านใต้ของสถานี และเนินเดียวดายทางเหนือของสถานี ซึ่งมีเวลามากพอสำหรับทั้งสองกิจกรรมนี้ครับ ข้อเสียของวิธีนี้ก็คงอยู่ที่การรอต่อขบวนรถระหว่าง 143 กับ 433 ที่แก่งคอยเท่านั้นเอง แต่บางทีตรงนี้ก้ไม่ใช่ปัญหาของบางคนครับ

ทางเลือกที่ 2 เดินทางด้วยขบวน 135 หรือ 75 ไปลงที่สถานีชุมทางแก่งคอย รับประทานข้าวหน้าเป็ดให้จุใจ แล้วออกเดินทางต่อด้วยขบวน 439 ไปที่ช่องสำราญ ก่อนเดินทางกลับด้วยขบวน 434 แล้วมาต่อขบวน 146 ที่แก่งคอยเหมือนวิธีแรกครับ วิธีนี้จะใช้เวลาน้อยกว่าวิธีแรก และมีโอกาสชมความงามสองข้างทางรถไฟเช่นเดียวกัน แต่จะมีเวลาสำหรับอยู่ที่ช่องสำราญน้อยลงเหลือเพียงประมาณ 1 ชั่วโมง อาจไม่พอสำหรับกิจกรรมเสริมหากสนุกกับดอกบัวตอง แต่อย่างน้อยทัศนียภาพระหว่างการเดินทางที่มีมากมาย บวกกับข้าวหน้าเป็ดเจ้าอร่อยที่เพิ่มมาก็น่าจะพอทดแทนกันได้นะครับ

ทางเลือกที่ 3 เป็นทางเลือกพิเศษเฉพาะช่วงเทศกาลเที่ยวทุ่งทานตะวันครับ นั่นคือเดินทางด้วยขบวน 921 ไปเที่ยวทุ่งทานตะวัน และแวะชมทางรถไฟลอยน้ำ โดยหลังจากที่ขบวนรถนำเที่ยวกลับมาถึงที่หยุดรถเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์แล้ว ก็ให้สละสิทธิ์รถเที่ยวกลับ แล้วรอการโดยสารกับขบวน 439 ไปช่องสำราญแทน จากนั้นก็จะเหมือนกับทางเลือกที่ 2 ครับ ทางเลือกนี้เป็นทางเลือกที่ได้เที่ยวจุใจที่สุด แต่ค่าใช้จ่ายก็จะมากกว่าวิธีอื่นเพราะต้องโดยสารไปกับขบวนรถนำเที่ยวด้วย แต่ก็คุ้มค่าครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการได้สัมผัสดอกทานตะวันกับดอกบัวตองอย่างใกล้ชิดในทริปเดียว

หวังว่าทุกคนจะมีโอกาสไปสัมผัสความงดงามของธรรมชาติตามวิธีการที่ต้องการและเหมาะสมของแต่ละท่านอย่างมีความสุขทุกคนนะครับ ถ้ามีโอกาสก็อยากให้เลยไปเยี่ยมชมดอกบัวตองที่ช่องสำราญเพื่อเป็นกำลังใจกับเจ้าหน้าที่ของสถานีทุกท่านด้วยครับ

[anusorn]

[PrinceVirus]

อยากไปครับ เห็นภาพแล้วเกิดกิเลส
_________________

[casanotoey]

เสียดาย ถ้า ข 231 กท-รส ยังอยู่ แล้วต่อ ข 439 ที่แก่งคอย ได้นั่งฟรี ตลอดงาน สบายๆ

[Nakhonlampang]

ตอนที่ 3 : เดินเล่นกลางเขื่อน เยือน 164 (21 พฤศจิกายน 2552)

ขอมานำเสนอภาพการไปเที่ยวในเส้นทางรถไฟสายเขื่อนป่าสักอีกสักตอนนะครับ และเนื่องจากสิ่งที่จะมานำเสนอครั้งนี้จะมีมุมมองภาพต่างไปจากการนำเสนอ 2 ครั้งก่อน จึงขอมานำเสนอต่อจากกระทู้เดิม เพื่อรวมรายละเอียดไว้ในที่เดียวกัน

การเดินทางครั้งที่ 3 นี้ ผมเดินทางเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2552 โดยมีจุดหมายปลายทางอยู่ที่เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ แต่ก็ยังมีความประสงค์ในการชมความงามยามเช้าเช่นเคย รูปแบบการเดินทางจึงเป็นเช่นครั้งที่ผ่านมา นั่นคือเดินทางด้วยขบวน 143 เพื่อไปรอขึ้นขบวน 433 ที่ชุมทางแก่งคอย วันนั้นแก่งคอยต้อนรับผมด้วยกระแสลมหนาวที่พัดแรงมาก ซึ่งมีผลดีที่ทำให้ไม่มียุง และทำให้รู้สึกสดชื่นด้วยครับ

เมื่อเริ่มเดินทางด้วยขบวน 433 ภาพข้างล่างนี้ก็จะค่อยๆปรากฏให้เห็นทางฝั่งขวาของขบวนรถซึ่งเป็นทิศตะวันออกครับ

[Nakhonlampang]

ท้องฟ้าค่อยๆสว่างมาเรื่อยๆ จนมาถึงที่หยุดรถเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์แล้ว ก็ยังสว่างไม่เต็มที่นักครับ

ส่งท้ายขบวน 433 วันนี้เป็นหน้าที่ กซข.1038 ออกแรงครับ


ทักทายกับป้ายประเพณีหน่อยครับ