View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
pattharachai
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 6536
Location: ราชอาณาจักรไทย
|
Posted: 03/08/2009 10:59 pm Post subject: |
|
|
ผมเองยังมอง (แบบคนที่ไม่มีความรู้อะไรทางด้านนี้) ว่า การ maintainance ทาง และสะพาน น่าจะทำไปพร้อมกับให้ขบวนรถเดินได้ เพราะเอาเข้าจริง รถที่ผ่านบริเวณดังกล่าวตอนกลางวันแทบจะไม่ค่อยมีนัก |
|
Back to top |
|
|
Air_Reservoir
1st Class Pass (Air)
Joined: 31/03/2006 Posts: 2338
Location: บึงกุ่ม, สุไหงโก-ลก
|
Posted: 04/08/2009 12:22 am Post subject: |
|
|
ผมก็เห็นด้วยกับที่พี่บอยว่า เราน่าจะสามารถซ่อมบำรุงไปพร้อมๆ กับการให้รถวิ่งผ่านได้ (แน่นอนว่าเบาทางสะพานแน่ๆ) เพราะเท่าที่ดู สะพานสามหอกับสะพานสองหอน่าจะเป็นตัวที่ได้รับการปรับปรุงมากกว่าสะพานคอมโพสิต ถ้าเราปิดสะพานจริง ผู้โดยสารที่ต้องการไปเชียงใหม่ซึ่งมีจำนวนไม่น้อยคงได้หนีไปใช้บริการรถทัวร์หรือโลว์คอส อันจะรวมไปถึงเจ้าจำปีซึ่งถึงแม้ว่าจะแพงกว่า แต่ก็คงจะมีคนยอมจ่ายเพื่อความสะดวกสบายแน่ๆ _________________ ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 13 กรุงเทพ - เชียงใหม่, สถานีห้างฉัตร, จังหวัดลำปาง
|
|
Back to top |
|
|
nathapong
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 3515
Location: Ayuthaya - Lamlukka - Navanakhon - Silom
|
Posted: 04/08/2009 1:48 pm Post subject: |
|
|
แวะมาเพิ่มความปวดหัว ให้กระทู้นี้อีก....อ่านะ
อย่างที่แรก เรื่องสะพาน ถ้าซ่อมไปใช้ไป ... ระยะเวลาซ่อม กับวิ่งไป ซ่อมไป กับปิดรื้อ ทีเดียวเลย อะไรจะดีกว่ากัน
เพิ่มข้อมูลอีกนิด ว่าสะพานที่ว่าอยู่ในเขตป่าสงวน และพื้นที่ลุ่มน้ำเกรด A ถ้าไปตั้งแคมป์ ก่อสร้างยาว ๆ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะยอมหรือ
จากตัวอย่าง ที่ขยายทางหลวงเส้น 304 จากกบินทร์ ไปทับลาน มีช่วงนึงที่เกี่ยวกับพื้นที่เขตป่าสงวน เขาใหญ่ ในเขตทับลาน จนถึงวันนี้ยังทำไม่ได้เลย อะนะ
อย่างที่สอง น้ำมันสำเร็จรูปที่มาป้อนให้กลับ คนเมืองเชียงใหม่และลำพูนใช้
เท่ากับว่า ต้องทยอยขน ทางรถยนต์ ผลกระทบตรงนี้ ใครรับ อะอะ
เมื่อต้นทุนเพิ่ม คนรับภาระ... คนใช้หรือคนขาย.. แต่ รฟท เสียรายได้จากการรับขนสินค้ากลุ่มนี้ อะอะ
อย่างที่สาม กรณี จัดรถรับ ผดส ที่ลำพูนกับเชียงใหม่ มีความเห็นน้อย ๆ ดังนี้
3.1 จำนวนรถบัสที่จะใช้ คงคิดที่ 40 ที่ ต่อคัน (รถบัสติดแอร์รุ่นเก่า )
รถบัสรุ่นใหม่ ๆ ส่วนใหญ่ จะ 32 36 ที่เอง...
3.2 กรณี ตั๋วขายวันต่อวัน ที่เพิ่มขึ้น..คงปิดขายก่อนรถออก 4 ชม อะ..
สำหรับที่เชียงใหม่ และัลำพูน เพื่อจัดรถให้พอกับผู้โดยสาร
3.3 กรณี ข.9/12 และ ข.11/10 และ 109 / 112 และ 51/52 จะตัดระยะที่ลำปางเท่านั้น.... |
|
Back to top |
|
|
donatt76
1st Class Pass (Air)
Joined: 03/09/2006 Posts: 2587
Location: บางนา สุวรรณภูมิครับ
|
Posted: 04/08/2009 3:13 pm Post subject: |
|
|
nathapong wrote: | แวะมาเพิ่มความปวดหัว ให้กระทู้นี้อีก....อ่านะ
อย่างที่สาม กรณี จัดรถรับ ผดส ที่ลำพูนกับเชียงใหม่ มีความเห็นน้อย ๆ ดังนี้
3.1 จำนวนรถบัสที่จะใช้ คงคิดที่ 40 ที่ ต่อคัน (รถบัสติดแอร์รุ่นเก่า )
รถบัสรุ่นใหม่ ๆ ส่วนใหญ่ จะ 32 36 ที่เอง...
3.2 กรณี ตั๋วขายวันต่อวัน ที่เพิ่มขึ้น..คงปิดขายก่อนรถออก 4 ชม อะ..
สำหรับที่เชียงใหม่ และัลำพูน เพื่อจัดรถให้พอกับผู้โดยสาร
3.3 กรณี ข.9/12 และ ข.11/10 และ 109 / 112 และ 51/52 จะตัดระยะที่ลำปางเท่านั้น.... |
ตอบป๋าณัฐแบบรวบยอดเลย....แต่ตอบจากล่างขึ้นบน....
ข้อ 3.3 แสดงว่า เหลือขบวนรถที่จะต้องจัดรถเสริม....เพียงแค่ 13/14 กับ 1/2 เท่านั้น...ส่วน 10/11 รถดีเซลรางกลางคืน...ผมเสนอตัดออกจากสารบบไปแล้วนิ (เอาเวลา ขบวน 10 ไปให้ขบวน 1 เดินแทนแล้ว)
ข้อ 3.2 ยังยืนกราน เหมือนเดิมว่า ตั๋วที่เชียงใหม่กับลำพูน ควรปิดล่วงหน้า 1 วัน อย่างช้า 18.00 น. เพื่อสะดวกในการควบคุมปริมาณ รถบัส Tranfer
ข้อ 3.1 Base on รถโค้ช 2 ชั้น 50 ที่นั่ง...กะว่า ต่อเที่ยว จัดรถ 5-6 คัน สำรอง ไว้ 1 คัน...น่าจะเหมาะครับ _________________
|
|
Back to top |
|
|
black_express
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ
|
Posted: 04/08/2009 4:14 pm Post subject: |
|
|
ป๋านัฐก็ช่างสมมุตินะครับ แต่ถ้าทำกันจริงๆ แล้ว จะต้องหาคำตอบทางวิศวกรรมมาแก้โจทย์ตัวนี้ มากกว่าปิดเส้นทางซ่อมสะพานดังกล่าว
ยกเว้นว่า กรณีเกิดอุบัติเหตุทำให้สะพานชำรุดต้องซ่อมสร้างใหม่ คงต้องใช้วิธี transfer by coach ล่ะครับ |
|
Back to top |
|
|
Air_Reservoir
1st Class Pass (Air)
Joined: 31/03/2006 Posts: 2338
Location: บึงกุ่ม, สุไหงโก-ลก
|
Posted: 04/08/2009 5:22 pm Post subject: |
|
|
ในความเห็นผมนะ การที่จะปิดการ Transfer ล่วงหน้า 1 วันผมว่าคงไม่เหมาะนัก มันจะเป็นการเปิดช่องให้กับรถบัสที่ไม่ได้ทำสัญญากับ รฟท. มาหาผลประโยชน์ตรงนี้ได้ ผมแนะว่าเมื่อผู้โดยสารซื้อตั๋วแล้ว (ซึ่งแน่นอนว่าคงขายแค่ลำปางเท่านั้น) ในกรณีไปต่อถึงเชียงใหม่หรือลำพูนนั้น ให้ถามความต้องการของผู้โดยสารและขายตั๋วในส่วนของรถบัสควบไปเลย ซึ่งตรงนี้น่าจะสะท้อนปริมาณความต้องการจริงได้ว่ามีผู้โดยสารกี่คน ใช้รถกี่คัน ซึ่งโดยปกติถ้าเป็นรถนอนปรับอากาศ เช่น ข.1 หรือ ข.13 มักจะขายหมดล่วงหน้าอยู่แล้ว ซึ่งอาจจะให้แจ้งก่อนล่วงหน้า 1 วันหรืออย่างเลวร้ายสุดคือก่อนรถออก 3 - 4 ชั่วโมง ซึ่งตรงนี้การรถไฟเองก็ต้องทำสัญญากันไปเลยว่าจะเช่ากี่วัน คันละเท่าไหร่ก็ว่าไป เผื่อในกรณีที่แต่ละขบวนมีรถเสริมพ่วงเพิ่มขึ้นมา ซึ่งส่วนใหญ่มักจะขายตั๋วในวันเดินทาง (เข้าใจว่าโบกี้เสริม จะทราบและขายตั๋วได้เวลา 09.00 น. ของวันเดินทาง) แต่ในกรณีของรถนั่งปรับอากาศแดวู หรือ รถนั่งพัดลม ที่ปกติเรามักจะไม่ค่อยรู้ยอดที่แท้จริงจนกว่ารถจะออก ก็น่าจะมีรถสำรองไว้ให้บางส่วน เพื่อต่อยอดด้านการโดยสารโดยที่ไม่ต้องให้ไปลำบากหารถไปเชียงใหม่กันเอง
ในส่วนรถดีเซลราง ผมยังยืนยันคงให้มีตามเดิม เพราะจะได้ผู้โดยสารจากรายทาง หรือสถานีที่รถด่วนพิเศษ ทั้ง 1 และ 13 ไม่จอด ซึ่งเวลาในการเดินทางก็อยู่ในระดับที่ยังเหมาะสม เพียงแต่ขากลับอย่าง ข.10 ที่ออกลำปางเวลาราวๆ 5 ทุ่ม ก็อาจจะให้ร่นเวลาเข้ามาเป็นสามทุ่มครึ่ง (ใกล้เคียงเวลาที่ออกจากเชียงใหม่) ซึ่งวิ่งยังไงก็คงไม่แซง ข.2 แน่ๆ และถ้ามีการปิดทางจริง การโดยสารด้วยรถนอนของรถไฟอาจจะลดลง ซึ่งตรงนี้ผมเสนอไปเลยว่าให้เอา ข.1 มาวิ่งเวลา ข.13 แทน และให้งดเดิน ข.13 เสีย ส่วนขากลับ ก็ให้ ข.2 ออกเวลาเดิมคือ 20.10 น. และถ้ามีปริมาณการโดยสารเพิ่มขึ้น ก็ให้พ่วงชุดรถเข้ามาใน ข.1/2 (ทุกวันนี้ที่วิ่ง ก็ไม่ค่อยจะเต็มชุดรถสักที ยกเว้นช่วงเทศกาลที่เต็มจนล้น)
ส่วนกรณีการซ่อมปิดสะพานนั้น อยากจะบอกว่าทางเข้ามาค่อนข้างจะคับแคบในบางช่วง ถ้าเอารถใหญ่ๆ เข้ามาอาจไม่ค่อยสะดวกนัก ซึ่งเท่าที่ได้ลองนั่งมอเตอร์ไซด์(ผมเป็นคนซ้อนครับ คนขับคือแซมมี่) ช่วงในอุทยาน ก็มีความรู้สึกว่าถ้าทำจริงๆ คงใช้เวลานานเอาเรื่อง (ซึ่งไม่แนะนำให้ทำช่วงหน้าหนาวซึ่งเป็นช่วงทำเงินของสายเหนือ แต่อยากให้มาทำช่วงหน้าร้อนมากกว่า)
แต่ตอนนี้ผมมีคำถามว่า ถ้ารื้อจริง จะสร้างใหม่ตามแบบเดิมแล้วเสริมความแข็งแรงขึ้น หรือจะทำเป็นสะพานคอนกรีตครับ _________________ ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 13 กรุงเทพ - เชียงใหม่, สถานีห้างฉัตร, จังหวัดลำปาง
|
|
Back to top |
|
|
Compressor
1st Class Pass (Air)
Joined: 05/12/2007 Posts: 1775
Location: ตลอดปลายทางอุบลราชธานี
|
Posted: 04/08/2009 8:24 pm Post subject: |
|
|
จากประสบการณ์ผู้ใช้จริง ทางรถยนต์ในการที่จะไปหาสะพานคอมโพสิต สองหอ สามหอ มันไม่ยากหรอกพี่ เพราะฝั่งแม่ตานน้อยมันเป็นทางราบครับ
ปล. เอารถมอเตอร์ไซค์ออโต้ไปขับขึ้นขุนตาน สนุกมาก แต่... ต้องชำนาญในการขับออโต้ รู้จักผ่อน รู้จักส่ง... |
|
Back to top |
|
|
nathapong
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 3515
Location: Ayuthaya - Lamlukka - Navanakhon - Silom
|
Posted: 04/08/2009 10:15 pm Post subject: |
|
|
เรื่อง ปิดสะพาน เป็นโจทย์ ข้อนึงอย่าเครียด....
แต่ถ้าเป็นจริง อันนี้ ข้อย ไม่เกี่ยวเน้อ
ถ้าปิดทางจริง ไม่ได้ ทำแค่สะพานใหย่ สามแห่ง แต่ มีเรื่องอีกหลายเรื่อง ที่ปรับปรุง อะนะ...
ถ้าปิดทางก็ขนเครื่องมือ วัสดุแลอุปกรณ์ ก็ ขน ทางรถไฟ เข้าไป น่อ จะได้รู้ว่า ขนทางถนน และผ่านเขตอุทยาน ถึงตอนนั้น คงสนุกพิลึก
ปล.นัดสมาชิกชาวหลักสี่ ออนทัวร์ ซักรอบ ถ้าจะดี อะอะ |
|
Back to top |
|
|
Air_Reservoir
1st Class Pass (Air)
Joined: 31/03/2006 Posts: 2338
Location: บึงกุ่ม, สุไหงโก-ลก
|
Posted: 05/08/2009 12:08 am Post subject: |
|
|
Compressor wrote: | จากประสบการณ์ผู้ใช้จริง ทางรถยนต์ในการที่จะไปหาสะพานคอมโพสิต สองหอ สามหอ มันไม่ยากหรอกพี่ เพราะฝั่งแม่ตานน้อยมันเป็นทางราบครับ |
ลืมไปว่าถ้ามาจากฝั่งลำปางมันง่ายกว่า
ไหนๆ ก็พูดถึงละ ก็ให้ดูสภาพจากด้านล่างสะพานจะดีกว่า ว่าถ้าต้องปรับปรุงจริงสภาพจะเป็นยังไง ภาพทั้งหมดถ่ายเมื่อ 23 พฤศจิกายน 2551 ครับ
สะพานคอมโพสิต
สะพานสามหอ
ส่วนสะพานสองหอไม่มีให้ดูนะครับ เพราะต้นไม้บังมิดทั้งช่วงล่างและช่วงบน |
|
Back to top |
|
|
pak_nampho
1st Class Pass (Air)
Joined: 25/06/2007 Posts: 2371
Location: คนสี่แควพลัดถิ่น ทำมาหากิน ที่เกาะภูเก็ต
|
Posted: 05/08/2009 8:18 am Post subject: |
|
|
nathapong wrote: |
ปล.นัดสมาชิกชาวหลักสี่ ออนทัวร์ ซักรอบ ถ้าจะดี อะอะ |
ผู้ใดเข้าข่ายบ้างน้อ _________________ +++++++++++++++++ ๑๑๖ ปี รถไฟไทยก้าวไกล....จากรถจักรไอน้ำ +++++++++++++++++
....................บุตร ครฟ. พขร.ตรี แขวงรถพ่วงปากน้ำโพ ................... |
|
Back to top |
|
|
|