ประจวบคีรีขันธ์ เมืองน่าอยู่ สงบ ร่มเย็น

ksomchai · Posted: 31/07/2009 1:44 pm Post subject:

ภาพซ้ายมือของแท่น

ภาพนี้ครับ เขาตาม่องล่าย

ksomchai · Posted: 31/07/2009 2:15 pm Post subject:

ขวามือของแท่นชมภูมิทัศน์ ครับ

-เกาะแรด

-เกาะหลัก

-สถานีวัดระดับน้ำเกาะหลัก(ท่าเรือบังอยู่)

-เกาะหลำ

-เกาะร่ม

ksomchai · Posted: 31/07/2009 2:31 pm Post subject:

ภายในอาคารมีส่งที่น่าสนใจคือแผ่นป้าย ประวัติ ความเป็นมา ของการตรวจวัดระดับน้ำในประเทศไทย ๓ แผ่น

แผ่นแรก ครับ Laughing

เกาะหลัก
ที่ตั้งสถานีวัดระดับน้ำถาวรและหมุดระดับหมุดแรกของประเทศไทย
ประวัติการตรวจวัดระดับน้ำในประเทศไทย
การตรวจระดับน้ำในประเทศไทย เริ่มมีบันทึกไว้ในสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖ โดยการว่าจ้างชาวยุโรปชื่อ มิสเตอร์มาสเตอร์(Mr. Master) เมื่อเดือนกันยายน
พุทธศักราช ๒๔๕๓ ได้ทำการสร้างสถานีวัดระดับน้ำแบบถาวรขึ้นที่เกาะหลัก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ตำบลที่ละติจูด ๑๑ องศา ๔๙ ลิปดาเหนือ ลองติจูด ๙๙ องศา ๔๖ ลิปดา ตะวันออก โดยสร้าง
เสร็จในเดือน ตุลาคม ปีเดียวกัน เริ่มใช้เครื่องมือ เมื่อวันที่ ๒๑ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๔๕๓ และแสดงค่าการตรวจวัดระดับน้ำทะเลขึ้น-ลงอย่างตอเนื่องจนถึงเดือน เมษายน พุทธศักราช ๒๔๕๔ รวม
รวมเวลาตรวจวัดประมาณ ๖ เดือน จากนั้นนำผลที่ได้มาคำนวณหาค่าเฉลี่ย ซึงถือเป็นเส้นเกณฑ์หนึ่งเรียกว่าระดับน้ำทะเลปานกลาง (Mean Sea Level) และกำหนดให้ระดับทะเลปานกลางมีค่าเป็นศูนย์
จากเส้นเกณฑ์ดังกล่าวและทำการโยงถ่ายค่าไว้ที่หมุดระดับน้ำชายฝั่ง ของเกาะหลัก ซึ่งสร้างไว้เป็นรอยบากบนหินทรายและให้ชื่อหมุดระดับน้ำนี้ว่า BMA มีค่าสูงกว่าระดับน้ำทะเลปานกลางที่ได้คำนวณไว้
๑.๔๔๓๙ เมตร ซึ่งหมุดนี้ถือว่าเป็นหมุดระดับน้ำแรกที่กำหนดให้เป็นเส้นเกณฑ์มาตรฐานในการโยงระดับความสูงของประเทศไทย

แผ่นที่ ๒

กำเนิดระดับทะเลปานกลางมาตรฐานของประเทศไทย
หลังจากการจัดทำหมุด BMA แล้ว การตรวจวัดระดับน้ำที่เกาะหลักยังดำเนินการต่อไปจนถึงเดือนตุลาคม พุทธศักราช ๒๔๕๘
รวมระยะเวลาตรวจวัด ๕ ปี จึงได้มีการนำเอาค่าระดับน้ำที่บันทึกได้มาคำนวณหาค่าเฉลี่ยใหม่อีกครั้งหนึ่ง ผลที่ได้ปรากฏว่าระดับทะเล
ปานกลางใหม่ต่ำกว่าเดิม ๐.๐๐๓๘ เมตร ค่าของหมุด BMA จึงเปลี่ยนเป็นสูงกว่าระดับทะเลปานกลางที่เกาะหลัก ๑.๔๔๗๗ เมตร
ระดับทะเลปานกลางใหม่นี้ได้ใช้เป็นระดับทะเลปานกลางของประเทศไทย และจากหมุด BMA นี้ กรมแผนที่ทหารกองบัญชาการ
ทหารสูงสุด ได้ทำการโยงระดับถ่ายค่าไปยังหมุดระดับต่าง ๆ ทั่วประเทศเพื่อใช้ เป็นพื้นเกณฑ์ในการสำรวจแผนที่ทั้งทางบกและ
ในทะเล งานวิศวกรรมชายฝั่ง งานก่อสร้างและอื่น ๆ หลังจากปีพุทธศักราช ๒๔๕๘ ได้ยกเลิกการตรวจวัดระดับน้ำที่เกาะหลัก
จังหวัดประจวบคีรีขันธ์และไม่มีการตรวจวัดระดับน้ำที่อื่น ๆ อีก

แผ่นที่ ๓

การตรวจวัดระดับน้ำหลังปี ๒๔๕๘
ในปีพุทธศักราช ๒๔๘๒ การท่าเรือแห่งประเทศไทยได้ริเริ่มการตรวจวัดระดับน้ำที่เกาะหลักขึ้นมาใหม่โดยสร้างเรือนสถานีชายฝั่งบริเวณเกาะหลักที่ละติจูด ๑๑ องศา ๔๗ ลิปดา ๔๒
พิลิปดาเหนือ ลองติจูด ๙๙ องศา ๔๘ ลิปดา ๕๘ พิลิปดาตะวันออก โดยมี เรือเอก สนิท มหาคีตะ สังกัด กรมอุทกสาสตร์ กองทัพเรือ เป็นผู้อำนวยการสร้าง และติดตั้งเครื่องวัดระดับน้ำตราอักษร
A.OTT หมายเลข ๒๘๔๑ ซึ่งจัดซื้อจากบริษัท A.OTT Kempten ประเทศเยอรมันนีในราคา ๕๔๘.๑๗ บาท เมื่อวันที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๔๘๑ โดยสร้างสถานีวัดระดับน้ำเสร็จเรียบร้อย
และเปิดดำเนินการเมื่อวันที่ ๑๗ เมษายน พุทธศักราช ๒๔๘๒ พร้อมกับโอนให้อยู่ในความดูแลของกองสมุทรศาสตร์ กรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือ หลังจากนั้นได้มีการซ่อมปรับปรุงตัวเรือนสถานี
เมื่อวันที่ ๑๔ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๔๙๑ และวันที่ ๑๔ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๐๔ ต่อมาได้สร้างเรือนสถานีใหม่ทดแทนของเดิม เมื่อวันที่ ๒๑ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๒๒ และติดตั้ง
เครื่องวัดระดับน้ำชนิดทำงานด้วยการเปลี่ยนแปลงความกดดันน้ำ (Pressure Tide Gauge) เพิ่มอีกระบบหนึ่งเมื่อวันที่ ๒ กรกฎาคม ๒๕๔๘
สถานีวัดระดับน้ำเกาะหลักถือเป็นสถานีวัดระดับน้ำที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของไทย เพราะนอกจากจะนำข้อมูลมาใช้คำนวณหาระดับทะเลปานกลางเพื่อเป็นพื้นเกณฑ์ระดับของประเทศแล้ว
ยังเป็นสัญลักษณ์การเริ่มต้นงานระดับน้ำของไทยและเป็นสถานีวัดระดับน้ำที่มีข้อมูลต่อเนื่องยาวนานที่สุด จึงเหมาะสำหรับการศึกษาการเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำทะเลในระยะยาวต่อไป
กรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือ
ตุลาคม ๒๕๔๙

ksomchai · Posted: 31/07/2009 8:10 pm Post subject:

ภายในอาคาร จุดชมและสำรวจค่าอ้างอิงระดับน้ำทะเลปานกลางแห่งแรกของประเทศไทย ยังมีหมุดระดับ อีก ๑ หมุด ครับ
"“หมุดระดับ” ที่แสดง ณ ที่นี้ ตั้งอยู่ที่ ละติจูด ๑๑ องศา ๔๘ ลิปดา ๓๐.๕๑๔๘๕
พิลิปดา เหนือ ลองติจูด ๙๙ องศา ๔๗ ลิปดา ๕๘.๓๐๕๐๓ พิลิปดาตะวันออก และ
อยู่สูงกว่าระดับทะเลปานกลาง ๔.๔๕๐๖ เมตร"

headtrack · Posted: 31/07/2009 8:37 pm Post subject:

เคยเดินข้ามไปไหว้ศาลเสด็จเตี่ย ที่ประดิษฐานอยู่บนเกาะ โดยเดินจาก กองบิน ๕๓ บนสันเลนตอนเที่ยงๆ ผ่านเกาะหลักด้วย เคยไปแบบนี้สองครั้งแล้ว...

ครั้งแรกไปปี พ.ศ. ๒๕๔๗ อาจารย์ที่สอน Survey ไปด้วย อาจารย์บอกว่า "นี่แหละ...เกาะหลัก ที่ตั้งของหมุดระดับหมุดแรกของประเทศไทย..."

ครั้งที่สองไปเมื่อสงกรานต์ ปี ๒๕๕๒ นี้เอง ไม่น่าเชื่อว่า ผ่านมาห้าปี หาดทรายหน้าศาลฯ จะถูกกัดเซาะได้ถึงขนาดนี้...

มีผู้นำเข็มไม้สนไปปักกันแนวทรุดแล้วครับ...
แต่ลานลาดคอนกรีตหน้าศาล ทรุดตามหาดทรายไปแล้ว

____________________________________________________________
ติดตามชมต่อครับ...
_________________

Find me on Instagram: @632knongtsaikhaow

ksomchai · Posted: 31/07/2009 9:12 pm Post subject:

ขอบคุณ คุณ headtrack มากครับที่เข้ามาเยี่ยมชม ตรงจุดนั้น ผมยังไม่เคยเข้าไปครับ คนประจวบแท้ ๆ ยังเดินไปไม่ถึงเลย
ต้องรอจังหวะที่น้ำลงครับ แต่เดินยากหน่อยเพราะเป็นดินเลน การที่หาดทรายหน้าศาลถูกกัดเซาะ อาจเป็นเพราะเทศบาลขยายถนนเลียบชายทะเลออกไป
แนวเขื่อนล้ำออกไปในทะเลมากทำให้การไหลวนของน้ำทะเลเปลี่ยนทิศทาง(ความเห็นผมเองนะ)
สังเกตจากบริเวณหลังเขาช่องกระจก หาดทรายจะเกิดตรงนั้นมาก
และชายหาดบริเวณหน้าเขาตาม่องล่ายถูกน้ำทะเลกัดเซาะจนถึงถนนเลียบชายหาด ตอนนี้เทศบาลกำลัง ก่อสร้างแนวเขื่อนกันน้ำทะเลจุดนั้น
อนาคตไม่ทราบว่าจุดไหนจะได้รับผลกระทบอีก Crying or Very sad

ถนนเลียบชายหาดขยายออกไปกว้างขวาง Laughing

ksomchai · Posted: 31/07/2009 9:30 pm Post subject:

สี่แยกถนนเลียบชายทะเลตัดกับถนนก้องเกียรติปลายถนนเป็นท่าเรือประมงครับ Very Happy

ริมถนนเลียบชายทะเล มีป้ายนี้ ครับ
เงื่อนไขในการทำประมง
ตามประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ลงวันที่ ๒๔ มกราคม ๒๕๕๐
เรื่อง กำหนดห้ามใช้เครื่องมือทำการประมงบางชนิด
ทำการประมงในฤดูปลาที่มีไข่ วางไข่ และเลี้ยงตัวในวัยอ่อน
ในท้องที่ จังหวัดประจวบคิรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฏร์ธานี
ภายในระยะเวลาระหว่าง
วันที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ – ๑๕ พฤษภาคม ของทุกปี
๑. เครื่องมืออวนลากทุกชนิดที่ใช้ประกอบกับเรือกล ยกเว้นเครื่องมืออวนลากที่ใช้ประกอบกับเรือกอลำเดียวที่มีความยาวเรือไม่เกิน ๑๖ เมตร
ให้ทำการประมงได้ในเวลากลางคืน(ตั้งแต่เวลาระหว่างพระอาทิตย์ตกและพระอาทิตย์ขึ้น
๒. เครื่องมืออวนติดตาที่ใช้ประกอบกับเรือกลทำการประมงด้วยวิธีการล้อมติดปลาทูหรือด้วยวิธีอื่นใดที่คล้ายคลึงกัน
๓. เครื่องมืออวนติดตาทุกชนิดที่ใช้ประกอบกับเรือกลทำการประมง ยกเว้น
ก.เครื่องมืออวนติดตาที่ใช้ประกอบกับเรือกลที่วางเครื่องกลางลำไม่มีเก๋ง(หลังคา) ขนาดความยาวเรือไม่เกิน ๑๔ เมตร
ข.เครื่องมืออวนติดตาที่ใช้ประกอบกับเรือกลและเครื่องมือกว๊านช่วยในการทำการประมงโดยใช้อวนที่มีขนาดความลึกอวน
ไม่เกิน ๗๐ ช่องตาอวน ความยาวตั้งแต่ ๔,๐๐๐ เมตรลงมาในขณะทำการประมงแต่ละครั้ง ทำการประมงในช่วง
เวลาระหว่างวันที่ ๑๕ เมษายน ถึง วันที่ ๑๕ พฤษภาคม
ของทุกปี
กรณีใช้อวนตามข้อ ข วรรคแรกซึ่งมีความยาวอวนเกินกว่า ๔,๐๐๐ เมตร ขึ้นไป ในขณะทำการประมงแต่ละครั้ง
ห้ามใช้เครื่องกว๊านช่วยในการประมงและต้องทำการประมงระหว่างวันที่ ๑๕ เมษายน ถึง วันที่ ๑๕ พฤษภาคม
ของทุกปี
๔. เครื่องมือการล้อมจับทุกชนิดที่ใช้ประกอบกับเรือกลทำการประมง
๕. เครื่องมืออวนครอบ หรืออวนยก ที่ใช้ประกอบกับเครื่องกำเนิดไฟฟ้า(เครื่องปั่นไฟ) ทำการประมงปลากระตัก
๖. เครื่องมืออวนรุนที่ใช้ประกอบกับเรือกลที่มีขนาดความยาวเกินกว่า ๑๔ เมตร ขึ้นไป

องค์การบริหารส่วนจังหวัดประจวบคีรีขันธ์
ด้วยเหตุผลนี้ทำให้บริเวณชายฝั่งชายฝั่งทะเลเขตจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จึงมีปลาทะเลชุกชุมมาก

ksomchai · Posted: 31/07/2009 9:52 pm Post subject:

เดินตามถนนก้องเกียรติมาถึงแยกถนนสู้ศึก ตึกเขียว ๆ ซ้ายมือคือโรงแรมสุขสันต์
ตรงข้ามคือที่ทำการไปรษณีย์และ กสท.ครับ Laughing

ถนนสู้ศึกมองกลับมาอีกด้านหนึ่ง กำแพงรั้วขาว ๆ คือ จวนผู้ว่าราชการจังหวัดครับ

พระบรมฉายาลักษณ์ หน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัด ถนนก้องเกียรติ

ksomchai · Posted: 31/07/2009 10:03 pm Post subject:

ตรงข้ามจวนผู้ว่า ฯ เป็นบ้านพักปลัดจังหวัด ครับ Laughing

ถัดมาเป็นถนนก้องเกียรติตัดกับถนนสละชีพ ครับ

ที่ว่าการอำเภอเมือง อยู่ระหว่างถนนสละชีพกับถนนพิทักษชาติฝั่งตรงข้ามที่ว่าการอำเภอ
เป็นสถานีตำรวจ ครับ

ksomchai · Posted: 31/07/2009 10:34 pm Post subject:

ถนนก้องเกียรติ ตัดกับถนนพิทักษ์ชาติ ครับมองไปทางเขาช่องกระจก ถนนสายนี้
ไปสิ้นสุดที่ ถนนประจวบคีรีขันธ์ คือทางหลวงหมายเลข ๓๒๖

ถนนพิทักษ์ชาติด้านนี้ไปโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ สิ้นสุดถนนสายนี้ที่ถนนเกาะหลัก

ถนนก้องเกียรติบริเวณนี้ไม่มีการเหลี่ยนแปลง เกิดมาก็เห็นแล้ว
คงสร้างมาพร้อม ๆ กับทางรถไฟ
grin

ผมยืนอยู่บริเวณนี้ ได้ยินเสียงออดที่สถานีรถไฟดังขึ้น จึงรีบไปที่สถานีรถไฟ
คงมีรถขบวนใดขบวนหนึ่งมา clap