ประจวบคีรีขันธ์ เมืองน่าอยู่ สงบ ร่มเย็น

ksomchai

สวัสดีครับสมาชิกชาว RFT. เนื่องด้วยเมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๒๓ กรกฎาคม ๒๕๕๒ ผมได้พา ผบ.ทบ.(ผู้บัญชาการที่บ้าน)เดินทางเข้าจังหวัดเพื่อไปทำธุระที่ ศาลจังหวัด
โดยวันนั้นผมทำหน้าที่เป็น พขร.ขบวนรถพิเศษด่วนดีเซลยางเนื่องจากต้องทำธุระที่นั่นทั้งวัน ส่วนผมเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ เพื่อเป็นการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ในระหว่างที่รอ
ผมจึงนำรถจอดได้ที่ศาลากลางจังหวัด แล้วเดินเที่ยวตัวเมือง เพื่อถ่ายภาพมาให้ชมเพื่อเป็นข้อมูลในการที่จะให้ท่านที่สนใจมาท่องเที่ยวจังหวัดเล็ก ๆ ที่เงียบสงบ อากาศดี
วิถีชีวิตผูกพันอยู่กับการเกษตรและการประมง
ข้อมูลเกี่ยวกับจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ครับ

http://www.prachuapkhirikhan.go.th/vitual/home_index.htm
http://thai.tourismthailand.org/destination-guide/prachuapkhirikhan-77-1-1.html

ผมเริ่มต้นจากที่นี่ ครับ

headtrack · Posted: 29/07/2009 10:42 pm Post subject:

ติดตามครับ...ติดตาม...

ยอมรับในความสงบของเมืองประจวบคีรีขันธ์จริงๆ ครับ...
สงกรานต์ที่ผ่านมาไปนอนที่ห้วยยาง สามทุ่มขับออกมาวนตัวเมืองหาที่
ชิลด์ (ทับศัพท์ภาษาพูด)

สุดท้ายนั่งทานขนมปังจิ้มสังขยาที่ตลาดนัดหน้าที่ว่าการอำเภอเมือง
และต้องหิ้วจากร้านของชำไปนั่งกินเงียบๆ ริมหาดที่รีสอร์ต
_________________

Find me on Instagram: @632knongtsaikhaow

Gunnersaurus · Posted: 29/07/2009 11:22 pm Post subject:

ชอบวิวที่ถ่ายลงมาจากเขาช่องกระจกครับ เห็นได้ทั้งเมืองเลย

Click on the image for full size

pattharachai · Posted: 29/07/2009 11:26 pm Post subject:

เมื่อสมัยเรียน ปี 3 เคยไปๆมาๆประจวบอยู่สองสามครั้ง เพราะต้องลงไปทำค่ายที่ ร.ร.ประจำจังหวัดที่นั่น เห็นชัดเลยว่า เป็นเมืองเล็ก ที่ดูสงบ และที่เยี่ยมสุดๆคือ เป็นตัวจังหวัดไม่กี่แห่งในประเทศที่มีทะเลในเมือง แต่ไปครั้งนั้นก็ไม่มีโอกาสได้ไปสัมผัสเมืองประจวบอย่างเต็มที่นัก

black_express · Posted: 29/07/2009 11:38 pm Post subject:

อีกไม่กี่วัน ผมคงได้ไปเยี่ยมชมแน่ๆ ครับ Razz

ksomchai · Posted: 30/07/2009 5:50 am Post subject:

ขอบคุณทุกท่านที่มาเยี่ยมชม ครับ ตัวเมืองประจวบคีรีขันธ์ มีถนนสายหลัก ๆ คือ
-ถนนถนนประจวบคีรีขันธ์ คือทางหลวงหมายเลข ๓๒๖ แยกจากถนนเพชรเกษม ตรงสี่แยกไฟเขียวไฟแดง ตรงไปศาลากลางจังหวัด ระยะทาง ๒ กม.
-ถนนเกาะหลักเป็นถนนที่เข้าตัวเมืองประจวบ ฯ แยกจากถนนเพชรเกษมตรงโรงพยาบาลธนบุรี-คีรีขันธ์เดิม ตัดทางรถไฟตรงที่มีเครื่องกั้นทาง
-ถนนก้องเกียรติ คือถนนที่อยู่หลังสถานีรถไฟมุ่งตรงไปท่าเรือประมง
-ถนนมหาราช คือถนนเลียบทางรถไฟหลังสถานีรถไฟ
-ถนนพิทักษ์ชาติ คือถนนที่ตัดกับถนนก้องเกียรติถ้ามาจากสถานีรถไฟเป็นสี่ยแยกแรก
-ถนนสละชีพ คือถนนที่ตัดกับถนนก้องเกียรติถ้ามาจากสถานีรถไฟเป็นสี่ยแยกที่ ๒ ถนนสายนี้มุ่งตรงเข้ากองบิน ๕๓ ถนนสายนี้เป็นถนนที่มีความสำคัญเพราะผ่านสถานีที่ราชการหลายแห่ง
-ถนนสู้ศึก คือถนนที่ตัดกับถนนก้องเกียรติถ้ามาจากสถานีรถไฟเป็นสี่ยแยกที่ ๓
-ถนนชายทะเล
ดูภาพแผนทีประกอบครับ http://www.oceansmile.com/K/Prajaub/Prajaub1.htm

ชื่อถนนในตัวเมืองประจวบคีรีขันธ์ ตั้งชื่อให้พ้องกับวีรกรรมกองบิน ๕๓ ครับ

ksomchai · Posted: 30/07/2009 6:50 am Post subject:

องค์ศาลหลักเมือง ครับ

หันหน้าออกไปทางทะเล ตรงถนนสุขปลอดภัย ครับ
Surprised

เนื่องจากมีงานแสดงสินค้าบริเวณนั้นทำให้ทัศนียภาพไม่สวยงาม เท่าที่ควร

ขวามือขององค์หลักเมืองมองเห็นเขาช่องกระจกได้อย่างสวยงาม Very Happy

Mongwin · Posted: 30/07/2009 7:30 am Post subject:

เคยไปพักค้างคืนที่บังกะโลเทศบาลริมอ่าวประจวบครับ เมื่อเกือบสิบปีที่แล้ว
ชอบวิวทิวทัศน์และความเป็นเมืองเล็กๆ คล้ายสงขลาที่นี่มากครับ
ไปประจวบเมื่อไหร่ ใจก็คิดถึงสงขลาเมื่อนั้นครับ แปลกดี

รอติดตามชมครับพี่สมชาย

อ้อ ขออนุญาตบันทึกไว้ที่นี่ด้วยครับ กันลืม
สามเหลี่ยมกลับรถจักรที่ประจวบคีรีขันธ์ ที่พี่สมชายเคยสำรวจร่องรอยมาให้ชมกันนั้น
สร้างเมื่อวันที่ 10 ม.ค. 2498 ครับ
(ข้อมูลจากรายงานประจำปี 2498 การรถไฟแห่งประเทศไทย)

pitsanume · Posted: 30/07/2009 8:49 am Post subject:

ไม่มีโอกาสกลับไปเยี่ยมเมืองประจวบนานหลายปีแล้ว

หลังจากที่ย้ายออกมาตั้งแต่เด็ก ๆ

เป็นเมืองที่สงบแล้วก็สวยงามมากครับ ต้องหาโอกาสกลับไปเที่ยวอีกสักครั้ง

ksomchai · Posted: 30/07/2009 9:33 pm Post subject:

ขอบคุณอาจาร์หม่องวินที่ให้ข้อมูลเพิ่มเติม เมืองประจวบคีรีขันธ์คล้าย ๆ กับเมืองสงขลา
แต่สงขลามีวัดมากกว่า ส่วนประจวบคีรีขันธ์มีเพียง ๒ วัด คือวัดเกาะหลักและวัดธรรมมิการาม ครับ
Very Happy

ขอบคุณคุณ pitsanume ที่มาเยี่ยมชม ครับ ตอนนี้เมืองประจวบ ฯ ด้านทิศตะวันออกของทางรถไฟ
จรดอ่าวประจวบ ฯ ยังเหมือนหลายสิบปีก่อน แต่ตัวเมืองได้ขยายออกไปทางทิศใต้ของทางรถไฟ จรดถนนเพชรเกษม ครับ
Laughing

มาชมกันต่อ ครับ

ข้าง ๆ องค์หลักเมืองทั้ง ๔ ด้าน มีศาลบริวารประดิษฐานองค์เทพทั้งสี่ศาล

ด้านหลังป้ายศาลหลักเมือง มีจารึกประวัติการสร้างศาลหลักเมือง ครับ
ประวัติการสร้างศาลหลักเมือง
"พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระสุหร่าย ทรงเจิมยอดชัยหลักเมือง และแผ่นดวงเมือง เมื่อ ๔ฯ๑๒ ๑๐ ตรงกับวันที่ ๘ ธันวาคม
พุทธศักราช ๒๕๓๖ และได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯสยามมกุฏราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ ประกอบพิธีเปิดศาลหลักเมือง
เมื่อ ๗ ๑๔ฯ๙ ปีจอ ตรงกับวันที่ ๒๐ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๓๗
องค์หลักเมือง "จตุโชค" กำเนิดเมื่อ ๓ ๖ฯ๒ ปีระกา ตรงกับวันที่ ๒๙ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๓๕ ณ เทือกเขาเขตบ้านย่านซื่อ ตำพลหาดขาม อำเภอกุยบุรี
จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีขนาดความสูง ๒.๗๔ เมตร เส้นผ่าศูนย์กลาง ๐.๓๗ เมตร สีเศียร สี่พักตร์ แกะสลักลายไทย ศิลปศรีวิชัยทั้งองค์ และประดิษฐานเป็นการถาวร
เมื่อ ๕ ๙ฯ๙ ปีระกา ตรงกับวันที่ ๒๖ สิงหาคม ๒๕๓๖
ศาลหลักเมืองวางศิลาฤกษ์ เมื่อ ๕ ๑๒ฯ๔ ปีระกา ตรงกับวันที่ ๔ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๓๖ เวลา ๐๙.๕๙ นาฬิกา ทรงจตุรมุขยอดปรางค์ ๙ ชั้น ศิลปสยามลพบุรี
พร้อมด้วยศาลบริวารประดิษฐานองค์เทพทั้งสี่ศาล
ร.ต.อำนวย ไทยานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ดำเนินการด้วยความร่วมมือร่วมใจของชาวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์และชาวจังหวัดอื่น ๆ โดยมี
พล ต.ต.สรรเพชญ ธรรมาธิกุล ให้คำปรึกษา และนางสาวศิระภา วาระเลิศ กับนายพรชัย วัฒนวิกย์กิจ รับผิดชอบงานวิศวกรรม สถาปัตยกรรมและศิลปกรรม"