RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai.Com

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311296
ทั่วไป:13273090
ทั้งหมด:13584386
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - รวมข่าวเกี่ยวกับรถไฟฟ้า BTS
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

รวมข่าวเกี่ยวกับรถไฟฟ้า BTS
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 111, 112, 113 ... 155, 156, 157  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> รถไฟฟ้า (BTS) และรถไฟฟ้าใต้ดิน (MRT)
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42751
Location: NECTEC

PostPosted: 04/12/2020 12:55 pm    Post subject: Reply with quote

คมนาคมเปิดราคารถไฟฟ้าสีเขียวตลอดสายไม่เกิน52บาท
*บลั๊ฟกทม.กดลงให้ถูกได้อีก13บาทรอนายกฯชี้ขาด!
*16ธ.ค.”บิ๊กตู่”กดปุ่ม2สายเติมเต็มโครงข่ายหลากสี
*เส้นสีทองเก็บ15บาทโนฟรีจ๊ะ|สีเขียวยิงยาวถึงคูคต
*บีทีเอสยังกั๊กดั๊มพ์20%แจงเหมือนเดิม65บาทเหมาะ
https://www.facebook.com/TransportDailynews/posts/2783436661877834
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42751
Location: NECTEC

PostPosted: 04/12/2020 1:51 pm    Post subject: Reply with quote

'อัศวิน'ยันจ่ายแน่ หนี้ค่าบริการเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว8.2พันล้าน
วันพฤหัสบดี ที่ 03 ธันวาคม 2563 เวลา 19.17 น.

อัศวินประกาศจ่ายหนี้ค่าบริการเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว 8.2 พันล้านบาท แน่นอน แต่ต้องรอมติครม.เห็นชอบ


เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. ที่ห้องประชุมรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการ กทม.1 (เสาชิงช้า) เขตพระนคร พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวถึงความคืบหน้าเรื่องการขยายอายุสัมปทานของรถไฟฟ้าสายสีเขียวว่า เรื่องการขยายอายุสัมปทาน เราได้ชี้แจงไปทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจนหมดแล้ว คิดว่าไม่นานกระทรวงมหาดไทย (มท.) ก็คงทำเรื่องเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) อีก ส่วนคณะกรรมาธิการคมนาคม สภาผู้แทนราษฎร ที่นายโสภณ ซารัมย์ เป็นประธาน ตัวนายโสภณก็เคยเป็นรัฐมนตรีคมนาคม ก็น่าจะรู้เรื่องนี้อยู่แล้ว

ส่วนการชำระหนี้ค่าบริการเดินรถจำนวน 8.2 พันล้านบาทนั้น เราก็ต้องจ่ายหนี้ค่าบริการเดินรถส่วนต่อขยายสายสีเขียวแก่บีทีเอสอยู่แล้ว แต่จะจ่ายเป็นรูปแบบใด ขึ้นอยู่กับครม.ว่าจะอนุมัติการขยายอายุสัมปทานไปอีก 30 ปีหรือไม่ ไว้ค่อยหารือกัน อย่างไรก็ตาม ส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีเขียวหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต นี้ จะเปิดให้บริการฟรีประชาชนไปถึงวันที่ 1 มค.64 นี้ โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะเดินทางไปเป็นประธานเปิดรถไฟฟ้าส่วนต่อสายสีเขียวจนครบเส้นทางหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ในวันที่ 16 ธค.63 นี้.


Last edited by Wisarut on 07/12/2020 10:45 am; edited 1 time in total
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42751
Location: NECTEC

PostPosted: 07/12/2020 9:59 am    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
คมนาคมเปิดราคารถไฟฟ้าสีเขียวตลอดสายไม่เกิน52บาท
*บลั๊ฟกทม.กดลงให้ถูกได้อีก13บาทรอนายกฯชี้ขาด!
*16ธ.ค.”บิ๊กตู่”กดปุ่ม2สายเติมเต็มโครงข่ายหลากสี
*เส้นสีทองเก็บ15บาทโนฟรีจ๊ะ|สีเขียวยิงยาวถึงคูคต
*บีทีเอสยังกั๊กดั๊มพ์20%แจงเหมือนเดิม65บาทเหมาะ
https://www.facebook.com/TransportDailynews/posts/2783436661877834


คมนาคม-กทม.ซัดกันนัวค่าตั๋ว BTS-MRT ”อัศวิน” ตรึงราคาสายสีเขียว 65 บาท
ข่าวอสังหาริมทรัพย์

วันที่ 5 ธันวาคม 2563 - 11:31 น.
"บิ๊กตู่" เรียก "อนุพงษ์-ศักดิ์สยาม" เคลียร์ต่อสัญญาบีทีเอส ไร้ข้อยุติ ยังมองต่างมุมค่ารถ
วันที่ 5 ธันวาคม 2563 - 08:03 น.



“คมนาคม” รายงาน”ประยุทธ์-อนุพงษ์” เพิ่มปมขยายสัมปทานบีทีเอส “ศักดิ์สยาม”ปัดตั้งแง่โครงการ ย้ำทำให้รอบคอบ เผยรฟม. คำนวณค่าโดยสารถูกกว่าเยอะ ชี้ต่อสัญญายังมีเวลาอีกตั้ง 9 ปี “อัศวิน”ส่งข้อมูลถึงมหาดไทยชงครม.แล้ว ตอกกลับสายสีน้ำเงินปรับราคาต่อเนื่อง ปีหน้าขึ้นอีก 1 บาท ลั่นสายสีเขียวจะตรึง 65 บาทอีก 10-20ปี

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ความคืบหน้าของการต่อสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว ระหว่างบมจ.ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ (BTSC) และกรุงเทพมหานคร (กทม.) ออกไปอีก 30 ปี ตนจะนำข้อมูลในรายละเอียดไปให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ถึง 4 ประเด็นที่กระทรวงคมนาคมมีความเห็นเสนอเข้าไปมีรายละเอียดอะไรบ้าง

ศักดิ์สยามแจงทำให้รอบคอบ
“เพื่อให้เกิดความละเอียดรอบคอบในการดำเนินโครงการให้ถูกต้อง ส่วนจะคุยกันเมื่อไหร่ ขึ้นอยู่กับท่านนายกฯเห็นสมควร”

โดย 4 ประเด็นยังประกอบด้วยประเด็นหลักๆเดิม คือ 1. การดำเนินการตามคําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 3/2562 เรื่อง การดำเนินการโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ครบถ้วนตามคำสั่งดังกล่าวหรือไม่ 2. การกำหนดอัตราค่าโดยสาร 3. การบริหารทรัพย์สินต่างๆ และ 4.ข้อพิพาทที่ยังค้างอยู่ในคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ซึ่งต้องดูให้ครบ

สัมปทานเหลือ 9 ปียังมีเวลาพิจารณา
“ตอนนี้ยังมีเวลาพิจารณา เพราะกว่าสัมปทานเดิมจะหมดอายุลงก็ปี 2572 หรืออีกประมาณ 9 ปี ส่วนสัญญาจ้างเดินรถก็จะหมดลงในปี 2585 ด้วย ซึ่งตัวสัญญาเดินรถมีข้อพิพาทอยู่ที่ ป.ป.ช. โดยในสัญญาจ้างเดินรถก็ให้ BTSC เป็นผู้เดินรถอยู่แล้ว จึงไม่น่าจะมีปัญหาอุปสรรคในการเดินรถไม่ว่าจะช่วงไหนก็ตาม

ปัดตอบปมกรรมาธิการไม่ให้ต่อสัมปทาน
ส่วนกรณีที่คณะกรรมาธิการคมนาคม สภาผู้แทนราษฎร ยังไม่เห็นชอบการต่อสัมปทานสายสีเขียว ก็เป็นเรื่องระหว่างทางคณะกรรมาธิการและกทม. กระทรวงคมนาคมจะไปให้ความเห็นแทนคณะกรรมาธิการคงไม่ได้ แต่จะไม่กระทบกับการเดินรถแน่นอน


“ไม่ใช่ไม่ต้องรีบ แต่จริงๆแล้วขอให้ไปดูข้อมูลให้ครบถ้วนสมบูรณ์ ผมว่าเรื่องนี้ มันเป็นเรื่องทั้งในแง่ข้อกฎหมาย และสิ่งที่จะกระทบกับประชาชน หากมีการดูข้อมูลเรียบร้อย ตอบข้อสงสัยทางกฎหมายได้ ก็สามารถพิจารณากันได้ อันนี้เราให้ความเห็นเพิ่มเติม เพื่อให้เกิดความรอบคอบเท่านั้นเอง และไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานไหน กทม. รฟม. คมนาคม หรือมหาดไทย ก็มีหน้าที่ที่จะต้องเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายต่างๆให้ประชาชน” นายศักดิ์สยามกล่าว

เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามถึงกรณีที่ BTSC ระบุว่าหากไม่ต่อสัญญา ค่าโดยสารสูงสุดอาจจะอยู่ที่ 158 บาท นายศักดิ์สยามระบุว่า การคิดราคาค่าโดยสารมันมีหลักการอยู่ ทั้งดัชนีผู้บริโภค (CPI) และค่าเฉลี่ยระยะทางที่เดินทาง จะต้องนำข้อมูลมาดูให้ละเอียดและต้องอธิบายให้ได้และอย่าลืมว่า การเปิดให้บริการเป็นการให้บริการประชาชน

โว รฟม.คำนวณค่าตั๋วถูกกว่า 65 บาท
ส่วนการบอกว่าการเก็บค่าโดยสารสูงสุดแค่ 65 บาทถูกเทียบค่าโดยสารกับสายสีน้ำเงินไม่ได้นั้น ขอให้ดูในรายละเอียด ซึ่งกระทรวงคมนาคมได้ทำส่งไปแล้ว และได้เห็นแล้วว่ามีความเหมือนและแตกต่างกันตรงไหน ซึ่งพร้อมจะอธิบายว่าวิธีคิดค่าโดยสารของกระทรวงเป็นอย่างไร

โดยหลักการคำนวณของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) สามารถคำนวณได้ต่ำกว่าตัวเลขที่กทม.คำนวณไว้ที่ 65 บาท กระทรวงคมนาคมเองก็อยากดูว่า กทม.มีหลักการคิดราคาค่าโดยสารอย่างไร เพราะการอธิบายอะไรจะต้องมีหลักการ

อัศวินส่งสัมปทานถึงมือ”มหาดไทย”แล้ว
ด้านพล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวว่า ได้ตอบคำถามของคณะกรรมาธิการคมนาคม สภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายโสภณ ซารัมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเป็นประธานแล้ว

ซึ่งทั้ง 4 ประเด็นได้ตอบตรงทุกประเด็นแล้ว ส่วนจะเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเมื่อไหร่ กทม.ได้เสนอไปที่กระทรวงมหาดไทยแล้ว อยู่ที่กระทรวงมหาดไทยจะเป็นผู้เสนอครม. และต้องติดตามต่อว่าครม.จะพิจารณาอย่างไรให้ต่อหรือไม่ต่อ ซึ่งขอให้รอขั้นตอนนี้ก่อนว่า ครม.จะว่าอย่างไร

ยังราคาใหม่เป็นไปตามหลักคำนวณ
“สิ่งสำคัญที่สุดซึ่งกทม.ต้องทำให้ได้คือ ทำอย่างไรให้พี่น้องประชาชนได้ประโยชน์สูงสุดเท่านั้น หากไม่ได้ต่อสัญญาแล้วต้องเก็บค่าโดยสารสูงสุดถึง 158 บาท เราก็เห็นว่าประชาชนเดือดร้อนนะ เราจะต้องทำอย่างไร หรือหากได้ต่อ แล้วมีประเด็นว่าค่าโดยสารสูงสุด 65 บาทแพงไป ยืนยันว่าไม่แพง เป็นไปตามสูตรคำนวณดัชนีผู้บริโภค (CPI)”

ส่วนที่มีการเปรียบเทียบกับสายสีน้ำเงินที่เก็บสูงสุดแค่ 42 บาท ของสายสีน้ำเงินระยะทาง 38 กม. เทียบกับสายสีเขียวไม่ได้ เนื่องจากสายสีเขียวมีระยะทางทั้งหมด 68 กม. มากกว่าถึง 30 กม.จึงอยากถามว่าแพงกว่าตรงไหน

ลั่นสายสีเขียวตรึงราคาเดิมอีก10-20ปี
นอกจากนี้ รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินมีการปรับขึ้นค่าโดยสารต่อเนื่อง ล่าสุดกำลังจะปรับขึ้นในปี 2564 โดยสถานีที่ 1, 4, 7 และสถานีที่ 10 จะมีอัตราค่าโดยสารเพิ่มขึ้นจากปัจจุบัน 1 บาท แต่สายสีเขียวไม่มีการขึ้นราคา

“ ซึ่ง 10-20 ปี จะไม่มีการขึ้นราคา ยืนยันว่า กทม. จะทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบน้อยที่สุด ส่วนการคัดค้านการต่อสัมปทานสายสีเขียวมีประเด็นทางการเมืองหรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ”ผู้ว่าฯกทม.กล่าวย้ำ


Last edited by Wisarut on 07/12/2020 12:19 pm; edited 1 time in total
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42751
Location: NECTEC

PostPosted: 07/12/2020 10:16 am    Post subject: Reply with quote

ศักดิ์สยาม เตรียมแจงนายกฯ ปมรถไฟฟ้าสายสีเขียว ยันค่าโดยสารไม่เกิน 65 บ.ตลอดสาย
วันที่ 3 ธันวาคม 2563 - 16:33 น.

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงความคืบหน้าสัญญาขยายสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยายหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต และช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนรอทางกรุงเทพมหานคร กระทรวงมหาดไทย ตอบกลับข้อมูลที่กระทรวงคมนาคมได้สอบถามไว้ ในประเด็นคำถาม 4 ด้านเกี่ยวกับการดำเนินการตามกรอบ มาตรา 44 การคำนวณราคาค่าโดยสาร การใช้ทรัพย์สินของรัฐ และข้อพิพาททางกฎหมาย ซึ่งเรื่องนี้ต้องพิจารณาอย่างละเอียด รอบคอบ และส่วนตัวผมเชื่อว่ายังมีเวลาที่จะพิจารณา เพราะสัมปทานจะสิ้นสุดในปี 2572 และยังมาสัญญาเดินรถถึงปี 2585 ดังนั้นการใช้เวลาพิจารณาอย่างละเอียดนี้ ไม่กระทบต่อการใช้บริการของประชาชนแน่นอน

ขณะนี้กระทรวงได้เตรียมข้อมูลทั้งหมดที่มี เพื่อชี้แจงต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยเฉพาะข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการกำหนดค่าโดยสาร ที่มีการนำเสนอข้อมูลก่อนหน้านี้ว่า ได้มีการคำนวณราคาค่าโดยสารรวมในเส้นทางปัจจุบัน รวมกับส่วนต่อขยายแล้ว จะมีราคาสูงสุดไม่เกิน 65 บาทตลอดสาย ซึ่งในส่วนนี้ไม่ทราบว่าหน่วยงานที่มีการคำนวณค่าโดยสารดังกล่าวนำฐานข้อมูลมาจากไหน ซึ่งขณะนี้นายกรัฐมนตรีเตรียมนัดหารือข้อมูลร่วมกันระหว่างกระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทย นายศักดิ์สยามกล่าว

“ศักดิ์สยาม” ยันค่าโดยสาร “สีเขียว” ไม่ถึง 65 บาท พร้อมหารือ “นายกฯ-อนุพงษ์” กางสูตรคำนวณ
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันที่ 3 ธันวาคม 2563 - 18:35 น.



“ศักดิ์สยาม” พร้อมหารือ “นายกฯ-อนุพงษ์” ปมไม่เห็นด้วยต่อสัญญารถไฟฟ้าสายสีเขียว เผยสูตรกรมรางฯ-รฟม.คำนวณค่าโดยสารได้ต่ำกว่า 65 บาท ชี้บริการรถไฟฟ้าประชาชนและรัฐต้องได้ประโยชน์ เผยยังมีเวลาพิจารณากว่าสัมปทานบีทีเอสจะสิ้นสุดปี 72

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า จากที่กระทรวงคมนาคมได้มีความเห็นกรณีการต่อสัญญารถไฟฟ้าสายสีเขียว เป็นประเด็นคำถาม 4 ข้อนั้น ขณะนี้รอนำข้อมูลชี้แจงต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในรายละเอียดสิ่งที่กระทรวงคมนาคมมีข้อมูลเพิ่มเติมในความเห็น เพื่อให้เกิดความรอบคอบในการดำเนินการ และถูกต้อง หากพิจารณาเรียบร้อย ตอบประเด็นข้อกฎหมายได้ก็สามารถนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาได้

ทั้งประเด็นการดำเนินการครบถ้วนตามมาตรา 44 ประเด็นการคำนวณอัตราค่าโดยสาร การบริหารทรัพย์สิน และข้อพิพาทที่มีการร้องเรียนไปที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ซึ่งตนให้การดำเนินการที่ครบถ้วนสมบูรณ์ ถูกต้อง เพราะเรื่องนี้มีทั้งข้อกฎหมายและสิ่งที่จะกระทบต่อประชาชนผู้ใช้บริการ

ขณะนี้ถือว่ายังมีเวลาในการพิจารณาการต่อสัญญาเพื่อให้รอบคอบมากที่สุด เนื่องจากสัญญาสัมปทาน บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอส กับกรุงเทพมหานคร (กทม.) จะสิ้นสุดในปี 2572 และส่วนขยายอีกช่วงจะสิ้นสุดในปี 2585 ดังนั้นจึงไม่มีผลต่อการให้บริการแน่นอน

ส่วนที่คณะกรรมาธิการคมนาคม สภาผู้แทนราษฎร ได้เรียก กทม.ชี้แจงและไม่ยอมรับในประเด็นค่าโดยสารนั้น นายศักดิ์สยามกล่าวว่า เป็นเรื่องระหว่าง กมธ.คมนาคมกับทาง กทม. คนละส่วนกับของกระทรวงคมนาคม ซึ่งกระทรวงคมนาคมนั้นจะให้ความเห็นในส่วนที่เกี่ยวข้องกับที่การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และกรมการขนส่งทางราง (ขร.) ศึกษาข้อมูลและนำเรียนนายกรัฐมนตรี

สำหรับอัตราค่าโดยสารที่คำนวณได้ 158 บาท แต่จะมีการจัดเก็บสูงสุดที่ 65 บาทนั้น นายศักดิ์สยามกล่าวว่า การกำหนดอัตราค่าโดยสารนั้นมีวิธีการคำนวณโดยใช้ตัวเลขจากดัชนีผู้บริโภค (CPI) และมีค่าเฉลี่ยระยะทางที่เดินทาง ซึ่งจะต้องเอาข้อมูลมาดูกันอย่างละเอียดและจะต้องอธิบายได้ ซึ่งทางคมนาคมและกรมรางได้ทำข้อมูลไว้ และพบว่าตัวเลขค่าโดยสารที่คำนวณออกมามีความแตกต่างกัน เบื้องต้นพบว่าตัวเลขดัชนีผู้บริโภคที่นำมาคำนวณไม่ตรงกัน ซึ่งต้องรอฟังทาง กทม.อธิบายหลักการวิธีคำนวณ เนื่องจากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย รฟม.มีสูตรที่เป็นมาตรฐานใช้กับการกำหนดอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าทุกสายของ รฟม. คำนวณอัตราค่าโดยสารของรถไฟฟ้าสายสีเขียวออกมาแล้วได้ค่าโดยสารที่ต่ำกว่า 65 บาท อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงคมนาคม รฟม. หรือกระทรวงมหาดไทย กทม.มีหน้าที่ในการให้บริการรถไฟฟ้าสายต่างๆ ล่าสุดนายกรัฐมนตรีย้ำว่ารัฐ และประชาชนต้องได้ประโยชน์ และสุดท้ายเมื่อได้อัตราค่าโดยสารออกมาแล้วจะมีคณะกรรมการกำกับ

แหล่งข่าวจากคมนาคมเปิดเผยว่า ในการคำนวณอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียว ทางกรมการขนส่งทางรางพบว่าค่าโดยสารสูงสุดของสายสีเขียวที่คำนวณออกมาต่ำกว่า 65 บาท ประมาณ 20% โดยใช้หลักการคำนวณของ รฟม. โดยใช้ตัวเลขดัชนีผู้บริโภค (CPI) ที่เป็นเงินเฟ้อพื้นฐาน โดยไม่รวมกลุ่มสินค้าอาหารและพลังงาน เนื่องจากมีความผันผวน ทำให้ผลคำนวณออกมามีความเสถียรและเป็นธรรม


คมนาคมยันค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียวถูกลงได้มากกว่า 65 บาทตลอดสาย
3 ธันวาคม 2563

คมนาคมพร้อมแจงสูตรคำนวณราคาค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียว หลังนายกรัฐมนตรีเตรียมเปิดห้องนัดสางปมร่วมกระทรวงมหาดไทย แย้มลดได้มากกว่า 65 บาทตลอดสาย
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงความคืบหน้าสัญญาขยายสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว โดยระบุว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนรอทางกรุงเทพมหานคร กระทรวงมหาดไทย ตอบกลับข้อมูลที่กระทรวงคมนาคมได้สอบถามไว้ ในประเด็นคำถาม 4 ด้านเกี่ยวกับการดำเนินการตามกรอบ ม.44 การคำนวณราคาค่าโดยสาร การใช้ทรัพย์สินของรัฐ และข้อพิพาททางกฎหมาย

“เรื่องนี้ต้องพิจารณาอย่างละเอียด รอบคอบ และส่วนตัวผมเชื่อว่ายังมีเวลาที่จะพิจารณา เพราะสัมปทานจะสิ้นสุดในปี 2572 และยังมาสัญญาเดินรถถึงปี 2585 ดังนั้นการใช้เวลาพิจารณาอย่างละเอียดนี้ ไม่กระทบต่อการใช้บริการของประชาชนแน่นอน”

อย่างไรก็ดี กระทรวงฯ ได้เตรียมข้อมูลทั้งหมดที่มี เพื่อชี้แจงต่อนายกรัฐมนตรี โดยเฉพาะข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการกำหนดค่าโดยสาร ที่มีการนำเสนอข้อมูลก่อนหน้านี้ว่า ได้มีการคำนวณราคาค่าโดยสารรวมในเส้นทางปัจจุบัน รวมกับส่วนต่อขยายแล้ว จะมีราคาสูงสุดไม่เกิน 65 บาทตลอดสาย ซึ่งในส่วนนี้ไม่ทราบว่าหน่วยงานที่มีการคำนวณค่าโดยสารดังกล่าวนำฐานข้อมูลมาจากไหน ซึ่งขณะนี้นายกรัฐมนตรีเตรียมนัดหารือข้อมูลร่วมกันระหว่างกระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทย


ทั้งนี้ ในส่วนของกระทรวงคมนาคม ได้รวบรวมข้อมูลจากหน่วยงานที่กำกับดูแลรถไฟฟ้า ทั้งหน่วยงานทางกรมการขนส่งทางราง (ขร.) และการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ซึ่งเป็นผู้ให้สัมปทานรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ข้อมูลทั้งหมดที่รวบรวมเป็นการใช้ฐานการคำนวณจากดัชนีราคาผู้บริโภค หรือ CPI (Consumer Price Index) และเมื่อลองนำสูตรคำนวณดังกล่าวมาคำนวณราคาค่าโดยสารของรถไฟฟ้าสายสีเขียวรวมกับส่วนต่อขยายแล้ว ยืนยันว่าประชาชนจะจ่ายค่าโดยสารสูงสุด ต่ำกว่า 65 บาท


รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคม เผยว่า การคำนวณอัตราค่าโดยสาร รถไฟฟ้าสายสีเขียวรวมส่วนต่อขยาย มีจำนวน 59 สถานี โดยก่อนหน้านี้ กทม.มีการกำหนดราคาจะจัดเก็บอยู่ที่สูงสุดไม่เกิน 65 บาทตลอดสาย ซึ่งลดลงต่ำกว่าผลการศึกษากำหนดในอัตราค่าโดยสารสูงสุด 158 บาทตลอดสาย



แต่เนื่องจากกระทรวงคมนาคมได้เข้าไปตรวจสอบสูตรคำนวณที่มาของค่าโดยสารไม่เกิน 65 บาทตลอดสายอ้างอิงจากกรุงเทพมหานคร และบีทีเอส พบว่าใช้สูตรคำนวณมาจาก CPI กระทรวงพาณิชย์ แต่เป็นการคำนวณรวมหมวดอาหาร และเครื่องดื่ม (Food and Beverage)

ซึ่งแท้จริงแล้ว การคำนวณค่าโดยสารระบบขนส่งสาธารณะ ไม่ควรนำ CPI รวมหมวดอาหารและเครื่องดื่มมาคำนวณด้วย อีกทั้งค่าโดยสารของ รฟม.ก็ไม่ได้นำหมวดอาหารและเครื่องดื่มมาคำนวณร่วม ดังนั้นควรมีการใช้สูตรคำนวณเดียวกัน ซึ่งกระทรวงฯ พบว่าหากใช้สูตรคำนวณไม่รวมอาหารและเครื่องดื่ม จะทำให้อัตราค่าโดยสารสูงสุดของรถไฟฟ้าสายสีเขียว ลดลงได้มากกว่า 20% จากอัตรา 65 บาทตลอดสาย


Last edited by Wisarut on 07/12/2020 11:02 am; edited 1 time in total
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42751
Location: NECTEC

PostPosted: 07/12/2020 10:44 am    Post subject: Reply with quote

ขย่ม 4 ปม 'คมนาคม' ค้านต่อสัมปทาน ‘บีทีเอส’ 30 ปี-รอ ‘บิ๊กตู่’ ชี้ชะตาผลประโยชน์ 2 แสนล.
เขียนโดยisranews
เขียนวันพฤหัสบดี ที่ 03 ธันวาคม 2563 เวลา 17:37 น.

"...ปัจจุบันสายสีเขียว เปิดให้บริการมาแล้วกว่า 21 ปี ซึ่งได้ผ่านจุดคุ้มทุนมาแล้ว มีผู้โดยสารประมาณ 800,000-1,000,000 คน (สถิติประมาณการก่อนวิกฤติการโควิด-19) และมีอัตราค่าโดยสารไม่เกิน 65 บาทตลอดสาย ในขณะที่รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน มีผู้โดยสารประมาณ 300,000 คนต่อวัน และมีอัตราค่าโดยสารไม่เกิน 42 บาทตลอดสาย แต่ยังสามารถดำเนินกิจการได้อย่างต่อเนื่อง จึงเห็นว่ารถไฟฟ้าสายสีเขียวสามารถกำหนดราคาค่าโดยสารที่เป็นธรรมและถูกลงกว่า 65 บาทได้..."

.......................

ยังคงไม่สะเด็ดน้ำ

สำหรับการอนุมัติต่ออายุสัมปทานรถไฟฟ้า ‘สายสีเขียว’ อีก 30 ปี หรือเป็นสิ้นสุดสัมปทานในปี 2602 แลกกับหนี้สินและดอกเบี้ยที่เกิดจากการลงทุนรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายกว่า 1 แสนล้านบาท ระหว่างกรุงเทพมหานคร (กทม.) และบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTSC ในเครือบีทีเอส

เพราะในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ครั้งล่าสุด เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.ที่ผ่านมา ครม.ยังไม่มีการพิจารณาให้ความเห็นชอบผลการเจรจา และเห็นชอบร่างสัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว

หลังจากเมื่อสัปดาห์ก่อน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้สั่งการให้กระทรวงมหาดไทย ไปหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และนำข้อสรุปมาเสนอครม.อีกครั้ง (อ่านประกอบ : ครม.ยังไม่หารือ! ‘บิ๊กตู่’ สั่งถกเพิ่มต่อสัมปทานรถไฟฟ้า ‘สีเขียว’ ลั่นค่าโดยสารต้องถูก-แก้หนี้)

“ปัญหาสำคัญของโครงการถไฟฟ้าสายสีเขียว คือ หนี้ที่ค้างอยู่จะทำอย่างไร และถ้าวันนี้รถไฟฟ้ายังเดินไม่ได้ตลอดสาย หนี้สินก็พอกไปเรื่อยๆ แล้วจะทำอย่างไร ซึ่งวันหน้าจะต้องแก้ปัญหากันอย่างไร ก็ต้องไปคิดดู ให้ช่วยกันคิด” พล.อ.ประยุทธ์ แถลงหลังการประชุมครม.เมื่อวันที่ 23 พ.ย.ที่ผ่านมา

หากย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 13 ส.ค.2563 ครม.มีมติ ‘รับทราบ’ ผลการเจรจาและเห็นชอบร่างสัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ตามที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย เห็นชอบผลการเจรจา และร่างสัญญาฯได้ผ่านการตรวจของสำนักงานอัยการสูงสุดเรียบร้อยแล้ว

ต่อมาในวันที่ 17 พ.ย.2563 กระทรวงมหาดไทยเสนอผลการเจรจาและเห็นชอบร่างสัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ให้ครม.พิจารณา ‘เห็นชอบ’

แต่ปรากฏว่ากระทรวงคมนาคมมีความเห็นในทำนอง ‘โต้แย้ง’ การต่ออายุสัมปทานโครงการดังกล่าว โดยหนังสือด่วนที่สุด ที่คค (ปคร) 0202/401 ลงนามโดย ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เมื่อวันที่ 17 พ.ย.2563 ซึ่งจัดทำโดยกรมการขนส่งทางราง ให้เหตุผลไว้ใน 4 ประเด็น คือ

1.ประเด็นความครบถ้วนตามหลักการของพ.ร.บ.การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ.2562

มาตรา 46 และ มาตรา 47 กำหนดขั้นตอนการแก้ไขสัญญาร่วมลงทุน ซึ่งการดำเนินการต้องใช้ระยะเวลา เพื่อให้เกิดความรอบคอบในการวิเคราะห์โครงการในเชิงผลประโยชน์ตอบแทนทางเศรษฐกิจ (EIRR) และอัตราผลตอบแทนทางด้านการเงิน (FIRR) แหล่งที่มาของเงินทุน ปริมาณผู้โดยสาร และราคาค่าโดยสารที่เหมาะสมและเป็นธรรมกับประชาชน ซึ่งการดำเนินการของคณะกรรมการตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 3/2562 ลงวันที่ 3 เม.ย.2562 ให้ถือว่าเป็นการดำเนินการตามพ.ร.บ.ร่วมทุนฯ แล้ว

แต่เป็นการดำเนินการภายหลังการเจรจา โดยไม่มีการเสนอความเห็นว่า การต่อสัญญาสัมปทานควรประกวดราคา หรือควรเจรจาต่อรองกับเอกชนรายเดิม

ประกอบกับกรณีการพิจารณาเปรียบเทียบที่สมควรจะต่อสัญญาเดิม หรือรัฐดำเนินการเอง ก็ได้กำหนดกรอบการพิจารณาตามมาตรา 49 ของกฎหมายดังกล่าว ให้หน่วยงานเจ้าของโครงการสมควรนำเสนอรัฐมนตรีกระทรวงเจ้าสังกัดอย่างน้อย 5 ปี ก่อนที่สัญญาร่วมลงทุนจะสิ้นสุดลง….

ดังนั้น เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปตามวัตถุประสงค์เจตนารมณ์ของกฎหมายดังกล่าว และคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 3/2562 ลงวันที่ 3 เม.ย.2562

จึงสมควรดำเนินการในขั้นตอนการเจรจาให้สอดคล้องตามพ.ร.บ.การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ.2562 และหลักการการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดีให้เกิดความครบถ้วนและเป็นไปตามมาตรา 27 แห่งพ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ.2561

2.ประเด็นการคิดอัตราค่าโดยสารที่เหมาะสม เป็นธรรมแก่ประชาชนผู้ใช้บริการ

ปรากฏว่าร่างสัญญาร่วมลงทุนโคงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวกำหนดให้มีอัตราค่าโดยสารไม่เกิน 65 บาทตลอดสาย ซึ่งเป็นอัตราค่าโดยสารสูงกว่ารถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินในปัจจุบัน จึงเห็นว่าการคิดอัตราค่าโดยสารที่เหมาะสมเป็นธรรมแก่ประชาชนผู้ใช้บริการ สมควรพิจรณาภายใต้ข้อเท็จจริงและดำเนินการ ดังนี้

2.1 สมควรกำหนดให้ค่าโดยสารมีอัตราค่าบริการที่ถูกที่สุดสำหรับประชาชนที่ใช้บริการในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อยมาใช้บริการ ซึ่งจะทำให้การจราจรในกรุงเทพมหานครเบาบางลง (ปัจจุบันผู้มีรายได้น้อยต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเดินทางรถไฟฟ้า 130 บาทต่อวัน ซึ่งคิดเป็น 35% ของค่าแรงขั้นต่ำ)

2.2 จากเงื่อนไขในร่างสัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่จะควบคุมอัตราค่าโดยสารไม่เกิน 65 บาทตลอดสาย โดยกระทรวงมหาดไทยใช้ข้อมูลในปี พ.ศ.2562 เป็นฐานในการเปรียบเทียบและคำนวณ มีความเห็นว่า ในอนาคตเมื่อปริมาณผู้โดยสารเพิ่มขึ้น ประกอบกับรถไฟฟ้าสายสีเขียวเป็นส้นทางหลักของเส้นทางรถไฟฟ้าสายอื่น ย่อมส่งผลให้สามารถลดอัตราค่าโดยสารลงได้มากกว่า 65 บาท

ดังนั้น การควบคุมอัตราค่าโดยสารไม่เกิน 65 บาทตลอดสาย จึงถือเป็นการดำเนินการที่สมควรวิเคราะห์ต้นทุนที่แท้จริงเป็นหลัก และลดหรืองดกรณีการเชื่อมต่อค่าแรกเข้า กำหนดเป็นเงื่อนไขเมื่อมีการเดินทางเปลี่ยนสายทางเพื่อลดภาระให้แก่ประชาชน

2.3 จากการพิจารณาอัตราค่าโดยสารเมื่อเปรียบเทียบกับรถไฟฟ้าสายอื่น พบว่า ปัจจุบันสายสีเขียว เปิดให้บริการมาแล้วกว่า 21 ปี ซึ่งได้ผ่านจุดคุ้มทุนมาแล้ว มีผู้โดยสารประมาณ 800,000-1,000,000 คน (สถิติประมาณการก่อนวิกฤติการโควิด-19) และมีอัตราค่าโดยสารไม่เกิน 65 บาทตลอดสาย

ในขณะที่รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินมีผู้โดยสารประมาณ 300,000 คนต่อวัน และมีอัตราค่าโดยสารไม่เกิน 42 บาทตลอดสาย แต่ยังสามารถดำเนินกิจการได้อย่างต่อเนื่อง จึงเห็นว่ารถไฟฟ้าสายสีเขียวสามารถกำหนดราคาค่าโดยสารที่เป็นธรรมและถูกลงกว่า 65 บาทได้

bts 03 12 10 1(รถไฟฟ้าบีทีเอส)

3.ประเด็นการใช้สินทรัพย์ของรัฐที่ได้รับโอนจากเอกชนให้เกิดประโยชน์สูงสุด

ตามร่างสัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่งผลให้สินทรัพย์ทั้งหมดที่กำลังจะตกเป็นของรัฐเมื่อครบกำหนดตามสัญญาสัมปทาน พ.ศ.2572 ใช้ประโยชน์โดยผู้รับสัญญาสัมปทานรายเดิมต่อเนื่องไป และรวมส่วนต่อขยายที่ 1 และส่วนต่อขยายที่ 2 ทำให้มีสินทรัพย์ ดังนี้

3.1 สินทรัพย์เดิมของรัฐ จำนวน 23.5 กิโลเมตรแรก

3.2 สินทรัพย์ของกรุงเทพธนาคม จำนวน 12.75 กิโลเมตร (ตากสิน-บางหว้า-อ่อนนุช-แบริ่ง)

3.2 สินทรัพย์ที่ได้รับโอนจากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย จำนวน 13 กิโลเมตร (แบริ่ง-สมุทรปราการ) และจำนวน 19 กิโลเมตร (หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต)

รวมระยะความยาวโครงข่ายเส้นทางทั้งหมด 68.25 กิโลเมตร

กรณีหากสินทรัพย์ตกเป็นของรัฐในปี พ.ศ.2572 และรัฐให้เอกชนเข้ามาบริหารจัดการ (โครงสร้างงานโยธา ตัวรถ และงานระบบเดิม) จะทำให้เอกชนมีการลงทุนเพิ่มเติมในการจัดหางานระบบเดินรถคิดเป็น 'สัดส่วนน้อยกว่า' การลงทุนโครงการใหม่ มีเพียงแค่การจัดหาตัวรถและปรับปรุงระบบอาณัติสัญญาณเพื่อใช้ในการบริการวิ่งเพิ่มเติมและการให้บริการเท่านั้น

ดังนั้น จึงควรพิจารณาให้เกิดความชัดเจนถ่องแท้ถึงการใช้สินทรัพย์ว่า รัฐควรได้ประโยชน์จากการขยายสัญญาสัมปทานเป็นจำนวนเท่าใด อย่างไร จนกว่าจะครบอายุสัญญา เพื่อป้องกันมิให้รัฐเสียประโยชน์ที่ควรจะได้รับและประโยชน์อันพึงมีที่จะตกแก่ประชาชนผู้ใช้บริการ

4.ประเด็นข้อพิพาททางกฎหมาย

จากกรณีกรุงเทพมหานครได้ทำสัญญาจ้าง BTS เดินรถส่วนต่อขยาย 1 และส่วนต่อขยายที่ 2 ไปจนถึงปี พ.ศ.2585 และได้มีการไต่สวนข้อเท็จจริงของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จะมีผลกระทบต่อสัญญาสัมปทานที่อยู่ระหว่างการดำเนินการต่อสัญญา

จึงสมควรรอผลการไต่สวนข้อก็จจริงเพื่อให้เกิดความชัดเจนแล้ว จึงพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป เพื่อให้ประโยชน์สูงสุดกับรัฐและประชาชนตามหลักการจัดทำสัญญาเพื่อประโยชน์สาธารณะ

“เมื่อปรากฏข้อเท็จจริงว่า การดำเนินการเจรจาเพื่อต่อสัญญาสัมปทานสมควรที่จะต้องปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัดเพื่อความโปร่งใสในการดำเนินงานตามหลักธรรมาภิบาล และเกิดผลสัมฤทธิ์หรือประโยชน์ต่อภาครัฐและประชาชนเป็นสำคัญ” หนังสือด่วนที่สุด ที่คค (ปคร) 0202/401 ของกระทรวงคมนาคม ระบุ

อย่างไรก็ดี การคัดค้านการต่อสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวออกไปอีก 30 ปี ซึ่งเป็นตามผลการเจรจาของคณะทำงานที่ตั้งขึ้นตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 3/2562 ลงวันที่ 3 เม.ย.2562 นั้น ไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้น และมีการคัดค้านอย่างต่อเนื่อง

“อยากให้มีการเปิดประมูลใหม่ ตามพ.ร.บ.การร่วมทุนฯ เพื่อให้เกิดการแข่งขัน…รัฐบาลไม่ควรเลือกต่ออายุสัมปทานให้บีทีเอสไปอีก 30 ปี โดยอาศัยมาตรา 44 โดยไม่มีการแข่งขันเพียงเพราะแลกกับหนี้ของกรุงเทพฯ” ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์สื่อเมื่อวันที่ 22 พ.ย.ที่ผ่านมา

ขณะที่ โสภณ ซารัมย์ ส.ส.บุรีรัมย์ พรรคภูมิใจ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการคมนาคม สภาผู้แทนราษฎร และอดีตรมว.คมนาคม ออกมาแถลงคัดค้านการต่อสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวให้กับบีทีเอสอีก 30 ปี เนื่องจากขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่าประชาชนและภาครัฐจะได้รับประโยชน์ที่แท้จริงอย่างไร

“ในทางปฏิบัติหากไม่มีการต่อขยายสัญญา โครงการดังกล่าวจะตกเป็นของภาครัฐอยู่แล้ว และหากในอนาคต รัฐบาลมีรถไฟฟ้าหลายสาย หากจะมีการเชื่อมต่อระบบระหว่างกัน จะทำให้มีการควบคุมราคา หรือลดราคา โดยการใช้ตั๋วร่วม ในทางนโยบายของรัฐบาลทำได้ยากทันที” โสภณกล่าว

ส่วนฝั่งเอกชน สุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือ BTSC กล่าวกับสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ว่า ปัจจุบันกทม.ค้างจ่ายค่าจ้างเดินรถให้บีทีเอสกว่า 8,000 ล้านบาท จึงอยากให้ครม.อนุมัติต่ออายุสัมปทานโดยเร็ว

“การเจรจา (ขยายสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว) จบสิ้นไปแล้ว รอเพียงครม.ให้เห็นชอบ แต่เมื่อมีการล่าช้ามาเป็นปีแล้ว ขณะที่ กทม.ไม่มีเงินจ่ายค่าเดินรถให้บีทีเอส ซึ่งถึงตอนนี้ก็เป็นเงิน 8,000 กว่าล้านบาท ดังนั้น ถ้ายังล่าช้าออกไปอีกจะทำกันอย่างไร เพราะเราเองมีรีซอร์สจำกัด และเราก็มีเจ้าหนี้เหมือนกัน” สุรพงษ์ กล่าว

สุรพงษ์ ทิ้งท้ายว่า “หากเป็นไปได้ ก็อยากให้ครม.อนุมัติต่อสัมปทาน ก่อนที่จะมีการเปิดเดินไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียวช่วงสุดท้ายที่จะไปถึงคูคตในวันที่ 16 ธ.ค.นี้”

จากนี้คงต้องติดตามว่าในสุดท้ายแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ และครม. จะพิจารณาตัดสินชะตาการโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ซึ่งมีมูลค่าไม่น้อยกว่า 2 แสนล้านบาท สายนี้อย่างไร
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42751
Location: NECTEC

PostPosted: 07/12/2020 10:47 am    Post subject: Reply with quote

‘สายสีเขียว’ตะกุกตะกัก ‘บิ๊กตู่-บิ๊กป๊อก-ศักดิ์สยาม’ถกค่าตั๋วไม่จบ ผวาใช้ม.44 เป้าถูกซักฟอก
โลกธุรกิจ
วันศุกร์ ที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2563, 18.41 น.


“บิ๊กตู่-บิ๊กป๊อก-ศักดิ์สยาม” ถกต่อสัญญาสายสีเขียว ชงขยายสัญญา 30 ปี มท.-คมนาคม ยังไม่ลงตัวค่าโดยสาร 65 หรือ 50 บาท กังวลใช้ ม.44 หวั่นปฏิกิริยาสังคมรับไม่ได้ เป็นเป้าถูกซักฟอก



4 ธันวาคม 2563 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย , นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว. คมนาคม ได้หารือกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในประเด็นต่อสัญญาโครงการรถไฟฟ้าสีเขียว ซึ่ง พล.อ.อนุพงษ์ ให้ขยายอายุสัมปทาน ที่จะหมดในปี 2572 ไปอีก 30 ปี จนถึงปี 2602 และแปลงสัญญาสัมปทาน เป็นสัญญาร่วมลงทุน โดยไม่ต้องปฏิบัติตามพ.ร.บ.ร่วมลงทุน เนื่องจากได้รับการยกเว้นตามคำสั่งหัวหน้าคสช. ซึ่งอาศัยอำนาจตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราว ปี 2557

รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับการหารือวันนี้ ยังไม่ได้ข้อสรุป เพราะมีความเห็นไม่ตรงกันหลายประเด็น และนายกฯ ได้สั่งการให้ 2 กระทรวง ไปหารือกันให้ได้ข้อยุติ เพื่อนำเสนอแนวทางปฏิบัติมาให้พิจารณา ก่อนจะเสนอเข้าที่ประชุม ครม.อีกครั้ง



ประเด็นสำคัญที่มีการพิจารณากัน และไม่มีข้อยุติ คือ ราคาค่าโดยสาร ซึ่งกระทรวงมหาดไทย โดยกทม. เสนอไม่เกิน 65 บาท ตลอดสาย ในขณะที่กระทรวงคมนาคม โดยกรมการราง เห็นว่าเป็นราคาที่สูงเกินไป และคำนวณราคาที่เหมาะสมอยู่ที่ 50 บาท ซึ่งเป็นอัตราที่ผู้ประกอบการมีกำไร และประชาชนสามารถใช้บริการได้มากขึ้น อีกทั้งเป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายให้แก่ประชาชน อีกทางหนึ่งด้วย



ความแตกต่างของราคาค่าโดยสาร เป็นประเด็นสำคัญที่นายกฯ ให้ไปพิจารณาทบทวนใหม่ เนื่องจากมีผลกระทบต่อประชาชน รวมถึงการขยายอายุสัมปทานไปอีก 30 ปี ในขณะที่สัมปทานปัจจุบันมีอายุอีก 9 ปี เหมาะสมหรือไม่

นอกจากนี้ ประเด็นสำคัญอีกประเด็น คือความถูกต้องด้านกฎหมาย และรายละเอียดของสัญญาที่จะมีการแปลงสัญญาสัมปทาน เป็นสัญญาร่วมลงทุน โดยไม่ปฏิบัติตามพ.ร.บ.ร่วมลงทุน ฯ แม้จะได้รับการยกเว้นด้วยคำสั่งคสช.ตามมาตรา 44 แต่ต้องคำนึงถึงความเหมาะสมด้วย เนื่องจากคำสั่งคสช.ฉบับนี้ ออกเมื่อปี 2562 หลังจากมีการใช้รัฐธรรมนูญ 2560 แล้ว 2 ปี จึงต้องพิจารณาว่าเหมาะสมหรือไม่ และเป็นคำสั่งที่ขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญ ปี 2560 หรือไม่ ซึ่งต้องคำนึงถึงปฏิกิริยาของสังคมด้วย และเป็นประเด็นที่พรรคฝ่ายค้าน ชี้ว่าไม่มีความชอบธรรม และจะใช้เป็นประเด็นอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ และ รมว.มหาดไทย
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42751
Location: NECTEC

PostPosted: 08/12/2020 10:56 am    Post subject: Reply with quote

บีทีเอส เปิดรับสมัครงานหลายตำแหน่ง รับเปิดส่วนต่อขยายรถไฟฟ้า
วันจันทร์ ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2563 เวลา 11.25 น.
"รถไฟฟ้าบีทีเอส เปิดรับสมัครงาน 16 ตำแหน่ง หลายวุฒิการศึกษา รองรับการขยายการให้บริการ ส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายใหม่"
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42751
Location: NECTEC

PostPosted: 08/12/2020 11:00 am    Post subject: Reply with quote

บีทีเอส แจงยิบกรณีข่าวจ่อปรับขึ้นราคาค่าโดยสารรถไฟฟ้า158 บาทตลอดสาย
วันศุกร์ ที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2563 เวลา 18.41 น.
บีทีเอส ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีข่าวเตรียมปรับขึ้นราคาค่าโดยสารโดยสาร รถไฟฟ้าบีทีเอส 158 บาทตลอดสาย ยันไม่เป็นความจริง ยืนยันตลอดเส้นทางไม่เกิน 65 บาท ส่วนราคา158 เป็นราคาเดิมที่เคยศึกษาไว้
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42751
Location: NECTEC

PostPosted: 08/12/2020 5:21 pm    Post subject: Reply with quote

ตรวจความพร้อมรถไฟฟ้า 2 สาย เตรียมเปิดให้บริการ 16 ธ.ค.นี้ 🚄🚈
บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด
วันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2563 เวลา 18.41 น.

📌เมื่อวันที่ 8 ธ.ค.63 นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นำคณะจากหน่วยงานรัฐบาล กรุงเทพมหานคร บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด และ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ลงพื้นที่สถานีคูคต จ.ปทุมธานี เพื่อตรวจเยี่ยมการเตรียมความพร้อมจัดพิธีเปิดเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวช่วงหมอชิต สะพานใหม่ คูคต จากสถานีวัดพระศรีมหาธาตุ (N17) ถึง สถานีคูคต (N24) จากนั้นโดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอสจากสถานีคูคตไปยังสถานีกรุงธนบุรี (S7) เพื่อตรวจความพร้อมการจัดพิธีเปิดโครงการรถไฟฟ้าสายสีทอง (สถานีกรุงธนบุรี-เจริญนคร-สำนักงานเขตคลองสาน) ที่จะมีขึ้นพร้อมกันในวันที่ 16 ธันวาคม 2563 นี้
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42751
Location: NECTEC

PostPosted: 09/12/2020 10:40 am    Post subject: Reply with quote

โสภณ ยันค้านต่อสัมปทานบีทีเอส ชี้ต้องโปร่งใส ตอบคำถามสังคมได้
เศรษฐกิจ
ข่าวสดออนไลน์
วันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2563 เวลา 15:19 น.


วันที่ 8 ธ.ค. นายโสภณ ซารัมย์ ส.ส.ภูมิใจไทย ประธานกมธ.คมนาคม สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงข้อเสนอให้ต่ออายุสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวออกไปอีก 30 ปี เพื่อแลกกับการแบกรับภาระหนี้สินของกทม. ว่า ทางกมธ.ยืนยันตามเดิมว่าไม่เห็นด้วย หลังจากได้พิจารณาโดยให้ตัวแทนทั้งจากฝ่ายกทม. และฝ่ายบีทีเอส มาชี้แจงก่อนหน้านี้ แต่ผลปรากฎว่าไม่สามารถชี้แจงข้อมูลที่เป็นเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ได้เลย ไม่ว่าจะเป็นเงื่อนไขเวลาที่เหลืออายุสัมปทานอีก 9 ปี ก็ไม่สามารถตอบได้ว่าทำไมจำเป็นต้องต่อสัมปทานในขณะนี้ไปอีก 30 ปี

นายโสภณ กล่าวว่า นอกจากนี้เรื่องค่าโดยสารที่ระบุว่าอัตรา 65 บาทตลอดสายนั้นคำนวณมาจากอะไรก็ไม่สามารถตอบได้ เพียงแต่บอกว่าเป็นอัตราที่ประชาชนยอมรับได้เท่านั้น ซึ่งก็ตอบไม่ได้อีกเช่นกันว่าไปสำรวจประชาชนที่ไหนที่รับได้ และไม่ได้ประเมินจากต้นทุน จำนวนผู้ใช้บริการ รวมทั้งเรื่องค่าตั๋วร่วมที่ต้องบูรณาการให้เป็นไปตามมาตรฐาน และลดค่าแรกเข้าของระบบคมนาคมทุกวสายที่ไม่ต้องเสีย แต่กลับยกเว้นสายสีเขียว

นายโสภณ กล่าวว่า ไม่เพียงแค่นั้นการเสนอต่อสัมปทานโดยอ้างคำสั่งตามม.44 ของคสช.นั้นก็ไม่เหมาะสม จริงอยู่หากเป็นเรื่องจำเป็นเร่งด่วนก็สามารถใช้ม.44ได้ แต่เมื่อกรณีนี้ตอบไม่ได้ว่าเป็นเรื่องจำเป็นเร่งด่วน ทำไมต้องใช้ม.44 ต้องยกตัวอย่างว่าที่ผ่านมาค่าโง่ มี 2 อย่าง คือกรณีถูกฟ้องร้องจากเอกชนคู่สัญญาสัมปทาน กับอีกอย่างคือค่าโง่ที่เสียโอกาส เสียโอกาสที่จะได้บริหารงานในธุรกิจที่มีผลกำไร ด้วยการต่อสัมปทานให้เอกชน อันนี้ก็ต้องมาพิจารณา ซึ่งหากไม่ใช่เรื่องจำเป็นเร่งด่วน การดำเนินการตามพรบ.ร่วมทุนรัฐและเอกชน ก็เป็นทางเลือกที่ดีอยู่แล้ว

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ระบุว่าหากไม่ต่อสัมปทาน ค่าโดยสารอย่างพุ่งขึ้นเป็น 158 บาทต่อเที่ยว นายโสภณ กล่าวว่า บริษัทเอกชนเองก็หวังกำไร แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องมีธรรมาภิบาลที่ควบคุมการดำเนินกิจการ ประชาชนก็รับทราบว่าบริษัทดำเนินกิจการอย่างไร เรื่องนี้รัฐบาลเองก็ต้องมองถึงอนาคต แน่นอนว่าหากไม่ต่อสัมปทานในช่วงนี้ อาจทำให้ค่าโดยสารขึ้นบ้าง แต่ในอนาคตเมื่อสัมปทานหมดแล้วรัฐนำกลับมาบริหารเอง ย่อมทำให้เกิดประโยชน์กับประชาชนได้มากยิ่งขึ้น


เมื่อถามว่า กทม.ระบุว่าไม่สามารถแบกรับภาระหนี้สินได้ จึงต้องต่อสัมปทานให้บีทีเอส นายโสภณ กล่าวว่า หากกทม.รับภาระไม่ได้จริงๆก็เป็นหน้าที่ของรัฐบาล ของกระทรวงคมนาคม ที่จะต้องหาเงินกู้ดอกเบี้ยถูกให้กทม.นำมาเสริมสภาพคล่อง ซึ่งแนวโน้มของธุรกิจรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่วิ่งผ่านใจกลางเมือง มีกำไรอยู่แล้ว ไม่ต้องกังวลว่าจะขาดทุน ที่สำคัญก็ไม่เข้าใจว่ากทม.ไปบริหารอย่างไรกับธุรกิจที่มีโครงสร้างเข้มแข็ง ทำกำไรได้ขนาดนี้แล้วบอกว่าเป็นหนี้รับไม่ไหว

“ผมไม่ได้ค้านหัวชนฝาว่าห้ามต่อสัมปทานให้บีทีเอส แต่ที่ผ่านมาตอบคำถามไม่ได้สักอย่าง แล้วจะให้สนับสนุนมันก็คงจะยังไงอยู่ จึงขอเรียกร้องให้ทั้งกระทรวงมหาดไทย กทม. และบีทีเอส ทำอะไรให้ตรงไปตรงมา ตอบคำถามสังคมให้ได้ แล้วถ้าจำเป็นต้องต่อ ก็คงไม่มีใครคัดค้าน”นายโสภณ กล่าว
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> รถไฟฟ้า (BTS) และรถไฟฟ้าใต้ดิน (MRT) All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 111, 112, 113 ... 155, 156, 157  Next
Page 112 of 157

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©