Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai.Com

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311296
ทั่วไป:13273915
ทั้งหมด:13585211
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - รวมข่าวเกี่ยวกับรถไฟฟ้า BTS
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

รวมข่าวเกี่ยวกับรถไฟฟ้า BTS
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 118, 119, 120 ... 155, 156, 157  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> รถไฟฟ้า (BTS) และรถไฟฟ้าใต้ดิน (MRT)
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42751
Location: NECTEC

PostPosted: 28/01/2021 6:06 pm    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
"บีทีเอส" เปลี่ยนชื่อ" สถานีศึกษาวิทยา" เป็น"เซนต์หลุยส์"
ฐานเศรษฐกิจ 23 Jan 2021 14:52 น.



รถไฟฟ้าบีทีเอสเตรียมเปิดใช้ “สถานีเซนต์หลุยส์” 8 ก.พ.นี้
อสังหาริมทรัพย์
วันที่ 26 มกราคม 2564 - 17:58 น.

สิ้นสุดการรอคอย! บีทีเอสเตรียมเปิดใช้ ”สถานีเซนต์หลุยส์” วันที่ 8 ก.พ.นี้ หลังผนึก AIA ทุ่ม 900 ล้าน ก่อสร้าง รับเมืองขยาย อนาคตเตรียมผุด ”สถานีเสนาร่วม” เพิ่ม

เมื่อวันที่ 26 ม.ค. 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประมาณวันที่ 8 ก.พ. 2564 บมจ.ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ (BTSC) ผู้รับสัปมทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว จะเปิดให้บริการ ”สถานีศึกษาวิทยา” (S4) หรือชื่อใหม่ ”สถานีเซนต์หลุยส์” หลังทุ่มเงิน 900 ล้านบาท ก่อสร้างเมื่อเดือน พ.ค. 2562 ที่ผ่านมา โดยร่วมกับกลุ่ม AIA ออกค่าก่อสร้าง 50:50

จุดที่ตั้งสถานีจะอยู่กึ่งกลางระหว่างสถานีช่องนนทรี (S3) กับสถานีสุรศักดิ์ (S5) อยู่บนถนนสาทรเหนือ-ใต้ บริเวณปากซอยสาทร 12 ด้านหน้าธนาคารยูโอบี สำนักงานใหญ่สาทร และโรงแรมแอสคอทท์ ในพื้นที่เขตบางรักและเขตสาทร ซึ่งโดยรอบสถานีมีอาคารขนาดใหญ่ คอนโดมิเนียมและสถานศึกษา อยู่จำนวนมาก
และจากการประมาณการของบริษัทที่ปรึกษา การสร้างสถานีนี้จะทำให้จำนวนเที่ยวการเดินทางเพิ่มขึ้นประมาณ 9,500-12,000 เที่ยวคนต่อวัน และทำให้บีทีเอสมีรายได้ค่าโดยสารเพิ่มขึ้นประมาณ 94 ล้านบาทต่อปี


ในอนาคตบีทีเอสมีแผนสร้างสถานีใหม่เพิ่ม คือ สถานีเสนาร่วม (N6) อยู่ระหว่างสถานีอารีย์ (N5) กับสถานีสะพานควาย (N7) ซึ่งสถานีนี้ได้กำหนดไว้ในแนวเส้นทางตั้งแต่แรก เพื่อรองรับการเติบโตของเมือง ที่ปัจจุบันเริ่มมีการสร้างอาคารสำนักงานและที่อยู่อาศัยใหม่เกิดขึ้นมากมาย
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42751
Location: NECTEC

PostPosted: 28/01/2021 8:15 pm    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
"บีทีเอส"ใจดี! ต่ออายุ&คืนเที่ยวบัตรโดยสาร
วันพฤหัสบดีที่ 28 มกราคม 2564 เวลา17.46 น.


“บีทีเอส” ขยายเวลา-คืนเที่ยวบัตรโดยสารได้ถึง ก.ค. 2564
อสังหาริมทรัพย์
วันพฤหัสบดีที่ 28 มกราคม 2564 เวลา 17:42 น.

บีทีเอสเยียวยาลูกค้าแจ้งขยายเวลา-คืนเที่ยวให้บัตรโดยสารที่หมดอายุช่วง 21 ธ.ค. 63- 30 ม.ค. 64

28 มกราคม พ.ศ. 2564 เวลา 22:09 น.


มีเฮ "บีทีเอส" ขยายเวลาคืนตั๋ว 6 เดือน เหตุโควิดระบาดรอบใหม่
หน้าเศรษฐกิจมหภาค / Mega Project
28 มกราคม พ.ศ. 2564 เวลา 19:05 น.


บีทีเอส. เดินหน้าขยายเวลาคืนตั๋วเที่ยวเดินทางตั้งแต่ 1 ก.พ.-31ก.ค.นี้ หลังโควิด-19 ระบาดหนัก ดันขบวนรถไฟฟ้า 98 ขบวน ออกมาให้บริการรองรับประชาชนเดินทางต่อเนื่อง

‘บีทีเอส’ขยายเวลา-คืนเที่ยวให้บัตรโดยสาร ที่หมดอายุช่วง 21 ธ.ค. 63- 30 ม.ค. 64
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันพฤหัสบดีที่ 28 มกราคม 2564 เวลา 19:53 น.
ปรับปรุง: วันพฤหัสบดีที่ 28 มกราคม 2564 เวลา 19:53 น.

“บีทีเอส”ขยายเวลาคืนเที่ยวเดินทาง ให้บัตรโดยสารที่หมดอายุช่วง 21 ธ.ค. 63- 30 ม.ค. 64 บรรเทาผลกระทบ ช่วงเกิดโควิด-19

ไม่ต้องเสียใจ! บัตรโดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอสหมดอายุ
“บิ๊กบีทีเอส”ใจดีต่อเวลา&คืนเที่ยวเดินทางให้
*เคียงข้างสู้โควิด “21 ธ.ค.63 - 30 ม.ค. 64”
*เปิดขอรับสิทธิ์ได้เลย 1ก.พ. - 31ก.ค.64 จ้า
https://www.facebook.com/TransportDailynews/posts/2826636764224490


Last edited by Wisarut on 29/01/2021 6:37 pm; edited 2 times in total
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42751
Location: NECTEC

PostPosted: 29/01/2021 12:39 pm    Post subject: Reply with quote

เปิดศึก “รถไฟฟ้าสายสีเขียว” กทม.ฟาด คมนาคม ร่อนหนังสือ 2 ประเด็น เคาะต่อสัมปทานร่วมทุน
หน้า เศรษฐกิจมหภาค / Mega Project

วันศุกร์ที่ 29 มกราคม 2564 เวลา 10:18 น.

เปิดศึก “รถไฟฟ้าสายสีเขียว” กทม.ฟาด คมนาคม ร่อนหนังสือ 2 ประเด็น เคาะต่อสัมปทานร่วมทุน

กทม.ร่อนหนังสือแจงผลเจรจา-ร่างสัญญาสัมปทานฉบับแก้ไข ยื้อปมค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียว ซัดคมนาคมไม่มีสิทธิตามกฎหมาย ลั่นเสี่ยงถูกฟ้อง ด้านกรมรางลั่นเตรียมงัดบทลงโทษ หากพรบ.กรมขนส่งทางรางออกประกาศปลายปีนี้

รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคม แจ้งว่า ที่ผ่านมากระทรวงคมนาคมได้ทำหนังสือถึงกระทรวงมหาดไทย และ กรุงเทพมหานคร (กทม.) ตั้งแต่เมื่อเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา เพื่อขอข้อมูลและเอกสารที่เกี่ยวข้องถึงโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว เช่น ผลการศึกษาของโครงการ แนวทางการกำหนดอัตราค่าโดยสาร ต้นทุนของโครงการ และเอกสารอื่นๆ เพื่อนำมาศึกษา และให้ความเห็นต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในการลดค่าโดยสารไม่เกิน 65 บาท จากเดิมที่กำหนดค่าโดยสารไว้ 158 บาท เพื่อไม่ให้เป็นภาระต่อประชาชน ขณะเดียวกันต้องไม่เกินอัตราค่าโดยสารตามแนวทางที่ระบบรถไฟฟ้าสายอื่นๆ ในสังกัดกระทรวงคมนาคมกำหนดใช้

ทั้งนี้กทม. ได้ทำหนังสือถึงกระทรวงคมนาคมแล้ว โดยได้ส่งข้อมูลเพิ่มเติมมาให้เพียง 2 ประเด็น ได้แก่
1.สรุปผลการเจรจาต่อรองกับผู้รับสัมปทาน และ
2.ร่างสัญญาร่วมลงทุนฉบับแก้ไข ส่วนประเด็นอื่นๆ โดยเฉพาะต้นทุนของโครงการ และที่มาของอัตราค่าโดยสาร ไม่ได้ส่งมาให้กระทรวงคมนาคมแต่อย่างใด




"กทม. ระบุเหตุผลที่ส่งข้อมูลเพิ่มเติมให้แค่ 2 ประเด็นว่า กทม. สามารถส่งข้อมูลและเอกสารเท่าที่ กทม. มีอำนาจในการจัดส่งเท่านั้น ซึ่งทั้ง 2 ประเด็นนี้ได้แสดงรายละเอียดข้อมูลทั้งหมดครบถ้วนในทุกเรื่องที่ต้องใช้ในการพิจารณาร่างสัญญาร่วมลงทุนฯ แล้ว ทั้งนี้ กทม. ได้แจ้งในหนังสือที่ส่งมายังกระทรวงคมนาคมด้วยว่า ในการจัดส่งข้อมูลให้แก่หน่วยงานของรัฐ กทม.จะสามารถจัดส่งได้ก็ต่อเมื่อมีกฎหมายให้อำนาจไว้อย่างชัดเจน เพราะการที่จัดส่งข้อมูลโดยที่กฎหมายไม่ได้กำหนดให้อำนาจไว้ กทม.อาจได้รับความเสียหายจากการถูกดำเนินคดีฟ้องร้องจากหน่วยงานที่มีอำนาจตามกฎหมายในการตรวจสอบ และบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลนั้นได้"
รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคม กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกันจากข้อมูลของ กทม.ที่ส่งมา ไม่สามารถให้ความคิดเห็นเพื่อเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ เนื่องจากไม่มีข้อมูลใดๆ ที่สามารถนำมาเปรียบเทียบ หรือใช้คำนวณค่าโดยสารได้ รวมทั้งปริมาณผู้โดยสาร ค่าจ้างในการเดินรถ รายได้ และรายจ่าย ฯลฯ ทั้งนี้เรื่องการทบทวนค่าโดยสารที่จัดเก็บในอัตราสูงสุดที่ 104 บาท ตั้งแต่วันที่ 16 ก.พ.64 นั้น ปัจจุบันยังไม่มีหนังสือตอบกลับมา แต่ได้ยินคำตอบผ่านสื่อเท่านั้นว่ายังยืนยันที่จะเก็บค่าโดยสารสูงสุด 104 บาทเหมือนเดิม อย่างไรก็ตามกรมการขนส่งทางราง (ขร.) ในฐานะดูแลขนส่งสาธารณะทางราง ซึ่งเป็นหน่วยงานในกำกับของกระทรวงคมนาคม ได้ทำหน้าที่เต็มที่แล้ว แต่ยอมรับว่าเวลานี้ยังไม่มีอำนาจเต็ม เพราะร่าง พ.ร.บ.กรมการขนส่งทางราง ยังไม่มีการประกาศใช้ คาดว่าน่าจะประกาศได้ภายในปลายปีนี้ เมื่อถึงเวลานั้นหาก กทม. ไม่ส่งข้อมูลมาให้จึงจะมีบทลงโทษ
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42751
Location: NECTEC

PostPosted: 31/01/2021 11:37 pm    Post subject: Reply with quote

มา!!สแกนหนังสือกทม.ตอบคมนาคมเบรกเก็บค่าโดยสาร104บาท
วันที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2564 เวลา 16:02 น.

*ส่งกลับตามมารยาทแต่เมินให้ข้อมูลรถไฟฟ้าสายสีเขียว
*อ้างไม่มีอำนาจหน่วยงาน&ผู้เกี่ยวข้องข้อมูลฟ้องร้องได้
*"เพื่อไทย"ขยี้ต่อให้ปล่อยหมดสัมปทานปี72เป็นของรัฐ
*ลุ้นศาลปกครองตัดสิน"ภูมิใจไทย"ฟ้องระงับเก็บ16ก.พ.
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42751
Location: NECTEC

PostPosted: 01/02/2021 10:28 pm    Post subject: Reply with quote

'บีทีเอส'ทวงหนี้กทม.3หมื่นล้านเดดไลน์จ่ายภายในพ.ค.64

วันจันทร์ ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564 เวลา 18:49 น.
'บีทีเอส'ร่อนหนังสือทวงหนี้'กทม.' 3 หมื่นล้าน โครงการรถไฟฟ้าสีเขียว
วันจันทร์ ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564 เวลา 19.19 น.
ด่วน! ‘บีทีเอส’ ร่อนหนังสือทวงหนี้ ‘กทม.-กรุงเทพธนาคม’ รวมมูลค่ากว่า 3 หมื่นล้าน ขีดเส้นตายจ่ายภายใน พ.ค. 64
วันจันทร์ ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

งานเข้า บีทีเอส ร่อนหนังสือทวงหนี้รถไฟฟ้าสายสีเขียว หลังกทม.ชิ่งกว่า 8.8 พันล้าน
วันจันทร์ ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564 เวลา 15:32 น.

“บีทีเอส” ร่อนหนังสือทวงหนี้ “กทม.-กรุงเทพธนาคม” รวมเบ็ดเสร็จค่าเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย-ค่าซื้อระบบการเดินรถ มูลค่ากว่า 3 หมื่นล้าน กระทบผู้ถือหุ้น-เจ้าหนี้ พร้อมแบกภาระความเสี่ยง พ่วงปมขยายสัมปทานยังไม่ชัด ขีดเส้นตายให้จ่ายหนี้ภายใน พ.ค. 64 หากเพิกเฉย จ่อดำเนินการตาม กม.
1 ก.พ. 2564 รายงานข่าวจากบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือผู้ให้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส ระบุว่า วันนี้ (1 กุมภาพันธ์ 2564) นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ได้ทำหนังสือส่งถึงกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด เรื่องขอให้ชำระค่าจ้างเดินรถและค่าซื้อระบบการเดินรถ (ไฟฟ้าและเครื่องกล) พร้อมติดตั้ง ของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย โดยได้ส่งสำเนาถึง พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ด้วย


ทั้งนี้ ในหนังสือฉบับดังกล่าว มีใจความว่า ตามที่บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ได้ทวงถามให้บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด ชำระหนี้ในการให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุงโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายที่ 1 คือ ช่วงสะพานตากสิน-บางหว้า ช่วงอ่อนนุช-แบริ่ง และส่วนต่อขยายที่ 2 คือ ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต และช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย ซึ่งมีจำนวนรวมกันทั้งสิ้น 8,899,338,642.45 บาท (แปดพันแปดร้อยเก้าสิบเก้าล้านสามแสนสามหมื่นแปดพันหกร้อยสี่สิบสองบาท สี่สิบห้าสตางค์)

ซึ่งกรุงเทพธนาคมได้มีหนังสือยอมรับสภาพหนี้ ตามที่บริษัทเรียกร้อง แต่กลับไม่มีข้อเสนอใดๆ ที่จะทำให้บริษัทมีความมั่นใจได้เลยว่า บริษัทจะได้รับชำระหนี้ที่ค้างชำระอยู่ในปัจจุบัน และในอนาคตจากกรุงเทพธนาคม หรือ กทม. ในฐานะเป็นผู้ถือหุ้นเจ้าของกรุงเทพธนาคม

บริษัทเชื่อว่า ทั้งกรุงเทพธนาคม และ กทม. ต่างตระหนักเป็นอย่างดีมาระยะหนึ่งแล้วว่า หลักการของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายที่ให้ กรุงเทพธนาคม และ กทม. เป็นผู้แบกรับความเสี่ยงในผลประกอบการ นับแต่เริ่มต้นเปิดให้บริการ การเปิดให้บริการเดินรถในโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายในรูปแบบปัจจุบัน ได้อาศัยเพียงการเรียกเก็บค่าโดยสารจากประชาชนในระดับประมาณ 15 บาท สำหรับการใช้บริการตลอดส่วนต่อขยายที่ 1 และไม่เรียกเก็บค่าโดยสารจากประชาชนสำหรับการใช้บริการส่วนต่อขยายที่ 2 โดยไม่มีเงินอุดหนุนจากภาครัฐ แต่มีต้นทุนที่ต้องแบกรับจากค่าจ้างในการให้บริการเดินรถ และซ่อมบำรุงนั้น และต้นทุนค่าซื้อระบบการเดินรถ (ไฟฟ้าและเครื่องกล)

โดยทำให้เกิดผลขาดทุนแก่กรุงเทพธนาคม และ กทม. ตลอดมาเป็นจำนวนมาก ย่อมจะทำให้กรุงเทพธนาคม และ กทม. ไม่สามารถซ่าระหนี้ที่มีอยู่กับบริษัทฯ ได้ และกลับจะมีหนี้สินเพิ่มมากขึ้นไปอีก จนถึงขั้นที่จะไม่สามารถให้บริการเดินรถในโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวได้อีกต่อไปในระยะเวลาไม่นาน เพราะบริษัทฯ ก็คงจะไม่สามารถที่จะแบกรับภาระหนี้ที่เกิดขึ้นแล้วและจะเกิดขึ้นต่อไปอีกได้

นอกจากนั้น การที่กรุงเทพธนาคม และ กทม.ได้ตัดสินใจไม่เรียกเก็บค่าโดยสารในช่วงเวลาที่ผ่านมา เนื่องจากมีความคาดหวังว่า การแก้ไขปัญหาการให้บริการเดินรถในโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาดโดยไม่ต้องใช้เงินอุดหนุนจากภาครัฐ แต่ใช้การแก้ไขสัญญา เพื่อให้การให้บริการเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว และการเรียกเก็บค่าโดยสารจากประชาชน ทั้งในโครงการส่วนหลัก คือ ช่วงหมอซิต-อ่อนนุช และช่วงสนามกีฬาแห่งชาติ-สะพานตากสิน และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย ถือเป็นโครงข่ายเดียวกัน จนเกิดผลดีแก่ประชาชนเพราะทำให้ค่าโดยสารที่จะเรียกเก็บตลอดสายลตลงได้เป็นจำนวนพอสมควร

และให้บริษัทเป็นผู้แบกรับความเสี่ยงในผลประกอบการในระยะยาวแทนการเรียกหนี้ที่ค้างชำระเอาจาก กรุงเทพธนาคม และ กทม. ซึ่งได้มีการเจรจาสำเร็จไปแล้ว ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2562 ภายใต้คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 312562 เรื่องการดำเนินโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว จะได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี โดยเร็วนั้น ก็ยิ่งทำให้กรุงเทพธนาคม และ กทม. สร้างหนี้สินกับบริษัทเพิ่มขึ้น เพราะไม่มีเงินรายได้จากโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ในขณะที่มีภาระที่จะต้องจ่ายค่าจ้างในการให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุงให้แก่บริษัท

ขณะเดียวกัน บริษัททราบจากข่าวตามสื่อต่าง ๆ ว่า สัญญารถไฟฟ้าสายสีเขียวอยู่ในระหว่างการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี แต่การที่บริษัทไม่ทราบเลยว่าคณะรัฐมนตรีมีกำหนดการที่จะพิจารณาให้แล้วเสร็จเป็นประการหนึ่งประการใดเมื่อใด ซึ่งทั้งกรุงเทพธนาคม และ กทม. ก็ไม่สามารถที่จะให้ความกระจ่างแก่บริษัทได้นั้น ทำให้บริษัทต้องตกอยู่ในสภาวะที่ลำบากมากที่เป็นอยู่นี้ต่อเนื่องออกไปอีก

ทั้งนี้ บริษัทเป็นบริษัทลูกของบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทมหาชนที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มีผู้ถือหุ้นซึ่งเป็นประชาชนร่วมลงทุนอยู่จำนวนประมาณกว่า 101,700 ราย และมีเจ้าหนี้ที่ให้เงินกู้แก่บริษัทมาประกอบธุรกิจอีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งต่างมีความเชื่อมั่นในการประกอบธุรกิจของบริษัท

การที่กรุงเทพธนาคม และ กทม.สามารถชำระหนี้ให้แก่บริษัทได้ ซึ่งคำนวณจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2563 มีจำนวนถึงกว่า 8,899,338,642.45 บาท (แปดพันแปดร้อยเก้าสิบเก้าล้านสามแสนสามหมื่นแปดพันหกร้อยสี่สิบสองบาทสี่สิบห้าสตางค์) นั้น ย่อมจะสร้างความเสียหายให้แก่บริษัท รวมทั้งผู้ถือหุ้นและเจ้าหนี้ของบริษัทเป็นอย่างมาก ซึ่งการที่บริษัทยินยอมตกลงตามหลักการของร่างสัญญาแก้ไขสัญญาสัมปทานโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวนั้น ก็เพราะเห็นว่าเป็นทางออกที่จะหยุดการที่กรุงเทพธนาคม และ กทม. จะสร้างหนี้กับบริษัทเพิ่มมากขึ้นไปอีกจากการเปิดให้บริการเดินรถในโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายในรูปแบบปัจจุบันต่อไป โดยมีรายได้ไม่เพียงพอที่จะจ่ายค่าจ้างให้แก่บริษัท

และแม้ว่าภายใต้ร่างสัญญาแก้ไขสัญญาสัมปทานโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวนั้น บริษัทจะไม่ได้รับชำระหนี้ที่ค้างชำระคืนทันที แต่หากผลประกอบการเดินรถในโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวต่อไปในระยะยาวดีขึ้น บริษัทซึ่งเป็นเป็นผู้แบกรับความเสี่ยงในผลประกอบการและเป็นผู้ให้บริการเดินรถในโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวเอง ก็จะมีโอกาสได้หนี้ที่ค้างชำระนี้คืนได้ ซึ่งถือได้ว่าเป็นมาตรการในการแก้ไขหนี้ที่แม้จะมีความเสี่ยงกับบริษัทบ้าง แต่ก็ทำให้บริษัทอยู่ในสถานการณ์ที่ดีกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบันมาก

ดังนั้น เมื่อไม่มีความแน่นอนว่าการดำเนินการตามร่างสัญญาแก้ไขสัญญาสัมปทาน โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวซึ่งอยู่ในระหว่างการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีนั้นจะเกิดขึ้นหรือไม่และเมื่อใด จึงไม่เป็นธรรมกับบริษัท หากกรุงเทพธนาคม และ กทม. จะอาศัยการที่บริษัทไม่ต้องการให้เกิดความเดือดร้อนแก่ประชาชนอันเนื่องมาจากการหยุดให้บริการการเดินรถ ทั้งๆ ที่ไม่ได้รับค่าจ้างมาเพิกเฉยไม่ชำระหนี้ที่ค้างให้แก่บริษัท และกลับจะสร้างหนี้กับบริษัทเพิ่มมากขึ้นไปอีกจากการเปิดให้บริการเดินรถในโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวต่อไป โดยไม่มีมาตรการในการจ่ายค่าจ้างที่ค้างอยู่และที่จะเกิดขึ้นใหม่มาทำความตกลงกับบริษัทให้ชัดเจน

ตามที่พอจะอนุมานได้จากหนังสือยอมรับสภาพหนี้แต่ไม่มีข้อเสนอใดๆ ของกรุงเทพธนาคม ดังได้เรียนชี้แจงมาข้างต้นแล้วนั้นว่า บริษัทมีความรับผิดชอบต่อผู้ถือหุ้นและเจ้าหนี้ของบริษัท ที่จะต้องทำการบริหารจัดการหนี้ที่ กรุงเทพธนาคม และ กทม. ค้างชำระแก่บริษัท และมีแนวทางที่ชัดเจนหากมีการที่จะต้องให้มีการสร้างหนี้เพิ่มขึ้นไปอีก โดยหนังสือฉบับนี้ บริษัทจึงขอให้กรุงเทพธนาคม และ กทม.ชำระหนี้ทั้งหมด คือ หนี้ค่าจ้างค้างซ้าระถึงวันที่ออกจดหมายฉบับนี้ ซึ่งค้างชำระมาเป็นเวลา 3 ปี 9 เดือน นับตั้งแต่เดือนเมษายน 2560 คิดเป็นเงินประมาณ 9,602,927,927.24 บาท

และหนี้ค่าซื้อระบบการเดินรถ (ไฟฟ้าและเครื่องกล) ที่จะถึงกำหนดชำระในเดือนมีนาคม 2564 คิดเป็นเงินประมาณ 20,768,979,836.13 บาท ภายใน 60 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือฉบับนี้ มิฉะนั้น บริษัทมีความจำเป็นที่จะต้องพิจารณาการใช้สิทธิตามกฎหมายและตามสัญญาของบริษัท เอากับ กรุงเทพธนาคม และ กทม. ต่อไป


Last edited by Wisarut on 02/02/2021 12:44 am; edited 4 times in total
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42751
Location: NECTEC

PostPosted: 01/02/2021 10:29 pm    Post subject: Reply with quote

กทม. เดินหน้าเก็บค่าตั๋วสายสีเขียว 15-104 บาท ยันราคานี้เหมาะสมแล้ว
อสังหาริมทรัพย์
วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 - 19:44 น.
กทม.แจงยอมขาดทุน ยันอัตราค่าโดยสารสายสีเขียว 104 บาท เหมาะสมแล้ว
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 - 21:04
ปรับปรุง: วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 - 21:04




กทม. ยอมขาดทุน เผยอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียวจาก 158 บาท เหลือ 104 บาทตลอดสาย ลดภาระประชาชนในช่วงวิกฤตการแพร่ระบาดโควิด-19
กทม.แจงยอมแบกภาระขาดทุน ปีละ 3,000-4,000 ล้านบาท ยันอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียว 104 บาท เหมาะสมแล้ว

นายประพาส เหลืองศิรินภา ผู้อำนวยการสำนักการจราจรและขนส่ง กรุงเทพมหานคร(กทม. )เปิดเผยว่า การเปิดให้บริการเดินรถโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ และหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ที่ทยอยเปิดให้บริการเดินรถมาตั้งแต่วันที่ 3 เม.ย. 2561 และเปิดให้บริการเดินรถเต็มทั้งระบบเมื่อวันที่ 16 ธ.ค. 2563

โดยในช่วงทดลองให้บริการขณะที่ยังไม่ได้เดินรถเต็มรูปแบบ ไม่ได้เรียกเก็บค่าโดยสารจากผู้ใช้บริการเป็นเวลาเกือบ 3 ปี อันเป็นการช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทางของประชาชน




เมื่อเปิดให้บริการเดินรถเต็มทั้งระบบแล้ว ประกอบกับกทม.มีภาระค่าใช้จ่ายในการเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย จึงจำเป็นต้องเริ่มเรียกเก็บค่าโดยสารจากผู้ใช้บริการในส่วนต่อขยายสายสีเขียว ตั้งแต่วันที่ 16 ก.พ. 2564 เป็นต้นไป

โดยผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนหลัก ช่วงหมอชิต-อ่อนนุช ยังคงเสียค่าโดยสารในอัตราเดิมและไม่มีการเรียกเก็บค่าแรกเข้าซ้ำซ้อนกันระหว่างโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนหลัก (หมอชิต-อ่อนนุช และสะพานตากสิน-สนามกีฬาแห่งชาติ) กับโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย (ช่วงสะพานตากสิน-บางหว้า อ่อนนุช-แบริ่ง ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ และช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต) โดยประชาชนจะจ่ายค่าแรกเข้าเพียงครั้งเดียวต่อรอบ


ทั้งนี้จากการคำนวณอัตราค่าโดยสารโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวสูงสุดตลอดสายจะรวมเป็นเงิน 158 บาท แต่เพื่อบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นกับประชาชนในสถานการณ์การระบาดของโรค COVID-19 กทม.จึงปรับลดอัตราค่าโดยสารสูงสุดตลอดสายลงมาอยู่ที่ 104 บาท ซึ่งจะส่งผลให้กทม.จะมีผลขาดทุนจากการดำเนินการส่วนต่อขยายประมาณปีละ 3,000-4,000 ล้านบาท โดยเมื่อนับรวมตั้งแต่ปี 2564 – 2572 จะมีผลขาดทุนรวมประมาณ 30,000-40,000 ล้านบาท

ที่ผ่านมากทม.ตระหนักถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับประชาชน จากการปรับอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียว โดยได้ศึกษาแนวทางการดำเนินการต่างๆ ซึ่งเห็นว่า แนวทางการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน (Public-Private Partnership: PPP) เป็นแนวทางที่เหมาะสมที่สุดในการแก้ปัญหาโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว เพื่อให้กทม.สามารถกำหนดอัตราค่าโดยสารที่ไม่เป็นภาระต่อประชาชนมากเกินไปและจะทำให้ประชาชนได้รับบริการสาธารณะที่สะดวก ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพต่อไป
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42751
Location: NECTEC

PostPosted: 02/02/2021 10:31 am    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
Mongwin wrote:
"บีทีเอส" เปลี่ยนชื่อ" สถานีศึกษาวิทยา" เป็น"เซนต์หลุยส์"
ฐานเศรษฐกิจ 23 Jan 2021 14:52 น.



รถไฟฟ้าบีทีเอสเตรียมเปิดใช้ “สถานีเซนต์หลุยส์” 8 ก.พ.นี้
อสังหาริมทรัพย์
วันที่ 26 มกราคม 2564 - 17:58 น.


8 ก.พ.รถไฟฟ้า BTS เปิด“สถานีเซนต์หลุยส์” วิ่งยาว 60 สถานี
หน้าอสังหาริมทรัพย์
วันที่ 31 มกราคม 2564 - 22:01 น.

วันที่ 8ก.พ. รถไฟฟ้า BTS เปิด ให้บริการ “สถานีเซนต์หลุยส์” เปลี่ยนชื่อจากเดิมสถานีศึกษาวิทยา สายสีเขียว วิ่งยาว 68.25 กิโลเมตร 60สถานี


นับถอยหลัง วันที่8กุมภาพันธ์ 2564 บริษัทระบบขนส่งกรุงเทพจำกัด(มหาชน )หรือBTSCผู้ให้บริการเดินรถไฟฟ้าBTSสายสีเขียว เตรียม เปิดให้บริการสถานี เซนต์หลุยส์(S4) หลังจากก่อสร้างแล้วเสร็จ 100% ส่งผลให้รถไฟฟ้าสายสีเขียว มีสถานีให้บริการรวม 60สถานี ระยะทาง68.25 กิโลเมตร ซึ่งถือเป็นเส้นทางรถไฟฟ้าที่ยาวที่สุดและมีสถานีให้บริการมากที่สุดในประเทศไทย ขณะค่าโดยสาร ทั้งระบบอาจจะแพงที่สุด 15-104บาทแต่เชื่อว่าคุ้มค่า สำหรับ สถานีเซนต์หลุยส์ หรือชื่อเดิมศึกษาวิทยา (โรงเรียนเก่าแก่ที่ถูกยกเลิกไป) ตั้ง อยู่เหนือคลองสาทร ติดถนนสาทรเหนือและสาทรใต้ บริเวณปากซอยสาทร 11 (ซอยเซนต์หลุยส์ 3) ด้านหน้าอาคารเอไอเอ ทาวเวอร์ สาธร อาคารหุ่นยนต์ ธนาคารยูโอบี สำนักสาทร และโรงแรมแอสคอทท์ กรุงเทพ สาทร ในพื้นที่แขวงสีลม เขตบางรัก และแขวงยานนาวา เขตสาทร กรุงเทพมหานคร ห่างจากสถานีช่องนนทรี 610 เมตร และห่างจากสถานีสุรศํกดิ์ 570 เมตร หรือ อยู่ กึ่งกลางระหว่างสถานี ช่องนนทรีและสถานีสุรศักดิ์ซึ่งปัจจุบันมีชุมชนขยายตึกสูงใหญ่แหล่งงาน ที่อยู่อาศัยแนวสูง เกิดขึ้น อีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางด้านเศรษฐกิจการเงินมีธนาคารชั้นนำตั้งอยู่ ที่สำคัญยังตั้งติดกับโรงพยาบาลเซนต์หลุยส์(ซอยสาทร9) สะดวกสบายต่อการเดินทางสำหรับผู้ใช้บริการในโรงพยาบาลซึ่งสามารถลงรถไฟฟ้าและเชื่อมเข้าสถานพยาบาลได้ทันที “ฐานเศรษฐกิจ”สอบถามความพร้อมการเปิดให้บริการเดินรถไฟฟ้าสถานีเซนต์หลุยส์ นายสุรพงษ์เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือBTSC ยืนยันว่าพร้อมเปิดให้บริการวันที่8กุมภาพันธ์นี้แน่นอนและ มั่นใจว่าจะมีผู้โดยสารเข้าใช้บริการจำนวนมาก จากอาคารที่เกิดขึ้นใหม่ระหว่างสถานีสุรศักดิ์กับช่องนนทรี หากไม่ก่อสร้างเพิ่มและเปิดให้บริการ BTSอาจเสียผู้โดยสารกลุ่มนี้ไป เพราะระยะห่างของ2สถานี ดังกล่าวค่อนข้างไกล
c
“ที่ผ่านมา BTS ตอกตอม้อ สถานีดังกล่าวทิ้งไว้ เดิมเคยจะก่อสร้างแต่มองว่า การพัฒนาตึกขนาดใหญ่ยังมีไม่มาก แต่เมื่อความต้องการพื้นที่มากขึ้น จึงก่อสร้างตัวสถานีเพิ่มสำหรับการก่อสร้างได้ รับอนุมัติจากกองทุนโครงสร้างพื้นฐานและร่วมกับ เอไอเอลงทุน สร้างความเจริญให้กับถนนสาทรเหนือและสาทรใต้ ที่ได้มีสถานีรถไฟฟ้าเพิ่มอำนวยความสะดวกประชาชน”
ทั้งนีหากเปิดให้บริการบีทีเอสประเมินก่อนเกิดสถานการณ์โควิดว่า เที่ยวการเดินทางเพิ่มขึ้นประมาณ 9,500 – 12,000 เที่ยว/วันในวันธรรมดา ซึ่งจะทำให้รายได้ค่าโดยสารเพิ่มขึ้นประมาณ 94ล้านบาท/ปี รายได้ค่าโดยสารหลังหักค่าใช้จ่ายคาดว่าจะเพิ่มขึ้นประมาณ 70 ล้านบาท/ปี
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42751
Location: NECTEC

PostPosted: 02/02/2021 11:35 am    Post subject: Reply with quote

“วิษณุ เครืองาม” ย้ำสายสีเขียวยังได้ไปต่อ ไม่กระทบรถไฟฟ้าสายสีชมพู
ข่าวเศรษฐกิจ
ไทยรัฐฉบับพิมพ์
วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา 09:05 น.

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีปัญหาเรื่อง ค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียว และการต่อสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว ว่าเรื่องนี้รัฐบาลยังไม่มีความคืบหน้าอะไร เมื่อถามว่าล่าสุด บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จํากัด (มหาชน) มีการยื่นหนังสือถึงผู้บริหารกรุงเทพมหานคร เพื่อให้ชำระหนี้สินค่าโดยสาร และค่าระบบที่ยังมีหนี้สินติดค้าง 30,000 ล้านบาท จะทำอย่างไร เรื่องนี้ตนยังไม่ทราบ แต่ก็ควรที่จะเป็นอย่างนั้น

เมื่อถามว่า ต้องลงไปช่วยดูข้อพิพาทหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ก็แล้วแต่ว่าจะมีใครมอบหมายหรือไม่ โดยหน้าที่แล้ว ผู้บริหารกรุงเทพมหานครและกระทรวงมหาดไทย ต้องดูแลในเรื่องนี้ ส่วนจะเกี่ยวข้องกับตนหรือไม่ รวมทั้งกรณีที่ว่า เรื่องนี้จะบานปลายไปหรือไม่ เพราะเกี่ยวกับการโดยสารของประชาชน ตนคิดว่าไม่บานปลาย

นายวิษณุ กล่าวว่า ปัญหาดังกล่าว จะส่งผลกระทบไปยังรถไฟฟ้าสายอื่นๆ ที่รอการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) หรือไม่ คงไม่กระทบเพราะทุกโครงการก็อยู่ในแผนอยู่แล้ว ส่วนรถไฟฟ้าสายสีชมพูส่วนต่อขยาย ช่วงสถานีศรีรัช-เมืองทองธานี ที่ครั้งก่อนยังไม่ได้เข้าสู่ที่ประชุม ครม. เพราะติดขัดเพียงเล็กน้อย คือไม่ได้ส่งสัญญาไปให้สำนักงานอัยการสูงสุด เมื่อสำนักงานอัยการสูงสุดทักท้วงมา ก็ต้องถอนเรื่องออกจาก ครม.ก่อน เรื่องนี้กระทรวงคมนาค มองว่าเป็นเรื่องเชิงเทคนิค ซึ่งแต่เดิมสำนักงานอัยการสูงสุดไม่ใช่หน่วยงานที่ต้องพิจารณา ทำให้กระทรวงคมนาคมไม่ได้ส่งเอกสารไปให้ แต่สำนักงานอัยการสูงสุดบอกว่า ต้องส่งมาให้พิจารณา เพื่อให้ดูว่าเป็นเรื่องเทคนิคหรือไม่

“รถไฟฟ้าสายสีชมพูส่วนต่อขยาย เข้าใจว่าจะกลับเข้ามาที่ ครม.ได้ก่อนเป็นโครงการแรก ส่วนรถไฟฟ้าสายอื่นๆที่ค้างอยู่ต้องรอก่อน”.
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42751
Location: NECTEC

PostPosted: 04/02/2021 12:48 pm    Post subject: Reply with quote

รถไฟฟ้าสายสีเขียว เข้าครม.ไม่ทัน ก่อนปรับค่าโดยสาร 104 บาท
ข่าวอสังหาริมทรัพย์

วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2564 - 11:20 น.



ทุกข์คนกทม. ต่อสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว เข้าครม.ไม่ทันก่อน ปรับค่าโดยสาร 104 บาท

วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2564 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรกรณีคณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36 แห่ง พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ร่วมทุน พ.ศ.2562 โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี ยกเลิกการประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ว่า ไม่ทราบ เนื่องจากเป็นเรื่องของกระทรวงคมนาคมและกรุงเทพมหานคร (กทม.)

ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีร่างสัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ และช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ซึ่งครม.มีมติรับทราบผลการเจรจาและร่างสัญญาฯ แล้ว เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2563 ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างของความเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะประเด็นคำถามของกระทรวงคมนาคมที่ขอความเห็นและคำตอบจากกทม. ทั้งที่ผ่านทางสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) และการสอบถามไปโดยตรงของกระทรวงคมนาคมเองซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้รับคำตอบ จะสามารถนำเข้าสู่ที่ประชุมครม.เพื่อเห็นชอบก่อนราคาค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายจะปรับขึ้นในวันที่ 16 กุมภาพันธ์นี้ เป็น 104 บาท จากที่ราคาค่าโดยสารในสัญญาสัมปทานที่ยังค้างอยู่ที่ สลค.ยังไม่เข้าครม. หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า

ไม่ทราบ เรื่องนี้ตนเคยประชุมและพอทราบว่าปัญหาคืออะไร แต่ให้เขาแก้ปัญหากันเอง การที่ฝ่ายหนึ่งถามไปอีกฝ่ายหนึ่งต้องตอบมา แต่เวลานี้ยังไม่เห็นมีการถามตอบอะไร เรื่องนี้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบแล้วว่าผูกอยู่ที่ไหนและต้องแก้ที่ปมไหน แต่ถ้ามีการถามมาก็ให้ตอบไปให้เสร็จเรื่อง และเวลานี้ยังไม่ส่งเรื่องมาที่ ครม.

“ไม่ได้กำหนด (ว่า เรื่องการต่อสัมปทานโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวจะเข้าครม.ได้เมื่อไหร่) แต่เร็วหน่อยก็เป็นการดี เพราะเกี่ยวกับประเด็นเรื่องการขึ้นค่าโดยสาร แต่ไม่ได้กำหนดว่าจะต้องเข้าครม.ก่อนที่ราคาค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายจะปรับขึ้นในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ นี้ และไม่น่าจะทันในวันดังกล่าว”
เมื่อถามว่าจะต้องใช้กฎหมายพิเศษเข้ามาช่วยเพื่อรองรับการแก้ไขหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ได้มีกฎหมายพิเศษ และไม่มีอำนาจพิเศษอะไรที่จะออกกฎหมาย


เมื่อถามว่าถึงเวลาต้องขึ้นราคาค่าโดยสารก็ต้องขึ้นใช่หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า อยู่ที่กทม.


เมื่อถามว่าครม.สามารถมีมติปรับเปลี่ยนค่าโดยสารได้หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ได้ แต่กทม.จะเป็นผู้แบกภาระค่าใช้จ่าย และเวลานี้ กทม.เขาก็ต้องแบกภาระอยู่ตั้งหมื่นล้านบาท

เมื่อถามว่าในอดีตเคยเกิดปัญหาที่ต้องขึ้นค่าโดยสารแล้วถึงเวลาไม่สามารถทำได้และต้องชะลอไว้ก่อนหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า มี แต่ไม่ใช่ชะลอไว้เฉยๆ เพราะต้องมีคนแบกภาระไว้ ถ้าขึ้นค่าโดยสารก็อยู่ที่ประชาชน ถ้าไม่ขึ้นก็ต้องมีคนรับภาระค่าใช้จ่าย อยู่ที่ว่าจะเอาเบี้ยจากกระเป๋าใคร
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42751
Location: NECTEC

PostPosted: 04/02/2021 4:31 pm    Post subject: Reply with quote

ศาลปค.ไต่สวนคดีBTSขึ้นค่าโดยสารสายสีเขียว 104 บาท 'สิริพงศ์'ชี้สร้างภาระปชช.
หน้า การเมือง
วันพฤหัสบดี ที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564 เวลา 16.22 น.

ศาลปค.ไต่สวนคดีBTSขึ้นค่าโดยสารสายสีเขียว 104 บาทตลอดสาย "สิริพงศ์"นำทีม ส.ส.ภท.เข้าให้ข้อมูล ชี้สร้างภาระปชช.-ดำเนินการไม่ชอบ ย้ำควรกลับไปยึดสัญญาเดิม 65 บาท



เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2564 ศาลปกครองออกนั่งบัลลังก์ไต่สวนคดีที่ นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย พร้อม ส.ส.พรรคภูมิใจไทย ยื่นฟ้องกรุงเทพฯ ขอให้สั่งยกเลิกประกาศกรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 29 มี.ค.2560 เรื่องค่าโดยสารโครงการระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ ส่วนต่อขยายสายสุขุมวิท ตอนที่ 1 (ซอยสุขุมวิท 95 ซอยสุขุวิท 107) ระยะทาง 5.25 กิโลเมตร และส่วนต่อขยายสายสีลม ตอนที่ 2 (ตากสิน-เพชรเกษม) ระยะทาง 6.3 กิโลเมตร ทำให้การจัดเก็บอัตราค่าโดยสารตลอดเส้นทางไม่เกิน 104 บาท ซึ่งต่อมามีประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่องการกำหนดค่าโดยสารโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว เมื่อวันที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมา ให้เรียกเก็บในอัตราเดียวกัน โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 16 ก.พ.นี้ โดยนายสิริพงศ์ เดินทางพร้อม ส.ส.ภูมิใจไทย อาทิ น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี ส.ส.บัญชีรายชื่อ , นายมณฑล โพธิ์คาย ส.ส.กทม. , นายโชติพิพัฒน์ เตชะโสภณมณี ส.ส.กทม. , นายพิษณุ พลธี ส.ส.ปทุมธานี และนายอนาวิล รัตนสถาพร ส.ส.ปทุมธานี

นายสิริพงศ์ กล่าวก่อนการเข้าไต่สวนว่า เป็นการมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับศาล โดยจะชี้ให้ศาลเห็นว่าก่อนหน้านี้ปี 2562 กทม.ได้มีการเจรจาทำสัญญากับบีทีเอส โดยสัญญากำหนดราคาไว้ที่ 65 บาทตลอดสาย เมื่อเทียบกับรถไฟฟ้าสายอื่น เช่น สายสีน้ำเงิน ตอนนี้มีค่าบริการที่ 42 บาทตลอดสาย มีประชาชนขึ้นวันละ 300,000 คน บีทีเอสก็สามารถดำเนินการได้ ดังนั้น ถ้าบีทีเอสยึดอัตราค่าโดยสารตามร่างสัญญาเดิม และมีผู้ใช้บริการสายสีเขียวที่คาดว่าจะอยู่ที่วันละ 800,000 - 1,000,000 คน ก็เชื่อว่าสามารถดำเนินการได้




ทั้งนี้ การจะตั้งราคา 104 บาทตลอดสาย ต้องคิดว่าคนคนหนึ่งเดินทางไปทำงานทั้งไปและกลับ ต้องมีการขึ้นลงหลายสถานี เท่ากับว่าภาระของเขาวันหนึ่งต้องมี 100 - 200 บาท ดังนั้น จะเป็นภาระมากสำหรับคนที่คนที่มีรายได้ปานกลางถึงรายได้น้อย และเราคาดการณ์ว่าในปี 2572 สัญญาสัมปทานของบีทีเอสในส่วนตรงกลางจะหมดลง เมื่อไม่มีภาระสัมปทานอัตราค่าโดยสารย่อมถูกลงได้อีก ดังนั้น การที่จะมาเก็บค่าโดยสาร 104 บาทตลอดสาย และตลอดอายุสัญญาสัมปทาน หากมีอะไรผิดพลาดขึ้นมา มันไม่สามารถเยียวยาประชาชนได้ทันแล้ว

นอกจากนี้ จะชี้ให้ศาลเห็นว่า ยังมีการดำเนินการไม่ชอบด้วยกฎหมาย เช่น ร่างสัญญาที่กทม.ทำกับบีทีเอส ยังไม่เคยผ่านการพิจารณาของ ครม.เลย ในอดีตมีแต่ผ่านสำนักเลขาธิการ ครม.ดังนั้น ครม.จึงยังไม่เคยเห็นเลยว่าร่างสัญญานี้กำหนดให้เก็บค่าโดยสารเท่าใด และตามมติ ครม.มีการกำหนดชัดเจนว่าการจะปรับขึ้นค่าโดยสาร กทม.จะต้องหารือกับทุกภาคส่วน ทั้ง กระทรวงคมนาคม กระทรวงการคลัง ให้ครบถ้วน เพื่อให้การเก็บค่าโดยสารไม่เป็นภาระแก่ประชาชน แต่ กทม.ก็ไม่ได้ดำเนินการตามมติ ครม.เลย ซึ่งการฟ้องครั้งนี้ทำในฐานะประชาชน และ ส.ส.ที่ทำหน้าที่แทนปวงชน หากเราไม่ฟ้องถือว่าเราทำหน้าที่ไม่สมบูรณ์
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> รถไฟฟ้า (BTS) และรถไฟฟ้าใต้ดิน (MRT) All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 118, 119, 120 ... 155, 156, 157  Next
Page 119 of 157

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©