รวมข่าวเกี่ยวกับรถไฟฟ้า BTS

[Wisarut]

เคาะแล้ว! ค่าโดยสารสายสีเขียว ‘แบริ่ง-สมุทรปราการ’ ‘หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต’

กทม.
8 สิงหาคม 2565 เวล่่า 6:00 น.'

กทม.จัดทำตารางค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายส่วนที่2 “แบริ่ง-สมุทรปราการ” และ “หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต” 14-44 บาท รวมเส้นทางหลักจัดเก็บไม่เกิน 59 บาท เตรียมประกาศค่าโดยสาร ก่อนเร่ิมเก็บกลางเดือน ก.ย. นี้


เมื่อวันที่ 7 ส.ค. นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าฯกทม. เปิดเผยถึงการเตรียมความพร้อมการจัดเก็บค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายที่2 ช่วง แบริ่ง-สมุทรปราการ และ หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ว่า สำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) กทม. ได้จัดทำตารางค่าโดยสารเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยใช้สูตร 14+2x กล่าวคือ ค่าโดยสารส่วนต่อขยายที่2 จะเริ่มเก็บอัตรา 14-44 บาท เมื่อรวมกับอัตราค่าโดยสารในเส้นทางสัมปทานหลักตรงกลาง จะเก็บอัตราสูงสุดไม่เกิน 59 บาท ทั้งนี้ กทม.เตรียมนัดเจรจากับ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรงเทพ จำกัด หรือ บีทีเอสซี เรื่องยกเว้นค่าแรกเข้าระบบเส้นทางหลักหรือเส้นทางให้สัมปทานที่เรียกเก็บเพิ่ม 16 บาท ได้หรือไม่ หาก บริษัทฯ ไม่ยินยอม กทม.จะต้องอุดหนุนงบประมาณในส่วนค่าแรกเข้าแทนผู้ใช้บริการ เมื่อได้ข้อสรุปจะเสนอเข้าที่ประชุม สภา กทม.เพื่อขอความเห็นชอบ จากนั้น กทม.จะออกประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่องกำหนดค่าโดยสารโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว แจ้งให้ประชาชนทราบล่วงหน้า คาดว่าจะเร่ิมเก็บค่าโดยสารรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย ส่วนที่2นี้ ประมาณกลางเดือน ก.ย. นี้ 


นายวิศณุ กล่าวอีกว่า การคำนวณอัตราค่าโดยสารส่วนต่อขยายโดยใช้สูตร 14+2x แทนอัตราเดิมที่จัดเก็บ 15 บาท ตลอดสาย นั้นเป็นการจัดเก็บตามระยะทางที่ใช้บริการนั่งไกลจ่ายมาก นั่งสั้นจ่ายน้อย ถือเป็นหลักการที่ถูกต้อง สากลและเป็นธรรม ปัจจุบัน การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ก็ใช้หลักการดังกล่าวด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ ยอมรับว่าหากเปรียบเทียบค่าโดยสารส่วนต่อขยาย ส่วนที่ที่2 แพงกว่าเส้นทางหลัก เพราะระยะทางไกล และสถานีมากกว่า 


อย่างไรก็ตาม แม้จะเก็บค่าโดยสารส่วนต่อขยาย ส่วนที่1 สายสีลม ช่วงสถานีสะพานตากสิน-วงเวียนใหญ่ และสถานีวงเวียนใหญ่-บางหว้า สายสุขุมวิท สถานีอ่อนนุช-แบริ่ง  และส่วนต่อขยายส่วนที่2 แบร่ิง-สมุทรปราการ และหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต  กทม.ยังต้องจ่ายเงินอุดหนุนให้กับบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด หรือ เคที ประมาณ  6,000 ล้านบาทต่อปี  ลดลงประมาณ 900 ล้านบาท จากปัจจุบันที่อุดหนุนให้เคที ประมาณ 6,900 ล้านบาท/ปี 

นอกจากนี้ กทม.ร่วมกับสภา กทม. ตั้งคณะทำงาน เพื่อพิจารณาร่างสัญญาสัมปทานโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ตามคำสั่ง คสช. มาตรา 44  ให้ขยายสัญญาสัมปทานให้กับ บริษัท บีทีเอสซี ออกไปอีก 30 ปี (2572-2602) หลังจากครบอายุสัมปทาน  ทางสภา กทม.จะมีความเห็นอย่างไร หากเห็นชอบก็ให้ดำเนินตามนั้น ส่วนถ้าไม่เห็นชอบก็จะนำเรื่องกลับมาพิจารณาทบทวนใหม่ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป ซึ่งมีหลายรูปแบบ อาทิ เปิดสัมทปานใหม่ ตาม พ.ร.บ.เอกชนร่วมทุน หรือใช้วิธีการจ้างเอกชนเดินรถ คงต้องทำให้รอบครอบ เพราะตอนนี้ยังมีเวลาพิจารณาก่อนจะหมดสัมปทานปี 2572..

[Wisarut]

กสม.แนะ‘BTS’เพิ่มห้องน้ำ-ประตูกั้นชานชาลา รองรับผู้ใช้บริการมากขึ้น

วันพฤหัสบดี ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2565 เวลา 17.29 น.


เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2565 ในการแถลงข่าวประจำสัปดาห์ของ สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) นายวสันต์ ภัยหลีกลี้ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เปิดเผยว่า ตามที่ กสม.ได้รับแจ้งเรื่องร้องเรียนเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2564 ระบุว่า ระบบขนส่งมวลชนรถไฟฟ้าบีทีเอสของบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (ผู้ถูกร้อง) ไม่มีความปลอดภัย เนื่องจากบางสถานีไม่มีประตูกั้นชานชาลา และเห็นว่ายังขาดสิ่งอำนวยความสะดวก โดยเฉพาะห้องน้ำภายในสถานีที่มีจำนวนไม่เพียงพอต่อความต้องการของประชาชนผู้ใช้บริการ และไม่ถูกสุขลักษณะ จึงขอให้ตรวจสอบ

กสม.ได้พิจารณาคำร้อง บทบัญญัติของกฎหมาย หลักสิทธิมนุษยชนและคำสั่งต่างๆ ที่เกี่ยวข้องแล้ว เห็นว่า เรื่องดังกล่าวเกี่ยวข้องกับสิทธิของผู้บริโภค ซึ่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 56 บัญญัติให้เป็นหน้าที่ของรัฐที่จะต้องจัดหรือดำเนินการให้มีสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตของประชาชนอย่างทั่วถึงตามหลักการพัฒนาอย่างยั่งยืน



ต้องดูแลมิให้มีการเรียกเก็บค่าบริการจนเป็นภาระแก่ประชาชนเกินสมควร นอกจากนี้ ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ.2522 มาตรา 4 ได้บัญญัติคุ้มครองสิทธิของผู้บริโภคที่จะได้รับความปลอดภัยจากการใช้สินค้าหรือบริการ สิทธิของผู้บริโภคที่ได้รับการรับรองไว้ข้างต้น ย่อมมีผลผูกพันให้รัฐรวมถึงหน่วยงานที่มีหน้าที่จัดบริการสาธารณะจะต้องบังคับใช้กฎหมาย ตลอดจนดำเนินมาตรการต่าง ๆ เพื่อให้การคุ้มครองสิทธิเช่นว่านั้น

ADVERTISEMENT


จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงปรากฏว่า ผู้ถูกร้องได้จัดให้มีห้องน้ำเพื่อให้บริการแก่ผู้โดยสารที่เข้ามาใช้บริการครบทั้ง 60 สถานี โดยผู้ใช้บริการสามารถแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ประจำสถานีเพื่อขอใช้บริการได้ และมีเจ้าหน้าที่ทำความสะอาดเป็นประจำ สำหรับประเด็นการติดตั้งประตูกั้นชานชาลา แม้ผู้ถูกร้องจะติดตั้งประตูกั้นชานชาลาไว้จำนวน 11 สถานี จากจำนวนสถานีทั้งหมด 60 สถานี คิดเป็นอัตราส่วนร้อยละ 18 ขึ้นอยู่กับความหนาแน่นของจำนวนผู้โดยสารแต่ละสถานี


แต่ผู้ถูกร้องได้ดำเนินการเพื่อรักษาความปลอดภัยบริเวณสถานีรถไฟฟ้าภายใต้คำแนะนำของบริษัทภายนอกและมีมาตรการลักษณะเดียวกันทุกสถานี ไม่ว่าสถานีนั้นจะมีประตูกั้นชานชาลาหรือไม่ ทั้งยังติดตั้งระบบรักษาความปลอดภัยอื่นๆ เพื่ออำนวยความสะดวกและป้องกันอันตรายให้แก่ผู้ใช้บริการ จึงเห็นว่า ผู้ถูกร้องได้ดำเนินมาตรการต่างๆ เพื่อให้การคุ้มครองสิทธิของผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอสในฐานะผู้บริโภคตามสมควรแก่กรณีแล้ว จึงไม่ถือเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนตามที่ผู้ร้องได้ร้องเรียน

อย่างไรก็ตาม มีข้อสังเกตจากการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า ห้องน้ำบริเวณพื้นที่สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสจำนวนมากเน้นให้บริการพนักงานบริษัทฯ และส่วนใหญ่ไม่มีป้ายแสดงให้ผู้ใช้บริการรับทราบว่ามีห้องน้ำให้บริการอยู่บริเวณใดของสถานี หรือหากต้องการใช้ห้องน้ำจะสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ได้อย่างไร รวมถึงการมีประตูกั้นชานชาลาเพียง 11 สถานี จาก 60 สถานี อาจทำให้ผู้ใช้บริการไม่ได้รับความสะดวกที่เพียงพอและอาจเกิดอันตรายที่ไม่คาดคิดได้ กสม. จึงเห็นควรให้มีข้อเสนอแนะในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนต่อบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้ถูกร้อง และกรุงเทพมหานคร สรุปได้ดังนี้


ให้บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพฯ ปรับปรุงและเพิ่มห้องน้ำสาธารณะที่สามารถรองรับการใช้งานของประชาชนผู้ใช้บริการได้อย่างเหมาะสมและเพียงพอต่อความต้องการใช้งานของทุกคนที่มิใช่เพียงพนักงานของบริษัทฯ และประชาสัมพันธ์แก่ผู้ใช้บริการได้รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับตำแหน่งที่ตั้งและการใช้บริการห้องสุขาภายในสถานีรถไฟฟ้าแต่ละแห่ง ทั้งนี้ให้กรุงเทพมหานคร กำกับดูแลการก่อสร้างห้องน้ำสาธารณะให้เพียงพอแก่การอำนวยความสะดวกให้ประชาชนผู้ใช้บริการระบบขนส่งมวลชนรถไฟฟ้าบีทีเอสด้วย

นอกจากนี้ ให้บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพฯ ติดตั้งประตูกั้นชานชาลาเพิ่มเติมในสถานีรถไฟฟ้า ที่มีข้อมูลแสดงให้เห็นว่ามีจำนวนผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอสในสถานีดังกล่าวมากขึ้นในระดับที่เทียบเคียงกับสถานีที่มีการติดตั้งประตูกั้นชานชาลาอยู่แล้ว
https://www.facebook.com/ddealigo/posts/2289873027854571

[Mongwin]

รถไฟฟ้าบีทีเอส
10 ต.ค. 65 10:43 น.

https://www.facebook.com/BTSSkyTrain/posts/5721036124608622

🎉ขอแสดงความยินดีกับบัณฑิต มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ทุกท่านครับ

🧐แอดมินแนะนำการเดินทางสำหรับทุก ๆ ท่านที่ไปร่วมงานพิธีพระราชทานปริญญาบัตรที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เพื่อหลีกเลี่ยงการจราจรแออัด ตั้งแต่วันที่ 10 - 13 ตุลาคม 2565

🚝 เดินทางด้วยรถไฟฟ้าบีทีเอส สะดวกสุด ๆ ซื้อตั๋วโดยสารบีทีเอส ลงที่สถานีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ใช้ทางออกที่ 1 รถไฟฟ้าจอดส่งที่ด้านหน้ามหาวิทยาลัย ฝั่งประตูพหลโยธินเลยครับ

📲 สอบถามรายละเอียด เส้นทางการเดินทางกับแอดมินได้ที่ 👉🏻 LINE @btsskytrain หรือ bit.ly/2TUzZXH

[Mongwin]

รถไฟฟ้าบีทีเอส
12 ต.ค. 65 09:25

https://www.facebook.com/BTSSkyTrain/posts/5726771014035133

📖สิ้นสุดกับการรอคอยหนอนหนังสืออย่างเราไม่ควรพลาด พบกับหนังสือมากมายจากหลายสำนักพิมพ์ในงานมหกรรมหนังสือระดับชาติครับ แอดมินไม่พลาดแน่นอน

🐛น้องบีชวนเที่ยวงานมหกรรมหนังสือระดับชาติ BOOK EXPO THAILAND 2022 ครั้งที่ 27

วันที่ 12-23 ตุลาคมนี้
ตั้งแต่เวลา 10.00 - 21.00 น.
📍EXHIBITION HALL 5-7 ชั้น LG ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

🚝สามารถเดินทางด้วยรถไฟฟ้าบีทีเอส ลงสถานีอโศก(E4) ต่อด้วย MRT ลงสถานีศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ใช้ทางออก ที่ 3 เดินผ่านอุโมงค์ทางเชื่อมเข้างานหนังสือได้เลยครับ

[Wisarut]

วิจารณ์สนั่น! ป้าดึงคันโยกฉุกเฉิน BTS ทำวุ่นทั้งขบวน พร้อมบอกเหตุผลสุดพีก "ขึ้นผิดขบวน"
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันที่ 16 ตุลาคม 2565 เวลา 14:03
ปรับปรุง: วันที่ 16 ตุลาคม 2565 เวลา 14:03

ผู้โดยสารแตกตื่น เจอผู้โดยสารรายหนึ่งดึงคันโยกฉุกเฉิน 3-4 ครั้งบนรถไฟฟ้า BTS กับเหตุผลที่ว่า "ขึ้นผิดขบวน" ชาวเน็ตแนะตามตัวมาลงโทษ หวั่นเกิดพฤติกรรมเลียนแบบ

เมื่อวันที่ 14 ต.ค. มีผู้ใช้เฟซบุ๊ก "Chanachai Manucham" ได้ออกมาเล่าเหตุการณ์ขณะโดยสารรถไฟฟ้า BTS แต่จู่ๆ มีคุณป้าผู้โดยสารรายหนึ่งเดินไปดึงคันโยกฉุกเฉิน 3-4 ครั้งเพราะ "ขึ้นผิดขบวน" โดยผู้โพสต์ระบุข้อความว่า " มีป้ามาดึงคันโยกฉุกเฉิน 3-4 ทีเพราะขึ้นผิดขบวน อหๆ พอประตูเปิดนางก็วิ่งออกไปเลย ชะงักกันไปหมด" อย่างไรก็ตาม โพสต์ดังกล่าวมีชาวเน็ตเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์กันเป็นจำนวนมาก

ล่าสุดวันนี้ (16 ต.ค.) เพจ "รถไฟฟ้าบีทีเอส" ได้โพสต์ข้อความระบุว่า "ขึ้นขบวนรถไฟฟ้าผิดฝั่งไม่เป็นไร ลงสถานีถัดไปเปลี่ยนเส้นทางได้ แต่งดดึงคันโยกฉุกเฉินนะครับ สำหรับคันโยกฉุกเฉิน (PER - Passenger Emergency Release พีอีอาร์) ใช้ในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน ไม่ต้องการให้รถเคลื่อนที่ไปข้างหน้า หรือต้องการเปิดประตูเมื่อมีเหตุฉุกเฉินเท่านั้นครับ

การดึงคันโยกฉุกเฉิน (PER) จะไม่ทำให้ขบวนรถหยุดทันที แต่จะหยุดเมื่อถึงสถานีถัดไป และส่งผลให้การเดินรถเกิดความล่าช้า เพราะเจ้าหน้าที่จะต้องรีเซตขบวนรถใหม่ครับ

ปุ่มกระดิ่ง (PCU - Passenger Communication Unit พีซียู) กดปุ่มติดต่อพูดคุยกับพนักงานควบคุมรถไฟฟ้าโดยตรง เพื่อขอความช่วยเหลือเมื่อพบคนเป็นลม หรือแจ้งเหตุในขบวนรถครับ

เน้นย้ำ! เน้นย้ำ! เน้นย้ำ! หากพบเหตุฉุกเฉินในขบวน คนเป็นลม ผู้ป่วย ในขบวนรถ โปรดกดปุ่มกระดิ่งแจ้งเจ้าหน้าที่ และงดดึงคันโยกฉุกเฉิน (PER) นะครับ"
https://www.facebook.com/mybooneo/posts/10220039840523173
https://www.facebook.com/BTSSkyTrain/posts/5738978209481080

BTS แจงไม่พบตัว ‘ป้า’ ดึงคันโยกฉุกเฉิน เน้นย้ำ เน้นย้ำ เน้นย้ำ พบเหตุฉุกเฉิน กดปุ่ม ‘กระดิ่ง’
วันที่ 16 ตุลาคม 2565 เวลา 18:10 น.
รถไฟฟ้า BTS ยันไม่พบตัว ‘ป้า’ ดึงคันโยกฉุกเฉิน เน้นย้ำ เน้นย้ำ เน้นย้ำ พบเหตุฉุกเฉิน กดปุ่ม ‘กระดิ่ง’

จากกรณีที่ ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง เผยเรื่องระทึกบนรถไฟฟ้าบีทีเอส (BTS) ซึ่งมีคุณป้ารายหนึ่งดึงคันโยกฉุกเฉิน 3-4 ครั้ง เนื่องจากขึ้นรถผิดขบวน และเมื่อประตูเปิดได้วิ่งออกไปทันที

ล่าสุด วันนี้ (16 ตุลาคม) เพจรถไฟฟ้าบีทีเอส ได้ประชาสัมพันธ์ถึงเรื่องที่เกิดขึ้นอีกครั้ง พร้อมยืนยันว่า ขึ้นขบวนรถไฟฟ้าผิดฝั่งไม่เป็นไร ลงสถานีถัดไปเปลี่ยนเส้นทางได้ แต่งดดึงคันโยกฉุกเฉิน

🚨 คันโยกฉุกเฉิน (PER – Passenger Emergency Release พีอีอาร์) ใช้ในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน ไม่ต้องการให้รถเคลื่อนที่ไปข้างหน้า หรือต้องการเปิดประตูเมื่อมีเหตุฉุกเฉินเท่านั้นครับ


🚫 การดึงคันโยกฉุกเฉิน (PER) จะไม่ทำให้ขบวนรถหยุดทันที แต่จะหยุดเมื่อถึงสถานีถัดไป และส่งผลให้การเดินรถเกิดความล่าช้า เพราะเจ้าหน้าที่จะต้องรีเซ็ตขบวนรถใหม่ครับ



🔔 ปุ่มกระดิ่ง (PCU – Passenger Communication Unit พีซียู) กดปุ่มติดต่อพูดคุยกับพนักงานควบคุมรถไฟฟ้าโดยตรง เพื่อขอความช่วยเหลือเมื่อพบคนเป็นลม หรือแจ้งเหตุในขบวนรถครับ

🙏🏼เน้นย้ำ!! เน้นย้ำ!! เน้นย้ำ‼ หากพบเหตุฉุกเฉินในขบวน คนเป็นลม ผู้ป่วย ในขบวนรถ โปรดกดปุ่มกระดิ่งแจ้งเจ้าหน้าที่ และงดดึงคันโยกฉุกเฉิน (PER) นะครับ

📲แจ้งเหตุ สอบถามแอดมิน แอดไลน์ @BTSSkyTrain คลิก

นอกจากนี้ เพจรถไฟฟ้าบีทีเอสยังตอบข้อสงสัยที่มีผู้สอบถามว่า “ไม่ตามตัวมาเสียค่าปรับหรือ?” ว่า จากการตรวจสอบไม่พบผู้โดยสารท่านดังกล่าวแล้ว เจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบและแก้ไขตามขั้นตอน

อย่างไรก็ตาม กรณีขึ้นขบวนรถไฟฟ้าผิดฝั่ง หรือเหตุฉุกเฉินอื่นๆ ในขบวนรถไฟฟ้าให้ “กดปุ่มกระดิ่ง” แจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อรับคำแนะนำ เพราะการดึงคันโยกฉุกเฉินสีแดงนั้น เจ้าหน้าที่จะต้องมีการตรวจสอบสาเหตุแก้ไข ซึ่งจะต้องใช้เวลา และจะส่งผลกระทบต่อการให้บริการทั้งระบบ

ขณะเดียวกันยังขอบคุณคำแนะนำที่ให้โพสต์ส่งตามกลุ่มไลน์ ซึ่งเพจรถไฟฟ้าบีทีเอสมองว่าจะทำเป็น “ซีรีส์สวัสดีตอนเช้า”

[Wisarut]

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ที่ประชุม สภากรุงเทพมหานคร วันพรุ่งนี้ (26 ต.ค. 2565) จะมีการพิจารณากรณีรถไฟฟ้าสายสีเขียว 2 เรื่อง คือ
1. ค่าโดยสารของส่วนต่อขยายส่วนที่ 2 ช่วงหมอชิต-คูคต และช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ โดยกรุงเทพมหานครเสนอให้จัดเก็บค่าโดยสาร 15 บาทตลอดสาย ซึ่งหากสภากรุงเทพมหานครเห็นชอบจะมีการสั่งการต่อไปยังบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด(KT) ให้มีการจัดเก็บค่าโดยสาร ซึ่งทาง KT จะแจ้งแก่เอกชนผู้ดำเนินการต่อไป คือใช้ระยะเวลาประมาณ 1 เดือนนับจากสภากรุงเทพมหานครเห็นชอบ
2. กรณีตอบกลับหนังสือขอความเห็นเกี่ยวกับการดำเนินการโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ของกระทรวงมหาดไทยนั้น เมื่อสภากรุงเทพมหานครให้ความเห็นแล้ว จะมีการตอบกลับหนังสือต่อไป
สำหรับความเห็นของผู้บริหารกรุงเทพมหานครมี 2 ความเห็น คือ
1. เห็นว่าไม่ควรมีการต่อสัมปทานโดยคำสั่งคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ ที่ 3/2562 แต่ควรต่อสัมปทานโดยใช้วิธีการตามพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ.2562
2. ขออุดหนุนค่าใช้จ่ายโครงสร้างงานโยธาของส่วนต่อขยายส่วนที่ 2 ช่วงหมอชิต-คูคต และช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ เนื่องจากรถไฟฟ้าสายอื่นๆ มีการขออุดหนุนค่าใช้จ่ายโครงสร้างโยธาเช่นกัน
ด้านนายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวเสริมว่า ในการขออุดหนุนค่าโครงสร้างงานโยธานั้นเป็นกรณีปกติของการก่อสร้างรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน ซึ่งปัจจุบันค่าโครงสร้างงานโยธา รถไฟฟ้าส่วนต่อขยายส่วนที่ 2 กรุงเทพมหานครรับโอนหนี้จากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยประมาณ 5.8-5.9 หมื่นล้านบาทรวมดอกเบี้ย
หากรัฐบาลไม่เห็นด้วยในการขออุดหนุน กรุงเทพมหานครมีแนวทางคือ การเจรจาเพื่อที่จะโอนรถไฟฟ้าสายสีเขียวทั้งสายทั้ง 3 ส่วนได้แก่
ส่วนสัมปทานช่วงหมอชิต-อ่อนนุช และช่วงสนามกีฬาแห่งชาติ-สะพานตากสิน
ส่วนต่อขยายที่ 1 ช่วงอ่อนนุช-แบริ่ง และช่วงสะพานตากสิน-บางหว้า
ส่วนต่อขยายที่ 2 ช่วงหมอชิต-คูคต และช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ให้กับรัฐบาล
ทั้งนี้ จะมีเงื่อนไขบางประการ เช่น ของบประมาณชดเชย กำหนดเพดานค่าโดยสาร เป็นต้น
https://www.thebangkokinsight.com/news/business/974145/

[Mongwin]

[Wisarut]

ชัชชาติ ผ่าทางตันค่ารถไฟฟ้าสายสีเขียว ขอเงินรัฐบาลจ่ายส่วนต่อขยาย
ในประเทศ
วันที่ 25 ตุลาคม 2565 - 13:37 น.


“ชัชชาติ” ผ่าทางตัน แก้หนี้โครงสร้างงานโยธารถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายที่ 2 ยื่นคำขาดขออุดหนุนรัฐบาล ถ้าไม่ให้พร้อมโอนคืนทั้งสายให้รัฐบาล

วันที่ 25 ตุลาคม 2565 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงกรณีรถไฟฟ้าสายสีเขียว ซึ่งจะมีการนำเรื่องเสนอในสภากรุงเทพมหานครในวันพรุงนี้ (26 ต.ค. 65)

สื่อเอเชียเผยอีกคลิป จังหวะก่อน หูจิ่นเทา ถูกนำตัวพ้น สีจิ้นผิง ย้ำข้อสงสัย
ซีอีโอ เจพีมอร์แกน เตือนเรื่องที่น่าวิตกยิ่งกว่า เศรษฐกิจถดถอย
กระหึ่มอินโดนีเซีย “บราซิล” คว้ามงทอง มิสแกรนด์ อิงฟ้า คว้ารองอันดับ 1
โดยนายชัชชาติกล่าวว่า เรื่องที่จะเสนอในสภากรุงเทพมหานครนั้น จะมีอยู่ 2 เรื่องคือ เรื่องแรกกรณีค่าโดยสารของส่วนต่อขยายส่วนที่ 2 ช่วงหมอชิต-คูคต และช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ โดยกรุงเทพมหานครเสนอให้จัดเก็บค่าโดยสาร 15 บาทตลอดสาย

ซึ่งหากสภากรุงเทพมหานครเห็นชอบจะมีการสั่งการต่อไปยังบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด (KT) ให้มีการจัดเก็บค่าโดยสาร ซึ่งทาง KT จะแจ้งแก่เอกชนผู้ดำเนินการต่อไป คือใช้ระยะเวลาประมาณ 1 เดือนนับจากสภากรุงเทพมหานครเห็นชอบ



เรื่องที่ 2 กรณีตอบกลับหนังสือขอความเห็นเกี่ยวกับการดำเนินการโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ของกระทรวงมหาดไทยนั้น เมื่อสภากรุงเทพมหานครให้ความเห็นแล้ว จะมีการตอบกลับหนังสือต่อไป

โดยความเห็นของผู้บริหารกรุงเทพมหานครนั้นมี 2 ความเห็นคือ

1.เห็นว่าไม่ควรมีการต่อสัมปทาน โดยคำสั่งคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ ที่ 3/2562 แต่ควรต่อสัมปทานโดยใช้วิธีการตามพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562


2.ขออุดหนุนค่าใช้จ่ายโครงสร้างงานโยธา ของส่วนต่อขยายส่วนที่ 2 ช่วงหมอชิต-คูคต และช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ เนื่องจากรถไฟฟ้าสายอื่น ๆ ก็มีการขออุดหนุนค่าใช้จ่ายโครงสร้างโยธาเช่นกัน

นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวเสริมว่า ในการขออุดหนุนค่าโครงสร้างงานโยธานั้น เป็นกรณีปกติของการก่อสร้างรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน ซึ่งปัจจุบันค่าโครงสร้างงานโยธา รถไฟฟ้าส่วนต่อขยายส่วนที่ 2 กรุงเทพมหานครรับโอนหนี้จากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยประมาณ 5.8-5.9 หมื่นล้านบาทรวมดอกเบี้ย


ซึ่งหากรัฐบาลไม่เห็นด้วยในการขออุดหนุน กรุงเทพมหานครมีแนวทางคือการเจรจาเพื่อที่จะโอนรถไฟฟ้าสายสีเขียวทั้งสาย คือ 3 ส่วน ได้แก่ ส่วนสัมปทานช่วงหมอชิต-อ่อนนุช และช่วงสนามกีฬาแห่งชาติ-สะพานตากสิน ส่วนต่อขายที่ 1 ช่วงอ่อนนุช-แบริ่ง และช่วงสะพานตากสิน-บางหว้า และส่วนต่อขยายที่ 2 ช่วงหมอชิต-คูคต และช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ให้กับรัฐบาล โดยมีเงื่อนไขบางประการ เช่น ของบประมาณชดเชย กำหนดเพดานค่าโดยสาร ฯลฯ

[Wisarut]

[Mongwin]

1พ.ย.ให้นั่งฟรี 'ชัตเติลบัส'2สาย
Source - ข่าวสด
Monday, October 31, 2022 04:23

กทม. - นายประพาส เหลืองศิรินภา ผู้อำนวยการสำนักการจราจรและขนส่ง(สจส.) กรุงเทพมหานคร กล่าวความคืบหน้าโครงการให้บริการนำส่งผู้โดยสารเข้าสู่ระบบขนส่งทางราง โดยรถเวียน (Shuttle bus) จำนวน 2 เส้นทาง ได้แก่ เส้นทางชุมชนเคหะร่มเกล้า-แอร์พอร์ตเรลลิงก์ (เออาร์แอล) ลาดกระบัง และเส้นทางดินแดง-บีทีเอส สนามเป้า ว่า ขณะนี้ บริษัทรถไฟฟ้า (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งกทม. โดยสจส.ได้ทำสัญญาว่าจ้าง เป็นผู้จัดหา ผลิตรถ และเดินรถชัตเติลบัส ได้ดำเนินการผลิตรถชัตเติลบัส จำนวน 11 คัน เสร็จเรียบร้อย หลังเกิดความล่าช้ากว่าสัญญาที่กำหนดจะเปิดให้บริการ ตั้งแต่ เดือนสค. ที่ที่ผ่านมา เนื่องด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาด โรคโควิด-19 ส่งผลให้โรงงานผลิตระบบไฟฟ้าและ แบตเตอรี่ ที่จะนำมาติดตั้งภายในตัวรถโดยสาร ในประเทศจีน ต้องหยุดการผลิตชั่วคราวเป็นเหตุให้ โครงการเปิดให้บริการล่าช้า

นายประพาสกล่าวว่า หลังจากโรงงานได้เปิดการผลิตและส่งวัสดุ อุปกรณ์ให้ทางบริษัท รถไฟฟ้า เพื่อประกอบติดตั้งระบบจนแล้วเสร็จ เรียบร้อยจากนั้นได้ทดสอบระบบและการเดินรถ เพื่อให้เกิดความมั่นใจกระทั่งพร้อมเปิดให้บริการทั้ง 2 เส้นทางดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.นี้เป็นต้นไป ระหว่างเวลา 06.00-20.00 น. โดยไม่เก็บค่าโดยสารระยะเวลาให้บริการ 630 วัน

สำหรับรถโดยสารชัตเติลบัส ชุมชนเคหะร่มเกล้า-เออาร์แอล ลาดกระบัง มีรถวิ่งให้บริการจำนวน 5 คัน ระยะทาง 16.2 กม. วงเงิน ค่าจ้าง 17.77 ล้านบาท จุดจอดรับส่งผู้โดยสาร ได้แก่สวน 60 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ซอยเคหะร่มเกล้า 30 สถานีรถไฟฟ้าเออาร์แอล ลาดกระบัง ซอยเคหะร่มเกล้า 4 ส่วนเส้นทางดินแดง-บีทีเอส สนามเป้า จำนวนรถ 6 คัน ระยะทาง 10.1 กม. วงเงิน 19.90 ล้านบาท จุดจอดรถ ที่ศาลาว่าการกทม. 2 ดินแดง สถานีบีทีเอส สนามเป้า โรงพยาบาลผ่านศึก โรงเรียนรักษาดินแดน และโรงเรียนสุรศักดิ์มนตรี กำหนดความถี่ 15-20 นาที ตามช่วงเวลา

บรรยายใต้ภาพ

ประพาส เหลืองศิรินภา

ที่มา: นสพ.ข่าวสด ฉบับวันที่ 31 ต.ค. 2565



"คีรี" เตือน "นายกฯ-ผู้ว่าฯกทม." อย่าลอยตัว จี้รับผิดชอบปมค้างจ่ายค่าเดินรถบีทีเอส
สยามรัฐออนไลน์ 1 พฤศจิกายน 2565 22:20 น. การเมือง

"คีรี" ถาม "นายกฯ-ผู้ว่าฯกทม." อย่าลอยตัวรับผิดชอบปมค้างจ่ายค่าเดินรถบีทีเอส ยกคำสั่งศาลตัดสินแล้ว เหน็บไม่ใช่นักการเมืองยังไม่ใช้ม.157 เล่นงานนักการเมืองที่เกี่ยวข้อง

วันที่ 1 พ.ย.65 ที่พรรคชาติไทย นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ให้สัมภาษณ์ เรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เข้ามาดำเนินการและแก้ไขต่อประเด็นที่กทม. ค้างจ่ายค่าจ้างบีทีเอสในการบริหารการเดินรถไฟฟ้าบีทีเอส โดยไม่ลอยตัวหรือโยนปัญหา ทั้งนี้ตามที่ศาลปกครองมีคำสั่งให้กทม.​ต้องจ่ายค่าจ้างนั้นถูกกำหนดเวลาไว้แล้ว ตนจึงเชื่อว่ากระแสข่าวที่จะยุบสภานั้นไมมีผลกระทบต่อการชำระค่าจ้าง

“ผมให้เวลาผู้ว่ากทม.ฯ ได้เรียนรู้ สืบ เสาะ และเชื่อว่าคงมีการตัดสินใจได้แล้ว เรื่องนี้ตอนนี้พล.อ.ประยุทธ์ใช้ มาตรา 44 พอเลือกตั้ง ท่านมาเป็นรัฐบาลและท่านเองเป็นนายกฯปัจจุบัน ขออย่างเดียวอย่า ปล่อยลอยไปลอยมา

ทั้งกทม. หรือ ครม. หรือนายกฯ ขอความกรุณาจะเอาอย่างไร สิ่งที่ทำได้ทำคือ ไม่ทำให้ประชาชนเดือดร้อน ผมรับปากประชาชนจะไม่หยุดรถ เพราะความเสียหายเกิดกับประชาชน ไม่ใช่นักการเมือง ดังนั้นนักการเมือง ผู้มีอำนาจ ผู้บริหารประเทศกทม. หรือนักการเมือง อย่าอ้างสิ่งที่ไม่เข้าใจหรือพยายามไม่เข้าใจ เพราะจะเป็นการกลั่นแกล้ง

สิ่งที่ต้องจ่ายสี่หมื่นกว่าล้านบาท และมีดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นทุกวัน ผู้มีอำนาจที่คิดได้ ดอกเบี้ยต้องจ่าย ใช้เงินภาษีประชาชนมาจ่ายประชาชนเสียหาย" นายคีรี กล่าว

นายคีรี กล่าวด้วยว่า สิ่งที่พิจารณา 3 ปีกว่า อย่าพูดเป็นเล่น ตนเป็นเอกชนลงทุนสุจริต คิดถึงประชาชน คนที่อยู่ในอำนาจทำบางอย่างได้แล้ว อย่าอ้อมไปอ้อมมา ซึ่งตนเชื่อว่าวันนี้ประชาชนเข้าใจว่าใครทำอะไรอยู่ ตอนนี้ศาลสั่งไว้แล้ว ต้องจ่ายตามสัญญาหากไม่สะดวกจ่ายจะเอาอะไรมาต่อรองว่ากันไม่ใช่มาเฉยๆเอกชนต้องจ่ายทุกวัน ต้องลงทุนทุกวัน โยนกันไปมาแบบนี้ เชื่อว่าประชาชนคงเข้าข้างตน ทุกวันนี้เกิดขึ้นความเสียหายคือประชาชนไม่ใช่นักการเมือง

เมื่อถามว่าขณะนี้ได้พิจารณาประเด็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ และเอาผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ไว้หรือไม่ นายคีรี กล่าวว่า “อย่าเล่นๆกับกฎหมายนี้ ท่านพิจารณาได้เองว่าเข้าหมวดนั้นหรือไม่ เอกสิทธิของประชาชนมีสิทธิฟ้องร้อง

ส่วนกรณีที่จะเทียบเคียงคดีของนายนิพนธ์ บุญญามณี อดีตรมช.มหาดไทย กรณีละเว้นไม่จ่ายค่าซ่อมรถบำรุงทางเอนกประสงค์ได้หรือไม่นั้น ผมยังไม่ได้ศึกษา ไม่เข้าใจว่าเหมือนกันหรือไม่ แต่สิ่งที่แน่นอนคือ หาก ครม. หรือนักการเมืองผู้ใดพยายามใช้วิธีการกลั่นแกล้ง ผมมีสิทธิที่จะฟ้องร้อง”

นายคีรี ยังให้ความเห็นต่อการต่อสู้กรณีที่ล้มประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม บางขุนนนท์ - มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ว่า “ผมพูดไม่ว่าใครต้องรับผิดชอบ ทั้งรัฐบาล หรือรัฐมนตรีในรัฐบาล แต่ต้องรับผิดชอบ เพราะท่านต้องศึกษา ทั้งการเปลี่ยนทีโออาร์ กรณีที่ 2 ปีก่อนไม่ล้มประมูลไป จะมาต่อว่าผมไม่ได้ เพราะผมสู้เพื่อผลประโยชน์ประชาชน"

เมื่อถามถึงมุมมองการบริหารจัดการรถไฟฟ้าในกทม. นายคีรี กล่าวว่า ตนไม่มีอะไรแนะนำ แต่รู้ว่าไม่ดีพอ อาจจะดีกว่านี้ ถ้ามีเครือข่ายดี ส่วนกรณีที่พูดเรื่องค่าโดยสารราคาถูก ตนมองว่าทำให้ราคาถูกได้ หากรัฐบาลเข้ามาสนับสนุน อย่างน้อย 10 บาท เพื่อให้ประชานไม่มีภาระ แต่อย่าให้เอกชนพยายามทำเพราะทำไม่ได้ เนื่องจากมีต้นทุนการบริหารจัดการ

จากนั้นนายคีรี ถามกับผู้สื่อข่าวว่า "ลดเงินเดือนลงได้ไหมล่ะ สวัสดี”