WINTER TRILOGY ปฎิบัติการฝ่าลมหนาวข้ามปี

[ExtendeD]

ต่อจากนั้นขบวนที่ 71 ก็เข้าหยุดรับ - ส่งผู้โดยสาร ณ สถานีสระบุรี ดินแดนแห่งกระหรี่ปั๊บ เมื่อเวลา 12:07 น. ( +4 ) มาถึงตอนนี้ยังไม่มีวี่แววของ ขบวนรถธรรมดาที่ 234 ต้นทางสถานีสุรินทร์ - ปลายทางสถานีกรุงเทพ เลยครับ กว่าจะได้ยินเสียงและมองเห็นตัว Alsthom ที่ทำขบวนที่ 234 วิ่งผ่านไปก็ต้องรอให้ขบวนที่ 71 วิ่งผ่านไปถึงบริเวณใกล้ ๆ กับ สถานีหนองบัว ครับ ( วันนั้นขบวนที่ 234 ล่าช้า )

แล้วขบวนที่ 71 ก็มาหยุดรับ - ส่งผู้โดยสารที่ สถานีชุมทางแก่งคอย เวลา 12:17 น. ( +3 ) จากนั้นก็ไต่ขึ้นเนินมาบกะเบา แล้วก็ไต่เขาไปตามทางเรื่อย ๆ จนกระทั่งถึง สถานีผาเสด็จ ผมก็เห็น ขบวนรถด่วนดีเซลรางปรับอากาศที่ 72 ต้นทางสถานีศีขรภูมิ - ปลายทางสถานีกรุงเทพ จอดรอหลีกอยู่ ( ทุกครั้งที่เห็นมักจะไปหลีกกันที่ สถานีมาบกะเบา )

ตอนที่วิ่งผ่าน สถานีหินลับ ก็เห็นรถจักรดีเซลไฟฟ้า General Electric ( GEA. ) หมายเลข 4534 ที่กำลังทำขบวนรถบซล. TPI. เที่ยวขึ้นไม่ทราบปลายทาง จอดรอหลีกอยู่ที่นี่ด้วย หลังจากนั้นก็ไม่ได้ทำอะไรเลย ได้แต่นั่งมองวิวข้างทางไปเรื่อย ๆ สักพักขบวนที่ 71 ก็มาถึง สถานีปากช่อง เมื่อเวลา 13:35 น. ( +10 ) ครับ




นี่เป็นภาพบรรยากาศภายใน กซข.ป.2521 หลังจากที่ขบวนรถวิ่งออกจาก สถานีปากช่อง ได้ไม่นาน เท่าที่เห็นก็มีผู้โดยสารเต็มทุกที่นั่งครับ


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

หลังจากออกจาก สถานีปากช่อง มา ช่วงเวลาที่คิดว่าน่าสนใจก็มีตอนที่
- ขบวนรถเร็วที่ 136 ต้นทางสถานีอุบลราชธานี - ปลายทางสถานีกรุงเทพ ที่ได้รถจักรดีเซลไฟฟ้า General Electric ( GEA. ) หมายเลข 4547 ทำขบวนมา รอหลีกอยู่ที่ สถานีคลองไผ่
- ขบวนที่ 71 มาถึง สถานีนครราชสีมา เวลา 14:45 น. ( +18 ) โดยหยุดรับ - ส่งผู้โดยสารในรางที่ 2
- รถจักรดีเซลไฟฟ้า Alsthom ( ADD. ) MTU. หมายเลข 4404 ทำ ขบวนรถเร็วที่ 146 ต้นทางสถานีอุบลราชธานี - ปลายทางสถานีกรุงเทพ เข้าหยุดรับ - ส่งผู้โดยสารที่ สถานีนครราชสีมา ในรางที่ 3
- ขบวนที่ 71 เคลื่อนขบวนออกจาก สถานีนครราชสีมา เวลา 14:54 น. ( +11 ) และไปถึง สถานีชุมทางถนนจิระ 14:57 น. ( +11 )
- มาถึง สถานีจักราช เวลา 15:26 น. ( +13 ) มี ขบวนรถท้องถิ่นที่ 427 ต้นทางสถานีนครราชสีมา - ปลายทางสถานีอุบลราชธานี จอดรอให้แซงอยู่ที่นี่ด้วย ( ขบวนที่ 427 วันนั้นดูแปลกตาดีครับ . . . )
- แล้วก็เข้าหยุดรับ - ส่งผู้โดยสารที่ สถานีห้วยแถลง เวลา 15:45 น. ( +11 ) สถานีลำปลายมาศ เวลา 15:59 น. ( +9 ) สถานีบุรีรัมย์ เวลา 16:22 น. ( +8 ) สถานีห้วยราช เวลา 16:30 น. ( +? ) สถานีกระสัง เวลา 16:39 น. ( +3 )

ตอนที่ขบวนที่ 71 มาถึง สถานีหนองเต็ง ก็ถูกกักให้เข้าไปจอดรอในรางหลีกครับ




ส่วนขบวนรถที่วิ่งสวนมาในทางประธานก็คือ ขบวนรถด่วนพิเศษดีเซลรางปรับอากาศที่ 22 ต้นทางสถานีอุบลราชธานี - ปลายทางสถานีกรุงเทพ ที่ผ่าน สถานีหนองเต็ง ไปเมื่อเวลา 16:52 น. ช้าเล็กน้อยไม่น่าจะเกิน 10 นาทีครับ


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

พอเคลื่อนขบวนออกจาก สถานีหนองเต็ง ขบวนที่ 71 ก็หยุดรับ - ส่งผู้โดยสารที่ สถานีลำชี เมื่อเวลา 16:59 น. ( +? ) ( จอดอย่างกับรถเร็ว . . . ) แล้วก็มาถึง สถานีสุรินทร์ ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางของหม่าม้าและอาอี๊ เวลา 17:08 น. ตรงตามกำหนดเวลาพอดีเลยครับ ( เผื่อเวลาเอาไว้ซะเยอะเลย )




ต่อจากนั้นผมก็ไปส่งหม่าม้ากับอาอี๊เข้าพักที่โรงแรมแห่งหนึ่ง แล้วก็กลับมารอเดินทางไปบุรีรัมย์กับ ขบวนรถเร็วที่ 144 ต้นทางสถานีอุบลราชธานี - ปลายทางสถานีกรุงเทพ ครับ รูปนี้ถ่ายเอาไว้เมื่อเวลา 17:49 น. ฟ้ายังไม่มืดเท่าไหร่ แต่ทางสถานีก็เปิดไฟส่องสว่างแล้วครับ


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

ช่วงเย็น ๆ เวลาพระอาทิตย์กำลังตกดินแบบนี้ ก็จะมีรถไฟขบวนหนึ่งที่จะเข้าหยุดรับ - ส่งผู้โดยสารที่ สถานีสุรินทร์ ครับ ขบวนรถที่ผมพูดถึงนั้นก็คือ ขบวนรถท้องถิ่นที่ 427 ต้นทางสถานีนครราชสีมา - ปลายทางสถานีอุบลราชธานี

อย่างที่เคยบอกไปแล้วว่าชุดรถของขบวนที่ 427 ในวันนั้นดูแปลกตาไปบ้าง ก็เป้นเพราะว่ารถดีเซลราง RHN. ที่ประจำการอยู่ที่แขวงนครราชสีมานั้นไม่พอใช้แล้ว ก็เลยต้องขอยืมรถจากทางกรุงเทพไป ชุดรถของขบวนที่ 427 ที่อยู่ใน Clip นี้ก็เลยกลายเป็น กซข. NKF. + พซข. RHN. + กซข. THN. แทนที่จะเป็น RHN. 2 ชุด 4 คันอย่างที่เคยเห็นกันมาก่อนหน้านี้ครับ


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

พอเก็บภาพของขบวนที่ 427 เสร็จ ผมก็ไม่ได้ถ่ายรูปอะไรมาเพิ่มเติมเลยครับ ระหว่างนั่งรอ ขบวนรถเร็วที่ 144 ต้นทางสถานีอุบลราชธานี - ปลายทางสถานีกรุงเทพ อยู่ที่ สถานีสุรินทร์ ผมก็หยิบเอาหนังสือพ็อคเก็ตบุ๊คที่ใช้เวลายืนเลือกจากตู้หนังสือที่บ้านอยู่ประมาณ 10 นาที พยายามมองหาหนังสือที่คิดว่าน่าสนใจ มีขนาดไม่ใหญ่ ไม่หนา และไม่หนักจนเกินไป ในที่สุดก็เลือกมาได้ 2 เล่มครับ

เล่มแรกเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับคำทำนายของพระอาจารย์รูปหนึ่ง ส่วนอีกเล่มหนึ่งเป็นเรื่องราวประสบการณ์ชีวิตของผู้ฟังรายการวิทยุรายการหนึ่ง ซึ่งถูกถ่ายทอดเป็นตัวหนังสือผ่านปลายปากกาของ DJ ทั้ง 2 คน ซึ่งหนังสือเล่มหลังนี้ มีคนบอกผมว่าอ่านแล้วไม่ค่อยสนุกสักเท่าไหร่ พอได้ยินแบบนั้นผมก็เลยไปฝากความหวังเอาไว้ที่หนังสือเล่มแรกซะมาก แต่พอได้มาเปิดอ่านเข้าจริง ๆ เจ้าหนังสือเล่มแรกนี่ล่ะครับ ที่ดูเหมือนจะไม่ใช่แนวของผมเลย อ่านเท่าไหร่ก็ไม่เข้าใจ ปะติดปะต่อเรื่องราวไม่ค่อยถูก สู้หนังสือเล่มหลังไม่ได้ แทบไม่อยากจะวางเลยจริง ๆ ใครจะชอบไม่ชอบยังไงก็คงต้องแล้วแต่ความสนใจของแต่ละคน แต่สำหรับผมพอได้อ่านหนังสือเล่มนี้จนจบแล้ว ทำให้ได้ข้อคิดอะไรหลาย ๆ อย่าง แต่ประโยคหนึ่งที่เป็นเหมือนสัจธรรม ที่หนังสือเล่มนี้สื่อออกมาค่อนข้างบ่อยจนผมจำได้ขึ้นใจก็คือ

" ชีวิตคนเรามันก็คล้าย ๆ กับระเบิดเวลา
จะสิ้นสุดเมื่อใด ก็ไม่มีใครจะล่วงรู้ได้
เพราะฉะนั้นอยากทำอะไรให้ใคร ก็จงรีบทำ
อยากพูดอะไรกับใคร ก็จงรีบพูด ก่อนที่มันจะสายเกินไป "

มารู้เอาตอนหลังว่าตอนนี้มีวางขายทั้งหมด 4 เล่มแล้ว เดี๋ยวต้องไปตามหาอีก 3 เล่มที่เหลือมาอ่านเพิ่มแล้วล่ะครับ . . .

มาต่อเรื่องรถไฟดีกว่า ในคืนนั้นขบวนที่ 144 ได้รถจักรดีเซลไฟฟ้า Alsthom ( ADD. ) หมายเลข 4414 ทำขบวนมาครับ จากที่เคยเห็นมาทางสถานีจะขายตั๋วไล่เรียงมาจาก บชส.ท้ายขบวน เพราะฉะนั้น บชส.ที่อยู่ต้นขบวนจะมีที่นั่งว่างเหลืออยู่มากกว่า ผมก็เลยมานั่งอยู่ใน บชส.1008 ที่พ่วงอยู่เป็นคันที่ 3 ของขบวนรถที่มีผู้โดยสารนั่งอยู่บนรถไม่ถึง 20 คน การเดินทางในช่วงหัวค่ำของคืนนั้น ก็ไม่มีอะไรมาก ระหว่างทางไม่ได้หลีกกับรถไฟสักขบวน อากาศข้างนอกก็ค่อนข้างหนาวครับ สะใจดีแท้ สมกับที่รอมานาน . . .

พอมาถึง สถานีบุรีรัมย์ ก็เห็นเจ้าถิ่นมารอรับอยู่ที่สถานี ว่าแล้วก็มาปิดท้ายเรื่องราวในวันแรกของการเดินทางด้วยบรรยากาศยามค่ำคืนที่ สถานีบุรีรัมย์ กันเลยดีกว่าครับ


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[Compressor]

มาติดตามไปบุรีรัมย์ผ่านโลกไซเบอร์ในกระทู้พี่เต้ยก่อนครับ

ว่าจะไปบุรีรัมย์ (กี่รอบแล้วไม่รู้) จนป่านนี้ น้องเองก็ยังไม่ได้ไปบุรีรัมย์ซะที

[ExtendeD]

ในคืนนั้นได้เห็นรถไฟ 3 ขบวนครับ ขบวนแรกเป็น ขบวนรถธรรมดาที่ 233 ต้นทางสถานีกรุงเทพ - ปลายทางสถานีสุรินทร์ แต่อย่าเสียเวลามาดูรูปรถขบวนนี้เลยครับ เพราะแทบไม่มีเวลาเตรียมตัว รูปออกมาก็เลยห่วยสุด ๆ มาดูรถขบวนที่ 2 กันเลยดีกว่า . . .

รถจักรดีเซลไฟฟ้า Alsthom ( AHK. ) หมายเลข 4204 ทำ ขบวนรถเร็วที่ 142 ต้นทางสถานีอุบลราชธานี - ปลายทางสถานีกรุงเทพ มาถึง สถานีบุรีรัมย์ เวลา 20:24 น. ( +1 ) ครับ




ปิดท้ายด้วยรถจักรดีเซลไฟฟ้า General Electric ( GEA. ) หมายเลข 4527 ทำ ขบวนรถด่วนที่ 68 ต้นทางสถานีอุบลราชธานี - ปลายทางสถานีกรุงเทพ มาถึง สถานีบุรีรัมย์ เวลา 21:39 น. ( +3 ) ครับ



รูปข้างบนนี้ไปตั้งกล้องตรงตำแหน่งเดิมที่เคยตั้งไม่ได้ครับ โดนเสาไฟบังหน้ารถพอดี ก็เลยต้องย้ายมาตั้งกล้องตรงนี้ มุมไม่ค่อยถูกใจเท่าไหร่ แต่ก็เป็นตำแหน่งเดียวที่ไม่มีเสาไฟมาบังหน้ารถ ตอนแรกก็คิดว่าเป็นเรื่องบังเอิญ แต่พอวันหลัง ๆ รู้สึกว่าจะโดนบังบ่อยขึ้นเรื่อย ๆ จนทำให้ไม่ค่อยอยากมาถ่ายรูปตอนกลางคืนแล้วล่ะครับ . . .
_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

วันพฤหัสบดีที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

เช้าวันนี้ไม่ได้ออกมายืนดูรถไฟเหมือนเคยครับ ขลุกอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์เกือบตลอดทั้งวันเลย ตกเย็นเลยมาพักสายตา ดูอะไรสวย ๆ งาม ๆ อยู่ข้างรางเหล็กดีกว่า ไม่รู้จะไปที่ไหนดี ก็เลยมาปักหลักอยู่ที่ สถานีบุรีรัมย์ ตามฟอร์ม . . .

รูปนี้ถ่ายเอาไว้ตอนเวลา 16:37 น. แต่ใช้ Mode ถ่ายภาพพระอาทิตย์ตก เห็นว่าได้สีออกมาแปลกตาดี ก็เลยเลือกรูปนี้มาแปะให้ดูครับ


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

ถ้ามานั่งดูรถไฟที่ สถานีบุรีรัมย์ ในช่วงเวลาเย็น ๆ แบบนี้ ก็จะได้เห็นขบวนรถเที่ยวขึ้น 2 ขบวน ซึ่งเป็นรถดีเซลรางทั้งคู่ ก็เลยไม่ค่อยมีแรงจูงใจให้มาดูสักเท่าไหร่ เพราะไม่มีโอกาสลุ้นที่จะได้เจอ Hitachi แน่นอน . . . . . . . . . แต่วันนี้เกิดเรื่องบางอย่างขึ้น จนทำให้ผมต้องมาที่นี่ เพราะใจมันเรียกร้อง . . .

มาดูรถดีเซลราง 2 ขบวนที่พูดถึงกันก่อนครับ ขบวนแรกก็คือ ขบวนรถท้องถิ่นที่ 427 ต้นทางสถานีนครราชสีมา - ปลายทางสถานีอุบลราชธานี รูปข้างล่างนี้เป็นตอนที่ขบวนที่ 427 กำลังเคลื่อนขบวนออกจาก สถานีบุรีรัมย์ ไปเมื่อเวลา 16:39 น. ( +9 ) ครับ ชุดรถของขบวนที่ 427 ที่เห็นอยู่นี้ก็เป็นชุดเดียวกับที่เห็นเมื่อวานที่ สถานีสุรินทร์ พอไปถึง สถานีอุบลราชธานี ก็ได้พัก 1 คืน ตอนเช้าก็กลายมาเป็น ขบวนรถท้องถิ่นที่ 428 ต้นทางสถานีอุบลราชธานี - ปลายทางสถานีนครราชสีมา พอไปถึง สถานีนครราชสีมา แล้ว จะได้พักอยู่ในโรงรถจักรครู่หนึ่ง แล้วก็ต้องกลับมารับหน้าที่เป็นขบวนที่ 427 อีกครั้ง ถ้าเป้นคนคงเหนื่อยน่าดู . . .


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

ส่วนรถขบวนที่ 2 ก็คือ ขบวนรถด่วนดีเซลรางปรับอากาศที่ 71 ต้นทางสถานีกรุงเทพ - ปลายทางสถานีศรีสะเกษ ที่ในวันนี้มาถึง สถานีบุรีรัมย์ เวลา 17:09 น. ช้ากว่ากำหนดเวลาไป 55 นาที รู้สึกโล่งอกยังไงก็ไม่รู้ ที่ขบวนที่ 71 ของเมื่อวานไม่ได้ช้าเกือบชั่วโมงแบบนี้ . . . ชุดรถของขบวนที่ 71 ในวันนั้นประกอบด้วย กซข.ป.2538 + กซข.ป.2513 ครับ ยืนถ่ายรูปจากมุมนี้โดนเสาไฟบัง แต่ที่ต้องเลือกรูปนี้ เพราะรูปตอนที่ขบวนที่ 71 เคลื่อนขบวนออกจาก สถานีบุรีรัมย์ ไม่ชัดครับ แสงเหลือน้อยเกินไป . . .



ผมยังจำได้ ในวันนั้นน้องโอ๋แจ้งข่าวผ่านทาง SB ว่าได้รับรายงานจากขุนหระรีว่า GEA.4541 ที่รับหน้าที่ทำ ขบวนรถเร็วที่ 135 ต้นทางสถานีกรุงเทพ - ปลายทางสถานีอุบลราชธานี เกิดอาการงอแงที่ สถานีบ้านโพ เหตุการณ์ไปลงเอยที่ขบวนที่ 135 ได้ HID.4507 ซึ่งเป็นรถจักรของขบวนที่ 643 มาทำขบวนต่อ ( เข้าทาง . . . ) โอกาสที่จะได้เจอ HID. แบบไม่ต้องลุ้นมาถึงแล้วครับ . . .

ตั้งแต่ตอนที่รู้ข่าวประมาณ 11:00 น. ผมก็เฝ้าแต่รอให้ถึงช่วงเวลาประมาณ 17:00 น. อันเป็นเวลาที่คาดว่า HID.4507 จะทำขบวนที่ 135 มาถึง สถานีบุรีรัมย์ ระหว่างนั้นก็นั่งทำรูป GEK.3 ที่เหลืออยู่ให้เจ้าปู๊นอย่างมีความสุข ไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อย . . . แต่แล้ว 6 ชั่วโมงที่รอคอยด้วยความตื่นเต้นที่จะได้เจอกับรถจักรงาม ๆ เป็นครั้งแรกของทริปนี้ ก็พังทลายลงพร้อมกับการปรากฏตัวของเจ้าถิ่นที่เพิ่งเลิกเรียนมาพร้อมกับสีหน้าหิวโซ ราวกับสามารถยัดข้าวมันไก่ทั้งร้านลงท้องได้ในเวลาอันรวดเร็ว . . .
_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.