View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
black_express
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ
|
Posted: 24/01/2010 4:55 pm Post subject: ขุดจากกรุ : รถไฟคงเดินอยู่ได้เป็นประจำ |
|
|
สวัสดีครับ...
วันนี้ผมไปค้นๆ ดูเรื่องจากกรุ พบเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับรถไฟของอดีตสาธารณรัฐเวียตนามอยู่เรื่องหนึ่ง ซึ่งผจญชะตากรรมทั้งด้านพายุไต้ฝุ่นปีละหลายๆ ลูก รวมถึงสถานการณ์สงครามรวมชาติกับสาธารณรัฐประธิปไตยเวียตนาม (เวียตนามเหนือ) โดยมีพี่เอื้อยแต่ละค่ายให้การสนับสนุนอยู่ ซึ่งจบลงด้วยการรวมชาติเป็นสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียตนาม ซึ่งกำลังจะกลายเป็นคู่แข่งขันด้านต่างๆ กับประเทศไทย และอาจมีทีท่าแซงทิ้งห่างไปในอนาคตก็ได้ ถ้าคนในชาติเรามัวเห็นแก่สี และผลประโยชน์ส่วนตัว ปะทะคารมจนอาจถึงใช้กำลังในบางครั้งแบบไม่เลิกรา เหมือนในทุกวันนี้
เรื่องนี้ ผมขออนุญาตคัดมาจากจากนิตยสาร "เสรีภาพ" ฉบับที่ 149 ของสำนักข่าวสารอเมริกัน กรุงเทพฯ ในราวปี 2510 ครับ.
...........................
รถไฟคงเดินอยู่ได้เป็นประจำ
นิตยสาร "เสรีภาพ" ฉบับที่ 149
ทหารอเมริกันคอยคุ้มกันขบวนรถไฟให้พ้นจากการโจมตีของฝ่ายเวียตกง ขณะนั่งอยู่บนหลังคารถหุ้มเกราะ ทุกคนเฝ้าสังเกตภูมิประเทศสองข้างทางที่รถไฟแล่นผ่านอย่างระมัดระวัง ภายใต้หลังคาที่เปิดไว้นี้เป็นที่ตั้งปืนครก ส่วนรถเปิดข้างที่เห็นอยู่หน้ารถจักรนั้น เอาติดขบวนไปด้วยเพื่อให้รับเอาแรงระเบิดที่พวกคอมมิวนิสต์นำมาฝังไว้ใต้ทางรถเสียก่อน ไม่ให้ถูกหัวรถจักร
บางขณะเรารู้สึกเหมือนกับว่า กำลังอยู่บนรถไฟสายซานตาเฟ ระหว่างสมัยที่เราทำสงครามกับพวกอินเดียนแดงในภาคตะวันตกของสหรัฐ ชาวอเมริกันคนหนึ่ง ซึ่งเคยเดินทางไปกับรถไฟสายนี้อยู่เสมอๆ พูดขึ้นมา แต่อย่างไรก็ตาม ยังไม่เคยปรากฎว่ามีพนักงานรถไฟคนใดปฏิเสธที่จะนำขบวนรถออกเดินตามภาระหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้ทำ
การเดินรถสายนี้ ต้องเสี่ยงกับอันตรายและมีอุปสรรคมากมายที่สุดในโลก เหงียน งอก ลำ ผู้อำนวยการ การรถไฟแห่งเวียตนามใต้เป็นผู้กล่าว แต่ทั้งๆ ที่มีพวกเวียตกงคอยก่อวินาศกรรมและรบกวนอยู่เสมอ รถไฟของเวียตนามใต้ก็ยังเดินอยู่เป็นปกติ แม้ว่า 2 ใน 3 ของทางรถไฟซึ่งยาว 1,400 กิโลเมตร จะใช้การไม่ได้ก็ตาม แต่ปรากฎว่าการขนส่งสินค้าโดยทางรถไฟในเวียตนามขณะนี้มีมากกว่าเมื่อสิบสองปีที่แล้วมาเสียอีก
สมัยที่ยังรุ่งเรืองอยู่ เมื่อราวๆ พ.ศ.2473 รถไฟสายนี้เป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางสายสำคัญที่ติดต่อระหว่างไซ่ง่อนกับปารีส เรียกว่า ทางรถไฟสายทรานส์ไซบีเรีย แต่หลังจากระยะนั้นแล้ว รถไฟของเวียตนามได้รับความกระทบกระเทือนจากการกระทำของมนุษย์และธรรมชาติมากกว่าทางรถไฟสายใดๆ ในโลก เป็นต้นว่า ต้องผจญกับพายุไต้ฝุ่นและน้ำท่วมที่ร้ายกาจ การทิ้งระเบิดจากฝ่ายพันธมิตรในสงครามโลกครั้งที่สอง การทำลายอย่างมีแบบแผนโดยพวกเวียตมินต์และเวียตกง ลำพังเมื่อ 3 ปีที่แล้วมา พวกเวียตกงได้โจมตีทางรถไฟสายนี้มากกว่า 1,200 ครั้ง
ทางรถไฟสายเวียตนาม ถูกทำลายแล้วซ่อมแซม แล้วก็ถูกทำลายอีก เป็นเช่นนี้อยู่ตลอดเวลา ขณะนี้ทางรถไฟสายนี้กำลังรับการซ่อมแซมอีกครั้งหนึ่งด้วยความช่วยเหลือขององค์การพัฒนาระหว่างประเทศแห่งสหรัฐอเมริกา (AID) รางหลายแห่งกำลังได้รับการซ่อมแซม อุโมงค์และสะพานหลายแห่งกำลังบูรณะกันขึ้นใหม่ นับตั้งแต่ปี พ.ศ.2498 เป็นต้นมา องค์การพัฒนาระหว่างประเทศได้ลงทุนเป็นเงินมากกว่า 125 ล้านเหรียญอเมริกันในกิจการของทางรถไฟสายเวียตนามใต้นี้ ที่ปรึกษาด้านกิจการรถไฟขององค์การพัฒนาระหว่างประเทศ นาย ลี ดี. มาร์สเตน กล่าวว่า การซ่อมสร้างทางรถไฟสายนี้จะอำนวยประโยชน์อย่างมากแก่ชุมชนที่ทางรถไฟสายนี้ผ่านไป แต่จะยังไม่เห็นประโยชน์ในทางเศรษฐกิจอย่างเต็มที่จนกว่าจะได้มีการเดินติดต่อจากไซ่ง่อนไปถึงปลายทางเหนือสุดที่เมืองดองฮา
แม้ในภาวะปัจจุบัน ทั้งๆ ที่มีขบวนรถไฟเดินอยู่ในระยะทางน้อยกว่า 500 กิโลเมตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของสหรัฐอเมริกาคนก่อน คือ นายโรเบิร์ต แมคนามารา ก็กล่าวไว้ว่า เป็นเส้นทางขนส่งที่มีความสำคัญมากต่อการดำเนินการสงคราม ขณะที่พวกเวียตกงถูกขับไล่ให้ล่าถอยจากตำบลหนึ่งไปยังอีกตำบลหนึ่ง และขณะเจ้าหน้าที่ของการรถไฟเวียตนามได้ทางรถไฟกลับคืนมาทีละกิโลเมตรๆ เป็นลำดับนั้น อีกไม่นานนักผู้โดยสารรถไฟคงจะสามารถเดินทางโดยตลอดจากไซ่ง่อนขึ้นไปจนถึงเส้นขนานที่ 17 อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งเป็นเส้นทางที่จะต้องผ่านอุโมงค์ 27 แห่ง และสะพาน 333 แห่ง
ความมั่นคงปลอดภัยของทางรถไฟสายนี้ เป็นหน้าที่ที่จะต้องรับผิดชอบร่วมกันระหว่างกองทัพบกแห่งสาธารณรัฐเวียตนาม หน่วยบัญชาการเพื่อความช่วยเหลือทางทหารของสหรัฐอเมริกาในเวียตนาม และกองทหารของสาธารณรัฐเกาหลี รถไฟที่เดินอยู่ตามกำหนดเวลาเป็นประจำทุกขบวนจะต้องมีรถไฟหุ้มเกราะอย่างน้อยหนึ่งคัน พร้อมด้วยกำลังทหารของสาธารณรัฐเวียตนามถืออาวุธทันสมัยคุ้มครองไปด้วย และมีวิทยุที่จะติดต่อขอความช่วยเหลือจากกองบัญชาการในยามที่ถูกโจมตี
ในการจัดขบวนรถนั้น จะมีรถบรรทุกเทข้าง 2-3 คันพ่วงติดอยู่ข้างหลังรถจักรเสมอ ทั้งนี้ เพื่อป้องกันผู้ดดยสารมิให้รับอันตรายในกรณีที่รถจักรตกราง ในอาณาบริเวณที่พวกเวียตกงสามารถลอบยิงเจ้าหน้าที่ของการรถไฟ เพื่อขัดขวางไม่ให้ไปเดินตรวจรางค้นหาลูกระเบิดที่เวียตกงลอบวางเอาไว้ นอกจากนี้ยังจะใช้รถบรรทุกไม่มีข้างปิดหลายๆ คันติดขบวนไว้ข้างหน้าของรถจักรเพื่อรับเอาแรงระเบิดเสียก่อนที่จะถึงตัวรถจักร พวกคอมมิวนิสต์เคยโต้ตอบวิธีคุ้มกันทำนองนี้ด้วยการฝังระเบิดไว้ใต้ราง และล่ามสายชนวนไปยังที่ซุ่มซ่อนใกล้ๆ นั้น แต่ทว่า เวลานี้พวกเวียตกงใช้ยุทธวิธีนี้น้อยลงไป เพราะทหารคุ้มกันขบวนรถ ติดอาวุธมีอำนาจร้ายแรง
ถ้ารถไฟต้องบรรทุกของที่มีความสำคัญเป็นพิเศษ จะมีเครื่องบินคอยบินตรวจการณ์อยู่เบื้องบน และจะส่งวิทยุขอความช่วยเหลือในกรณีที่มีการโจมตีของพวกเวียตกงเกิดขึ้นทันที นอกจากขบวนรถไฟอื่นๆ ยังมีการคุ้มกันจาก วิคแฮม อีกด้วย วิคแฮม คือ รถยนต์รางหุ้มเกราะขนาดเล็กๆ ขับเคลื่อนด้วยเครื่องดีเซล มีปืนกลติดตั้งไว้ภายในป้อม รถชนิดนี้ได้สร้างขึ้นใช้เป็นครั้งแรกในการต่อสู้กับกองโจรคอมมิวนิสต์ที่มาเลเซีย และนำมาใช้ในเวียตนาม เมื่อปี พ.ศ.2503 บางครั้ง วิคแฮมจะแล่นไปข้างหน้าขบวนรถไฟ แต่ตามปกติจะมีวิคแฮมหนึ่งหรือสองคันแล่นตามหลังขบวนรถไฟ
Last edited by black_express on 24/01/2010 5:14 pm; edited 3 times in total |
|
Back to top |
|
|
black_express
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ
|
Posted: 24/01/2010 4:59 pm Post subject: |
|
|
เส้นทางในเขตเมือง โอ วาพ รถไฟขบวนนี้ตกรางเพราะถูกระเบิดของพวกเวียตกง
การรุกรบทางทหาร รวมทั้งโครงการรักษาความสงบของเวียตนามใต้และพันธมิตร ได้ช่วยปรับปรุงสถานการณ์ให้เกิดความมั่นคงปลอดภัยขึ้นตลอดเส้นทางรถไฟ สำหรับระยะเวลาครึ่งปีแรกใน พ.ศ.2510 นั้น พวกเวียตกงส่งหน่วยก่อวินาศกรรมมาทำลายทางรถไฟเพียง 37 ครั้งเท่านั้น เมื่อเปรียบเทียบกับการถูกโจมตี 276 ครั้งในปี พ.ศ.2509 และ 941 ครั้ง ในปี พ.ศ.2508 ในระยะห้าเดือนแรกของปี พ.ศ.2510 รถไฟได้บรรทุกผู้โดยสาร 116,000 คน และสินค้าคิดเป็นน้ำหนัก 425.000 ตัน ซึ่งเท่ากับจำนวนสินค้าที่เคยบรรทุกกันตลอดทั้งปี นับตั้งแต่ปี พ.ศ.2498 เป็นต้นมา อย่างไรก็ตาม การโจมตีของเวียตกงยังคงรุนแรงพอที่จะทำความหวาดกลัวให้แก่กิจการของทางรถไฟไม่ว่าสายใดๆ เช่น เมื่อเร็วๆ นี้สะพานแห่งหนึ่งในเมืองดานังถูกทำลาย การระเบิดในโรงรถจักรที่ ชิฮั้ว ในไซ่ง่อน ทำให้รถจักรดีเซล 10 คันพังพินาศ ระเบิดที่ซ่อนอยู่ในหลุมพราง ทำให้รถสินค้าขบวนหนึ่งตกราง ระเบิดลูกหนึ่งระเบิดขึ้นใต้รถไฟหุ้มเกราะ ทำให้ทหาร 5 นายที่อยู่ในรถเสียชีวิต ที่เมืองไซ่ง่อน เมืองเว้ เมืองดานัง มีอนุสาวรีย์ซึ่งคนงานรถไฟจำนวน 5,000 คนช่วยกันสร้างให้เป็นที่ระลึกถึงเพื่อนร่วมชาติของเขา ที่ต้องเสียชีวิตไปในหน้าที่เพื่อพยายามให้รถไฟสายนี้ยังคงบริการรับส่งผู้โดยสารและสินค้าอยู่ตลอดไป
ทางรถไฟสายเวียตนามใต้ เริ่มกำเนิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2428 ได้วางรางจากไซ่ง่อน ถึงเมืองมายโท ซึ่งอยู่ในบริเวณพื้นที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง แต่กิจการยังไม่เรียบร้อย จนกระทั่งปี พ.ศ.2479 จึงได้สร้างทางเสร็จสมบูรณ์ตามโครงการ เป็นระยะทาง 1.730 กิโลเมตร เชื่อมต่อการคมนาคมระหว่างเมืองไซ่ง่อนและฮานอย ซึ่งทำให้สภาพต่างคนต่างอยู่ระหว่างเวียตนามใต้และเวียตนามเหนือที่มีมาแต่เก่าก่อนหมดไปในทันที การโจมตีทางอากาศของอเมริกันในสงครามโลกครั้งที่สอง ได้ทำลายสะพานและทางรถไฟพังพินาศหลายแห่ง และการแพ้สงครามของญี่ปุ่นก็มิได้นำความสงบมาสู่เวียตนาม
ในปี พ.ศ.2488 กองโจรเวียตมินต์ได้เริ่มทำสงครามเก้าปีต่อสู้กับฝรั่งเศส พวกนี้ดักซุ่มโจมตีและทำให้รถไฟตกรางเป็นขบวนๆ และเนื่องจากขาดแคลนวัตถุระเบิด พวกเวียตมินต์จึงมักจะใช้แม่แรงงัดรอยต่อของสะพานออกจากกัน เมื่อพวกเขาได้นำหัวรถจักรและรถพ่วงมาจอดไว้บนสะพานจนเต็มแล้ว เพื่อให้น้ำหนักของรถช่วยพังสะพานตกลงไปในน้ำทั้งรถไฟทั้งสะพาน ถ้ามีสะพานก่อสร้างด้วยเสาคอนกรีต เวียตมินต์จะต่อยคอนกรีตด้วยฆ้อนและตัดเหล็กสะพานด้วยเลื่อยเหล็ก ลุถึงปี พ.ศ.2497 พวกเวียตมินต์ได้ทำลายทางรถไฟของเวียตนามเหนือให้ได้รับความเสียหายมากกว่าการโจมตีของฝ่ายสัมพันธมิตรในสงครามโลกครั้งที่สองเสียอีก
เนื่องจากข้อตกลงตามสัญญาเจนีวา ปี พ.ศ.2497 เวียตนามถูกแบ่งออกเป็นสองส่วน ทางรถไฟสายเวียตนามที่ยังคงเหลืออยู่ในเวียตนามใต้ มีระยะทางเพียง 1,400 กิโลเมตรจากทางรถไฟทั้งหมดซึ่งมีระยะทาง 2,185 กิโลเมตร แต่คงใช้การได้เพียง 908 กิโลเมตรเท่านั้น การรถไฟแห่งเวียตนามใต้ได้เริ่มการซ่อมแซมขึ้นอีก ครั้นถึงวันที่ 7 สิงหาคม พ.ศ.2502 ขบวนรถไฟออกเดินตลอดระยะทาง 1,041 กิโลเมตรจากเมืองไซ่ง่อนไปยังเมืองเว้ นับเป็นครั้งแรกในระยะ 15 ปี
แต่ครั้นแล้วเวียตนามก็กลับเข้าสู่ภาวะสงครามอีก และครั้งนี้พวกเวียตกงเป็นฝ่ายหมายมั่นปั้นมือจะขัดขวางให้การเดินรถไฟต้องหยุดชงักให้จงได้ ในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2507 การโจมตีของพวกเวียตกง ทำลายทางรถไฟที่อยู่ในเขตของเวียตนามใต้ให้ขาดออกจากกันเป็นส่วนๆ เท่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบันนี้ เส้นทางเท่าที่มีอยู่เกือบทั้งหมด ไม่มีการเดินรถเลย นอกจากนั้นยังเป็นปีที่พายุไต้ฝุ่นโหมเข้ามาทำลายซ้ำเติมอีกหลายครั้ง เกิดน้ำท่วมพัดทางรถไฟขาดไปมากกว่า 350 กิโลเมตร ในบริเวณที่ทางรถไฟถูกทำลาย ความปลอดภัยก็ถอยลดลงไปด้วย ทั้งนี้ เพราะไม่สามารถจะส่งทหารเข้าไปในอาณาบริเวณนั้นโดยทางรถไฟได้อีกต่อไป
พวกเวียตกงได้เคลื่อนกำลังเข้าสู่อาณาบริเวณริมฝั่งทะเลอย่างเข้มแข็ง เขตใดที่อยู่ใต้ความควบคุมของเวียตกง เช่น ท้องที่ทางใต้ของเมืองดานัง พวกเวียตกงก็ทำลายทางรถไฟเสียหมดสิ้น ในระยะต่อมา ทหารของกองทัพบกเวียตนามและกองทหารของพันธมิตรได้เปิดฉากตีโต้และสามารถรุกคืบหน้าไปทีละน้อย ทำให้เวียตกงต้องล่าถอยออกจากตำบลหนึ่งไปยังอีกตำบลหนึ่ง และเมื่อถึงกลางปี พ.ศ.2510 ทางรถไฟของเวียตนามใต้ก็ได้รับการบูรณะซ่อมแซมให้มีสภาพเท่าที่เป็นอยู่ปัจจุบันนี้
Last edited by black_express on 24/01/2010 5:16 pm; edited 1 time in total |
|
Back to top |
|
|
black_express
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ
|
Posted: 24/01/2010 5:01 pm Post subject: |
|
|
รถไฟพ่นควันโขมงขณะที่เร่งเครื่องขึ้นไปตามเส้นทางบนภูเขาที่สูงชัน เพื่อไปยังเมืองดาลัต
ทุกวันนี้ การรถไฟของเวียตนามใต้มีรถจักรดีเซลไฟฟ้า 54 คัน ในจำนวนรถจักรทั้งหมด อยู่ในระหว่างซ่อมแซม 22 คัน แต่จะออกใช้งานดังเดิมในไม่ช้า มีรถจักรไอน้ำที่ใช้การอยู่ในขณะนี้เพียง 5 คัน ซึ่งใช้สำหรับลากจูงขบวนรถตามเส้นทางขึ้นภูเขาไปยังเมืองตากอากาศดาลัต ซึ่งอยู่บนที่ราบสูง
ระยะทาง 84 กิโลเมตร จากทับจำไปยังดาลัต เป็นเส้นทางรถไฟที่แล่นผ่านภูมิประเทศที่สวยงามที่สุดในโลก รถจักรดีเซลลากขบวนรถตู้จากทับจำไปยังซองผา ตามทางที่ระดับค่อยๆ สูงขึ้นทีละน้อยๆ ผ่านท้องที่ปลูกยาสูบและกล้วย แล้วผ่านบริเวณป่า
จากซองผา ต้องใช้หัวรถจักรไอน้ำพิเศษคันหนึ่งลากรถตู้ขึ้นทางสูงชัน ครั้งหนึ่งๆ ลากรถตู้ขึ้นไปได้เพียง 2-3 คัน โดยใช้ฟันเฟืองของหัวรถจักรขับเคลื่อนไปบนรางพิเศษที่มีร่องรับกับฟันเฟืองนั้น เป็นการเสริมกำลังแก่วงล้อธรรมดาให้มีกำลังไต่ขึ้นระดับสูงชันไปยังเมืองดาลัต ซึ่งอยู่สูงถึงระดับ 1,500 เมตร
ขบวนรถพิเศษใช้ล้อฟันเฟืองจะต้องใช้เวลาเดินทางกว่า 3 ชั่วโมง จึงจะถึงดาลัต โดยค่อยๆ ไต่ขึ้นไปอย่างช้าๆ ตามเส้นทางผ่านป่าสน ลำธาร และแก่งน้ำ ขึ้นสู่บริเวณที่ราบสูงซึ่งมีทั้งสวนผัก สวนผลไม้ ไร่ชา และไร่กาแฟ |
|
Back to top |
|
|
black_express
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ
|
Posted: 24/01/2010 5:04 pm Post subject: |
|
|
ชาวไร่พร้อมด้วยผลผลิตจากไร่ของเขากำลังขึ้นรถไฟที่เหมืองฮัวซัน ชาวไร่เวียตนามเป็นจำนวนมากต้องพึ่งพาอาศัยรถไฟนำสินค้าของเขาไปขายที่ตลาด
การยังชีพของชาวไร่ขนาดเล็ก จำนวนหลายพันคนในแถบนี้ ขึ้นอยู่กับการขนส่งด้วยรถไฟสายนี้ นายมารัสเดน ที่ปรึกษาการรถไฟพูดขึ้น
การปฏิบัติซึ่งยึดถือจนกายเป็นธรรมเนียมของชาวไร่บนภูเขานี้ ในการเดินทางโดยรถไฟพร้อมทั้งนำผลผลิตของตนลงไปขายยังตลาดข้างล่าง แล้วซื้อข้าวพร้อมเสื้อผ้ากลับขึ้นมานั้น เป็นสิ่งจำเป็นยิ่งแก่ชีวิตประจำวัน นอกจากนั้น เมื่อคำนึงถึงจำนวนประชากรในเมืองใหญ่ๆ เช่น ดาลัต พานรัง และนาตรัง ที่เพิ่มทวีขึ้นเป็นลำดับ ก็เป็นสิ่งจำเป็นยิ่งที่จะต้องมีการคมนาคมอันปลอดภัยระหว่างหัวเมืองเหล่านี้"
เมื่อมีอุปสรรคมากมายถึงอย่างนี้แล้ว เหตุใดทางการของเวียตนามจึงต้องพยายามให้สายรถไฟยังคงดำเนินกิจการอยู่ต่อไปอีกเล่า ?
เหตุผลสำคัญข้อหนึ่งมีอยู่ว่า แม้จะมีรถเดินอยู่เพียงหนึ่งในสามของเส้นทางทั้งหมดก็ตาม รถไฟสายนี้ก็ได้อำนวยบริการในด้านบรรทุกสินค้า และรับส่งผู้โดยสารอย่างที่การขนส่งบนเส้นทางถนนหลวงที่เป็นหลุมเป็นบ่อและไม่ปลอดภัย ไม่อาจจะเทียบได้ นับว่าเป็นบริการขนส่งที่ประมาณค่ามิได้สำหรับปฏิบัติการสงครามนี้ นอกจากนั้นยังมีเหตุผลอื่นอีก ซึ่ง พัม มิน ดวง ผู้อำนวยการรถไฟสายเวียตนามใต้คนก่อน เคยกล่าวไว้ว่า :
ตามความรู้สึกของประชาชนชาวเวียตนาม หรือแม้กระทั่งประชาชนของชาติอื่นๆ การที่รถไฟในประเทศของเขายังคงแล่นอยู่ได้นั้นหมายถึงความสงบเรียบร้อย ความมั่นคงปลอดภัย และความเจริญก้าวหน้า นับตั้งแต่เริ่มการสู้รบกันมาจนกระทั่งบัดนี้ เราก็ได้ทำให้รถไฟเดินอยู่ได้ แม้ว่าทางฝ่ายศัตรูจะพยายามทำให้มันต้องเลิกล้มไป นี่ก็เท่ากับเป็นชัยชนะอย่างสำคัญของฝ่ายเรา ถ้าหากเราตัดสินใจจะหยุดเดินรถไฟลงเมื่อใด ไม่ว่าจะเป็นการชั่วคราวสักเท่าไรก็ตาม ประชาชนจะต้องเข้าใจไปว่าเราแพ้แล้ว และนี่จะเป็นสัญญาณแรกแห่งการล่าถอยตลอดแนวรบและสละละทิ้งพื้นที่ของชนบทให้กับฝ่ายข้าศึก จะกระทบกระเทือนต่อกำลังใจที่จะสู้รบต่อไปอย่างหนัก และนำความเสียหายมาสู่การดำเนินการสงครามของเราเป็นที่สุด
เนื่องด้วยเหตุนี้ รถไฟสายเวียตนามใต้จึงยังคงแล่นอยู่ต่อไป แม้ว่าเจ้าหน้าที่ของการรถไฟเป็นจำนวนมากจะยังคงต้องได้รับบาดเจ็บและล้มตายเนื่องจากการกระทำของฝ่ายศัตรูก็ตาม แต่บรรดาเจ้าหน้าที่ของการรถไฟสายเวียตนามใต้ยังคงยืนยันอย่างแข็งขันว่า สักวันหนึ่งคงจะได้เห็นสัญญาณปลอดภัยตลอดระยะทาง ตั้งแต่บริเวณพื้นที่ลุ่มสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงไปจนถึงแม่น้ำแดงทีเดียว.
............................ |
|
Back to top |
|
|
BanPong1
1st Class Pass (Air)
Joined: 07/12/2006 Posts: 2733
Location: กม.37 สายเหนือ, กม.68 สายกาญจนบุรี
|
Posted: 24/01/2010 5:23 pm Post subject: |
|
|
ขอติดตามเรื่องราวรถไฟจากเสรีภาพ สมัยสงครามเย็น??ครับ พี่ตึ๋ง
แสดงว่าพี่ตึ๋งมีวารสาร "เสรีภาพ" อยู่หลายเล่มซิครับ |
|
Back to top |
|
|
black_express
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ
|
Posted: 24/01/2010 5:51 pm Post subject: |
|
|
อ.วิรัตน์สนใจไหมครับ ? |
|
Back to top |
|
|
headtrack
1st Class Pass (Air)
Joined: 30/05/2009 Posts: 1627
Location: ละแวกภาคกลางตอนบน และภาคเหนือตอนล่าง
|
Posted: 24/01/2010 5:56 pm Post subject: |
|
|
black_express wrote: | เส้นทางในเขตเมือง โอ วาพ รถไฟขบวนนี้ตกรางเพราะถูกระเบิดของพวกเวียตกง |
ทางในภาพน่าจะเป็นหมอนเหล็กเสียด้วย ไม่รู้ว่าเป็นทางถาวรหรือเปล่า...
น่าสนใจมาก...ติดตามชมต่อครับ... _________________
Find me on Instagram: @632knongtsaikhaow |
|
Back to top |
|
|
pak_nampho
1st Class Pass (Air)
Joined: 25/06/2007 Posts: 2371
Location: คนสี่แควพลัดถิ่น ทำมาหากิน ที่เกาะภูเก็ต
|
Posted: 24/01/2010 6:02 pm Post subject: |
|
|
พี่ตึ๋งครับ ครั้งเรียนชั้นประถมห้องสมุดโรงเรียนมีนิตยสารเสรีภาพให้อ่าน และมีพ่อเพือนเป็นทหารสมัครไปรบในนามกองพลอาสาสมัครจงอางศีกด้วยครับ _________________ +++++++++++++++++ ๑๑๖ ปี รถไฟไทยก้าวไกล....จากรถจักรไอน้ำ +++++++++++++++++
....................บุตร ครฟ. พขร.ตรี แขวงรถพ่วงปากน้ำโพ ................... |
|
Back to top |
|
|
black_express
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ
|
Posted: 24/01/2010 6:33 pm Post subject: |
|
|
รถไฟเวียตนาม และ กัมพูชา ขณะนั้นใช้หมอนเหล็กกล้า ด้วยอิทธิพลของฝรั่งเศส ผู้ปกครองอาณานิคมครับ
เสรีภาพฉบับที่มีหน้าปกรูปทหารจากกองพันจงอางศึก ผมเห็นเมื่อไม่นานมานี้ ที่แผงจำหน่ายหนังสือเก่าครับ ญาติผมคนหนึ่งเคยเข้ารบตั้งแต่กองพันพยัคฆ์น้อย ที่เกาหลีใต้ เรื่อยมาจนถึงกองพันจงอางศึก ที่เวียตนามใต้ รอดทั้งสองศึกมาได้ มาตายด้วยเรื่องส่วนตัวที่เมืองไทยเมื่อยี่สิบปีนี้เอง |
|
Back to top |
|
|
BanPong1
1st Class Pass (Air)
Joined: 07/12/2006 Posts: 2733
Location: กม.37 สายเหนือ, กม.68 สายกาญจนบุรี
|
Posted: 24/01/2010 10:41 pm Post subject: |
|
|
black_express wrote: | อ.วิรัตน์สนใจไหมครับ ? |
สนใจเป็นอย่างยิ่งเลยครับ
เคยอ่าน "เสรีภาพ" สมัยเด็กทั้งที่โรงเรียนและที่บ้าน
กลับไปค้นดูที่บ้าน หายไปหมดแล้ว สงสัยตอนย้ายบ้านแน่ๆเลย
เคยไปหาตามร้านหนังสือเก่าก็ไม่มีครับ
ที่ชอบหนังสือเล่มนี้เพราะ ถ่ายภาพสวยงามมาก
รวมทั้งเป็นเรื่องที่กว้างๆ ทั้ง สังคม การเมือง สารคดี เทคโนโลยี
แค่เรื่อง "อพอลโล" ก็ชวนให้นับถือ "อเมริกัน" มากๆเลยตอนนั้น
อยากอ่านอีกครับ ไม่รู้ว่าพี่ตึ๋งเก็บไว้กี่เล่ม
|
|
Back to top |
|
|
|