อนาคตระบบรถไฟฟ้า กทม. คาด ผู้ว่าฯ เลือก Mono Rail

[Wisarut]

เสนอครม.เปลี่ยนแนวโมโนเรลจาก “วัชรพล”ไปสิ้นสุด“บางแค”
เดลินิวส์
วันพฤหัสบดี 5 มีนาคม 2558 เวลา 12:56 น.

นายอมรกิจ เชวงกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้ารางเดี่ยวสายสีเทา (โมโนเรล) สายสีเทา ช่วงวัชรพล-สะพานพระราม 9-ท่าพระระยะทางรวมเกือบ 40 กิโลเมตร ว่า กทม.เปิดประชุมรับฟังความคิดเห็นศึกษาความเหมาะสมของโครงการกับประชาชนไปแล้ว 2 ครั้ง สำหรับช่วงที่ 1 วัชรพล-ทองหล่อระยะทาง 16.25 กิโลเมตร ไม่น่ามีปัญหาอะไร เพราะเป็นเส้นทางที่ไม่มีอุปสรรคใดๆเนื่องจากไม่ต้องมีการเวนคืนพื้นที่ของประชาชน ซึ่งตามเป้าหมายกทม.จะเริ่มการก่อสร้างในปี 59 ส่วนอีก 2 ระยะอยู่ระหว่างการศึกษาอย่างต่อเนื่องเพื่อลดผลกระทบ ทั้งนี้ กทม.อยู่ระหว่างการนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อปรับเส้นทางในเฟสที่ 3 ซึ่งเป็นปลายทางจากเดิมจะสิ้นสุดที่ท่าพระ แต่กทม.จะขอขยายไปจนถึงบางแคเพื่อเชื่อมต่อกับปลายทางรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินที่บางแค ซึ่งจะสะดวกต่อผู้ที่ใช้สถานีปลายทางบางแคที่จะไม่ต้องต่อรถไฟฟ้าจากท่าพระไปยังบางแคอีกทอดหนึ่ง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของครม.ที่อาจจะปรับเปลี่ยนได้ เนื่องจากเฟส 3 ยังต้องใช้เวลาในการดำเนินการในแผนระยะยาว ทั้งนี้โครงการดังกล่าวแนวเส้นทางเริ่มต้นบริเวณวัชรพลถนนรามอินทรามุ่งหน้าลงใต้ตามถนนประดิษฐ์มนูธรรมเลียบทางพิเศษฉลองรัชเข้าสู่ซอยทองหล่อ จนบรรจบกับจุดตัดถนนสุขุมวิทแล้วเข้าถนนพระราม 4 ถนนสาทรถนนนราธิวาสราชนครินทร์เข้าพระราม 3 ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาที่สะพานพระราม 3 ผ่านแยกมไหสวรรค์เข้าสู่ถนนรัชดาภิเษกและผ่านแยกท่าพระไปสิ้นสุดที่บางแคตามที่กทม.ได้ศึกษาไว้

นายอมรกล่าวต่อว่า ทั้งนี้เมื่อเดือนก.พ.ที่ผ่านมา ตนและม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม.และคณะ ได้เดินทางไปศึกษาโครงการโมโนเรลที่ประเทศเกาหลีใต้ ทั้งเมืองปูซานและแดกู ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อีก 2 แห่งของเกาหลีใต้ ที่มีการบริการรถไฟฟ้าโมโนเรล แต่ขณะนี้ยังอยู่ในระดับการทดสอบระบบ ยังไม่มีการเก็บค่าบริการจากประชาชน ทั้งนี้พบว่าระบบมีความใกล้เคียงกับที่กทม.จะดำเนินการมาก และการจัดการนั้นเป็นการมอบให้ท้องถิ่นดำเนินการโดยรัฐบาลอุดหนุนการลงทุนโครงการถึงร้อยละ 70 ส่วนท้องถิ่นใช้งบเพียงร้อยละ 30 โดยการบริหารงานนั้น ท้องถิ่นมอบหมายให้บริษัทของเมืองหรือบริษัทลูกเป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งกทม.อาจจะมีการนำการดำเนินการมาปรับใช้โดยจะพิจารณาแล้วแต่ความเหมาะสมต่อไป.

[Mongwin]

กทม.เปิดรับฟังความคิดเห็นรถไฟฟ้ารางเดี่ยวสายสีเทา ช่วงวัชรพล-สะพานพระราม 9
เดลินิวส์ วันที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2558 เวลา 23:26:28 น.

เมื่อวันที่ 24 มีนาคม ว่าที่ ร.ต.บุญธรรม หุยประเสริฐ ผู้อำนวยการเขตวัฒนา กทม. กล่าวว่า สำนักการจราจรและขนส่ง กทม. มอบหมายให้ บริษัท ปัญญา คอนซัลแตนท์ จำกัด ดำเนินการศึกษาโครงการศึกษาความเหมาะสม จัดทำแบบเบื้องต้นและจัดเตรียมเอกสารประกวดราคา โครงการรถไฟฟ้ารางเดี่ยว(โมโนเรล) สายสีเทา ช่วงวัชรพล-สะพานพระราม 9 เพื่อส่งเสริมการใช้ระบบขนส่งมวลชนที่มีความสะดวกสบาย รวดเร็ว ปลอดภัย ซึ่งจะนำไปสู่การแก้ปัญหาจราจร

ดังนั้น เพื่อให้ประชาชนเกิดการรับรู้และมีความเข้าใจที่ถูกต้องต่อการดำเนินการศึกษาโครงการนี้ กทม.จึงเห็นควรให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องได้เข้ามามีส่วนร่วมในการรับรู้ข้อมูลข่าวสารและได้แสดงข้อคิดเห็น ข้อเสนอแนะต่อโครงการอันจะเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินการศึกษาโครงการจึงจัดให้มีการประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ครั้งที่ 3 ขึ้น ในวันที่ 31 มีนาคม เวลา 09.00-12.00 น. ที่ห้องประชุมนันทศักดิ์เรืองเดช ชั้น 7 อาคารลิเบอร์ตี้พลาซ่า เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ร่างผลการศึกษาโครงการ อาทิ ร่างแบบเบื้องต้นของโครงการ ร่างแนวเส้นทาง ผลการศึกษาความเหมาะสมด้านเศรษฐกิจ วิศวกรรม ผลกระทบสิ่งแวดล้อมและมาตรการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม การมีส่วนร่วมและการประชาสัมพันธ์ต่อผู้ที่เกี่ยวข้อง ให้รับทราบข้อมูลของโครงการที่ถูกต้องและได้เสนอแนะข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ต่อการดำเนินโครงการ เขตฯ จึงขอเชิญชวนประชาชนผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเข้าร่วมประชุมรับฟังความคิดเห็นในวัน เวลา และสถานที่ดังกล่าว

[Mongwin]

กทม.กู้เงินสร้างสายสีเทา "วัชรพล-ทองหล่อ"2.6หมื่นล้าน, จัดรับฟังครั้งที่ 2 ไร้คนค้าน
โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 31 มี.ค. 2558 05:01

เมื่อวันที่ 30 มี.ค.58 ที่วิทยาลัยพณิชยการอินทราชัย เขตวังทองหลาง กทม. สำนักการจราจรและขนส่ง กทม. จัดเวทีประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชนโครงการรถไฟฟ้ารางเดี่ยว (โมโนเรล) สายสีเทา ช่วงวัชรพล-พระราม 9-ท่าพระ ครั้งที่ 3 โดยมีประชาชนในพื้นที่มาร่วมรับฟังประมาณ 50 คน นายชม ตินติธรรมถาวร วิศวกรผู้เชี่ยวชาญประจำโครงการ กล่าวว่า ตลอดการประชุมรับฟังความคิดเห็น 2 ครั้งที่ผ่านมา ผู้เข้าประชุมส่วนใหญ่เห็นด้วยทั้งแนวเส้นทางและสถานี ซึ่งการประชุมรับฟังความเห็นจะมีอีกครั้งในวันที่ 31 มี.ค.58 ที่สำนักงานเขตวัฒนา หลังจากสิ้นสุดขั้นตอนนี้จะทำรายงานสรุปผล รวมถึงรายงานผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม (EIA) ให้ทาง กทม.เสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณา คาดว่าขั้นตอนนี้จะใช้เวลา 6 เดือน และช่วงปลายปี 2559 จะเริ่มก่อสร้างได้และกำหนดเปิดให้บริการประชาชนในปลายปี 2562 ทั้งนี้ การก่อสร้างจะเริ่มในช่วงแรกก่อน คือ ช่วงวัชรพล-ทองหล่อ ระยะทาง 16.25 กิโลเมตร จำนวน 15 สถานี ในส่วนของขบวนรถไฟจะเป็นลักษณะ 3 ตู้ ประเมินจำนวนผู้โดยสารในช่วง 20 ปีแรก ประมาณ 4,000-40,000 คนต่อวัน จากนั้นอาจจะเพิ่มตู้ขบวน สำหรับงบประมาณลงทุนก่อสร้าง 26,000 ล้านบาท จะใช้งบของ กทม.เองทั้งหมด จากการศึกษาเบื้องต้นอาจจะใช้วิธีกู้เงิน

ด้านนายทวีศักดิ์ เลิศประพันธ์ ผู้อำนวยการ สำนักการจราจรและขนส่ง กทม. กล่าวว่า หลังจาก กทม.ได้เปิดรับฟังความคิดเห็นประชาชนแล้ว จะยื่นรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม หรือ EIA ต่อสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งในระหว่างที่รอการอนุมัติ EIA จะศึกษารูปแบบการลงทุนโครงการไปด้วย สำหรับโครงการรถไฟฟ้าโมโนเรลสายสีเทา มีจุดเริ่มต้นที่สถานีวัชรพลและสิ้นสุดที่สถานีท่าพระ มีจำนวน 39 สถานี รวมระยะทาง 39.91 กิโลเมตร แนวเส้นทางเริ่มจากถนนรามอินทรา ตัดกับถนนประดิษฐ์มนูธรรม เลียบทางพิเศษฉลองรัช เข้าสู่ใจกลางเมืองย่านทองหล่อ สุขุมวิท เข้าถนนพระราม 4 ตลาดคลองเตย ถนนสาทร ถนนนราธิวาสราชนครินทร์ เลี้ยวเข้าถนนพระราม 3 ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณสะพานพระราม 3 ผ่านสี่แยกมไหสวรรค์ เข้าสู่ถนนรัชดาภิเษก ไปสิ้นสุดที่แยกท่าพระ ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า บรรยากาศการเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นดังกล่าว ประชาชนส่วนใหญ่ต่างเห็นด้วยกับโครงการ เนื่องจากบริเวณที่จะก่อสร้างไม่มีระบบขนส่งมวลชน และเวนคืนที่ดินน้อย.

[Wisarut]

โมโนเรลวัชรพล-ทองหล่อสร้างปี59
เดลินิวส์
วันอังคาร 31 มีนาคม 2558 เวลา 10:08 น.

เริ่มสร้างแน่ปลายปีหน้า โมโนเรลสายวัชรพลไปทองหล่อ รอผลอีไอเอ-เร่งหาแหล่งเงินลงทุน


เมื่อเวลา09.00น.วันที่30มี.ค.สำนักการจราจรและขนส่ง(สจส.)กรุงเทพมหานคร(กทม.)จัดงานประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชนโครงการรถไฟฟ้ารางเดี่ยว(โมโนเรล)สายสีเทาช่วงวัชรพล พระราม9ท่าพระครั้งที่ 3 ที่วิทยาลัยพณิชยการอินทราชัยเขตวังทองหลางโดยมีประชาชนในพื้นที่มาร่วมรับฟังประมาณ100ราย สำหรับรถไฟฟ้าสายสีเทามีจุดเริ่มต้นที่สถานีวัชรพลและสิ้นสุดที่สถานีท่าพระมีจำนวน 39สถานีรวมระยะทาง 39.91กิโลเมตรแนว เส้นทางเริ่มจากถนนรามอินทราตัดกับถนนประดิษฐ์มนูธรรมเลียบทางพิเศษฉลองรัชเข้าสู่ใจกลางเมืองย่านทองหล่อสุขุมวิท เข้าถนนพระราม4ตลาดคลองเตยถนนสาทร ถนนนราธิวาสราชนครินทร์เลี้ยวเข้าถนนพพระราม3.ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณสะพานพระราม3 ผ่านสี่แยกมไหสวรรย์เข้าสู่ถนนรัชดาภิเษกไปสิ้นสุดที่แยกท่าพระ

นายชมตินติธรรมถาวรวิศวกรผู้เชี่ยวชาญประจำโครงการกล่าวว่า ตลอดการประชุมรับฟังความคิดเห็น2ครั้งที่ผ่านมาผู้เข้าประชุมส่วนใหญ่เห็นด้วยกับทั้งแนวเส้นทาง และสถานีโดยเฉพาะเส้นวัชรพล-ทองหล่อเนื่องจากในเส้นทางนี้มีระบบขนส่งสาธารณะน้อยมากและที่สำคัญไม่มีการเวนคืนที่จึงไม่น่าจะมีปัญหา หลังจากสิ้นสุดขั้นตอนการรับฟังจะทำรายงานสรุปผลให้กทม.ได้พิจารณาคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2เดือนรวมถึงรายงานผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม(EIA)ให้ทางกทม.ส่งต่อให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาคาดว่าขั้นตอนนี้หากเป็นไปตามระยะเวลาที่กำหนดจะใช้เวลา 6เดือนและช่วงปลายปี 2559จะเริ่มลงมือก่อสร้างได้จะเสร็จเปิดให้บริการได้ปลายปี2562 โดยการก่อสร้างจะเริ่มดำเนินการในช่วงแรกก่อนคือ ช่วงวัชรพล-ทองหล่อระยะทาง 16.25กิโลเมตร15สถานีในส่วนของขบวนรถไฟน่าจะเป็นลักษณะ 3ตู้ตัวเลขประเมินจะมีผู้โดยสาร4,000-40,000คนต่อวันในช่วง 20ปีแรกจากนั้นอาจจะมีการเพิ่มตู้ขบวน ในงบประมาณ 26,000ล้านบาทจะใช้งบของ กทม.เองทั้งหมดไม่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลเบื้องต้นที่หารือกทม.อาจจะใช้วิธีการกู้เงินหรืออาจจะใช้วิธีการอื่นในท้ายที่สุดก็คงเป็นเรื่องที่กทม.นำไปดำเนินการ

ด้านนายทวีศักดิ์เลิศประพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักการจราจรและขนส่งกทม.กล่าวว่าหลังจากรับฟังความคิดเห็นประชาชนแล้วจากนี้จะยื่นรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมหรืออีไอเอ ต่อสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(สผ.)ซึ่งในระหว่างที่รอการอนุมัติอีไอเอจะทำการศึกษารูปแบบการลงทุนโครงการไปด้วย.

[Wisarut]

สกู๊ปพิเศษ : "โมโนเรล"สายแรกเหนือ-ใต้รอผ่านEIA เตรียมแผนงานลงเสาเอกเดินเครื่องปี’59

โดย พรสวรรค์ จรเจริญ
แนวหน้า
วันพุธ ที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2558, 06.00 น.


"โมโนเรล" หรือรถไฟฟ้ารางเดี่ยว ผลงานผู้ว่าฯ สุขุมพันธุ์ บริพัตร จะเกิดได้ในสมัยนี้หรือไม่ คนกรุงเทพฯ เฝ้าติดตามมาต่อเนื่อง ภายหลังที่ได้มีการเปิดตัว “โมโนเรล” สายสีเทา ไปเมื่อช่วงปลายปี 2557 พร้อมแนวความคิดที่ว่า “มาช่วยกันเปลี่ยนกรุงเทพฯ จากเมืองแห่งรถยนต์ให้กลายเป็นเมืองของผู้คน เพื่อก้าวไปสู่การเป็นมหานครแห่งความสุข”เพื่อหวังเป็นอีกหนึ่งหนทางการเลือกแก้ปัญหาการจราจรเมืองหลวง และเรื่องนี้กำลังเป็นคำถามพอประมาณว่าตกลงคนเมืองหลวงจะได้สัมผัสเมื่อไหร่

นายอมร กิจเชวงกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ขณะนี้เรื่องนี้ได้ผ่านการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนไปแล้ว ซึ่งส่วนใหญ่ก็เห็นด้วยที่กรุงเทพมหานครเร่งหาทางแก้ปัญหาการจราจร อาจจะมีความเป็นห่วงบ้างเกี่ยวกับนเรื่องของแนวเส้นทางแต่ไม่มาก เนื่องจากโมโนเรลมีผลกระทบกับประชาชนค่อนข้างน้อย เมื่อสิ้นสุดขั้นตอนการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนแล้วก็จะทำรายงานสรุป พร้อมดำเนินการรายงานผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม (EIA) ต่อคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานครเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณา คาดว่าขั้นตอนนี้จะใช้เวลาอีก 6 เดือนโดยประมาณ ซึ่งในช่วงที่รอการอนุมัติผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมนี้ ก็จะศึกษารูปแบบการลงทุนโครงการไปพร้อมๆกัน คาดว่าในช่วงปลายปี 2559 จะเริ่มก่อสร้างได้

โดยมีการวางเป้าหมายกำหนดเปิดให้บริการประชาชนในช่วงปลายปี 2562 จะมีผู้โดยสารใช้รวม 1.28 แสนเที่ยวคน/วัน ในปี 2564 ประมาณ 1.80 แสนเที่ยวคน/วัน และปี 2592 จำนวน 2.59 แสนเที่ยวคน/วัน โดยช่วงวัชรพล-ทองหล่อ จะมีผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ 20.3% ทั้งนี้ได้มีการออกแบบระบบการจัดเก็บค่าโดยสารเป็นระบบตั๋วร่วม ซึ่งผู้โดยสารสามารถใช้บริการกับระบบขนส่งมวลชนอื่นๆโดยใช้ตั๋วเพียงใบเดียวเพื่อความสะดวกและปลอดภัย

สำหรับรูปแบบการลงทุนนั้น ผู้ที่ติดตามข่าวสารหรือสื่อสารมวลชนอาจจะมีข้อกังวลถึงวิธีการจัดการที่อาจจะส่งผลต่ออัตราค่าโดยสารในอนาคต หากมีการตัดสินใจเลือกแนวทางใดแนวทางหนึ่ง ทั้งนี้ก็มีการหารือไว้ในหลายรูปแบบ ซึ่งก็เตรียมที่จะเสนอให้คณะผู้บริหารกรุงเทพมหานครพิจารณา ในเบื้องต้นแบ่งเป็น 3 รูปแบบหลักๆ คือ

1.กทม.ลงทุนเอง
2.การร่วมทุนระหว่างกทม.กับภาคเอกชน และ
3.การว่าจ้างให้บริษัทกรุงเทพธนาคม จำกัด ซึ่งเป็นวิสาหกิจของกทม.รับไปดำเนินการ หรืออาจจะจัดตั้งวิสาหกิจของกทม.ขึ้นมาใหม่เพื่อดูแลก็เป็นได้

ซึ่งตามแนวทางปฏิบัติแล้วเห็นว่าหากดำเนินการตาม พ.ร.บ.ร่วมทุนน่าจะมีความล่าช้าและเป็นไปได้ยากมากกว่า และยังมีข้อจำกัดด้านกฎระเบียบ ส่งผลให้กทม.กำหนดค่าโดยสารได้ลำบาก

“วางเป้าหมายกำหนดเปิดให้บริการประชาชนในช่วงปลายปี 2562 จะมีผู้โดยสารใช้รวม 1.28 แสนเที่ยวคน/วัน ในปี 2564 ประมาณ 1.80 แสนเที่ยวคน/วัน และปี 2592 จำนวน 2.59 แสนเที่ยวคน/วัน โดยช่วงวัชรพล-ทองหล่อ จะมีผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ 20.3% ทั้งนี้ได้มีการออกแบบระบบการจัดเก็บค่าโดยสารเป็นระบบตั๋วร่วม ซึ่งผู้โดยสารสามารถใช้บริการกับระบบขนส่งมวลชนอื่นๆโดยใช้ตั๋วเพียงใบเดียวเพื่อความสะดวกและปลอดภัย”

ทั้งนี้แนวทางที่น่าจะเป็นไปได้มากที่สุดคือ กทม.ลงทุนเอง หรือ จ้างวิสาหกิจของ กทม.เข้ามาดำเนินการ อาจจะเป็นกรุงเทพธนาคมหรือจัดตั้งวิสาหกิจขึ้นมาใหม่เลยก็ได้ ซึ่งรูปแบบนี้จะทำให้กรุงเทพมหานครมีส่วนสำคัญในการกำหนดอัตราค่าโดยสาร เล็งเห็นประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก อาจแตกต่างจากระบบสัมปทานที่เอกชนมีส่วนในการกำหนดราคาเพราะมีตัวแปรเรื่องผลกำไร ความคุ้มทุนเข้ามา แต่กรุงเทพมหานครคิดในลักษณะนั้นไม่ได้เพราะเราต้องยึดการให้บริการประชาชนเป็นหลัก หาทางเลือกให้กับประชาชนในการเดินทาง

นายอมร กล่าวว่า อีกมุมหนึ่งกรุงเทพมหานครมีความพยายามในการปรับศักยภาพของการให้บริการของรถบีอาร์ที แต่ก็มีข้อจำกัดหลายประการ ที่จำเป็นจะต้องปรับเปลี่ยน ส่วนโมโนเรลนั้นมีความแตกต่างจากรถบีอาร์ทีในแง่ผลกระทบด้านการจราจรที่ไม่ต้องแบ่งเส้นทางกับระบบการเดินทางอื่น ทำให้ไม่ติดกับดักการจราจรดังที่รถบีอาร์ทีเป็น แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องยกเลิกรถบีอาร์ทีไปเพราะกว่าจะเริ่มก่อสร้างในเฟสที่ซ้อนทับกันก็ยังจำเป็นที่จะต้องมีทางเลือกให้ประชาชนในการเดินทางอยู่

อย่างไรก็ตามโครรการเดินรถบีอาร์ทีนั้นยังเหลือระยะเวลาในการดำเนินการอีก 3 ปี ซึ่งจากสถิติพบว่าประชาชนยังคงพึงพอใจในการบริการอยู่ และแม้ว่าจะไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่ได้วางไว้แต่ก็มีความนิยมต่อเนื่องก็ถือว่าเป็นที่น่าพอใจ ประชาชนใช้บริการวันละ 2 หมื่นคน/วัน ค่าโดยสารยังคงอยู่ที่ 5 บาท แน่นอนว่าเรามีแนวทางในการพัฒนาบีอาร์ทีให้สามารถตอบสนองประชาชนได้มากขึ้น แม้ว่าปัจจุบันยังคงติดปัญหาด้านการจราจรที่ต้องใช้ช่องทางร่วมกับรถอื่น กรุงเทพมหานครจึงพยายามหาแนวทางปรับปรุงยกระดับเพื่อตอบโจทย์ประชาชนให้มากขึ้น โดยอาจจะยกระดับให้เป็นรถไฟฟ้าแบบ Automated Guideway Transit (AGT)ที่ไม่มีเจ้าหน้าที่ขับรถ (Automated Unmanned Operation) รถจะวิ่งด้วยระบบอาณัติสัญญาณแบบอัตโนมัติ ซึ่งจะเป็นรถไฟฟ้าชนิดที่ใช้ล้อยาง วิ่งบนทางวิ่งคอนกรีตหรือทางวิ่งที่เป็นเหล็กก็ได้ หรือโมโนเรล ซึ่งก็จะสอดคล้องกับโมโนเรลสายสีเทา จะทำให้สามารถขยายเส้นทางได้เพิ่มขึ้นในอนาคต

ด้านนายทวีศักดิ์ เลิศประพันธ์ ผู้อำนวยการ สำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) กล่าวว่า หลังจาก กทม.ได้เปิดรับฟังความคิดเห็นประชาชนแล้ว จะยื่นรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม หรือ EIA ต่อสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งในระหว่างที่รอการอนุมัติ EIA จะศึกษารูปแบบการลงทุนโครงการไปด้วย ซึ่งจะใช้วิธีการใดนั้นจำเป็นจะต้องนำเสนอเหตุผล ข้อดีข้อเสียทุกประการเพื่อประกอบการพิจารณาแก่คณะผู้บริหาร รวมถึงแผนการบริหารจัดการโครงการทั้งระบบเพราะโครงการดังกล่าวจำเป็นต้องใช้งบประมาณในการลงทุนไม่น้อย

สำหรับโครงการรถไฟฟ้ารางเดี่ยว โมโนเรลสายสีเทา มีจุดเริ่มต้นที่สถานีวัชรพลและสิ้นสุดที่สถานีท่าพระ มีจำนวน 39 สถานี รวมระยะทาง 39.91 กิโลเมตร แนวเส้นทางเริ่มจากถนนรามอินทรา ตัดกับถนนประดิษฐ์มนูธรรม เลียบทางพิเศษฉลองรัช เข้าสู่ใจกลางเมืองย่านทองหล่อ สุขุมวิท เข้าถนนพระราม 4 ตลาดคลองเตย ถนนสาทร ถนนนราธิวาสราชนครินทร์ เลี้ยวเข้าถนนพระราม 3 ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณสะพานพระราม 3 ผ่านสี่แยกมไหสวรรค์ เข้าสู่ถนนรัชดาภิเษก ไปสิ้นสุดที่แยกท่าพระ

โดยที่ปรึกษาโครงการได้สรุปผลการศึกษา แบ่งเป็น 3 ช่วงดำเนินการ

1) ในช่วงแรก คือ ช่วงวัชรพล-ทองหล่อ ระยะทาง 16.25 กิโลเมตร จำนวน 15 สถานี งบประมาณการก่อสร้าง 24,000 ล้านบาท มีขบวนรถไฟ 3 ตู้
2) ช่วงที่ 2 พระโขนง-พระราม 3 ระยะทาง 12.17 กม. จำนวน 15 สถานี งบประมาณการก่อสร้าง 15,000 ล้านบาท และ
3) ช่วงที่ 3 พระราม 3-ท่าพระ ระยะทาง 11.49 กม. จำนวน 9 สถานี งบประมาณการก่อสร้าง 18,000 ล้านบาท รวมเงินลงทุนทั้งหมด 57,000 ล้านบาท

อย่างไรก็ตามโครงการรถไฟฟ้าโมโนเรล สายสีเทา ช่วงวัชรพล-สะพานพระราม 9-ท่าพระ จะมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น หากผ่านการพิจารณาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมที่คาดว่าจะมีความชัดเจนภายในปีนี้ และทำให้คนกรุงเทพฯ จะได้ใช้โมโนเรลสายแรกนี้ในอีก 6 ปีข้างหน้า แม้ว่าระบบนี้จะเป็นเพียงเส้นทางโครงข่ายสายรอง แต่ก็อยู่ในเส้นทางตามแนวเหนือ-ใต้ ที่สามารถเชื่อมต่อการเดินทางกับรถไฟฟ้าสายอื่นๆ เช่น สายสีส้ม , สายสีเขียว ,สายสีแดงอ่อน , สายสีน้ำเงิน รวมทั้งสายสีชมพู และสายสีเหลือง จะทำให้ในอนาตคการเดินทางของประชาชนสะดวกมากขึ้น ถ้าเกิดได้ก็จะถือเป็นผลงานที่เป็นชิ้นเป็นอันของผู้ว่าฯสุขุมพันธุ์ ก็ว่าได้

[Wisarut]

ผุดรถไฟฟ้าสายสีทอง 2 พันล้าน ไอคอนสยามทุ่มเชื่อมบีทีเอส
7 กรกฎาคม 2558 เวลา 10:30:37 น.


"ไอคอน สยาม" เจียด 2 พันล้าน ประเคน กทม.ผุดรถไฟฟ้าสายสีทอง 1 กิโลเมตรเศษ วิ่งรับคนเข้าศูนย์การค้า จากบีทีเอสสถานีกรุงธนบุรี-คลองสาน จอดป้าย 3 สถานี บุกคมนาคมขอ "ประจิน"


ตั้งเป้าเปิดใช้บริการ ธ.ค. 60

แหล่งข่าวจากกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า เมื่อวันที่ 3 ก.ค.ที่ผ่านมา ทางผู้บริหาร กทม.และบริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด กับบริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ในเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) ผู้พัฒนาโครงการไอคอนสยามเข้าพบ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เพื่อแจ้งให้รับทราบถึงแนวทางพัฒนาโครงการระบบขนส่งมวลชนขนาดรองบนถนนเจริญนคร หรือรถไฟฟ้าสายสีทอง ระยะทาง 1 กิโลเมตรเศษ ใช้เงินลงทุนกว่า 2,000 ล้านบาท มี 3 สถานี ได้แก่ สถานีกรุงธนบุรี สถานีไอคอนสยาม และสถานีคลองสาน

แนวเส้นทางจะเชื่อมกับรถไฟฟ้าบีทีเอสที่สถานีกรุงธนบุรี วิ่งเข้าถนนเจริญนคร สิ้นสุดที่สำนักงานเขตคลองสาน ซึ่งเอกชนจะให้เงิน กทม.ก่อสร้างฟรีทั้งโครงการ เนื่องจากเอกชนต้องการแก้ไขปัญหารถติดและรองรับการเปิดให้บริการไอคอนสยามในเดือน ธ.ค. 2560 ซึ่งเป็นโครงการขนาดใหญ่ ภายในประกอบด้วย 2 อาณาจักรศูนย์การค้า พื้นที่รวม 5.25 แสนตารางเมตร อาคารที่พักอาศัยริมน้ำซูเปอร์ลักเซอรี่ สูง 70 ชั้น 1 อาคาร และสูง 40 ชั้น 1 อาคาร

"การเข้าพบเพื่อเป็นการรายงานให้กระทรวงคมนาคมรับทราบ เพราะหลังจากศึกษารายละเอียดโครงการเสร็จจะต้องนำเสนอโครงการนี้บรรจุเข้าไปในแผนแม่บทรถไฟฟ้าเพิ่มเติม ขั้นตอนต้องนำเสนอขออนุมัติตามกระบวนการ ทั้งคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) และคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อก่อสร้างโครงการ"

แหล่งข่าวกล่าวว่า ทั้งนี้ กทม.อยู่ระหว่างศึกษาโครงการ คาดว่าจะแล้วเสร็จปลายปีนี้ จากนั้นในปี 2559 จะเร่งจัดทำรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) และขออนุมัติโครงการตามขั้นตอนต่าง ๆ ตามแผนน่าจะเปิดประมูลและเริ่มก่อสร้างปี 2560 ใช้เวลาก่อสร้าง 2 ปี

[Wisarut]

'รถไฟฟ้าสายสีทอง' วิน-วิน หรือหยิบชิ้นปลามัน
by Wake Up Thailand Wake Up Thailand
Voice TV
9 กรกฎาคม 2558 เวลา 09:57 น.

//-----

ไอคอนสยามแจงแผนผุดรถไฟฟ้าสายสีทองแล้ว
ข่าวเศรษฐกิจ
INN News
วันอาทิตย์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ.2558 15:37น.

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เผยไอคอนสยาม แจงแผนสร้างรถไฟฟ้าสายสีทองแล้ว ชง คจร., ครม.พิจารณา

พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวถึงโครงการรถไฟฟ้าสายสีทอง ว่า กลุ่มผู้บริหาร กทม.และบริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด กับบริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ในเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) ผู้พัฒนาโครงการไอคอนสยามได้รายางานให้กระทรวงคมนาคมรับทราบถึงแนวทางพัฒนาโครงการระบบขนส่งมวลชนขนาดรองบนถนนเจริญนคร หรือรถไฟฟ้าสายสีทอง แล้วซึ่งทางกระทรวงเห็นว่าเรื่องดังกล่าวจะต้องนำเข้าคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก หรือ คจร. เพื่อขอความเห็นชอบบรรจุเข้าไปในแผนแม่บทรถไฟฟ้าเพิ่มเติม และนำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี หรือ ครม. เพื่อขออนุมัติดำเนินโครงการ พร้อมกันนี้ กทม. จะต้องหาพื้นที่ในการก่อสร้างอู่จอดและอู่ซ่อมรถ ซึ่งเบื้องต้นอาจจะใช้พื้นที่ของกรมทางหลวงชนบท โดยกรมทางหลวงชนบทเคยมอบพื้นที่ให้ กทม. ไปใช้แล้วส่วนหนึ่งซึ่งขณะนี้เป็นสวนสาธารณะ

อย่างไรก็ตาม หาก กทม. มีความประสงค์จะนำพื้นที่ไปใช้ในการก่อสร้างหรือดำเนินโครงการ ทางกระทรวงคมนาคมก็ให้ความเห็นชอบเท่านั้น ส่วนจะดำเนินการก่อสร้างโครงการในช่วงใดนั้นเป็นแผนของทาง กทม. ที่จะดำเนินการ

[Wisarut]

กทม.เดินหน้าโมโนเรล'สายสีเทา' ช่วงวัชรพล-สะพานพระราม9
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
วันที่ 04 สิงหาคม 2558, 06:30

นายอมร กิจเชวงกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหายคร(กทม.) กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการรถไฟฟ้ารางเดี่ยว(โมโนเรล) สายสีเทา ช่วงวัชรพล-สะพานพระราม 9 ว่า ขณะนี้ได้ลงไปดูพื้นที่และเข้าไปหารือพื้นที่ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย บริเวณสี่แยกเกษตรนวมินทร์ตัดถนนประดิษฐ์มนูธรรม จำนวนพื้นที่ 13 ไร่ เพื่อพิจารณาพื้นที่ในการก่อสร้างศูนย์ซ่อมบำรุงรถไฟฟ้าโมโนเรล แต่การทางพิเศษแห่งประเทศไทยยืนยันว่าพื้นที่บริเวณดังกล่าวจำเป็นต้องใช้ในการก่อสร้างทางด่วน

ดังนั้นกทม.ต้องหาพื้นที่ในบริเวณใกล้เคียง ทั้งนี้ ในหลักการหากเป็นพื้นที่ของหน่วยงานภาครัฐจะใช้งบประมาณน้อยกว่าพื้นที่ของเอกชน ดังนั้นกทม.จึงต้องมองหาพื้นที่ของหน่วยงานภาครัฐเป็นหลัก แต่ในบริเวณใกล้เคียงไม่มีพื้นที่ของหน่วยงานภาครัฐ ทำให้ต้องพิจารณาพื้นที่ของเอกชน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณาพื้นที่ของเอกชน จำนวน 2 แห่ง เพื่อก่อสร้างศูนย์ซ่อมบำรุงต่อไป

รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีเทา เบื้องต้นมีสถานี จำนวน 39 สถานี โดยเริ่มต้นจากสถานีวัชรพลและสิ้นสุดที่สถานีท่าพระ ระยะทาง 39.91 กิโลเมตร ใช้งบลงทุนตลอดสาย 63,500 ล้านบาท ซึ่งผลตอบแทนทางเศรษฐกิจอยู่ที่ 18.7 เปอร์เซนต์ คาดว่าในปี 2592 จะมีผู้โดยสารในช่วงเฟสแรก (วัชรพล-ทองหล่อ) ระยะทาง 16.25 กม. จำนวน 15 สถานี มากถึง 10,500 คน/ชม./ทิศทาง หรือ 259,000 คน/เที่ยว/วัน โดยค่าก่อสร้าง 1,500 ล้านบาท ผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ 20.3 เปอร์เซนต์ ส่วนช่วงเฟสที่ 2 (พระโขนง-พระราม3) ระยะทาง 12.17 กม. จำนวน 15 สถานี มากถึง 10,800 คน/ชม./ทิศทาง หรือ 310,000 คน/เที่ยว/วัน โดยค่าก่อสร้าง 1,750 ล้านบาท ผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ 13.6 เปอร์เซนต์ และช่วงเฟสที่ 3 (พระราม3-ท่าพระ) ระยะทาง 11.49 กม. จำนวน 9 สถานี มากถึง 11,700 คน/ชม./ทิศทาง หรือ 100,000 คน/เที่ยว/วัน โดยค่าก่อสร้าง 1,850 ล้านบาท ผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ 9.3 เปอร์เซนต์

[Wisarut]

[Wisarut]

กทม.เคลียร์ปัญหาสายสีเทา หลังสุขุมพันธ์เบรกเวนคืน
BUSINESS - HomeBusiness - Real Esate
ฐานเศรษฐกิจ
ออนไลน์เมื่อ ศุกร์ ที่ 18 กันยายน 2558
ตีพิมพ์ใน หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 35 ฉบับที่ 3088 วันที่ 17-19 กันยายน พ.ศ. 2558

กทม.เร่งเคลียร์ปัญหาจุดเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีเทาที่ทองหล่อ หลังผู้ว่า “สุขุมพันธุ์” ตีกรอบไม่ให้กระทบเวนคืน เร่งหารือกทพ.ขอใช้พื้นที่ตามแนวทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา คาดเปิดให้เอกชนเข้าร่วมเหตุงบลงทุนมากกว่า 2 หมื่นล้านบาท ลุ้นปีหน้าเสนอประมูลโครงการ

นายอมร กิจเชวงกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ถึงความคืบหน้าโครงการรถไฟฟ้าสายสีเทาของกรุงเทพมหานคร ช่วงวัชรพล-สะพานพระราม 9 ว่า ขณะนี้ผลการศึกษาออกแบบโครงการได้นำเสนอให้สำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) พิจารณาแล้ว โดยแนวคิดเดิมเฟสแรกที่นำเสนอให้คณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก(คจร.) เห็นชอบแล้วนั้น จะดำเนินการถึงถนนลาดพร้าว ล่าสุดมีแนวคิดขยายไปจนถึงทองหล่อซึ่งจัดเป็นเฟสที่ 2 เพราะต้องการให้ระบบโมโนเรลเป็นฟีดเดอร์ต่อเชื่อมกับรถไฟฟ้าบีทีเอส ซึ่งเป็นระบบขนส่งมวลชนขนาดใหญ่

อย่างไรก็ตาม จากการเปิดรับฟังความคิดเห็นของประชาชนไปแล้ว 2 ครั้ง การขยายเส้นทางเฟสที่ 3 จากทองหล่อผ่านถนนพระราม 4 ไปยังสะพานพระราม 9 นั้น มีปัญหาด้านเทคนิคในการเชื่อมต่อ จากทองหล่อกับเฟสที่ 3 จากพระโขนงไปยังสะพานพระราม 9 เนื่องจากนโยบายของ ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครไม่ต้องการเวนคืนพื้นที่ให้ประชาชนเดือดร้อน ประการสำคัญจุดเริ่มต้นเฟสที่ 2 กับเฟสที่ 3 มีหลายแนวทาง คือ ให้สิ้นสุดที่สถานีทองหล่อแล้วไปเริ่มต้นที่สถานีพระโขนง ซึ่งเป็นเฟสที่ 3 ทดแทนการเริ่มต้นจากช่วงทองหล่อ โดยใช้บีทีเอสจากสถานีทองหล่อไปยังสถานีพระโขนงเพื่อเชื่อมต่อโมโนเรล ณ จุดดังกล่าว

“ในทางปฏิบัติถือว่ามีความยุ่งยากในการเชื่อมต่อ โดยเฉพาะกรณีที่ผู้ใช้บริการจำนวนมาก ดังนั้นทางเลือกนี้จึงมีความซับซ้อนอย่างมาก เช่นเดียวกับแนวทางที่ 2 ซึ่งยุ่งยากกว่า คือ ทำทางลอดใต้ดิน ช่วงทองหล่อ ขณะนี้กลุ่มบริษัทที่ปรึกษาอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ เพราะมีแนวท่อประปาและท่อระบายน้ำผ่านตามแนวเกาะกลางของถนนสุขุมวิท จึงอาจจะมีการขยับจุดตั้งสถานีให้เหมาะสม แต่ก็มีความเป็นไปได้เช่นกัน แม้ว่าต้นทุนดำเนินโครงการจะเพิ่มขึ้นแต่ก็เกิดความคุ้มค่าการลงทุนในระยะยาว”

นายอมรกล่าวอีกว่า ได้มอบหมายให้ผู้ที่เกี่ยวข้อง เร่งขอใช้พื้นที่ข้างแนวทางด่วนเส้นทางเอกมัย-รามอินทรากับการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เพื่อจะสร้างทางเชื่อมสกายวอล์กหรือต้องลอดทางด่วนในบางจุด หากเจรจากับกทพ.สำเร็จได้เร็ว และผลการรับรองอีไอเอผ่านการพิจารณาคาดว่าจะเสนอขออนุมัติดำเนินการประมูลก่อสร้างได้ในปลายปี 2559 เพื่อให้ทันวาระครบเทอมการดำรงตำแหน่งของผู้ว่ากทม. ที่เหลืออีกประมาณ 1 ปี

ส่วนการดำเนินโครงการนั้น ด้วยงบประมาณโครงการสูงกว่า 2 หมื่นล้านบาท แต่ กทม. ยังไม่พร้อมจะแบกรับภาระเงินกู้จำนวนมากในขณะนี้ได้ จึงกำหนดรูปแบบการลงทุน 3 แนวทางเลือก คือ
1.เปิดให้เอกชนร่วมลงทุนหรือสัมปทาน
2.กทม.ดำเนินการเอง และ
3.กทม.มอบหมายให้บริษัท กรุงเทพ ธนาคม จำกัด(เคที) ดำเนินการ

ซึ่งแต่ละแนวทางก็มีข้อจำกัดที่แตกต่างกันไป

“การมอบหมายให้ เคทีดำเนินการ ข้อดีคือ กทม.ไม่มีภาระเรื่องการกู้เงิน และสามารถใช้เรื่องค่าโดยสารสนับสนุนการเดินทางของประชาชนได้ แต่ข้อจำกัดของเคทีก็มีจำนวนมากเช่นกัน” นายอมรกล่าว