ข่าว Airport Link

Wisarut · Posted: 07/12/2006 6:20 pm Post subject:

ปธ.บอร์ด รฟท.แจงปัญหาความล่าช้าโครงการแอร์พอร์ตลิงก์

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 7 ธันวาคม 2549 13:57 น.

นายศิวะ แสงมณี ประธานคณะกรรมการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กล่าวถึง ความล่าช้าของโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าเชื่อมสนามบินสุวรรณภูมิ หรือ แอร์พอร์ตลิงก์ ว่า เกิดจากการปรับแก้แบบ และผู้รับเหมาเกิดขาดสภาพคล่องทางการเงิน และอุปสรรคที่การรถไฟฯไม่สามารถส่งมอบพื้นที่ให้ได้ พร้อมกับระบุว่า ความไม่พร้อมทางการเงินของกลุ่มชิโนไทย ซึ่งเป็นผู้รับเหมาไม่น่าจะเป็นข้ออ้างทำให้การก่อสร้างล่าช้า เพราะไม่เคยมีใครบังคับให้เข้ามาประกวดราคา และควรจะเตรียมตัวก่อนจะเข้ามารับงานโครงการนี้
ส่วนการเข้าพื้นที่ไม่ได้ผู้รับเหมาควรจะก่อสร้างในพื้นที่ที่ทำได้ไปก่อน จึงกำชับให้เร่งรัดงานจากที่กำหนดไว้ว่า จะเสร็จในเดือนมิถุนายน 2551 ให้เป็นเดือนเมษายน 2551 เนื่องจากเห็นว่า ประชาชนเดือดร้อนจากความไม่สะดวก และค่าใช้จ่ายสูงในการเดินทางไปสนามบินสุวรรณภูมิ
ทั้งนี้ การก่อสร้างล่าช้าอยู่ที่ร้อยละ 45 จากที่ต้องทำได้ทั้งหมดร้อยละ 75 และการรถไฟฯ จะแก้ปัญหาการส่งมอบพื้นที่ชุมชนเดชา และอาคารพาณิชย์โอเอริมถนนราชปรารภให้ได้ภายในปีนี้

Wisarut · Posted: 07/12/2006 6:28 pm Post subject:

รฟท.ตั้งกรรมการสอบทุจริต 'แอร์พอร์ต ลิงก์' อีกทีม

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 7 ธันวาคม 2549 15:31 น.

ประธานกรรมการ รฟท.ลุยตรวจเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีแดง ช่วงเชื่อมต่อสนามบินสุวรรณภูมิ (แอร์พอร์ต ลิงก์) หลังพบงานก่อสร้างล่าช้ากว่าแผนถึงร้อยละ 30 พร้อมสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข่าวการทุจริตอีก 1 ทีม โดยจะพุ่งเป้าไปที่ค่าธรรมเนียมเงินกู้ที่สูงกว่าปกติ

ในช่วงเช้าที่ผ่านมา นายศิวะ แสงมณี ประธานกรรมการ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้เดินทางตรวจเยี่ยมสำนักงานก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต ลิงก์ รวมถึงสำรวจความคืบหน้าของการก่อสร้าง ซึ่งขณะนี้พบว่า งานมีความคืบหน้าเพียงร้อยละ 45 จากแผนการก่อสร้างที่ควรจะมีความคืบหน้าร้อยละ 75 ซึ่งถือว่าล่าช้ากว่าแผนถึงร้อยละ 30 โดยนายศิวะ กล่าวว่า จากการตรวจสอบสาเหตุของการล่าช้า พบว่ามาจากปัญหาเรื่องการเจรจารื้อย้ายชุมชนบริเวณการก่อสร้างทั้ง 6 แห่ง ผู้รับเหมาขาดสภาพคล่อง การส่งมอบพื้นที่ล่าช้า รวมถึงการเปลี่ยนสเปกในโครงการ จากขนาดความกว้างของรางแบบ 1 เมตร มาเป็นแบบ 1.45 เมตร หรือ สแตนดาร์ด เกจ อย่างไรก็ตาม ได้ขอให้ฝ่ายบริหารพยายามเร่งรัดงานในส่วนที่ล่าช้านี้ไปแล้ว

สำหรับปัญหาการสอบสวนการทุจริตในโครงการ ขณะนี้ได้มีการลงนามคำสั่งขอให้ฝ่ายบริหารของ รฟท. ทำการสอบสวนข่าวการทุจริตในประเด็นสำคัญ 4-5 ประเด็น ที่ได้รับมอบหมายจากนายสรรเสริญ วงศ์ชะอุ่ม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม โดยมีประเด็นสำคัญ ตั้งแต่ความเป็นมาของโครงการ และที่สำคัญ การที่ผู้บริหาร รฟท.ขณะนั้น ไปทำสัญญายินยอมจ่ายเงินค้ำประกันเงินกู้ วงเงิน 1,600 ล้านบาท หรือสูงถึงร้อยละ 7 ของมูลค่างาน ในขณะที่โครงการอื่น ๆ จะมีต้นทุนดังกล่าวประมาณร้อยละ 2-3 เท่านั้น โดยคาดว่าการสอบสวนจะได้ข้อสรุปภายใน 1 เดือน หรือต้นปี 2550

นอกจากนี้ แม้ว่า รฟท.จะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นสอบสวนเป็นการภายในแล้ว บอร์ด รฟท.ยังได้กำชับให้ฝ่ายบริหารให้ความร่วมมือในการสอบสวนเรื่องดังกล่าวกับคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ด้วย

ด้านนายสรรเสริญ วงศ์ชะอุ่ม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวยอมรับว่า ขณะนี้การก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต ลิงก์ ช้ากว่าแผนไปอย่างมาก และได้สั่งการให้บอร์ด รฟท.ทำการเร่งรัดงานแล้ว ส่วนปัญหาข่าวการทุจริตในโครงการนั้น ก็ได้กำชับว่า ขอให้แยกการทำงานในส่วนการเดินหน้าก่อสร้างและการสอบสวนการทุจริตออกจากกัน โดยอย่าให้การสอบสวนทำให้โครงการต้องล่าช้าไปอีก เนื่องจากโครงการแอร์พอร์ต ลิงก์ มีความสำคัญ เป็นเส้นทางระบบขนส่งสาธารณะที่ต้องเชื่อมต่อกับท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

Wisarut · Posted: 08/12/2006 9:42 am Post subject:

รฟท.ขู่ล้มสัญญาแอร์พอร์ตลิงค์ ขีดเส้นเสร็จทันเม.ย.51

Thai Post 8 ธันวาคม 2549 กองบรรณาธิการ

ประธานบอร์ด ร.ฟ.ท.เต้น โครงการแอร์พอร์ตลิงค์คืบแค่ 45% สั่งบริษัทที่ปรึกษาการรถไฟฯ จี้ผู้รับเหมาเร่งงานให้เสร็จภายในเดือน เม.ย.2551 ขู่ล้มสัญญาหากทำไม่ได้

ตอกกลับอย่าโยงปัญหาฐานะการเงินการรถไฟฯ เป็นข้ออ้าง

นายศิวะ แสงมณี ประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า โครงการระบบขนส่งทางรถไฟเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และสถานีรับ-ส่งผู้โดยสารอากาศยานในเมือง (แอร์พอร์ตลิงค์) ช่วงพญาไท-สุวรรณภูมิ มีคืบหน้า 45% จากเป้าหมายที่ตั้งไว้ 75% ถือว่าล่าช้ามาก เบื้องต้นพบว่าเกิดจากปัญหาการเวนคืนที่ดินของชุมชนที่อยู่บริเวณการก่อสร้างโครงการ โดยเฉพาะชุมชนเดชาบริเวณหลังโรงพยาบาลเดชา และอาคารพาณิชย์โอเอบริเวณริมถนนราชปรารภ ซึ่ง ร.ฟ.ท.กำลังเจรจา คาดว่าจะสามารถส่งมอบพื้นที่บริเวณดังกล่าวได้แล้วเสร็จภายในเดือน ธ.ค.นี้

นายศิวะกล่าวว่า ได้มอบหมายให้ ร.ฟ.ท.และบริษัทที่ปรึกษา ไปเร่งรัดผู้รับเหมาให้เร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ควรให้แล้วเสร็จภายในเดือน เม.ย.2551 จากเดิมที่คาดว่าจะแล้วเสร็จในปลายปี 2551

นอกจากนี้ ทางบริษัทที่ปรึกษาเองก็ต้องไปดูรายละเอียดว่าจะสามารถเร่งรัดผู้รับเหมาได้อย่างไร เพื่อให้สามารถรองรับผู้โดยสารที่เดินทางไปสู่สนามบินสุวรรณภูมิ เพราะขณะนี้ต้องยอมรับว่าผู้โดยสารต้องจ่ายเงินค่าแท็กซี่เท่ากับค่าโดยสารที่นั่งรถไปโครราช หากผู้รับเหมาไม่สามารถทำได้ก็จะให้ทาง ร.ฟ.ท.และบริษัทที่ปรึกษายกเลิกการต่อสัญญาจ้าง

"ผมต้องการให้กลุ่มบริษัทที่ปรึกษาเร่งรัดการก่อสร้าง ถ้ามีเหตุผลเพียงพอเราจะต่อสัญญาจ้าง และต้องทำความเข้าใจกับผู้รับเหมาว่าปัญหาทางสภาพคล่องทางการเงินไม่ใช่ปัญหาของผู้ว่าจ้าง จะเร่งรัดงานให้เร็วได้หรือไม่ ที่มีปัญหาไม่ใช้เพราะ ร.ฟ.ท.ส่งมอบพื้นที่ล่าช้า เพราะมีบางพื้นที่ส่งมอบแล้วก็ยังไม่เข้าไปดำเนินงาน ผู้รับเหมาน่าจะเพิ่มอุปกรณ์ เพิ่มคนทำงานมากกว่านี้ ผมไม่ต้องการให้ภาพลักษณ์ของ ร.ฟ.ท.เสียหาย" นายศิวะกล่าว

ทั้งนี้ โครงการแอร์พอร์ตลิงค์มูลค่ารวม 25,907 ล้านบาท โดยผู้ชนะการประมูลคือ กลุ่มกิจการร่วมค้าบีกริม ซีเมนต์ และชิโน-ไทย โดยมีบริษัท ชิโน-ไทย คอนสตรัคชั่น ธุรกิจครอบครัวนายอนุทิน ชาญวีรกูล อดีต รมช.สาธารณสุข โดยเสนอราคาต่ำกว่าราคากลางประมาณ 50,000 บาท

สำหรับการตรวจสอบทุจริตการจ่ายค่าธรรมเนียมเงินกู้สูงกว่าที่ควรจ่ายในการก่อสร้าง ขณะนี้ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในเดือน ม.ค.2550 ส่วนที่วิตกกันว่าจะมีความเกี่ยวข้องกับนักการเมืองหรือขั้วอำนวจใดๆ นั้น ไม่กังวล และไม่สนใจทั้งนักการเมืองท้องถิ่นหรือนักการเมืองระดับชาติ

นายมนัส ชื่นเกิดลาภ ผู้จัดการโครงการแอร์พอร์ตลิงค์ กลุ่มบริษัทที่ปรึกษาโครงการ กล่าวว่า เมื่อต้นปี 2549 ร.ฟ.ท.ได้ปรับแผนการก่อสร้างโครงการใหม่ โดยการยืดเวลาแล้วเสร็จออกไป 1 ปี จากเดิมที่แล้วเสร็จภายในวันที่ 5 พ.ย.2550 เป็น 5 พ.ย.2551 เนื่องจากติดปัญหาการส่งมอบพื้นที่, การปรับเปลี่ยนแบบ และปัญหาการขาดสภาพคล่องของผู้รับเหมา

นายสรรเสริญ วงศ์ชะอุ่ม รมช.คมนาคม ยอมรับว่า การก่อสร้างโครงการแอร์พอร์ตลิงค์ล่าช้ากว่าแผนอย่างมาก และได้สั่งการให้บอร์ด ร.ฟ.ท.เร่งรัดงานแล้ว.

Wisarut · Posted: 08/12/2006 9:44 am Post subject:

สนข.ฟันธงประชาพิจารณ์รถไฟฟ้า5สายเสร็จใน20ธ.ค.นี้
สนข . มั่นใจทำประชาพิจารณ์โครงการรถไฟฟ้า 5 สายทาง เสร็จภายในวันที่ 20 ธ.ค.นี้ ระบุ ใช้แนวทางตามพ.ร.บ.รัฐและเอกชนร่วมทุน ช่วยบริหารการลงทุนและจัดการเดินรถคล่องตัว
ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ
วันที่ : 6 ธันวาคม 2549
เวลา : 19:23 น.

นายไมตรี ศรีนราวัฒน์ ผู้อำนวยการ สนข . กล่าวว่า ในการจัดทำแบบรับฟังความเห็นของประชาชน ในการสร้างรถไฟฟ้าทั้ง 5 สายทางนี้ คาดว่าจะแล้วเสร็จและสามารถสรุปผลได้ในวันที่ 20 ธ.ค.นี้ หลังจากที่ สนข .เปิดให้ประชาชนส่งความคิดเห็นผ่านตู้ ปณ .7 ทำเนียบรัฐบาล และช่องทางอื่น ๆ โดยได้ร่วมมือกับสวนดุสิตโพล ในการทำการประมวลผลการรับฟังข้อมูลทั้งหมด
ทั้งนี้ ภายหลังได้ผลสรุปแล้ว สนข .จะทำสรุปความเห็นเสนอกระทรวงคมนาคม เพื่อนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีต่อไป โดยหลังจากนั้น สนข .จะเดินหน้าจัดทำแผนรายละเอียดของโครงการรถไฟฟ้าทั้ง 5 เส้นทาง เพื่อให้มีกรอบที่ชัดเจนในการดำเนินการ ทั้งกรอบระยะเวลาในการเปิดประมูลโครงการ ขั้นตอนการประมูล การทำผลศึกษาสิ่งแวดล้อม และออกพระราชกฤษฎีกา เวนคืนเส้นทาง ที่ยังไม่ได้ดำเนินการก่อนหน้านี้
สำหรับความวิตกที่หลายฝ่ายเกรงว่า แนวทางการเปิดประมูลโครงการ โดยใช้แนวทางตามพระราชบัญญัติร่วมทุนระหว่างภาครัฐและเอกชนมาใช้ จะทำให้การก่อสร้างโครงการล่าช้า และเอกชนจะเข้ามามีบทบาทในการกำหนดราคาค่าโดยสารในอนาคตด้วยนั้น ผู้อำนวยการ สนข . กล่าวว่า แนวทางดังกล่าวมีข้อดี จะช่วยให้การบริหารการลงทุน และจัดการระบบเดินรถ มีความคล่องตัวมากกว่าที่ภาครัฐ จะเป็นผู้ลงทุนก่อสร้าง และบริหารการเดินรถเองทั้งระบบ

donatt76 · Posted: 09/12/2006 12:22 am Post subject:

พี่ๆครับมีคำถาม ใครช่วยตอบที

เรามัวแต่รื้อ มัวแต่สอบหาความโปร่งใส มัวแต่ทำประชาพิจารณ์กันไม่จบไม่สิ้น แล้วชีวิตนี้เราจะได้มี Airport Link กับเค้ามั้ยอ่ะครับ

เดี๋ยวกลัวจะเหมือนกับ Hope Well เป็นอนุเสาวรีย์อยู่บนทางสายเหนืออีก

Wisarut · Posted: 09/12/2006 8:37 pm Post subject:

ถึงไม่ตรวจสอบความโปร่งใสก็ล่าช้ากว่าแผนอยู่ดีเพราะ ซีโนไทตอนนี้บ้อจี๊ ... แม้จะไม่ถึงขั้นถังแตกก็ตาม Embarassed

ดูจากข่าวนี้ก็ได้

'ศิวะ'ตั้งทีมคุ้ยทุจริตแอร์พอร์ตลิงค์
ฐานเศรษฐกิจ 7-9 ธันวาคม 2547

"ศิวะ แสงมณี" จี้รฟท.-ที่ปรึกษาคุมเข้ม "ซิโน-ไทย" เร่งงานให้เสร็จโดยเร็ว ลั่น!ข้ออ้างขาดสภาพคล่อง-ส่งมอบพื้นที่ช้า ฟังไม่ขึ้น ขีดเส้นตาย เม.ย.51 ต้องเสร็จ เดินหน้าตั้งกรรมการคุ้ยปมไอ้โม่งทุจริตแอร์พอร์ตลิงค์ คาดรู้ผลหลังปีใหม่ ด้านความคืบหน้าการก่อสร้างยังช้าอยู่ถึง 29.86%

นายศิวะ แสงมณี ประธานกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่าได้สั่งการให้ผู้บริหารของการรถไฟฯ และกลุ่มบริษัทที่ปรึกษา ไปเร่งรัดผู้รับเหมาก่อสร้างโครงการระบบขนส่งทางรถไฟ เชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (Airport Rail Link Project) ช่วงพญาไท-มักกะสัน/อโศก-สุวรรณภูมิ และสถานีรับส่งผู้โดยสารอากาศยานในเมือง หรือแอร์พอร์ตลิงค์ ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ซึ่งเป็นเรื่องเร่งด่วนที่จะต้องทำก่อนเรื่องของการพิจารณาว่าจะขยายเวลาการก่อสร้างให้แก่ผู้รับเหมาก่อสร้าง คือ บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน)บมจ. หรือไม่ ทั้งนี้เห็นว่าทั้งในเรื่องของสภาพคล่องทางการเงินของผู้รับเหมา รวมถึงการส่งมอบพื้นที่ช้า ไม่ใช่ข้ออ้างที่สมควร เพราะผู้รับเหมาทราบอยู่แล้วว่าจะเกิดปัญหาอะไรขึ้นบ้าง

"อยากเร่งรัดให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ซึ่งจากรายงานของกลุ่มบริษัทที่ปรึกษาควบคุมงาน ได้รายงานว่าด้วยปัญหาอุปสรรคการเปิดแอร์พอร์ตลิงค์ จะต้องเลื่อนออกไปเป็นช่วงเดือน มิ.ย.51 จากเดิมในสัญญาที่กำหนดระยะเวลาแล้วเสร็จวันที่ 5 พ.ย.50 เห็นว่ายังล่าช้ามากเกินไป อยากให้เร่งรัดให้เสร็จไม่เกินเม.ย.51 เพราะจะได้ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้แก่ประชาชนที่เดินทางไปใช้บริการสนามบินสุวรรณภูมิ"

นอกจากนี้นายศิวะ กล่าวว่าได้จัดตั้งกรรมการขึ้นมา 1 ชุด เพื่อตรวจสอบประเด็นการทุจริตในโครงการแอร์พอร์ตลิงค์ กรณีที่มีหลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตใน 4-5 ประเด็น ทั้งในเรื่องความเป็นมาของโครงการ การจ่ายเงินค่าธรรมเนียมเงินกู้ และอื่นๆ โดยมีระยะเวลาตรวจสอบ 1 เดือน โดยคาดว่าหลังปีใหม่จะได้รู้ว่าใครมีส่วนเกี่ยวข้อง เพื่อนำไปขยายผลสู่ขั้นตอนตั้งคณะกรรมการสอบสวนต่อไป

ด้าน นายมนัส ชื่นเกิดลาภ ผู้จัดการโครงการกลุ่มบริษัทที่ปรึกษา ได้รายงานถึงความคืบหน้าในการก่อสร้างว่า ผลงานล่าสุดเมื่อวันที่ 2 ธ.ค.49 ที่ผ่านมา มีความคืบหน้าในภาพรวม 45.09% จากแผนงานที่วางไว้ 74.95% ซึ่งถือว่ายังช้ากว่าแผนงานอยู่ถึง 29.86% โดยแบ่งเป็นงานด้านโยธาและโครงสร้าง ที่ทำได้ 36.07% จากแผนงานที่วางไว้ 69.21% ซึ่งยังช้ากว่าแผนอยู่ 33.13% และงานระบบราง และงานไฟฟ้า-เครื่องจักรกล ทำได้ 53.23% จากแผนงานที่วางไว้ 80.14% ล่าช้ากว่าแผนอยู่ 26.91%

สำหรับความล่าช้า กลุ่มบริษัทที่ปรึกษาได้ประเมินว่าเกิดจาก 3 สาเหตุหลัก คือ การปรับแก้ไขแบบจากเดิมที่ได้ออกแบบโครงสร้างให้รองรับรางขนาด 1 เมตร แต่ในระหว่างประกวดราคาช่วงของรัฐบาลชุดที่ผ่านมา ที่ให้เกิดความโปร่งใสจึงประกาศเปิดกว้างให้ผู้ร่วมประกวดราคาสามารถเสนอขนาดรางแบบใดก็ได้ และเมื่อผลปรากฏว่าผู้ที่ชนะประมูลเสนอให้ใช้เป็นรางขนาด 1.435 เมตร จึงทำให้ต้องมีการปรับแบบโครงสร้าง ปัญหาที่ 2 คือขาดสภาพคล่องทางการเงินของผู้รับจ้างก่อสร้างเอง และสุดท้ายคือปัญหาอุปสรรคจากการรถไฟฯ เองที่ไม่สามารถส่งมอบพื้นที่การก่อสร้างได้ตามกำหนดเวลาในสัญญา

ส่วนเรื่องที่ทางผู้รับจ้างก่อสร้าง ได้เสนอเรื่องขอขยายเวลาก่อสร้างนั้น ขณะนี้ยังไม่ได้มีการพิจารณาอย่างชัดเจน เนื่องจากจะต้องรอให้ทางการรถไฟฯ จัดการส่งมอบพื้นที่ในส่วนที่เหลือ ทั้ง 3 จุด คือ ชุมชนหลังโรงพยาบาลเดชา อาคารพาณิชย์โอเอ และบ้าน 3 หลังริมคลองแสนแสบ ให้เสร็จสิ้นเสียก่อน ซึ่งขณะนี้การรถไฟฯ ยืนยันว่าภายในสิ้นเดือนธ.ค.49 นี้จะรื้อย้ายได้ทั้งหมด จากนั้นแล้วจึงประเมินได้ว่าจะขยายเวลาให้ผู้รับจ้างก่อสร้างหรือไม่ เป็นเวลาเท่าใด

ขณะที่ แหล่งข่าวระดับสูงจากการรถไฟฯ เปิดเผยถึงในส่วนของแผนการเดินรถนั้น ค่อนข้างชัดเจนแล้วว่าจะใช้วิธีการจ้างเอกชนมาทำหน้าที่ในการบริหารจัดการและการเดินรถ เนื่องจากการรถไฟเองยังไม่มีความชำนาญในเรื่องดังกล่าว ซึ่งจะเปิดรับข้อเสนอจากเอกชนที่มีความเชียวชาญทั้งจากภายในและภายนอกประเทศ โดยจะมีการเสนอรายละเอียดของเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมบอร์ดในวันที่ 18 ธ.ค.49 นี้เพื่อขอความเห็นชอบด้วย

Wisarut · Posted: 13/12/2006 2:16 pm Post subject:

รถไฟด่วนสนามบินแถว ลาดกระบัง 12 ธันวาคม 2549 ถ่ายโดยคุณ Barth
Click on the image for full size

Wisarut · Posted: 13/12/2006 2:38 pm Post subject:

คลังหาแหล่งเงินกู้ในประเทศก่อสร้างรถไฟฟ้าสีแดงช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน

โดย ผู้จัดการรายวัน 12 ธันวาคม 2549 11:16 น.

ผู้จัดการรายวัน-เล็งเงินกู้ในประเทศ หรือออกพันธบัตร สร้างรถไฟฟ้าสายสีแดงช่วง บางซื่อ-ตลิ่งชัน เพื่อความรวดเร็ว เหตุข้อเสนอเงินกู้เดิมกับเจบิกไม่มีช่วงนี้ สนข.ตั้ง คณะอนุกรรมการ ดูแผนลงทุนและการบริหารโครงการรถไฟฟ้า 5 สาย เตรียมจัดประชาพิจารณ์ชาวบ้านตลอดแนว 26 ธ.ค. 49 นี้ ก่อนสรุปเสนอเข้า ครม.ต้นม.ค. 50

นายถวิล สามนคร รักษาการผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า คาดว่า โครงการรถไฟฟ้า สายสีแดง ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน นั้นจะกู้เงินภายในประเทศมาดำเนินการก่อสร้าง แทนการกู้เงินจากแหล่งเงินทุนนอกประเทศซึ่งขณะนี้ ได้ตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาศึกษารายละเอียดโดยมีสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบข.) เป็นผู้ดำเนินการ

ส่วนรถไฟฟ้าสายสีแดง ช่วง รังสิต-พญาไท ขณะนี้อยู่ระหว่างการแก้ไขแบบ โดย สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) จะเป็นผู้ดำเนินการจัดจ้างที่ปรึกษาแก้ไขแบบตามมติคณะรัฐมนตรี โดยจะดำเนินการประมาณ 5 เดือนก่อนเสนอครม.เพื่อพิจารณาโครงการอีกครั้ง

ด้านนายอร่าม ก้อนสมบัติ รองผู้อำนวยการ สนข. กล่าวว่า มีแนวโน้มว่ากระทรวงการคลังจะหาแหล่งเงินกู้ก่อสร้างภายในประเทศเพื่อก่อสร้าง รถไฟฟ้าสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน แทนการกู้เงินจากต่างประเทศ ซึ่งมีหลายวิธีเช่น กู้เงินจากแหล่งเงินกู้ หรือการออกพันธบัตร โดย ประมาณการค่าก่อสร้าง เฉพาะช่วง บางซื่อ-ตลิ่งชัน ระยะทาง 15 กิโลเมตร ประมาณ 12,000 ล้านบาท เนื่องจากช่วง บางซื่อ-ตลิ่งชัน ไม่ได้รวมอยู่ในการทำข้อเสนอรายละเอียดการขอกู้จากธนาคารเพื่อความร่วมมือแห่งประเทศญี่ปุ่น (เจบิก) ตั้งแต่แรก ทำให้สำนักงบประมาณกระทรวงการคลังมีแนวความคิดว่าจะขอกู้เงินภายในประเทศแทน เพื่อให้เกิดความรวดเร็วในการก่อสร้าง

ทั้งนี้ สนข. ได้จัดตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาดูแลโครงการรถไฟฟ้า 5 เส้นทาง 2 เรื่อง คือ

1. แผนการลงทุนโครงการทั้งหมด
2.แผนการดำเนินงานบริหารจัดการโครงการ เช่น การดูแลเรื่องตั๋วร่วม ระหว่าง รถไฟฟ้าบีทีเอส รถไฟฟ้าใต้ดิน รถโดยสารของ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) และเรือโดยสารเพื่อให้มีความสอดคล้องและประสานงานกันได้

โดยในวันที่ 15 ธ.ค. 2549 จะครบกำหนดการให้ส่งความเห็นผ่านทางไปรษณียบัตร โดยสวนดุสิตโพล์ เป็นผู้รวบรวมให้สนข.ภายในวันที่ 20 ธ.ค.ต่อไป และการประชาพิจารณ์ครั้งใหม่ ซึ่งมีการสอบถามกับประชาชนที่อยู่ในแนวเส้นทางรถไฟฟ้าทั้ง 5 เส้นทาง คือ

1) สายสีแดง รังสิต-ดอนเมือง-พญาไท ช่วง บางซื่อ-ตลิ่งชัน
2) สีม่วง บางซื่อ-บางใหญ่
3) สายสีน้ำเงิน ช่วงหัวลำโพง-บางแค ช่วงบางซื่อ-ท่าพระ
4) สายสีเขียมเข้ม หมอชิต-สะพานใหม่ และ
5) สายสีเขียวอ่อน แบริ่ง-สมุทรปราการ ในวันที่ 26 ธ.ค. 2549

เพื่อสรุปข้อมูลเสนอกระทรวงคมนาคมภายในเดือนธ.ค. 2549 ก่อนนำเสนอครม.ในต้นเดือน ม.ค. 2550 ต่อไป

อย่างไรก็ตาม จากการที่ สวนดุสิตโพล์ มีการสำรวจประชาชน ในเส้นทางสายสีม่วง บางซื่อ-บางใหญ่ ประมาณ 2,200 ฉบับ สายสีน้ำเงินประมาณ 2,000 ฉบับ สีแดง ช่วง บางซื่อ-ตลิ่งชัน ประมาณ 2,500 ฉบับ สายสีเขียว แบริ่ง-สมุทรปราการ ประมาณ 1,700 ฉบับ และสายสีเขียวเข้ม หมอชิต-สะพานใหม่ ประมาณ 1,700 ฉบับ สำหรับรถไฟฟ้าที่คาดว่า มีความพร้อมที่สุดในการก่อสร้าง คือ สายสีม่วง บางซื่อ-บางใหญ่ และสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน เนื่องจากมีรูปแบบการก่อสร้างที่ออกแบบไว้แล้ว แต่สีน้ำเงิน หัวลำโพง-บางแคช่วงบางซื่อ-ท่าพระ จะช้ากว่าสีม่วงและแดง เล็กน้อย เนื่องจากสีน้ำเงินยังไม่ได้ออกแบบรายละเอียด

// ---------------------------------------------------------------------

ยืมเงินในประเทศ... ไม่ว่าจะในรูปพันธบัตร หรือ ทุบกระปุกออมสิน .... ก็ดีไปอีกแบบ แม้ต้องเสียดอกเบี้ยแพง กว่าเงินกู้เจบิกก็ตาม .... อย่างน้อยก็สามารถเลือกได้ว่าจะเอารถไฟฟ้าของใครที่ให้ราคาถูกที่สุด ไม่จำกัดแค่ฮิตาชิ, นิปปอนชาเรียว คาวาซากิ โรเท็ม หรืออัลสตอม และเลือกระบบใครที่ใช้คุมได้กว้างขวางที่สุด .... หรือ แม้กระทั่งเอารางเหล็กจากโรงเหล้กโซวกัง หรือ รางเหล้กจากโรงเหล็กตาต้า ... ถ้ากู้เจบิกก็ไม่พ้นนิปปอนสตีลหรือไม่ก็โรงเหล็กโปฮังสตีล แล้วแต่กรณี .....

Wisarut · Posted: 15/12/2006 10:27 am Post subject:

แกะรอย 2 ปี "แอร์พอร์ตลิงก์" ผลงานก่อสร้างหลุดเป้ามโหฬาร
คอลัมน์ เวนคืนอัพเดต
ประชาชาติธุรกิจ 14 ธันวาคม 2549

จะครบ 2 ปีแล้ว แต่งานก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าเชื่อมสนามบินสุวรรณภูมิและสถานีรับส่งผู้โดยสารอากาศยานในเมือง หรือ "แอร์พอร์ตเรลลิงก์" (พญาไท-มักกะสัน-สุวรรณภูมิ) มูลค่า 26,000 ล้านบาท ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ยังไปไม่ถึงไหน คืบหน้าแค่ 45.09% ล่าช้าอยู่ 29.86% จากแผนที่ตั้งไว้ 74.95%

ปัจจุบันความก้าวหน้าของโครงการ งานโยธาทำได้จริง 36.07% จากแผน 69.21% ล่าช้า 33.13% โดยตลอดระยะทาง 28 กิโลเมตร มีการสร้างตอม่อยกระดับและวางระบบเซ็กเมนต์ (ชิ้นส่วนสำเร็จรูป) ประปรายในบางจุด เหลือเฉพาะส่วนที่ผู้รับเหมายังเข้าพื้นที่ไม่ได้ เช่น คลองตัน นาซ่า เป็นต้น เนื่องจากผู้รับเหมาเพิ่งเข้าพื้นที่ก่อสร้างได้ งานระบบทำได้จริง 53.23% จากแผน 80.14% ล่าช้า 26.91%

มาดูต้นเหตุของความล่าช้า ตั้งแต่วันเริ่มต้นสัญญาเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2548 มีสารพัดปัญหาตั้งแต่ไม้จิ้มฟันยันเรือรบ หลักๆ คือการส่งมอบพื้นที่ล่าช้า เพราะติดปัญหาการรื้อย้ายชุมชนตามแนวเขตทางรถไฟ การรถไฟฯในฐานะที่เป็นเจ้าภาพไม่สามารถแก้ไขปัญหาให้ลุล่วงไปได้

ล่าสุดยังติดปัญหารื้อย้ายที่ "ชุมชนเดชา" ย่านพญาไท 135 หลังคาเรือน แม้การรถไฟฯรับปากจะส่งมอบพื้นที่ให้ผู้รับเหมาภายในสิ้นเดือนธันวาคมนี้ โดยจะให้ค่าชดเชยการรื้อย้ายหลังละ 5-6 หมื่นบาท

แต่ดูความเป็นไปได้แล้วยากมาก ที่จะให้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่มาหลายชั่วอายุคนย้ายออกไปกับเงินค่าชดเชยจากการรถไฟฯ เพียง "5-6 หมื่นบาท" ดังกล่าว

นับเป็นบทเรียนราคาแพงของการรถไฟฯที่ไประบุไว้ในสัญญาว่า จะต้องส่งมอบพื้นที่ให้ภายใน 90 วัน นับจากวันที่เซ็นสัญญา ทั้งที่รู้อยู่เต็มอกว่าย้ายคนนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่คิด แม้ว่าจะเป็นที่ดินของการรถไฟฯก็ตาม

ว่ากันว่า อาจจะเป็นเพราะว่าการรถไฟฯไม่มีประสบการณ์ในการดูแลงานก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ ทำให้ไม่รู้ว่าปัญหาคืออะไร และมีวิธีแก้ไขยังไง แถมยังไม่มีใครเป็น "เจ้าภาพ" แก้ปัญหาอย่างจริงจัง

บ้างก็ว่าเป็นเพราะการรถไฟฯไม่มีเงินค่ารื้อย้ายอยู่ในมือ จึงปล่อยให้เรื่องบานปลาย ทั้งนี้ทั้งนั้นเป็นเพราะที่ผ่านมาพบว่าการรถไฟฯยังติดค้างค่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาอยู่ 9 งวด คิดเป็นเงินประมาณ 108 ล้านบาท

ที่ผ่านมาเมื่อมีปัญหาเกิดขึ้น ทั้งผู้รับเหมาคือกลุ่มบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) และการรถไฟฯ ไม่ได้หันหน้าเข้าหากัน ต่างฝ่ายต่างพูดกันคนละที ทำให้จูนกันไม่ค่อยติด

ขณะที่ "ศิวะ แสงมณี" ประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟฯ ฟันธงความล่าช้าของแอร์พอร์ตลิงก์เกิดจาก 3 ปัญหาใหญ่ คือ

1. มีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขแบบให้ผู้รับเหมา เสนอแบบก่อสร้างมาทั้งมีเตอร์เกตและสแตนดาร์ดเกต 2.ผู้รับเหมาขาดสภาพคล่องทางการเงิน โดยประเมินจากแรงงานและเครื่องจักรที่เข้าพื้นที่ก่อสร้างไม่เป็นไปตามแผนงาน บางพื้นที่เข้าไปได้แต่ผู้รับเหมาไม่ยอมเข้าไป 3.อุปสรรคที่การรถไฟฯไม่สามารถส่งมอบพื้นที่ให้ได้มี 6 แห่ง ได้แก่ ชุมชนเดชา อาคารพาณิชย์โอเอ บ้าน 3 หลังริมคลองแสนแสบ ชุมชนคลองตัน อาคารนาซ่า สเปซี่โดมและที่จอดรถบริเวณนาซ่าเวกัส

"ผมไม่ทราบว่าตอนประกวดราคา ผู้รับเหมาคำนึงถึงหรือเปล่าเรื่องการรื้อย้าย ถ้าทำรอบคอบเวลาคงไม่ล่าช้าแบบนี้ ฉะนั้น จะนำความไม่พร้อมของบริษัทมาเป็นข้ออ้างในการขอขยายเวลาก่อสร้างไม่ได้ เพราะไม่เคยมีใครบังคับให้เข้ามาประกวดราคา และควรจะเตรียมตัวก่อนจะเข้ามารับงานโครงการนี้"

ประธานบอร์ดการรถไฟฯ ย้ำด้วยว่า ถ้าไม่มีเหตุผลเพียงพอคงจะขยายสัญญาให้ไม่ได้ ทางกลุ่มบริษัทที่ปรึกษาควบคุมการก่อสร้างจะต้องเร่งรัดการก่อสร้างให้เสร็จเร็วขึ้น ตามแผนใหม่จะเสร็จเดือนมิถุนายน 2551 โดยควรเร่งรัดให้เสร็จในเดือนเมษายน 2551 เพื่อเป็น "ผลงาน" ในการช่วยแบ่งเบาภาระคนเดินทางไปสนามบินสุวรรณภูมิที่เสียค่าใช้จ่ายสูง

"ส่วนการขยายเวลานั้น ตามสัญญาผู้รับเหมาจะใช้สิทธิได้ต่อเมื่อมีการส่งมอบพื้นที่ก่อสร้างหมดแล้ว หลังจากนั้น 15 วัน ผู้รับเหมาถึงจะทำเรื่องเสนอมาขอขยายเวลาได้ ถ้าสิ้นเดือนนี้การรถไฟฯมอบพื้นที่ให้เสร็จ วันที่ 15 มกราคมปีหน้าผู้รับเหมาถึงจะส่งเรื่องมาให้พิจารณาได้ แต่ต้องดูเหตุผลว่าเพราะอะไรและให้ได้กี่วันจากที่ขอมาและจะขยายเวลาให้เท่านั้น จะไม่ให้เม็ดเงินชดเชยค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น"

ฟังจากที่ประธานบอร์ดการรถไฟฯออกมาพูดแบบนี้แล้ว ดูเหมือนปัญหาทั้งหลายทั้งปวงที่เกิดขึ้น เป็น "ความรับผิด (ชอบ)" ของผู้รับเหมาก่อสร้างคนเดียว

ด้านผู้รับเหมาก่อสร้างยืนยันว่า กรณีจะเร่งงานก่อสร้างให้เสร็จเร็วขึ้นนั้นคงเป็นไปไม่ได้ เพราะเนื้องานโครงการนี้เป็นขั้นตอนที่เร่งรัดไม่ได้ ไม่เหมือนงานก่อสร้างอื่นๆ แต่ละงานมีกำหนดเวลา ยกตัวอย่าง การวางเซ็กเมนต์ใช้เวลาเดือนละ 600 ชิ้น จะแล้วเสร็จเดือนตุลาคมปีหน้า และงานก่อสร้างตอนนี้ล่าช้าอยู่ถึง 15 เดือน แต่ขณะที่เหลือแค่ปีเศษ เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ล่าช้าอยู่ 11 เดือน

"บริษัทได้ทำหนังสือขอขยายเวลาไปยังการรถไฟฯออกไปอีก 557 วัน เพราะการรถไฟฯไม่สามารถส่งมอบพื้นที่ชุมชนเดชาให้ ระยะเวลาที่เพิ่มขึ้นนี้บริษัทจะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นเอง ประมาณ 360 ล้านบาท"

ข้อมูลที่พรั่งพรูจากฟากผู้รับเหมาออกอาการ "เสียรังวัด" ไม่น้อย ก็คือ "...บริษัทไม่ได้ขาดสภาพคล่องแต่อย่างใด การที่ให้คนงานเข้าพื้นที่น้อย สาเหตุหลักเพราะเข้าพื้นที่ก่อสร้างไม่ได้ ถ้าให้คนงานและเครื่องจักรเข้าพื้นที่เต็มแต่เริ่มงานไม่ได้ ก็เท่ากับต้องแบกรับภาระเพิ่มโดยเปล่าประโยชน์"

กล่าวโดยสรุป ผู้รับเหมาไม่ได้อยากจะต่อเวลา ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ...

black_express · Posted: 15/12/2006 12:03 pm Post subject:

โทษผู้รับเหมา คงไม่ได้ และก็ " ชุมชนเดชา " น่ะ บุกรุกอาศัยในพื้นที่ของการรถไฟฯ ไม่ใช่หรือ ?

จะไปเรียกร้องขอเงินค่าชดเชย โน่นครับ ศาลปกครอง คงอธิบายได้บ้างหรอก 8)