ข่าว Airport Link

[Mongwin]

แอร์พอร์ตลิงก์เกินความจุ ตามรอย รฟท.-ผู้โดยสารรอนานเพราะรถน้อยแถมชำรุด
ไทยรัฐออนไลน์ 20 กรกฎาคม 2555, 05:15 น.

นายภากรณ์ ตั้งเจตสกาว รองผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทรถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด เปิดเผยว่า ปัญหาหลักของการเดินรถแอร์พอร์ตลิงก์ในขณะนี้คือไม่สามารถเพิ่มความถี่ในการให้บริการได้ เนื่องจากจำนวนรถมีจำกัด โดยขบวนรถธรรมดา (City Line) มี 5 ขบวน (วิ่ง 4 ขบวน สำรอง 1 ขบวน) ขบวนรถด่วน (Express Line) มี 4 ขบวน ชำรุด 1 ขบวน ซึ่งบริษัท ซีเมนส์ จำกัด กำลังซ่อมแซมคาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนกรกฎาคมนี้ ทำให้ในช่วงเช้าจำนวนผู้โดยสารแออัดเกินความจุที่รองรับได้ 750 คนต่อขบวน โดยผู้โดยสารเฉลี่ย 44,000 คนต่อวัน แบ่งเป็น รถ City Line 42,000 คน รถ Express Line 1,700 คน โดยสถานีพญาไท มีผู้โดยสารประมาณ 12,000 คนต่อวัน มักกะสันประมาณ 4,300 คน สุวรรณภูมิประมาณ 7,000 คน ทั้งนี้การที่รถมีน้อย เพิ่มความถี่ไม่ได้ ทำให้ช่วงเช้าและเย็นที่มีผู้ใช้บริการมากเกิดความแออัด ผู้โดยสารต้องรอรถนาน ส่วนปัญหาอะไหล่ขาดแคลนนั้นยืนยันว่า อยู่ในภาวะที่ควบคุมได้ โดยแต่ละเดือนจะมีงบจัดซื้ออะไหล่ประมาณ 30 ล้านบาท

นายภากรณ์กล่าวถึงกรณีพนักงานแอร์พอร์ตลิงก์ยังมีปัญหาไม่ได้รับเงินเดือนและสวัสดิการตามข้อตกลง และอยู่ระหว่างการพิจารณาเพื่อยื่นเรียกร้องไปยังศาลแรงงาน หากฝ่ายบริหารไม่ดำเนินการนั้น ขณะนี้คณะอนุกรรมการด้านกฎหมายของบริษัทได้สรุปการปรับเงินเดือนพนักงานโอนย้ายจากศศินทร์ฯ ขึ้น 1 ขั้นแล้ว โดยใช้เกณฑ์ปรับค่าประสบการณ์ คาดว่าจะเสนอที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) แอร์พอร์ตลิงก์เห็นชอบได้ในวันที่ 25 กรกฎาคมนี้ จากนั้นจะเสนอไปยังบอร์ด ร.ฟ.ท.ตามขั้นตอนต่อไป ซึ่งการปรับจะมีผลย้อนหลังตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2554 โดยยืนยันว่าเรื่องผลตอบแทนต่างๆนั้นพนักงานต้องได้รับตามกรอบกฎหมายรวมถึงมติ ครม.เรื่องค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท และเงินเดือน 15,000 บาท แต่ความล่าช้าที่เกิดขึ้นเพราะแอร์พอร์ตลิงก์ เป็นบริษัทตั้งใหม่และยังไม่แยกออกจาก ร.ฟ.ท.

[Wisarut]

แอร์พอร์ตลิ้งค์ชงครม. ทุ่มซื้อรถใหม่7ขบวน


**พนักงานแฉมั่วนิ่มอ้างขึ้นเงินเดือน
แหล่งข่าวจากพนักงานแอร์พอร์ตลิ้งค์ กล่าวว่าการปรับขึ้นเงินเดือนให้เป็นไปตามกฎหมายนั้นมีความล่าช้า ซึ่งผิดกฎหมายแรงงานยกตัวอย่างพนักงานขายตั๋วจบปริญญาตรีได้รับเงินเดือน 8,370 บาท หากมีการปรับขึ้นในการประชุมบอร์ดในวันที่ 25 ก.ค.นี้อีก 5% ก็ยังไม่ถึง 9,000 บาทก็ยังต่ำกว่ากฎหมายแรงงานที่กำหนด ซึ่งขั้นต่ำในระดับปริญญาตรีจะต้องได้รับ 15,000 บาท แต่ที่ผ่านมาผู้บริหารทำผิดกฎหมายมาตลอด มักยกข้ออ้างว่าเป็นบริษัทใหม่และยังไม่แยกออกจาก ร.ฟ.ท. ซึ่งพนักงานส่วนใหญ่ยังได้รับค่าแรงงานในเกณฑ์ที่ต่ำ

"มีพนักงานจำนวนมากที่ได้รับเงินเดือนต่ำกว่าที่กฎหมายกำหนด และยังต่ำกว่าพนักของบริษัทเอกชน เช่น พนักงานรักษาความปลอดภัยในสถานีแอร์พอร์ตลิ้งค์เสียอีก ซึ่งขั้นตอนที่ถูกต้องนั้นจะต้องมีการปรับฐานเงินเดือนตามที่รัฐบาลกำหนดก่อน เช่น วันละ 300 บาท ซึ่งเฉลี่ยเดือนละ 9,000 บาท แล้วจึงมาปรับฐานการขึ้นอีก 5% และนำขั้นและวุฒิการศึกษามาประกอบจึงถูกต้อง แต่การปรับขึ้นครั้งนี้คาดว่าเป็นการมั่วนิ่มอ้างว่าจะมีการปรับขึ้นเงินเดือนแต่ก็ยังไม่เป็นไปตามเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด" พนักงานแอร์พอร์ตลิ้งค์ กล่าว

[Mongwin]

คมนาคม-สนข.เร่งสรุปแผนเชื่อมสุวรรณภูมิ-ดอนเมือง
ไทยรัฐออนไลน์ 20 กรกฎาคม 2555, 20:15 น.

คมนาคม-สนข.เร่งหาข้อสรุป แผนพัฒนาแอร์พอร์ตลิงก์เชื่อมสุวรรณภูมิ-ดอนเมือง ระบุยังรอข้อมูลสำคัญจาก ทอท. ด้าน สนข.เดินหน้าพิจารณาความเป็นไปได้ในจำนวนผู้โดยสาร

20 ก.ค. นายจุฬา สุขมานพ รักษาราชการ ผู้อำนวยการ สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร หรือ สนข. เปิดเผยว่า ในขณะนี้กระทรวงคมนาคมกำลังเร่งหาข้อสรุปถึงแผนการพัฒนาระบบรถไฟฟ้าเชื่อมต่อท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กับท่าอากาศยานดอนเมือง ที่เตรียมเปิดใช้งานอย่างเต็มรูปแบบในเร็วๆ นี้ ซึ่งเดิม สนข.มีแผนศึกษาที่จะขยายโครงการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ ที่สิ้นสุดที่สถานีพญาไทต่อไปยังสถานีบางซื่อ (Missing Link) ก่อนที่จะไปเชื่อมต่อเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีแดง ที่จะมีสถานีกลางบางซื่อ ที่จะเกิดขึ้นในอีก 4 ปีข้างหน้าเป็นศูนย์กลางระบบขนส่ง สามารถผ่านไปถึงท่าอากาศยานดอนเมืองได้ แต่ผู้โดยสารจะต้องมีการต่อเชื่อมระบบเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันที่ผ่านมาก็มีการเสนอแนวทางในการทำระบบรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์จากสถานีมักกะสัน เชื่อมต่อไปถึงท่าอากาศยานดอนเมืองเลย ซึ่งในส่วนนี้จะทำให้การเดินทางสามารถต่อเนื่องได้ทันที

อย่างไรก็ตาม การจะเดินหน้าโครงการในรูปแบบใดนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการรอข้อมูลจาก บริษัท ท่าอากาศยานไทยจำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.ที่จะส่งข้อมูลตัวเลขคาดการปริมาณผู้โดยสาร ที่จะใช้บริการเดินทางเชื่อมต่อระหว่าง 2 ท่าอากาศยานในอนาคต จะมีมากน้อยเพียงใด มาให้นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ที่เป็นผู้ดูแลแผนพัฒนาระบบรถไฟฟ้าของกระทรวงคมนาคม เพื่อหาข้อสรุปแนวทาง และรูปแบบในการลงทุนต่อไป

ทั้งนี้ในส่วนของ สนข.ยอมรับว่าการพิจารณาองค์ประกอบของปริมาณผู้โดยสารที่จะเดินทางเชื่อมระหว่าง 2 สนามบิน จะมีความสำคัญอย่างมาก รวมทั้งประเด็นเรื่องการเติบโตของปริมาณผู้โดยสาร ที่จะใช้บริการที่ดอนเมือง ภายหลังสายการบินไทยแอร์เอเชียย้ายกลับมาให้บริการที่ดอนเมืองอีกครั้ง ซึ่งสุดท้ายจะต้องดูว่ามีความจำเป็นในการเดินทางเชื่อมต่อระหว่างท่าอากาศยานดอนเมือง และสุวรรณภูมิ ของผู้โดยสารมีมากน้อยแค่ไหน

นอกจากนี้ จะมีปัจจัยเรื่องของการเกิดรถไฟความเร็วสูง ซึ่งแน่นอน รูปแบบของการให้บริการ ที่สามารถประหยัดเวลาการเดินทางได้มาก เช่น เดินทางจากกรุงเทพมหานคร ไปจังหวัดเชียงใหม่ ใน 3 ชั่วโมง หากราคาค่าโดยสารสามารถแข่งขันกับการให้บริการของสายการบินต้นทุนต่ำ หรือโลว์คอสต์ แอร์ไลน์ได้ ก็จะมีผู้โดยสารส่วนหนึ่งมีทางเลือก เปลี่ยนจากการใช้บริการสายการบิน มาเป็นรถไฟความเร็วสูง ซึ่งก็จะส่งผลต่อปริมาณผู้เดินทางผ่านท่าอากาศยานด้วย ซึ่งประเด็นนี้ก็ต้องนำมาพิจารณา เพื่อกำหนดแผนในการพัฒนาระบบขนส่งให้สอดคล้องกับความต้องการใช้บริการด้วย

[Mongwin]

[Wisarut]

แอร์พอร์ตลิ้งค์จ่อเซ็น"ฮัมบูร์ก"ช่วยบริหารวางแผนซ่อมใหญ่ปี 56 หวั่นกระทบบริการ

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 23 กรกฎาคม 2555 06:03 น.


บอร์ดร.ฟ.ท.ไฟเขียวจ้าง"ฮัมบูร์ก" ผู้เชี่ยวชาญจากเยอรมนีบริหารจัดการเดินรถแอร์พอร์ตลิงก์ 180 ล้านบาท 1 ปี และตั้ง”วิโรจน์ เตรียมพงษ์พันธ์”รักษาการฯผู้ว่าฯร.ฟ.ท.ช่วงรอผลสรรหาฯ "ภากรณ์"เร่งจ้างเริ่มงานได้ในส.ค.นี้ เผยปี 56 ต้องซ่อมใหญ่ เหตุวิ่งครบ1ล้านกม. "ฮัมบูร์ก"ต้องช่วยวางแผนไม่ให้กระทบบริการ เพราะรถมีน้อย 1ขบวนต้องเข้าซ่อม2-3 สัปดาห์นอกจากนี้ต้องวางแผนะไหล่ และซื้อรถ 7 ขบวนด้วย

นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคมในฐานะประธานคณะกรรมการ(บอร์ด) การรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมบอร์ดร.ฟ.ท.เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2555 มีมติอนุมัติให้บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกของร.ฟ.ท. (ผู้บริหารการเดินรถโครงการระบบขนส่งทางรถไฟเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและสถานีรับส่งผู้โดยสารอากาศยานในเมือง หรือ แอร์พอร์ตลิงค์) ว่าจ้างบริษัท Hamburg Consult mbH (ฮัมบูร์ก) ผู้เชี่ยวชาญจากประเทศเยอรมนี ผู้บริหารจัดการเดินรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ วงเงิน 180 ล้านบาท ระยะเวลา 1 ปี โดยนอกจาก บ.ฮัมบูร์ก จะเข้ามาดูแลการบริหารการเดินรถแล้วจะต้องวางแผนด้านการซ่อมบำรุง การฝึกอบรมพนักงานให้มีความเชี่ยวชาญมากขึ้น และหลังจากนี้บริษัทรถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จะต้องทำเอง

นายภากรณ์ ตั้งเจตสกาว รองผู้ว่าฯ ร.ฟ.ท. รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทรถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด กล่าวว่า บ.ฮัมบูร์ก เชี่ยวชาญการบริหารรถไฟฟ้า ทั้งในเยอรมันและอีกหลายประเทศเช่น ดูไบ ซึ่ง ฮัมบูร์ก มีหน้าที่ในการช่วยวางแผนการบริหารการเดินรถให้มีประสิทธิภาพ การบริหารจัดการด้านอะไหล่ การจัดซื้อรถใหม่ 7 ขบวนแล้ว จะต้องช่วยวางแผนในการซ่อมใหญ่ (Over Hall) ในปี 2556 ซึ่งจะให้บริการครบ 1 ล้านกิโลเมตร เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในการให้บริการเนื่องจากการซ่อมใหญ่ จะใช้เวลา 2-3 สัปดาห์ต่อขบวน โดยเบื้องต้นคาดว่าการวางประแจที่สถานีมักกะสันเพื่อเชื่อมการเดินรถ xpress Line ไปถึงพญาไทจะแล้วเสร็จทัน เพื่อจัดการเดินรถโดยดึงขบวนรถ Express Line มาวิ่งเสริมกับขบวน City Line ช่วงเร่งด่วน และรถทุกขบวนต้องมีความพร้อมเพราะรถ 1 ขบวนจะถูกดึงไปซ่อม ไม่มีรถสำรองดังนั้นจะต้องวางแผนเรื่องอะไหล่ไว้ด้วย

"บริษัทฯได้ออกหนังสือเชิญ 5 บริษัทมายื่นข้อเสนอการบริการจัดการเดินรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ คือ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด(มหาชน)หรือ BTSC , บริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด(มหาชน)หรือ BMCL , บริษัท ซีเมนส์ ,บริษัท เอ็มทีอาร์ จากฮ่องกง และบริษัท Hamburg Consult mbH จากเยอรมนี แต่มีฮัมบูร์กรายเดียวที่ยื่นข้อเสนอและยอมรับเงื่อนไขการทำงานร่วมกันได้ ซึ่งเป็นการประกาศครั้งที่ 3 คาดว่าจะเซ็นสัญญาได้ประมาณวันที่ 1 สิงหาคมหรืออย่างช้าไม่เกินวันที่ 15 สิงหาคมนี้ ก่อนหน้านี้

ตั้ง"วิโรจน์"รักษาการผู้ว่าฯร.ฟ.ท.ช่วงรอสรรหาคนใหม่

นอกจากนี้บอร์ดได้แต่งตั้งนายวิโรจน์ เตรียมพงษ์พันธ์ รองผู้ว่าการกลุ่มยุทธศาสตร์และอำนวยการ รักษาการตำแหน่งผู้ว่าการฯ ร.ฟ.ท. หลังจากที่นายยุทธนา ทัพเจริญ ครบวาระ 4 ปี เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม จนกว่ากระบวนการสรรหาผู้ว่าการการรถไฟฯคนใหม่จะแล้วเสร็จ

รายงานข่าวแจ้งว่า นายประเสริฐ อัตตะนันทน์ รองผู้ว่าด้านบริหารทรัพย์สิน ซึ่งอาวุโสสูงสุดได้ขอสละสิทธิ์ บอร์ดจึงตั้งนายวิโรจน์ ซึ่งได้ถอนตัวจากการสรรหาผู้ว่าฯร.ฟ.ท.มาก่อนหน้าประชุมบอร์ดพอดี ส่วนกระบวนการสรรหาผู้ว่าฯร.ฟ.ท.คนใหม่นั้น ประธานคณะกรรมการสรรหาฯได้รายงานที่ประชุมบอร์ดว่ายังไม่แล้วเสร็จโดยอยูระหว่างการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัครแต่ละคนที่จะต้องได้รับการยืนยันจากองค์กรภายนอกว่ามีผลงานเป็นจริงหรือไม่

[Mongwin]

คอลัมน์: เวนคืนอัพเดต: โครงการทะลวงจุดบอด 'สถานีมักกะสัน'แผนในมือ 'รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท.' ถึงก็ช่าง...ไม่ถึงก็ช่าง
ประชาชาติธุรกิจ Wednesday, 25 July 2012 18:50

ยังหลุดเป้าซ้ำซาก กับแผนลงทุนโครงการทะลวงจุดบอด "สถานีมักกะสัน" หรือสถานีรับส่งผู้โดยสารอากาศในเมือง (City Air Terminal-CAT) ของรถไฟฟ้าเชื่อมสนามบินสุวรรณภูมิ หรือแอร์พอร์ตลิงก์ ที่ "ร.ฟ.ท.-การรถไฟแห่งประเทศไทย" ทุ่มเม็ดเงินสร้างสถานีแห่งนี้เพียงสถานีเดียวร่วม 2,000 ล้านบาท แต่กลับใช้ประโยชน์ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย

แถมยังมีปัญหาให้ตามแก้ไขไม่หยุดหย่อน ทั้งที่ "แอร์พอร์ตลิงก์" สายนี้เปิดวิ่งให้บริการมานานกว่า 2 ปี แต่ดูเหมือนการแก้ปัญหาสถานีนี้ยังย่ำอยู่กับที่

เหตุผลที่ผู้บริหาร ร.ฟ.ท.พยายามชี้แจงกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ก็คือปัญหาส่วนหนึ่งมาจากความไม่คล่องตัวของ "บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด" ที่เป็นบริษัทลูกของการรถไฟฯ มีผลให้เมื่อจะนำเงินมาใช้จ่ายจะต้องผ่านการอนุมัติจากการ รถไฟฯ ทำให้ทุกอย่างล่าช้าไปจากแผนงาน

ดังนั้น บริษัทลูกครึ่งอย่างรถไฟฟ้า ร.ฟ.ท.จะเป็นเอกชนก็ไม่ใช่ แถมยังถูกนำระบบรัฐวิสาหกิจที่มีความเป็นระบบราชการเข้มข้นมาใช้ในการบริหารจัดการอีกต่างหาก

กลับมาดูแผนทะลวงจุดบอดสถานีรถไฟฟ้า 2,000 ล้านบาทแห่งนี้ พบว่าโครงข่ายที่จะมาเสริมศักยภาพโดยรอบ "สถานีมักกะสัน" ตามแผนงานของการรถไฟฯ จะต้องเติมเงินลงทุนเพิ่มอีกประมาณ 172 ล้านบาท มีประมาณ 4-5 โปรเจ็กต์ด้วยกัน

ความคืบหน้าล่าสุด ทางบริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟท. จำกัด ได้รายงานให้ที่ประชุมคณะอนุกรรมการประสานการแก้ไขปัญหาจราจรและขนส่งระยะเร่งด่วนในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล

ชุดที่มี "ศรศักดิ์ แสนสมบัติ" รองปลัดกระทรวงคมนาคม คุมงานด้านขนส่ง นั่งหัวโต๊ะ

โดยได้สรุปภาพรวมของแนวทางในการดำเนินการปรับปรุงจราจรโดยรอบสถานีรถไฟฟ้ามักกะสัน ยังมีโอกาสเห็นเดือนเห็นตะวัน เพราะสถานะปัจจุบัน การรถไฟฯได้ผู้รับจ้างดำเนินโครงการต่าง ๆ แล้ว 5 โครงการ

ประกอบด้วย 1) โครงการปรับปรุงภูมิทัศน์ จัดทำรั้ว และจัดทำป้ายจราจรโดยรอบสถานีรถไฟฟ้ามักกะสัน ระยะเวลาดำเนินการ 120 วัน เริ่มสัญญา 4 พฤษภาคม 2555
2) โครงการก่อสร้างทางเชื่อมต่อต่างระดับ (แรมป์) จากถนนรัชดาภิเษกเข้าสู่สถานีรถไฟฟ้ามักกะสัน ระยะเวลาดำเนินการ 300 วัน เริ่มสัญญา 28 มีนาคม 2555
3) โครงการก่อสร้างทางเดินยกระดับหรือสกายวอล์กเชื่อมต่อกับสถานีเพชรบุรีของ "รฟม.-การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน แห่งประเทศไทย" ระยะทาง 130 เมตร ค่าก่อสร้าง 80 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินการ 150 วัน เริ่มสัญญา 10 พฤษภาคม 2555 มีกำหนดแล้วเสร็จภายในสิ้นปี 2555 นี้
4) โครงการก่อสร้างแรมป์จากถนน จตุรทิศเชื่อมต่อกับถนนภายในสถานีรถไฟฟ้ามักกะสัน ขนาด 2 ช่องจราจร ระยะเวลาดำเนินการ 210 วัน เริ่มสัญญา 20 มกราคม 2555 วงเงินก่อสร้าง 41.43 ล้านบาท จะแล้วเสร็จในเดือนกุมภาพันธ์ 2556
และ 5) โครงการปรับปรุงถนนภายในสถานีรถไฟฟ้ามักกะสันและปรับปรุงทางแยกบริเวณถนนนิคมมักกะสันและถนนกำแพงเพชร 7 ระยะเวลาดำเนินการ 300 วัน ซึ่งได้เริ่มสัญญาตั้งแต่วันที่ 4 พฤษภาคม 2555 ที่ผ่านมา ใช้งบประมาณก่อสร้าง จำนวน 27.33 ล้านบาท

ส่วนงานที่เหลืออีกเล็กๆ น้อย เช่น ขยายถนนรัชดาภิเษกเพิ่ม 2 ช่องจราจร (ช่วงจากถนนสายหลักของโครงการถึงถนน จตุรทิศ), งานปรับปรุงและขยายถนนสายหลัก
ก่อสร้างถนน 3 ช่องจราจรเชื่อมต่อจากแยกนิคมมักกะสันกับถนนสายภายในสถานีมักกะสัน และงานก่อสร้างเครื่องกั้นทางรถไฟ ซึ่งการถไฟมีแผนจะใช้เวลาดำเนินการ 300 วัน
รวมถึงโครงการสร้างทางเชื่อมต่างระดับขนาด 1 ช่องจราจร จากถนนรัชดาภิเษกเข้าสู่อาคารสถานีมักกะสัน 74.91 ล้านบาท ใช้เวลาดำเนินการ 300 วัน

ทั้งหมดนี้ยังไม่มีกำหนดวันเวลาที่จะเริ่มลงมือชัดเจน
ตามสไตล์ "ถึงก็ช่าง...ไม่ถึงก็ช่าง" อยู่นั่นเอง

ที่มา: หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ ฉบับวันที่ 26 - 29 ก.ค. 2555

[Wisarut]

“แอร์พอร์ตลิงก์” ชวนแม่ขึ้นรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 1 สิงหาคม 2555 15:39 น.

“แอร์พอร์ตลิงก์” จัดกิจกรรม “ลูกจูงแม่ขึ้นรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์ฟรี” และจัดโครงการนิทรรศการ “รถไฟฟ้าสู่งานศิลป์ ครั้งที่ 2 เรื่องราวของแม่” เนื่องในวันแม่แห่งชาติ 12 ส.ค. 55 นี้

บริษัทรถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด หรือผู้ให้บริการแอร์พอร์ตเรลลิงก์ แจ้งว่า เนื่องในโอกาสปีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษาของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทางบริษัทฯ มอบสิทธิพิเศษสำหรับแม่-ลูกที่ใช้บริการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์สาย City Line ฟรี (เฉพาะคุณแม่) ในวันที่ 12 สิงหาคม 2555 ตั้งแต่เวลา 06.00-24.00 น. เพื่อเป็นการเพิ่มสายสัมพันธ์ภายในครอบครัวให้มากยิ่งขึ้น สำหรับรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์ ได้ยกเว้นค่าโดยสารสำหรับเด็กที่มีความสูงไม่เกิน 90 เซนติเมตรอีกด้วย

นอกจากนี้ ทางบริษัทฯ ร่วมกับหอศิลปะสิทธิ และศิลปินมากกว่า 80 คน จัดโครงการนิทรรศการ “รถไฟฟ้าสู่งานศิลป์ ครั้งที่ 2 เรื่องราวของแม่” ซึ่งทางกลุ่มศิลปินได้มีแนวคิดด้านศิลปะเพื่อเฉลิมพระเกียรติ ด้านความรัก ความสามัคคี โดยใช้ความรักของแม่มาเป็นสื่อในการถ่ายทอดลงบนชิ้นงานศิลปะ โดยมีการแสดงผลงานหลากหลายรูปแบบ เช่น ผลงานจิตรกรรม ประติมากรรม และภาพพิมพ์ ซึ่งกิจกรรมภายในงานแบ่งได้ดังนี้ จัดกิจกรรมสนุกกับศิลปะให้บุคคลทั่วไป กิจกรรมสนุกกับสีอะคริลิก ให้ความรู้เกี่ยวกับการทำงานด้วยสีอะคริลิก และจัดจำหน่ายวัสดุ อุปกรณ์ที่ใช้ในงานศิลปะ เพื่อหารายได้สมทบทุนสร้างวิหารหลวงพ่อแดง วัดช่องสะเดา อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี

สำหรับระยะเวลาของการจัดกิจกรรมจะมีตั้งแต่วันที่ 28 กรกฎาคม-31 สิงหาคม 2555 นี้ บริเวณมักกะสันฮอลล์ ชั้น 3 รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์ สถานีมักกะสัน เปิดให้เข้าชมฟรีตลอดงาน สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่แผนกการตลาด 0-2308-5600 ต่อ 3302, 3303 ในวัน และเวลาราชการ Call center 1690 หรือ Fanpage:www.facebook.com/PR.ARLและ www.twitter.com/ARL_SRTET

[Wisarut]

‘กิตติรัตน์’ผ่าตัดการรถไฟฯ
หน้าการเงินการคลัง
ข่าวหุ้น วันจันทร์ที่ 06 สิงหาคม 2555


“กิตติรัตน์” สั่ง ร.ฟ.ท. แยกกิจการแอร์พอร์ต เรียลลิงค์ออกมาตั้งเป็นบริษัทใหม่ ไม่ขึ้นกับการรถไฟฯ หลังหารือไปรอบแรกแล้วกับคมนาคม ระบุรวมอยู่ด้วยกันโตยาก หากดีมีสิทธิดันเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ พร้อมเตรียมเปิดพื้นที่หารายได้ให้เช่าเชิงพาณิชย์

แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง กล่าวว่า นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่ผ่านมาได้สั่งให้นายมนัส แจ่มเวหา ที่ปรึกษากระทรวงการคลัง ไปหารือกับตัวแทนกระทรวงคมนาคม การรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ ร.ฟ.ท. เพื่อแยกกิจการรถไฟแอร์พอร์ต เรียลลิงค์ ออกจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.)

ซึ่งได้มีการประชุมหารือกันไปรอบแรกแล้ว และได้สั่งให้ไปศึกษาแผนการแยกกิจการเนื่องจากปัจจุบันแอร์พอร์ต เรียลลิงค์ มีปัญหาเรื่องการเบิกจ่ายงบประมาณ ที่ต้องผ่านความเห็นชอบจากการถไฟฯทำให้การแก้ปัญหาและการพัฒนาองค์การทำได้ล่าช้า

ขณะที่แอร์พอร์ตลิงค์ก็มีรายได้เพียงพอที่จะดูแลตัวเองได้ โดยในอนาคตจะเปิดให้เอกชนมาเช่าที่เดินเพื่อหารายได้เข้าบริษัทโดยแนวทางขณะนี้มีให้เลือกหลายทาง ได้แก่ ให้แอร์พอร์ตลิงค์บริหารจัดการขบวนรถ ส่วนระบบรางยังเป็นของการรถไฟอยู่ หรือให้บริหารจัดการด้วยและดูแลระบบโครงสร้างพื้นฐานด้วย

ส่วนในอนาคตอาจมีการนำบริษัทแอร์พอร์ต เรียลลิงค์ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ หลังจากแยกกิจการออกมาจากการรถไฟแล้วขณะที่ส่วนต่อขยายของรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์ จากสนามบินสุวรรณภูมิ ระยะแรกจะดำเนินการถึงพัทยากรุงเทพฯ-ระยอง ระยะทาง 221 กิโลเมตร พื้นที่ที่จะนำมาพัฒนาเชิงพาณิชย์ มีจำนวน 5,788.20 ตารางเมตร แบ่งออกเป็นสถานีพญาไท 80 ตารางเมตร ราชปรารภ 115.74 ตารางเมตร มักกะสัน 2,242.9 ตารางเมตร สุวรรณภูมิ 2,791.6 ตารางเมตร รามคำแหง 123.04 ตารางเมตร หัวหมาก 177.50 ตารางเมตร ลาดกระบัง 105.42 ตารางเมตร และทับช้าง 152 ตารางเมตรส่วนรายได้จากค่าเช่าพื้นที่ในปีถัดไปตามทีโออาร์

กำหนดไว้เป็นอัตราคงที่ดังนี้ ระหว่างปีที่ 1-5 ปีละ 2,333,438 บาท และระหว่างปีที่ 6-10 ปีละ 2,682,304 บาทสำหรับยอดผู้โดยสารเฉลี่ยของรถไฟฟ้าสาย City Line ที่ให้บริการและจอดรับส่งทั้ง 8 สถานี ประจำวันที่ 1-28 พฤษภาคม 2555 โดยมียอดโดยสารเฉลี่ยวันละ 36,644 คน

[Mongwin]

เดินทางเชื่อมแอร์พอร์ตลิงก์กับรถไฟใต้ดิน
เดลินิวส์ วันศุกร์ที่ 10 สิงหาคม 2555 เวลา 08:36 น.

รองนายกฯ ยงยุทธ วิชัยดิษฐ ได้ตอบกระทู้ของ ส.ส.ประกอบ จิรกิติ เรื่องรัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะโดยเฉพาะการขนส่งสาธารณะทางราง โดยสนับสนุนการก่อสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกในการเชื่อมต่อการเดินทาง รวมถึงการจัดทำทางเชื่อมต่อระหว่างสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินเพชรบุรีกับสถานีรถไฟฟ้า แอร์พอร์ตลิงก์ มักกะสันว่า

คณะรัฐมนตรี ได้มีมติ วันที่ 10 มีนาคม 2552 อนุมัติให้ก่อสร้างทางเดินยกระดับเชื่อมต่อระหว่างสถานีเพชรบุรี ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย วงเงิน 87 ล้านบาทงานก่อสร้างทางเดินยกระดับเชื่อมต่อระหว่างสถานีรถไฟฟ้ามักกะสัน ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กับสถานีรถไฟฟ้าเพชรบุรี ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ โดยคณะกรรมการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยอนุมัติให้การรถไฟฯ ดำเนินงาน

รายละเอียดนั้น จะก่อสร้างทางเดินยกระดับเพื่อเชื่อมต่อระหว่างชั้น Concourse ของสถานีรับส่งผู้โดยสารอากาศยานในเมือง (Airport Rail Link) ของการรถไฟฯ กับทางเข้าของสถานีรถไฟฟ้าเพชรบุรี

โดยผู้รับจ้างจะต้องทำงานตามสัญญา และส่งมอบงานภายใน 150 วัน ซึ่งจะมีทางเดินเชื่อมต่อยกระดับที่ความสูงระดับพื้นทางเดินระหว่าง 6-10.20 เมตร อาคารทางขึ้นลง ติดตั้งลิฟต์ภายในอาคารทางขึ้นลง ติดตั้งบันไดเลื่อน ภายนอกอาคารบริเวณริมถนนอโศก-ดินแดง รับ–ส่งผู้โดยสารไม่น้อยกว่า 9,000 คน/ชั่วโมง 2 ตัว บันไดขึ้นลงนอกตัวอาคารบริเวณริมถนนอโศก-ดินแดง

ปัจจุบันอยู่ระหว่างเสนอคณะรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาอนุมัติให้ใช้งบประมาณแผ่นดิน โดยหากเริ่มก่อสร้างได้ประมาณกลางปี 2555 จะแล้วเสร็จได้ภายในเดือนกันยายน 2555

รัฐบาลโดยการรถไฟฯ มีนโยบายในการจัดทำป้ายสัญลักษณ์บอกทางเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ โดยได้ประสานงานกับกรุงเทพมหานครและกรมทางหลวง ในการจัดทำโดยใช้งบประมาณของการรถไฟฯ เนื่องจากถนนที่จะทำการปักป้ายเป็นของ 2 หน่วยงานข้างต้น

ขณะนี้อยู่ในระหว่างดำเนินการ.

ไฟเหลือง
failuang@dailynews.co.th

-------------

คลังยึดแอร์พอร์ตลิงก์ ล้างหนี้/ยืดเส้นทางกรุงเทพฯ-ระยอง
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ 10 ส.ค. 2555 เวลา 11:26:00 น.

ดร.วีรพงษ์ รามางกูร ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อการฟื้นฟูและสร้างอนาคตประเทศ (กยอ.) เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า รัฐบาลกำลังผลักดันก่อสร้างโครงการโครงสร้างพื้นฐานภายใต้วงเงินลงทุน 2.27 ล้านล้านบาท ให้เกิดผลในทางปฏิบัติโดยเร็วที่สุด โดยเฉพาะโครงการระบบราง ทั้งรถไฟฟ้า รถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน) ได้ตั้งเป้าหมายเปิดให้บริการภายใน 6 ปี ซึ่งในส่วนของรถไฟฟ้าขณะนี้หลายเส้นทางอยู่ระหว่างก่อสร้าง ขณะที่ไฮสปีดเทรนในเส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่, กรุงเทพฯ-หนองคาย, กรุงเทพฯ-ระยอง และกรุงเทพฯ-ปาดังเบซาร์ เฟสแรกจะก่อสร้างช่วงกรุงเทพฯ-พิษณุโลก, กรุงเทพฯ-นครราชสีมา, กรุงเทพฯ-พัทยา และกรุงเทพฯ-หัวหิน จากนั้นจะศึกษารายละเอียดและเริ่มก่อสร้างในเฟสที่ 2 ในส่วนที่เหลือควบคู่กันไป

การเปิดประมูลก่อสร้างระบบรางทั้ง 4 สายจะมีขึ้นภายในสิ้นปีนี้ แนวทางดำเนินการรัฐบาลจะลงทุนในส่วนของโครงสร้างทั้งหมด เพราะมองว่าส่วนของโครงสร้างและระบบรางจะเป็นทรัพย์สมบัติของชาติ อยู่ได้ 100-120 ปีเป็นอย่างน้อย โดยปรับเปลี่ยนแนวคิดใหม่ จะไม่นำวงเงินลงทุนในส่วนของโครงสร้างไปคำนวณเป็นต้นทุน ทำให้ต้นทุนโครงการถูกลง ส่งผลให้ค่าขนส่งถูกลง เช่นเดียวกับค่าโดยสารที่จะถูกลงด้วย ขณะที่การบริหารจัดการเดินรถและการจัดหาระบบรถจะให้เอกชนดำเนินการด้วยวิธีเปิดประมูล ซึ่งขณะนี้ต่างชาติแสดงความสนใจจะเข้ามาลงทุนจำนวนมาก อาทิ เยอรมนี จีน ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส ฯลฯ

ตามแผนที่วางไว้ในส่วนของไฮสปีดเทรน 3 เส้นทาง ได้แก่ กรุงเทพฯ-พิษณุโลก, กรุงเทพฯ-นครราชสีมา และกรุงเทพฯ-หัวหิน ปลายปีนี้จะเปิดให้ต่างชาติเสนอตัวเข้าประมูลโดยวิธีเปิด ไม่มีการล็อกสเป็ก ผู้สนใจสามารถเสนอทางเลือกในการลงทุนและการเลือกใช้เทคโนโลยีได้แบบเปิดกว้าง วิธีการตัดสินรัฐบาลจะเลือกระบบที่ดีที่สุด โดยไม่จำเป็นว่าราคาจะต้องถูกที่สุด ที่สำคัญคือ หากเลือกระบบรถของประเทศใด ก็จะใช้ระบบนั้นทั้ง 3 เส้นทาง

ผู้เสนอตัวเข้าร่วมคัดเลือกจึงต้องเสนอมาทั้งแพ็กเกจ นอกจากก่อสร้างระบบรถแล้ว ต้องจัดทำข้อเสนอเกี่ยวกับการถ่ายทอดเทคโนโลยี รวมทั้งการตั้งโรงงานผลิตระบบรถไฟฟ้า การบริหารซ่อมบำรุง อะไหล่ ฯลฯ

ดร.วีรพงษ์กล่าวว่า ในส่วนของเส้นทางกรุงเทพฯ-พัทยา ล่าสุดได้ข้อสรุปชัดเจนแล้วว่า แทนที่จะลงทุนก่อสร้างโครงการใหม่ ก็จะเปลี่ยนคอนเซ็ปต์โครงการแอร์พอร์ตลิงก์ซึ่งเดิมจะใช้เชื่อมระหว่างสนามบินดอนเมืองกับสนามบินสุวรรณภูมิ ก็ต่อเชื่อมจากสุวรรณภูมิไปถึงพัทยาในเฟสแรก จากนั้นเฟสที่สองจะต่อขยายไปถึง จ.ระยอง ขณะเดียวกันจากที่แอร์พอร์ตลิงก์ประสบปัญหาขาดทุนอย่างรุนแรง ทุนจดทะเบียนติดลบไปแล้ว อาจต้องลดทุน เพิ่มทุน ซึ่งอาจต้องรื้อโครงสร้างหรือปรับเปลี่ยนวิธีการบริหารจัดการใหม่ ส่วนการรถไฟจะบริหารหรือไม่ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างการพิจารณา

"ในส่วนของระบบรถที่จะเชื่อมต่อจากสุวรรณภูมิไปพัทยา ประมูลเทคโนโลยีอะไรไม่ได้แล้ว เพราะกำหนดเป็นระบบของซีเมนส์แล้ว ก็ต้องใช้ระบบของซีเมนส์ คือต่อราง แล้วใช้ระบบของซีเมนส์"

ทั้งนี้ ในช่วงที่รัฐบาลจะจัดงานใหญ่แสดงผลงานในวาระที่เข้าบริหารประเทศครบรอบ 1 ปี ระหว่างวันที่ 22-29 ส.ค.นี้ ที่สถานีรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์มักกะสัน รัฐบาลได้เชิญชวนนักลงทุนต่างประเทศซึ่งเป็นเจ้าของและผู้ผลิตรถไฟฟ้าที่มีเทคโนโลยีเป็นที่ยอมรับเข้าร่วมออกบูทแสดงเทคโนโลยีเพื่อเปิดโอกาสให้คนไทยได้เยี่ยมชมและรู้จักเทคโนโลยีรถไฟฟ้าและไฮสปีดเทรนด้วย

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ปัญหาโดยรวมของรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ที่มีหนี้กว่า 3 หมื่นล้านบาท สาเหตุมาจากการดำเนินงานยังไม่คล่องตัว ยังผูกติดกับการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) บริษัทแม่ ทั้งเรื่องเงินทุนหมุนเวียน การจัดซื้ออุปกรณ์ต่าง ๆ แม้ว่าจะตั้งบริษัทลูก คือบริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด มาบริหารการเดินรถแล้วก็ตาม

แนวทางการบริหารจัดการหนี้ของรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์มี 2 แนวทาง คือ
1) ขยายเส้นทางเชื่อมต่อถึงสนามบินดอนเมือง กับขยายเส้นทางไปยังภาคตะวันออกถึงระยอง และ
2) แยกบริษัทรถไฟฟ้า ร.ฟ.ท.ออกมาจากการดูแลของการรถไฟฯ และให้กระทรวงการคลังเป็นผู้ถือหุ้นทั้งหมด
ส่วนภาระหนี้ที่การรถไฟฯ กู้มาเพื่อก่อสร้าง และลงทุนระบบอาณัติสัญญาณ และรถไฟฟ้ากว่า 3 หมื่นล้านบาท อาจมีบางส่วนให้การรถไฟฯ รับผิดชอบ และบางส่วนที่บริษัทรับผิดชอบเอง ในอนาคตอาจจะหาผู้ถือหุ้นรายอื่นเข้ามาถือหุ้นเช่น บมจ.การบินไทย บมจ.ท่าอากาศยานไทย (ทอท.)

"เมื่อแยกบริษัทออกมาเป็นอิสระจากการรถไฟฯแล้ว ต่อไปบริษัทนี้จะทำหน้าที่บริหารการเดินรถและหาประโยชน์จากการพัฒนาพื้นที่สถานี โดยเช่ารางจากการรถไฟฯ นอกจากนี้ในอนาคตบริษัทจะหารายได้เพิ่มจากการประมูลรับจ้างบริหารการเดินรถให้กับรถไฟฟ้าสายอื่น ๆ เพื่อให้สามารถอยู่ได้ด้วยตัวเอง"

ด้านนายมนัส แจ่มเวหา รองปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการพิจารณาแนวทางการบริหารจัดการโครงการ (แอร์พอร์ตลิงก์) เปิดเผยว่า ได้เรียกประชุมผู้ที่เกี่ยวข้องเมื่อ 30 ก.ค.ที่ผ่านมา "ทางแอร์พอร์ตลิงก์มาเล่าให้ฟังว่า เขาหาเงินมาได้ ก็ต้องส่งเข้าการรถไฟฯ เพราะเป็นบริษัทลูก แล้วบริษัทลูก เวลาจัดซื้อจัดจ้างต้องขอ ร.ฟ.ท. คือขั้นตอนยาว แต่ถ้าเป็นนิติบุคคลต่างหาก จะมีวิธีการอย่างไร เพื่อให้การบริหารจัดการคล่องตัว รวดเร็ว สั้น อีกประเด็น จะทำอย่างไรให้มีผู้ใช้บริการมากขึ้น แล้วผู้ใช้บริการพอใจ ประเด็นหลักคือ มีแนวทางบริหารจัดการอยู่ 2 แนวทาง คือแนวทางของ สบน.และการรถไฟฯเสนอ โดยให้ไปปรับจูนว่าจะทำอย่างไร แต่ยังไม่ได้คิดไปไกลถึงขั้นให้คลังเข้าไปถือหุ้นทั้งหมด"

ขณะที่แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลังกล่าวว่า การแก้ปัญหาขาดทุนของแอร์พอร์ตลิงก์ โดยเสนอให้กระทรวงคลังเข้าถือหุ้นในบริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. 100% โดยคลังต้องรับหนี้กว่า 2 หมื่นล้านบาท แล้วแปลงหนี้เป็นทุน เพราะหากยังคงสถานะเป็นบริษัทลูกของ ร.ฟ.ท.อยู่ จะแก้ปัญหาได้ยาก ซึ่งแนวทางนี้ทางกระทรวงคมนาคมและพนักงานบริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท.เห็นด้วย แต่ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของผู้บริหารการรถไฟฯ

[Mongwin]

TSF ลงนามสัญญาเช่าโครงการระบบขนส่งทางรถไฟเชื่อมสุวรรณภูมิ-สถานีรับส่งผู้โดยสารอากาศยานกรุงเทพฯ มูลค่า 392 ลบ.
ที่มา: หุ้นอินไซด์ วันที่ : 10 สิงหาคม พ.ศ. 2555

บริษัท ทรีซิกตี้ไฟว์ จำกัด (มหาชน) ("บริษัท") ขอแจ้งให้ทราบว่าบริษัท ได้ลงนามในสัญญาเลขที่ SRT-ARL-002/2555 ลงวันที่ 7 สิงหาคม 2555ซึ่งเป็นสัญญาเช่าการใช้ประโยชน์ในพื้นที่เชิงพาณิชย์ของโครงการระบบขนส่งทางรถไฟเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและสถานีรับส่งผู้โดยสารอากาศยานกรุงเทพบริเวณ 8 สถานี ได้แก่ สถานีพญาไท ราชปรารภ มักกะสันรามคำแหง หัวหมาก บ้านทับช้าง ลาดกระบัง และสุวรรณภูมิ มีพื้นที่รวมทั้งสิ้น 5,788.20 ตารางเมตรอายุสัญญา 10 ปี 6เดือน สิ้นสุดในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2566โดยได้จ่ายค่าธรรมเนียมจัดประโยชน์เป็นจำนวนเงิน 50,250,000 บาท ณ วันที่ลงนามในสัญญาและมีค่าเช่าพื้นรายปีอีกปีละ 2,332,438 บาท

โดยบริษัทจะบริหารจัดการพื้นที่ที่ได้รับสัมปทานมาเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่บริษัท อาทิเช่นจัดสรรพื้นที่สำหรับร้านอาหารและเครื่องดื่ม ร้านสะดวกซื้อ shopping mall สถาบันการเงินสำนักงานและส่วนบริการอื่นๆ ซึ่งมีมูลค่าโครงการรวมทั้งสิ้น 392 ล้านบาทบริษัทได้ใช้เงินทุนบางส่วนจากการออกและเสนอขายหุ้นกู้แปลงสภาพแก่นักลงทุนในต่างประเทศ (Value CapitalAsset Management Private Limited) (VCAM) ทั้งนี้บริษัทไม่มีข้อตกลงในการแบ่งผลตอบแทนให้กับการรถไฟแห่งประเทศไทยอีก