Summer Trip 2010 : มหากาพย์ 4 TRIPs

[ExtendeD]

Summer Trip 2010 : Trip 2 สองวัน ( กว่า ๆ ) ณ เมืองสองแคว



วันพุธที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2553

เรื่องราวในตอนที่ 2 ของ Summer Trip 2010 นี้ เป็นการเดินทางเยือนพิษณุโลกครั้งที่ 3 ในปี พ.ศ. 2553 ครับ กลับสู่แผ่นดินบ้านเกิดคราวนี้ไปเพื่อทำธุระสำคัญบางอย่างกับหม่าม้า พอมีเวลาว่างเมื่อไหร่ ผมก็จะเดินตรงดิ่งไปที่ สถานีพิษณุโลก ซะทุกครั้งไป เนื้อเรื่องและรูปภาพที่เตรียมเอาไว้นำเสนอก็เลยอาจจะดูน้อย ๆ หาสาระอะไรไม่ค่อยจะได้ ก็ถือว่าเป็นรีวิวคั่นเวลาก่อนที่จะไปชม 4514 ปะทะ 4523 ลุยสมรภูมิริมรางเหล็กสุดแดนใต้ ที่พี่ ๆ น้อง ๆ หลาย ๆ คนกำลังรอคอยอยู่ในสัปดาห์หน้าแล้วกันครับ

ผมกับหม่าม้าออกเดินทางสู่ สถานีพิษณุโลก กับ ขบวนรถด่วนพิเศษดีเซลรางปรับอากาศที่ 9 ต้นทางสถานีกรุงเทพ - ปลายทางสถานีเชียงใหม่ ในวันสุดท้ายของเดือนมีนาคมที่ผ่านมาครับ



แต่ก่อนที่จะเดินทางก็เกิดเหตุไม่คาดฝัน เมื่อมีรถดีเซลรางปรับอากาศ Daewoo ขบวนหนึ่ง ประสบอุบัติเหตุตกราง ตามรายละเอียด และรูปภาพที่ปรากฏอยู่ในกระทู้ ขบวน 22 ชนรถบรรทุก 6 ล้อ ตกราง ที่ สทล.432/15 (30/03/53) ผมเองก็ไม่ค่อยรู้เรื่องเกี่ยวกับการหมุนเวียนชุดรถมากสักเท่าไหร่ แต่คิดว่าถ้ารถ Daewoo ชุดนี้กลับมาถึงกรุงเทพได้อย่างปลอดภัย เช้าวันรุ่งขึ้นหากไม่ถูกจัดให้วนกลับไปทางอีสานใต้ เป็น ขบวนรถด่วนพิเศษดีเซลรางปรับอากาศที่ 21 ต้นทางสถานีกรุงเทพ - ปลายทางสถานีอุบลราชธานี อีกครั้ง ก็คงจะกลายเป็นชุดรถของขบวนที่ 9 พาผมกับหม่าม้าขึ้นเหนือไปพิษณุโลกแน่ ๆ . . .
_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

เมื่อมีเรื่อง ( ที่ไม่มีใครอยากให้เกิด ) แบบนี้แล้ว ขบวนที่ 9 ในวันที่ผมเดินทางก็คงจะต้องใช้ชุดรถของ ขบวนรถด่วนพิเศษดีเซลรางปรับอากาศที่ 42 ต้นทางสถานียะลา - ปลายทางสถานีกรุงเทพ แน่ ๆ โอกาสที่จะล่าช้าตั้งแต่ต้นทางมีค่อนข้างสูงเลยทีเดียว นอกจากนั้นรถมีเวลาพักน้อย ( มาก ) สภาพจะเป็นยังไงก็ไม่รู้ พอรู้ข่าวผมก็คิดกังวลไปเรื่อย เป็นเพราะมีหม่าม้าไปด้วย ก็เลยไม่อยากให้รถล่าช้ามาก และถ้าได้รถสภาพค่อนข้างดีสักหน่อยก็คงจะดี เพราะคราวที่แล้ว กซม.ป. ของ ขบวนรถเร็วที่ 106 ต้นทางสถานีศิลาอาสน์ - ปลายทางสถานีกรุงเทพ ได้สร้างความประทับใจ ( ประชด ) ให้ปะป๊ากับหม่าม้ามาก ถึงขนาดที่ว่าพอปะป๊ารู้ว่าจะนั่งรถไฟไปพิษณุโลก ถึงกับขอสละสิทธิ์อยู่เฝ้าบ้านเลย . . .

พอถึงเช้าวันเดินทางจริง ๆ ทุกอย่างก็เป็นอย่างที่คิดและกังวลเอาไว้หมดเลยครับ . . .
- ขบวนที่ 9 ต้องรอใช้ชุดรถของขบวนที่ 42 ทำให้เคลื่อนขบวนออกจาก สถานีกรุงเทพ เวลา 09:05 น. ( +35 ) . . .
- แอร์ของ กซข.ป.2515 ซึ่งเป็นรถคันที่ 3 ของขบวนที่ 9 ในวันนั้นไม่มีความเย็นเลย พอรถเคลื่อนขบวนออกจาก สถานีดอนเมือง ก็ต้องเริ่มเปิดพัดลมกันแล้ว


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[pattharachai]

แอบมาแซวว่า วันไหนที่พี่เต้ยพักผ่อนอยู่บ้านบ้างครับ ฮ่าๆ

[ExtendeD]

ตลอดการเดินทางผมไม่ค่อยได้หยิบเจ้า Lumix ในมือมาใช้งานเลยครับ คงเป็นเพราะเส้นทางนี้เคยผ่านไปมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง แถมยังนั่งอยู่ในรถปรับอากาศที่ถ่ายรูปไม่สะดวก แล้วก็ยังมีหม่าม๊านั่งอยู่ข้าง ๆ อีก เวลาส่วนใหญ่ก็เลยหมดไปกับการนั่งขีด ๆ เขียน ๆ จดบันทึกลงในกระดาษมากกว่า . . .

หลังจากเคลื่อนขบวนออกจาก สถานีกรุงเทพ แล้ว ขบวนที่ 9 ก็เข้าหยุดรับ - ส่งผู้โดยสารที่ . . .
- สถานีสามเสน เวลา 09:15 น. ( +35 )
- สถานีชุมทางบางซื่อ เวลา 09:20 น. ( +32 )
- สถานีบางเขน เวลา 09:29 น. ( +30 )
- สถานีหลักสี่ เวลา 09:36 น. ( +31 )
- สถานีดอนเมือง เวลา 09:42 น. ( +30 )
- สถานีรังสิต เวลา 09:50 น. ( +30 )
- สถานีอยุธยา เวลา 10:20 น. ( +38 )

หลังจากขบวนรถเคลื่อนขบวนออกจาก สถานีอยุธยา พนักงานต้อนรับบนรถก็เสิร์ฟของว่างและเครื่องดื่ม ในวันนั้นของว่างเป็นขนมปังบลูเบอร์รี่ครับ รสชาติก็หวานมากอีกเหมือนเดิม ผมชิมไปคำเดียวแล้วก็เลิกเลย . . . กลับมานั่งดูวิวนอกหน้าต่างต่อ . . .

คนเคยถ่ายรูปแล้วไม่ได้ถ่ายนี่อึดอัดนะครับ ผมอดทนจนกระทั่งถึงเวลาประมาณ 10:44 น. ตอนนั้นขบวนที่ 9 กำลังจะวิ่งผ่าน สะพานจักรี ข้ามแม่น้ำป่าสัก ที่อยู่ทางด้านทิศใต้ของ สถานีท่าเรือ ก็ลุกเดินเข้าไปในห้องน้ำ เพื่อเก็บภาพบรรยากาศบนสะพานเอาไว้


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

เมื่อขบวนที่ 9 มาถึง สถานีบ้านหมอ ก็หยุดนิ่งอยู่นานหลายนาที ระหว่างนั้นคุณพี่พหล. ก็เดินผ่านมา ทำให้เสียงจากวิทยุสื่อสารลอยเข้าหูผมพอดี สรุปได้ความประมาณว่า ในขณะนั้นทางขึ้น ถูกปิดยาวไปจนถึง สถานีลพบุรี ส่วนทางล่องนั้นมี ขบวนรถบรรทุกน้ำมันที่ 632 ต้นทางสถานีบึงพระ - ปลายทางสถานีแม่น้ำ กำลังวิ่งผ่านมา ขบวนที่ 9 ต้องหยุดรอทางอยู่ที่นี่ รอให้ขบวนที่ 632 ผ่านไปก่อน แล้วจึงเปลี่ยนไปวิ่งบนทางล่องยาวไปจนถึง สถานีลพบุรี ครับ

10:56 น. เมื่อขบวนที่ 632 วิ่งสวนทางผ่านไปแล้ว ขบวนที่ 9 ก็ค่อย ๆ เคลื่อนขบวนออกจาก สถานีบ้านหมอ ผมเก็บภาพเหตุการณ์ตอนนั้นเอาไว้เป็น Clip ยาวเรื่อยไปจนกระทั่งถึงตอนที่ขบวนที่ 9 วิ่งผ่าน สถานีหนองโดน ไป ถ้าดู Clip นี้จนจบก็จะได้เห็นชุดรถบำรุงทางกำลังปฏิบัติงานอยู่ในตอนท้ายด้วยครับ


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

จากนั้น . . .
- ขบวนที่ 9 ก็เข้าหยุดรับ - ส่งผู้โดยสารที่ สถานีลพบุรี เมื่อเวลา 11:12 น. ( +45 )
- ที่ สถานีท่าแค มีรถจักรดีเซลไฟฟ้า General Electric ( GE. ) หมายเลข 4030 ทำ ขบวนรถธรรมดาที่ 202 ต้นทางสถานีพิษณุโลก - ปลายทางสถานีกรุงเทพ จอดรอหลีกอยู่
- ในรางหลีกที่ สถานีหัวหวาย มี ขบวนรถเร็วที่ 106 ต้นทางสถานีศิลาอาสน์ - ปลายทางสถานีกรุงเทพ จอดรอหลีกอยู่
- ก่อนถึง สถานีนครสวรรค์ ไม่นาน พนักงานต้อนรับบนรถก็เสิร์ฟอาหาร ในกล่องอาหารที่ได้รับแจกเป็นข้าวสวย + ไก่สับปั้นทอด + ผัดเปรี้ยวหวาน ( น่าจะเรียกว่า ผัดแตงกวาเปรี้ยวไม่มีหวาน มากกว่า )
- หยุดรับ - ส่งผู้โดยสารที่ สถานีนครสวรรค์ เวลา 12:27 น. ( +52 )

เมื่อมาถึง สถานีคลองปลากด ขบวนที่ 9 ก็ถูกกักให้เข้าไปจอดอยู่ในรางหลีกครับ




นั่งรอดูอยู่สักพัก รถจักรดีเซลไฟฟ้า Alsthom ( ALS. ) หมายเลข 4132 ก็ทำ ขบวนรถเร็วที่ 112 ต้นทางสถานีเด่นชัย - ปลายทางสถานีกรุงเทพ วิ่งสวนทางผ่านไป เมื่อเวลา 12:48 น. ลองคำนวณดูคร่าว ๆ ขบวนที่ 112 ในวันนั้นน่าจะล่าช้ากว่ากำหนดเวลาอยู่ประมาณ 20 นาทีครับ เพราะถ้าสามารถทำเวลาได้ดี ก็น่าจะกำลังเข้าสู่ สถานีนครสวรรค์ แล้ว


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

จากนั้น . . .
- ขบวนที่ 9 ก็เข้าหยุดรับ - ส่งผู้โดยสารที่ สถานีตะพานหิน เมื่อเวลา 13:20 น. ( +60 )
- ในรางที่ 4 ของ สถานีตะพานหิน มี ขบวนรถบรรทุกน้ำมันที่ 634 ต้นทางสถานีบึงพระ - ปลายทางสถานีแม่น้ำ ที่ได้รถจักรดีเซลไฟฟ้า Alsthom ( ADD. ) หมายเลข 4403 ( เครื่องยนต์ CAT. ) ทำขบวน จอดรอหลีกอยู่
- เข้าหยุดรับ - ส่งผู้โดยสารที่ สถานีพิจิตร เมื่อเวลา 13:40 น. ( +60 )
- ที่ สถานีแม่เทียบ มีรถจักรดีเซลไฟฟ้า Hitachi ( HID. ) หมายเลข 4519 ทำ ขบวนรถบรรทุกน้ำมันที่ 636 ต้นทางสถานีบึงพระ - ปลายทางสถานีแม่น้ำ จอดรอหลีกอยู่
- ขบวนรถท้องถิ่นที่ 402 ต้นทางสถานีพิษณุโลก - ปลายทางสถานีลพบุรี จอดรอหลีกอยู่ที่ สถานีบึงพระ

แล้วขบวนที่ 9 ก็มาถึง สถานีพิษณุโลก เมื่อเวลา 14:09 น. ( +60 ) . . . เวลาผ่านไปอีกประมาณ 8 นาที เมื่อคุณพี่พขร. + ช่างเครื่องผลัดใหม่ขึ้นทำการ และเติมน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้ว กซข.ป.2529 + กซข.ป.2519 + กซข.ป.2515 ก็เคลื่อนขบวนออกเดินทางต่อ . . .




ต่อจากนั้นผมก็กลับไปเก็บกระเป๋าที่บ้าน แล้วก็กลับมาที่ สถานีพิษณุโลก อีกครั้ง ระหว่างรอคอยเวลาที่รถไฟขบวนต่อไปจะผ่านเข้ามา ก็เดินชมบรรยากาศที่นี่กันสักหน่อยครับ เริ่มจากเครนตัวนี้ เหมือนกับที่อยู่ข้างหน้าโรงรถจักรอุบลราชธานีหรือเปล่าเอ่ย . . .


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

ต่อมาก็เป็นเจ้าถิ่น รถจักรดีเซลไฟฟ้า Davenport 500HP หมายเลข 527 เวลาบ่าย ๆ แบบนี้ก็นอนพักตากแดดอยู่ที่เก่า . . . ข้าง ๆ อาคารเครื่องกำเนิดไฟฟ้าสำรอง . . .




รูปนี้ผมซูมจากบริเวณชานชาลาไปที่ตราบุรฉัตรที่ติดอยู่ข้างตัวของ Davenport No.527 พยายามให้มือนิ่งแล้ว ได้ชัดที่สุดแค่นี้ . . .


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

ในบ่ายวันนั้นไม่มีรถจักรที่รอทำขบวนรถบรรทุกน้ำมันดิบ จอดอยู่ในรางข้างหลังหอสัญญาณเลย คงจะทยอยกันเข้ากรุงเทพกันหมดแล้วแน่ ๆ เพราะฉะนั้นก็มาดูขบวนรถไฟที่เข้ามาถึง สถานีพิษณุโลก ในช่วงบ่ายวันนั้นกันเลยดีกว่าครับ

เริ่มจาก ขบวนรถด่วนพิเศษดีเซลรางปรับอากาศที่ 12 ต้นทางสถานีเชียงใหม่ - ปลายทางสถานีกรุงเทพ เข้าหยุดรับ - ส่งผู้โดยสารที่ สถานีพิษณุโลก เมื่อเวลา 15:20 น. ( +22 )




หลังจากขบวนที่ 12 เข้าไปจอดอยู่ในรางที่ 1 สักพัก รถจักรดีเซลไฟฟ้า General Electric ( GEA. ) หมายเลข 4545 ก็ทำ ขบวนรถเร็วที่ 111 ต้นทางสถานีกรุงเทพ - ปลายทางสถานีเด่นชัย เข้าสู่ สถานีพิษณุโลก เมื่อเวลา 15:25 น. ( +83 ) ที่ล่าช้ามากขนาดนี้ สาเหตุหนึ่งก็คงเป็นเพราะว่า เมื่อเช้านี้ตอนที่ยังอยู่ที่หัวลำโพง กว่าที่รถเร็วขบวนนี้จะได้รถจักรมาทำขบวน ก็เป็นเวลาหลัง 08:00 น. แล้วล่ะครับ . . .


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

พอเก็บภาพช่วงที่ขบวนที่ 111 เคลื่อนขบวนออกจาก สถานีพิษณุโลก ได้แล้ว ผมยังมีเวลาอีกพักหนึ่ง ซึ่งก็นานพอที่จะเดินมาจนถึงบริเวณปลายสุดของชานชาลาทางด้านทิศใต้ เพื่อมาเก็บภาพตอนที่ขบวนที่ 12 ถูกปล่อยออกไปเมื่อเวลา 15:38 น. ( +30 ) ดูจากเวลาแล้ว ในบ่ายวันนั้นขบวนที่ 12 จอดอยู่ที่ สถานีพิษณุโลก นานถึง 18 นาทีเลยทีเดียวครับ . . .



ชุดรถของขบวนที่ 12 ในวันนั้นก็คือ กซข.ป.2520 + กซข.ป.2525 + กซข.ป.2529 ครับ


และนี่คือรถไฟขบวนสุดท้ายที่ผมได้พบเห็นก่อนที่จะถูกเรียกตัวกลับบ้านในบ่ายวันนั้นครับ ขบวนรถด่วนพิเศษดีเซลรางปรับอากาศที่ 3 ต้นทางสถานีกรุงเทพ - ปลายทางสถานีสวรรคโลก - ศิลาอาสน์ เคลื่อนขบวนออกจาก สถานีพิษณุโลก ไปเมื่อเวลา 16:46 น. ( +46 )



ชุดรถของขบวนที่ 3 ในเย็นวันนั้นประกอบด้วย กซข.ป.2508 + กซม.ป.2114 + กซข.ป.2503 ครับ
_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.