ขบวน 22 ชนรถบรรทุก 6 ล้อ ตกราง ที่ สทล.432/15 (30/03/53)

[Compressor]

เนื่องจากอยู่ดีๆ วานนี้ความซวยบังเกิดครับ จู่ๆก็มีรับแจ้งสั้นๆได้ใจความและสื่อความหมายได้เป็นอย่างดี จากทางการว่า

"แดวูตกราง"

ด้วยผมเอง ที่อยู่ดีไม่ว่าดี วานนี้ไปดูรถไฟ นั่งเล่นอยู่หน้า พตร.อน. อยู่แล้วล่ะครับ งงไปเต็มๆ ก็เลยได้ทราบข่าวดังกล่าวกะเขาด้วย...

กลับมาเข้าเรื่องดีกว่าครับ...

เมื่อเวลา 17.07 น. ได้รับโทรศัพท์แจ้งมาทางหน่วย 10 อุบลราชธานีว่า ได้เกิดเหตุขบวนรถด่วนพิเศษที่ 22 อุบลราชธานี-กรุงเทพ ได้ประสบอุบัติเหตุตกรางเนื่องจากชนกับรถบรรทุกหกล้อ ที่ทางตัด สทล.432/15 ในตอนเมืองที-บุฤๅษี เป็นเหตุให้แคร่ 1 กซข.ป.2543 ตกรางและครูดไถลเป็นทางยาวประมาณ 2 ช่วงเสาโทรเลข (ประมาณ 120 เมตร) เป็นเหตุให้จำเป็นต้องปิดทางตอนดังกล่าว

อีกสักครู่ ภาพจะตามมาครับ

รูปภาพดังกล่าว ได้รับอนุญาตเรียบร้อยจากทางหน่วย 10 อน. เรียบร้อยแล้ว

[Compressor]

ก่อนอื่นมาดูสภาพรถยนต์ก่อนครับ

รถยนต์ที่ว่า เป็นรถบรรทุก 6 ล้อเปล่า (ไม่บรรทุกครับ) ไม่ทราบป้ายทะเบียน ซึ่งได้รับจ้างบรรทุกดิน เดินทางจากปากทางของทางหลวงหมายเลข 226 ตัดผ่านทางรถไฟเข้าไป (ถ้าเป็นขบวน 22 ก็คือ รถจะโผล่ออกมาจากซ้ายทาง)

จากการสอบถามจากชาวบ้านในละแวกนั้น ได้ความว่า ก่อนเกิดเหตุ รถบรรทุกดังกล่าว กำลังจะข้ามทางรถไฟ แต่เมื่อข้ามทางรถไฟ ได้เกิดเหตุเครื่องยนต์ดังและติดเครื่องไม่ได้ ประจวบเหมาะกับมีรถไฟมาพอดี พขร.รถบรรทุกดังกล่าว จึงตัดสินใจ ลงจากรถบรรทุก และได้หลบหนีไป (จนป่านนี้ยังตามตัวไม่เจอ)

เมื่อรถไฟชน จึงเป็นเหตุให้รถบรรทุกขาดเป็นสองท่อน ปานเอามีดผ่าแตงโม ดังที่เห็น ซึ่งสุดท้าย ก็ได้นำปั่นจั่นยก นำใส่รถบรรทุก ไปเก็บที่ สภ.เมืองที พื้นที่รับผิดชอบต่อไป

[Compressor]

มาดูสภาพทางตัดกันบ้าง

ทางตัดนี้ เป็นทางตัดที่มีป้ายสัญญาณไฟจราจรครบถ้วน ผิวจราจรคอนกรีตกว้าง 5 เมตร และเมื่อเข้าเขตรถไฟ จะเป็นถนนหินคลุก

**ขออภัย มืดเหลือเกิน เลยใช้แสงแฟลชช่วย ผลเลยกลายเป็นอย่างนี้
**รถคันในภาพ ไม่เกี่ยวกับเนื้อหานี้ เป็นเพียงแค่รถชาวบ้านแถวนั้นจอดข้างทาง

[Compressor]

มาดูรถไฟเรากันบ้าง

รถคันที่ประสบอุบัติเหตุ เป็นรถดีเซลรางปรับอากาศแดวู หมายเลข 2543 ความเสียหายคือ

- แคร่ 1 ตกราง โดยครูดไปกับหมอนคอนกรีตยาวประมาณ 120 เมตร
- Air Spring แคร่ 1 แตก ทั้งสองข้าง
- Oil Damper แคร่ 1 ชำรุด ทั้งสองข้าง
- ท่อลม MR, BP และท่อจัมเปอร์ชำรุด
- ตะแกรงหน้ารถดีเซลราง หักเป็นสองท่อน
- ประตูห้องขับฝั่งช่างเครื่องยุบ
- ปากขอพ่วงชำรุด (ไม่แน่ใจ เดี๋ยวจะถามช่างฝีมือที่ลงสนามอีกทีนึง)
- ฝาครอบ Marker Light แตก
- ราวจับตรงประตูชำรุด

จากที่ดูสภาพ เมื่อถึง สซร.กท. ซึ่งเป็นเจ้าของรถดีเซลรางคันนี้ คาดว่าจะซ่อมนอกวาระอุบัติเหตุประมาณไม่เกิน 5 วัน

ด้านหน้ารถดีเซลราง


แคร่ 1 ตกราง, Air Spring แตกทั้งสองข้าง, Oil Damper ชำรุด

[Compressor]

ประตูห้องขับฝั่งช่างเครื่องชำรุด


แคร่ 1 ที่ถ่ายจากส่วนล่างรถดีเซลราง ใต้โครงประธาน

[Compressor]

สำหรับเครื่องยนต์ประธานและเครื่องปรับอากาศ สามารถใช้การได้ตามปกติ

ในส่วนของห้องโดยสาร เมื่อตรวจสอบแล้ว พบว่า มีเพียงกระจกของฝาไมโครเวฟเท่านั้นที่แตก ซึ่งเกิดจากแรงชนและเกิดการกระแทกของตัวรถ (ในส่วนนี้ ทางบริษัท JMF ก็จะไล่เบี้ยกันอีกทีนึง ไม่เกียวกับฝ่ายการช่างกล)



ชิ้นส่วนที่หลุดออกมาจากตัวรถ พบว่า มีท่อลม MR, BP และตระแกรงหน้ารถ

[Compressor]

ในส่วนของฝ่ายการเดินรถ

ผู้โดยสารขบวน 22 ที่โดยสารกับรถดีเซลรางแดวูมาเดิม ขนถ่ายให้กับชุดรถขบวน 71/74 (เข้าใจว่าใช้ 1 ATR และ 2 THN) ส่วนขบวน 71 งดเดินแต่ สร.-เก. และขบวน 74 งดเดินแต่ เก.-กท.

ส่วนขบวน 427 ขนถ่ายผู้โดยสารสลับกับชุดรถขบวน 422 ส่วนขบวน 420, 144 รอเปิดทางที่ศีขรภูมิ, ขบวน 142 รอเปิดทางที่ศรีสะเกษ และขบวน 68, 140 รอเปิดทางที่สถานีอุบลราชธานี

มาดูของด้านทาง ซึ่งฝ่ายการช่างโยธาดูแลกันบ้าง

ความเสียหายด้านทางคือ มีหมอนคอนกรีตหักเป็นระยะทางประมาณ 120 เมตร แต่ สทล.432/13-สทล.432/15 จึงได้ทำการเปลี่ยนหมอนคอนกรีต และเปิดทาง จะทำการเบาทาง 35 ชั่วคราว ในบริเวณดังกล่าว

[Compressor]

การนำหมอนคอนกรีตมา นำมาจากสถานีสุรินทร์ (มีหมอนสำรองอยู่) อาศัยรถบำรุงทางเบามา...

[RORONOA]

ชนอีกแล้วหรือครับ เมื่อเช้าก็ได้ข่าวว่าทั้ง 42 44 อาการหนักใช้เล่น จะเหลือแดวูให้ใช้อีกสักกี่คันกันครับ ได้ข่าวว่าตอนนี้ก็มีแค่พอดีใช้เจอแบบนี้ไปเกรงว่าจะมีการงดขบวนที่ใช้แดวูอีกมั้ยครับ

[Compressor]

มาดูการยกรถกันบ้าง

รถ บรช. พร้อมด้วย บปก.33 ได้เดินทางจากนครราชสีมา มาถึงสถานีบุฤๅษีเวลาประมาณ 22.00 น. ความเร็ว 70 กม./ชม. ดีเซล 4102 และเข้าที่เกิดเหตุเวลาประมาณ 22.40 น. เนื่องจากรอฝ่ายการช่างโยธา ขนหมอนคอนกรีต



การยกรถ จะใช้วิธีคล้องและยก ถ้าเป็นผมเอง ผมว่าเหมือนวิธีคล้องคอตุ๊กแก

เขาทำยังไงกันบ้าง ไปดูกันเลยครับ ผมเองก็อธิบายไม่ค่อยถูก ไม่ค่อยเชี่ยวชาญด้านยกรถ

ใช้บุคลากรในภารกิจนี้ประมาณ 15 คน กับเวลา 45 นาที เท่านั้นเอง....