ข่าวรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน)

[Mongwin]

คมนาคมดีเดย์สร้างรถไฟฟ้าเร็วสูงปีหน้า เร่งกำหนดกรอบ
INN News วันอังคารที่ 24 เมษายน พ.ศ.2555 7:43น.

กระทรวงคมนาคม ดีเดย์สร้างรถไฟความเร็วสูงปีหน้า โดยปีนี้จะเร่งกำหนดเส้นทาง ระบุ เวลา 13.00 น. "จารุพงศ์" จะประชุมหน่วยงานสอบถามความคืบหน้า เร่งกำหนดเส้นทาง รูปแบบสถานี ความเร็วของรถไฟ

นายศิลปชัย จารุเกษมรัตนะ รองปลัดกระทรวงคมนาคม และรักษาราชการแทนปลัดกระทรวงคมนาคม ได้เปิดเผยว่า โครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง จะต้องเริ่มดำเนินการก่อสร้างให้ได้ในปีหน้า ซึ่งในปีนี้จะมีการกำหนดเส้นทาง รูปแบบสถานี รวมทั้งการกำหนดความเร็วของรถไฟ ว่าจะมีความเร็วเท่าไหร่ โดยความเร็วนั้นจะมีผลต่องบประมาณที่ใช้ในการลงทุนด้วย

อย่างไรก็ตาม รักษาการปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวเพิ่มเติมว่า ในวันนี้เวลา 13.00 น. ก็จะมีการประชุม เรื่องรถไฟความเร็วสูงอีกครั้ง โดยมี นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานการประชุม

[thanaratKK]

ในใจผมยังไม่อยากให้มีเลยครับ
มันมีหลายประเด็น ที่ไม่เหมาะไม่ควรจะเอาเข้ามาตอนนี้ เช่น ลักษณะวินัยของคนในชาติ ที่แตกต่างจากประเทศผู้ให้บริการ หรือต้นแบบ

แต่ีในเมื่อจะให้มันมีให้ได้ในสภาวะเช่นนี้ คงต้องปล่อยไปตามกรรม เสียงเล็กๆ เสียงเดียวพูดให้ดังแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์ นอกจากการรอคอยให้พับกับคำว่าไม่เห็นโลงไม่หลั่งน้ำตาด้วยตัวเอง

[nathapong]

ฟังจากผู้รู้จริง
ข่าวที่ผ่านมาทั้งหมด เป็นแค่กรอบของ หลักการ ว่า ถ้าประเทศไทยจะมีรถไฟความเร็วสูง ฟุ้งได้ที่จริง ประเทศไทย

ปล.รอฟังข่าวว่า ใครจะเป็นประธานเรื่องรถไฟความเร็วสูงนี้
และขอแสดงความยินดีล่วงหน้า กับบุคคลบางท่านที่สมาชิก RFT คุ้นเคยเป็นกรรมการหรือประธานทางเทคนิคโครงการนี้ อิอิ

[HS8JBD]

ก่อนจะลงมือสร้างผมว่าน่าจะบอกชาวบ้านให้ทราบก่อนนะครับว่าถ้าสร้างเสร็จแล้วค่าโดยสารจะอยู่ที่เท่าไหร่ ดูว่าจะรับราคาค่าโดยสารได้ไหมถ้ารับไม่ได้ก็ไม่ต้องสร้างเพราะเงินที่สร้างแต่ละสายไม่ใช่น้อยๆครับ ถ้าสร้างมาแล้วไม่มีคนใช้นี่ยุ่งนะ

[nathapong]

^ ค่ารถ จริง ๆ
จะออกมาต่อเมื่อการทำรายละเอียดทางเทคนิค และรายละเอียดผลตอบแทนทางการเงิน

ที่ผ่าน ๆ มาเป็นแค่กรอบแนวคิดของภาครัฐ ถ้าประเทศไทยจะมีรถไฟความเร็วสูง
ส่วนที่ข่าวขยาย ๆ ออกไปนั้น เป็นแค่ความเห็น

ถ้าเปรียบเทียบไปมองที่ต่างประเทศที่มีใช้ ว่าระยะทางกี่ กม ค่าโดยสาร เป็นเท่าใด

ส่วนที่แพง ไม่มีคนใช้ แล้วมันเจ๊งกาบ๊ง คือ เรื่องของกำลังทรัพย์ แต่อะไร ๆ ก็ไม่แน่ สำหรับประเทศไทย

[Mongwin]

มาอ่านเอกสารโบราณกันดีกว่าครับ คลายเครียด
เพื่อเป็นฐานข้อมูลในการตัดสินใจว่า รถไฟความเร็วสูง จะได้สร้างหรือไม่
http://www.nesdb.go.th/specialWork/suvarnabhumi/articles_center/rapid_train_in_thailand/rapid_train_summary%20-%20march2537.pdf

[black_express]

จะยังไงก็ไม่ทราบสิครับ ? อ.หม่อง

แต่ผมแอบ save ไว้ดูแล้ว

[Wisarut]

คมนาคมเตรียมตั้งคณะกรรมการพัฒนารถไฟความเร็วสูง
สำนักข่าวไทย วันอังคาร ที่ 24 เมษายน 2555

กรุงเทพฯ 24 เมษายน 2555 - นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อม 2 รัฐมนตรีช่วย เปิดเผยถึงแนวทางพัฒนารถไฟความเร็วสูง ว่า เวลา 16.30 น. กระทรวงคมนาคมจะเข้ารายงานถึงแนวทางการเร่งรัดโครงการให้นายกรัฐมนตรีทราบ หลังจากให้ความสนใจในการเร่งรัดโครงการรถไฟความเร็วสูง หลังจากเดินทางเยือนประเทศจีน ทำให้เห็นความจำเป็นในการเร่งผลักดันโครงการให้เป็นรูปธรรม

นายจารุพงศ์ กล่าวว่า เพื่อให้การขับเคลื่อนโครงการอย่างรวดเร็ว จะมีการหารือนายกรัฐมนตรีให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการกำกับการพัฒนารถไฟความเร็วสูงขึ้น โดยจะขอให้นายกรัฐมนตรีเป็นคณะกรรมการชุดนี้และมีปลัดกระทรวงคมนาคมเป็นกรรมการและเลขานุการ โดยกรรมการชุดดังกล่าวมีคณะทำงาน 5 ด้าน ประกอบด้วย

คณะทำงานด้านเทคนิคและวิศวกรรม
ด้านการเงินการลงทุน
ด้านการก่อสร้าง
ด้านสร้างมูลค่าเพิ่มโครงการ และ
ด้านการบริหารการเดินรถ

ซึ่งคณะทำงานทั้งหมดจะร่วมกันร่างกรอบความต้องการของประเทศเพื่อให้การดำเนินโครงการสอดคล้องกับการพัฒนา ขณะเดียวกันจะมีการจัดตั้งวิสาหกิจรถไฟความเร็วแห่งชาติ เพื่อก่อสร้างและควบคุมงาน

ทั้งนี้ การดำเนินโครงการรถไฟความเร็วสูงที่ผ่านมาจนถึงการเดินทางเยือนจีนและญี่ปุ่น ซึ่งทั้ง 2 ประเทศแสดงความมีน้ำใจเข้ามาพัฒนาในไทย ดังนั้น กระทรวงคมนาคมจะร่วมกับทั้ง 2 ประเทศศึกษารายละเอียดโครงการ และยืนยันว่าพร้อมพัฒนาโครงการรถไฟความเร็วสูงพร้อมกันทั้ง 4 เส้นทาง ประกอบด้วยเส้นทางสายเหนือ
กรุงเทพฯ-เชียงใหม่
กรุงเทพฯ-นครราชสีมา
กรุงเทพฯ-หัวหิน และ
กรุงเทพฯ-ระยอง

ซึ่งการพัฒนาอาจจะแบ่งระยะโครงการเป็นเฟส เช่น สายเหนือ อาจพัฒนาจากกรุงเทพฯ-พิษณุโลก ก่อนจะขยายเฟสไป จ.เชียงใหม่ ต่อไป

ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคมเชื่อว่าเมื่อตั้งคณะกรรมการฯ จะทำให้รายละเอียดต่างๆ ชัดเจน และสามารถเดินหน้าได้อย่างรวดเร็ว โดยกระทรวงฯ ตั้งเป้าหมายเริ่มก่อสร้างภายใน 1-2 ปีข้างหน้า

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ถือว่าสำคัญต่อเศรษฐกิจและยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน เนื่องจากการพัฒนาแต่ละเส้นทางจะเป็นการพัฒนาเมืองที่อยู่ตามทางตลอดเส้นทาง ขณะเดียวกันเมื่อเดินทางได้ไกล ความเจริญจะเกิดขึ้น ดังนั้น การพัฒนารถไฟความเร็วสูงนี้ ทุกฝ่ายต้องร่วมกัน ซึ่งนายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญและพร้อมผลักดันให้เป็นวาระแห่งชาติในการพัฒนา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากข้อมูลสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและการจราจร (สนข.) การลงทุนรถไฟความเร็วสูง 4 เส้นทางประกอบด้วย

เส้นทางสายเหนือจากกรุงเทพฯ-พิษณุโลก ระยะทางรวม 382 กิโลเมตร วงเงินลงทุน 121,014 ล้านบาท ระยะเวลาก่อสร้าง 5 ปี
พิษณุโลก-เชียงใหม่ ระยะทาง 363 กิโลเมตร วงเงิน 108,797 ล้านบาท

สายตะวันออกเฉียงเหนือ กรุงเทพฯ-นครราชสีมา ระยะทาง 256 กิโลเมตร วงเงินก่อสร้าง 96,083 ล้านบาท
เส้นทางกรุงเทพฯ-หัวหิน ระยะทาง 225 กิโลเมตร วงเงิน 82,166 ล้านบาท

สายตะวันออก กรุงเทพฯ-ระยอง จะเชื่อมต่อรถไฟแอร์พอร์ต ลิงค์ ระยะทาง 220 กิโลเมตร วงเงินก่อสร้าง 72,265 ล้านบาท

โดยภาพรวมทั้ง 4 เส้นทางจะมีระยะทาง 1,447 กิโลเมตร งบประมาณลงทุน 481,066 ล้านบาท ระยะเวลาก่อสร้างตั้งแต่ปี 2557 และเสร็จภายในปี 2562.-

[Mongwin]

ตั้งกรรมการพัฒนารถไฟความเร็วสูง"นายกฯ"นั่งหัวโต๊ะ คุยรัฐบาลนี้ต้องได้เห็นอย่างน้อย 1 สาย
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 24 เมษายน 2555 19:51 น.

“คมนาคม”ชงตั้งคณะคณะกรรมการกำกับการพัฒนารถไฟความเร็วสูง “ยิ่งลักษณ์”นั่งประธาน ดันรถไฟความเร็วสูงเกิดภายในรัฐบาลนี้อย่างน้อย 1 เส้นทาง ยอมรับประสิทธิภาพเทคโนโลยีของญี่ปุ่นและจีน “จารุพงศ์”ชี้เป้าหมายไทยศูนย์กลางเดินทางระบบรางของอาเซียน

นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังประชุมโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูง ร่วมกับพล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก และนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า ที่ประชุมจะเสนอให้มีการคณะกรรมการกำกับการพัฒนารถไฟความเร็วสูง โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ซึ่งเป็นรูปแบบเดียวกับคณะกรรมการบริหารการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (กทภ.) เพื่อผลักดันการดำเนินโครงการ

โดยมีปลัดกระทรวงคมนาคมเป็นเลขานุการ และการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) และสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข) เป็นผู้ช่วย และภายใต้คณะกรรมการฯ จะมีคณะทำงาน 5 ด้าน ประกอบด้วย
1. คณะทำงานร่างกรอบความต้องการของประเทศเพื่อการดำเนินงานระบบรถไฟความเร็วสูง ซึ่งจะมีการตั้งวิสาหกิจรถไฟความเร็วสูงแห่งชาติ ดูแลการก่อสร้างและควบคุมงาน
2. ด้านเทคนิคและวิศวกรรม
3. ด้านการเงินและการลงทุน
4. ด้านสร้างมูลค่าเพิ่มโครงการ
5. ด้านบริหารการเดินรถ

โดยขณะนี้ประเทศจีน และญี่ปุ่น แสดงความสนใจที่จะลงทุนในเส้นทางต่างๆร่วมกับไทย โดยญี่ปุ่นอยู่ระหว่างศึกษา ส่วนจีนจะเข้ามาศึกษาภายใน 3 เดือน หลังจากที่ได้มีการลงนามในเอ็มโอยูร่วมกันไปแล้ว ทำให้รูปแบบการดำเนินการร่วมกันยังไม่มีความชัดเจน ซึ่งเบื้องต้นมีหลายรูปแบบที่คณะทำงานชุดต่างๆ ต้องดำเนินการ เช่น ลงทุนเองทั้งหมด จ้างทั้งหมด หรือร่วมทุนโดยการตั้งบริษัทร่วมทุน สัดส่วน 49-51 เป็นต้น จากนั้นก็จะต้องสำรวจออกแบบ ศึกษาและพิจารณาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม และบริหารการเดินรถ

“หลังจากนายกฯ ได้เดินทางไปเยือนจีนและญี่ปุ่นรู้สึกพอใจประสิทธิภาพรถไฟความเร็วสูงของทั้ง 2 ประเทศมาก จึงให้กระทรวงคมนาคมเดินหน้าโครงการ ซึ่งผมเห็นว่าต้องมองรถไฟความเร็วสูงในมิติของอาเซียนด้วย เพราะไทยเป็นศูนย์กลางสามารถเชื่อมในภูมิภาคได้ จากจีนผ่านลาวซึ่งขณะนี้ได้ร่วมมือกันไว้แล้ว ไปพม่า มาเลเซีย สิงคโปร์ได้ทั้งหมด ขณะที่รูปแบบการดำเนินงานคงไม่ใช่การให้สัมปทานกับเอกชน เพราะเป็นเรื่องที่ยากในการคิด รูปแบบดังกล่าวเหมาะกับโครงการทางพิเศษระหว่างเมือง(มอเตอร์เวย์)มากกว่า”นายจารุพงศ์กล่าว

พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รมช.คมนาคมกล่าวว่า รถไฟความเร็วสูงใช้เงินลงทุนสูงจึงต้องเตรียมพร้อมซึ่งที่ผ่านมาได้ดำเนินการมาบ้างแล้วตอนนี้ถึงจุดสำคัญ คณะทำงานชุดต่างๆ จะเข้ามาจัดการด้านการเงิน ด้านกฎหมายที่เกี่ยวข้องรวมถึงเลือกเทคโนโลยีที่ดีถูก และหาผลประโยชน์เพิ่มจากการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ตามสถานีรายทางเพื่อนำเงินมาพัฒนาโครงการและอุดหนุนไม่ให้ค่าโดยสารสูงเกินไป ซึ่งเชื่อว่าภายในระยะเวลา 4 ปี ของรัฐบาลชุดนี้ ประชาชนจะได้ใช้บริการรถไฟฟ้าความเร็วสูงอย่างน้อย 1 เส้นทางแน่นอน

สำหรับรถไฟฟ้าความเร็วสูงตามนโยบายรัฐบาลมี 4 เส้นทาง คือ
1.กรุงเทพ-เชียงใหม่ ระยะทาง 745 กิโลเมตร มูลค่า 229,000 แสนล้านบาท โดยระยะแรกจะดำเนินการจากกรุงเทพ-พิษณุโลกก่อน
2.กรุงเทพ-หนองคาย ระยะทาง 615 กิโลเมตร มูลค่า 201,449 ล้านบาท ระยะแรกจะดำเนินการจากกรุงเทพ-นครราชสีมา ก่อน
3.กรุงเทพ-ระยอง ระยะทาง 221 กิโลเมตร มูลค่า 72,265 ล้านบาท ซึ่งเป็นส่วนต่อขยายของรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิ้งค์ จากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยระยะแรกจะดำเนินการถึงพัทยา ระยะสองจึงจะขยายไปถึงระยอง และ
4. กรุงเทพ-ปาดังเบซาร์ ระยะทาง 982 กิโลเมตร เงินลงทุน 297,880 ล้านบาท โดยระยะแรกจะดำเนินการถึงหัวหินก่อน

[Wisarut]

“ปู” แจ้ง ครม.จับมือจีนเดินหน้าโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูง

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 24 เมษายน 2555 18:39 น.


วันนี้ (24 เม.ย.) ที่รัฐสภา นายภักดีหาญ หิมะทองคำ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า

ครม.รับทราบผลของการเจรจาตามมติ ครม.เมื่อวันที่ 4 เม.ย. 55 เรื่องรายงานปัญหาอุปสรรคของการดำเนินโครงการระบบไฟฟ้าชานเมืองหรือสายสีแดง ช่วงบางซื่อและรังสิต สัญญาเงินกู้เลขที่ TXXI-1 ซึ่งทางกระทรวงการคลังได้ลงนามในสัญญาเงินกู้กับไจก้าไปแล้ว เมื่อวันที่ 30 มี.ค. 55 สำหรับโครงการสายสีแดงในวงเงิน 23,000 ล้านบาทเศษ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างงานโยธา งานระบบไฟฟ้าและเครื่องกล ค่าตู้รถไฟฟ้าและค่าจ้างที่ปรึกษา ทั้งนี้ วันนี้มีปัญหาที่เกิดขึ้นแต่ก็ได้ข้อสรุปถึงแนวทางการย้ายแนวท่อของบริษัทขนส่งน้ำมันทางท่อจำกัดทางด้านเทคนิค โดยทั้งสองฝ่ายเห็นชอบร่วมกันจะมีการรื้อย้ายลดลงจากเดิมที่กำหนดไว้ทั้งหมด 13 จุด ลงมาเหลือเพียงแค่ 2 จุดเท่านั้น

ซึ่งบริเวณสถานีบางซื่อมีทางเลือกในการรื้อย้ายจำนวนสองทางเลือกด้วยกัน โดยทางเลือกหนึ่งระยะทาง 2.9 กิโลเมตร วงเงินดำเนินการ 217 ล้านบาท และทางเลือกที่สอง ระยะทาง 4.4 กิโลเมตร วงเงินดำเนินการ 245 ล้านบาท

บริเวณสถานีดอนเมืองจะมีวงเงินรื้อย้ายอีกจำนวน 96 ล้านบาท ทำให้วงเงินค่ารื้อย้ายทั้งหมดจะรวมอยู่ที่341 ล้านบาทถ้าเอาตามทางเลือกที่หนึ่ง ส่วนถ้าเลือกทางเลือกที่สองก็จะสามารถลดลงมา 313 ล้านบาท

สำหรับทางบริษัทขนส่งน้ำมันทางท่อจำกัดนั้น ทางบริษัทได้ยืนยันมาแล้วว่าไม่สามารถรับภาระค่าใช้จ่ายในการรื้อได้เพราะขาดสภาพคล่องทางการเมือง ดังนั้น ทาง รฟท.จะรับภาระอัตราค่าธรรมเนียมผูกพันเงินกู้มาดำเนินการโครงการน้ำและจะแจ้งให้ไจก้าได้ทราบ ส่วนภาระค่าใช้จ่ายในการรื้อย้ายของ รฟท.ก็จะดำเนินการฟ้องร้องตามขั้นตอนของกฎหมายต่อบริษัทขนส่งน้ำมันทางท่อจำกัด


นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก่อนการประชุม ครม. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนว่า ไทยกับจีนตั้งเป้าหมายสร้างความร่วมมือด้านมูลค่าให้เพิ่มขึ้นปีละ 20 เปอร์เซ็นต์ ภายใน 5 ปีข้างหน้า โดยจะมีสัดส่วนมูลค่าการลงทุนเพิ่มขึ้นปีละ 15 เปอร์เซ็นต์ ส่วนมูลค่าการท่องเที่ยวจะให้เพิ่มขึ้นปีละ 20 เปอร์เซ็นต์ และเตรียมผลักดันการค้าไทย-จีนให้ได้เป็นปีละ 1.2 แสนล้านดอลลาร์ ภายใน 5 ปีข้างหน้า ทั้งนี้ ไทย-จีนพร้อมเดินหน้าโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูง