ข่าวรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน)

[Mongwin]

นายกฯขอบคุณรัฐบาลจีนที่ให้ความร่วมมือพัฒนารถไฟความเร็วสูงของไทย
วันศุกร์ที่ 07 ธันวาคม 2012 เวลา 12:18 น.

วันนี้ (7 ธ.ค. 55) เวลา 10.00 น. นายลู ชุนฟาง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงรถไฟสาธารณรัฐประชาชนจีน เข้าเยี่ยมคารวะ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในโอกาสเดินทางเยือนไทย ในฐานะแขกของกระทรวงคมนาคม ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล สรุปสาระสำคัญการสนทนาดังนี้

นายกรัฐมนตรีแสดงความขอบคุณรมช.รถไฟจีน ที่ให้ความร่วมมือกับกระทรวงคมนาคมไทยในการประชุมคณะกรรมการบริหารร่วมระดับรัฐมนตรีดำเนินงานความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน ครั้งที่ 2 เพื่อพัฒนาเส้นทางคมนาคมและเศรษฐกิจระหว่างกัน และกล่าวถึงการเดินทางเยือนไทยอย่างเป็นทางการของนายเวิน เจีย เป่า นายกรัฐมนตรีจีน เมื่อวันที่ 20-21 พ.ย.ที่ผ่านมา สร้างความประทับใจ และช่วยกระชับความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างไทยจีนให้แน่นแฟ้นในทุกระดับ พร้อมกันนี้นายกรัฐมนตรีได้แสดงความยินดีต่อการประชุมสมัชชาพรรคคอมมิวนิสต์จีน ครั้งที่ 18 ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี

ในโอกาสนี้รมช. รถไฟจีน แสดงความขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ให้ความสำคัญต่อประเทศจีนมาโดยตลอด จีนยินดีที่จะสานต่อความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน ซึ่งได้มีการลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการพัฒนาความร่วมมือรถไฟระหว่างไทย-จีน ไปเมื่อวันที่ 17 เม.ย. 2555 ซึ่งฝ่ายจีนได้มีการศึกษาเส้นทางรถไฟไทย ได้แก่ สายกรุงเทพ-เชียงใหม่ และสายกรุงเทพ-หนองคาย ทั้งนี้ในประชุมคณะกรรมการร่วมครั้งที่ 2 เมื่อวานนี้ได้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลและหารืออย่างจริงจัง จีนยืนยันความพร้อมในการช่วยเหลือประเทศไทย ทั้งในประเด็นด้านเศรษฐกิจ และเทคโนโลยี พร้อมทั้งยินดีปฏิบัติตามข้อตกลงระหว่างนายกรัฐมนตรีไทย-จีน

นายกรัฐมนตรีชื่นชมจีนเป็นประเทศที่มีประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีรถไฟเป็นอย่างสูง และขอบคุณรัฐบาลจีนที่ให้ความร่วมมือในการศึกษา ค้นคว้า การฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ระดับสูง และให้ความรู้ แก่ประเทศไทยมาโดยตลอด ซึ่งความช่วยเหลือของจีนจะไม่สร้างประโยชน์ต่อประเทศไทยเท่านั้น แต่จะเป็นประโยชน์ต่อภูมิภาคอาเซียนด้วย ในโอกาสนี้นายกรัฐมนตรีฝากให้รมช.จีน ช่วยดูแลในเรื่องความปลอดภัย การบูรณาการรถไฟเก่าของไทยให้เกิดประโยชน์สูงสุด และการให้ความสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของชุมชนไทย รวมถึงด้านสิ่งแวดล้อม โดยนายกรัฐมนตรีหวังว่าไทย-จีนจะร่วมมือกันเพื่อให้เกิดความร่วมมืออย่างเป็นรูปธรรมโดยเร็ว

ก่อนจบการสนทนานายกรัฐมนตรีแสดงความขอบคุณรัฐบาลจีนอีกครั้งที่ให้ความร่วมมือแก่ไทยมาโดยตลอดและเชื่อมั่นว่าความสำเร็จในครั้งนี้จะนำไปสู่ความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนต่อไป

[Wisarut]

ค่านั่งไฮสปีดเทรน กม.ละ 2.5 บาท ไปเชียงใหม่ 1,700 บ. หนองคาย 1,537 บ.
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ 7 ธันวาคม 2555 เวลา 12:20:46 น.

ไทย-จีนถกไฮสปีดเทรน เผยผลศึกษา 2 แนวทาง วิ่งความเร็ว 250 กม./ชม. คิดค่าบริการคนละ 2.1 บาท/กิโลเมตร วิ่งความเร็ว 300 กม./ชม. ค่าบริการคนละ 2.5 บาท/กิโลเมตร ปรับแผนสถานีกลางบางซื่อ เพิ่มชานชาลารองรับผู้โดยสารไฮสปีดเทรน จากเดิมรองรับผู้โดยสารรถไฟชานเมืองสายสีแดง "ชัชชาติ" คาดเปิดประกวดราคาไตรมาส 3-4 ปี 2556 เลือกแบบนานาชาติให้ทุกประเทศเข้าร่วมดำเนินโครงการ

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังประชุมความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน (JSC หรือเจเอสซี) ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม ว่า ประเทศจีนได้นำผลการศึกษาโครงการรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน) รวม 2 เส้นทางมาชี้แจงให้กระทรวงคมนาคมทราบ คือ

1. รถไฟความเร็วสูงเส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ได้กำหนดรูปแบบการให้บริการไว้ 2 แนวทาง

1.1. แนวทางแรกจะวิ่งด้วยความเร็ว 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (กม./ชม.) และ
1.2. แนวทางที่ 2 ความเร็ว 300 กม./ชม. ใช้งบประมาณดำเนินโครงการ 317,185 ล้านบาท และ

2. เส้นทางที่ 2 กรุงเทพฯ-หนองคาย กำหนดวิ่งด้วยความเร็ว 250 กม./ชม. งบประมาณ 203,730 ล้านบาทท เพื่อรองรับการขนส่งสินค้าระหว่างไทยและจีน

ส่วนอัตราค่าบริการหากใช้ความเร็ว 250 กม./ชม. จะอยู่ที่ 2.1 บาท/คน/กม. ความเร็ว 300 กม./ชม. จะคิดค่าบริการ 2.5 บาท/คน/กม. ฉะนั้นหากเดินทางไปเชียงใหม่ด้วยความเร็ว300 กม./ชม.จะรวมค่าบริการ 1,700 บาท

"เส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ระยะทางจะสั้นลงจากเดิมกำหนดไว้ 753 กม. เหลือ 680 กม. เพราะได้ปรับแนวเส้นทางให้ตรงมากยิ่งขึ้นเพื่อให้ความเร็วได้ตามที่กำหนด บางจุดอาจต้องเจาะเป็นอุโมงค์ลอดภูเขา โดยเฉพาะช่วงจังหวัดอุตรดิตถ์ขึ้นไปทางเหนือมีภูเขาจำนวนมาก จึงทำให้ระยะทางสั้นลง ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมงครึ่ง ส่วนเส้นทางกรุงเทพฯ-หนองคาย มีระยะทาง 615 กม." นายชัชชาติกล่าว

สำหรับเส้นทางกรุงเทพ-หนองคาย (615กม.)กำหนดให้วิ่งด้วยความเร็ว 250 กม./ชม.งบประมาณเกือบ 2 แสนล้าน คิดค่าบริการต่อ 1 เที่ยว 1,537 บาท

นายชัชชาติกล่าวว่า เบื้องต้นจีนต้องการให้สร้างช่วงกรุงเทพฯ-ภาชี ระยะทาง 54 กม.ก่อน เพื่อทดสอบระบบการให้บริการ โดยชุมทางภาชีเป็นสถานีร่วมของรถไฟความเร็วสูงทั้ง 2 เส้นทางดังกล่าว หากทดสอบแล้วประสบความสำเร็จจะส่งผลให้การก่อสร้างในเส้นทางอื่นๆรวดเร็วมากขึ้น อย่างไรก็ตาม จะต้องมีการปรับเปลี่ยนสถานีกลางบางซื่อให้รองรับผู้โดยสารของรถไฟความเร็วสูงด้วย จากเดิมออกแบบเน้นบริการเฉพาะรถไฟชานเมืองสายสีแดงช่วงบางซื่อ-รังสิต และบางซื่อ-ตลิ่งชันเท่านั้น จึงอาจต้องเพิ่มชานชาลาให้มากขึ้น นอกจากนี้ ทางการจีนแจ้งด้วยว่ารถไฟความเร็วสูงของลาวจะเริ่มสร้างในอีก 1 ปี ใช้ความเร็ว 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เมื่อไทยก่อสร้างแล้วเสร็จจะสามารถเชื่อมต่อถึงจีนและมาเลเซียได้ในอนาคต

นายชัชชาติกล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินโครงการทุกเส้นทาง คือ

กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ระยะที่ 1 (กรุงเทพฯ-พิษณุโลก) ระยะทาง 342 กม. สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ได้ลงนามในสัญญาจ้างที่ปรึกษาเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา เส้นทางกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ระยะทาง 256 กม. และกรุงเทพฯ-หัวหิน ระยะทาง 225 กม. สนข.ลงนามจ้างที่ปรึกษาเมื่อพฤศจิกายนที่ผ่านมา คาดว่าจะเปิดประกวดราคาได้ประมาณไตรมาส 3-4 ปี 2556 โดยจะเปิดประกวดราคาแบบนานาชาติให้ทุกประเทศที่สนใจเข้าร่วมดำเนินโครงการได้

[Mongwin]

ตีฆ้องรถไฟความเร็วสูง นายกฯแห่ทั่วไทยประมูลเมื่อไหร่ไร้คำตอบ
ไทยรัฐออนไลน์ 8 ธันวาคม 2555, 05:00 น.

นายทศพร เสรีรักษ์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังนายลู ชุนฟาง รมช.กระทรวงรถไฟ สาธารณรัฐประชาชนจีนและคณะเข้าเยี่ยมคารวะและหารือกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ว่า ทางการจีนได้แสดงความสนใจในการเข้ามาลงทุนพัฒนาเส้นทางคมนาคมขนส่งเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจระหว่างจีนและไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงที่ประเทศไทยมีแผนที่จะลงทุน โดยจีนได้มอบโมเดลรถไฟความเร็วสูงให้เป็นของที่ระลึกกับนายกรัฐมนตรี รวมทั้งได้ย้ำกับนายกรัฐมนตรีของไทยว่าจีนมีความพร้อมที่จะเข้ามาเป็นผู้ก่อสร้างเส้นทางรถไฟความเร็วสูงใน 2 เส้นทางที่ได้มีการลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการพัฒนาความร่วมมือรถไฟระหว่างไทย-จีน ตั้งแต่วันที่ 17 เม.ย.ที่ผ่านมา ได้แก่ เส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ระยะทาง 677 กิโลเมตร และเส้นทางกรุงเทพฯ-หนองคาย ระยะทาง 615 กิโลเมตร

ทั้งนี้ จีนได้กล่าวกับนายกรัฐมนตรีถึงข้อดีของรถไฟความเร็วสูงของจีนว่า ต้นทุนการก่อสร้างต่ำกว่าประเทศอื่นๆ โดยใช้งบก่อสร้างเพียง 20 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ต่อกิโลเมตร
ขณะที่รถไฟความเร็วสูงของเยอรมันใช้งบลงทุน 50 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ต่อกิโลเมตร
และญี่ปุ่น 81 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ต่อกิโลเมตร

ด้าน น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้กล่าวชื่นชมจีนที่ให้ความร่วมมือในการศึกษา ค้นคว้า การฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ระดับสูงและให้ความรู้แก่ประเทศไทยมาโดยตลอด ซึ่งความช่วยเหลือนี้เป็นประโยชน์ต่อประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน จึงหวังว่าไทย-จีนจะสามารถร่วมมือกันในการพัฒนาระบบคมนาคมร่วมกัน และได้ฝากให้ รมช.จีนช่วยดูแลในเรื่องความปลอดภัย การบูรณาการรถไฟเก่าของไทยให้เกิดประโยชน์สูงสุด และการให้ความสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของชุมชนไทย.

[Mongwin]

Thailand Plans to Run Chinese High-speed Railway System: Minister
2012-12-08 01:01:55 Xinhua

Thailand has planned to run Chinese- made high-speed railway systems designed to have time-saving, inexpensive trains for long-distance commuters shuttling between Bangkok and the northern city of Chiang Mai and between the capital and the northeastern province of Nong Khai, a senior official said here on Friday.

Thai Transport Minister Chatchat Sitthipan disclosed that the Thai government has decided to go ahead with the multi-billion-U.S. dollar railway projects under which the so-called Hexie Hao or China Railway Highspeed train system will be used.

Construction of the initial stage of the railway project for the Bangkok-Chiang Mai route is scheduled to begin by the middle or second half of next year. The railway project for both routes will be completed until 2015, he said.

Feasibility studies for the train projects have been conducted by Chinese, the transport minister said, adding that China has offered to transfer the railway technology to Thai engineers and other railway personnel.

China's Deputy Railway Minister Lu Chunfang has met with Thai Prime Minister Yingluck Shinawatra at the Thai Government House to discuss the Sino-Thai railway cooperation project for the Bangkok- Chiang Mai route, estimated to cost 10 billion U.S. dollars, and that for the Bangkok-Nong Khai route, estimated to cost 6.6 billion U.S. dollars.

Chatchat said commuters will spend only three and a half hours shuttling between Bangkok and Chiang Mai aboard the high-speed train, compared to a dozen hours currently consumed by a "rapid" train of the State Railway of Thailand.

"The high-speed train between Bangkok and Chiang Mai will run 250 to 300 kilometers per hour through terrains and tunnels in the mountains, particularly those in Uttaradit province, to save the traveling time for daily commuters. Given the short-cut way, that route will be shortened from 753 km to 680 km," said the transport minister.

"The 615-km Bangkok-Nong Khai route will consume no more than three hours on a similar high-speed train," he said.

According to Chatchat, the train fare will be 2.1 baht (7 U.S. cents) per km on a 250-km-per-hour train ride and 2.5 baht (8.3 U. S. cents) per km on a 300-km-per-hour train ride.

A start-up stretch of the Bangkok- Chiang Mai route has been designed to cover a 342-km distance between Bangkok and Pitsanuloak province, lying roughly halfway between the capital and the northern city.

Bang Sue train station in the capital will be upgraded to become a hub for the high-speed train systems.

Importantly, the Chiang Mai railway might be connected with China's southwest city of Kunming and the Nong Khai railway might be linked with a railway system in Vientiane, the Lao capital, the minister said.

The Thai railway system would also be connected with those in Myanmar and Malaysia, he said.

[Mongwin]

สื่อภาษาอังกฤษของทางการพม่า The New Light of Myanmar ฉบับประจำวันอาทิตย์ที่ 9 ธ.ค. 55 นำข่าวจากสำนักข่าวซินหัว ลงพิมพ์ด้วยครับ



----

จีนมองข้ามช็อตไฮสปีดเทรนอาเซียน
ฐานเศรษฐกิจ วันอาทิตย์ที่ 09 ธันวาคม 2012 เวลา 10:30 น.

การเดินทางมาเยือนไทยอย่างเป็นทางการของ นายลู ชุนฟาง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงรถไฟจีนในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนฝ่ายจีน เพื่อประชุมคณะกรรมการบริหารร่วมในระดับรัฐมนตรี ด้านความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน หรือ เจเอสซี (Joint Steering Committee: JSC) ครั้งที่ 2 กับนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2555 ซึ่งผู้สื่อข่าวฐานเศรษฐกิจได้มีโอกาสเข้าสังเกตการณ์ในการประชุมครั้งนี้ได้รายงานว่า

หลังจีนได้ส่งมอบผลการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการรถไฟความเร็วสูง 2 เส้นทางคือ กรุงเทพฯ–เชียงใหม่และกรุงเทพฯ-หนองคายให้กับฝ่ายไทยเมื่อวันที่19 ตุลาคม ที่ผ่านมา

การประชุมเจเอสซีครั้งที่สองนี้ จึงเป็นการตอกย้ำให้ความมั่นใจกับฝ่ายไทยว่า จีนมีความพร้อมที่จะให้ความร่วมมือและให้ความสำคัญกับการเชื่อมโยงเครือข่ายการคมนาคมในเอเชียด้วยระบบรถไฟฟ้าความเร็วสูง โดยย้ำถึงสมรรถนะของระบบรถไฟความเร็วสูงของจีน ที่มีลักษณะเฉพาะตัว 3 ประการคือ

1. เทคนิคการพัฒนารถไฟความเร็วสูงของจีนอยู่ในแนวหน้าของมาตรฐานระดับสากล
แม้ว่าเมื่อเทียบกับประเทศยุโรปและญี่ปุ่น แม้จะเริ่มต้นช้าแต่ก็พัฒนาอย่างต่อเนื่อง จนปัจจุบันก้าวนำหน้าหลายประเทศไม่ว่าจะเป็นด้านความปลอดภัย การเดินรถ การบริหารจัดการ ซ่อมบำรุง

2. การก่อสร้างระบบรถไฟความเร็วสูงของจีนใช้เงินลงทุนราว 100 ล้านหยวนหรือมากกว่านั้นเล็กน้อยต่อระยะทาง 1 กิโลเมตร ซึ่งถือว่าลงทุนต่ำเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ

3. จีนสามารถสร้างระบบรถไฟความเร็วสูงได้โดยใช้เวลารวดเร็ว โดยปกติการใช้เวลาสร้าง 1 เส้นใช้เวลา 10 ปี แต่จีนสร้างเสร็จในเวลา 6-7 ปี ถือว่าสร้างได้เร็วที่สุดในโลก

อีกทั้งจีนยังมีประสบการณ์ทั้งด้านเทคนิคและการบริหารจัดการซึ่งต้องการจะร่วมแบ่งปันกับฝ่ายไทย และอยากให้เจเอสซีเป็นกลไกที่จะพัฒนาความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างจีนกับไทย รมช.กระทรวงรถไฟจีนระบุ

แต่สิ่งสำคัญเหนืออื่นใด นอกจากความร่วมมือกับไทยแล้ว จีนต้องการเชื่อมโยงรถไฟความเร็วสูงระหว่าง 3 ประเทศ คือจีน-ลาวและไทย ซึ่งในการหารือครั้งนี้ เขายังได้ชี้แจงถึงความคืบหน้าของโครงการรถไฟความเร็วสูงที่จีนร่วมมือกับลาวว่า

"จะเชื่อมโยงมณฑลยูนนานของจีนสู่ลาว ซึ่งคืบหน้ามาระดับหนึ่งแล้ว เส้นทางนี้จะวิ่งจากคุนหมิง เมืองหลวงของมณฑลยูนนานผ่านเมืองยู่ซี (Yuxi) วิ่งเข้าชายแดนของลาวและมาถึงเวียงจันทน์ เมืองหลวงของลาว"

โดยช่วงจากเมืองคุนหมิงถึงยู่ซีขณะนี้ใกล้เสร็จแล้ว ส่วนช่วงเมืองยู่ซีถึงเมืองบ่อหาน (Mo Han) เมืองชายแดนใต้สุดของมณฑลยูนนานเขตติดต่อกับลาวนั้น การศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการเสร็จเรียบร้อยแล้ว คาดจะก่อสร้างเสร็จใน 1-2 ปี ส่วนช่วงจากชายแดนเมืองบ่อหานเข้าพื้นที่ประเทศลาวถึงเวียงจันทน์ราว 417 กิโลเมตรนั้น การวางแผนต่าง ๆ เสร็จแล้ว กำลังอยู่ในขั้นของการหารือเรื่องการระดมทุน

เขายังระบุอีกว่า "จีนจึงต้องการให้การพัฒนารถไฟความเร็วสูงเส้นทางคุนหมิง-เวียงจันทน์ มีการดำเนินงานคู่ขนานไปกับโครงการในไทย โดยเฉพาะเส้นทางกรุงเทพฯ-หนองคายที่จะเชื่อมโยงกันสองเส้นทางนี้ถ้าสร้างไปควบคู่กันแล้วก็จะเกิดประโยชน์อย่างมากต่อการพัฒนาภูมิภาคในภาพรวม"

ต่อคำถามที่ว่า จีนต้องการให้รถไฟความเร็วสูงเชื่อมโยงสามประเทศที่กำลังจะเกิดขึ้นนั้นเป็นขบวนรถสินค้าหรือรถผู้โดยสารเป็นหลัก รมช.กระทรวงรถไฟจีนตอบว่า ในส่วนของเส้นทางคุนหมิง-เวียงจันทน์นั้น ในเบื้องต้นจะขนส่งสินค้าเป็นหลัก แต่เชื่อว่าเมื่อพื้นที่ในเส้นทางมีการพัฒนาเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวมากขึ้นเป็นลำดับ สัดส่วนการขนส่งผู้โดยสารก็จะเพิ่มมากขึ้นด้วย

สำหรับเส้นทางในพื้นที่ประเทศไทยนั้น เส้นกรุงเทพฯ-หนองคาย จีนมองล่วงหน้าว่า น่าจะเป็นการขนส่งสินค้าควบคู่กับผู้โดยสาร ซึ่งไม่มีปัญหาเพราะอัตราความเร็วสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสม เช่นหลายพื้นที่ในจีนวิ่งที่ความเร็ว 220 กม./ชั่วโมงเพื่อขนส่งผู้โดยสาร ส่วนขบวนขนส่งสินค้าก็ลดลงที่ 160 กม./ชั่วโมง ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องศึกษาข้อมูลให้ชัดเจนเพราะถ้าเป็นขบวนสินค้าต้องการพื้นที่สถานีกว้างขึ้นเพื่อขึ้น-ลง สินค้า

ประเด็นนี้นายก่วน มู่ เอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่าในแง่การพัฒนาเศรษฐกิจ จีนมองว่าการใช้เส้นทางรถไฟความเร็วสูงเพื่อการขนส่งสินค้าจะก่อให้เกิดการพัฒนาการค้าในภูมิภาคเป็นอย่างมาก เพราะขนได้ทั้งคนและสินค้าจากคุนหมิง-กรุงเทพฯในเวลาไม่ถึง 10 ชั่วโมง และจากคุนหมิงยังสามารถกระจายสินค้าอย่างรวดเร็วไปยังอีกหลายมณฑลของจีน อนาคตยังเชื่อมจากไทยลงสู่มาเลเซียและสิงคโปร์ จะก่อให้เกิดระบบโลจิสติกส์ที่ประหยัดเวลาและต้นทุนได้มากสำหรับภูมิภาคอาเซียนเลยทีเดียว

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 32 ฉบับที่ 2,799 วันที่ 9-12 ธันวาคม พ.ศ. 2555

[Mongwin]

ราคาเฉลี่ยค่าโดยสารไฮสปีดเทรนของ 5 ประเทศในเอเชีย
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ 11 ธ.ค. 2555 เวลา 09:16:30 น.

จีนได้ส่งผลการศึกษารถไฟความเร็วสูง(ไฮสปีดเทรน) 2 เส้นทาง ซึ่งประกอบด้วยรถไฟความเร็วสูงเส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ได้กำหนดรูปแบบการให้บริการไว้ 2 แนวทาง แนวทางแรกจะวิ่งด้วยความเร็ว 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (กม./ชม.) และแนวทางที่ 2 ความเร็ว 300 กม./ชม. และเส้นทางที่ 2 กรุงเทพฯ-หนองคาย กำหนดวิ่งด้วยความเร็ว 250 กม./ชม. ส่วนอัตราค่าบริการหากใช้ความเร็ว 250 กม./ชม. จะอยู่ที่ 2.1 บาท/คน/กม. ความเร็ว 300 กม./ชม. จะคิดค่าบริการ 2.5 บาท/คน/กม. ฉะนั้นหากเดินทางไปเชียงใหม่ด้วยความเร็ว 300 กม./ชม. จะรวมค่าบริการ 1,700 บาท สำหรับเส้นทางกรุงเทพ-หนองคาย (615กม.)กำหนดให้วิ่งด้วยความเร็ว 250 กม./ชม. คิดค่าบริการต่อ 1 เที่ยว 1,537 บาท



ด้านศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ บมจ.ธนาคารไทยพาณิชย์ หรือ SCB EIC นำเสนอบทวิเคราะห์เรื่อง "รถไฟความเร็วสูง ใครได้ ใครเสีย?" ซึ่งได้เปรียบเทียบราคา ค่าโดยสารเฉลี่ยต่อกิโลเมตรของประเทศในเอเชียที่ให้บริการรถไฟฟ้าความเร็วสูง โดยมีทั้งหมด 5 ประเทศ ได้แก่ จีน ไต้หวัน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ไทย เมื่อเปรียบเทียบกันแล้วประเทศไทยมีอัตราค่าบริการเฉลี่ยต่อกิโลเมตรอยู่ที่ 2.5 บาท/กิโลเมตร ซึ่งถูกเป็นอันดับ 2 รองจากจีน ประเทศจีนมีอัตราค่าบริการเฉลี่ยต่อกิโลเมตรอยู่ที่ 2.2 บาท/กิโลเมตร , เกาหลีใต้มีอัตราค่าบริการเฉลี่ยต่อกิโลเมตรอยู่ที่ 3.4 บาท/กิโลเมตร, ไต้หวันมีอัตราค่าบริการเฉลี่ยต่อกิโลเมตรอยู่ที่ 5 บาท/กิโลเมตร และประเทศที่มีอัตราค่าบริการเฉลี่ยแพงที่สุดคือประเทศญี่ปุ่น โดยมีอัตราค่าบริการเฉลี่ยต่อกิโลเมตรอยู่ที่ 9.5 บาท/กิโลเมตร

ทั้งนี้หากเปรียบเทียบกับค่าบริการในการเดินทางด้วยเครื่องบินในสายการบินราคาประหยัดจะสังเกตเห็นว่ามีอัตราใกล้เคียงกันแต่จะช่วยลดเวลาในการเดินทางไปรอยังสนามบินก่อน1ชั่วโมง ทั้งยังลดเวลาการเดินจากสนามบินเข้าตัวเมืองได้อีก ทำให้รวมแล้วประหยัดเวลากว่า 1 ชั่วโมงเมื่อเทียบกับเดินทางโดยเครื่องบิน

[nutsiwat]

[Mongwin]

มาเลเซียกำลังก่อสร้างรถไฟทางคู่ขนาดราง 1 เมตร ติดระบบไฟฟ้ามาถึงปาดังเบซาร์แล้วครับ
ถ้าเราจะเดินรถสินค้าเชื่อมต่อกับมาเลเซีย ก็ต้องก่อสร้างรางให้เป็นระบบเดียวกัน

ส่วนรถไฟความเร็วสูงที่จะไปเชื่อมต่อกับลาวและจีน ก็ต้องสร้างให้มีขนาดราง 1.435 เมตรตามที่นิยมใช้กันอยู่นั่นแหละครับ

[kikoo]

[Mongwin]

ระดมความเห็นรถไฟความเร็วสูงผ่านอยุธยา
เดลินิวส์ วันจันทร์ที่ 17 ธันวาคม 2555 เวลา 12:08 น.

ชาวบ้านเมืองกรุงเก่าระดมความคิดเห็นหลังมีข่าวรถไฟฟ้าความเร็วสูงที่จะมีการก่อสร้างผ่านกลางชุมชนฯ

เมื่อเวลา 09.30 น.วันนี้ (17 ธ.ค.) นายมาโนช เกิดเกตุ ประธานสหกรณ์บ้านมั่นคงชุมชนโพธาราม เรียกประชุมสมาชิกบ้านมั่นคง ณ ศาลาอเนกประสงค์ ภายในชุมชนโพธาราม อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อให้ความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับการเตรียมเวนคืนที่ดินเพื่อใช้ในการก่อสร้างรถไฟฟ้าความเร็วสูง ที่จะส่งผลกระทบกับคนในชุมชนโพธารามโดยตรง ซึ่งแนวเส้นทางรถไฟฟ้าความเร็วสูงจะผ่านกลางชุมชน โดยวัดจากทางรถไฟรางกลาง เข้ามายังชุมชนเป็นระยะทาง 40 เมตร โดยคณะรัฐมนตรีมีมติให้ก่อสร้าง เมื่อวันที่ 6 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยจะก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงช่วงกรุงเทพฯ-ภาชี ระยะทางประมาณ 54 กิโลเมตรก่อนเพื่อทดสอบระบบการให้บริการ

ซึ่งการบรรยายในครั้งนี้ มีวิทยากร จากสมาพันธ์เครือข่ายช่วยเหลือคนจน มาให้ความรู้เพื่อให้ประชาชนรับทราบสิทธิของตนเองที่ควรจะได้รับจากทางภาครัฐหลังจากการเวนคืนที่ดิน โดยไม่ต้องการให้เกิดเหตุการณ์เหมือนชุมชนพระราม6 ที่มีการใช้กำลังในการไล่ขอคืนพื้นที่จากประชาชน ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก ซึ่งนายมาโนช กล่าวว่า การเรียกประชุมในครั้งนี้ ไม่ได้เป็นการปลุกระดมให้ชาวบ้านต่อต้านการก่อสร้าง แต่เป็นการเรียกประชุมเพื่อให้ความรู้และให้แนวทางการปฏิบัติตัวกับชาวบ้าน โดยจะมีการประชุมให้ความรู้อีกเรื่อย ๆ เพื่อให้ชาวบ้านมีการเตรียมความพร้อมมากขึ้น โดยที่ประชุมยังมีการแสดงความคิดที่หลากหลายทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ซึ่งจะได้มีการทำประชาพิจารณ์อย่างเป็นทางการต่อไป..