RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai.Com

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311296
ทั่วไป:13272928
ทั้งหมด:13584224
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าวรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน)
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าวรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน)
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 375, 376, 377 ... 547, 548, 549  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42749
Location: NECTEC

PostPosted: 21/07/2020 10:33 am    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
Market sounding โครงการรถไฟความเร็วสูงสายตะวันออกส่วนต่อขยาย ระยอง-จันทบุรี-ตราด วันที่ 24 กรกฎาคม 63 ที่ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทรัลเวิลด์
โครงสร้างพื้นฐาน ประเทศไทย Thailand Infrastructure
20 กรกฎาคม 2563


- สถานีระยอง

ตั้งอยู่บนถนนสาย 3574 ใกล้กับวัดน้ำคอกเก่า บ้านค่าย ตรงข้ามหมู่บ้านศุภาลัย ซึ่งจะห่างจากกลางเมืองระยอง (ถนนสุขุมวิท) 5 กิโลเมตร และห่างจากแยกเกาะลอย ถนนสาย 36 ซึ่งเป็นตำแหน่งสถานีระยองตามการศึกษาครั้งแรก 3 กิโลเมตร

ตำแหน่งนี้จะเป็นตำแหน่งเดียวกับ โครงการรถไฟทางคู่ ระยอง-จันทบุรี-ตราด เช่นกัน สถานีรูปสับปะรด
https://www.facebook.com/Thailand.Infra/photos/a.491837001254784/890184614753352/?type=3&theater
https://www.facebook.com/Thailand.Infra/photos/a.491837001254784/890184704753343/?type=3&theater
https://www.facebook.com/Thailand.Infra/photos/a.491837001254784/890184791420001/?type=3&theater
https://www.facebook.com/Thailand.Infra/photos/a.491837001254784/890184754753338/?type=3&theater
https://www.facebook.com/Thailand.Infra/photos/a.491837001254784/890184818086665/?type=3&theater

- สถานีแกลง

ตั้งอยู่บนถนนสาย 344 ห่างจากถนนสุขุมวิท 2 กิโลเมตร ซึ่งค่อนข้างอยู่กลางเมือง ระหว่างสยามพาราอินเตอร์วูด กะ ที่ว่าการอำเภอแกลง สถานีรูปมังคุด
https://www.facebook.com/Thailand.Infra/photos/a.491837001254784/890184934753320/?type=3&theater
https://www.facebook.com/Thailand.Infra/photos/a.491837001254784/890184958086651/?type=3&theater
https://www.facebook.com/Thailand.Infra/photos/a.491837001254784/890184871419993/?type=3&theater
https://www.facebook.com/Thailand.Infra/photos/a.491837001254784/890184991419981/?type=3&theater

สถานีจันทบุรี

ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิท ใกล้กับแยกไร่ยา ซึ่งห่างจากกลางเมืองจันทบุรี ประมาณ 3 กิโลเมตร แต่เป็นทางผ่านหลักของเมืองจันทบุรี ซึ่งค่อนข้างจะเชื่อมต่อสะดวก แถมใกล้ราชภัฏรำไพพรรณี ดูจากแนวเส้นทางของรถไฟทางคู่ ตรงตำแหน่งสถานีจันทบุรี คือสถานีเขาไร่ยา ของรถไฟทางคู่ ดังนั้น รถไฟทางคู่ควรย้ายสถานีจันทบุรีมาอยู่ตรงตำแหน่งสถานีเขาไร่ยา ส่วนสถานีจันทบุรีเดิมในแผนที่ เปลี่ยนเป็นสถานีพลับพลา เอาไว้ทำ CY ก็ได้ สถานีทุเรียน
https://www.facebook.com/Thailand.Infra/photos/a.491837001254784/890185024753311/?type=3&theater
https://www.facebook.com/Thailand.Infra/photos/a.491837001254784/890185071419973/?type=3&theater
https://www.facebook.com/Thailand.Infra/photos/a.491837001254784/890185124753301/?type=3&theater
https://www.facebook.com/Thailand.Infra/photos/a.491837001254784/890185148086632/?type=3&theater

- สถานีตราด

ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิท ใกล้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จังหวัดตราด ซึ่งห่างจากเมืองตราดไป 2 กิโลเมตร ตำแหน่งดีกว่าสถานีตราดที่ตำบลเนินทรายที่ไกลจากตัวเมืองตั้ง 10 กิโลเมตร เสียอีก สถานีรูประกำ
https://www.facebook.com/Thailand.Infra/photos/a.491837001254784/890185191419961/?type=3&theater
https://www.facebook.com/Thailand.Infra/photos/a.491837001254784/890185241419956/?type=3&theater
https://www.facebook.com/Thailand.Infra/photos/a.491837001254784/890185291419951/?type=3&theater
https://www.facebook.com/Thailand.Infra/photos/a.491837001254784/890185334753280/?type=3&theater

- การออกแบบเส้นทางรถไฟความเร็วสูง

ถ้าใช้เขตทางร่วมกันรถไฟทางคู่สาย ระยอง-จันทบุรี-ตราด จะเวนคืนพื้นที่เพิ่มเติม ซึ่งจะใช้เขตทางรวม 75 เมตร

ถ้าเป็นทางใหม่ จะใช้เขตทางก่อสร้าง 60 เมตร
https://www.facebook.com/Thailand.Infra/photos/a.491837001254784/890185361419944/?type=3&theater
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42749
Location: NECTEC

PostPosted: 21/07/2020 3:20 pm    Post subject: Reply with quote

ปิดจ๊อบเคลียร์ผู้บุกรุก ปักหมุดส่งมอบพื้นที่ไฮสปีดเชื่อม 3 สนามบิน

*เฟสแรกช่วงสุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา ครบ 100% ภายใน ก.พ.64

*ลุยปรับโฉมสถานีแอร์พอร์ตลิงก์ เดินรถต่อ ต.ค.ปีหน้า

https://www.facebook.com/TransportDailynews/posts/2658061491082019
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44637
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 21/07/2020 6:00 pm    Post subject: Reply with quote

“คมนาคม” เร่งส่งมอบพื้นที่ให้ “กลุ่มซีพี” สร้างไฮสปีดเชื่อม 3 สนามบินในก.พ.64
ข่าวหุ้น วันที่ 21/07/2020

นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานประชุมคณะทำงานเร่งรัดการส่งมอบพื้นที่และรื้อย้ายสาธารณูปโภค โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน ” ดอนเมือง – สุวรรณภูมิ – อู่ตะเภา” ระยะทาง 220 กม. วงเงิน 224,544 ล้านบาท ครั้งที่ 5/2563 (ครั้งที่ 7) วันนี้ว่า ที่ประชุมมีการรับทราบความคืบหน้า ดำเนินงานของคณะทำงานฯ ซึ่งได้ดำเนินงานขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 งบกลาง รายการสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ที่หน่วยงานจะต้องนำมารื้อย้ายสาธารณูปโภค ซึ่งผ่านการพิจารณาเห็นชอบของคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) อยู่ระหว่างการของบประมาณ โดยอยู่ระหว่างการเสนอโครงการที่วงเงินเกิน 100 ล้านบาทให้นายกรัฐมนตรีเห็นชอบ

ทั้งนี้ในเรื่องของที่ดินรถไฟ มีส่วนของเวนคืน อยู่ระหว่างสำรวจรายละเอียดที่ดินสิ่งปลูกสร้าง และพูดคุยกับประชาชน รวมถึงตั้งคณะกรรมการกำหนดราคาเบื้องต้นและค่าทดแทนแล้ว ตามแผนจะใช้วิธีการเจรจา คาดว่าเดือนพ.ย.นี้จะมีการทำสัญญาซื้อขายที่ดิน และจ่ายค่าทดแทนและรับมอบที่ดินจากเจ้าของที่ดินก.พ. 64 และส่งมอบที่ดินให้ กลุ่มซีพีได้ทันที

โดยที่ดินที่มีผู้บุกรุก แบ่งเป็น 2 ช่วง ดอนเมือง -สุวรรณภูมิรวม 267 หลังคาเรือน สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา 302 หลังคาเรือน ทางรฟท.ได้ดำเนินการ ฟ้องร้องดำเนินการคดี ตามกฎหมาย ส่วนที่ดินที่ต้อง ยกเลิกสัญญาเช่า มีทั้งหมด 213 สัญญา แบ่งเป็นช่วงดอนเมือง-พญาไท จำนวน 100 สัญญา ตามแผนจะแล้วเสร็จในเดือนธ.ค. 63 ส่วนช่วงลาดกระบัง-อูตะเภา จำนวน113 สัญญา แล้วเสร็จในเดือนต.ค. 63

ส่วนการขออนุญาตเข้าพื้นที่ต่อหน่วยงานเจ้าของพื้นที่เพื่อรื้อย้ายสาธารณูปโภคในกรณีเร่งด่วน ซึ่งผู้ว่าการ รฟท. ได้มอบอำนาจให้คณะทำงานเฉพาะกิจของรฟท. พิจารณาการอนุญาตและการอนุมัติให้ใช้พื้นที่ที่เกี่ยวข้องสาธารณูปโภคในโครงการฯ นี้ เป็นการเฉพาะเพื่อความรวดเร็วในการทำงานแล้ว ในส่วนของกรมทางหลวง(ทล.) และกรมทางหลวงชนบท (ทช.) ซึ่งมีหลายหน่วยงานต้องเข้าพื้นที่เพื่อรื้อย้ายสาธารณูปโภค ได้เน้นย้ำให้กรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบท ให้ข้อแนะนำในเรื่องของเอกสารประกอบการขออนุญาตเข้าพื้นที่ และให้อำนวยความสะดวกการเข้าพื้นที่

ขณะที่กรณีขอขยายเขตทางเพิ่มเติม ซึ่งต้องเวนคืนที่ดินเพิ่ม 6 จุด ขณะนี้อยู่ระหว่างการสำรวจความคิดเห็นของผู้ได้รับผลกระทบจำนวน 48 ราย รวมจำนวนที่ดิน 63 แปลง จะสำรวจแล้วเสร็จและสรุปข้อมูลภายในส.ค.63 ทั้งนี้จะต้องพิจารณารายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมด้วย

โดยที่ดินเวนคืน 6 จุด ได้แก่ บริเวณสถานีลาดกระบัง บริเวณทางออกท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริเวณประตูน้ำของกรมชลประทาน บริเวณสะพานข้ามแม่น้ำบางปะกง บริเวณอุโมงค์เขาชีจัน และบริเวณทางเข้าสนามบินอู่ตะเภา คาดว่าจะสามารถส่งมอบพื้นที่ได้ตามแผนภายในเดือนก.ย.64

สำหรับการดำเนินงานของส่วนรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์นั้น บริษัท รถไฟความเร็วสูงสายตะวันออกเชื่อมสามสนามบิน จำกัด (กลุ่มกิจการร่วมค้าบริษัทเจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง จำกัด และพันธมิตร) ได้รายงานว่า ได้จัดทำแผนการปรับปรุงต่างๆ รวม 5 เรื่อง โดยจะใช้เวลา 16 เดือน ตั้งแต่ มิ.ย.63 แล้วเสร็จ ในเดือนก.ย.64 และรับมอบและเริ่มบริหารจัดการเดินรถได้ในเดือนต.ค. 64 โดยการให้บริการจะต้องไม่มีรอยต่อ

โดยที่ผ่านมาผู้เชี่ยวชาญของบริษัทฯได้เริ่มตรวจสอบทางเทคนิคของระบบรถไฟฟ้าและจะแล้วเสร็จภายในเดือนก.ค. 63 และทำแผนในการปรับปรุงงานบริการ อาคารสถานี ปรับระบบเพื่อรองรับการเดินรถ เบื้องต้นทาง ซีพี ได้นำเสนอแผนงานในการปรับปรุงสถานี บริการต่างๆ ให้ดีขึ้น รวมถึงการปรับปรุงคืนสภาพทรัพย์สิน อาคารสถานีให้ดีเพื่อใช้ประโยชน์ในระยะยาว
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42749
Location: NECTEC

PostPosted: 21/07/2020 7:12 pm    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
“คมนาคม” เร่งส่งมอบพื้นที่ให้ “กลุ่มซีพี” สร้างไฮสปีดเชื่อม 3 สนามบินในก.พ.64
ข่าวหุ้น วันที่ 21/07/2020


“ซีพี”กางแผนยกเครื่อง ”แอร์พอร์ตลิงก์”16 ด.พร้อมรับโอนก่อน ต.ค.64
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: 21 กรกฎาคม 2563 เวลา 18:48



กลุ่มซีพีฯ”วางแผน 16 เดือน ตรวจเซ็คระบบ”แอร์พอร์ตลิงก์” ลุยปรับปรุงสถานี ติดแอร์ ยกเครื่องบริการ รับโอนต.ค.64 สวมสิทธิ์บริหารเดินรถตามสัญญา ไฮสปีด 3 สนามบิน

นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานประชุมคณะทำงานเร่งรัดการส่งมอบพื้นที่และรื้อย้ายสาธารณูปโภค โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน ” ดอนเมือง - สุวรรณภูมิ – อู่ตะเภา” ระยะทาง 220 กม. วงเงิน 224,544 ล้านบาท ครั้งที่ 5/2563 (ครั้งที่ 7) วันที่ 21 ก.ค. ว่า ได้ติดตามการดำเนินงานในส่วนรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์ ซึ่ง บริษัท รถไฟความเร็วสูงสายตะวันออกเชื่อมสามสนามบิน จำกัด (กลุ่มกิจการร่วมค้าบริษัทเจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง จำกัด และพันธมิตร) รายงานว่า ได้จัดทำแผนก่อนการรับโอน ซึ่งจะมีการปรับปรุงต่างๆ รวม 5เรื่อง โดยจะใช้เวลาดำเนินการ 16 เดือน โดยจะแล้วเสร็จ ภายในเดือนก.ย. 2564 และรับโอนและเริ่มบริหารจัดการเดินรถได้ในเดือนต.ค. 2564 โดยการให้บริการจะต้องไม่มีรอยต่อโดย 5 แผนงานที่กลุ่มซีพี ดำเนินการได้แก่

1. ตรวจสอบสถานะทางเทคนิค ตั้งแต่ก.พ.2563 โดยที่ผ่านมาผู้เชี่ยวชาญของบริษัทฯได้เริ่มตรวจสอบทางเทคนิคของระบบรถไฟฟ้าและจะแล้วเสร็จภายในเดือนก.ค. 2563

2. เตรียมความพร้อมในการเดินรถซึ่งได้เริ่มตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2563
3. แผนความพร้อมเดินรถในเดือน ต.ค. 2564
4. ปรับปรุงเรื่องบริการ ปรับปรุงตกแต่งสถานี ซึ่งจะมีการติดเครื่องปรับอากาศ เพิ่มไฟฟ้าแสงสว่าง ปรับปรุงที่จอดรถ, ปรับปรุงคืนสภาพทรัพย์สิน อาคารสถานีให้ดีเพื่อใช้ประโยชน์ในระยะยาวเสร็จในเดือนก.ย. 2564 และ
5. เดือนรถในเดือนต.ค. 64

ทั้งนี้ ซีพี ได้ทำดิลิเจนซ์ (due diligence) การปรับปรุงต่างๆ คาดว่าจะใช้เงินพอสมควรแต่หลักๆ จะเป็นการซื้อรถเพิ่มแต่เบื้องต้นยังไม่เห็นแผนซื้อรถ และจะต้องชำระเงินค่าแอร์พอร์ตเรลลิงก์ จำนวน 10,671,090,000 บาทให้ครบภายใน 2 ปีนังจากลงนามสัญญาเมื่อ 24 ต.ค. 2562 หรือก่อนซีพี เริ่มเดินรถ อย่างไรก็ตาม การให้บริการของซีพี จะต้องดีกว่าปัจจุบัน โดยให้ทางแอร์พอร์ตลิงก์ส่งข้อมูล ข้อร้องเรียนบริการต่างๆ ให้เพื่อซีพี นำไปปรับปรุงพัฒนาแก้ไข
นอกจากนี้ ทางซีพีฯ รายงานถึงปัญหาอุปสรรค ในเรื่องที่ผู้เชี่ยวชาญ จากอิตาลี ไม่สามารถดินทางมาได้ เนื่องจากติดปัญหาโรค โควิด-19 ทำให้ต้องติดต่อทางอีเมล์อยู่ ซึ่งได้แนะนำให้ไปประสานกับศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) หากเข้ากรณีที่เป็นบุคคล 11 กลุ่มที่ได้รับการอนุญาตให้ดำเนินการตามกระบวนการที่กำหนดเงื่อนไขการเดินทาวงเข้าประเทศ และต้องเข้าพักในสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้เป็นเวลา 14 วัน ทั้งนี้เพื่อ ให้เดินหน้าโครงการได้ตามแผนงาน

@ส่งมอบพื้นที่ก่อสร้างครบในก.พ. 64
และที่ประชุมมีการรับทราบความคืบหน้า ดำเนินงานของคณะทำงานฯ ซึ่งได้ดำเนินงานขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 งบกลาง รายการสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ที่หน่วยงานจะต้องนำมารื้อย้ายสาธารณูปโภค ซึ่งผ่านการพิจารณาเห็นชอบของ คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) อยู่ระหว่างการของบประมาณ โดยอยู่ระหว่างการเสนอโครงการที่วงเงินเกิน 100 ล้านบาทให้นายกฯ เห็นชอบ

ทั้งนี้ในเรื่องของที่ดินรถไฟ มีส่วนของเวนคืน อยู่ระหว่าง สำรวจรายละเอียดที่ดินสิ่งปลูกสร้าง และพูดคุยกับประชาชน รวมถึงตั้งคณะกรรมการกำหนดราคาเบื้องต้นและค่าทดแทนแล้ว ตามแผนจะใช้วิธีการเจรจา คาดว่าเดือนพ.ย.นี้จะมีการทำสัญญาซื้อขายท่าดิน และจ่ายค่าทดแทนและรับมอบที่ดินจากเจ้าของที่ดินก.พ. 2564 และส่งมอบที่ดินให้ กลุ่มซีพีได้ทันที

โดยที่ดินที่มีผู้บุกรุก แบ่งเป็น 2 ช่วง ดอนเมือง –สุวรรณภูมิรวม 267 หลังคาเรือน สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา 302 หลังคาเรือน ทางรฟท.ได้ดำเนินการ ฟ้องร้องดำเนินการคดี ตามกฎหมาย ส่วนที่ดินที่ต้อง ยกเลิกสัญญาเช่า มีทั้งหมด 213 สัญญา แบ่งเป็นช่วงดอนเมือง-พญาไท จำนวน 100 สัญญา ตามแผนจะแล้วเสร็จในเดือนธ.ค. 2563 ส่วนช่วงลาดกระบัง-อูตะเภา จำนวน113 สัญญา แล้วเสร็จในเดือนต.ค. 2563

ส่วนการขออนุญาตเข้าพื้นที่ต่อหน่วยงานเจ้าของพื้นที่เพื่อรื้อย้ายสาธารณูปโภคในกรณีเร่งด่วน ซึ่งผู้ว่าการ รฟท. ได้มอบอำนาจให้คณะทำงานเฉพาะกิจของรฟท. พิจารณาการอนุญาตและการอนุมัติให้ใช้พื้นที่ที่เกี่ยวข้องสาธารณูปโภคในโครงการฯ นี้ เป็นการเฉพาะเพื่อความรวดเร็วในการทำงานแล้ว ในส่วนของกรมทางหลวง และกรมทางหลวงชนบท ซึ่งมีหลายหน่วยงานต้องเข้าพื้นที่เพื่อรื้อย้ายสาธารณูปโภค ได้เน้นย้ำให้กรมทางหลวง(ทล.) และกรมทางหลวงชนบท (ทช.) ให้ข้อแนะนำในเรื่องของเอกสารประกอบการขออนุญาตเข้าพื้นที่ และให้อำนวยความสะดวกการเข้าพื้นที่

กรณีขอขยายเขตทางเพิ่มเติม ที่ต้องเวนคืนเพิ่ม 6 จุด ได้แก่ บริเวณสถานีลาดกระบัง บริเวณทางออกท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริเวณประตูน้ำของกรมชลประทาน บริเวณสะพานข้ามแม่น้ำบางปะกง บริเวณอุโมงค์เขาชีจัน และบริเวณทางเข้าสนามบินอู่ตะเภา ขณะนี้อยู่ระหว่างการสำรวจความคิดเห็นของผู้ได้รับผลกระทบจำนวน 48 ราย รวมจำนวนที่ดิน 63 แปลง จะสำรวจแล้วเสร็จและสรุปข้อมูลภายในส.ค. 2563 คาดว่าจะสามารถส่งมอบพื้นที่ได้ตามแผนภายในเดือนก.ย.2564
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42749
Location: NECTEC

PostPosted: 21/07/2020 8:28 pm    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
Mongwin wrote:
“คมนาคม” เร่งส่งมอบพื้นที่ให้ “กลุ่มซีพี” สร้างไฮสปีดเชื่อม 3 สนามบินในก.พ.64
ข่าวหุ้น วันที่ 21/07/2020


“ซีพี”กางแผนยกเครื่อง ”แอร์พอร์ตลิงก์”16 ด.พร้อมรับโอนก่อน ต.ค.64
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: 21 กรกฎาคม 2563 เวลา 18:48
ดีเดย์ ม.ค.69 ลุยเปิดเดินรถ “ไฮสปีดเชื่อม 3 สนามบิน”
หน้าแรก / เศรษฐกิจมหภาค / Mega Project
21 กรกฎาคม 2563 เวลา 15:30 น.


ไฮสปีด 3 สนามบิน เปิดวิ่งม.ค.69 คมนาคมยันส่งมอบพื้นที่ก่อสร้าง ช่วงสุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา ได้ 100% ก.พ.64
เศรษฐกิจ
เผยแพร่: 21 กรกฎาคม 2563 เวลา 20:13 น.

ไฮสปีดเทรนเชื่อม 3 สนามบิน เปิดวิ่งม.ค.69 คมนาคมยันส่งมอบพื้นที่ก่อสร้าง ช่วงสุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา ได้ 100% ในเดือนก.พ.64 เป็นไปตามแผน - ลุ้น ต.ค.64 ยลโฉมใหม่ แอร์พอร์ตลิงก์ หลังกลุ่มซีพีเข้าบริหาร

ไฮสปีด3สนามบินวิ่งม.ค.69 - นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลัง เป็นประธานการประชุมคณะทำงานเร่งรัดการส่งมอบพื้นที่และการรื้อย้ายสาธารณูปโภค โครงการรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน) เชื่อม 3 สนามบิน “ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา” ระยะทาง 220 ก.ม. วงเงิน 2.24 แสนล้านบาท ให้บริษัท รถไฟความเร็วสูงสายตะวันออกเชื่อมสามสนามบิน จำกัด (กลุ่มกิจการร่วมค้าบริษัท เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง จำกัด และพันธมิตร) เริ่มดำเนินการก่อสร้าง ว่า ได้เร่งรัดดำเนิน 4 เรื่อง

1. เวนคืนที่ดินเพิ่มเติม โดยขณะนี้ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมากำหนดราคาค่าทดแทน คาดว่าเดือนพ.ย. 2563 จะลงนามในสัญญาซื้อขาย เวนคืนและจ่ายเงินได้ ส่วนแปลงที่ยังมีปัญหาเจ้าของที่ฟ้องร้องคาดว่าจะเจรจาให้แล้วเสร็จภายในเดือนส.ค. 2564

2. พื้นที่บุกรุก การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้เร่งผลักดันผู้บุกรุกออกจากพื้นที่แล้ว ล่าสุดได้ฟ้องร้องดำเนินคดีแล้ว 562 ราย

3. พื้นที่สัญญาเช่าเดิม รฟท. ได้เร่งยกเลิกสัญญาเช่าที่ดินเดิมรวม 213 ราย แบ่งเป็นช่วงดอนเมือง-พญาไท 100 ราย คาดว่าจะยกเลิกสัญญาแล้วเสร็จทั้งหมด เดือนธ.ค. 2563 และช่วง ลาดกระบัง-อู่ตะเภา จำนวน 113 ราย คาดว่าจะยกเลิกสัญญาแล้วเสร็จทั้งหมด เดือนต.ค. 2563 และ

4. การขยายเขตทางเพิ่มเติมเนื่องจากต้องเปลี่ยนแนวเส้นทางจำนวน 6 จุด ซึ่งมีผู้ได้รับผลกระทบจำนวน 48 ราย รวม 63 แปลง ขณะนี้ได้เร่งสำรวจและรับความเห็นจากประชาชนที่ถูกเวนคืนที่ดินและที่อยู่ในพื้นที่ข้างเคียงเพิ่มเติมคาดว่าจะแล้วเสร็จ เดือนก.ค. จากนั้นจะเสนอให้ คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) พิจารณาต่อไป ซึ่งกรณีนี้จะต้องมีการทำการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมด้วย

5. การรื้อย้ายสาธารณูปโภค นั้น หลายหน่วยงานได้เริ่มเข้าพื้นที่ดำเนินการแล้ว เช่น บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เป็นต้น ทั้งนี้ คาดว่าจะส่งมอบที่ดินสำหรับการก่อสร้าง ช่วง สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา ทั้ง 100% ให้กับเอกชนได้ภายในเดือนก.พ. 2564 แน่นอน ซึ่งเป็นไปตามแผนที่ตั้งไว้

นายชัยวัฒน์ กล่าวถึงการโอนโครงการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ นั้น ล่าสุดกลุ่มซีพีได้เร่งเข้ามาดำเนินการใน 5 กิจกรรมคือ

1. การตรวจสอบสถานะทางเทคนิคของรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ขณะนี้ใกล้เสร็จทั้ง 100% แล้ว
2. การตรวจสอบความพร้อมการเดินรถ
3. การปรับปรุงบริการลูกค้า เบื้องต้นกลุ่มซีพี จะลงทุนปรับปรุงสถานีใหม่ให้ทันสมัย และเปลี่ยนรูปลักษณ์ไปจากเดิม เช่น ปรับปรุงเครื่องหมายสัญลักษณ์ภายในสถานีให้ชัดเจน จัดทำกราฟฟิกภายในสถานี ติดไฟฟ้าและแสงสว่างเพิ่มเติม และติดตั้งสิ่งอำนวยความสะดวกเพิ่มเติม จะติดเครื่องปรับอากาศภายในสถานี
4. การปรับปรุงคืนสภาพทรัพย์สิน และ
5. การปรับระบบเพื่อรองรับรถไฟความเร็วสูง ขณะนี้กำลังศึกษาปรับปรุงเทคโนโลยีที่เหมาะสมในการใช้งานร่วมกับระหว่างรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ และรถไฟฟ้าความเร็วสูง

“รถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ จะมีภาพลักษณ์ใหม่ในการเดินทาง เพราะซีพีจะเข้ามาลงทุนปรับปรุงพื้นที่ อาคารสถานี สิ่งอำนวยความสะดวก และการให้บริการก็จะดีขึ้นด้วย คาดว่าการปรับปรุงประบบต่างทั้งหมดแล้วเสร็จภายในเดือยก.ย. 2564 โดยซีพีจะจ่านเงินคืนค่าทรัพย์สินรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์ให้แก่ รฟท. รวมทั้งเปิดเดินรถโฉมใหม่ได้ในเดือนต.ค. 2564 ส่วนรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินนั้น ตามแผนตั้งเป้าที่จะเปิดให้บริการในเดือนม.ค.ปี 2569”


Last edited by Wisarut on 22/07/2020 1:26 am; edited 1 time in total
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42749
Location: NECTEC

PostPosted: 21/07/2020 8:58 pm    Post subject: Reply with quote

3 โปรเจกต์ยักษ์ ส่อเลื่อนยาว ลงแส้‘สายสีแดง-ไฮสปีดอีสาน’
หน้า เศรษฐกิจมหภาค / Mega Project
ออนไลน์เมื่อ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2563 18:55 น.
หน้า 7 ฐานเศรษฐกิจ
ฉบับที่ 3,593 วันที่ 19 - 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2563



คมนาคม” ลงแส้ 3 เมกะโปรเจกต์ 3 มอเตอร์เวย์ นครปฐมถึงชะอำ-สายสีแดง-ไฮสปีดอีสาน หลังล่าช้าติดปัญหาเพียบ สั่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลุยเต็มสูบ เดินหน้าตามแผน

มีหลายโครงการขนาดใหญ่ที่ล่าช้า เดินไม่ตรงตามแผน เนื่องจากระหว่างทางมีอุปสรรค แตกต่างกันออกไปที่จำเป็นต้องแก้ไข แต่ในที่สุดแล้ว ผู้ที่ได้ประโยชน์สูงสุดคือประชาชนผู้ใช้เส้นทาง และความเจริญกระจายลงสู่พื้นที่

แหล่งข่าวจากสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ระบุว่า ที่ผ่านมาได้เห็นกระทรวงคมนาคม ปรับ แผนขับเคลื่อนโครงสร้างพื้นฐาน สู่ยุคใหม่ โดยจัดทําแผนยุทธ ศาสตร์สนับสนุนการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ฉบับที่ 3 (พ.ศ. 2560 - 2564) รองรับแนวทางการพัฒนา เชื่อมโยงกับแผน และยุทธศาสตร์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง กับการขนส่งและระบบโลจิสติกส์ของประเทศ ซึ่งส่งผลดีในภาพรวม

สำหรับยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งของไทยระยะ 20 ปี นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม สะท้อนว่า ถือเป็นจุดเริ่มต้นสานต่อโครงการที่ดำเนินการในอนาคต ประกอบด้วย 5 แผนงานหลัก 1. การพัฒนาโครงข่ายรถไฟระหว่างเมือง 2. การเพิ่มขีดความสามารถทางหลวงเพื่อเชื่อมโยงฐานการผลิตที่สำคัญของประเทศและเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน 3. การเพิ่มขีดความสามารถในการบริการขนส่งทางอากาศ 4. การพัฒนาโครงข่ายขนส่งสาธารณะเพื่อแก้ไขปัญหาจราจรในกรุเทพฯ และปริมณฑล 5. การพัฒนาโครงข่ายการขนส่งทางน้ำ

ขณะเดียวกันมีหลายโครงการที่เกิดความล่าช้า ทำให้ทางกระทรวงคมนาคมจำเป็นต้องเร่งรัดดำเนินการต่อเนื่อง อย่างโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) สายนครปฐม-ชะอำ ซึ่งเป็นโครงการก่อสร้างใหม่ ปัจจุบันอยู่ระหว่างการทบทวนรายละเอียดเกี่ยวกับปัญหาและอุปสรรค เบื้องต้นพบปัญหาเรื่องการทำความเข้าใจด้านการเวนคืนที่ดิน บริเวณพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี หากสามารถดำเนินการสื่อสารให้เข้าใจระหว่างกันได้ก็สามารถนำเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาต่อไป หากในกรณีที่ติดปัญหาด้านการเวนคืนที่ดินก็จำเป็นที่ต้องทบทวนการปรับรูปแบบเส้นทาง โดยหลีกเลี่ยงเส้นทางเดิม ทำให้ต้องศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) ใหม่ และดำเนินการรูปแบบพีพีพีใหม่เช่นกัน


นายศักดิ์สยาม กล่าวต่อว่า ขณะที่รถไฟความเร็วสูง (ไทย-จีน) ช่วงกรุงเทพฯ – นครราชสีมา ที่ผ่านมาคณะกรรมการการรถไฟแห่งประเทศไทย (บอร์ด รฟท.) มีมติเห็นชอบร่างสัญญาจ้างงานระบบราง ระบบไฟฟ้าและเครื่องกล รวมถึงการจัดหาขบวนรถไฟและจัดฝึกอบรมบุคลากร (สัญญา 2.3) โครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ในการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูงเพื่อเชื่อมโยงภูมิภาค ปัจจุบันอยู่ระหว่างการส่งต่ออัยการสูงสุดเพื่อตรวจร่างสัญญาดังกล่าว หลังจากนั้นจะเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาต่อไป คาดว่าลงนามได้ภายในเดือนตุลาคม 2563 ตามแผน

“ทั้งนี้โครงการดังกล่าวยังติดขัดปัญหาด้านผลกระทบสิ่งแวดล้อมบางส่วนบริเวณสถานีอยุธยา เนื่องจากกรมศิลปากรเห็นว่า อาจมีผลกระทบต่อโบราณสถานจำเป็นต้องปรับแนวทางการออกแบบให้สอดคล้องและเหมาะสมกับการเป็นพื้นที่มรดกโลก รวมถึงไม่บดบังทัศนียภาพ ซึ่งจะต้องรอดูการพิจารณาอนุญาตจากกรมศิลปากรว่าสามารถดำเนินการได้หรือไม่”

นอกจากนี้ความคืบหน้าโครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดง ขณะนี้อยู่ระหว่างการเร่งเดินหน้าศึกษารูปแบบการบริหารในด้านการลงทุนก่อสร้าง การจัดขบวนรถไฟ สถานีต่างๆ จากเดิมจะให้แอร์พอร์ตลิงก์เข้ามา
บริหาร ขณะเดียวกันเอกชนคู่สัญญาได้ขอขยายสัญญา 500 วัน ทำให้เกิดความล่าช้า ส่งผลให้การเปิดให้บริการถูกเลื่อนออกไปในปี 2566 จากแผนเดิมจะเปิดให้เดือน มกราคม 2564 ปัจจุบันสถานะการก่อสร้าง ราว 70-80% ทั้งนี้ยังติดปัญหาสถานีกลางบางซื่อ ที่ล่าช้าออกไปอีก 500 วัน เบื้องต้น รฟท.แจ้งว่าจะส่งผลการศึกษาให้กระทรวงคมนาคม อีก 1 เดือน ส่วนรูปแบบการลงทุนนั้นจะเปิดให้เอกชนร่วมลงทุนในรูปแบบเอกชนร่วมลงทุน (พีพีพี) เพื่อแบ่งเบางบประมาณของรัฐ จากผลการศึกษาพบว่า ในช่วง 7 ปีแรก หากดำเนินการแยกสัญญาบริหารสถานีจะขาดทุน ดังนั้นจะให้เอกชนเข้ามาบริหารและรับความเสี่ยง เพื่อหารายได้จากการบริหารสถานีดังกล่าว
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42749
Location: NECTEC

PostPosted: 22/07/2020 11:45 am    Post subject: Reply with quote

เปิดไทม์ไลน์เวนคืนที่ดิน ส่งมอบพื้นที่สร้างรถไฟเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน
ข่าวเศรษฐกิจ
ไทยรัฐฉบับพิมพ์
วันที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2563 เวลา 07:15 น.

“คมนาคม” วางไทม์ไลน์ส่งมอบพื้นที่สร้างไฮสปีดเชื่อม 3 สนามบิน เฟสแรก “ช่วงสุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา” ครบ 100% ภายใน ก.พ. 64 เร่งเคลียร์ผู้บุกรุก-ยกเลิกสัญญาเช่า ฟากเอกชนเตรียมแผนพลิกโฉม “แอร์พอร์ต เรล ลิงก์” ก่อนจ่ายเงินและรับโอนจาก รฟท.มาดำเนินการเอง ต.ค.ปีหน้า


นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคมเปิดเผยหลังการประชุมคณะทำงานเร่งรัดการส่งมอบพื้นที่รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) ว่าได้รับทราบความคืบหน้าการขอรับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายงบกลางประจำปี 63 ตามที่คณะกรรมการพัฒนาพื้นที่อีอีซี (กพอ.) ได้พิจารณาเห็นชอบ และอยู่ระหว่างกระบวนการขอรับงบประมาณ ซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขของสำนักงบประมาณที่ได้พิจารณารายละเอียดครบถ้วนทั้งหมดแล้ว อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าไม่มีอุปสรรค และได้ดำเนินการตามแผนที่กำหนดไว้

ขณะที่การเวนคืนที่ดิน โยกย้ายผู้บุกรุกและยกเลิกสัญญาเช่านั้น การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เป็นเจ้าภาพในการดำเนินการ ซึ่งขณะนี้ ได้จัดประชาสัมพันธ์กับผู้ที่ถูกเวนคืนที่ดิน รวมถึงการสำรวจรายละเอียดที่ดิน สิ่งปลูกสร้างและพืชผล โดยได้มีการตั้งคณะกรรมการกำหนดราคาเบื้องต้น จากนั้นจะประชุมและจ่ายค่าทดแทนทั้งหมด ตามแผนจะใช้วิธีการเจรจา ทั้งนี้ คาดว่าจะทำสัญญาซื้อขายกับผู้ถูกเวนคืน และจ่ายค่าทดแทนภายใน พ.ย.63 จากนั้นจะรับมอบที่ดินที่ถูกเวนคืน และส่งมอบที่ดินให้เอกชนคู่สัญญาในระยะแรก ช่วงสุวรรณภูมิ-อู่ตะเภาทั้งหมด 100% ภายในเดือน ก.พ.64 ตามแผน แต่หากเกิดกรณีล่าช้า อาทิ ผู้ถูกเวนคืนยื่นอุทธรณ์ อาจต้องใช้เวลาตามขั้นตอน ส่วนเจ้าของที่ดินทักท้วง หรือร้องเรียนจะเคลียร์ให้จบภายใน ส.ค.64 ขณะที่การส่งมอบพื้นที่ระยะที่ 2 ช่วงดอนเมือง-สุวรรณภูมิ ใช้เวลาดำเนินการอีก 2 ปี 3 เดือน

นายชัยวัฒน์กล่าวอีกว่า ในส่วนการโยกย้ายผู้บุกรุกที่มีผลกระทบกับโครงการช่วงดอนเมือง-สุวรรณภูมินั้นมีผู้บุกรุก 267 หลังคาเรือน ช่วงสุวรรณภูมิ-อู่ตะเภามีผู้บุกรุก 302 หลังคาเรือน ซึ่งในขณะนี้ รฟท.อยู่ระหว่างการฟ้องร้องดำเนินคดีกับผู้บุกรุกโดยดำเนินการตามกฎหมาย ขณะที่การยกเลิกสัญญาเช่านั้น มีทั้งสิ้น 213 สัญญา แบ่งเป็นช่วงดอนเมือง-พญาไท 100 สัญญา จะยกเลิกสัญญาเช่าให้เสร็จภายใน ธ.ค.63 และช่วงลาดกระบัง-อู่ตะเภา 113 สัญญา จะดำเนินการให้เสร็จภายใน ต.ค.63

ในด้านการขอเข้าพื้นที่ของหน่วยงานในการรื้อย้ายสาธารณูปโภคที่จำเป็น โดยมี 8 หน่วยงานที่ขอรื้อย้ายกรณีเร่งด่วนในพื้นที่ของกรมทางหลวง (ทล.) เช่น กรุงเทพมหานคร (กทม.) การประปานครหลวง การประปาส่วนภูมิภาค กิจการไฟฟ้าของกองทัพเรือ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท. เป็นต้น โดย ทล.ได้อนุญาตให้ ปตท.เข้าพื้นที่ช่วงดอนเมือง-พญาไทแล้ว ส่วนอีก 7 หน่วยงานอยู่ระหว่างพิจารณาอนุญาต โดยสั่งการให้ ทล.แนะนำหน่วยงานที่มาขอเข้าพื้นที่จัดเตรียมเอกสารให้พร้อมและเรียบร้อย เพื่อดำเนินการให้แล้วเสร็จในครั้งเดียว อย่างไรก็ตาม หากติดปัญหาอุปสรรคใดๆให้นำมารายงานในที่ประชุมครั้งต่อไป

นอกจากนี้ ในส่วนของการขอขยายเขตทางเพิ่มที่เอกชนต้องเวนคืนที่ดินเพิ่มเติม จำนวน 6 จุด ได้แก่ สถานีลาดกระบัง, บริเวณจุดตัดทางรถไฟ ช่วงทางออกสนามบินสุวรรณภูมิ, ประตูน้ำของกรมชลประทาน, ช่วงข้ามแม่น้ำบางปะกง โดยต้องทำสะพานรถไฟความเร็วสูงใหม่, ช่วงอุโมงค์เขาชีจรรย์ และบริเวณทางเข้าสนามบินอู่ตะเภา มีผู้ได้รับผลกระทบจากการถูกเวนคืนทั้งสิ้น 48 ราย จำนวน 63 แปลง ในขณะนี้ อยู่ระหว่างการสำรวจความคิดเห็นประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการเวนคืนต้องทำให้เสร็จภายใน ก.ค.นี้ จากนั้นจะสรุปข้อมูลการรับฟังความคิดเห็นช่วง ส.ค.63 ทั้งนี้ ต้องพิจารณาผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) ควบคู่ด้วย โดยใช้หลักการเวนคืนน้อยที่สุดเท่าที่จำเป็นเท่านั้น หากเวนคืนบางส่วนแล้ว แต่ใช้พื้นที่ไม่ครบแปลง เหลือเศษที่ดิน 20-25 ตารางวาให้เวนคืนทั้งหมด เพื่อใช้สำหรับเขตปลอดทางด้วย หรือถ้าออกแบบหลบได้ ให้กระทำเพื่อไม่ให้ประชาชนเกิดความเดือดร้อน

นายชัยวัฒน์กล่าวต่ออีกว่า บริษัท รถไฟความเร็วสูงสายตะวันออกเชื่อม 3 สนามบิน จำกัด ยังได้รายงานความก้าวหน้าการโอนรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ประกอบด้วย 5 เรื่อง คือ

1.การตรวจสอบสถานะด้านเทคนิคจะแล้วเสร็จปลาย ก.ค.นี้
2.การเตรียมความพร้อมการเดินรถ
3.การปรับปรุงบริการให้ผู้โดยสาร เช่น การตกแต่งภายในสถานี ทั้งไฟแสงสว่าง ติดระบบเครื่องปรับอากาศ (แอร์) และจัดที่จอดรถ
4.การคืนสภาพทรัพย์สิน โดยการปรับปรุงอาคารสถานีที่ต้องมั่นคงแข็งแรง และ
5.การปรับระบบเพื่อรองรับ การเดินรถ โดยใช้เวลารวม 16 เดือน เริ่มตั้งแต่ มิ.ย.63 ต้องเสร็จสิ้น ก.ย.64 พร้อมทั้งชำระเงินให้ รฟท.

จากนั้นจะส่งมอบรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ และเปิดให้บริการประชาชนอย่างต่อเนื่องช่วง ต.ค.64 เชื่อว่าบริษัทดำเนินการอย่างมืออาชีพ เนื่องจากมีการทำแผนไว้อย่างชัดเจน.
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42749
Location: NECTEC

PostPosted: 22/07/2020 7:29 pm    Post subject: Reply with quote

Series สรุปรายละเอียด โครงการรถไฟความเร็วสูง โคราช-หนองคาย (จากเอกสารการประชุมครั้งที่ 1) EP.0 ภาพรวมโครงการ
โครงสร้างพื้นฐาน ประเทศไทย Thailand Infrastructure

เอาล่ะครับ ผมมาเปิด Series ใหม่อีกซีรี่ย์นึง คือ ซีรี่ย์โครงการรถไฟความเร็วสูง โคราช-หนองคาย ซึ่งจะเอารายละเอียดจากงานรับฟังความคิดเห็นครั้งที่ 1 มาสรุปและวิเคราะห์ให้เพื่อนๆ ฟัง

แต่!!!!! เอกสารเล่มนี้ยังเป็นเอกสารศึกษาครั้งที่ 1 ซึ่งยังไม่เป็นเล่มสรุปสุดท้าย ยังมีการแก้ไขอีกเยอะมาก และเปิดให้ประชาชนอย่างเราๆ เข้าร่วมประชุมและเสนอแนะ ในรายละเอียดในอีกหลายการประชุม ทั้งกลุ่มย่อย และประชุมรับฟังความคิดเห็น กลุ่มใหญ่อีกหลายครั้งในหลายพื้นที่

ใครอยากอ่านรายละเอียดโครงการเต็มๆ สามารถดูได้จากเว็บไซต์โครงการ ตามนี้ครับ
https://www.hsrkorat-nongkhai.com/download/

——————————

ซึ่งโครงการส่วนที่ 1 จะสิ้นสุดที่โคราช แต่แผนเต็มๆ เราต้องการจะไปเชื่อมต่อกับรถไฟลาว-จีน ที่หนองคาย-เวียงจันทน์ ดังนั้น เราจะต้องทำการต่อจากโคราช ไป หนองคาย

ดังนั้นการรถไฟ จึงทำการจ้างที่ปรึกษาในการศึกษารายละเอียดและออกแบบรายละเอียด เลยเป็นที่มาของโครงการนี้

การศึกษาแบ่งรายละเอียดเป็น 5 ส่วนคือ

- ออกแบบรายละเอียดงานโยธาซึ่งสอดคล้องกับระบบรถไฟควาสูงของจีน
- การประเมินราคาก่อสร้าง
- จัดเตรียมเอกสารประกวดราคางานโยธา
- จัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA)
- สำรวจและจัดทำร่าง พรฏ. เวนคืนเพื่อก่อสร้างโครงการ

—————————
มาตรฐานในการออกแบบโครงการรถไฟความเร็วสูงโคราช-หนองคาย

- จุดเริ่มต้นโครงการ จากปลายทางด้านทิศเหนือของสถานีรถไฟโคราช เริ่มต้นที่กิโลเมตร DK 251+881 สิ้นสุดที่ตีนสะพานมิตรภาพ ไทย-ลาว แห่งใหม่

- การออกแบบเส้นทางเพื่อเดินรถไฟโดยสารเท่านั้น ยกเว้นช่วงสะพานมิตรภาพ ไทย-ลาว แห่งใหม่ ถึงสถานีนาทา ที่จะมีการเดินรถไฟสินค้ามาร่วมด้วย เพื่อเปลี่ยนถ่ายสินค้าระหว่างขบวนที่จุดเปลี่ยนถ่ายสินค้าสถานีนาทา

- ความเร็วการให้บริการสูงสุด 250 กม/ชม

- ขนาดทางวิ่ง 1.435 เมตร (Stndard Guage)

- ระยะทางรวม 356 กิโลเมตร

- อาณัติสัญญาณ CTCS L2 ซึ่งเป็นมาตรฐานเดียวกันกับช่วงที่ 1 และรองรับการเชื่อมต่อกับจีนโดยตรง

- รองรับขบวนรถไฟความเร็วสูง (EMU) ขนาด 8 ตู้ ความยาว 200 เมตร รองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 600 คน/ขบวน

——————————
สถานีรถไฟในโครงการรถไฟความเร็วสูง มีทั้งหมด 5 สถานี คือ

- สถานีบัวใหญ่
- สถานีบ้านไผ่
- สถานีขอนแก่น
- สถานีอุดรธานี
- สถานีหนองคาย

มีจุดเปลี่ยนถ่ายสินค้าระหว่างรถไฟ ลาว-จีน ซึ่งขนาดราง 1.435 เมตร มาที่ทางคู่ 1 เมตร ซึ่งจะไปสอดคล้องกับโครงการรถไฟทางคู่พร้อมติดไฟฟ้า ซึ่งการรถไฟมีแผนการทำ ppp ให้เอกชนมาร่วมทุนในโครงการนี้ ซึ่งจะอยู่ที่สถานีนาทา

โดยจะมีศูนย์ซ่อมบำรุงทางทั้งหมด 4 แห่ง คือ

- บ้านมะค่า
- หนองแม๊ก
- โนนสะอาด
- นาทา

ศูนย์ซ่อมบำรุงรถจักรหลักในโครงการมีทั้งหมด 1 แห่งคือ สถานีนาทา

จากที่เห็น จะมีจุดที่น่าสนใจของโครงการนี้มากๆอยู่ที่สถานีนาทา เดี๋ยวในโพสต์ถัดไปผมจะมาเล่าให้ฟังอีกทีครับ

——————————
รูปแบบทางวิ่งในโครงการ

เนื่องจากว่าพื้นที่ส่วนใหญ่ของโครงการเป็นพื้นที่ราบ เกษตรกรรม เป็นหลัก ซึ่งไม่มีประเด็นต้องทำอุโมงค์หรือสะพานทางข้ามขนาดใหญ่ จะเหลือแต่ทางยกระดับในช่วงผ่านเขตเมือง

ดังนั้นจะมีรูปแบบทางวิ่งเป็น 3 แบบคือ

ทางวิ่งระดับดิน คู่ขนานกับรถไฟทางคู่ 139 กิโลเมตร

ทางวิ่งยกระดับ 216 กิโลเมตร โดยจะแบบเป็น 2 รูปแบบย่อยคือ

- ทางยกระดับขนาดเล็กเพื่อข้ามถนน และข้ามพื้นที่น้ำหลาก เพื่อป้องกันการขวางทางน้ำ

- ทางยกระดับสูง เพื่อลดผลกระทบกับการจราจร และป้องกันความเสี่ยงการลักผ่าน

การแก้ปัญหาจุดตัดทางรถไฟ จะมีการศึกษาจุดตัดเดิมในโครงการทางคู่สาย จิระ-หนองคาย ซึ่งมีปัญหาเรื่องทางลอดทางข้ามอยู่ โดยจะมีการปรับปรุงบางส่วน เช่น ขยายขนาดทางลอด

โดยในโครงการจะมีการพิจารณาจุดตัดทางรถไฟใหม่ ซึ่งจะมี 4 รูปแบบ คือ

- ทางรถไฟข้ามถนน
- ถนนข้ามทางรถไฟ
- สะพานกลับรถรูปตัว U
- ถนนเลียบทางรถไฟ

—————————
โดยในโครงการได้ทำการประเมินระยะเวลา และราคาค่าโดยสารเพื่อเปรียบเทียบความสามารถในการแข่งขันของแต่ละโหมดของการเดินทาง ในเส้นทาง กรุงเทพ-หนองคาย

- รถไฟความเร็วสูง ราคาค่าโดยสาร 1200 บาท ระยะเวลารวม 3 ชั่วโมง

- เครื่องบิน ราคาค่าโดยสารรวมการเดินทางจากในเมืองไปสนามบิน ประมาณ 1400 - 2100 บาท ระยะเวลารวมเดินทางไปสนามบิน ประมาณ 2 ชั่วโมง

- รถยนต์ ค่าน้ำมัน ไปกลับประมาณ 1200 บาท ระยะเวลา 9:30 ชั่วโมง

แต่ประเด็นสำหรับที่สุดของระบบรถไฟความเร็วสูงคือการรองรับการเดินทางผ่านกลางทาง ซึ่งเครื่องบินทำไม่ได้ เช่น โคราช-อุดรธานี , สระบุรี-ขอนแก่น หรือ อยุธยา-หนองคาย

ซึ่งการเดินทางระหว่างเมืองย่อย จะช่วยเรื่องการกระจายเศรษฐกิจพัฒนาเมืองย่อยได้อีกมาก

—————————
** ข้อเสนอส่วนตัว **

ผมเห็นว่าช่วงขอนแก่น-อุดรธานี เป็นระยะที่ค่อนข้างห่างกัน เห็นว่าควรจะมีสถานีรถไฟ อีก 1 จุด โดยอยู่ตรงกลางเส้นทางพอดี และน่าจะตรงกับคนในพื้นที่หลายๆท่านที่ไปเสนอแนะในโครงการ

ผมขอเสนอเพิ่ม สถานีเขาสวนกวาง อีก 1 สถานี

เนื่องจากเป็นจุดที่ประมาณกึ่งกลางทางช่วง ขอนแก่น-อุดรธานี พอดี ซึ่งมีระยะทางประมาณจากขอนแก่น 50 กิโลเมตร และจากอุดรธานี 70 กิโลเมตร

ในพื้นที่เขาสวนกวางก็เป็นเมืองขนาดกลาง รวมถึงมีแหล่งท่องเที่ยว คือสวนสัตว์ขอนแก่น ซึ่งเป็นสวนสัตว์ของภาคอิสานตอนบน อยู่ด้านหลังสถานีรถไฟ ระยะห่างแค่ 4 กิโลเมตร

ดังนั้นน่าจะเป็นการพัฒนาเมือง และการท่องเที่ยวที่สอดคล้องกันได้ครับ

ตอนต่อไป จะลงรายละเอียดทีละสถานีมาให้อ่านกันต่อครับ
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44637
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 23/07/2020 1:57 pm    Post subject: Reply with quote

บิ๊กทุนแจม'ไฮสปีดเฟส 2'
ฐานเศรษฐกิจ ฉบับวันที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

บิ๊กทุน ไทย-เทศ ฝ่าโควิด ขอแจม ไฮสปีดอีอีซี ต่อขยาย ระยองจันทบุรี-ตราด พร้อมรถไฟทางคู่ รวมแสนล้าน เปิด Market Sounding ร่วมทุนพีพีพี 24 ก.ค.นี้ แย้มมี ยักษ์จีนไชน่าเรลเวย์ หอการค้าฝรั่งเศส ดอยซ์แบงก์ เนเธอร์แลนด์ ฝรั่งเศษ ญี่ปุ่น เกาหลี สนพรึบ ด้านฝั่งไทยมาครบซิโน-โทย บีทีเอส ช.การช่าง บีอีเอ็ม กลุ่มซีพี

การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ว่าจ้างกลุ่ม บริษัทที่ปรึกษา ประกอบด้วย บริษัททีม คอลซัลติ้ง เอนจิเนียริ่งแอนด์ แมเนจเมนท์ จำกัด(มหาชน) บริษัททีแอลที คอนซัลแตนส์จำกัด บริษัทวิศวกรรมธรณีและฐานรากจำกัด บริษัท เอ็มเอชพีเอ็ม จำกัด และบริษัทดาวฤกษ์ คอมมูนิเคชั่นส์ จำกัด ให้ดำเนินงานจ้างที่ปรึกษาความเหมาะสม ด้านวิศวกรรม เศรษฐกิจสังคมการเงิน และแนวทางการลงทุนที่เหมาะสม ตลอดจนงานออกแบบเบื้องต้น โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมืองสุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) เขตพัฒนาเศรษฐกิจภาคตะวันออกหรืออีอีซี ระยะที่ 2 ส่วนต่อขยายจังหวัดระยอง-จันทบุรี-ตราด ระยะเวลา 240 วันนั้น ล่าสุด ร่างผลการศึกษาแล้วเสร็จ เปิดประชุมประเมินความสนใจเบื้องต้นของภาคเอกชนหรือ Market Sounding วันที่ 24 กรกฎาคม พร้อมเปิดรับความคิดเห็นข้อเสนอแนะอย่างรอบด้านจากภาครัฐ เอกชนและประชาชนที่เกี่ยวข้อง

แหล่งข่าวจาก บริษัท ดาวฤกษ์ เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า บริษัท ส่งแบบตอบรับเพื่อประเมินความสนใจเบื้องต้นภาคเอกชน (Market Sounding) กรณีร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (พีพีพี) โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม3สนามบินระยะที่2ส่วนต่อขยายจังหวัดระยองจันทบุรี-ตราด ระยะทาง 200 กิโลเมตร พร้อมก่อสร้างรถไฟทางคู่ ระยะทาง 260 กิโลเมตร มูลค่าราวกว่า1แสนล้านบาท ปรากฎว่ามีเอกชนทั้งไทยและต่างชาติ ให้ความสนใจตอบรับเข้าร่วม รับฟัง ณ โรงแรม เซ็นทารา แกรนด์ และบางกอก คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ จำนวน 150 ราย จาก 300 กลุ่มนักลงทุนทั่วโลก (ข้อมูล ณ วันที่ 20 กรกฎาคม 2563)

สำหรับ กลุ่มเอกชน ต่างชาติ มีหอการค้าจำนวน 36 ประเทศ บริษัทผู้รับเหมารายใหญ่ สถาบันการเงิน ที่ตอบรับเข้าร่วม อย่าง ประเทศจีน บริษัทไชน่าเรลเวย์ คอนสตรัคชั่น (ประเทศไทย) กลุ่มทุนญี่ปุ่น เกาหลี หอการค้าฝรั่งเศส ทูตฝรั่งเศส ดอยซ์แบงก์ สถาบันการเงินระดับโลกจากเนเธอร์แลนด์ ขณะประเทศไทย บริษัทรับเหมารายใหญ่และผู้รับสัมปทาน โครงการขนาดใหญ่ระบบราง-โครงสร้างพื้นฐานรัฐ อาทิ บริษัท ซิโน-โทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) บีทีเอสกรุ๊ป บมจ. ช.การช่าง บีอีเอ็ม ยูนิค อิตาเลียนไทย ส่วนเครือบริษัทเจริญโภคภัณฑ์ได้สัมปทานไฮสปีดอีอีซีระยะแรก อยู่ระหว่างตอบรับ ขณะที่สถาบันการเงิน ได้แก่ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนชาติ เกียรตินาคิน ฯลฯภาครัฐที่เข้าร่วมมีหลายหน่วยงาน รวมถึงกระทรวงการคลัง เป็นต้น

"ความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจมีสูง ช่วยกระจายความเจริญออกสู่ภาคตะวันออก เชื่อมประเทศเพื่อนบ้านสนับสนุนความเป็นมหานครผลไม้ การท่องเที่ยว การขนส่งสินค้าจาก กรุงเทพมหานคร ถึงชายแดน จังหวัดตราด ซึ่งมีพรมแดนติดต่อกับประเทศกัมพูชาและยังเป็นเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษชายแดนด้านตะวันออกอีกด้วย"

ขณะที่มูลค่าโครงการที่ศึกษาไว้ 44,900 ล้านบาทไม่รวมค่าเวนคืน ซึ่งอาจมีการปรับราคา ตามความเป็นจริง ณ เวลาปัจจุบัน ทั้งนี้หากก่อสร้างจะเริ่มจาก ปี 2571-2612 คาดว่าจะมีผู้โดยสารปี 2571 จำนวน 7,429 คนต่อเที่ยวต่อวัน ปี 2581 จำนวน 10,896 คนต่อเที่ยวต่อวัน ปี 2591 จำนวน 15,251 คนต่อเที่ยวต่อวัน

นอกจากนี้ จะพัฒนารถไฟทางคู่ คู่ขนานกันไปกับไฮสปีดอีอีซีเฟส2 จาก ระยอง ต่อจากสถานีมาบตาพุดด่านพรมแดนคลองใหญ่จังหวัด ตราด ตลอดแนวเวนคืนเปิดหน้าดินใหม่ทั้งหมด เขตทางกว้าง 50 เมตร ระยะทาง 260 กิโลเมตร เพื่อเป็นทางเลือก ต่อเชื่อมเส้นทางกับไฮสปีดล่าสุดได้ศึกษาความเหมาะสมและออกแบบรายละเอียดเบื้องต้นแล้ว โดยใช้งบลงทุน 9 หมื่นล้านบาท
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42749
Location: NECTEC

PostPosted: 24/07/2020 11:51 am    Post subject: Reply with quote


รถไฟความไวสูง ช่วงปางอโศก - กลางดง กรกฎาคม 2563
https://www.youtube.com/watch?v=tKNKywThvds


Last edited by Wisarut on 24/07/2020 3:14 pm; edited 2 times in total
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 375, 376, 377 ... 547, 548, 549  Next
Page 376 of 549

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©