View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44774
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42784
Location: NECTEC
|
Posted: 08/06/2022 10:23 am Post subject: |
|
|
ผู้ว่าการรถไฟฯ ลงพื้นที่โครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ช่วงยมราช พญาไท บริเวณชุมชนบุญร่มไทร เพื่อติดตามความคืบหน้าการส่งมอบที่ดินให้ภาคเอกชน และมาตรการดูแลประชาขนที่ได้รับผลกระทบ
ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย
วันพุธ ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2565 เวลา 09:54 น.
นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย และผู้บริหารการรถไฟฯ เดินทางลงพื้นที่โครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ช่วงยมราช - พญาไท บริเวณชุมชนบุญร่มไทร เพื่อติดตามความคืบหน้าการแก้ปัญหาการบุกรุก พร้อมกับติดตามการดูแลผู้ได้รับผลกระทบ ชุมชนในพื้นที่อย่างใกล้ชิด
นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การลงพื้นที่เขตก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ช่วงยมราช - พญาไท บริเวณชุมชนบุญร่มไทรครั้งนี้ เป็นการดำเนินการตามนโยบายของคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาด้านที่ดินที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงคมนาคม ซึ่งมีนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเป็นประธาน ที่ให้ความสำคัญต่อการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโครงการลงทุนภาครัฐ ควบคู่กับการบริหารจัดการนำทรัพย์สินที่ดินมาพัฒนาให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ทั้งนี้ ระหว่างการแก้ปัญหาการบุกรุกพื้นที่ การรถไฟฯ ได้มีการพบปะพูดคุยกับชุมชนฯ เพื่อแก้ปัญหาการบุกรุก และหาทางออกร่วมกับชุมชนอย่างต่อเนื่อง โดยในส่วนของชุมชนบุญร่มไทร การรถไฟฯ ได้มีความร่วมมือกับการเคหะแห่งชาติ จัดสร้างอาคารที่พักอาศัยขนาด 315 ยูนิต บริเวณพื้นที่ริมบึงมักกะสัน เขตราชเทวี สำหรับรองรับการย้ายของชุมชนให้ไปเช่าอยู่อาศัยได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ขณะนี้โครงการอยู่ระหว่างการขออนุมัติของหน่วยงานรัฐ และการออกแบบเพื่อก่อสร้าง ประกอบด้วย ห้องพักขนาด 28.5 ตารางเมตร ขนาด 1 ห้องนอน และขนาด 34.6 ตารางเมตร ขนาด 2 ห้องนอน และมีพื้นที่รองรับศูนย์ดูแลเด็ก ศูนย์สุขภาพสำหรับกลุ่มเปราะบาง ห้องประชุม พื้นที่ส่วนกลางสำหรับประกอบอาหาร พื้นที่เก็บรถเข็นสำหรับประกอบอาชีพ รวมถึงมีตลาดสดภายในชุมชน ซึ่งคาดว่าจะก่อสร้างในปี 2567 ระยะเวลาก่อสร้างประมาณ 1 ปี
การรถไฟฯ มีความตั้งใจอย่างยิ่งในการดูแลประชาชนทีได้รับผลกระทบจากโครงการลงทุนของรัฐ
เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในชุมชนให้ดียิ่งขึ้น พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้ประชาชนในพื้นที่ มีส่วนร่วมในการพิจารณาพื้นที่ปลูกสร้าง และรูปแบบที่พักอาศัยที่เหมาะสม ตลอดจนความสามารถในการชำระค่าเช่าของแต่ละครัวเรือน ซึ่งเป็นนโยบายที่การรถไฟฯ ให้ความสำคัญในการสร้างการมีส่วนร่วมกับชุมชนมาโดยตลอด
นายนิรุฒกล่าวว่า ส่วนความคืบหน้าการส่งมอบที่ดินโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ขณะนี้การรถไฟฯ สามารถแก้ปัญหาในภาพรวม พร้อมกับทำความเข้าใจกับผู้บุกรุกจนได้รับความยินยอมออกจากพื้นที่ครบ 100% แล้ว และหลังแก้ไขเสร็จ การรถไฟฯ ได้กำหนดแผนส่งมอบพื้นที่ให้เอกชนผู้ได้รับสัมปทานโครงการ
ในเดือนกรกฎาคม 2565
สำหรับโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ดอนเมือง สุวรรณภูมิ อู่ตะเภา ถือเป็นโครงการที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) โดยตลอดโครงการมีระยะทาง 220 กิโลเมตร มูลค่าโครงการ 224,500 ล้านบาท ซึ่งจะก่อให้เกิดการลงทุน การจ้างงาน และสนับสนุนการท่องเที่ยว ก่อให้เกิดเติบโตทางเศรษฐกิจ และการขยายตัวของชุมชนได้ในอนาคตอันใกล้
สร้างอาคาร315ยูนิตริมบึงมะกันให้ผู้บุกรุกรถไฟเช่า
*ย้ายชุมชนบุญร่มไทรพ้นแนวไฮสปีด 3สนามบิน
*ผู้ว่ารฟท.ยันอีกเคลียร์จบ100%ส่งมอบพื้นที่ก.ค.นี้
https://www.facebook.com/TransportDailynews/posts/569176371326268
รฟท.เคลียร์บุกรุกแนวไฮสปีด 3 สนามบิน ผุดอาคาร 315 ยูนิต ย้ายชุมชนบุญร่มไทร เร่งส่งมอบพื้นที่ใน ก.ค.นี้
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันพุธ ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2565 เวลา 12:18 น.
ปรับปรุง: วันพุธ ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2565 เวลา 12:18 น.
ผู้ว่าฯรฟท.ลงพื้นที่เคลียร์บุกรุกแนวก่อสร้างไฮสปีด 3 สนามบิน เจรจาย้ายชุมชนบุญร่มไทร 100% ขึ้นอาคาร 315 ยูนิต ริมบึงมักกะสัน จับมือการเคหะฯเร่งสร้างเสร็จในปี 67 มั่นใจ ส่งมอบพื้นที่ให้เอกชนครบในก.ค. 65
นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) พร้อมผู้บริหารการรถไฟฯ ลงพื้นที่โครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ช่วงยมราช - พญาไท บริเวณชุมชนบุญร่มไทร เพื่อติดตามความคืบหน้าการแก้ปัญหาการบุกรุก พร้อมกับติดตามการดูแลผู้ได้รับผลกระทบ ชุมชนในพื้นที่อย่างใกล้ชิด
โดยนายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าฯ รฟท. เปิดเผยว่า รฟท.ได้ดำเนินการตามนโยบายของคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาด้านที่ดินที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงคมนาคม ซึ่งมีนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเป็นประธาน ที่ให้ความสำคัญต่อการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโครงการลงทุนภาครัฐ ควบคู่กับการบริหารจัดการนำทรัพย์สินที่ดินมาพัฒนาให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ทั้งนี้ การรถไฟฯ ได้มีการพบปะพูดคุยกับชุมชนฯ เพื่อแก้ปัญหาการบุกรุก และหาทางออกร่วมกับชุมชนอย่างต่อเนื่อง โดยในส่วนของชุมชนบุญร่มไทร การรถไฟฯ ได้มีความร่วมมือกับการเคหะแห่งชาติ จัดสร้างอาคารที่พักอาศัยขนาด 315 ยูนิต บริเวณพื้นที่ริมบึงมักกะสัน เขตราชเทวี สำหรับรองรับการย้ายของชุมชนให้ไปเช่าอยู่อาศัยได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ขณะนี้โครงการอยู่ระหว่างการขออนุมัติของหน่วยงานรัฐ และการออกแบบเพื่อก่อสร้าง ประกอบด้วย ห้องพักขนาด 28.5 ตารางเมตร ขนาด 1 ห้องนอน และขนาด 34.6 ตารางเมตร ขนาด 2 ห้องนอน และมีพื้นที่รองรับศูนย์ดูแลเด็ก ศูนย์สุขภาพสำหรับกลุ่มเปราะบาง ห้องประชุม พื้นที่ส่วนกลางสำหรับประกอบอาหาร พื้นที่เก็บรถเข็นสำหรับประกอบอาชีพ รวมถึงมีตลาดสดภายในชุมชน ซึ่งคาดว่าจะก่อสร้างในปี 2567 ระยะเวลาก่อสร้างประมาณ 1 ปี
การรถไฟฯ มีความตั้งใจอย่างยิ่งในการดูแลประชาชนทีได้รับผลกระทบจากโครงการลงทุนของรัฐเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในชุมชนให้ดียิ่งขึ้น พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้ประชาชนในพื้นที่ มีส่วนร่วมในการพิจารณาพื้นที่ปลูกสร้าง และรูปแบบที่พักอาศัยที่เหมาะสม ตลอดจนความสามารถในการชำระค่าเช่าของแต่ละครัวเรือน ซึ่งเป็นนโยบายที่การรถไฟฯ ให้ความสำคัญในการสร้างการมีส่วนร่วมกับชุมชนมาโดยตลอด
ส่วนความคืบหน้าการส่งมอบที่ดินโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ขณะนี้การรถไฟฯ สามารถแก้ปัญหาในภาพรวม พร้อมกับทำความเข้าใจกับผู้บุกรุกจนได้รับความยินยอมออกจากพื้นที่ครบ 100% แล้ว และหลังแก้ไขเสร็จ การรถไฟฯ ได้กำหนดแผนส่งมอบพื้นที่ให้เอกชนผู้ได้รับสัมปทานโครงการในเดือนกรกฎาคม 2565
สำหรับโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ดอนเมือง สุวรรณภูมิ อู่ตะเภา ถือเป็นโครงการที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) โดยตลอดโครงการมีระยะทาง 220 กิโลเมตร มูลค่าโครงการ 224,500 ล้านบาท ซึ่งจะก่อให้เกิดการลงทุน การจ้างงาน และสนับสนุนการท่องเที่ยว ก่อให้เกิดเติบโตทางเศรษฐกิจ และการขยายตัวของชุมชนได้ในอนาคตอันใกล้ |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42784
Location: NECTEC
|
Posted: 09/06/2022 5:38 pm Post subject: |
|
|
Mongwin wrote: | สนข.ถกสภาพัฒน์ลุยแผน TOD บูม ไฮสปีด-ทางคู่ 1.9 พันไร่
Source - ฐานเศรษฐกิจ
Wednesday, June 08, 2022 05:33
|
ลิงก์มาแล้วครับ
สนข.ถกสภาพัฒน์ ลุยแผน TOD บูมไฮสปีด-ทางคู่ 1.9 พันไร่
หน้าเศรษฐกิจ Mega Project
ฐานเศรษฐกิจดิจิทัล |
วันพุธ ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2565 เวลา 14:41 น.
สนข.ซุ่มหารือสภาพัฒน์ เร่งอัพเกรดแผน TOD 3 จังหวัด 1.9 พันไร่ คาดได้ข้อสรุป 2 เดือน จ่อนำร่องขอนแก่น ยึดต้นแบบโครงการฯ ดึงเอกชนร่วมทุน PPP
https://www.thansettakij.com/economy/528045 |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44774
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 12/06/2022 6:55 pm Post subject: |
|
|
รฟท.เร่งเคลียร์มักกะสัน สร้างที่พักรองรับย้ายชุมชน
กรุงเทพธุรกิจ 12 มิ.ย. 2565 เวลา 6:30 น.
ร.ฟ.ท.เตรียมส่งมอบพื้นที่ไฮสปีดเทรนเชื่อม 3 สนามบิน ก.ค.นี้ นิรุฒ เร่งเจรจาผู้บุกรุก จับมือการเคหะแห่งชาติ เดินหน้าสร้างอาคารที่พักอาศัยบึงมักกะสัน 315 ยูนิต รองรับชุมชนได้รับผลกระทบ คาดตอกเสาเข็ม 2567
โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง สุวรรณภูมิ อู่ตะเภา) ได้ลงนามสัญญาร่วมลงทุนตั้งแต่วันที่ 24 ต.ค.2562 ระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) และ บริษัท เอเชียเอรา วัน จำกัด ที่มีเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาเอกชนคู่สัญญาได้เสนอให้ภาครัฐออกมาตรการเยียวยาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่มีผลต่อจำนวนผู้โดยสารแอร์พอร์ตเรลลิงก์ รวมทั้ง ร.ฟ.ท.ได้เร่งเคลียร์พื้นที่ก่อสร้างเพื่อเตรียมส่งมอบให้กับเอกชนคู่สัญญา
สำหรับความคืบหน้าการเตรียมส่งมอบพื้นที่ ณ เดือน เม.ย.2565 ช่วงสุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา มีความคืบหน้า 99.92% ครอบคลุมพื้นที่เวนคืนพื้นที่ การโยกย้ายผู้บุกรุกและการรื้อย้ายสาธารณูปโภค โดยพื้นที่ทั้งหมดที่ต้องส่งมอบ 3,513 ไร่ 1 งาน 3 ตารางวา แบ่งเป็นพื้นที่ในกรรมสิทธิ์ของ ร.ฟ.ท.อยู่ที่ 2,594 ไร่ 46.4 ตารางวา และพื้นที่จากการเวนคืน 919 ไร่ 56.6 ตารางวา และคงเหลือพื้นที่ 2 ไร่ 3 งาน 77.8 ตารางวา
นิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการ ร.ฟ.ท.เปิดเผยว่า ขณะนี้ ร.ฟ.ท.ได้เร่งแก้ปัญหาการบุกรุก พร้อมกับติดตามการดูแลผู้ได้รับผลกระทบชุมชนในพื้นที่โครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง สุวรรณภูมิ อู่ตะเภา) โดยล่าสุดได้ลงพื้นที่ช่วงยมราช-พญาไท บริเวณชุมชนบุญร่มไทร เพื่อติดตามความคืบหน้าการแก้ปัญหาตามนโยบายของคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาด้านที่ดินที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงคมนาคม ที่มี ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธาน
อย่างไรก็ดี ร.ฟ.ท.ให้ความสำคัญต่อการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโครงการลงทุนภาครัฐ ควบคู่กับการบริหารจัดการนำทรัพย์สินที่ดินมาพัฒนาให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยการลงพื้นที่ครั้งนี้ ร.ฟ.ท.ได้มีการพบปะพูดคุยกับชุมชนเพื่อแก้ปัญหาการบุกรุก และหาทางออกร่วมกับชุมชนอย่างต่อเนื่อง
สำหรับชุมชนบุญร่มไทร ร.ฟ.ท.ได้มีความร่วมมือกับการเคหะแห่งชาติ (กคช.) จัดสร้างอาคารที่พักอาศัยขนาด 315 ยูนิต บริเวณพื้นที่ริมบึงมักกะสัน เขตราชเทวี สำหรับรองรับการย้ายของชุมชนให้ไปเช่าอยู่อาศัยได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ขณะนี้โครงการอยู่ระหว่างการขออนุมัติของหน่วยงานรัฐ และการออกแบบเพื่อก่อสร้าง ประกอบด้วย ห้องพักขนาด 28.5 ตารางเมตร ขนาด 1 ห้องนอน และขนาด 34.6 ตารางเมตร ขนาด 2 ห้องนอน
อีกทั้งยังจะพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นที่โดยรอบ ประกอบด้วย พื้นที่รองรับศูนย์ดูแลเด็ก ศูนย์สุขภาพสำหรับกลุ่มเปราะบาง ห้องประชุม พื้นที่ส่วนกลางสำหรับประกอบอาหาร พื้นที่เก็บรถเข็นสำหรับประกอบอาชีพ รวมถึงมีตลาดสดภายในชุมชน เบื้องต้นคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างโครงการดังกล่าวในปี 2567 โดยใช้ระยะเวลาก่อสร้างประมาณ 1 ปี
การรถไฟฯ มีความตั้งใจอย่างยิ่งในการดูแลประชาชนทีได้รับผลกระทบจากโครงการลงทุนของรัฐเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในชุมชนให้ดียิ่งขึ้น พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้ประชาชนในพื้นที่ มีส่วนร่วมในการพิจารณาพื้นที่ปลูกสร้าง และรูปแบบที่พักอาศัยที่เหมาะสม ตลอดจนความสามารถในการชำระค่าเช่าของแต่ละครัวเรือน ซึ่งเป็นนโยบายที่การรถไฟฯ ให้ความสำคัญในการสร้างการมีส่วนร่วมกับชุมชนมาโดยตลอด
ส่วนความคืบหน้าการส่งมอบที่ดินโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ขณะนี้ ร.ฟ.ท.สามารถแก้ปัญหาในภาพรวม พร้อมกับทำความเข้าใจกับผู้บุกรุกจนได้รับความยินยอมออกจากพื้นที่ครบ 100% แล้ว และหลังแก้ไขเสร็จ ร.ฟ.ท.ได้กำหนดแผนส่งมอบพื้นที่ให้เอกชนผู้ได้รับสัมปทานโครงการ คือ บริษัท เอเชีย เอรา วัน จำกัด ภายในเดือน ก.ค.2565
ทั้งนี้โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา ถือเป็นโครงการที่มีความสำคัญต่อการขับเคลื่อน เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) โดยตลอดโครงการมีระยะทาง 220 กิโลเมตร มูลค่าโครงการ 224,500 ล้านบาท ซึ่งจะก่อให้เกิดการลงทุน การจ้างงาน และสนับสนุนการท่องเที่ยว ก่อให้เกิดเติบโตทางเศรษฐกิจ และการขยายตัวของชุมชนได้ในอนาคตอันใกล้
นอกจากนี้ เมื่อโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน เปิดให้บริการครบตลอดเส้นทางจะใช้เวลาเดินทางจากดอนเมือง-อู่ตะเภา ประมาณ 1.25 ชั่วโมง ใช้ความเร็ว 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ส่วนการเดินรถในเมืองช่วงดอนเมือง-สุวรรณภูมิ อาจใช้ความเร็วที่ประมาณ 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน จะมีพื้นที่เชิงพาณิชย์เพื่อพัฒนาโดยรอบสถานี หรือ TOD ที่สถานีมักกะสัน จำนวน 140 ไร่ เมื่อมีการพัฒนาโครงการแล้วเสร็จ จะเป็นการพัฒนาเมือง เป็นศูนย์กลางการเดินทางในประเทศและภูมิภาค
สำหรับโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน จะใช้โครงสร้างและแนวเส้นทางการเดินรถเดิมแอร์พอร์ต เรล ลิงค์ ที่เปิดให้บริการอยู่ในปัจจุบัน พร้อมทั้งจะก่อสร้างทางรถไฟขนาด 1.435 เมตร (Standard Gauge) ในส่วนต่อขยาย 2 ช่วงจากสถานีพญาไท ไปยัง
สนามบินดอนเมือง และจากสถานีลาดกระบัง ไปยังสนามบินอู่ตะเภาประกอบไปด้วยสถานีรถไฟความเร็วสูงจำนวน 9 สถานี ได้แก่ สถานีดอนเมือง สถานีบางซื่อ สถานีมักกะสัน สถานีสุวรรณภูมิ สถานีฉะเชิงเทรา สถานีชลบุรี สถานีศรีราชา สถานีพัทยา และสถานีอู่ตะเภา |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44774
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 13/06/2022 7:31 am Post subject: |
|
|
สังคมโลก : เชื่อมต่อไทย-มาเลเซีย
เดลินิวส์ 13 มิถุนายน 2565 7:00 น.
ต่างประเทศ
ตอนนี้ บางประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เริ่มกลับมาส่งเสริมการเชื่อมต่อภายในภูมิภาค เมื่อเดือนที่แล้ว รัฐบาลของมาเลเซียและไทย จัดตั้งคณะกรรมการร่วม เพื่อสำรวจถึงการเชื่อมต่อด้วยรถไฟความเร็วสูง ระหว่างกรุงเทพฯ กับกรุงกัวลาลัมเปอร์
เนื่องจากการพัฒนาอย่างรวดเร็ว ด้านการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจของทั้ง 2 ประเทศ รวมไปถึงห่วงโซ่การผลิตข้ามพรมแเดน และอุปสงค์การเดินทางระหว่างสองประเทศที่สูงขึ้น ทำให้ระบบรถไฟความเร็วสูงเป็นที่ต้องการของรัฐบาลมาเลเซียและรัฐบาลไทย
กรุงเทพฯ และกรุงกัวลาลัมเปอร์จะสร้างเส้นทางที่สามารถเชื่อมต่อกับรถไฟความเร็วสูงสายอื่น โดยเฉพาะจากกรุงเทพฯ เพื่อสร้างเครือข่ายที่กว้างขึ้น และขยายไปยังลาวและจีน ซึ่งนอกจากการขนส่งผู้โดยสาร รางขนาดมาตรฐานยังสามารถรองรับบริการขนส่งทางตรงไปยังจีนและจุดหมายอื่น ผ่านการพัฒนาที่เชื่อมโยงกับ โครงการหนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง ( บีอาร์ไอ ) ของจีน
ดังนั้น มันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ไทยและมาเลเซียเห็นโครงการที่เชื่อมต่อเมืองหลวงของ 2 ประเทศ เป็นกิจการร่วมค้า แต่ถึงอย่างนั้น มันมีอุปสรรคบางอย่างที่สูงอย่างน่ากังวลอยู่
เมื่อเปรียบเทียบกับการบิน ระยะทางระหว่างกรุงเทพฯ กับกรุงกัวลาลัมเปอร์ที่ค่อนข้างไกล ทำให้รถไฟความเร็วสูงเสียเปรียบในระยะทางระหว่าง 200 และ 1,000 กม. แม้จะมีข้อได้เปรียบเรื่องเวลา เพราะสถานีรถไฟจะอยู่ใกล้ศูนย์กลางของเมืองอยู่เสมอก็ตาม
นอกจากนี้ ความร่วมมือจะเป็นอีกหนึ่งความท้าทาย เนื่องจากโครงการรถไฟความเร็วสูงและโครงการขนาดใหญ่อื่น ๆ ที่เกิดขึ้นในกรุงเทพฯ และกรุงกัวลาลัมเปอร์ ในช่วงก่อนหน้านี้ ต่างได้รับการสนับสนุนโดยผู้จัดหาด้านเทคโนโลยีและการเงินจากภายนอก ที่ส่วนใหญ่คือ รัฐบาลปักกิ่ง
ขณะเดียวกัน โครงการรถไฟความเร็วสูงนี้ไม่สามารถเป็นเรื่องระหว่าง 2 ประเทศได้ เพราะทั้งมาเลเซียและไทย ไม่มีเทคโนโลยีและเงินทุนที่เพียงพอ ต่อการสนับสนุนโครงการดังกล่าว แม้ญี่ปุ่นยินดีมอบความสนับสนุน แต่ความช่วยเหลือด้านการเงินที่จำกัดอาจไม่เหมาะสมต่อโครงการนี้
ปัจจุบัน จีนมีบทบาทมากขึ้น เข้ามาเพิ่มการลงทุน เชื่อมโยงโครงการให้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการทางรถไฟสายสิงคโปร์-คุนหมิง ( เอสเคอาร์แอล ) ที่เป็นการพัฒนาขนาดใหญ่ระหว่างจีนและสมาชิกหลายประเทศ ของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ( อาเซียน )
ทั้งนี้ การเจรจาขอการสนับสนุนจากจีน สำหรับการเชื่อมต่อรถไฟความเร็วสูงระหว่างกรุงเทพฯ และจังหวัดหนองคาย ที่มีความคืบหน้าแบบขึ้น ๆ ลง ๆ ชี้ให้เห็นว่า ความสามารถและความยืดหยุ่นทางการเงินของจีนมีขีดจำกัด อีกทั้งปัญหาอย่างอื่น เช่น โครงการรถไฟความเร็วสูงสายเบลเกรด-บูดาเปสต์ อาจทำให้ความกระตือรือร้นของรัฐบาลปักกิ่งลดลง
นอกจากนี้ อุปสรรคใหญ่คือ เส้นทางรถไฟความเร็วสูงที่เชื่อมต่อกรุงเทพฯ และกรุงกัวลาลัมเปอร์ จะไม่สามารถหลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านตอนใต้ของประเทศไทย ที่มีการก่อความไม่สงบอยู่เป็นระยะ ยิ่งไปกว่านั้น การสร้างความปลอดภัยตลอดเส้นทางย่อมเพิ่มค่าใช้จ่าย และการป้องกันอาจครอบคลุมได้ไม่มากพออีกด้วย.
เลนซ์ซูม |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44774
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 13/06/2022 4:13 pm Post subject: |
|
|
บีโอไอไฟเขียว 4 โครงการ 2 แสนล้าน ฮอริษอนร่วมทุนอีวี ปตท.-รถไฟไฮสปีด ฉลุย
ประชาชาติธุรกิจ วันที่ 13 มิถุนายน 2565 - 15:01 น.
บอร์ดบีโอไออนุมัติการลงทุน 4 โครงการใหญ่ รวม 209,478 ล้านบาท ฮอริษอน บริษัทร่วมทุน Foxconn-ปตท. ไฟเขียวผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ (BEV) และ รถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน เอเชีย เอรา วัน ของ CP อีก 162,318 ล้าน
นางสาวดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บอร์ดบีโอไอ) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้อนุมัติส่งเสริมการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ รวมมูลค่า 209,478 ล้านบาท ได้แก่ กิจการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ ของบริษัท ฮอริษอน พลัส จำกัด มูลค่า 36,100 ล้านบาท
โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน ของบริษัท เอเชีย เอรา วัน จำกัด มูลค่า 162,318 ล้านบาท กิจการผลิตเส้นใยและกิจการผลิตผ้าที่มีคุณสมบัติพิเศษของกลุ่มบริษัท คิงบอร์ด โฮลดิ้งส์ มูลค่ารวม 8,230 ล้านบาท และการขยายกิจการผลิตไฟฟ้าระบบโคเจนเนอเรชั่น ของบริษัท ไออาร์พีซี คลีน พาวเวอร์ จำกัด มูลค่า 2,830 ล้านบาท
โครงการที่ได้รับอนุมัติให้การส่งเสริมการลงทุนครั้งนี้ เป็นโครงการลงทุนขนาดใหญ่ ที่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติ สนับสนุนให้เกิดการลงทุนสาธารณูปโภคที่สำคัญในพื้นที่อีอีซี รวมทั้งส่งเสริมการลงทุนโครงการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ จะช่วยเพิ่มศักยภาพในการเป็นฐานผลิตของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า และโครงการผลิตวัตถุดิบต้นน้ำสำหรับอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งจะก่อให้เกิดการลงทุนใหม่ ๆ ที่มีการจ้างงานเป็นจำนวนมาก และมีผลต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะต่อไป |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44774
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44774
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 14/06/2022 8:46 pm Post subject: |
|
|
ประยุทธ์ เร่งเครื่องรถไฟไฮสปีดเชื่อม 3 สนามบิน ดึง 3 ชาติลงทุน
ประชาชาติธุรกิจ วันที่ 14 มิถุนายน 2565 - 16:39 น.
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)
ประยุทธ์ พลิกวิกฤตเป็นโอกาส อัพเกรดกรุงเทพ ปั้นเมืองใหม่เป็นเมืองดิจิทัล พลิกวิกฤตเป็นโอกาสดูดนักลงทุน
วันที่ 14 มิถุนายน 2565 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ในที่ประชุม ครม. ได้มีการพูดคุยถึงเรื่องสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) รวมไปถึงเรื่องความเดือดร้อนของประชาชน ราคาสินค้าแพง เงินเฟ้อ ดังนั้น เราจึงต้องหันไปทำเรื่องหารายได้เข้าประเทศ โดยไปติดตามการทำงานเรื่องเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) เขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ ภาคตะวันออก (อีอีซีไอ)
รวมถึงเขตส่งเสริมอุตสาหกรรมและนวัตกรรมดิจิทัลประเทศไทย (อีอีซีดี) และเน้นเรื่องการยกระดับเขตอุตสาหกรรมอัจฉริยะ เมืองอัจฉริยะไปพร้อมกันด้วย เพื่อให้มีความทันสมัย ใช้เทคโนโลยีเข้าไปบริหารดูแล ซึ่งมีทั้งหมด 7 กิจกรรม ที่เป็นเมืองดิจิทัล เป็นการเสริมดิจิทัลเข้าไปในเมืองเก่า เช่น กทม. และสร้างเมืองใหม่ขึ้นมาโดยกำหนดพื้นที่ ขอให้ทุกติดตามดูด้วย เพื่อให้ห่วงโซ่การผลิตใหญ่ๆ อยู่ในประเทศไทยทั้งหมด
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า รัฐบาลได้เร่งรัดเรื่องไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน เพื่อให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในประเทศไทยมากขึ้น โดยปรับเงื่อนไขและสิทธิประโยชน์ แต่ต้องไม่เกิดปัญหาในระยะยาว วันนี้เราจะต้องเปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาส เพราะขณะนี้เรื่องการย้ายฐานการผลิตมีการเคลื่อนไหวเกิดขึ้นในทุกประเทศ
เราจึงต้องทำอย่างไรที่จะให้นักลงทุนเข้ามาในประเทศเรามากขึ้น ต้องดึงดูดนักลงทุนทั่วโลกเพื่อสร้างงานสร้างอาชีพให้กับคนไทย วันนี้เราได้เจรจากับนักลงทุนหลายประเทศหลังจากที่ได้เดินหน้าไปแล้วกับซาอุดิอาระเบีย สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น ซึ่งเขาสนใจเข้ามาลงทุน โดยให้ไทยเป็นฐานการผลิตอุตสาหกรรมใหญ่ ๆ หลายแห่งในประเทศไทย นายกรัฐมนตรี กล่าว |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44774
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42784
Location: NECTEC
|
Posted: 16/06/2022 10:50 am Post subject: |
|
|
นายกฯเร่งรัดรถไฟความเร็วสูง หวังดึงดูดนักลงทุนเข้าไทย
หน้า โลกธุรกิจ
วันอังคาร ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2565 เวลา 15.41 น.
เมื่อเวลา 13.45 น.วันที่ 14 มิถุนายน 2565 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ในที่ประชุม ครม. ได้มีการพูดคุยถึงเรื่องสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) รวมไปถึงเรื่องความเดือดร้อนของประชาชน ราคาสินค้าแพง เงินเฟ้อ ดังนั้น เราจึงต้องหันไปทำเรื่องหารายได้เข้าประเทศ โดยไปติดตามการทำงานเรื่องเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) เขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ ภาคตะวันออก (อีอีซีไอ) เขตส่งเสริมอุตสาหกรรมและนวัตกรรมดิจิทัลประเทศไทย (อีอีซีดี) และเน้นเรื่องการยกระดับเขตอุตสาหกรรมอัจฉริยะ เมืองอัจฉริยะไปพร้อมกันด้วย เพื่อให้มีความทันสมัย ใช้เทคโนโลยีเข้าไปบริหารดูแล ซึ่งมีทั้งหมด7 กิจกรรม ที่เป็นเมืองดิจิทัล เป็นการเสริมดิจิทัลเข้าไปในเมืองเก่า เช่น กทม. และสร้างเมืองใหม่ขึ้นมาโดยกำหนดพื้นที่ ขอให้ทุกติดตามดูด้วย เพื่อให้ห่วงโซ่การผลิตใหญ่ๆ อยู่ในประเทศไทยทั้งหมด
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า รัฐบาลได้เร่งรัดเรื่องไฟความเร็วสูง สนามบิน เพื่อให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในประเทศไทยมากขึ้น โดยปรับเงื่อนไขและสิทธิประโยชน์ แต่ต้องไม่เกิดปัญหาในระยะยาว วันนี้เราจะต้องเปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาส เพราะขณะนี้เรื่องการย้ายฐานการผลิตมีการเคลื่อนไหวเกิดขึ้นในทุกประเทศ เราจึงต้องทำอย่างไรที่จะให้นักลงทุนเข้ามาในประเทศเรามากขึ้น ต้องดึงดูดนักลงทุนทั่วโลกเพื่อสร้างงานสร้างอาชีพให้กับคนไทย วันนี้เราได้เจรจากับนักลงทุนหลายประเทศหลังจากที่ได้เดินหน้าไปแล้วกับซาอุดิอาระเบีย สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น ซึ่งเขาสนใจเข้ามาลงทุน โดยให้ไทยเป็นฐานการผลิตอุตสาหกรรมใหญ่ๆ หลายแห่งในประเทศไทย |
|
Back to top |
|
|
|