ข่าวรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน)

Wisarut · Posted: 30/03/2011 12:50 am Post subject:

ยุ่นยันไม่ทิ้งรถไฟเร็วสูง "สีม่วง"ติดเวนคืนไม่ย้าย
หน้าเศรษฐกิจ
ไทยโพสต์ 30 มีนาคม 2554 - 00:00

สคร.ยันญี่ปุ่นยังสนใจรถไฟความเร็วสูง 3 สาย เม.ย.นี้บินไปถกความคืบหน้า ด้าน "สุพจน์" เร่งรถไฟฟ้าสีม่วง หลังช้ากว่าแผน 1% ติดปัญหาเวนคืน

นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยว่า ญี่ปุ่นยังยืนยันว่าสนใจจะเข้าร่วมลงทุนในโครงการรถไฟความเร็วสูง 3 เส้นทาง คือ กรุงเทพฯ-เชียงใหม่, กรุงเทพฯ-ระยอง-ตราด และกรุงเทพฯ-อุบลราชธานี อยู่ แม้ว่าจะเกิดภัยพิบัติขึ้นในประเทศญี่ปุ่น โดยช่วงกลางเดือน เม.ย.นี้ สคร.จะเดินทางไปหารือกับนักลงทุนญี่ปุ่น เพื่อติดตามความคืบหน้า

อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 5 เม.ย.นี้ สคร.จะเสนอร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการลงทุนของภาคเอกชนในกิจการของรัฐ (ร่าง พ.ร.บ.PPP) ให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณา ซึ่งจะช่วยส่งเสริมให้เอกชนเข้ามาร่วมลงทุนกับรัฐบาลไทยมากขึ้น

นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ได้เร่งรัดการดำเนินโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-บางซื่อ หลังพบว่ามีความล่าช้า 1% จากเดิมที่ตั้งเป้าหมายจะดำเนินการให้เร็วกว่าแผนประมาณ 3% เนื่องจากมีปัญหาเรื่องของการเวนคืนที่ดิน โดยเฉพาะบริเวณเตาปูน และบริเวณสะพานพระนั่งเกล้า ติดปัญหาเรื่องของร้านขายยาอยู่ร้านเดียวที่ไม่ยอมย้าย ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 28 พ.ค.54 หากครบกำหนดแล้วไม่ย้ายออก จะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย คาดว่าภายในเดือน พ.ค.นี้ จะเวนคืนได้ทั้งหมด 100% และตั้งเป้าเปิดให้บริการวันที่ 5 ธ.ค.2557 เร็วกว่าแผนที่กำหนดเปิดต้นปี 2558.
.

mone · 3rd Class Pass Joined: 04/02/2009 Posts: 76

kikoo · Posted: 01/04/2011 4:21 pm Post subject:

^
อ่านบทความนี้แล้ว เป็นบทความที่อาจทำให้คลายข้อสงสัยของใครหลายคนได้เลยครับ และ อาจจะหักล้างข้อเท็จจริงที่สื่อมวลชนอื่นๆรู้(มาแบบผิดๆ)ก็ได้ครับ(และทำให้ผมกระจ่างชัดในเรื่องนี้มากขึ้น)
_________________
ความคืบหน้าโครงการปรับปรุงทางช่วงที่วัง-กันตัง
http://portal.rotfaithai.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=5618

nathapong · Posted: 03/04/2011 9:55 pm Post subject:

คุณ mone บอกว่า

Wisarut · Posted: 05/04/2011 11:30 am Post subject:

^^^
เกรงว่าจะได้นักข่าวและคอลัมนิสต์ที่ถ้าไม่ฉลาดแกมโกงก็โง่แกมหยิ่ง ถือว่าตัวเองเป็นพระผู้เป็นเจ้าผู้มีสิทธิ์เรียกร้องเอาซองขาวหนังสือพิมพ์ โดยเฉพาะในรูปค่าโฆษณา ได้ตามใจโดยที่ผู้ให้ข่าวปฏิเสธไม่ได้ไม่งั้นเจอเขียนแง่ลบตลอด โดยเฉพาะรายที่ไม่ถูกเส้น, คนไม่ถูกกัน หรือ คนผิดใจกัน

//---------------------------------------------------------------------

เร่งเครื่องรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ-หนองคาย ชงเข้าสภาตุลาฯคาดใช้งบ1.8 แสนล้าน
โดย ASTVผู้จัดการรายวัน 4 เมษายน 2554 19:53 น.

คาดชงรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ-หนองคายผ่านสภาต.ค. คาดใช้งบ1.8 แสนล้านบ.
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 4 เมษายน 2554 16:41 น.

สนข.จัดเสวนาเรื่อง รถไฟความเร็วสูงกับการเปลี่ยนแปลงประเทศไทย การเปลี่ยนแปลงจังหวัดหนองคาย ที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น วิทยาเขตหนองคายจัดขึ้น

หนองคาย-รถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ - หนองคาย เดินหน้า เหลือยกร่างข้อตกลงร่วมไทย - จีน เข้าสภาพิจารณาเห็นชอบ คาดรัฐบาลชุดใหม่ได้เซ็นข้อตกลงเดือนต.ค.นี้ ใช้งบ 180,000 ล้านบาท พร้อมวางโครงข่ายพัฒนารถไฟรางคู่ ซื้อหัวจักรใหม่เพิ่ม หากนายกรัฐมนตรีประกาศยุบสภาโครงการไม่สะดุด

นายประณต สุริยะ รองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) กระทรวงคมนาคม เปิดเผยก่อนการเสวนาเรื่อง รถไฟความเร็วสูงกับการเปลี่ยนแปลงประเทศไทย การเปลี่ยนแปลงจังหวัดหนองคาย ที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น วิทยาเขตหนองคายจัดขึ้น ว่า การดำเนินโครงการรถไฟความเร็วสูง ที่ผ่านมา สนข.ได้รับมอบหมายจากกระทรวงคมนาคมให้ศึกษาแผนแม่บทการพัฒนารถไฟความเร็วสูง ซึ่งได้ดำเนินการแล้ว รวมทั้งพัฒนาโครงข่ายรถไฟให้ทันสมัยและการบริการที่ดีขึ้น โดยเมื่อเดือนพ.ย. 2553 ครม.มีมติเห็นชอบแผนแม่บทในการพัฒนาโครงข่ายรถไฟ

สำหรับรถไฟความเร็วสูง รัฐบาลจีนได้ประสานความร่วมมือกับรัฐบาลไทยก่อนหน้านี้ ในเส้นทางจากกรุงเทพฯ - หนองคาย โดย นายวิทิต ทองโสภิต เลขานุการรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคม ระบุว่าน่าจะดำเนินการได้ทันทีเพื่อให้สอดรับกับรถไฟไทย - ลาว และ รถไฟจีน - ลาว โดยรถไฟจีน - ลาว ได้มีการลงนามความร่วมมือกันไปแล้วเมื่อเดือนเม.ย. 2553 ซึ่งตามแผนงานของจีนคาดว่าจะก่อสร้างในเดือนเม.ย.นี้

ในส่วนของรถไฟความเร็วสูงของไทย เส้นทางกรุงเทพฯ - หนองคาย รัฐบาลไทยได้ประสานไปยังรัฐบาลจีน เพื่อดำเนินการอยู่เป็นระยะ โดยได้ผ่านกรอบการเจรจาระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลจีนแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการยกร่าง รายละเอียดในบันทึกข้อตกลง (MOU) ที่จะไปลงนามร่วมกันระหว่าง 2 ประเทศ ซึ่งจะต้องนำรายละเอียดเข้าสู่ที่ประชุมรัฐสภาเพื่อให้ความเห็นชอบก่อน

งบประมาณในการดำเนินการ เนื่องจากเป็นเรื่องของรัฐบาลกับรัฐบาล ใน MOU จีนอยากให้เป็นการลงทุนคนละครึ่ง 50 : 50 แต่รัฐบาลไทยมาพิจารณาแล้วเห็นว่าไม่เหมาะ เนื่องจากไทยมีรายละเอียดข้อกฎหมายจำกัดมาก ดังนั้นในการยกร่างขั้นต้นฝ่ายไทยจะมีการตั้งบริษัทหรือองค์กรเข้ามาดูแลและถือหุ้นมากกว่าร้อยละ 51

ทั้งนี้ รถไฟสายกรุงเทพฯ-หนองคาย จะใช้งบประมาณ 180,000 ล้านบาท แต่ในขั้นตอนการก่อสร้างบริษัทขึ้นมาดำเนินการนั้นคงไม่ได้ถือหุ้นทั้งหมด อาจใช้ประมาณร้อยละ 30 ในการถือหุ้นครั้งแรก ซึ่งจะต้องมีการเจรจากันอีกครั้งว่าจะกำหนดสัดส่วนเท่าใดให้สอดคล้องกับข้อกฎหมายของประเทศ ส่วนที่เหลืออาจหาเงินกู้มาลงทุน หรือการระดมเงินทุนต่อไป

โครงการดังกล่าว นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เห็นชอบให้รีบดำเนินการ และหากมีการประกาศยุบสภาก็สามารถดำเนินการต่อได้ ไม่กระทบต่อการพัฒนาโครงการแต่อย่างใด

นายประณต กล่าวอีกว่า ล่าสุดกระทรวงคมนาคมได้เสนอแผนพัฒนาโครงข่ายรถไฟ เข้าสู่ ครม. เมื่อวันที่ 17 พ.ย.2553 ครม.เห็นชอบแผนที่จะมีการเพิ่มความแข็งแรงให้โครงข่ายที่มีในปัจจุบัน ทั้งการเปลี่ยนไม้หมอนรถไฟ การบำรุงรักษาทาง การเปลี่ยนรางให้เป็นขนาด 100 ปอนด์ทั้งหมด นอกจากนี้จะมีการหาหัวรถจักรใหม่เพิ่มเติม และการขยายทางคู่ เพราะโครงข่ายรถไฟปัจจุบันต้องรอการสับหลีกรถไฟทำให้เสียเวลา จึงต้องเน้นการทำรางคู่เพิ่มเติม โดยในระยะแรกจะดำเนินการ 737 กิโลเมตร ใน 5 ปีแรก

ส่วนรถไฟระหว่างประเทศไทย - ลาว จากสถานีหนองคาย - สถานีท่านาแล้ง จะต้องมีความร่วมมือระหว่างไทยกับจีน และไทยกับลาว และจะต้องเพิ่มความใกล้ชิดกันมากขึ้น ขณะเดียวกัน สนข.กำลังศึกษาความเหมาะสมของสถานีขนส่งสินค้าคอนเทนเนอร์ (คอนเทนเนอร์ยาร์ด CY) ในการให้บริการขนส่งสินค้าให้สอดคล้องกับโครงข่ายรถไฟในปัจจุบัน ซึ่งจากการระดมความคิดเห็นของทุกภาคส่วนให้เร่งดำเนินการ เพื่อให้การขนส่งทางรถไฟเร็วขึ้น

การค้าขายจากจีนตอนใต้สินค้าจะทะลักเข้ามา การท่องเที่ยวจะบูมอีกครั้ง จังหวัดหนองคายและใกล้เคียงจะต้องปรับตัว ให้สอดประสานกับการค้าและการท่องเที่ยวให้มากขึ้น ขณะเดียวกันนโยบายขยายรถไฟรางคู่มาถึงหนองคายนั้น การค้าขายจะต้องพัฒนามากขึ้น มีผลต่อเนื่องไปถึงที่อยู่อาศัย วิถีชีวิต และสังคมของชาวหนองคายที่ต้องเปลี่ยนแปลงไปบ้าง และเมื่อมีการเปิดเสรีอาเซียน (AEC) ในเร็ว ๆ นี้จะทำให้หนองคายได้รับอานิสงส์ต่าง ๆ จึงต้องเตรียมการรองรับให้เหมาะสมในทุกด้าน

ด้านนายวิทิต ทองโสภิต เลขานุการ รมว.คมนาคม กล่าวเพิ่มเติมว่า แม้ว่าที่ผ่านมา การประชุมสภาจะล่มหลายครั้งทำให้มีกฎหมายกว่า 100 เรื่องที่จะต้องนำเข้าพิจารณาผ่านความเห็นชอบ แต่เชื่อว่า ส.ส.ทุกคน มีความประสงค์ให้กฎหมายที่เหลือผ่านสภา และน่าจะทำบันทึกข้อตกลงกับรัฐบาลจีนได้ในเร็ว ๆ นี้

หลังจากที่นายกรัฐมนตรีจะยุบสภาต้นเดือนพฤษภาคมนี้ กรอบข้อตกลงดังกล่าวน่าจะบรรลุได้ภายในเดือนตุลาคมปีนี้ สามารถให้รัฐบาลชุดต่อไปนำเข้าสภาเพื่อพิจารณาอนุมัติ ลงนามกับรัฐบาลจีนภายในปลายปีนี้ จะมี 5 เส้นทาง

ล่าสุดมีการเพิ่มเติมสายอรัญประเทศ จะต้องทำควบคู่กันไปกับ สายกรุงเทพฯ-หนองคาย ถ้าเป็นไปตามกรอบเวลาที่วางไว้น่าจะเริ่มก่อสร้างได้ปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า ปี 2560 น่าจะได้เห็นรถไฟความเร็วสูงเส้นทางกรุงเทพฯ-หนองคาย

Wisarut · Posted: 05/04/2011 11:36 am Post subject:

มาดูเวอร์ชัน มหาวิทยาลัยขอนแก่นดีกว่า:

//--------------------------------

วิทยาเขตหนองคาย จัดเสวนา“รถไฟความเร็วสูงความเปลี่ยนแปลงประเทศไทยควาเปลี่ยนแปลงจังหวัดหนองคาย
เขียนโดย nkc
จ. 04 เม.ย. 2554

อาจารย์รัฐการ บัวศรี รองผู้อำนวยการฝ่ายชุมชนสัมพันธ์และวิเทศสัมพันธ์ และเป็นอาจารย์ประจำสายวิชาบริหารธุรกิจและการจัดการ สาขาธุรกิจระหว่างประเทศ ได้จัดโครงการเสวนาหัวข้อ “รถไฟความเร็วสูง ความเปลี่ยนแปลงประเทศไทย ความเปลี่ยนแปลงจังหวัดหนองคาย” โดยเชิญ นายวิทิต ทองโสภิต เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ลูกชาย รศ. นายแพทย์นพดล ทองโสภิต อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น และนายประณต สุริยะ รองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร เป็นวิทยากรร่วมเสวนา ทั้งนี้ได้รับเกียรติจาก ดร.สุรพล แสนสุข ผู้อำนวยการวิทยาเขตหนองคาย เป็นประธานเปิดงาน อาจารย์ศักดิ์สุริยา ไตรยราช รักษาการหัวหน้าสายวิชาบริหารธุรกิจและการจัดการ เป็นผู้กล่าวรายงานเมื่อวันศุกร์ที่ 1 เมษายน 2554 ณ ห้องประชุม NK 2217 อาคารเรียนรวมและปฏิบัติการ วิทยาเขตหนองคาย

อาจารย์รัฐการ บัวศรี กล่าวว่า ได้จัดโครงการนี้ขึ้นอันเนื่องมาจาก รัฐบาลไทยมีโครงการความร่วมมือระหว่าง รัฐบาลจีน ในการก่อสร้างระบบขนส่งรถไฟความเร็วสูง โดยกำหนดเส้นทางหลักไว้ 2 เส้นทางคือ

1. เส้นทาง หนองคาย – กรุงเทพฯ (บางซื่อ) และ
2. กรุงเทพฯ (บางซื่อ) – ปาดังเบซาร์

โดยเส้นทางสายที่ 1 นี้จะต่อเชื่อมไปยัง นครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว – สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม – สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนจีน ซึ่งรถไฟความเร็วสูงนี้จะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมากมายต่อประเทศไทย โดยเฉพาะจังหวัดหนองคาย มหาวิทยาลัยขอนแก่น วิทยาเขตหนองคาย มีพื้นที่ในเขตจังหวัดหนองคาย จะได้รับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน เพื่อเป็นการเตรียมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น และเป็นการให้ความรู้ ให้ข้อมูลที่ถูกต้องเป็นจริงจากบุคคลที่ดูแลด้านนี้โดยตรง

ด้านนายวิทิต ทองโสภิต เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ประชาชนชาวไทย โดยเฉพาะจังหวัดหนองคาย ควรจะตื่นตัวพร้อมรับความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ เนื่องจากประเทศจีน เป็นประเทศที่มีประชากรเป็นจำนวนมาก ย่อมมีอัตรากำลังในการซื้อมากจังหวัดหนองคาย จะเป็นจังหวัดที่มีการหมุนเวียนในแง่ของเม็ดเงินในจำนวนที่สูง ประชาชนในจังหวัดหนองคาย ควรมีการปรับตัวเพื่อเตรียมความพร้อมรับผลกระทบที่จะเกิดขึ้น

ทั้งนี้การจัดเสวนาฯมีผู้ให้ความสนใจเข้าร่วมรับฟัง กว่า 300 คน ประกอบด้วย นักศึกษาวิทยาเขตหนองคาย ตัวแทนส่วนราชการในจังหวัดหนองคาย ผู้ประกอบการต่างๆในจังหัดหนองคายและจังหวัดอุดรธานี โดยในช่วงท้ายของการเสวนาได้เปิดโอกาสให้ผู้เข้ารับฟังได้ซักถามข้อมูลเพิ่มเติมจากวิทยากร ทั้ง 2 ท่าน

Wisarut · Posted: 09/04/2011 2:10 pm Post subject:

รถไฟความเร็วสูงสะดุด ส่อโยนรัฐบาลใหม่ชี้ขาด
ข่าวโลกธุรกิจ
แนวหน้า 9 เมษายน 2554

คมนาคม ยอมรับโครงการรถไฟความเร็วสูง ล่าช้า โทษรัฐบาลจีนยื้อตอบรับ "เอ็มโอยู" ที่ไทยเสนอไป ระบุขึ้นอยู่กับรัฐบาลชุดใหม่จะตัดสินใจโครงการนี้อย่างไร

นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า กระทรวงคมนาคมได้ส่งร่างบันทึกความเข้าใจร่วมกัน(เอ็มโอยู) โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าความเร็วสูง เส้นทางกรุงเทพฯ-หนองคายไปให้ทางรัฐบาลจีนพิจารณาแล้ว หลังจากคณะกรรมการประสานงานความร่วมมือเศรษฐกิจไทย-จีน ที่มีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เห็นชอบร่างดังกล่าว แต่ล่าสุดทางการจีนยังไม่ตอบรับเอ็มโอยูที่เสนอไป ไม่ทราบว่าติดขัดปัญหาใด

"ฝ่ายไทยได้ส่งร่างเอ็มโอยูไปให้จีนพิจารณาแล้ว แต่ทางจีนยังไม่ตอบกลับมาว่า จะเจรจากับไทยได้เมื่อไหร่ ดังนั้นคาดว่าจะไม่สามารถลงนามในเอ็มโอยูร่วมกันได้ทันรัฐบาลชุดนี้"

ทั้งนี้หากไม่สามารถลงนามในเอ็มโอยูได้ทันรัฐบาลชุดนี้ ก็คงต้องเสนอไปยังรัฐบาลชุดใหม่พิจารณาแทน ส่วนจะมีแนวทางดำเนินงานอย่างไร ก็ขึ้นอยู่กับนโยบาย เพราะเป็นอำนาจของรัฐบาลใหม่ที่จะดำเนินการได้อยู่แล้ว

นายสุพจน์ กล่าวว่า เนื้อหาหลักที่สำคัญที่ฝ่ายได้ยืนยันในร่าง เอ็มโอยู ที่ส่งไปยังจีน คือ สัดส่วนการถือหุ้น ในรัฐวิสาหกิจที่จะจัดตั้งขึ้นมาดำเนินโครงการดังกล่าว โดยไทยยืนว่าจะต้องถือในสัดส่วน 51% ส่วนจีน 49% ขณะเดียวกันยังให้เปิดกว้างในเรื่องของเทคโนโลยี และการก่อสร้าง จากที่จีนเสนอให้ใช้เทคโนโลยี และผู้รับเหมาจีน

รายงานข่าวแจ้งว่า โครงการดังกล่าวมีระยะทาง 615 กิโลเมตร เงินลงทุนประมาณ 1.5 แสนล้านบาท ก่อนหน้านี้กระทรวงคมนาคม ตั้งเป้าหมายเจรจาหารือเกี่ยวกับร่างเอ็มโอยูให้แล้วเสร็จภายในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา และในเดือนเมษายน จะสามารถลงนามความร่วมมือระหว่างกันได้ ก่อนดำเนินการศึกษาทางวิศวกรรมและสำรวจออกแบบโครงการประมาณ 1 ปี เริ่มก่อสร้างปลายปี 2555 ใช้เวลาก่อสร้าง 4 ปี สามารถเปิดให้บริการได้ในปี 2559 อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาทางจีนเคยยื่นข้อเสนอขอถือหุ้นในสัดส่วนที่มากกว่าไทย รวมทั้งขอให้ผู้รับเหมาจากจีนเป็นผู้ก่อสร้าง

รถไฟไทย-จีนส่อเค้าแท้ง
ทีมข่าวเศรษฐกิจ
ไทยรัฐออนไลน์
9 เมษายน 2554 05:00

คมนาคมหวั่นไม่สามารถลงนามเอ็มโอยูโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง เส้นทางกรุงเทพฯ-หนองคาย ได้ทันรัฐบาลชุดนี้ ชี้หากส่งต่อรัฐบาลชุดใหม่พิจารณา ยังไม่รู้ว่าจะมีนโยบายอย่างไร

นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า กระทรวงคมนาคมได้ส่งร่างบันทึก ความเข้าใจร่วมกัน (เอ็มโอยู) โครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง เส้นทางกรุงเทพฯ-หนองคาย ให้ทางจีน และได้ส่งเอกสารไปให้ฝ่ายจีนพิจารณาแล้ว จากนี้ต้องรอทางการจีนตอบกลับมาว่ามีปัญหาเรื่องอะไรหรือไม่ และต่อจากนั้นจะต้องเจรจาร่วมกันเพื่อสรุปร่างเอ็มโอยูฉบับสมบูรณ์อีกครั้ง ซึ่งหากการพิจารณาล่าช้า อาจไม่ทันในรัฐบาลชุดปัจจุบันอย่างแน่นอน เพราะต้องผ่านขั้นตอนอีกจำนวนมาก

ทั้งนี้ หากไม่สามารถลงนามในเอ็มโอยูได้ทันรัฐบาลชุดนี้ ต้องเสนอไปยังรัฐบาลชุดใหม่พิจารณาแทน ส่วนรัฐบาลชุดใหม่จะมีแนวทางดำเนินงานอย่างไร ขึ้นอยู่กับนโยบาย เพราะเป็น อำนาจของรัฐบาลที่จะดำเนินการได้อยู่แล้ว โดยสาระสำคัญที่ได้ยืนยันในร่างเอ็มโอยู คือ สัดส่วนการถือหุ้นในรัฐวิสาหกิจที่จะจัดตั้งขึ้นมาดำเนินโครงการ ซึ่งไทยจะต้องถือในสัดส่วน 51% ส่วน จีน 49% ขณะเดียวกัน ยังให้เปิดกว้างในเรื่องของเทคโนโลยี และการก่อสร้าง จากที่จีนเสนอให้ใช้เทคโนโลยี และผู้รับเหมาจีน

สำหรับโครงการรถไฟความเร็วสูงนี้ มีระยะทาง 615 กิโลเมตร เงินลงทุนประมาณ 150,000 ล้านบาท ก่อนหน้านี้ กระทรวงคมนาคมตั้งเป้าหมายเจรจาหารือเกี่ยวกับร่างเอ็มโอยูให้แล้วเสร็จภายในเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา และในเดือน เม.ย. จะลงนามความร่วมมือได้ ก่อนดำเนินการศึกษา ทางวิศวกรรมและสำรวจออกแบบโครงการประมาณ 1 ปี เริ่มก่อสร้างปลายปี 55 ใช้เวลาก่อสร้าง 4 ปี สามารถเปิดให้บริการได้ในปี 59.

Wisarut · Posted: 11/04/2011 11:59 am Post subject:

รถไฟ'ไทย-จีน'เกิดไม่ทันยุบสภา-ชี้'ร่างเอ็มโอยู'เพิ่งทำเสร็จ-แล้วแต่รัฐบาลหน้าชี้ชะตา

--มติชน ฉบับวันจันทร์ที่ 11 เมษายน 2554 (กรอบบ่าย)--

อภิโปรเจ็คต์รถไฟความเร็วสูงไทย-จีน คาดหมดสิทธิเกิดในรัฐบาลชุดนี้ ต้องโยนให้รัฐบาลหน้าทำคลอดแทน คมนาคมเพิ่งส่งร่างเอ็มโอยูให้รัฐบาลจีนพิจารณา กว่าจะตอบกลับมาไม่ทันยุบสภาแน่แบะท่าแล้วแต่รัฐบาลใหม่จะสานต่อหรือทิ้งขว้าง

นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า กระทรวงคมนาคมได้ส่งร่างบันทึกความเข้าใจร่วมกัน (เอ็มโอยู)โครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง เส้นทางกรุงเทพฯ-หนองคายให้ทางรัฐบาลจีนพิจารณาแล้ว หลังจากคณะกรรมการประสานงานความร่วมมือเศรษฐกิจไทย-จีนที่มีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เห็นชอบร่างดังกล่าวขั้นตอนหลังจากนี้อยู่ระหว่างรอจีนตอบกลับมาว่ามีปัญหาในเรื่องอะไรหรือไม่ หลังจากนั้น ก็จะมีการเจรจาร่วมกันเพื่อสรุปร่างเอ็มโอยูฉบับสมบูรณ์อีกครั้ง เบื้องต้นคาดว่าจะไม่แล้วเสร็จในรัฐบาลชุดนี้ เนื่องจากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ประกาศว่าจะมีการยุบสภาภายในสัปดาห์แรกของเดือนพฤษภาคมนี้ คงต้องรอให้รัฐบาลชุดใหม่เข้ามาดำเนินการต่ออย่างแน่นอน

"ฝ่ายไทยได้ส่งร่างเอ็มโอยูไปให้ฝ่ายจีนพิจารณาแล้ว แต่ทางจีนยังไม่ได้ตอบกลับมาว่าจะเข้ามาเจรจากับไทยได้เมื่อไหร่ จึงคาดว่าจะไม่สามารถลงนามในเอ็มโอยูร่วมกันได้ทันรัฐบาลชุดนี้"

ทั้งนี้ หากไม่สามารถลงนามในเอ็มโอยูได้ทันรัฐบาลชุดนี้ ก็คงต้องเสนอไปยังรัฐบาลชุดใหม่พิจารณาแทน ส่วนรัฐบาลชุดใหม่จะมีแนวทางดำเนินงานอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับนโยบาย เพราะเป็นอำนาจของรัฐบาลที่จะดำเนินการได้อยู่แล้ว

นายสุพจน์กล่าวว่า เนื้อหาหลักสำคัญที่ฝ่ายไทยได้ยืนยันในร่างเอ็มโอยูที่ส่งไปยังจีนคือสัดส่วนการถือหุ้นในรัฐวิสาหกิจที่จะจัดตั้งขึ้นมาเพื่อดำเนินโครงการดังกล่าว โดยไทยจะต้องถือหุ้นในสัดส่วน 51% ส่วนจีน 49%ขณะเดียวกัน ยังให้เปิดกว้างในเรื่องของเทคโนโลยีและการก่อสร้างจากที่จีนเสนอให้ใช้เทคโนโลยีและผู้รับเหมาจีน

รายงานข่าวแจ้งว่า โครงการดังกล่าวมีระยะทาง 615 กิโลเมตร เงินลงทุนประมาณ1.5 แสนล้านบาท ก่อนหน้านี้กระทรวงคมนาคม ตั้งเป้าหมายเจรจาหารือเกี่ยวกับร่างเอ็มโอยูให้แล้วเสร็จ ภายในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา และในเดือนเมษายนจะสามารถลงนามความร่วมมือระหว่างกันได้ ก่อนดำเนินการศึกษาทางวิศวกรรมและสำรวจออกแบบโครงการประมาณ 1 ปี เริ่มก่อสร้างปลายปี2555 ใช้เวลาก่อสร้าง 4 ปี สามารถเปิดให้บริการได้ในปี 2559

แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล กล่าวว่ากรณีที่มีกระแสข่าวว่าร่างกรอบเจรจาความร่วมมือการพัฒนากิจการรถไฟระหว่างไทยกับประเทศจีน อาจจะไม่ทันรัฐบาลชุดนี้นั้น จากข้อมูลที่มีอยู่ทราบว่าขณะนี้รัฐบาลได้มีการพูดคุยและพยายามผลักดันให้ร่างดังกล่าวเสร็จทันก่อนยุบสภาสำหรับสัดส่วนการถือหุ้นไทยคงดำเนินตามกฎหมายที่ระบุว่ารัฐบาลไทยถือหุ้นอย่างน้อย 51% เช่นเดิม

Mongwin · Posted: 11/04/2011 2:29 pm Post subject:

กบส.ไฟเขียวภาคเอกชนฯประกวดราคาโครงการรถไฟความเร็วสูง 3 เส้นทาง
ฐานเศรษฐกิจ วันจันทร์ที่ 11 เมษายน 2011 เวลา 14:20 น.

วันนี้ (11เม.ย.54) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะคณะกรรมการพัฒนาระบบการบริหารจัดการขนส่งสินค้าและบริการของประเทศ (กบส.) ครั้งที่ 2/2554 ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

โดยที่ประชุมฯ รับทราบรายงานผลการดำเนินการจัดทำการทดสอบความสนใจภาคเอกชน (Market Sounding) ภายใต้โครงการรถไฟความเร็วสูงในเส้นทางกรุงเทพฯ - ระยอง และกรุงเทพฯ - เชียงใหม่ ของคณะกรรมการเพื่อพิจารณาแนวทางการเพิ่มบทบาทภาคเอกชนในรูปแบบ Public Private Partnerships

โดยเห็นควรให้เปิดโอกาสให้ภาคเอกชนจากทุกประเทศสามารถเข้ามาประกวดราคาในการร่วมดำเนินโครงการรถไฟความเร็วสูงในเส้นทางกรุงเทพฯ - เชียงใหม่ กรุงเทพฯ - ระยอง และกรุงเทพฯ - อุบลราชธานี พร้อมทั้งมอบหมายให้กระทรวงคมนาคม รับไปศึกษาความเป็นไปได้โครงการ (Feasibility Study) ในการพัฒนาเส้นทางเพื่อการขนส่งสินค้าด้วยรวมทั้งควรศึกษาถึงความเหมาะสมของกำหนดเส้นทาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขยายเส้นทางกรุงเทพฯ - ระยองไปจนถึงจังหวัดตราด เพื่อรองรับการขนส่งผู้โดยสารและสินค้าชายแดน รวมทั้งศึกษาความเหมาะสมของโครงสร้างการบริหารจัดการระบบรถไฟความเร็วสูงของประเทศ และการกำหนดหน่วยงานรับผิดชอบที่เหมาะสมก่อนเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป

ทั้งนี้ ที่ประชุมฯ มีการพิจารณาเรื่องโครงการรถไฟความเร็วสูงเส้นทางกรุงเทพฯ - เชียงใหม่ และกรุงเทพฯ - ระยอง โดยที่ ประชุมมีความเห็น ดังนี้

1) การพัฒนารถไฟความเร็วสูงนอกจากเส้นทางที่ได้มีการหารือร่วมกับประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนเบื้องต้นใน 2 เส้นทางแล้ว เห็นควรให้เปิดโอกาสให้ภาคเอกชนจากทุกประเทศสามารถเข้ามาประกวดราคาในการร่วมดำเนินโครงการในเส้นทางที่เหลือทั้งหมดได้แก่ กรุงเทพฯ - เชียงใหม่ กรุงเทพฯ - ระยอง และกรุงเทพฯ - อุบลราชธานี

2) สำหรับขอบเขตการดำเนินงานนั้น การพัฒนารถไฟความเร็วสูงที่มากกว่า 250 กม./ชม. ในต่างประเทศจะใช้สำหรับขนส่งผู้โดยสารเพียงอย่างเดียว ซึ่งในประเทศไทยการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูงที่จะดำเนินการในอนาคตอาจต้องพิจารณาให้สามารถใช้กับการขนส่งสินค้าด้วย เพื่อให้การลงทุนเกิดความคุ้มค่ามากขึ้น โดยอาจต้องมีการออกแบบความเร็วในการให้บริการที่เหมาะสม รวมทั้งแนวเส้นทางที่จะดำเนินการด้วย

3) ในกรณีที่จะให้เอกชนเข้าร่วมลงทุน หน่วยงานที่รับผิดชอบโครงการควรจะต้องเตรียมความพร้อมในเรื่องที่ดินที่จะต้องใช้ในการก่อสร้างโครงสร้างให้แล้วเสร็จโดยเฉพาะในเส้นทางที่เขตทางรถไฟไม่เพียงพอ และต้องทำการเวนคืนที่ดินเพิ่มเติม เพื่อป้องกันความล่าช้าในการส่งมอบพื้นที่ให้แก่เอกชนที่เข้าร่วมลงทุน