RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Ads Service

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311296
ทั่วไป:13272722
ทั้งหมด:13584018
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าวรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน)
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าวรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน)
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 305, 306, 307 ... 547, 548, 549  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42746
Location: NECTEC

PostPosted: 15/12/2017 12:22 pm    Post subject: Reply with quote

บริเวณที่เรียกว่า มอหลักหิน ระหว่างสถานี ปางอโศก-บันไดม้่า ที่นายกรัฐมนตรี จะมาตรวจงานการเริ่มต้นก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง เส้นทางนครราชสีมา-กรุงเทพ ในวันที่21ธันวาคม พ.ศ.2560
https://www.facebook.com/teerayoot.khoonkhum/posts/1564522536928835

รถไฟไทยจีนในมุมมองของจีน : Sino-Thai Railway and Relations
http://ippreview.com/index.php/Blog/single/id/613.html

เริ่มแล้วรถไฟความเร็วสูง ช่วง1 นายกฯ มาปากช่อง ลงนามผู้แทนจีน 21ธ.ค.
โดย ไทยรัฐออนไลน์ 14 ธันวาคม พ.ศ.2560 20:28

วันที่ 14 ธ.ค. นายสุรพันธ์ ศิลปสุวรรณ นายอำเภอปากช่อง จ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า ในเวลาประมาณ 14.30 น. วันที่ 21 ธ.ค. 60 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะเดินทางมาที่ มอหลักหิน ริมทางรถไฟสายภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ช่วงเสาโทรเลข 170/3-4 หมู่ที่ 5 บ้านปางแจ้ง ต.กลางดง เป็นประธานในพิธีเริ่มการก่อสร้างโครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีน ในการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงช่วงที่ 1 ช่วงกรุงเทพมหานคร-นครราชสีมา โดยสถานที่แห่งนี้เป็นจุดที่ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เคยเสด็จฯ มาทอดพระเนตรรางรถไฟ เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2441 ในการก่อสร้างรางรถไฟสายแรกของประเทศไทย เป็นวันที่จะครบ 119 ปี พอดี จึงนับว่าเป็นพื้นที่ที่สำคัญของประเทศไทยอีกแห่งหนึ่ง

สำหรับพื้นที่จุดมอหลักหินแห่งนี้ มีหลักศิลาที่ได้จารึกข้อความไว้ และยังมีพระบรมรูป รัชกาลที่ 5 ประดิษฐานอยู่ โดยพื้นที่โดยรอบการรถไฟแห่งประเทศไทย และกรมทางหลวงได้ปรับปรุงพื้นที่ทั้งตั้งเต็นท์ขนาดใหญ่ เพื่อเตรียมที่นั่งให้ผู้เกี่ยวข้องได้รับพันคน พร้อมเตรียมจัดสถานที่จอดรถของเอกชนที่อยู่ติดบริเวณที่จัดงาน 50 ไร่ จากการเข้าร่วมประชุมที่การรถไฟแห่งประเทศไทย พิธีครั้งนี้จะมีการร่วมทำสัญลักษณ์ระหว่าง พลเอกประยุทธ์ นายกรัฐมนตรี และผู้แทนจากรัฐบาลจีนด้วย
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42746
Location: NECTEC

PostPosted: 15/12/2017 11:25 am    Post subject: Reply with quote

เวอร์ชันญี่ปุ่น เป็นดั่งนี้:

Japan says Thai bullet train to cost nearly $13bn

Economic benefits may not outweigh financial burden for Bangkok

Hiroshi Kotani, Nikkei Staff Writer
December 15, 2017 4:51am JST

BANGKOK -- Japan estimates that construction of a shinkansen-style bullet train would cost the Thai government 420 billion baht ($12.9 billion), a price Bangkok may not be willing to pay.

Japan's State Minister of Transport Takao Makino handed a report to Thai Transport Minister Arkhom Termpittayapaisith on Thursday for a 670km bullet train running from Bangkok to Chiang Mai, estimating the project's profitability and economic impact on surrounding areas.

The Thai government will review the proposal and aims to convene a meeting to discuss the plan in about three months, Arkhom said.

Should the Thai government move forward with the proposal, work would occur simultaneously with another Japanese bullet train project in western India. Construction would begin in 2019 with the first 380km of track from Bangkok to Phitsanulok scheduled to open in 2025.

The plan calls for 12 stations between the Bangkok and Chiang Mai terminals. The whole trip would take about three and a half hours with top speeds reaching 300kph. The entire line would be slightly shorter than the Tokyo-Aomori shinkansen through northeastern Japan.

The largest issue is whether Bangkok would be willing to pay for the project. Tokyo has offered support, including low-interest development assistance loans, but some in Thailand argue that the financial burden is too heavy for the country's wallet.

Riding the entire line from end to end would cost some 1,200 baht, said Arkhom. The figure reflects domestic price levels and a desire to compete with low-cost airlines. This is far cheaper than Japan's shinkansen, which could impact the operating company's profitability. Thai authorities' assessment of Tokyo's demand projections will also come into play.

//------------

พร้อมจ่ายไหม? ไฮ-สปีด กรุงเทพ-เชียงใหม่ 1,200 บ.
15 ธันวาคม 2560
Last update 15 ธันวาคม 2560 10:36

ญี่ปุ่นชงรถไฟความเร็วสูง กรุงเทพ-เชียงใหม่ เสนอกระทรวงคมนาคม เคาะมูลค่าก่อสร้าง 420,000 ล้านบาท ค่าโดยสารตกประมาณ 1,200 บาท เดินทาง 3 ชั่วโมงครึ่ง
เว็บไซต์สื่อญี่ปุ่น Nikkei Asian Review รายงานในวันศุกร์ที่ 15 ธันวาคม ว่า รัฐมนตรีขนส่งของญี่ปุ่น ทาเคโอะ มาคิโนะ เสนอรายงานผลการศึกษาความเหมาะสมโครงการรถไฟความเร็วสูง เส้นทางกรุงเทพ-เชียงใหม่ ให้แก่รัฐมนตรีคมนาคมของไทย นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ แล้วเมื่อวันพฤหัสบดี

รายงานฉบับนี้ประเมินผลกำไรและผลทางเศรษฐกิจต่อพื้นที่ใกล้เคียงโครงการ รถไฟความเร็วสูงสายนี้มีความยาว 670 กม. มีทั้งหมด 12 สถานี ใช้เวลาเดินทาง 3 ชั่วโมงครึ่ง ทำความเร็วสูงสุด 300 กม./ชม.

หากคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ งานก่อสร้างจะเริ่มในปี 2562 โดยมีกำหนดเปิดใช้เส้นทางช่วงแรก กรุงเทพ-พิษณุโลกในปี 2568

นายอาคมกล่าวว่า รัฐบาลไทยจะพิจารณาโครงการนี้ และเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชุมหารือกันภายในเวลา 3 เดือน และว่า ค่าโดยสารตลอดสายประมาณ 1,200 บาท ราคาตั๋วดังกล่าวกำหนดโดยคำนึงถึงหลายปัจจัย เช่น ค่าครองชีพ การแข่งขันกับเที่ยวบินราคาประหยัด


นิกเกอิ เอเชียน รีวิว รายงานด้วยว่า คำถามข้อใหญ่คือ รัฐบาลไทยพร้อมลงทุนในโครงการนี้หรือไม่ เนื่องจากโครงการมีมูลค่าสูงมาก อย่างไรก็ดี ญี่ปุ่นเสนอที่จะให้ความช่วยเหลือในรูปเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ ทั้งนี้ ฝ่ายไทยคงพิจารณาตัวเลขประมาณการจำนวนผู้โดยสารด้วย.


Last edited by Wisarut on 15/12/2017 12:30 pm; edited 1 time in total
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42746
Location: NECTEC

PostPosted: 15/12/2017 10:43 am    Post subject: Reply with quote

เร่งไฮสปีดเทรนไทย-ญี่ปุ่น คาดเปิดประมูลปี62 ค่าตั่ว1,088บาท

15 ธันวาคม 2560 - 00:00

เร่งเดินหน้ารถไฟความเร็วสูงไทย-ญี่ปุ่น คาดเปิดประมูลในปี 2562 พร้อมเคาะบัตร โดยสารกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ 1,088 บาทต่อคน

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการรถไฟความเร็วสูงความร่วมมือระหว่างไทย-ญี่ปุ่น เส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ระยะทาง 673 กม. วงเงิน 4.2 แสนล้านบาท ว่าขณะนี้ญี่ปุ่นได้สรุปรายงานผลการศึกษาระยะที่ 1 กรุงเทพฯ-พิษณุโลก เสร็จเรียบร้อยแล้ว ระยะทาง 380 กม. มูลค่าการลงทุน 2.8 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นการลงทุนเกี่ยวกับงานโยธา อาณัติสัญญาณ ระบบรถ และการบำรุงรักษา หลังจากนี้จะเร่งสรุปแนวทางดำเนินโครงการที่ชัดเจนก่อนเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายในเดือน ก.พ.2561

นานอาคมกล่าวว่า หาก ครม.อนุมัติผลการศึกษา จะส่งให้ฝ่ายญี่ปุ่นออกแบบรายละเอียดการก่อสร้าง เพื่อแบ่งสัญญาออกเป็นตอนไป ก่อนดำเนินการร่างเอกสารประกวดราคา (ทีโออาร์) แล้วส่งต่อไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คาดจะแล้วเสร็จภายในปี 61 จากนั้นจะทยอยเปิดประมูลโครงการในเฟส1 กรุงเทพฯ-พิษณุโลก เนื่องจากเส้นทางเฟส 1 นั้นผ่านการรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) เรียบร้อยแล้ว สามารถเดินหน้าได้เลย ขณะนี้ได้สั่งให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ไปพิจารณารายละเอียดภายใน 3 เดือน

อย่างไรก็ตาม ด้านค่าโดยสารนั้นได้กำหนดค่าแรกเข้าไว้ที่ 80 บาท และคิดค่าเดินทางกิโลเมตรละ 1.5 บาท ส่งผลให้ค่าโดยสารช่วงเฟส 1 กรุงเทพฯ-พิษณุโลก ระยะทาง 380 กม. นั้นจะมีค่า โดยสารราว 650 บาท ขณะที่ค่าโดยสารตลอดสายช่วงกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ระยะทาง 673 กม. จะอยู่ที่ราว 1,088 บาท
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42746
Location: NECTEC

PostPosted: 15/12/2017 10:34 am    Post subject: Reply with quote

ไฮสปีดเทรน “ไทย-ญี่ปุ่น” คืบหน้า! เคาะราคา “กรุงเทพฯ-เชียงใหม่” 1,089 บาท
14 ธันวาคม 2560

“คมนาคม” เคาะค่าโดยสารรถไฟความเร็วสูงไทย-ญี่ปุ่น เส้นทาง “กรุงเทพฯ-เชียงใหม่” ค่าแรกเข้า 80 บาท คิดตามระยะทาง กม.ละ 1.50 บาท รวมทั้งเส้นราคา 1,089 บาท พร้อมเร่งปั้น TOR แล้วเสร็จภายในปีหน้า ก่อนเดินหน้าทยอยเปิดประมูลเฟสแรกปี 62 เล็งดึงเอกชนร่วมทุนพีพีพีสร้างเฟสแรก มูลค่า 2.8 แสนล้าน

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการรถไฟความเร็วสูง ความร่วมมือระหว่างไทย-ญี่ปุ่น เส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ระยะทาง 673 กม. วงเงิน 4.2 แสนล้านบาทว่า ขณะนี้ญี่ปุ่นได้สรุปรายงานผลการศึกษาระยะที่ 1 กรุงเทพฯ-พิษณุโลก เสร็จเรียบร้อยแล้ว ระยะทาง 380 กม. มูลค่าการลงทุน 2.8 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นการลงทุนเกี่ยวกับงานโยธา อาณัติสัญญาณ ระบบรถ และการบำรุงรักษา หลังจากนี้จะเร่งสรุปแนวทางดำเนินโครงการที่ชัดเจนก่อนเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี หรือ ครม.ภายในเดือน ก.พ. 2561

ทั้งนี้ หากครม.อนุมัติผลการศึกษาได้จะส่งให้ฝ่ายญี่ปุ่นออกแบบรายละเอียดการก่อสร้างเพื่อแบ่งสัญญาออกเป็นตอนไป ก่อนดำเนินการร่างเอกสารประกวดราคา หรือ TOR แล้วส่งต่อไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2561 ก่อนทยอยเปิดประมูลโครงการบางช่วงในส่วนของเฟส 1 กรุงเทพฯ-พิษณุโลก วงเงิน 2.8 แสนล้านบาทในปีต่อไปหรือปี 2562 เนื่องจากเส้นทางเฟส 1 นั้นผ่านการรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรือ EIA เรียบร้อยแล้วสามารถเดินหน้าได้เลย

อย่างไรก็ตาม ด้านค่าโดยสารนั้นได้กำหนดค่าแรกเข้าไว้ที่ 80 บาทและคิดค่าเดินทางกิโลเมตรละ 1.5 บาท ส่งผลให้ค่าโดยสารช่วงเฟส 1 กรุงเทพฯ-พิษณุโลก ระยะทาง 380 กม. นั้นจะมีค่าโดยสารราว 650 บาท ขณะที่ค่าโดยสารตลอดสายช่วงกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ระยะทาง 673 กม. จะอยู่ที่ราว 1,089 บาท

“รู้สึกยินดีที่โครงการนี้เริ่มมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น ซึ่งญี่ปุ่นได้ออกแบบโครงการมาอย่างดีและรอบคอบตามแบบฉบับของชาติเขา ดังนั้นจึงมองว่าสินค้าจากญี่ปุ่นนั้นซื้อได้ด้วยความสบายใจ” นายอาคม กล่าว

ทั้งนี้ รูปแบบการลงทุนนั้นญี่ปุ่นมีข้อเสนอว่าควรเป็นโครงการที่รัฐบาลเป็นผู้ลงทุน แต่ทางไทยก็เสนอเป็นทางเลือกว่าน่าจะเป็นลักษณะของการร่วมลงทุนพีพีพีระหว่างรัฐบาลไทยและเอกชนไทย ขณะที่รูปแบบการก่อสร้างนั้นจะทยอยสร้างเป็นช่วงพร้อมดำเนินการจัดซื้อตัวรถเพื่อเร่งรัดให้โครงการเกิดขึ้นได้เร็วและทยอยเปิดให้บริการประชาชนก่อนเป็นช่วงไปอาทิสถานที่1บางซื่อ-สถานีที่2 ดอนเมือง –สถานีที่ 3 อยุธยา ระยะทางประมาณ 100 กม. จากนั้นจึงค่อนดำเนินการออกแบบและก่อสร้างสถานีที่ 4 ลพบุรี- สถานีที่ 5 นครสวรรค์และสถานีที่ 6 พิษณุโลก ตามลำดับ
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44634
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 14/12/2017 4:56 pm    Post subject: Reply with quote

ก.คมนาคม เตรียมเสนอแผนรถไฟความเร็วสูง กรุงเทพฯ เชียงใหม่ เข้า ครม.ภายใน 3 เดือน
ครอบครัวข่าว 3 วันที่ 14 ธ.ค. 60 เวลา 15:47:45 น.

ก.คมนาคม เตรียมเสนอแผนรถไฟความเร็วสูง กรุงเทพฯ เชียงใหม่ เข้า ครม.ภายใน 3 เดือน
ไทยรับผลการศึกษาเส้นทางรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ เสนอแนวคิดแบ่งทำสถานีระยะสั้นให้ประชาชนใช้ก่อน คาดเสนอเข้าสู่ ครม.ได้ภายใน 3 เดือน

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวภายหลังรับมอบผลการศึกษาโครงการความร่วมมือในการพัฒนา ระบบรางระหว่างไทยกับญี่ปุ่น หรือโครงการรถไฟความเร็วสูง เส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ระยะทาง 672 กิโลเมตร ว่ามีการหารือว่าอาจจะมีการสร้างโครงการระยะเร่งด่วน ในระยะที่ 1 ในเส้นทางระยะสั้น ๆ 1-2 สถานี เพื่อให้ประชาชนสามารถใช้งานได้ก่อน จากแผนเดิมที่จะสร้างระยะแรกในเส้นทาง กรุงเทพฯ-พิษณุโลก ระยะ 380 กิโลเมตร งบประมาณ 2.8 แสนล้านบาท ซึ่งทั้งโครงการจะใช้งบประมาณ 4.2 แสนล้านบาท

โดยคาดว่าจะใช้เวลาพิจารณาศึกษาผลของทางญี่ปุ่นประมาณ 3 เดือนก่อนจะเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี โดยรูปแบบการลงทุนทางไทยต้องการให้เป็นการร่วมทุนระหว่างกัน แต่ทางญี่ปุ่นจะต้องไปพิจารณาอีกครั้งเนื่องจากเป็นการลงทุนขนาดใหญ่ที่ต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐบาลญี่ปุ่น

ขณะที่โครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน เฟสที่ 1 กรุงเทพฯ-นครราชสีมา ระยะทาง 252 กิโลเมตร วงเงิน 1.79 แสนล้านบาท ยืนยันแล้วว่า นายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปเป็นประธานตอกเสาเข็มการก่อสร้างตอนที่ 1 ช่วงสถานีกลางดง-ปางอโศก ระยะทาง 3.5 กิโลเมตร ในวันที่ 21 ธันวาคมนี้ ซึ่งการก่อสร้างในเฟสที่ 1 นี้จะซอยย่อยออกเป็น 14 สัญญา เพื่อความรวดเร็วในการก่อสร้าง
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42746
Location: NECTEC

PostPosted: 14/12/2017 12:32 pm    Post subject: Reply with quote

เปิด TOR ไฮสปีดเทรน ก.พ. นี้ - สรรหาเอกชนลงทุนสายกรุงเทพ - ระยอง 2.26 แสนล.
ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3322 วันที่ 14-16 ธันวาคม 2560

บอร์ด รฟท. ไฟเขียวแผนดำเนินงานโครงการรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพ - ระยอง เตรียมออกทีโออาร์เชิญชวนเอกชนลงทุนได้ ก.พ. 61 ด้วยมูลค่าลงทุน 2.26 แสนล้านบาท (เป็นส่วนรถไฟความเร็วสูง 1.76 แสนล้านบาท + ค่าพัฒนาที่ดิน 5หมื่นล้านบาท ที่มักกะสัน ฉะเชิงเทรา พัทยาและที่อื่นๆ) ก่อสร้างแล้วเสร็จและเปิดการดำเนินการภายในปี 2566
งานนี้แด่งเป็นสองระยะ คือ ระยะแรกจากอู่ตะเภาไปผ่านสถานีกลางบางซื่อ ไปดอนเมือง ก่อน จากนั้นจากอู่ตะเภาไประยอง จันทบุรีและตราด ที่ต้องแยกเช่นนี้ก็เพราะ EIA มาบตาพุด กลายเป็น หนามยอกอก เลยต้องแยกมาก่อน - - City line ที่จอดทุกสถานี คิอ 13 + 2.0x ระยะทางกิโลเมตร และ รถไฟความเร็วสูงคิด 60 บาท + 1.8x ระยะทางกิโลเมตร งานนี้ได้ติดตั้งประตูกั้นชานชลาเสียที
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=2115169178497136&set=a.213819491965457.68088.100000122231436&type=3&theater
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44634
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 14/12/2017 11:00 am    Post subject: Reply with quote

นายกฯ เป็นประธานก่อสร้างรถไฟไทย-จีนเฟสแรก 21 ธ.ค.นี้
สำนักข่าวไทย 14 ธ.ค. 2017 10:34:52

กรุงเทพฯ 14 ธ.ค. – รมว.คมนาคมยืนยันรถไฟไทย-จีน ก่อสร้างโครงการ 21 ธ.ค.นี้ 3.5 กม.แรก สถานีปางอโศก-กลางดง

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวถึงความคืบหน้าความร่วมมือรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ว่า ขณะนี้กรมทางหลวงปรับพื้นที่เพื่อเตรียมการก่อสร้างโครงการรถไฟเฟสแรกระยะทาง 3.5 กิโลเมตร ระหว่างสถานีปางอโศก-กลางดง หลังจากนั้นวันที่ 21 ธันวาคมนี้จะมีพิธีเริ่มต้นก่อสร้างโครงการโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะมาเป็นประธาน ในส่วนของกระทรวงได้สั่งการให้กรมทางหลวงเร่งดำเนินการ มั่นใจว่าการยกระดับโครงสร้างเพื่อวางระบบรางตามภารกิจของกรมทางหลวงจะใช้ระยะเวลาไม่เกิน 6 เดือน โดยระหว่างนี้จะมีการหารือคณะทำงานไทย-จีน โดยไทยจะให้จีนเร่งทยอยส่งแบบงานก่อสร้างเฟสที่ 2, 3 และ 4 เพื่อให้งานก่อสร้างเฟสต่าง ๆ เดินหน้าได้อย่างต่อเนื่อง

วันนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้มอบนโยบายผู้บริหารกรมทางหลวง โดยเน้นย้ำความท้าทายการบริหารทางหลวงภายใต้บริบทที่เปลี่ยนแปลง พัฒนาเส้นทางถนนคำนึงถึงคุณภาพ ซึ่งจะมีส่วนสำคัญต่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนของประชาชน รวมทั้งการปรับเปลี่ยนการทำงานให้สอดคล้องกับสถานการณ์ เนื่องจากการพัฒนาถนนต้องรองรับปัญหาหลายด้านครอบคลุมถึงการแก้ปัญหาอุทกภัย ซึ่งจำเป็นต้องปรับปรุงความแข็งแรงของถนนและสะพาน เพื่อรองรับปัญหาเหล่านี้ เป็นส่วนสำคัญที่ผู้บริหารกรมทางหลวงต้องเร่งดำเนินการ.-สำนักข่าวไทย
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44634
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 14/12/2017 9:19 am    Post subject: Reply with quote

“สมคิด”มั่นใจพ้นบ่วงเศรษฐกิจ สั่งเคลียร์เมกะโปรเจกต์แสนล้านส่งท้ายปีเก่า
โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 14 ธ.ค. 2560 08:40

"สมคิด" ยันการบริหารเศรษฐกิจของรัฐบาล ทำให้ประเทศหลุดพ้นจากบ่วงที่ถดถอยจากเมื่อ 3 ปีก่อนอย่างเด็ดขาดแล้ว ดัชนีเศรษฐกิจมหภาคทุกตัวดีขึ้นเมื่อเทียบย้อนหลัง 10 ปีไม่มีที่ไหนทำได้เท่ารัฐบาลนี้ อีกทั้งอุปสรรคต่างประเทศหมดไป เตรียมเคลียร์งานที่เหลือใน 2 สัปดาห์ก่อนสิ้นปี พร้อมทะยานปีหน้า

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงการบริหารนโยบายเศรษฐกิจของประเทศตลอด 1 ปีที่ผ่านมาว่า ข้อแรกสามารถดึงให้ประเทศไทยพ้นออกจากบ่วงที่กำลังถดถอยจากเมื่อ 3 ปี ที่ผ่านมาอย่างชัดเจน และพ้นอย่างเด็ดขาด พร้อมปรับฐานสู่เศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ดังนั้น ลักษณะที่เกิดขึ้นบวกกับกรอบของดัชนีเศรษฐกิจมหภาคทุกตัวเมื่อเปรียบเทียบย้อนหลัง 10 ปีดีขึ้นหมดทุกตัว จึงไม่มีที่ไหนทำได้เท่ารัฐบาลชุดนี้ ไม่ว่าการขยายตัวทางเศรษฐกิจ การมีเสถียรภาพ ภาวะเงินเฟ้อและภาวะหนี้สินทุกอย่างแข็งแรงมาก จึงเป็นเหตุผลว่า ทำไมแต่ละสถาบันยอมรับการจัดอันดับให้ประเทศไทยดีขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุด กรณีที่สหภาพยุโรป (อียู) ยอมรับรัฐบาลไทย หมายความว่า อุปสรรคขวากหนามเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมาหายไปหมดแล้ว นอกประเทศไม่มีปัญหาแล้ว ทั้งการค้าขายต่างๆ และการท่องเที่ยวจะเป็นตัวแปรมาช่วยเกื้อหนุนประเทศไทยมากยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตาม การทำงานของรัฐบาลไม่ใช่แค่ดึงเศรษฐกิจขึ้นมา แต่ได้วางแผนสำหรับปีหน้าซึ่งสำคัญมาก ฉะนั้น ในช่วงเวลาที่เหลืออีก 2 สัปดาห์ของปีนี้ จะขับเคลื่อนงานสำคัญเพื่อเตรียมตัวไว้สำหรับปีหน้า มี 3 เรื่องใหญ่ที่ต้องดำเนินการประกอบด้วย
1.โครงการรถไฟไทย-จีน จะมีพิธีตอกเสาเข็มในวันที่ 21 ธ.ค.นี้ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งให้เร่งเส้นทางนี้ให้เกิดความรวดเร็ว โดยได้ศึกษาเส้นทางต่อไปไว้แล้ว

2.บริษัทแอร์บัสจะลงนามความร่วมมือเพื่อประเมินโอกาสทางธุรกิจของโครงการศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานอู่ตะเภา กับบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) ในวันที่ 15 ธ.ค.นี้ และยังมีอีกหลายบริษัทที่ต้องการทำเรื่องการบินและศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน ดังนั้น เชื่อมั่นว่าจากเที่ยวบินและนักท่องเที่ยวที่มีจำนวนมากถึงปีละ 34 ล้านคน จะเป็นประเทศใดไปไม่ได้นอกเหนือจากประเทศไทยที่มีความเหมาะสมที่สุดที่จะเป็นศูนย์กลางการบิน โดยแอร์บัสถือเป็นจุดเริ่มต้นที่จะนำไปสู่เป้าหมายดังกล่าว โดยสายการบินลุฟฮันซ่าและสายการบินแอร์เอเชียได้มาจีบไทยไว้นานแล้ว

และ 3.โครงการรถไฟทางคู่ 5 เส้นทางถือเป็นโครงการขนาดใหญ่มากมูลค่า 95,800 ล้านบาท จะรายงานให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบผลการประมูลในวันที่ 19 ธ.ค.นี้ จากนั้นจะจัดให้มีการลงนามสัญญาก่อสร้างในเร็วๆนี้

"ผมจะเคลียร์สิ่งเหล่านี้ทั้งหมดเพื่อปิดฉากปีนี้ และขอเรียกปี 2560 ว่า เป็นช่วงก้าวพ้นจากบ่วงที่ผูกมัดขามานานและหว่านเมล็ดเพื่ออนาคตข้างหน้า เมื่อเริ่มปีหน้าหากไม่เหยียบตาปลากันเสียก่อนเชื่อว่าจะเป็นปีที่กระแสความเจริญมาที่เอเชียแน่นอน และไทยจะเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่จะขี่กระแสนี้ทะยานไปสู่อนาคตข้างหน้า ดังนั้น ใครจะมาว่าขาลง ผมมองต่างกัน ถ้ามีกำลังใจคิดในมุมบวก มั่นใจว่าจะเป็นปีที่ไทยเทคออฟ (ทะยาน) ขึ้นได้ ถ้าทำให้ดีๆ"

นอกจากนี้ ในรายงานของธนาคารโลกได้เขียนไว้ชัดเจนที่สุดว่า ภูมิภาคเอเชียตะวันออกกำลังเติบโต และความมหัศจรรย์กำลังกลับเข้ามาในภูมิภาคนี้ ซึ่งกลุ่มประเทศที่ไปได้ดีที่สุดคือไทย โดยลำดับของไทยเริ่มขยับเข้าใกล้มาเลเซีย จากที่ทิ้งไทยมา 10-20 ปี ในยุคมหาเธร์ โมฮัมหมัด เป็นนายกรัฐมนตรีของมาเลเซีย แต่ตอนนี้ไทยเข้าใกล้มาเลเซียแล้ว และในรายงานระบุด้วยว่า คนที่จนจริงๆ วันหนึ่งมีรายได้ไม่ถึง 2 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 64 บาท (32 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ) ค่อยๆหมดไป ไทยจึงมีโอกาสที่จะเอาทรัพยากรส่วนใหญ่ไปต่อยอดกับชนชั้นกลาง และเอาทรัพยากรไปปิดช่องว่างความเหลื่อมล้ำทางรายได้ของคนให้ได้

"ในปีหน้านายกรัฐมนตรีประกาศแน่นอนว่า พลังงานส่วนใหญ่ของรัฐบาลจะลงไปยกระดับฐานรากให้แข็งแรงขึ้นมา ตรงนี้สำคัญแต่วิธีการของรัฐบาลไม่เหมือนคนอื่นที่เขาคิดกัน ไม่ได้อยู่ที่ตัวสินค้า แต่จะเริ่มจากพื้นที่รอบชุมชนช่วยกันผลิตสินค้าทางการเกษตร สร้างชุมชนให้เข้มแข็งและการท่องเที่ยว"

นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า หลังจากธนาคารโลกออกรายงานเกี่ยวกับปัญหาความยากจนแถบเอเชียระบุว่า จากผลวิเคราะห์ข้อมูลปี 2545-2558 ไทยและมาเลเซียหลุดพ้นจากความยากจนและก้าวสู่ความมั่งคั่ง เมื่อนำข้อมูลความยากจนของธนาคารโลกเทียบกับการลงทะเบียนสวัสดิการแห่งรัฐที่มีรายได้ต่ำกว่า 100,000 บาทต่อปีแล้ว นับว่าไทยอยู่ระดับกลุ่มคนมีรายได้ปานกลาง เพราะกลุ่มที่มีความยากจนแต่จัดการกับปัญหาไปแล้ว โดยเฉพาะมติ ครม.อนุมัติมาตรการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เฟส 2 ในเดือน ธ.ค.นี้ จะแก้ปัญหาความยากจนได้ โดยธนาคารโลกเสนอให้ไทยแก้ปัญหา 3 ด้านคือ 1.การให้โอกาสด้านเศรษฐกิจกับผู้มีรายได้น้อย 2. การพัฒนาระบบดูแลสังคม สาธารณสุข ประกันสังคม และการออมเงิน และ 3.การใช้ภาษีลดปัญหาความเหลื่อมล้ำ.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44634
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 14/12/2017 9:13 am    Post subject: Reply with quote

เร่ง 3 โปรเจกต์ยักษ์ดันลงทุน
โพสต์ทูเดย์ 14 ธันวาคม 2560 เวลา 08:34 น.

"สมคิด" ดัน 3 โครงการใหญ่รอนายกฯ เคาะ เปิดทางสายการบินต่างชาติลงทุนอีอีซี

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในช่วง 2 สัปดาห์ที่เหลือของปี 2560 จะเร่งขับเคลื่อนโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานให้มีความต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดการลงทุนไปถึงปี 2561 ประกอบไปด้วย

1.โครงการรถไฟความเร็วสูงความร่วมมือไทย-จีน เส้นทางกรุงเทพฯ-หนองคาย ช่วงที่ 1 กรุงเทพฯ-นครราชสีมา เริ่มเฟสแรกช่วงสถานีกลางดง-ปางอโศก ระยะทาง 3.5 กิโลเมตร (กม.) วงเงินก่อสร้าง 425 ล้านบาท ซึ่งมอบหมายให้กรมทางหลวง เป็นผู้ดำเนินการก่อสร้างงานโยธาเอง และไม่ต้องใช้วิธีการประมูลโดยจะเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 19 ธ.ค.เพื่อพิจารณาเห็นชอบ

2.โครงการศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน ที่ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภาเพื่อสนับสนุนโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) โดยในวันที่ 15 ธ.ค.จะมีการลงนามความร่วมมือระหว่างบริษัท การบินไทย และบริษัท แอร์บัส เพื่อพัฒนาโครงการศูนย์ซ่อมฯ ดังกล่าว ซึ่งการลงนามครั้งนี้เป็นจุดเริ่มต้นการพัฒนาธุรกิจการบินและศูนย์ซ่อมอากาศยานในพื้นที่ อีอีซีเพื่อสนับสนุนนโยบายการเป็นเมืองศูนย์กลางทางการบินของไทย

อย่างไรก็ตาม นอกจากบริษัท แอร์บัส แล้วยังมีภาคเอกชนที่สนใจที่จะเข้ามาลงทุนในอีอีซี ซึ่งเป็นบริษัทเอกชนรายใหญ่รายอื่นๆ เช่น สายการบินแอร์เอเชีย และสายการบินลุฟต์ฮันซา (Lufthansa) ที่ให้ความสนใจเข้ามาลงทุน โดยรัฐบาลสนับสนุนทุกสายการบินที่จะเข้ามาขยายกิจการในไทยทั้งในด้านของเส้นทางการบิน รวมถึงศูนย์ซ่อมอากาศยานเพื่อส่งเสริมนโยบายการเป็นศูนย์กลางการบินภูมิภาค แต่ภาคเอกชนที่จะเข้ามาลงทุนในไทยจะต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจนว่าจะเข้ามาช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวและพัฒนาอุตสาหกรรมการบินในประเทศไทยได้อย่างไรบ้าง

3.โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ เฟสแรก 5 เส้นทางระยะทาง 702 กิโลเมตร วงเงิน 9. 58 หมื่นล้านบาท ได้แก่ โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ หัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ เส้นทางนครปฐมหัวหิน โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนน จิระ 3 สัญญา ระยะทางรวม 136 กม. และโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงลพบุรี- ปากน้ำโพ 2 สัญญา เตรียมจะเสนอเข้าสู่ที่ประชุม ครม.ในวันที่ 19 ธ.ค. เพื่อรายงานผลการประมูลโครงการให้ ครม.รับทราบ

ทั้งนี้ เมื่อโครงการผ่านความเห็นชอบของ ครม.แล้ว ได้สั่งการให้ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) นัดหมายกับเอกชนผู้รับเหมาที่ชนะการประมูลในโครงการต่างๆ ให้มาประชุมรับฟังข้อมูลและลงนามในสัญญาให้แล้วเสร็จภายในเดือน ธ.ค.นี้

"ปีหน้าซึ่งเป็นปีที่จะดูแลเศรษฐกิจในระดับฐานรากให้มากขึ้น โดย 2 สัปดาห์ที่เหลือของปีนี้ ผมจะเร่งโครงการสำคัญๆ ที่ต้องการให้มีแรงส่งไปถึง โดยโครงการรถไฟทางคู่ 5 เส้นทางที่จะเข้า ครม.ถือว่าเป็นโครงการที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจมาก หลังจากผ่าน ครม.ในสัปดาห์หน้าจะเร่งประสานกับ รฟท.ให้จัดประชุมและลงนามกับเอกชนเลย ซึ่งจะเป็นการปิดฉากโครงการลงทุนสำคัญในปี 2560 ขณะที่ในปี 2561 ก็เดินหน้าตามแผนงานที่วางไว้" นายสมคิด กล่าว

ด้าน นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ รองอธิบดีกรมทางหลวงในฐานะรักษาการ ผู้ว่าการ (รฟท.) กล่าวว่า รฟท.ได้รับนโยบายจากนายสมคิด ในประเด็นการเร่งรัดการลงนามกับภาคเอกชนในสัญญารถไฟทางคู่ทั้ง 5 เส้นทางไปดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเดือน ธ.ค.นี้ โดยหลังจากดำเนินการได้ตามระยะเวลาดังกล่าวจะส่งผลให้การเบิกจ่ายงบประมาณโครงการเป็นไปอย่างรวดเร็วซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายของรัฐบาลที่ต้องการให้การเบิกจ่ายงบประมาณเป็นไปตามแผนที่วางไว้ โดยประเมินว่าในปี 2561 จะมี เม็ดเงินที่เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจจากโครงการ ดังกล่าวไม่ต่ำกว่า 6,000-7,000 ล้านบาท
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42746
Location: NECTEC

PostPosted: 14/12/2017 1:31 am    Post subject: Reply with quote

สุดล้ำ!! นวัตกรรมรถไฟความเร็วสูง จากจีนสู่ไทย
โดย: MGR Online
เผยแพร่: 13 ธันวาคม 2560 13:54:00

ไทยกับจีนมีความผูกพันและติดต่อกันมาอย่างยาวนาน มีการติดต่อค้าขายกันโดยตลอด และมีชาวจีนจำนวนไม่น้อยที่เข้ามาตั้งรกรากอยู่ในประเทศไทย กระทั่งมีคำกล่าวว่า“ไทยจีนใช่อื่นไกล พี่น้องกัน”ปัจจุบัน ความสัมพันธ์ระหว่างไทย-จีน ได้พัฒนาเป็นรูปธรรมมากขึ้นในหลายๆ ด้าน แม้จะมีระบบการปกครองแตกต่างกัน และในอนาคตประเทศไทยก็จะมีรถไฟความเร็วสูงที่ใช้นวัตกรรมสุดล้ำจากจีนมาให้บริการในประทศไทย โดยเริ่มจากกรุงเทพฯ ไปจังหวัดนครราชสีมาเป็นสายแรก

ระหว่างวันที่ 27 พฤศจิกายน - 2 ธันวาคม 2560 ที่ผ่านมา คณะผู้แทนสื่อมวลชนไทยในนามของสมาคมผู้สื่อข่าวไทย-จีน นำโดยนายชัยวัฒน์ วนิชวัฒนะนายกสมาคมผู้สื่อข่าวไทย-จีน เดินทางไปยังสาธารณรัฐประชานจีนเพื่อศึกษาดูงานรถไฟความเร็วสูง ซึ่งจัดขึ้นโดยความร่วมมือของสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย สมาคมผู้สื่อข่าวไทย-จีน และ สำนักข่าวซินหัว เพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือระหว่างจีนกับไทย เยี่ยมชมโรงงานรถไฟความเร็วสูงของประเทศจีนแบบเอ็กซ์คลูซีฟ

เยี่ยมชมฐานการผลิตและวิจัยของบริษัท CRRC QINGDAO SIFANG CO., LTD. ซึ่งเป็นบริษัทรัฐวิสาหกิจของจีนในเขต Chengyang ของเมืองชิงเต่า ชมกระบวนการออกแบบและการผลิตของอุตสาหกรรมรถไฟความเร็วสูงที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน ขบวนรถมีอุปกรณ์การขนส่งทางรถไฟที่สมบูรณ์แบบและทันสมัย ซึ่งจีนจัดเป็นประเทศอันดับแรกของโลกนับตั้งแต่ศตวรรษ 1990 - นักข่าวสยามธุรกิจก็ร่วมวงด้วย ดูจากรายงานพิเศษ ชิงเตาเมืองรถไฟความเร็วสูง

จีนเริ่มมีการศึกษาวิจัยเทคโนโลยีรถไฟความเร็วสูงที่มีการพัฒนารถไฟความเร็วสูงบนพื้นฐานของงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ แม้ในเขตที่มีสภาพทางภูมิศาสตร์อันสลับซับซ้อน รวมถึงภูมิอากาศที่แตกต่างในแต่ละพื้นที่ สะสมเทคโนโลยีควบคู่กับการศึกษาเรียนรู้จากรถไฟที่ทันสมัยทั่วโลก พร้อมกับการสร้างนวัตกรรมด้วยตนเอง โดยยึดหลักสภาพความเป็นจริงของชาติ จึงได้พัฒนารถไฟความเร็วสูงที่สมบูรณ์แบบ วิจัยและผลิตอุปกรณ์ ระบบความปลอดภัย การโยธาก่อสร้างและการบริหารดำเนินการ ต่างก็อยู่ในระดับแนวหน้าของโลก

งานวิจัยและผลิตของการรถไฟความเร็วสูงของจีนสามารถตอบสนองทั้งด้านความเร็ว ประหยัดทั้งทางด้านต้นทุนและเวลา รวมถึงด้านโลจิสติกส์ ตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้บริโภค และในอนาคต ทางบริษัทฯ ก็จะมีการพัฒนาระบบความเร็วให้เร็วยิ่งขึ้นไปอีกจนถึง 600 km/h อีกด้วย

นายชัยวัฒน์ วนิชวัฒนะ นายกสมาคมผู้สื่อข่าวไทย-จีน เผยถึงวัตถุประสงค์ของโครงการในครั้งนี้ว่า ต้องการจะเสริมสร้างให้นักข่าวไทยได้รู้จักประเทศจีนมากยิ่งขึ้น เพราะที่ผ่านมา คนไทยใกล้ชิดกับคนจีนมาก แต่ถ้าถามถึงนักข่าวไทยรู้จักเรื่องของจีนนั้นถือว่ายังน้อยมาก เป็นเพราะว่าสื่อไทยรับข้อมูลผ่านสื่อตะวันตกเป็นหลัก และอุปสรรคอีกข้อหนึ่งก็คือเรื่องภาษา

“การที่ตั้งสมาคมขึ้นมา เพราะว่ามีการจัดกิจกรรมเพื่อดึงดูดให้นักข่าวไทยได้รู้จักกิจกรรมที่เกี่ยวกับเมืองจีน เช่น เวลามีประเด็นสำคัญๆ ก็จะจัดงานสัมมนา ในช่วงสองปีก่อน ครบรอบ 40 ปี ความสัมพันธ์ไทย-จีน ก็จัดสัมมนาใหญ่ซึ่งมีทุกปีและในระหว่างปีก็มีกิจกรรมเล็กเป็นเสวนาโต๊ะกลม เช่น เสวนาโต๊ะกลมเกี่ยวกับเรื่องการท่องเที่ยวระหว่างไทย-จีน เพราะว่าสองปีที่ผ่านมา มีประเด็นเรื่องทัวร์ 0 เหรียญ ในขณะที่นักท่องเที่ยวจีนเข้าไทยมาเป็นอันดับ 1 จึงให้ความสำคัญหยิบประเด็นนี้ขึ้นมาพูดคุย

“ในส่วนของนักข่าว ปัจจุบันสมาคมฯ มีสมาชิกอยู่ 100 คน เราไม่ได้เน้นปริมาณมาก ซึ่งใน 100 คน มีสมาชิกจีนอยู่ประมาณ 30% ที่เหลือนอกนั้นเป็นนักข่าวไทยจากหลากหลายสาขา มีทั้งทีวี วิทยุ หนังสือพิมพ์รายวัน แม็กกาซีน หรือออนไลน์ ถามว่าครบทุกสื่อเลยไหม? ตอบว่ายัง แต่ว่าสื่อหลักๆ ตอนนี้ก็เข้ามาเป็นสมาชิกซึ่งสมาคมฯ ได้ก่อตั้งมาแล้ว 3 ปี โดยเริ่มจากปี 2014

“สำหรับการมาเยี่ยมชมโรงงานผลิตรถไฟความเร็วสูงในครั้งนี้ ผมได้เห็นเรื่องการพัฒนาการขนส่งของจีนดีมากและรวดเร็วมากจากในอดีต ตอนนี้ก็ถือว่าจีนเป็นเบอร์ 1 ของเรื่อง High speed และเป็นที่ยอมรับจากทั่วโลก ในอดีตคือญี่ปุ่น แต่เดี๋ยวนี้ถือว่าจีนแซงหน้าไปไกลแล้ว ต้องเรียกว่าเป็นความคาดหวังของหลายๆ ประเทศ ที่จะใช้ไปในเรื่องการพัฒนาระบบการขนส่ง เพราะเดี๋ยวนี้หลายประเทศไปพัฒนาการขนส่งทางด้านรถยนต์

“ในขณะที่จีนพัฒนาการขนส่งทางด้านราง ทางด้านรถยนต์ ปัญหาก็คือการจราจรทุกเมืองใหญ่่เจอปัญหาหมด การขนส่งทางราง เป็นการแก้ปัญหาได้ส่วนหนึ่ง เมื่อจีนสามารถพัฒนาเรื่องความเร็วได้และสามารถลดต้นทุนได้ เชื่อว่าจะตอบโจทย์ได้ระดับหนึ่ง แต่ในขณะเดียวกันไม่ได้เป็นการแก้ปัญหาในประเทศเท่านั้น แต่จะเป็นการเชื่อมต่อระหว่างประเทศ โดยเฉพาะเรื่องของ“อิ๊ไตอิ๊ลู่” One Belt One Roadหรือหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง เป็นการขายความคิดในการเชื่อมโยงการขนส่งคมนาคมระหว่างประเทศ เมื่อนำเรื่องนี้มาใช้ร่วมกัน จึงกลายเป็นที่ยอมรับของนานาประเทศ ซึ่งผมก็อยากจะนั่งรถไฟจากไทยมาถึงจีนเช่นกัน

“ส่วนโครงการจัดสัมมนา“อิ๊ไตอิ๊ลู่่” One Belt One Road หรือหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง วัตถุประสงค์หลักเพื่อเป็นการสร้างความสัมพันธ์และสร้างความเข้าใจระหว่างไทย-จีน ทางสมาคมฯ มีแผนจะจัดเป็นงานนิทรรศการและสัมมนาใหญ่เกี่ยวกับเรื่องนี้ เพื่อสร้างความเข้าใจและให้เห็นภาพที่ชัดเจน โดยมีเรื่องรถไฟความเร็วสูงเป็นส่วนหนึ่งของนิทรรศการ เพราะค่อนข้างเป็นรูปธรรมของการเชื่อมโยงภูมิภาค อย่างเร็วคือกลางปีหน้่าซึ่งอาจยังต้องรอดูความพร้อมและความชัดเจนอีกทีครับ”

ทางด้าน “จาง เฉิง” (ZHANG CHENG)รองผู้อำนวยการแผนกการเมือง สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย กล่าวถึงวัตถุประสงค์ในการเป็นเจ้าภาพเชิญสื่อมาวลชนมาประเทศจีนในครั้งนี้ว่า อยากจะส่งเสริมความเข้าใจซึ่งกันและกันระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศ ในขณะเดียวกันก็อยากจะให้พี่น้องประชาชนชาวไทยมีความรู้จักกับรถไฟความเร็วสูงจีนมากยิ่งขึ้น

ในขณะที่ “Ding Lei”Analyst ของสำนักข่าวชินหัว Xinhua News Agency กล่าวว่า “แผนกของฉันคือ Xinhua Silk Road ซึ่งเน้นที่ Belt and Road Initiative การเดินทางครั้งนี้ซึ่งจัดโดยสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย, สมาคมผู้สื่อข่าวไทย - จีน และ “Silk Road” ซินหัวภายใต้สำนักข่าวซินหัวได้ให้ความร่วมมือกัน นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันไปเยี่ยมชมโรงงานผลิตรถไฟความเร็วสูง ฉันได้ใช้รถไฟความเร็วสูงนับไม่ถ้วน แต่ครั้งนี้ต่างออกไปเป็นการเยี่ยมชมโรงงาน ทำให้รู้สึกประทับใจกับเทคโนโลยีและรู้สึกเป็นความภาคภูมิใจของจีน และยินดีที่ได้ต้อนรับทุกคนค่ะ”


นอกจากคณะผู้แทนสื่อมวลชนไทยได้เยี่ยมโรงงานผลิตรถไฟความเร็วสูงของบริษัท CRRC QINGDAO SIFANG CO., LTD. โดยได้รับเกียรติในการการต้อนรับจาก Mr. Gong Ruiming รองผู้จัดการทั่วไปฝ่ายธุรกิจในต่างประเทศ ของบริษัทฯ ที่เมืองชิงเต่าแล้ว ในระหว่างที่อยู่ปักกิ่งก่อนที่จะเดินทางโดยรถไฟความเร็วสูงมาเมืองชิงเต่านั้น คณะผู้แทนสื่อมวลชนยังได้มีโอกาสเยี่ยมชมหน่วยงานสำคัญๆ ของจีน เช่น สำนักงานของสำนักข่าวชินหัว Xinhua News Agency และ สถานีโทรทัศน์ CCTV รวมทั้งศูนย์ช่วยเหลือฉุกเฉินของศูนย์กาชาดสากลปักกิ่ง (999) โดยความร่วมมือของสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย สมาคมผู้สื่อข่าวไทย - จีน และ สำนักข่าวซินหัว Xinhua News Agency เพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนและความร่วมมืออันดีระหว่างจีนและไทยเพิ่มมากขึ้น

ภาพที่เหลือดูจากที่นี่ก็ได้
https://www.facebook.com/EsarnPenTaHug/posts/2015970845341992
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 305, 306, 307 ... 547, 548, 549  Next
Page 306 of 549

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©