View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44653
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 11/08/2010 10:28 pm Post subject: |
|
|
รถไฟความเร็วสูงไทย
นสพ.เดลินิวส์ วันพุธ ที่ 11 สิงหาคม 2553
114 ปีแล้วที่เรามีรถไฟสายแรกของประเทศกรุงเทพฯ-อยุธยา ว่าด้วยรถไฟความเร็วสูงซึ่งยกมาเป็นบุคคล(ของ) ประจำวันพุธก็แจ้งเกิดมาแล้วกว่า 90 ปีโดยวิศวกรเยอรมัน ในเชิงพาณิชย์น่าจะ 46 ปีสายแรกคือโตเกียว-โอซากา ใครล่ะจะไม่ตื่นเต้นที่รถไฟไทยกำลังจะมีวิวัฒนาการอย่างสำคัญครั้งแรกในรอบร้อยกว่าปี เรากำลังจะมีรถไฟความเร็วสูง
ขออนุญาตขยายความรถไฟความเร็วสูงตามคำจำกัดความของสมาคมรถไฟนานาชาติ ความเร็ว 150 กม./ชม.บนรางปกติ และ 200 กม./ชม.ขึ้นไปบนรางพิเศษ มาถึงวันนี้ 200 กลายเป็นเต่าไปแล้ว
ฝ่ายไทยที่ไปคุยกับทางจีนก็ตั้งต้นจากรองฯสุเทพ เทือกสุบรรณ แล้วให้เลขาธิการนายกฯกอร์ปศักดิ์ สภาวสุเป็นผู้ประสานงาน เรียกว่าผู้จัดการโปรเจคท์ก็น่าจะได้ งานนี้ใหญ่เกินมือคมนาคม
จะว่าไปก็ไม่ผิดตัวหรอกที่เราจะร่วมทุนกับพญามังกร รถไฟความเร็วสูงจัดว่านำหน้ากว่าใครในโลกไปแล้ว ไม่นับวิ่งช่วงสั้น 30 กม.ที่เซี่ยงไฮ้ซึ่งความเร็วเต็มที่เฉียด 500 กม./ชม. นับที่เดินรถยาวๆข้ามเมืองอย่างสายกวางโจว ความเร็วเฉลี่ยอยู่ที่ 350 กม./ชม.
รถไฟจีนพัฒนาเร็วไม่ใช่เก่งไปจากตัวเองแต่เขาฉลาด โดยดึงพี่เบิ้มในแวดวงอย่างซีเมนส์,บอมบาร์เดียร์,อัลสตอมมาร่วมออกแบบและสร้างระบบ ด้วยเทคโนโลยีฝรั่งแต่ตัวรถถูกสร้างในประเทศเพื่อให้คนของเขาเรียนรู้ทุกขั้นตอน วันนี้อาเฮียแกคิดการใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ นอกจากขยายโครงข่ายรถไฟในประเทศก็เตลิดมาถึงพื้นที่อาเซียนโดยผ่านลาวเข้าไทยที่หนองคาย ปลายทางโน่นเลยปาดังเบซาร์ก่อนเข้ามาเลเซีย,สิงคโปร์
อาจไม่ใช่รถไฟความเร็วสูงแต่ก็วิ่งได้เร็วบนรางขนาด 1.435 เมตร เท่ากับรางไฮสปีดเทรน
นี่คือประเด็นที่ยกรถไฟบรื๋อมาขึ้นป้ายวันพุธ
รถไฟความเร็วสูงที่ไทยตั้งใจเกี้ยวจีนร่วมลงทุนก็ 4 สาย กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ 745 กม. กรุงเทพฯ-หนองคาย 615 กม. กรุงเทพฯ-หาดใหญ่ 937 กม. และกรุงเทพฯ- ระยอง 221 กม. แน่นอนส่วนนี้รถพิเศษวิ่งบนราง 1.435 เมตร
เจาะจงเส้นทางลากยาวจากจีนเปิดประตูทะลุอาเซียนแบบทะลุทะลวง พัฒนาทั้งภาคขนส่งคนและขนส่งสินค้า ประเด็นอยู่ที่ขนาดราง
ผมว่ามันยังไง ๆ ที่รถไฟจีนจะวางรางใหม่ขนาดใหญ่ ขณะที่ระบบรางของไทย,ลาว,มาเลเซีย,เวียดนามขนาดกว้าง 1 เมตรเท่ากันหมด จู่ ๆ จะมีสายเดียวโผล่มาโด่เด่ ว่าด้วยทุนที่จะลงและความคุ้มค่าอันนี้รัฐบาลไทยในฐานะผู้ร่วมทุนต้องคิดให้หนัก เพื่อนอาเซียนเอาด้วยหรือไม่?
เปลี่ยนการสร้างรางใหญ่มาเพิ่มรางเดิมเป็นรถไฟทางคู่ต้นทางถึงปลายทาง ผมว่าประหยัดและใช้ประโยชน์ได้เต็มไม้เต็มมือกว่า
ตั้งสมาธิดี ๆ ระบบรางของเราจะไปทางไหนเพราะตอนนี้เสี่ยงจะเป็น 2 มาตรฐาน พัฒนาไปพร้อมกันรางคู่รางใหญ่ไม่รู้กี่แสนล้านถึงจะพอ ประเทศไทยมีเงินเยอะขนาดนั้นหรือ?.
แมงเม่า |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42751
Location: NECTEC
|
Posted: 06/08/2010 7:01 am Post subject: |
|
|
รัฐสั่งศึกษาแผนลงทุนรถไฟไทย-จีน
หน้า ธุรกิจ
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ วันที่ 6 สิงหาคม 2553 01:00
นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการศึกษาการสร้างทางรถไฟไทย-จีน เปิดเผยหลังประชุมคณะกรรมการ ว่า ที่ประชุมได้ตั้งคณะทำงาน 2 ชุด เพื่อศึกษาการร่วมลงทุนโครงการรถไฟกับจีนช่วงหนองคาย-กรุงเทพฯ-ชายแดนภาคใต้ ประกอบด้วยคณะทำงานของกระทรวงการคลัง ศึกษารูปแบบการลงทุน ส่วนคณะทำงานของกระทรวงคมนาคม ศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ เพื่อเสนอคณะกรรมการพิจารณาวันที่ 20 ส.ค.นี้ เพื่อกำหนดท่าทีของไทยในบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) ก่อนลงนาม
นายกนก วงษ์ตระหง่าน ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การลงทุนสร้างทางรถไฟไทย-จีน ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องควรพิจารณาให้รอบคอบถึงความคุ้มค่าการลงทุนและผลประโยชน์ที่ไทยจะได้รับก่อน ปัจจุบันมีแนวเส้นทางรถไฟที่เชื่อมระหว่างไทยและจีน 2 เส้นทาง คือเส้นทางจากคุนหมิงผ่านลาวเข้าสู่ เชียงของ จังหวัดเชียงราย ลงมาถึงเด่นชัย นครสวรรค์ และกรุงเทพฯ และเส้นทางคุนหมิงวิ่งลงมาลาวผ่านหลวงพระบาง-เวียงจันทน์ เชื่อมกับจังหวัดหนองคาย-บัวใหญ่-นครราชสีมา-กรุงเทพฯ ดังนั้นต้องศึกษาเปรียบเทียบปริมาณสินค้าและผู้โดยสารที่แท้จริง ก่อนตัดสินใจลงทุน
การลงทุนระบบรางรถไฟไทย-จีน ต้องลงทุนเป็นระบบรางคู่หากเป็นรางเดี่ยว โอกาสที่รถไฟจะชนกันมีโอกาสสูงมาก เนื่องจากความเร็วของรถไฟอยู่ที่ 160-200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เส้นทางสับหลีก หรือหยุดรถไฟที่สถานีเพื่อรอสับหลีกเส้นทางไม่คุ้ม การลงทุนระบบรางรถไฟต้องศึกษาถึงการลงทุนระบบราง ที่เชื่อมจากกรุงเทพฯ ลงไปยังภาคใต้เชื่อมกับทางรถไฟของมาเลเซียและสิงคโปร์
การลงทุนระบบรางแต่ละเส้นใช้เงินไม่น้อยกว่า 2 แสนล้านบาท เราลงทุนเส้นทางทั้งสองเส้นพร้อมกันได้หรือไม่ คำตอบคือไม่ได้ เมื่อเราต้องเลือกลงทุนเส้นทางใดเส้นทางหนึ่ง ผมเห็นว่าผู้เกี่ยวข้องควรศึกษาว่า เส้นทางใดให้ผลประโยชน์กับไทยมากที่สุด ต้องคำนึงถึงปริมาณการขนส่งสินค้าและผู้โดยสาร รวมถึงอัตราค่าบริการเป็นตัวตั้ง ไม่ใช่คิดถึงแต่เรื่องความสะดวกอย่างเดียว นายกนก กล่าว
นายธนิต โสรัตน์ ประธานสายงานโลจิสติกส์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ระบุว่าการสร้างเส้นทางรถไฟไทย-จีน จะเป็นประโยชน์ทั้งสองฝ่าย ทำให้มีนักท่องเที่ยวจากจีนเข้ามาไทยมากขึ้น และเส้นทางรถไฟที่เชื่อมลงไปถึงภาคใต้ ซึ่งเส้นทางรถไฟไทย-จีน จะสร้างคู่ขนานไปกับรางรถไฟของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ต้องพิจารณาถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับ ร.ฟ.ท. ต้องพิจารณาว่าการมีเส้นทางรถไฟสายนี้ จะทำให้สินค้าประเภทอื่นๆ ของจีนทะลักเข้ามาในไทย โดยใช้ไทยเป็นทางผ่านของสินค้าที่จะส่งออกไปประเทศอาเซียนได้ง่าย ต้องพิจารณาผลกระทบต่อไทยด้วย |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42751
Location: NECTEC
|
Posted: 06/08/2010 6:57 am Post subject: |
|
|
ไฟเขียวคมนาคมผุดสปีดเทรน7แสนล.ดึงจีนลงทุนในไทย
โดย ASTVผู้จัดการรายวัน 5 สิงหาคม 2553 22:50 น.
วานนี้(5 ส.ค.) นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังเป็นประธานประชุมคณะทำงานศึกษารายละเอียดการร่วมลงทุนก่อสร้างโครงการพัฒนากิจการรถไฟ ระหว่างไทยกับจีนนัดแรก เพื่อร่วมทุนพัฒนาเส้นทางรถไฟมูลค่ากว่า 3 แสนล้านบาทว่า ที่ประชุมได้แต่งตั้งคณะทำงาน 2 ชุด เพื่อดูรูปแบบการร่วมลงทุนระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลจีนว่าจะดำเนินการในรูปแบบใด โดยให้กระทรวงการคลังเป็นประธานและชุดที่ 2 จะพิจารณาด้านเทคนิครวมถึงความเป็นไปได้ของโครงการซึ่งมอบให้กระทรวงคมนาคมเป็นประธาน และกำหนดให้ทำงานให้แล้วเสร็จก่อนวันที่ 20 ส.ค.นี้
ทั้ง นี้จะขอให้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ แจ้งให้ทางรัฐบาลจีนทราบความคืบหน้าการทำงานของไทยและส่งคณะทำงานของจีนมาหารือในรายละเอียดหลังจากวันที่ 20 ส.ค.เพื่อสรุปแนวทางทั้งหมด ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปเยือนจีนอย่างเป็นทางการซึ่งจะมีการลงนามในบันทึกข้อตกลงร่วมกัน (เอ็มโอยู) เดือนกันยายนนี้
นายกอร์ปศักดิ์ กล่าวว่า การลงทุนในโครงการรถไฟความเร็วสูง (ไอสปีด เทรน) เชื่อม ระหว่างสุวรรณภูมิ ไปยังจังหวัดระยอง โดยผ่านพัทยา และแหลมฉบัง ที่กระทรวงคมนาคมมีแผนดำเนินการอยู่แล้วก็ขอให้ดำเนินการคู่ขนานกันไป
รายงานข่าวจากทำเนียบ กล่าวว่า ครม.ได้มีมติเห็นชอบให้ศึกษาความเป็นไปได้ในการร่วมลงทุนกับรัฐบาลจีน ใน 2 โครงการคือ โครงการก่อสร้างทางรถไฟที่มีขนาดรางมาตรฐานกว้าง 1.4 เมตร หรือสแตนดาร์ดเกท จากจังหวัดหนองคาย ผ่านกทม.แล้วต่อไปยังชายแดนไทย-มาเลเซีย ระยะทางกว่า 1,000 ก.ม.เพื่อเชื่อมต่อกับเส้นทางรถไฟของจีนที่จะสร้างจากเมืองคุณหมิงมายังเมืองเวียงจันทร์ สปป.ลาว ซึ่งจะใช้เงินลงทุนกว่า 3 แสนล้านบาท และโครงการรถไฟความเร็วสูง (ไอสปีด เทรน) เชื่อมระหว่างสุวรรณภูมิ และจังหวัดระยอง
**ไฟเขียวคมนาคม โรดโชว์จีน 7 แสนล้าน
ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคม รายงานว่า ที่มีผ่านมาได้ศึกษาโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงที่มีการศึกษาไว้ 4 เส้นทาง คือ กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ระยะทาง 745 กิโลเมตร วงเงินลงทุน 209,936 ล้านบาท, กรุงเทพฯ-หนองคาย ระยะทาง 615 กิโลเมตร วงเงิน 180,379 ล้านบาท , กรุงเทพฯ-หาดใหญ่ ระยะทาง 937 กิโลเมตร วงเงิน 234,071 ล้านบาท และกรุงเทพ-ระยอง ระยะทาง 221 กิโลเมตร วงเงิน 56,601 ล้านบาท พบว่า เส้นทางที่ควรดำเนินการก่อน คือเส้นทางที่สามารถเชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้านอย่าง มาเลเซีย สิงคโปร์ และจีนได้ เนื่องจากมีผลตอบแทนทางการลงทุน (FIRR) สูงกว่า เส้นทางที่เดินทางได้ภายในประเทศที่มี FIRR 2-5 % เท่านั้น
ที่ประชุมยังได้รับทราบรายงาน จากการเดินทางไปเยือนจีนของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 16-23 ก.ค.53 เพื่อนำมาพัฒนาให้สอดคล้องกับข้อตกลงความร่วมมือระหว่างไทยและจีน
กระทรวงคมนาคม ยังรายงานแผนเตรียมเดินทางไปโรดโชว์ที่ประเทศจีนในช่วงประมาณปลาย เดือนสิงหาคม 2553 นี้ เพื่อดึงนักลงทุนจีนมาลงทุนโครงการลงทุนขนาดใหญ่(เมกะโปรเจกท์)
ที่ประชุมรับทราบหลักการที่จะมีการตั้งบริษัทร่วมทุนไทย-จีน ขึ้นรับผิดชอบบริหารจัดการโครงการทั้งสอง ซึ่งฝ่ายไทยจะลงทุนด้วยสิทธิการใช้ประโยชน์ที่ดินในเขตเส้นทางการก่อสร้าง ส่วนฝ่ายจีนลงทุนในค่าใช้จ่ายส่วนที่เหลือทั้งหมด
สำหรับ โครงการใหญ่ๆ ที่จะนำไปโรดโชว์ที่ประเทศจีนนั้น มีวงเงินลงทุนรวมประมาณ 7 แสนล้านบาท ประกอบด้วย
1.โครงการลงทุนเส้นทางรถไฟ ประกอบด้วย
กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ระยะทาง 745 กิโลเมตร วงเงินลงทุน 209,396 ล้านบาท
เส้นทางกรุงเทพฯ-หนองคาย ระยะทาง 615 กิโลเมตร วงเงินลงทุน 180,379 ล้านบาท เส้นทางกรุงเทพฯ-หาดใหญ่ ระยะทาง 937 กิโลเมตร วงเงินลงทุน 234,071 ล้านบาท และ กรุงเทพฯ-ระยอง ระยะทาง 221 กิโลเมตร วงเงินลงทุน 56,601 ล้านบาท
2.โครงการรถไฟทางคู่ ระยะเร่งด่วน 5 เส้นทาง ระยะทางรวม 767 กิโลเมตร วงเงินรวม 6.6 หมื่นล้านบาท ประกอบด้วย 1.ลพบุรี-นครสวรรค์ ระยะทาง 113 กิโลเมตร วงเงิน 7,860 ล้านบาท
2.มาบกะเบา-นครราชสีมา ระยะทาง 132 กิโลเมตร วงเงิน 11,640 ล้านบาท
3.ชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น ระยะทาง 185 กิโลเมตร วงเงิน 13,010 ล้านบาท
4.นครปฐม-หนองปลาดุก-หัวหิน ระยะทาง 165 กิโลเมตร วงเงิน 16,600 ล้านบาท และ 5.ประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร ระยะทาง 167 กิโลเมตร วงเงิน 17,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ยังมีโครงการรถไฟฟ้า ของรฟม. ประกอบด้วย สายสีม่วง ช่วงบางซื่อ-บางใหญ่ โครงการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงิน ช่วงหัวลำโพง-บางแค และ บางซื่อ-ท่าพระ ที่จะดึงนักลงทุนจีนมาร่วมทุน
แหล่งข่าว กล่าวว่า สำหรับข้อตกลงความร่วมมือระหว่างไทย-จีน นั้นสรุปว่า รัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีน จะร่วมมือกับรัฐบาลไทยในโครงการพัฒนากิจการรถไฟในระยะแรก จำนวน 2 โครงการ คือ
1.โครงการก่อสร้างรถไฟที่มีขนาดความกว้างของรางที่เป็นมาตรฐาน จากชายแดนไทย-ลาว ที่จังหวัดหนองคาย ไปสุดชายแดนไทยที่สุไหงโก-ลก เพื่อให้ประชาชนอาเซียนสามารถเดินทางไปมาหาสู่กันได้โดยทางรถไฟในอนาคต จากสิงคโปร์ผ่านมาเลเซีย ไทย ลาว ไปยังจีน และ
2.โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมระหว่างกรุงเทพมหานคร และจังหวัดระยอง. |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42751
Location: NECTEC
|
Posted: 05/08/2010 8:52 am Post subject: |
|
|
^^^
มีแต่คนแต่กำลังซื้อไม่พอ แถมไม่ติดกะเมืองหลวงประเทศเพื่อนบ้าน ย่อมหมดความหมายโดยสิ้นเชิงถ้าคิดเห็นเช่นนั้นโดยไม่มีข้ออมูลมายืนยันเป็นมั่นเป็นเหมาะ น่ากลัวว่าจะไม่พ้น เข้าตำรา อึ่งอ่างกับวัว โดยไม่ต้องสงสัยเลย
//-----------------------------------------------------------------
คกก.ร่วมทุนจีนชุด ปธ.กอร์ปศักดิ์ ถกรถไฟเร็วสูง-รางคู่ นัดแรกวันนี้
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 5 สิงหาคม 2553 09:43 น.
คกก.เมกะโปรเจกต์ร่วมทุนจีนชุด ปธ.กอร์ปศักดิ์ ประชุมนัดแรกวันนี้ คาดหารือโครงการรถไฟความเร็วสูง-รถไฟทางคู่ เชื่อม สปป.ลาว-มาเลย์ หลังทีม เทพเทือก กลับจากเยือนจีน จับตาการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนขึ้นรับผิดชอบ-บริหารจัดการ ทั้ง 2 โครงการ โดยฝ่ายไทยจะลงทุนด้วยสิทธิการใช้ประโยชน์ที่ดินในเขตเส้นทางการก่อสร้าง ส่วนฝ่ายจีนลงทุนในค่าใช้จ่ายส่วนที่เหลือทั้งหมด
มีรายงานข่าวว่า วันนี้ (5 ส.ค.) จะมีการประชุมนัดแรกของคณะกรรมการศึกษารายละเอียดการร่วมทุนก่อสร้างโครงการพัฒนากิจการรถไฟระหว่างประเทศไทย กับสาธารณรัฐประชาชนจีน ชุดที่มีนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ภายหลังนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ลงนามแต่งตั้งคณะกรรมการฯ ชุดนี้ เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2553 ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ กระทรวงได้เตรียมข้อมูลเกี่ยวกับการดำเนินโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง โครงการรถไฟทางคู่ ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) และโครงการลงทุนระบบรางมูลค่า 170,000 ล้านบาท เพื่อร่วมประชุมนัดแรกของคณะกรรมการชุดดังกล่าว
สำหรับรายละเอียดการประชุม คาดว่าจะเน้นโครงการรถไฟความเร็วสูงและโครงการรถไฟทางคู่ ซึ่งมีแนวเส้นทางที่สามารถเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งมาเลเซีย และสาธารณรัฐประชาชนลาว (สปป.ลาว) ซึ่งสอดคล้องกับข้อตกลงความร่วมมือระหว่างไทยและจีน จากการเดินทางไปเยือนจีนของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 16-23 กรกฎาคม 2553 ที่ผ่านมา
โดยเบื้องต้นคาดว่าจะมีการตั้งบริษัทร่วมทุนไทย-จีนขึ้นรับผิดชอบบริหารจัดการโครงการทั้งสอง ซึ่งฝ่ายไทยจะลงทุนด้วยสิทธิการใช้ประโยชน์ที่ดินในเขตเส้นทางการก่อสร้าง ส่วนฝ่ายจีนลงทุนในค่าใช้จ่ายส่วนที่เหลือทั้งหมด |
|
Back to top |
|
|
Tohoku_Line
3rd Class Pass
Joined: 08/04/2010 Posts: 193
Location: Bangkok/Ubonratchathani
|
Posted: 05/08/2010 3:03 am Post subject: |
|
|
อ่านข่าว ดูข่าวมาเยอะแยะ
ไม่มีข่าวคราวความเคลื่อนไหวเรื่องการพัฒนาระบบรางใรเส้นทางสายอีสานใต้เลย
ไม่ว่าจะเป็นรถไฟความเร็วสูง หรือแม้กระทั่งรถไฟความทางคู่
ทั้งที่ตามความจริง ผมก็มองว่าเส้นทางสายอีสานใต้ก็มีขบวนรถโดยสาร และปริมาณการโดยสารมากกว่าบางเส้นทางที่ศึกษาข้อมูลกันอยู่เสียอีก จะว่าเยอะเฉพาะผู้โดยสารชั้น 3 ก็คงไม่ใช่ เพราะในเส้นทางนี้ปริมาณการโดยสารเชิงพาณิชย์ก็ไม่ด้อยกว่าเส้นทางอีสานเหนือเสียด้วยซ้ำ
แต่จนแล้วจนเล่าก็ยังขาดการเหลียวแล ทั้งที่แม้กระทั่งระบบการขนส่งทางถนนเองในพื้นที่นี้ก็ยังด้อยกว่าพื้นที่อื่นๆที่เป็นโครงสร้างถนน 4 ช่องจราจรกันหมดแล้ว มาคราวนี้ระบบรางก็กำลังจะล้าหลังพื้นที่อื่นอีก
อันที่จริงแล้วรัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรที่จะศึกษาหรือเตรียมพัฒนาเส้นทางที่มีอยู่ทั่วประเทศ ให้เกิดการพัฒนาทุกพื้นที่อย่างเท่าเทียม ไม่ให้เกิดความเหลื่อมล้ำ หรือทำให้ประชาชนในบางพื้นที่เขาคิดได้ว่าขาดการเหลียวแลหรือเอาใจใส่พัฒนาจากภาครัฐ
ผมก็ได้แต่หวังว่าจะมีโครงการพัฒนาระบบรางในพื้นที่อีสานใต้โผล่มาให้เห็นเป็นรูปเป็นร่างบ้างก็คงดีนะครับ |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42751
Location: NECTEC
|
Posted: 05/08/2010 12:40 am Post subject: |
|
|
กอร์ปศักดิ์ฟิตจัด ถกทีมร่วมทุนจีน ลุยรถไฟเร็วสูง
หน้า เศรษฐกิจ
ไทยโพสต์ 5 สิงหาคม 2553 - 00:00
แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคมเปิดเผยว่า กระทรวงได้เตรียมข้อมูลเกี่ยวกับการดำเนินโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง โครงการรถไฟทางคู่ ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) และโครงการลงทุนระบบรางมูลค่า 170,000 ล้านบาท เพื่อร่วมประชุมนัดแรกของคณะกรรมการศึกษารายละเอียดการร่วมทุนก่อสร้างโครงการพัฒนากิจการรถไฟระหว่างประเทศไทยกับสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่มีนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ในวันที่ 5 ส.ค.นี้ ภายหลังนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ลงนามแต่งตั้งคณะกรรมการฯ เมื่อวันที่ 30 ก.ค.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ การประชุมจะเน้นโครงการรถไฟความเร็วสูงและโครงการรถไฟทางคู่ ซึ่งมีแนวเส้นทางที่สามารถเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งมาเลเซียและ สปป.ลาว ซึ่งสอดคล้องกับข้อตกลงความร่วมมือระหว่างไทยและจีน จากการเดินทางไปเยือนจีนของนายสุเพท เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 16-23 ก.ค.ที่ผ่านมา
เบื้องต้นจะมีการตั้งบริษัทร่วมทุนไทย-จีนขึ้นรับผิดชอบบริหารจัดการโครงการทั้งสอง โดยฝ่ายไทยจะลงทุนด้วยสิทธิการใช้ประโยชน์ที่ดินในเขตเส้นทางการก่อสร้าง ส่วนฝ่ายจีนลงทุนในค่าใช้จ่ายส่วนที่เหลือทั้งหมด. |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42751
Location: NECTEC
|
Posted: 02/08/2010 4:15 pm Post subject: |
|
|
^^^
ตามแบบที่อาจารย์สามารถ ราชพลสิทธิ์ ว่าไว้แล้วเชียวครับ คงเพราะ เห็นว่า ลาวหัวอ่อน ว่าง่ายดี แถม ยังคุยกะไทยรู้เรื่องดี คุยกะญวนก็ไม่มีปัญหาเพราะโปลิตบูโรลาวหนะ เชื้อสายเวียตนามทั้งนั้น จีนอยากจะเอาลาวล้านช้างเป็นฐานเจาะเข้ากรุงเสียมล้อ เพราะ จะผ่านทางเมืองของพวกฮวนพุงลาย (พม่า) ไม่น่าไว้ใจเลย และได้ข่าวว่าพวกฝรั่งอั้งม้อมาตั้งรกรากแถวหนองคาย ไม่ใช่น้อย ... ถ้าไม่ใส่ใจจะลำบากแก่มหารัฐจีน
//---------------------------------------------------------------------------------
ปรับแผนโรดโชว์จีนลงทุนระบบราง
โดย ASTVผู้จัดการรายวัน 2 สิงหาคม 2553 10:47 น.
แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคมเปิดเผยว่า กรณีที่คณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 28 ก.ค. 2553 มีมติแต่งตั้งคณะกรรมการศึกษารายละเอียดโครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลจีน ที่มีนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในโครงการพัฒนากิจการรถไฟในระยะแรก 2 โครงการ คือโครงการก่อสร้างรถไฟที่มีขนาดความกว้างของรางที่เป็นมาตรฐานจากชายแดนไทย-ลาว ที่จังหวัดหนองคายไปสุดชายแดนไทยภาคใต้ที่สุไหงโก-ลกและโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมระหว่างกรุงเทพฯและระยอง ทำให้กระทรวงคมนาคมต้องปรับข้อมูลเกี่ยวกับโครงการระบบรางที่เตรียมจะนำไปโรดโชว์ที่ประเทศจีนในช่วงประมาณปลายเดือนส.ค.2553ใหม่
ทั้งนี้ การจัดตั้งคณะกรรมการฯ ดังกล่าวเป็นผลมาจากการเดินทางไปเยือนจีน ระหว่างวันที่ 16-23 ก.ค. 2553 ที่ผ่านมาของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งเบื้องต้นได้มีการยืนยันว่าจะเป็นคนละส่วนกับโครงการลงทุนระบบรางมูลค่า 1.7 แสนล้านบาทของกระทรวงคมนาคมแต่จะให้มีการบูรนาการร่วมกัน
นายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคมมีกำหนดว่าจะนำโครงการการลงทุนในระบบรางทั้งหมด เช่น โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าความเร็วสูง รถไฟทางคู่ ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) รวมทั้งโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) ไปโรดโชว์เพื่อเชิญชวนนักลงทุนที่ประเทศจีนช่วงปลายเดือนส.ค.นี้แต่ตอนนี้ต้องรอมติครม.อย่างเป็นทางการก่อนว่า การไปเยือนจีนของคณะรองนายกฯ สุเทพเป็นอย่างไร รวมถึงคณะกรรมการฯ ที่มีนายกอร์ปศักดิ์เป็นประธานจะทำหน้าที่อะไรบ้าง เท่ากับตอนนี้ โปรแกรมไปโรดโชว์จีนของคมนาคมก็ต้องประเมินอีกครั้งแหล่งข่าวกล่าว
นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า โครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงที่มีการศึกษาไว้ 4 เส้นทาง คือ
กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ระยะทาง 745 กิโลเมตร วงเงินลงทุน 209,936 ล้านบาท,
กรุงเทพฯ-หนองคาย ระยะทาง 615 กิโลเมตร วงเงิน 180,379 ล้านบาท ,
กรุงเทพฯ-หาดใหญ่ ระยะทาง 937 กิโลเมตร วงเงิน 234,071 ล้านบาท และ
กรุงเทพ-ระยอง ระยะทาง 221 กิโลเมตร วงเงิน 56,601 ล้านบาท
พบว่า เส้นทางที่ควรดำเนินการก่อน คือเส้นทางที่สามารถเชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้านอย่าง มาเลเซีย สิงคโปร์ และจีนได้ เนื่องจากมีผลตอบแทนทางการลงทุน (FIRR) สูงกว่า เส้นทางที่เดินทางได้ภายในประเทศที่มี FIRR 2-5 % เท่านั้น
เห็นว่าเส้นทางที่เชื่อมกับประเทศเพื่อนบ้านได้น่าจะมีนักท่องเที่ยวมาก และน่าจะดึงดูดให้เอกชนเข้ามาร่วมลงทุน โดยเฉพาะสายใต้และสายเหนือ เนื่องจากเชื่อมต่อได้กับหลายประเทศแต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับนโยบายรัฐหากจะลงทุนเส้นกรุงเทพ-ระยองก่อนนายสุพจน์กล่าว
นายสุพจน์กล่าวว่า คณะกรรมการพิจารณาการร่วมลงทุนรัฐ-เอกชน (PPP) ที่มีนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกรัฐมนตรีได้เห็นชอบแผนการลงทุนรวมของกระทรวงคมนาคมแล้ว โดยหลังจากนี้จะศึกษารายละเอียดการลงทุนแต่ละโครงการและส่งไปยังสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เพื่อเสนอคณะกรรมการร่วมลงทุน PPP ก่อนเสนอครม.ต่อไปซึ่งจะเป็นการดำเนืนงานที่คู่ขนานไปกับที่กระทรวงการคลังจะไปทำ Market Sounding |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44653
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 02/08/2010 3:28 pm Post subject: |
|
|
ร่วมทุนจีนเดินหน้าสร้างรางรถไฟ
นสพ.เดลินิวส์ วันจันทร์ ที่ 02 สิงหาคม 2553
นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะทำงานศึกษารายละเอียดการร่วมลงทุนก่อสร้างโครงการพัฒนากิจการรถไฟ ระหว่างไทยกับจีน เปิดเผยว่า ในวันที่ 3 ส.ค.นี้ จะเรียกประชุมคณะทำงานเพื่อหารือในรายละเอียดทั้งหมดที่จะร่วมลงทุนกับรัฐบาลจีนใน 2 โครงการคือ โครงการก่อสร้างทางรถไฟที่มีขนาดรางมาตร ฐานกว้าง 1.4 เมตร หรือสแตนดาร์ดเกท จากจังหวัดหนองคาย ผ่านกทม.แล้วต่อไปยังชายแดนไทย-มาเลเซีย ระยะทางกว่า 1,000 กม. เพื่อเชื่อมต่อกับเส้นทางรถไฟของจีนที่จะสร้างจากเมืองคุนหมิงมายังเมืองเวียงจันทน์ สปป.ลาว และโครงการรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีด เทรน) เชื่อมระหว่างกรุงเทพฯ และจังหวัดระยอง
คาดว่ามูลค่าการลงทุนในโครงการก่อสร้างทางรถไฟที่มีขนาดมาตรฐานระยะทางกว่า 1,000 กม. จะใช้เงินลงทุนกว่า 3 แสนล้านบาท โดยรูปแบบการลงทุนนั้นจะเป็นการร่วมลงทุนระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลจีน ส่วนจะเป็นรูปแบบใดต้องศึกษาในรายละเอียดให้เรียบร้อยก่อน โดยความต้องการของเรามุ่งเน้นให้มีนักท่องเที่ยวจากจีนเดินทางมาเที่ยวเมืองไทยให้มากขึ้น
ทั้งนี้ในการหารือจะมีการจัดตั้งคณะอนุทำงานในด้านต่าง ๆ เพื่อแบ่งงานกันทำให้ชัดเจนเพื่อให้เกิดเป็นรูปธรรมที่จะให้นายกรัฐมนตรีสามารถลงนามในบันทึกข้อตกลงเบื้องต้น (เอ็มโอยู) ในการเดินทางไปเยือนจีนอย่างเป็นทางการในอีก 2 เดือนข้างหน้า ซึ่งจะทำให้ความร่วมมือเกิดขึ้นอย่างจริงจังและสามารถเดินหน้าโครงการได้ต่อเนื่อง
ส่วนการลงทุนร่วมกับรัฐบาลจีนในครั้งนี้ไม่เกี่ยวข้องกับแผนการพัฒนาระบบรางของกระทรวงคมนาคมที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณจำนวน 1.7 แสนล้านบาทแต่อย่างใด แต่สามารถเดินหน้าพัฒนาควบคู่กันไปได้เพราะขอบทางของรางรถไฟในปัจจุบันมีเนื้อที่มากพอที่จะสร้างรางมาตรฐานที่มีขนาด 1.4 เมตร รองรับรถไฟที่วิ่งด้วยความเร็วสูงสุดถึง 200 กม.ต่อชม. |
|
Back to top |
|
|
boatteam
2nd Class Pass (Air)
Joined: 05/04/2010 Posts: 910
Location: แจ้งวัฒนะ หลักสี่ ปากเกร็ด
|
Posted: 29/07/2010 7:25 am Post subject: |
|
|
สุดท้ายก็ 1,000 % แล้วสิครับ
รถจักรจากจีนก็จะมาอยู่กับ รฟท. แล้ว ไม่ว่าจะเป็นรถความเร็วสูง
และหัวรถจักรดีเซล (สินค้าจีนคุณภาพวัดดวงนะครับ )
สินค้าจีนนี่ ครองโลกจริงๆเลย _________________ สถานีบ้านเกิดอรัญประเทศ สุดเขตแดนสยามฝั่งตะวันออก |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42751
Location: NECTEC
|
Posted: 29/07/2010 3:38 am Post subject: ใครเร็ว ก็ ชนะ - ใครมานะก็สำเร็จ |
|
|
"กอร์ป" ผงาด ปธ.ร่วมทุนจีน ลุยรถไฟเร็วสูง "เทือก" ปลอบ "ซาเล้ง" เค้กคนละก้อน
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 28 กรกฎาคม 2553 22:56 น.
นายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบแต่งตั้งคณะกรรมการศึกษารายละเอียดโครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลจีน ในโครงการพัฒนากิจการรถไฟในระยะแรก จำนวน 2 โครงการ คือโครงการก่อสร้างรถไฟที่มีขนาดความกว้างของรางที่เป็นมาตรฐาน จากชายแดนไทย-ลาว ที่จังหวัดหนองคาย ไปสุดชายแดนไทยภาคใต้ที่สุไหงโก-ลก และโครงการรถไฟความเร็วสูง เชื่อมระหว่างกรุงเทพมหานครและจังหวัดระยอง
ทั้งนี้ คณะกรรมการชุดดังกล่าว มีนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ส่วนกรรมการ ได้แก่ ปลัดกระทรวงการคลัง เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ โดยมีนายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นที่ปรึกษา ตามที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี เสนอ
"รัฐบาลจะมีการดำเนินการโดยการตั้งบริษัทร่วมทุนไทย-จีนขึ้นรับผิดชอบ บริหารจัดการโครงการทั้งสอง โดยฝ่ายไทยจะลงทุนด้วยสิทธิการใช้ประโยชน์ที่ดินในเขตเส้นทางการก่อสร้างรางรถไฟและปัจจัยพื้นฐานที่จำเป็น ฝ่ายจีนจะลงทุนในค่าใช้จ่ายส่วนที่เหลือทั้งหมด ซึ่งรายละเอียดของการดำเนินการให้คณะทำงานทั้งสองฝ่ายหารือกันให้เสร็จโดยเร็ว เพื่อให้นายกรัฐมนตรีสามารถลงนามในเอ็มโอยูกับรัฐบาลจีนได้ในการเยือนจีนอย่างเป็นทางการในครั้งต่อไป"
รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า โครงการดังกล่าว เป็นไปตามที่นายสุเทพได้รายงานผลการเยือนจีน ระหว่างวันที่ 16-23 กรกฎาคม 2553 ที่ผ่านมา ซึ่งมีนายวีระชัย วีระเมธีกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ร่วมคณะไปด้วย พร้อมยืนยันว่า เป็นคนละส่วนกับโครงการลงทุนระบบรางมูลค่า 1.7 แสนล้านบาทของกระทรวงคมนาคม แต่จะให้มีการบูรณาการร่วมกัน
รายงานข่าวยังระบุว่า ในที่ประชุม ครม. นายโสภณได้แสดงความเป็นห่วงว่า โครงการดังกล่าว อาจจะเป็นการลงทุนซ้ำซ้อนกับโครงการของกระทรวงคมนาคม แต่นายสุเทพยืนยันว่าไม่ซ้ำซ้อน ดังนั้นจึงเสนอให้ตั้ง รมว.คมนาคม เป็นที่ปรึกษาคณะกรรมการด้วย |
|
Back to top |
|
|
|